ไหว้พระหน้าคอม

นำเว๊ปที่สามารถไหว้พระสวดมนต์หน้าคอม มาให้ครับ

http://www.polyboon.com/worship/inside/worship.html

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=333 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR align=middle><TD colSpan=3></TD></TR></TBODY></TABLE>











วิธีไหว้พระหน้าคอม...๑.คลิ๊กเม้าจุดธูปเทียนอธิษฐานจิตให้ดี <INPUT onclick="MM_swapImage('frie','','images/worshipbig_001_fire.gif',1)" type=submit value=จุดธูปเทียน name=Submit> ... ๒.นำเม้าท์ลากทองเปลวไปปิดที่องค์พระ... ๓.นำเม้าท์จับพวงมาลัยหรือ ดอกไม้มาบูชาพระ (เม้าคลิ๊กแจกันเพื่อซ่อนโคนดอกไม้) ...

ดอกมะลิ
บูชาเพื่อ
ความสมหวัง
ดอกดาวเรือง
บูชาเพื่อ
ความรุ่งเรือง
ดอกกล้วยไม้
บูชาเพื่อ
ความสุขสดชื่น
ดอกกุหลาบ
บูชาเพื่อ
ความรัก
ดอกบัว
บูชาเพื่อ
ความเจริญ
ของจิตใจ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

----------------------------

อานิสงค์ของการสวดมนต์
สำหรับใครที่คิดว่าเราสวดมนต์ไปวันๆ เพื่อประโยชน์อะไร ท่องๆ ไปบางครั้งสวดไปเราเองก็ไม่ไดรู้หรือทราบถึงคำแปลเลยแม้แต่อย่างใด ดังนั้นมีหลายคนที่ตั้งคำถามที่ว่าเราสวดมนต์ หรือแม้แต่ อ่านหนังสือ ธรรมะ ไปเพื่ออะไรมาดูกันด้านล่างนี้เลยครับ ... .. .
1. ไล่ความขี้เกียจ : ขณะสวดมนต์ อารมณ์เบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกียจคร้าน จะหมดไป เกิดความแช่มชื่น กระฉับกระเฉงขึ้น
2. ตัดความเห็นแก่ตัว : เพราะขณะนั้นอารมณ์ของเราหน่วงอยู่ที่การสวด ไม่ได้คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมิได้กล้ำกลายเข้าสู่วาระจิต
3. ได้ปัญญา : การสวดมนต์โดยรู้คำแปล รู้ความหมาย ย่อมทำให้ผู้สวดได้ปัญญา ความรู้ แทนที่จะสวดแจ้วแจ้ว เหมือนนกแก้ว นกขุนทอง โดยไม่รู้อะไรเลย เป็นเหตุให้ถูกค่อนว่า ทำอะไรโง่ๆ
4. จิตเป็นสมาธิ : เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะสวดผิด ได้หน้าลืมหลัง เมื่อจิตเป็นสมาธิ ความสงบเยือกเย็นในจิตจะเกิดขึ้น
5. ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า : เพราะขณะนั้น ผู้สวดมีกาย วาจาปกติ มีศีล มีใจแน่วแน่ มีสมาธิ มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า มีปัญญาเท่ากับเฝ้าพระองค์ด้วยการปฏิบัติบูชา ครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง ... .. .

ที่มา http://dharma.thaiware.com/dharma_article.php?id=129

 

อนุโมทนาสาธุ ในผลบุญด้วยครับ

--------------------------------------
คนที่ไม่เคยเป็นผู้ให้...ย่อมยากที่จะได้รับ..
“การให้”..มองอย่างธรรมดาดูเหมือนว่า..เป็นการสูญเสีย..
แต่แท้ที่จริงแล้ว...
ผู้ให้ คือ..ผู้ที่ได้รับต่างหาก..
คนที่เป็นผู้ให้จึงมีเกียรติคุณเกริกกรรจายชั่วฟ้าดินสลาย
ทั้งนี้นั่นเป็นเพราะ
“...โลกคารวะผู้ให้... แต่บอดใบ้ต่อผู้กอบโกยและโกงกิน...”

ที่มา : ธรรมะรับอรุณ....ท่าน ว. วชิรเมธี​

<!-- / message -->
<!-- / message -->
<!-- / message -->

 

ปลอดภัยเเน่