เชิญชวนทุกท่านร่วมกันสวดบทสวดอุปปาตะสันติเพื่อความสงบระงับจากภัยพิบัติทั้งปวง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Scorpius, 11 ตุลาคม 2011.

  1. Scorpius

    Scorpius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +647
    ขอเชิญชวนญาติธรรมทุกท่านร่วมกันสวดบทสวดอุปปาตะสันติเพื่อส่งกำลังใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยในขณะนี้

    นอกจากพวกเราจะรวบรวมกำลังกาย/กำลังใจเพื่อแก้ปัญหาแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่ง คือ การรวบ<wbr>รวมกำลังสมาธิ - สวดมนต์ภาวนาเพื่อดึงดูดพลังงานด้านดี เพื่อความสงบระงับจากภัยพิบัติทั้งปวง และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว หมู่คณะ ชาวไทย และชาวโลกทั้งมวล ซึ่งมีผลในการฝ่าวิกฤติน้ำท่วมค<wbr>รั้งนี้

    โดยบทสวดที่แนะนำ คือ บทอุปปาตะสันติ มนต์สำหรับระงับเหตุร้ายทั้งปวงครับ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2011
  2. Scorpius

    Scorpius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +647
    คำชี้แจงเรื่องคัมภีร์อุปปาตะสันติ

    คัมภีร์อุปปาตะสันติภาษาบาลีนี้ มีคำชี้แจงเพื่อทราบประวัติย่อต่อไปนี้

    ๑.

    อุปปาตะสันติ แยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ คำ ๑ และ สันติ คำ ๑ อุปปาตะ แปลว่า เคราะห์กรรม, เหตุร้าย, อันตราย และแปลว่าสิ่งกระทบกระเทือน
    อุปปาตะสันติ แปลว่า บทสวดสงบเคราะห์กรรม/บทสวดสงบอันตราย/บทสวดสงบเหตุร้าย/บทสวดสงบสิ่งกระทบกระเทือน

    ๒.

    คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณคดีบาลีลานนาไทย พระสีลวังสะมหาเถระ แต่งที่เชียงใหม่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๐๑๐ เป็นคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา จัดเข้าในหนังสือประเภท “เชียงใหม่คันถะ” คือ คัมภีร์เชียงใหม่มีอายุประมาณ ๖๐๐ ปีเศษแล้ว

    มีคำเล่าว่า สมัยแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เมืองเชียงใหม่นั้นมีโจรผู้ร้ายและ คนอัทธพาลชุกชุมมากผิดปกติ มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยูเสมอ พระสีลวังสะ จึงให้พระสงฆ์ สามเณรและประชาชนพากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ เพื่อกลับร้ายให้กลายเป็นดี มีผู้เลื่อมใสคัมภีร์นี้มาก และถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาชาวพม่ามีความเลื่อมใสนำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า เข้าใจว่านำเข้าไป ที่เมืองอังวะก่อนแล้วแพร่หลายไปทั่วประเทศพม่าสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชนถือว่า คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก นิยมท่อง นิยมสวดและนิยมฟังอย่างกว้างขวาง มีคำเล่ากันว่า สมัยหนึ่งพวกจีนมาตีเมืองอ้งวะ ประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์ ข้าราชการ และประชาชนพากันสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ พวกจีนได้ฟังอุปปาตะสันติโฆษณาคือ เสียงกึกก้องของอุปปาตะสันติ ก็มีความกลัวแล้วพากันหนีกลับไป

    ๓.

    บุคคลและสภาวะที่อ้างถึงในคัมภีร์อุปปาตะสันติมี ๑๓ ประเภทคือ

    ๓.๑ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตถึงปัจจุบัน (เน้นที่ ๒๘ พระองค์)
    ๓.๒ พระปัจเจกพุทธเจ้า
    ๓.๓ พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑ พระองค์ คือ พระเมตไตรย
    ๓.๔ โลกุตตรธรรม ๙ และพระปริยัติธรรม ๑
    ๓.๕ พระสังฆรัตนะ
    ๓.๖ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ รูป
    ๓.๗ พระเถรีชั้นผู้ใหญ่ ๑๓ รูป
    ๓.๘ พยานาค
    ๓.๙ เปรตบางพวก
    ๓.๑๐ อสูร
    ๓.๑๑ เทวดา
    ๓.๑๒ พรหม
    ๓.๑๓ บุคคลประเภทรวม เช่น เทวดา ยักษ์ ปีศาจ คือผีที่ทำสิ่งใดๆ อย่างโลดโผน และวิชชาธรหรือพิทยาธร(สันสกฤตเรียกวิทยาธร)

    เรื่องราวเย็นอกเย็นใจที่สังคมมุ่งหวังและเสาะแสวงหา ที่กล่าวถึง ในคัมภีร์อุปปาตะสันติ มีประการที่สำคัญ ๓ อย่างคือ

    ก. สันติหรือมหาสันติ ความสงบ ความราบรื่น ความเยือกเย็น ความไม่มีคลื่น
    ข. โสตถิ ความสวัสดี ความปลอดภัย ความเป็นอยู่เรียบร้อย หรือตู้นิรภัย
    ค. อาโรคยะ ความไม่มีสิ่งเป็นเชื้อโรค ความไม่มีโรคหรือความมีสุขภาพสมบูรณ์

    คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีข้อความขอความช่วยเหลือ ขอให้พระรัตนตรัยและบุคคล พร้อมทั้งสิ่งทรงอิทธิพลในจักรวาลรวม ๑๓ ประเภทดังกล่าวมาแล้วช่วยสร้างสันติ หรือมหาสันติ ช่่วยสร้างโสตถิและอาโรคยะ ช่วยปรุงแต่งสันติและอาโรคยะ ขอให้ช่วยรวมสันติ รวมโสตถิและรวมอาโรคยะ และขอให้ช่วยเป็นตู้นิรภัยคุ้มครองและ กำจัดเหตุร้ายอันตรายหรือสิ่งกระทบกระเทือนต่างๆ อย่าให้เกิดมีในตน ในครอบครัว ในหมู่คณะ หรือในวงงานของตน และในวงงานของคนอื่นทั่วไป

    ๔.

    อานิสงฆ์การสวดและการฟังอุปปาตะสันติ มีคุณประโยชน์ตามที่กล่าวไว้ ในท้ายคัมภีร์ มีดังนี้ :

    ๔.๑ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมชนะเหตุร้ายทั้งปวงได้ และมีวุฒิภาวะคือ ความเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ

    ๔.๒ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมได้ประโยชน์ที่ตนต้องการ คือ ผู้ประสงค์ความปลอดภัยย่อมได้ความปลอดภัย คนอยากสบายย่อมได้ความสุข คนอยากมีอายุยืน ย่อมได้อายุยืน คนอยากมีลูก ย่อมได้ลูกสมประสงค์

    ๔.๓ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมไม่มีโรคลมเป็นต้นมาเบียดเบียน ไม่มีอกาละมรณะคือตายก่อนอายุขัย ทุนนิมิตรคือลางร้ายต่างๆมลายหายไป

    ๔.๔ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ เมื่อเข้าสนามรบย่อมชนะข้าศึก ทั้งปวงและแคล้วคลาดจากอาวุธทั้งปวง

    ๕.

    เดชของอุปปาตะสันติ การสวดอุปปาตะสันติเป็นประจำ ย่อมมีเดช ดังนี้ :

    ๕.๑ เหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน อันเกิดจากแผ่นดินไหวเป็นต้น ย่อมพินาศไป (ปะถะพะยาปาทิสัญชาตา)
    ๕.๒ เหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน อันเกิดจากลูกไฟที่ตกจากอากาศหรือสะเก็ดดาว ย่อมพินาศไป (อุปปาตะจันตะลิกขะชา)
    ๕.๓ เหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน อันเกิดจากการเิกิดจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา เป็นต้น ย่อมพินาศไป (อินทาทิชะนิตุปปาตา)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • life8new.jpg
      life8new.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.8 KB
      เปิดดู:
      134
    • life11new.jpg
      life11new.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.7 KB
      เปิดดู:
      119
    • life21new.jpg
      life21new.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.3 KB
      เปิดดู:
      113
    • life27new.jpg
      life27new.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.5 KB
      เปิดดู:
      98
    • life29new.jpg
      life29new.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.8 KB
      เปิดดู:
      79
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2011
  3. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471

    ด้วยจำได้ว่า เมื่อ ๒-๓ ปีก่อน ครูบาอาจารย์ที่เคารพ ให้ช่วยค้นหาบทสวด "อุปปาตะสันติ" เพื่อนำพากันสวด ณ โอกาส สถานการณ์เมื่อยามนั้น


    ขออนุญาตอาราธนาเสียงสวด โดย คณะพระสงฆ์ วัดราชผาติการาม กรุงเทพฯ มาขยายธรรมทานจิต ท่านเจ้าของกระทู้ หากจะได้เป็นประโยชน์การนำสวดเพื่อท่านอื่น ๆ ในยามนี้กัน นะคะ




    อานุภาพของอุปปาตะสันติ

    ผู้ใดสวดหรือฟังคัมภีร์อุปปาตะสันติ
    อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้
    จะพึงชนะบาปทั้งปวงและจักเจริญด้วยคุณประการ
    คืออายุวรรณะสุขะพละและปฏิภาณ

    ผู้ใดปรารถนาความสวัสดีพึงได้ความสวัสดี
    ผู้ปรารถนาความสุขพึงได้ความสุข
    ผู้ปรารถนาอายุพึงได้อายุผู้ประสงค์บุตรพึงได้บุตร

    โรคที่เกิดจากลมจากดีเป็นต้นย่อมไม่เบียดเบียนบุคคลนั้น
    ความตายในกาลอันไม่สมควรย่อมไม่มีแก่บุคคลนั้น
    มิจฉาเทวดาย่อมไม่รังแกต่างนา

    เคราะห์ร้ายและภัยย่อมไม่มีแก่เขา
    นิมิตร้ายและสิ่งที่ตั้งขึ้นเพราะบาปกรรมย่อมพินาศไป
    ความมีอายุยืนความสวัสดีอันประเสริฐ
    และความไม่มีโรคจะพึงมีแก่เขาในกาลทุกเมื่อ

    ผู้ใดฟังคัมภีร์อุปปาตะสันติอันประเสริฐแล้ว
    พึงเข้าไปสู่สมรภูมิ
    บุคคลนั้นอันศาสตราไม่กล้ำกรายย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล

    เขาย่อมได้ซึ่งความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ
    ความวิบัติย่อมไม่มากล้ำกรายย่อมไร้โรคา
    ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร

    สัตว์ร้ายน้อยใหญ่และรากษสเป็นต้น
    ผู้อยู่ในป่าเขาลำเนาไพรทั้งหลายทั้งปวง
    ย่อมสงบด้วยเสียงแห่งการสวดคาถาอุปปาตะสันติ

    บุคคลสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ
    อุทิศให้ผู้ใดที่มีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิตอยู่
    บุคคลนั้นย่อมพ้นจากมหันตทุกข์
    ย่อมเข้าถึงสุคติภพในกาลทุกเมื่อ

    ท้าวเทวราชทั้งหลายผู้ปกปักรักษาเนืองนิจ
    ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์หรือในพระนคร
    เป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคลด้วยคัมภีร์อุปปาตะสันตินี้

    เหตุร้ายอันเกิดจากแผ่นดินไหวและน้ำท่วมเป็นต้น
    เหตุร้ายที่เกิดจากฟากฟ้า
    เหตุร้ายอันเกิดจากจันทรุปราคาเป็นต้น
    เหตุร้ายที่เกิดขึ้นจากบาปกรรม
    เหตุร้ายทั้งปวงเหล่านั้นจักพินาศไป
    ด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ

    อุปปาตะสันติ
    มนต์สำหรับระงับเหตุร้ายทั้งปวง








    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1718397/[/MUSIC]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2011
  4. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2011
  5. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    สาธุ ขอน้อมอนุโมทนาบุญ

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...