เรื่องเด่น 2อริยะแห่งศรีสะเกษ พบกันทางจิต บทสนทนาของหลวงปู่หมุน พูดถึง "รูปคนในแบ๊งค์" ทำเอาหลวงปู่สรวงเลิกเผาเงิน

2อริยะแห่งศรีสะเกษ พบกันทางจิต บทสนทนาของหลวงปู่หมุน พูดถึง "รูปคนในแบ๊งค์" ทำเอาหลวงปู่สรวงเลิกเผาเงิน



ลูกศิษย์ลุกหาที่บูชาหลวงปู่สรวง ต่างทราบกันดีทว่า หลวงปู่สรวง ท่านได้ฉายาว่า "ขรัวขี้เถ้า เผาแหลกลาญ" โยมถวายเงินเป็นฟ่อน ท่านก็โยนเงินลงกองไฟเสมอๆ ท่านให้เหตุผลว่า



"เงินมันไม่ดี มันเป็นกิเลส"
จากข้อมูลที่ได้ฟังมา เพื่อจัดหนังสือเผยแพร่ประวัติครูบาอาจารย์ ทั้ง 2 รูป "หลวงปู่หมุน" และ "หลวงปู่สรวง"

สรุปเรื่องการเลิกเผาเงินของหลวงปู่สรวง ได้ดังนี้


1. ตอนหลวงปู่สรวงมาวัดป่าหนองหล่ม ปกติแล้วท่านจะเผาเงินที่โยมเอามาถวายลงกองไฟ แต่ครั้งนั้น ท่านกลับไม่เผา

ท่านทำพิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคล (รุ่นเสาร์5 บูชาครู) โดยจับสายสิญจน์ที่พาดผ่านกองไฟ เกิดเหตุอัศจรรย์! ท่ามกลางสายตานับสิบๆคู่ คือ สายสิญจน์ที่พาดผ่านกองไฟ ไม่ไหม้ไฟ!!!

หลวงปู่สรวงทำพิธีไม่นาน ท่านก็กลับ...

ช่วงเวลาที่หลวงปู่หมุนท่านมา ก็มีคนนั่งเฝ้ากันอยู่เต็มไปหมด จนกระทั่งท่านกลับ หลวงปู่หมุนก็ยังคงอยู่ที่กุฏิเป็นปกติ

ลูกศิษย์ของหลวงปู่หมุน จึงเข้าไปกราบเรียนหลวงปู่หมุนว่า

"เมื่อครู่ หลวงปู่สรวงท่านมา แต่กลับไปแล้ว"
หลวงปู่หมุนบอกว่า

"รู้แล้ว เจอกันแล้ว ฉันยังบอกท่านว่า อย่าเผาเงินเลย รูปของคนในเงินนั้น คนไทยเขาบูชากัน และมีคนเดือดร้อน คนลำบากยากจนอีกมาก"

เป็นอันรู้กัน ว่าหลวงปู่หมุน ผู้ได้ชื่อว่าท่านมีวาจาศิษย์ กล่าวออกมาว่าได้เจอแล้ว ไม่มีทางอื่นเป็นไปได้เลยนอกจากเจอกันด้วยอำนาจสมาธิจิตเท่านั้น

2. เรื่องการเผาเงินนี้ มีข้อพิสูจน์ว่าหลวงปู่สรวงท่านเลิกเผาตามคำหลวงปู่หมุนบอกจริงๆ ในต้นฉบับของ “ทิพยจักร” เล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งมีคนถวายเงินท่านถึง 4 หมื่นบาท แล้วท่านก็ไม่ยอมเผาเงิน แต่ได้เก็บเงินจำนวนนั้น นำขึ้นรถไปด้วย นี่ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัยท่าน



ตรงนี้ กะจากเวลา เดาว่าท่านคงได้พูดคุยกับหลวงปู่หมุนทางจิต ดังที่ได้เล่ามาเมื่อข้อ 1 แล้ว

เนื้อความตอนนี้เล่าว่า

วันเดียวกันกับที่โยมถวายเงินมา 4 หมื่น หลวงปู่สรวง ท่านได้รับนิมนต์ไปสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ดันชี้นิ้วให้คนขับรถ ขับพาไปหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งอยู่คนละทิศกับบ้านที่นิมนต์

(ท่านจะไปทางไหนก็จะบอกกับคนขับรถด้วยการชี้นิ้วสั่ง ว่าจะให้ไปทางซ้าย หรือขวา)ห

สรุปว่าตอนนั้น คนขับก็ต้องอ้อมวนไปมา เพราะเหมือนท่านชี้ไปมาสะเปะสะปะ

จนถึงต้นไม้ใหญ่ที่หนึ่ง ท่านก็ทิ้งเงินที่คนนำมาถวายประมาณ 4 หมื่นบาท โยนออกนอกรถ คนขับใจหายแว๊บ!

กระทั่งส่งหลวงปู่ถึงวัด ก็แอบวกกลับไปที่เดิม หมายจะเก็บเงินคืน ไปถึงเงินหายไปแล้วเลยไปถามผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่ก็เรียกพลเมืองดีที่เก็บเงินได้มาพบ

คนขับ : “น้าเจอเงินของผมได้ยังไง”

พลเมืองดี : ผมตั้งใจจะมาผูกคอตาย เพราะหนี้ผมเยอะ ก็พอดีมาเจอถุงเงินนี่ ผมเอามาส่งผู้ใหญ่บ้านกะว่าถ้าไม่มีคนกลับมาเอาผมก็จะเอาไปใช้หนี้ เพราะหนี้ก้อนนี้ทำเอาคนในครอบครัวเดือดร้อนไปหมด



คนขับรถของหลวงปู่สรวง จุกตื้อขึ้นมาถึงคอยหอยทันที ตอบไปว่า "เอาไปเถอะ เงินก้อนนี้ หลวงพ่อท่านให้นาย"


จากนั้นก็จะมีอีกหลายตอนที่ท่านไม่เผาเงิน แต่จะโยนทิ้งออกนอกรถ เคยลงข่าวในหนังสือพิมพ์ มีคนมาเก็บ รถติดเต็มถนน





เรื่องโดย: ทิพย์วารี



----------------------------
ที่มา
http://www.tnews.co.th/contents/208508

 

หลวงปู่สรวงก็ยังคงเหมือนเดิมนั่นแหละครับ เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่เผา แต่วันอื่นๆท่านก็ยังเผาเช่นเดิม อันนี้ก็เข้าใจได้ยากครับว่าอันใหนต้องเผาหรือต้องเอาไปช่วยคน ก็แค่ติงนิดเดียวครับเกรงจะเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะคนที่จ้องจะหาประโยชน์ทางนี้มีเยอะ