◈กระแสสุขภาพ 2009◈

◈•กระแสสุขภาพ 2009•◈

รายงานโดย :พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล:

ช่วงปลายปีอย่างนี้ หมอดูมักจะทำนายทายทักดวงชะตาของศิลปินคนดังและเหตุการณ์บ้านเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีต่อไป

หมอผิวหนังก็ขออาสาทำหน้าที่ฟันธงแนวโน้มการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพความงามเสียหน่อย
ปีหน้ากระแสการดูแลสุขภาพความงาม จะเน้นหนักไปในเรื่องใดบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ



1.การพัฒนานวัตกรรมที่สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่คนไข้ ความพึงพอใจที่ว่านี้ก็คือ ทำแล้วเห็นผลชัดเจน แต่เจ็บตัวน้อยกว่า คุณจึงมักจะได้ยินคำว่าแผลเล็ก เจ็บน้อย ใช้เวลาไม่นาน ฟื้นตัวเร็ว ฯลฯ จากวงการแพทย์ในช่วง 12 ปีหลังมานี้บ่อยมาก ในขณะที่นวัตกรรมก็ได้รับการพัฒนาออกมาเรื่อยๆ

2.การผ่าตัดและการรักษาที่ยุ่งยากมีแนวโน้มลดลง บทความในนิตยสาร New Beauty ของสหรัฐอเมริกา ฉบับประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ปี 2008 ระบุว่า การผ่าตัดเพื่อความงามบางประเภท ยกตัวอย่างเช่น การผ่าตัดดึงหน้า มีแนวโน้มลดน้อยลงเรื่อยๆ มาตั้งแต่ปี 2000 แล้ว ตัวเลขที่ลดลงนี้ไม่ได้หมายความว่าสาวๆ เขาเลิกห่วงสวยห่วงงาม หรือไม่เหี่ยวไม่ย่นไม่หย่อนคล้อยกันแล้วหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะเขามีทางเลือกอื่นแทนการผ่าตัดดึงหน้า เช่น การใช้เทคโนโลยี “เทอร์มาจ” กระชับผิวหน้าควบคู่ไปกับการ “ฉีดโบทอกซ์ยกหน้า” ค่ะ เทรนด์การใช้เทคโนโลยีผสมผสานกันเพื่อการรักษาจะได้เห็นผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่กำลังมาแรงค่ะ

3.“มินิเฟซลิฟต์” หรือการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ได้รับการคอนเฟิร์มว่าจะมาแรงแซงโค้งแน่ๆ ในปีหน้า ทั้งนี้เพราะบรรดาสาวๆ ยุค “เบบี้บูม” หรือสาวๆ ที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีอายุย่างเข้าสู่วัย 50 ปี ผิวหน้าก็ชักจะเริ่มหย่อนคล้อย เกิดอาการหน้าห้อย หน้าตกกันมากขึ้น แต่เนื่องจากนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีต่างๆ มีให้เลือกเยอะ แทนที่จะเลือกการผ่าตัดดึงหน้า คาดกันว่าชาว “เบบี้บูม” เหล่านี้จะเลือกทำ “มินิลิฟต์” ที่ได้ผลใกล้เคียงการทำศัลยกรรม แต่เจ็บตัวน้อยกว่ากันเยอะ และดูเป็นธรรมชาติกว่ากันแทน



4.สาวหุ่นดีคือสาวผอม ถึงแม้จะมีความพยายามต่อต้านนางแบบที่ผอมมากๆ แต่ความผอมก็ยังคงเป็นที่ปรารถนาของสาวๆ ทุกคนค่ะ

5.ขนตายาวดกหนา ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ “อิน” และยังไม่เอาต์ คาดว่าภายในปีหน้า ราวๆ ช่วงซัมเมอร์ บริษัท อัลเลอร์แกน (บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายโบทอกซ์) จะออกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นให้ขนตางอกยาวและหนาขึ้นออกมาจำหน่ายในท้องตลาด คาดกันว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นที่ต้องการของสาวๆ ทั่วโลก และฮือฮาพอๆ กับโบทอกซ์เลยล่ะค่ะ

6.ผิวขาว เป็นอีกหนึ่งกระแสความงามที่ไม่เคยหนีหายไปไหน ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิบดีผิวสีแล้วก็เถอะ!!!

7.แอนไทเอจจิง (Anti–Aging) เป็นอีกหนึ่งกระแสสุขภาพที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2009 ซึ่งแนวความคิดของแอนไทเอจจิงนั้นเน้นที่การ “ป้องกัน” แทนการ “รักษา” ค่ะ

การป้องกันคือการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ชะลอหรือลดความเสื่อมต่างๆ เพื่อให้โรคภัยไข้เจ็บหรือความเสื่อมถอยมาถึงเราได้ช้าที่สุดหรือน้อยที่สุด
อันที่จริงแอนไทเอจจิงนั้นเริ่มมีบทบาทเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกที แต่บางทีคุณอาจจะไม่รู้สึกก็เป็นได้
การที่ทุกวันนี้ เราเริ่มตระหนักถึงการรับประทานอาหารที่มีคุณค่า เหมาะกับวัย การใช้อาหารเสริม การรับประทานวิตามิน รวมถึงการออกกำลังกาย เหล่านี้แหละค่ะคือแนวทางของการแพทย์ชะลอความชราหรือแอนไทเอจจิง
ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็น เสียเวลา หรือต้องเสียเงินทองมากมาย ตรงกันข้ามถ้าคำนวณดูแล้ว กลับเป็นการจ่ายที่น้อยกว่าตอนที่คุณต้องไปควักจ่ายบิลค่ายาหรือค่ารักษาพยาบาลเสียด้วยซ้ำ
จะว่าไปแอนไทเอจจิงก็เหมือนคำพังเพยไทยที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” นั่นแหละค่ะ
ฉะนั้น ถ้าใครไม่อยากตกกระแส อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

​

ⒶⒷⒸⒹⒺⒻ ⒼⒽⒾⒿⓀⓁ ⓂⓃⓄⓅⓆⓇ ⓈⓉⓊⓋⓌⓍ ⓎⓏ ​

http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=21908​

 

สุขภาพดีนะมาจากข้างในอย่าเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าภายในร่างกาย และอย่าพยายามเลี่ยนแบบคนอื่นเลย ของดีนะอย่าภายในตัวเรา