๕ อันดับไสยศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัว

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย เทพเหนียว, 20 กันยายน 2014.

  1. เทพเหนียว

    เทพเหนียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +161
    อันดับที่ ๑ ไสยศาสตร์เขมร อาถรรพ์รเวท
    ไสยศาสตร์ที่มีความน่าก ลัวเป็นอันดับหนึ่งคือไสยศาสตร์เขมร ทั้งเสกตะปู เสกหนังควาย เสกควายธนู เสกใบมีดเสกเส้นผม เสกต่อแตน เสกอะไรต่อมิอะไร มาจากอาถรรพณ์เวทโดยตรงก็สมควรที่จะน่ากลัว เวลามีพิธีบูชายันต์ ฆ่าสัตว์เป็นๆมันดูป่าเถื่อน เวลาใช้กับคนส่วนใหญ่เอาถึงตาย ทำคุณไสยแค่ขู่ก็แบบสาหัส หรือพิกลพิการ และที่สำคัญแก้ไขและรักษายาก ทำคุณไสยใส่ได้ในคนจำนวนมากๆพร้อมกัน จำพวกไสยศาสตร์เขมรก็จะประกอบไปด้วยมหาเสน่ห์ ยาแฝด น้ำมันพราย ไอ้งั่งตาแดง แม่เป๋อตาแดง พราย กุมารทอง กุมารี สารพัดผี ส่วนด้านการโจมตีก็วัวธนู ควายธนู ซึ่งมีมากมายหลายแขนงวิชา วิชาที่ต่ำๆก็มีการใช้เถ้ากระดูก กระดูก ดินป่าช้า ดินใต้โลงศพ ดินบนโลงศพ เลือดมนุษย์ น้ำหนองผี เลือดประจำเดือน ปัสสาวะ ดินเจ็ดบ่อน ดินเจ็ดตลาด เดินติดเท้า อะไรประมาณนี้ ส่วนของที่เขาจะเอาไปทำก็มีภาพถ่ายของเหยื่อ เส้นผมของเหยื่อ เล็บมือของเหยื่อ เศษหนังเศษเนื้อ น้ำตา น้ำลาย เลือด ปัสสาวะ ดินติดเท้าติดรองเท้า เสื้อผ้า แม้กระทั้งฟัน หรือเม็ดข้าวที่คายทิ้งหรือกินไม่หมด บางครั้งแค่รอยมือรอยเท้าก็เอาไปทำคุณไสย์ได้

    อันดับที่ ๒ ไสยศาสตร์จีน รวมไปจนถึงไสยศาสตร์ชนเผ่าชาวเขา

    ไสยศาสตร์อันดับที่ ๒ คือไสยศาสตร์จีน ก็น่ากลัวพอสมควร แต่มันคงไกลตัวเราไปหน่อย งั้นก็พูดกันง่ายๆว่า หนึ่งในสาขาวิชาไสยศาสตร์จีนคือวิชาไสยศาสตร์ของชาวเขาทางภาคเหนือ คราวนี้คงใกล้ตัวและคงรู้ถึงความน่ากลัวกันดี ทั้งหมอผีประจำชนเผ่า เช่น แม้ว เย้า กะเหรี่ยง ปกากะญอ อาข่า อีก้อ มูเซอ เป็นต้น วิชาที่ขึ้นชื่อคือ ยาสั่ง กินถึงตาย ตายจริงๆ พระธุดงค์ที่ไม่เก่งกล้าวิชาถ้าได้กินเป็นอันจบสิ้นกันที

    อันดับที่ ๓ ไสยศาสตร์ตะวันตกและเอเชียตะวันตก

    ไสยศาสตร์อันดับที่ ๓ ไสยศาสตร์ตะวันตกและเอเชียตะวันตก คุณไสยพวกนี้ดูเป็นผู้ดีมีการศึกษามานิดหน่อย เพราะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาและวิทยาศาสตร์ เมื่อเกิดเรื่องคนเรานี้ก็แปลกแต่ก็มีความคิดที่ดี เอาสิ่งที่มีเหตุผลมาอธิบายสิ่งไม่มีเหตุผล พยายามเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายไสยศาสตร์ เมื่อเกิดคดีพิศวง ไสยศาสตร์พวกนี้ดูไม่ค่อยมีพิษมีภัยอะไรนัก แต่คำสาปนั้นแหลมคม และแหลมคมกว่าคุณไสยประเภทอื่นทั้งหมด มีระดับตั้งแต่อ่อนถึงรุนแรง

    อันดับที่ ๔ ไสยศาสตร์อิสลาม ไสยเวทมุสลิม
    ไสยศาสตร์อันดับที่ ๔ ไสยศาสตร์อิสลาม ไสยเวทมุสลิม อันนี้ก็น่าขนลุก เอาความดีของตัวเองมาเป็นค่าของไสยศาสตร์ คุณไสยนี้ในคัมภีร์อัลกุรอ่านว่าไว้อย่างชัดเจน และดูไปดูมาน่าจะเป็นข้อห้ามมากกว่า ถึงยังไงชาวมุสลิมก็ไม่ใช้ เพราะเคร่งศาสนามาก แต่ถ้าพวกนอกรีตก็ระวังให้ดี ไสยศาสตร์นี้จะน่ากลัวมากๆ(ผมพูดได้แค่นี้ เดี๋ยวโดนประชาทัน)

    อันดับที่ ๕ ไสยศาสตร์ไทย
    ไสยศาสตร์อันดับที่ ๕ ต้องยกให้เป็นของไทย คุณไสยไทยทำนี้อ่อนวิชาที่สุด เพราะไปยืมวิชาเขามาใช้ ตัววิชาไทยจริงๆนั้นส่วนใหญ่มีไว้รักษาและป้องกันมากกว่าการทำร้ายคน เนื่องมาจากคนสมัยก่อนชอบเข้าวัดทำบุญ เลยปฏิบัติธรรมกันเยอะ แต่ที่โหดที่สุดคงยกให้เป็นการสู้รบ ก็น่ากลัวอยู่หรอกนะ แต่ถ้าสู้กับเขมร ขอม พม่า อันนี้ก็อ่อนวิชาไสยกว่าเขาเยอะ ต้องใช้ความสามารถทางการทหารและกลอุบายสู้ล้วนๆ เหนื่อยหน่อย แต่พระสงฆ์ไทยสมัยก่อนก็มีวิชาเขมรอยู่บ้าง เอามาปรับเป็นพุทธคุณ กลายเป็นยันต์ทางพุทธคุณ พลังป้องกันมีอานุภาพสูงสุดในหมู่คุณไสยทั้งหมด เรายังมีการรวมอาณาจักรล้านนาเข้ากับไทยทำให้มีไสยศาสตร์ของล้านนาด้วย แล้วก็ยังดัดแปลงวิชาของมอญ พม่า ลาว มาผสมปนไปกันหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กันยายน 2014
  2. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ข้อมูลจากไหนเอ่ย

    เราว่าอินเดียน่ากลัวสุด เพราะรากเง่าของหลายๆสาย ถามไปถามมาครูเจ้าของวิชาคนเดียวกันหมด

    เขมรนี่พรายแรงจริงแต่แก้ง่ายมาก เจอบทพุทธคุณหลุดหายหมด

    เคยจะเรียนทำของ 5-6 ปีถึงจะสำเร็จวิชา เทวดามาบอกรดน้ำพุทธมนต์ 5 นาทีหาย เลิกเรียน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2014
  3. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,583
    ค่าพลัง:
    +3,519
    น่ากลัวจังค่ะ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ขอบคุณสำหรับเรื่องที่นำมาลงนะครับ..สำหรับ
    ใครถ้าอยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้ไปพิมพ์ คำว่า''ไสย์ศาสตร์ ''
    ในอากู๋ Google ดูจะพบข้อมูลที่จะพอให้ความรู้เราเพิ่มเติมได้ครับ.

    เรื่องทำนองนี้สำคัญนะครับ เด่วฟังที่จะเล่าๆให้ฟังเชิงบ่นก่อน
    ที่จะบอกวิธีแก้ตอนท้ายๆไว้ให้นะครับ..เพื่อจะได้แง่คิดบ้าง.
    สมัยรัชกาลยุคต้นๆเนี่ย พวกที่ทำไสยศาสตร์เนี่ยมีความผิด
    ถึงขั้นต้องประหารชีวิตนะครับ.เพราะว่ามักจะชอบอ้างตัว
    อ้างสรรพคุณว่าเป็นผู้วิเศษ ชอบอ้างอิงระดับเทพพรหม
    สูงๆตลอดจนระดับพระพุทธฯเพื่อมาเสริมให้ตนเองดูดีขึ้น
    ทั้งที่บางคนกมลสันดานหรือภูมิจิตเป็นพวกอสูรกาย
    กำลังจิตก็ระดับหางอึ่งอ่างเพราะอะไรนั่นหรือครับ
    เพราะได้กำลังสนับสนุนจากพวกผี ภูต อสูรกายมีฤิทธิ์
    ที่มันมักชอบอ้างว่าตัวว่าตนเองเป็นผู้มีอาคม มีกำลังจิตสูงส่ง
    นั่นหละครับแต่มักจะไม่รู้ตัวเอง.ไอ้พวกขี้โม้ ขี้แอบอ้างระดับ
    สูงๆทั้งหลาย ว่าแต่คนอื่นๆใครๆก็เก่งสู้ตัวเองไม่ได้
    ชมใครไม่เป็นยอมใครไม่เป็น ว่าตัวว่าตนนั่นหละครับ
    พอมีเรื่องอะไรกับใคร ก็จะเน้นแสดงกำลังโชวพาว์เวอร์
    อ้างครูบาร์อาจารย์อ้างโน้นอ้างนี่ ดูถูกครูบาร์อาจารย์
    บุคคลอื่นๆ เผลอๆนึกว่าตัวเองเก่งกว่าครูบารอาจารย์อีก.
    .ร้อยทั้งร้อยพอตัวเองกำลัง
    จะตายก็จะโดนพวกที่สนับสนุนกำลังเชิงอกุศลและพวกที่ตน
    เองได้เคยไปทำเข้าไว้พากันรวมตัวกับมาสหตัวเองในรูปแบบ
    ของอุคหนิมิตคและตนก็จะกลายเป็นภูมิอสูรกายไปแบบ
    รู้ๆว่าทำแล้วจะเป็นแต่เพราะความโลภก็ยังจะทำ.
    ซึ่งวาระสุดท้ายไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้
    นอกจากปล่อยให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรมที่ตนได้สร้าง
    ขึ้นมา ประเด็นนี้เล่าใหฟังเฉยๆ..
    .

    .และพวกนี้นะครับสังเกตุง่ายๆ
    มักจะชอบแอบแฝง
    การให้ธรรมะทำให้ตนดูเหมือนว่ามีคุณธรรม
    สูงส่งแต่แท้จริงแฝงด้วยการทำมาหารับประทานด้วย
    การหลอกหลวงทั้งนั้น หลอกให้หลงงมงายอ้างพระรัตนตรัยฯ
    แต่ใจหาใช่เช่นนั้นไม่ สังเกตุดีๆจะขัดกับหลักคำสอน
    ของผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพแต่ก็ยังมีคนหลงงมงายอยู่เป็น
    จำนวนมาก ณ ปัจจุบันนี้. เผลอๆบางคนหลอกหลวงถึงขั้น
    ลามปามลวงเกินร่างกาย ตัวอย่างก็มีให้เห็นเป็นข่าว
    อยู่ทุกวันนี้ก็มีครับ.

    ไสย์ศาสตร์นะครับถือเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับมีมาตั้ง
    สมัยดึกดำบรรพ์ และเชื่อว่ามีทั่วโลกแม้กระทั่งในเวลาปัจจุบัน
    มีรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
    คือ การทำอันตรายต่อผู้คนด้วยวิธีที่ลี้ลับ เหนือธรรมชาติ
    ยากที่จะพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
    เป็นวิชาเกี่ยวกับเวทมนตร์ คาถา และ เลขยันต์ ประกอบกับการใช้อำนาจจิต การท่องบริกรรมบทคาถา การภาวนา และการปลุกเสก
    สามารถทำให้เกิดผลได้ด้วยการรวมอำนาจจิต
    รวมพลังงานทางจิตซึ่งได้ทำการอบรมแบบหลอกหลวง
    เอาความสามารถพิเศษมาหลอกหล่อ เอากิเลสพวกความโลภ
    ความรักมาหลอกหล่อ ให้จิตใจให้มีความยึดมั่น เชื่อถือ อย่างจริงจัง เลยเกิดเป็นกระแสคลื่นแห่งกำลังกิเลสต่างๆที่ได้สร้าง
    ขึ้นมาประกอบกับ มโนภาพ กำลังสมาธิเล็กน้อย อำนาจจิต
    ระดับเล็กน้อย ทั้งสามส่วนนี้ประกอบเป็นผลขึ้นมาได้

    แต่ประเด็นของมัน
    ไม่ใช่การไปสนใจหรือไปยกย่องพฤิตกรรมทางจิตอกุศลพวกนี้
    มันอยู่ตรงที่การตั้งเป้านำไปใช้งาน
    ก็คือเป็นพิธีกรรมเพื่อมุ้งทำร้ายคนที่ไม่เป็นมิตรกับเรา
    ซึ่งไม่ใช่แนวทางเดิมตามหลักการพุทธศาสนา..

    ที่การใช้อำนาจสมาธิอำนาจจิต การบริกรรม
    การภาวนา เพื่อมุ้งเน้นในทางที่ดีที่ส่งผลต่อ
    จิตใจของผู้บริกรรม ผู้ภาวนาให้ดีขึ้น ตลอดจนบางบุคคลสามารถ
    นำไปใช้ในกุศลกรรม คือช่วยเหลือมนุษย์ให้มีสุขปลอดภัย ไม่ว่า
    ทางใดด้านหนึ่ง.

    วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดคือให้ตัดสัญญาความจำได้ที่มีในใจ
    ออกให้ได้ คือรับรู้แต่จิตไม่ไปยึด เพราะเราคงไปห้ามคนที่
    คิดจะทำเราไม่ได้เหมือนๆเราห้ามตาเราไม่ให้มองเห็นได้หรือ
    ห้ามหูเราไม่ให้ได้ยินฉันนั้น..แรกๆอาจจะต้องทำการ
    ผลักส่งไปก่อนแต่ก็จะยังกลับมารบกวนจิตใจเราได้อีก
    ให้ฝึกเจริญสติให้ต่อเนื่องจนมีกำลังสติเพียงพอที่จะรับรู้
    แต่ไม่ยึด จนสุดท้ายเกิดเป็นปัญญาทางธรรมที่จะตัดสัญญา
    พวกนี้ออกจากจิตเราให้ได้ครับ
    .ก็จะไม่มีไสยศาสตร์ที่เป็นคลื่น
    ความถี่ต่างๆใดๆในโลกนี้ ที่มันจะมาเชื่อมกับจิตเราได้.
    ไม่งั้นพวกประเทศที่มีบุคคลเก่งไสย์ศาสตร์ระดับจักรวาล
    ก็จะกลายเป็นประเทศผู้นำมหาอำนาจไปแล้วหละครับ..
    เครื่องลาง พุทธคุณต่างๆในพระเครื่อง การระลึกถึงครูบาร์
    อาจารย์ต่างๆก็จะมีคลื่นความถี่ในลักษณะที่เป็นเครื่อง
    ผลักเฉยๆแต่ก็เป็นลักษณะชั่วคราว หากเมื่อใดกำลังใจ
    เราตกหรือคลื่นความถี่เรามันอ่อนเป็นเหตุให้คลื่นๆความ
    ถี่ภายนอกมาเชื่อมได้เหมือนเดิม มันก็ยังสู้การที่เราสร้าง
    ให้ตัวจิตเราตัดสัญญาตรงนี้ออกไปไม่ได้ หรือใครจะสร้าง
    พันธ์มิตรทางภพภูมิจากการอุทิศส่วนบ่อยๆก็สุดแล้วแต่
    ซึ่งพวกนี้เป็นเหตุที่ทำให้เราสามารถพัฒนาไปถึง
    ขั้นรับรู้แต่ไม่ยึดได้ซึ่งเป็นวิธีการที่ป้องกันตัวที่ดีที่สุด

    เรื่องพวกนี้เรารู้ๆไว้อ่านๆไว้ประดับความรู้ก็พอครับ
    แต่อย่าไปให้ความสำคัญ อย่าเอาตัวเองหรือใจของเรา
    เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง.อย่าไปยกย่องหรือ
    เผลอไปส่งเสริมนะครับ..
    พูดในเรื่องที่มันดีๆ อย่าไปเอาเรื่องอกุศลอย่างนี้ ให้มาเป็น
    สัญญาความจำได้ของจิต ในเรื่องของบุคคล
    ที่เค้าหลงผิดแล้วไปอย่าไปให้ความสำคัญนอกจากเอาไว้อ่านเพื่อ
    ให้รู้บ้าง รู้วิธีป้องกันบ้างอย่างนี้จะมีประโยชน์กว่าครับ..
    .
     
  5. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763

    เห็นด้วยกับคุณนพเป็นที่สุดครับ สมัยนี้มีเยอะครับ อยุ่ในศาสนาก้อมี ถ้าเป็นสมัยก่อนละโดนกันระนาวครับ เพราะถ้ายุกไหนที่เอาจริงกับเรื่องนี้ก้อจะดูพวกนอกรีต หรือหากันกับความเชื่อแอบอ้าง ถ้าเป็นพระก้อจะโดนจับสึกเลยทีเดียว แต่สมัยนี้เริ่มกลมกลืนไปด้วยกันหมด คนที่ดูรู้ก้อดูจะหาได้น้อย อีกอย่างกับคำพูดที่ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จริงครับดี แต่เราก้อต้องมีสติปัญญาดูด้วยอีกที
    ว่าสิ่งที่เราจะเชื่อนั้นมีที่มายังไง และดูเป็นยังไง

    ส่วนเรื่องไสย์ศาสตร์นั้นตามคุณ naitiw บอกเลยครับ เพราะทุกคาถาอาคมมาจากตำราพราหมณ์อินเดียสมัยโบราณครับ (ไม่เกี่ยวกับพุทธมนต์)

    ในศาสนาพราหมณ์เก่าแก่นั้นจะมีคัมภีร์อยู่ 3เล่ม คือ ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท ส่วนมากจะเกี่ยวกับการบูชาเทพเจ้า ยกย่องเทพเจ้า

    ส่วนพราหมณ์ยุกหลังจึงแต่งคัมภีร์ อาถรรพเวท เป็นบทที่เกี่ยวกับมนต์และคาถา บทนี้แหละครับ ที่แพร่หลายมากและทางแถมสุวรรณภูมิ และเป็นต้นกำเนิดของไสยศาสตร์ทั้งหลาย เอาละรอผู้รู้ท่านต่อไป ขอบคุณที่รับฟัง ขอบคุณครับ
     
  6. ดาวพุธ

    ดาวพุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +483
    ชอบใจประโยคข้างต้นนี้มากครับ :cool:
     
  7. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    สงสัยค่ะ ทำไมคนไม่เชื่อ ลบหลู่ถึงไม่โดนกับตัวเองบ้างคะ ไม่ได้แช่ง แต่เวลาฟัง/อ่าน เขาด่า รู้สึกว่า ทำไมไม่โดนบ้าง ว่าคุณไสยเป็นอย่างไร
    หรือพวกนี้ประกอบกรรมดีมามาก

    หรือบางคนท้าผีเหยงๆๆๆ กลับไม่เห็นอะไรเลย
     
  8. ดาวพุธ

    ดาวพุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +483
    แอบสงสัยเหมือนกันครับ
     
  9. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    วิธีจัดการกับคนโง่ที่โหดที่สุดคือปล่อยให้โง่ไปจนตาย
     
  10. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    พี่สาม(แอบแรง)แต่โดนใจมากๆๆ555:cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...