“คุณไสยแพ้ สามประโยคสั้นๆ” สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี กล่าวไว้

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 21 ตุลาคม 2016.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    123-1.jpg

    “คุณไสยแพ้ สามประโยคสั้นๆ”

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
    วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร


    อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ด้วยตัวอาตมาเอง
    ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี
    โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ
    ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร
    ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูตผีวิญญาณ ตลอดจนชาวบ้าน
    ที่มีเวทมนต์คาถา และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น


    อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง

    ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนตร์คาถาอาคมใดเลย นอกจากคำว่า

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง


    อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใดก็จะกล่าวเพียงคำนี้
    ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม
    ในดงพญาไฟขณะนั้น ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย
    อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
    มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้
    เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น
    อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี


    และ ณ ที่แห่งนั้น อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์

    มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว
    ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล นายผล


    ได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาอาคมเล่าเรียน
    จนมีญาณแก่กล้า และมักจะทดสอบเวทมนตร์คาถาอาคม
    แก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ บริเวณนี้เป็นประจำ


    เขาเล่าให้อาตมาฟังว่าเขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย
    เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น จะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถ
    ที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
    นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วัน เต็มๆ


    ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ
    ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา


    แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย

    วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา

    อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทมนตร์คาถา
    หรือคุณไสยใด นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก
    ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา
    จึงกลับมายังเขา ซึ่งเป็นผู้กระทำ


    ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า
    อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมา
    จึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนตร์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้ อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า


    เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลยอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย


    และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ

    นายผล เมื่อได้ฟังดังนั้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์

    ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้

    ก่อนที่ท่านจะจำวัดจงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่
    ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนตร์ของท่านเช่นนี้

    จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนตร์คาถา
    ในภูตผีปิศาจ ของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่า
    จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด

    เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

    อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์
    นายผลจึงได้ลากลับไป

    ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนตร์
    ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ เมื่ออาตมานอนหลับไป
    อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง
    กุกกัก กุกกัก ดังขึ้นมา จึงได้จุดเที่ยนและพบตะขาบใหญ่
    ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัว
    ของอาตมามาก อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี
    และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนต์

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้
    เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป
    จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ

    ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้า
    ได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักพำนักอยู่
    อาตมาบอกว่าอาตมาได้ตื่นมาและตกใจ

    จึงได้สวดมนต์ภาวนา ตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป

    นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า

    บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า อำนาจเวทมนตร์คาถา และคุณไสยใดๆ
    ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้
    ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนตร์ภาวนาของท่าน
    เป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ได้

    ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน
    เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ว่า

    เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนตร์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้
    เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้
    ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย
    ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน

    ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อุบาสิกา ในที่นั้น เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้ว
    ต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า อานิสงส์ของการสวดมนตร์มีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก

    “ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”

    เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี
    ดังปรากฏในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี
    จางวางมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโต
    มาเทศน์ที่บ้านครั้นพลบค่ำ

    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตพร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆัง
    มายังบ้านของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี

    ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก
    ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ
    ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยา

    เจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์

    “ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”

    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่ายังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า
    การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง
    ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย

    เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี
    ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร
    พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร
    และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไร
    การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณา
    จนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ

    ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผล

    จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

    ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ

    • เมื่อฟังธรรม
    • เมื่อแสดงธรรม
    • เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์
    • เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
    • เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ

    การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา
    ตั้งแต่สมัยพุทธกาล

    พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย
    ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา

    นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม

    ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม

    การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไป
    เพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน

    การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ

    • กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
    • ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
    • วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาด
    หากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็น
    การสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียวอาตมาภาพ
    ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า

    ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว
    บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน

    การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดับพอสมควร
    ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

    *ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอก
    ไม่ให้เข้ามารบกวนจิต
    ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ
    ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

    *ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย
    ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย

    ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง
    เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก
    ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย

    เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น
    ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้
    ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์

    ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย
    ได้อย่างดีเยี่ยม

    ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้

    การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
    เมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี
    และความขนพองสยองเกล้าก็ดี ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดี

    จะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล.


    ขอขอบคุณที่มา :
    shareyung.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กรกฎาคม 2017
  2. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    สามประโยคนี้
    มีแม่ชีพรหมท่านใช้
    พอท่านออกจากวัดไป
    ท่าน....ตายยยย
    มันแล้วแต่นะว่าใครใช้ได้กับรอดหรือไม่รอด
    แต่ที่ข้าพเจ้ารู้ข่าวนะ
    แม่ชีท่านนั้น
    ตายคะ
     
  3. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    แต่
    คาถาถอนโบสก็ดี
    คาถาเบี้ยแก้ก็ดี
    และ
    ข้าพเจ้าใช้
    เมสัมมุกขา สัปปะหะระติเตสัมมุกขาคะ...รีดได้ดี
    และคาถา
    สมเด็จพระพุทธกัสปะดีมากคะ
    พุทธังมัดจิต ธรรมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลายวินาสสันติ
    พุทธังมัดจิต ธรรมมังมัดใจ โรคภัยทั้งหลายวินาสสันติ
    ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิอะหังปิตัง ชานามื ชานามิ
    อันนี้เดินภาวนาจิตใจหนักแน่นดีนักแล
    และขณะจิตเดินคุณจะเห็นคนทำไปจนของมันไหลออกไหลออกจากตัวคะ
    โมทนา
     
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ถึงจะแก้ยังใงแต่ถ้ากลับไปเขาก็เพิ่มให้เหมือนเดิม
    ถ้าคุณไม่ย้ายจากสถานที่เดิม
    สภาพแวดล้อมเดิมคุณก็จะโดนซ้ำๆ
    จนกว่าจะหมดกรรมหรือเปล่านะ

    อันนี้ก็ต้องไม่ทิ้งลมหายใจตัวเองนะคะ
    เพื่อความปลอดภัยคะ

    มีคนบอกหากกข้าพเจ้าไม่ถือศิลภาวนาก็ม่องไปนานนแล้วคะ
    กรรมจัดสรรคะ
     
  5. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ตอนนี้ทุกท่านต้องใช้คือ
    เมสัมมุขา สัพพาหระติ เต สัมมุขา คะ
    กันคุณไสย กันยาพิษ กันยาสั่ง
    เพราะช่วงนี้ ควันมาแรงดิฟ และแซงทางโค้งแบบตูดสะบัด
    ควันเข้าจมุกไปกำหัวคุณได้เลย มันวิ่งคลุมจิตคุณด้วย
    ควันไม่ธรรมดาเลย
    ช่วยเหลือตัวเองนะคะ
    โมทนา
     
  6. chawtru

    chawtru Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +44
    สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...