เรื่องเด่น 10 สุดยอดเกจิ ผู้มี "พลังจิตสูง" ในอดีต!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Prophecy, 17 สิงหาคม 2012.

  1. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    [​IMG]

    ในราวปี พ.ศ. 2452 จังหวัดนครปฐม ได้เปิดชุมนุมพระอาจารย์สำนักต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคมและพลังจิต มีพระอาจารย์สำนักต่าง ๆ ทั่วประเทศจำนวนประมาณร้อยกว่าองค์เศษมาร่วมพิธีนี้

    โดยการทดสอบกระทำครั้งละ 10 องค์ มีสมเด็จพระสังฆราช ฯ (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณวัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาไม้ท่อนมา 1 ท่อน วางไว้บนม้าไม้ 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใด
    สามารถทำให้กบไสไม้วิ่งไสไม้บนท่อนไม้ได้โดยที่กบไม่หล่น ทำการทดสอบกันถึงสามวันสามคืน ส่วนมากพระอาจารย์ที่มาจากสำนักต่าง ๆ ก็สามารถใช้พลังจิตทำให้กบไสไม้เคลื่อนที่ได้เกือบหมดทุกพระอาจารย์ และให้กบไสไม้วิ่งได้ก็มีไม่มีกี่องค์ แต่พอกบที่ไสไม้จะหันหน้ากลับจะทำได้น้อยองค์ ที่ใช้พลังจิตให้กบไสไม้วิ่งขึ้นหน้าแล้วหันหลังกลับได้โดยไม่ใช้มือจับหันกลับ จะมีแค่10 พระอาจารย์!

    10 สุดยอดพระคณาจารย์ ผู้มีพลังจิตสูง ที่ใช้พลังจิตให้กบไสไม้วิ่งขึ้นหน้าแล้ว หันหลังกลับได้โดยไม่ใช้มือจับหันกลับ จะมีแค่ 10 พระอาจารย์ ได้แก่

    หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จังหวัด กาญจนบุรี

    หลวงปู่ทอง วัดเขากบ จังหวัด นครสวรรค์

    หลวงปู่เงิน วัดบางคลาน จังหวัด พิจิตร

    หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัด ชัยนาท

    หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม

    หลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ยจังหวัด สมุทรปราการ

    หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง จังหวัด กรุงเทพฯ

    หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติจังหวัด อยุธยา

    หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จังหวัด นครปฐม

    หลวงปู่จอน วัดดอนรวบ จังหวัด ชุมพร


    ขอขอบคุณ 10 สุดยอดพระคณาจารย์ ผู้มีพลังจิตสูง ในอดีต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2012
  2. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    สุดยอดพระเกจิแห่งยุคนั้นทั้งนั้นเลย สาธุ สาธุ สาธุ........
     
  3. wee3250

    wee3250 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +5,564
    แต่ละท่านเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี อนุโมทนาด้วยครับ
     
  4. hitec-art

    hitec-art เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +953
    สมควรแก่การเคารพบูชาให้เป็น

    พระเกจิทองคำแห่งยุครัตนโกสินทร์

    สาธุ
     
  5. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    สังฆคุณ ๙


    โดย...มุทิตา<O:p

    คำในกลุ่มนี้อีกคำหนึ่งคือ สังฆคุณ ๙ ก็เป็นบทสวดสรรเสริญคุณของพระสงฆ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย ความหมายคำนี้ รองศาสตราจารย์ดนัย ไชยโยธา ได้เขียนอธิบายไว้ใน พจนานุกรม พุทธศาสน์ ดังนี้<O:p</O:p
    คุณของพระสงฆ์ หมายถึง คุณความดีที่พระสงฆ์มีอยู่ประจำตน พระสงฆ์ที่มีคุณความดีได้รับยกย่องมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล คือพระอริยสงฆ์ พระสงฆ์ผู้บรรลุมรรคและผลขั้นต่าง ๆ สำหรับสมมติสงฆ์ พระสงฆ์โดยสมมติในปัจจุบันนี้หากมีข้อวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใสศรัทธา ก็อนุโลมตามคุณของพระอริยสงฆ์ได้<O:p</O:p

    สังฆคุณมี ๙ ประการ ๔ ประการแรกเป็นเหตุและ ๕ ประการหลังเป็นผลดังต่อไปนี้<O:p</O:p
    ๑.สุปฏิปันโน พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีคือ ๑.ปฏิบัติไม่ตามมัชฌิมาปฏิปทา อันเป็นทางสายกลาง ไม่หย่อนนัก ไม่ตึงเครียดนัก ๒.ปฏิบัติไม่ถอยหลัง ปฏิบัติได้ดีเท่าเดิม หรือก้าวหน้าสูงขึ้นไป ๓.ปฏิบัติตามรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า<O:p</O:p
    ๒.อุขุปฏิปันโน พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติตรง คือ ๑. ไม่ปฏิบัติลวงโลก คือ ปฏิบัติต่อหน้าคนอย่างหนึ่ง ปฏิบัติลับหลังคนอีกอย่างหนึ่ง ๒. ไม่ปฏิบัติเพื่อโอ้อวด คือปฏิบัติเพื่อให้คนทั่วไปเห็นว่าตนปฏิบัติเคร่งครัดกว่าใคร ๆ ๓. ปฏิบัติตรงต่อพระพุทธเจ้า และพระสาวกด้วยกัน ไม่อำพรางความในใจ ไม่มีแง่งอน<O:p</O:p
    ๓.ญายปฏิปันโน พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติถูกทางคือ ๑.ปฏิบัติมุ่งธรรมเป็นใหญ่ ๒.ปฏิบัติถือความถูกต้องเป็นสำคัญ ๓.ปฏิบัติเพื่อความตรัสรู้<O:p</O:p
    ๔.สามีจิปฏิปันโน พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติสมควรคือ ๑. ปฏิบัติน่านับถือ สมควรได้รับความเคารพ ๒.ปฏิบัติชอบอย่างยิ่ง ๓.ปฏิบัติดีที่สุด<O:p</O:p
    ๕.อาหุเนยโย พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ควรแก่สิ่งของคำนับ คือ ควรได้รับสิ่งของที่เขานำมาถวาย เพราะท่านมีคุณสมบัติ ๔ ประการ ดังกล่าวแล้วข้างต้นนั้น ด้วยว่าสิ่งที่เรียกว่าอาหุนะ เป็นของที่ท่านใช้บูชาคุณความดีของคน เมื่อพระสงฆ์ประกอบด้วยคุณสมบัติเช่นนั้น จึงควรแก่อาหุนะ คือสิ่งของคำนับ<O:p</O:p
    ๖.ปาหุเนยโย พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ควรแก่การต้อนรับ คือ ผู้ปฏิบัติงามเช่นนี้ เมื่อท่านไปในบ้านเมืองใด ย่อมเป็นผู้สมควรแก่การต้อนรับเหมือนการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พระสงฆ์อยู่ในฐานะนั้น<O:p</O:p
    ๗.ทักขิเณยโย พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ควรแก่ทักษิณาควรแก่สิ่งของทำบุญ คือ พระสงฆ์ผู้มีคุณสมบัติดังกล่าวย่อมได้รับประโยชน์ตามที่ปรารถนา แม้การอุทิศกุศลเพื่อผู้ตาย พระสงฆ์ก็จัดเป็นทักขิไณยบุคคล คือ ควรรับทักษิณาทานนั้น ๆ <O:p</O:p
    ๘.อัญชลีกรณีโย พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ควรแก่การทำอัญชลี คือ พระสงฆ์เป็นผู้มีคุณความดีอยู่ในสันดาน ย่อมอยู่ในฐานะที่ใคร ๆ ควรแสดงความเคารพด้วยการกราบไหว้ เพราะทำให้ผู้ไหว้มีความรู้สึกว่าตนได้ไหว้ผู้ที่มีคุณธรรมสมควรแก่การไหว้ ทั้งเป็นการช่วยให้ผู้ไหว้เจริญด้วยพรทั้ง ๔ ประการ อันได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ด้วย<O:p</O:p
    ๙.อนุตตรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นเนื้อนาบุญของโลก คือ พระสงฆ์เป็นผู้บริสุทธิ์ ทักษิณาที่บริจาคแก่พระสงฆ์ย่อมมีอานิสงส์มาก เปรียบเหมือนนามีดินดีและน้ำดำ พืชที่หว่านไปย่อมให้ผลไพบูลย์ จึงเป็นที่บำเพ็ญบุญของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย

    ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก http://www.kanlayanatam.com/sara/sara29.htm
     
  6. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    สมัยนี้น่าจะมีการชุมนุมแบบนี้อีกนะครับ ^___^
     
  7. Artorius

    Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313
    เกรงว่าจะเหมือนในหนังจีนน่ะซิครับ
    หัวกระทิจริงๆ คงจะยังไม่ออกโรง
     
  8. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ในราวปี พ.ศ. 2452 จังหวัดนครปฐม ได้เปิดชุมนุมพระอาจารย์สำนักต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคมและพลังจิต มีพระอาจารย์สำนักต่าง ๆ ทั่วประเทศจำนวนประมาณร้อยกว่าองค์เศษมาร่วมพิธีนี้

    =====

    ท่านเจ้าของกระทู้นี้ไปเอาประวัติเรื่องนี้มาจากไหนครับ มีด้วยหรือ ครับ ผู้ทรงอภิญญาเขาไม่มีการไปรวมกันแล้วแสดงฤทธฺิ์กันแบบนี้เพื่ออะไร ได้ประโยชน์อย่างไรครับ พระท่านไม่ไปร่วมสังฆกรรมให้เสียเวลาเจริญจิต เจริญธรรมหรอกครับ

    ถ้าผมมีอภิญญาแล้วมานิมนต์ผมไป ผมก็จะถามว่านิมนต์ไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อย่างไร ถ้าไม่สำคัญและไม่ได้ประโยชน์อะไร ผมไม่ไปหรอกครับ และคงไม่ไปแสดงฤทธิ์อะไรพร่ำเพรื่อเด็จขาดครับ มีโทษตามมาแน่นอนครับ


    ขอโทษนะครับ ไม่ได้ไม่เชื่อแต่ขอทราบที่มาด้วยครับ ยังไม่อยากถามครุอาจารย์ครับ เดี๋ยวท่านจะตำหนิผมเอาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  9. Artorius

    Artorius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +313
    คุณTPC
    แต่ผมก็เคยอ่านมานานแล้วนะครับ แล้วก็เชื่อเลย
    มาสะกิดตรงที่คุณนี่แหละครับ รอคนอื่นหาที่มาก่อนดีกว่า
    แฮะๆๆ
     
  10. shane9

    shane9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +258
    ผมว่าน่าจะเป็นการนิมนต์ แบบเจาะจงพระมากกว่าครับ
    ถ้าสมัยนั้นก็กรมหลวงชุมพร ท่านศึกษาวิชาเพื่อป้องกันประเทศ หาพระอาจารย์ที่เก่ง
    เดาล้วนๆครับ :'(
     
  11. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    คิดๆ แล้วแล้วน่าเสียดาย ไมได้อยู่ดูด้วย
     
  12. ชลรัตน์

    ชลรัตน์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +24
    เรื่องนี้หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านเคยเล่าถึงอยู่...ลองไปค้นดูในเรื่องเล่าของหลวงพ่อซิครับ
     
  13. ละโลก

    ละโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +654
    ปรามาสพระท่านไม่ดีนะครับ
    สิ่งที่ท่านเปรียบเทียบนั้นมันคนละอย่างกันเปรียบเทียบกันไม่ได้
    นก บินได้ จะบอกว่าดีกว่าปลาก็ไม่ได้
    ปลา ว่ายน้ำได้ จะบอกว่าดีนกก็ไม่ได้
    ทุกสิ่งล้วนมีดีมีเสียกันคนละอย่าง แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ อนิจจัง
    เงิน ทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็แค่สุขชั่วครู่ ชั่วประเดี๋ยว ท่านอย่าถือเป็นอารมณ์เลย สุดท้ายก็ อนิจจัง จริงไหม
     
  14. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระพุทธเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย ฯ

    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระธรรมเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย ฯ

    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ฯ ข้าพเจ้า ขอถึง ซึ่งพระสงฆเจ้า ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่ง ที่อาศัย ฯ


    มีพระมีอายุท่านหนึ่ง ผมเคารพท่านมากครับ ผมได้สนทนาธรรมกับท่าน ท่านได้ให้ข้อคิดดีๆ มามาก ผมคิดว่ายังโชคดีมากที่ได้เจอพระสงฆ์ผู้มีเมตตาสูงอย่างนี้ ท่านเป็นกันเองมากเลยครับ ท่านทั้งเคร่งปฏิบัติธรรม และเพียรในการเผยแผ่พระธรรมมากครับ และที่วัดของท่านก็เป็นวัดป่าให้เข้ามาปฏิบัติธรรมฟรีไม่เสียเงินเลยครับ ผมคิดว่าได้เจอพระดีๆ องค์เดียวก็ถือเป็นบุญมหาศาลของผมแล้วครับ

    ลองคิดดูนะครับ ถ้าไปเกิดตอนที่โลกไม่มีพุทธศาสนา เราอาจจะต้องทำผิดพลาดมากมายขนาดไหน นี่เรายังโชคดีได้เกิดเป็นชาวพุทธ ได้รู้เรื่องของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ได้โดยพระองค์เอง ได้ศึกษาพระธรรม และยังมีพระสงฆ์ที่ประพฤติดี ที่เผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าให้เราได้ศึกษา ชี้แนะแนวทางต่างๆ

    คงจะเป็นการยากที่จะให้โลกเป็นไปตามที่เราต้องการ แต่หากมองดีๆ จะเห็นได้ว่า ที่เรามีอยู่ แค่นี้ก็โชคดีมากแล้ว
     
  15. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    จะว่าไปแม้แต่ช่วงที่พระพุทธเจ้ายังไม่ปรินิพพาน ก็มีพระที่ทำตัวไม่ควรอยู่เหมือนกัน
    สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตัวเอง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    เราจะทำดี หรือทำชั่ว เราเลือกได้
     
  16. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ผมไม่ได้พูดปลอบใจตัวเอง หรือใครหรอกครับ ผมพูดความจริง

    [​IMG]

    Is the glass half full or half empty?

    "แย่มากที่น้ำหายไปครึ่งนึง" หรือ "โชคดีที่น้ำยังเหลือครึ่งนึง"

     
  17. จุ๊กกรู้

    จุ๊กกรู้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +47
    "จรจัด" อาการกำเริบอีกแว๊วววววว

    พ๊ะสีแอ่นนส์ เจอเรื่องปาฏิหารย์ อิทธิฤทธิ์ล้ำหน้าตัวเองแล้วของขึ้น ร้อนรน ดิ้นแด่ว แต๋วแตก น่ะ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    (||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)
     
  18. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    [​IMG]

    มีขันติ คือ ให้พรแก่ตัวเอง

    พระปุณณะเดิมเป็นชาวสุนาปรันตะ ไปค้าขาย
    ที่เมืองสาวัตถี ได้ฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้า
    แล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงออกบวช
    ครั้นบวชแล้วการทำสมาธิภาวนาไม่ได้ผล
    เพราะไม่คุ้นกับสถานที่ ท่านคิดว่าภูมิอากาศ
    ที่บ้านเดิมของท่านเหมาะกับตัวท่านมากกว่า
    จึงทูลลาพระพุทธเจ้า

    พระองค์จึงตรัสถามว่า
    เธอแน่ใจหรือปุณณะ คนชาวสุนาปรันตะ
    ดุร้ายมากนัก ทั้งหยาบคายด้วย
    เธอจะทนไหวหรือ

    ไหวพระเจ้าข้า

    นี่ปุณณะ
    ถ้าคนพวกนั้นเขาด่าเธอ
    เธอจะมีอุบายอย่างไร

    ข้าพระองค์ก็คิดว่า ถึงเขาจะด่า
    ก็ยังดีกว่าเขาตบต่อยด้วยมือพระเจ้าข้า


    ถ้าเผื่อเขาต่อยเอาล่ะ ปุณณะ

    ก็ยังดีพระเจ้าข้า
    ดีกว่าเขาเอาก้อนดินขว้างเอา


    ก็ถ้าเขาเอาก้อนดินขว้างเอาล่ะ

    ข้าพระองค์ก็จะคิดว่า ก็ยังดีพระเจ้าข้า
    ดีกว่าเขาเอาไม้ตะพดตีเอา


    เออ ถ้าเผื่อเขาหวดด้วยตะพดล่ะ

    ก็ยังดีพระเจ้าข้า
    ดีกว่าถูกเขาแทงหรือฟันด้วยหอกดาบ


    เอาล่ะ ถ้าเผื่อคนพวกนั้น
    เขาจะฆ่าเธอด้วยหอกด้วยดาบล่ะ ปุณณะ

    ข้าพระองค์ก็จะคิดว่า
    มันก็เป็นการดีเหมือนกันพระเจ้าข้า


    ดีอย่างไร ปุณณะ

    ก็คนบางพวกที่คิดอยากตาย
    ยังต้องเสียเวลาเที่ยวแสวงหาอาวุธมาฆ่าตัวเอง
    แต่ข้าพระองค์มีโชคดีกว่าคนพวกนั้น
    ไม่ต้องเสียเวลาไปเที่ยวหาอาวุธอย่างเขา


    ดีมาก ปุณณะ เธอคิดได้ดีมาก
    เป็นอันตกลง เราอนุญาตให้เธอไปพำนัก
    ทำความเพียรที่ตำบลสุนาปรันตะได้

    พระปุณณะกลับไปเมืองสุนาปรันตะแล้วทำความเพียร
    ในไม่ช้าใจก็หยุดนิ่ง บรรลุธรรมไปตามลำดับ
    จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

    เรื่องของพระปุณณะเป็นตัวเอย่างที่จะสอนใจเราได้ว่า
    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

    [​IMG]

    หากเราสามารถทำใจได้ คิดในแง่ดี
    คิดในแง่บวกได้ในทุกสถานการณ์
    เราจะเก็บเกี่ยวผลดีได้เสมอ
    เกิดประโยชน์ได้ในทุกนาทีของชีวิต


    ในชีวิตประจำวัน แทนที่เราจะขอพรจากพระเจ้า
    ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    ก็ให้เราใช้หลักอดทน คิดดี ทำดี ด้วยใจดีมีเมตตา
    มีความพอใจในปัจจุบัน ก็เท่ากับเราให้พรแก่ตัวเอง


    และมีความสุขได้ในปัจจุบันและอนาคต
    ปกติคนเรามักคิดว่า ปัจจุบันนี้เป็นทุกข์
    ก็ต้องทนทุกข์ไปก่อน รอไว้วันข้างหน้า
    เมื่อได้สิ่งนั้นสิ่งนี้สมความปรารถนาแล้วจึงมีความสุขได้

    แต่จริงๆ แล้ว
    ขันติที่ถูกต้องบริสุทธิ์คือ
    อดทนด้วยความเต็มใจ
    และพอใจในปัจจุบัน
    ไม่ใช่ทนด้วยใจที่เป็นทุกข์ แต่ทำใจได้
    รักษาใจเป็นปกติได้


    เพราะมีปัญญาที่จะเข้าใจว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอน เข้าใจโลกธรรมแปด
    มี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
    ก็ต้องมีเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์
    ถือเป็นธรรมดาโลก
    เมื่อสมความปรารถนา เราก็ไม่ดีใจจนหลง
    เมื่อไม่สมปรารถนา เราก็ยังมีกำลังใจ
    มีความหวังในชีวิตได้
    มีขันติจึงเท่ากับให้พรแก่ตัวเอง
    ที่จะมีความสุขใจ ความพอใจได้ในทุกสถานการณ์
    จากหนังสือ มีขันติ คือ ให้พรแก่ตัวเอง
    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

    วัดป่าสุนันทวนาราม
    บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก แสดงกระทู้ - มีขันติ คือ ให้พรแก่ตัวเอง (พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก) &bull; ลานธรรมจักร
     
  19. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    คงเคยได้ยินเรื่องพระพุทธเจ้าเปรียบบุคคลเหมือน บัว 4 เหล่านะครับ



    เมื่อแรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ พระองค์ได้พิจารณาว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อนสุขุมคัมภีรภาพ ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้ แต่ต่อมาได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้งแล้ว ทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว 4 เหล่า (ตามนัยอรรถกถามี 4 เหล่า<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>) หรือ 3 เหล่า (ตามนัยพระไตรปิฎกมีเพียง 3 <SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP>)




    ความหมายของบัวสี่เหล่าตามนัยอรรถกถา
    1. (อุคคฏิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
    2. (วิปจิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
    3. (เนยยะ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
    4. (ปทปรมะ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
    บัวสี่เหล่า - วิกิพีเดีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  20. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    จะให้โลกเราเป็นไปตามที่เราต้องการคงยาก แม้แต่ร่างกายเราๆ ยังสั่งมันไม่ให้แก่ ไม่ให้ตายไม่ได้เลย...ใครก็ต้องตายทั้งนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...