เรื่องเด่น ‘เอดีบี’ เตือนโลกร้อนเป็นหายนะสำหรับเอเชีย ไทยติด1ใน10ชาติกระทบมากสุด

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 6 สิงหาคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    5-39.jpg
    (FILES) / AFP PHOTO / TED ALJIBE


    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รายงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมระบุว่า วิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามปกติแบบที่เคยเป็นมาจะเป็น “หายนะ” สำหรับเอเชีย โดยเป็นการบ่อนทำลายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีเยี่ยมซึ่งช่วยในการขจัดความยากจนได้อย่างมาก

    รายงานระบุว่า การพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไปจะทำให้ทวีปเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเผชิญหน้ากับคลื่นความร้อนในระยะยาว ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และการเปลี่ยนรูปแบบของฝนที่ตกลงมา ซึ่งจะเป็นตัวขัดขวางระบบนิเวศ สร้างความเสียหายให้การดำรงชีวิต ความเป็นอยู่ หรือแม้กระทั่งก่อให้เกิดสงคราม

    “ภาวะโลกร้อนที่ไม่ลดน้อยถอยลงเป็นภัยคุกคามที่จะลบล้างความก้าวหน้าของการพัฒนาหลายๆ เรื่องตลอดช่วงทศวรรษหลังๆ ที่ผ่านมา ชัดเจนที่สุดคือความเสียหายเป็นมูลค่าสูงทางเศรษฐกิจ” รายงานของเอดีบีระบุ และว่าก่อนสิ้นสุดศตวรรษนี้ หลายพื้นที่ของทวีปเอเชียอาจได้เห็นสภาพอากาศโหดร้ายสุดโต่งที่ระดับ 8 องศาเซลเซียสมากกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรม ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่งของระดับดังกล่าว

    “การรับมือกับปัญหาแบบที่เป็นมาจะนำไปสู่ผลกระทบทางสภาพอากาศในระดับหายนะสำหรับผู้คนในเอเชียและแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรกลุ่มที่ยากจนและเปราะบางที่สุด” รายงานระบุ แต่บอกด้วยว่า ภูมิภาคนี้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดหายนะโดยการเปลี่ยนมาใช้แหล่งพลังงานทดแทนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้

    ความตกลงปารีสสู้โลกร้อนที่เห็นพ้องกันเมื่อปี 2558 ผููกมัดให้นานาชาติรักษาระดับอุณหภูมิโลกไว้ที่สูงกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมไม่เกิน 2.0 องศาเซลเซียส (3.6 องศาฟาเรนไฮต์) และแม้อาจยากที่จะจัดการควบคุมไว้ที่ระดับดังกล่าว แต่ระดับ 4 องศาเซลเซียสจะนำไปสู่หายนะด้านมนุษยธรรมในหลายๆ ประเทศ และส่งผลให้เกิดการหลั่งไหลของผู้อพยพที่ไม่สามารถจัดการได้ หรือการถูกปิดล้อมของประชากร

    ระดับน้ำทะเลในเอเชียทั้งหมดจะสูงขึ้น 1.4 เมตรภายในศตวรรษนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในความตกลงปารีส และจะเผชิญกับพายุไซโคลนในระดับทำลายล้างมากขึ้น

    รายงานระบุด้วยว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ระบบปะการังจะพังจากการฟอกขาวเป็นวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและประมง

    นอกจากนี้ ธารน้ำแข็งในเอเชียที่ละลายจะส่งผลให้เกิดทั้งน้ำท่วมและการขาดแคลนน้ำ ทำให้การเกษตรหยุดชะงัก และต้องพึ่งพาน้ำฝนมากขึ้น

    เอดีบีระบุด้วยว่า พม่า ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ เวียดนาม ปากีสถานและไทยเป็น 6 ใน 10 ประเทศในโลกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะโลกร้อน และประกาศว่าจะเพิ่มเงินในการลงทุนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอีก 2 เท่าเป็น 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2563 ซึ่งรวมถึงอีก 2,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน

    ----------
    ขอบคุณที่มา
    https://www.matichon.co.th/news/602900
     

แชร์หน้านี้

Loading...