เรื่องเด่น “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” เผชิญกับ เปรตพระที่วัดเม็งราย สงสัย ท่าทางสงบ..แต่ทำไมถึงเกิดเป็นเปรตได้ !!

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 20 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    ถึงเป็นพระก็ลงนรกได้!! “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” เผชิญกับ เปรตพระมาขอส่วนบุญ ที่วัดเม็งราย เกิดความสงสัย ท่าทางสงบ..แต่ทำไมถึงเกิดเป็นเปรตได้ !!

    t-1 copy01.jpg

    เรื่องราวปาฏิหาริย์ และการพบเจอวิญญาณของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น ล้วนแฝงไปด้วยพระธรรมคำสอน ทำให้มองเห็นสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีแฝงไปด้วย อย่างเมื่อในปี พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงพอ่ฤาษีลิงดำเล่าว่า อาตมาเดินทางไปภาคเหนือ ได้ไปพักที่วัดเม็งราย จังหวัดเชียงราย คราวก่อนเคยมาพักที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว คราวนั้นอากาศหนาวเมื่อนอนลงไป ก็เห็นพระสงฆ์องค์หนึ่งมีความสวยสดงดงาม กำลังหนุ่มมาโบกพัดให้ อาตมาจึงถามท่านว่า
    “อากาศมันหนาว โบกให้ผมทำไม”
    ท่านก็บอกว่า
    “ไม่เป็นไร ผมโบกให้แล้วมันอุ่น”
    และก็อุ่นจริง ๆ แต่มาคราวนี้ไม่พบพระองค์นั้น เมื่อนอนลงไปก็เห็นแต่ผีมาเป็นพันๆ นอนเฉยๆ ไม่ได้เข้าฌาน เห็นผีมากมายมารับส่วนบุญกัน นอนพักทั้งสองคืนพบแต่ผีทุกคืนทั้งตอนเช้ามืดและหัวค่ำ


    เมื่อผีมาหาในฐานะที่เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ก็อุทิศส่วนกุศลให้ แต่ทว่าคืนสุดท้ายมีเรื่องพิเศษคือ คืนนั้นเห็นผีมากันมากแล้วก็ผ่านไป ก็เห็นพระสงฆ์เดินมาใหม่ประมาณสัก ๒๐๐ องค์เศษห่มผ้าสีกรัก แต่ว่าผิวไม่สวยเหมือนกับพระองค์นั้นที่เคยเห็น ไม่มีอาการผ่องใส ท่าทางการเดินสงบเสงี่ยมมาก เห็นแล้วน่าเลื่อมใส น่าไหว้น่าบูชา เดินตรงเข้ามาไม่ทันจะถึงตัวก็หายไปหมด ก็สงสัยจึงถามลูกศิษย์ของท่านท้าวมหาราชซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ ว่า
    “พระพวกนั้นท่านจะมาเยี่ยม แล้วท่านหายไปไหน”
    ลูกศิษย์ท่านท้าวมหาราชตอบว่า
    “นั่นไม่ใช่พระอรหันต์นะขอรับ องค์ก่อนที่ท่านพบนั้นเป็นพระอรหันต์ แต่คณะนี้ไม่ใช่”
    จึงถามว่า “พระพวกนี้เป็นอะไร”
    ตอบว่า “พวกนี้เป็นเปรตขอรับ ตั้งใจจะมาขอส่วนบุญ แต่ว่ากำลังของกฎแห่งกรรมที่เป็นอกุศลยังมีอยู่มาก จึงยังไม่มีโอกาสจะรับโมทนาได้ เมื่อมาแล้วจึงได้หายไป”
    อาตมาสงสัยถามว่า “พระพวกนี้น่ะหรือเป็นเปรต และเปรตรูปร่างเหมือนพระมีหรือ”
    ตอบว่า “ถ้าหากทำความชั่วในระหว่างเป็นพระและก็ตายระหว่างเป็นพระ ก็จะแสดงภาพเดิมที่เป็นพระให้ปรากฎ”


    เมื่อท่านตอบอย่างนี้ก็นึกถึงว่าเคยอ่านพระไตรปิฎกหรือแปลบาลี ก็เคยพบเปรตที่มีรูปร่างเป็นพระบ้าง เป็นเณรบ้าง เป็นนางภิกษุณีบ้าง มีไฟไหม้ตลอดตัว มีสรรพาวุธเสียบแทงอยู่ตลอดเวลาก็มีมาก มีแร้งมีกาจิกกินอยู่ตลอดเวลาก็มี จึงถามว่า
    “พระพวกนี้ความจริงจริยาก็ดีกว่าฉัน แต่ทำไมพวกท่านจึงไปนรก”
    ตอบว่า “ก็เพราะว่าห่มผ้าสีกรักแสดงตนว่าเป็นคนบริสุทธิ์ ทำท่าสงบเสงี่ยมเรียบร้อย เคร่งครัดมัธยัสถ์ เหมือนกับพระเทวทัต แต่ว่าน้ำใจของท่านไม่ใช่พระ ไม่ได้ปฏิบัติให้ใจใสสะอาดตามที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงสั่งสอน ฉะนั้นพระพวกนี้ตายไปแล้วจึงเสวยทุกขเวทนาในนรกนานพอสมควรแก่กฎของกรรม เมื่อพ้นนรกมาแล้วก็มาเป็นเปรตถึง ๑๒ ระดับ เวลานี้เป็นปรทัตตูชีวิเปรตคือเปรตระดับที่ ๑๒ แต่กรรมยังหนักอยู่จึงไม่มีโอกาสจะโมทนาได้ และก็ไม่สามารถจะเข้ามาใกล้ได้”


    อาตมาฟังลูกศิษย์ท้าวมหาราชท่านอธิบาย ก็รู้สึกสลดใจว่า
    “พระก็ชอบลงนรกมากเหมือนกันเป็นเปรตก็มาก”
    ถ้าเราจะบูชาพระก็ควรจะบูชาพระที่เป็นสุปฏิปันโน ถ้าพระองค์ใดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อันเป็นโลกธรรม และเราไปบูชาเข้าก็จะเป็นการให้กำลังใจโจร เพราะคนพวกนี้เป็นโจรปล้นความดีของพระพุทธศาสนา และก็ปล้นความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัทด้วย..”



    ที่มาจาก : เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ) จาก หนังสือ ตายไม่สูญ…แล้วไปไหน โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    เรียบเรียงโดย เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ

    ขอบคุณที่มา
    https://nearbytable.com/2018/02/14/please-pray-for-merit/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2018

แชร์หน้านี้

Loading...