..........

ปรสิตผี

​

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_521805

คนตายแล้วคนไทยเชื่อหรือเรียกกันว่าผีว่าเป็นผี

แต่ถ้ามองให้ชัด ก็จะเห็นว่าไม่ต้องถึงตอนตายแล้วเป็นผีหรอก คนเป็นๆก็เรียกว่าผีได้ เพราะในจิตใจคนเป็นๆนั้นมีใจผี ใจเปรต ใจเทวดา ใจพรหม เป็นต้นอยู่หมดด้วยกัน

​

 

จริงๆนะ ไม่ใช่พูดเล่น จะว่าให้ฟัง

คือเราเห็นแต่เงา ไม่เห็นตัวจริงของจริง ตัวจริงคือจิต (หรือความคิด) นี่ล่ะผีตัวจริง ผีที่เราเห็นเปรียบเหมือนเงาของความคิด (หรือจิตใจ) จิตคิดเรื่องผี ผีก็โผล่ขึ้นมารังควาญความสุขเรา ถ้าเราไม่คิดเรื่องผี ผีก็ไม่มีไม่มารังควาญเรา เอาล่ะเราไม่คิดเรื่องผีละ คิดเรื่องเทวดามั่ง คิดเรื่องเทวดา เทวดาก็โผล่มา

อุปมาเหมือนตัวเรากับเงา เรายกมือขึ้น เงาก็ยกมือขึ้น เราเอามือลง เงาก็เอามือลง เรากะโดด เงาก็กะโดด เราวิ่งเงาก็วิ่ง เงาเปรียบเหมือนผีหรือเทวดา ตัวเราที่ยกมือกระโดดโลดเต้นเหมือนจิต ที่คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ฉันใดฉันนั้น

ดังนั้น หยุดคิดถึงผี หันมาคิดถึงเทวดาดิ ก็จะเห็นเงาเทวดา ไม่เห็นเงาผีมารังควาญเรา อิอิ

 

ตัวอย่างชัดๆ ที่เห็นนั่น เป็นเงาของความคิด

 

ผีในใจ ซึ่งแสดงออกมาทางกาย (ดังอุปมาอุปไมยตัวเองกับเงา)

มองให้ลึกให้เห็นตัวจริงของผี (จิต) แล้วเงาผีจะไม่รังควาญสุขเรา อิอิ

 

มากันยกแก็งเลยก็ได้นะ จะเปลี่ยนชื่อยังไงมันก็ไอ้ ขจรศักดิ์ สมุน นพกาน เหมือนเดิมแหละ อย่ามามีเวรมีกรรมต่อกันเลย ภูมิธรรม ยังห่างชั้นกับเราเป็นล้านปีแสง ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า เข้ามาเกรียนกระทู้นี้ เราก็รู้แล้ว ว่าพวกแกไม่มีความสามาทางจิต เพราะถ้าพวกแกเป็นนักปฏิบัติ ต้องรู้ว่าเราไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา รีบๆไปที่ชอบๆเถอะ เรามาช่วยมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อน อย่ามาทำเป็นอวดรู้แถวนี้ จะดีกว่า

 

พระพุทธเจ้ารู้ว่า คนประเภทไหน ไปนรกง่าย ไปสวรรค์ยาก สังเกตดู

“ภิกษุทั้งหลาย สำหรับบางคน กรรมชั่วที่ทำไว้เพียงเล็กน้อย ก็นำเขาไปนรกได้ แต่สำหรับบางคน กรรมชั่วที่ทำไว้เล็กน้อยอย่างเดียวกันนั่นแหละ ให้ผลแค่ในปัจจุบัน ทั้งส่วนที่เล็กน้อย ก็ไม่ปรากฏด้วย ปรากฏแต่ที่มากๆ เท่านั้น


“คนประเภทไหน กรรมชั่วที่ทำไว้เพียงเล็กน้อย ก็นำเขาไปนรกได้ ? กล่าวคือ คนบางคน ไม่ได้เจริญกาย ไม่ได้เจริญศีล ไม่ได้เจริญจิต ไม่ได้เจริญปัญญา ใจจ้อยด้อยคุณ ดังเป็นคนตัวเล็กๆ มีปรกติอยู่เป็นทุกข์กับเรื่องนิดๆหน่อยๆ บุคคลประเภทนี้ กรรมชั่วที่ทำไว้เพียงเล็กน้อย ก็นำเขาไปนรกได้ (เหมือนใส่ก้อนเกลือในขันน้ำน้อย)”

“คนประเภทไหน กรรมชั่วที่ทำไว้เล็กน้อยอย่างเดียวกันนั่นแหละ ให้ผลแค่ในปัจจุบัน ทั้งส่วนที่เล็กน้อยก็ไม่ปรากฏด้วย ปรากฏแต่ที่มากๆ เท่านั้น ? กล่าวคือ คนบางคน ได้เจริญกาย เจริญศีล เจริญจิต เจริญปัญญา ผู้มิใช่เล็กน้อย เป็นมหาตมะ มีธรรมที่ใจอยู่อันประมาณมิได้ สำหรับบุคคลประเภทนี้ กรรมชั่วที่ทำไว้เล็กน้อยเช่นเดียวกันนั่นแหละ ให้ผลแค่ในปัจจุบัน ทั้งส่วนที่เล็กน้อยก็ไม่ปรากฏด้วย ปรากฏแต่ที่มากๆ เท่านั้น (เหมือนใส่ก้อนเกลือในแม่น้ำ)” (องฺ.ติก.20/540/320

 

ปรสิตผีส่วนใหญ่มาจากมิติอื่น หรือดาวดวงอื่น พวกนี้กินพลังชีวิต หรือออร่าของมนุษย์ ไม่เอาบุญ พวกมันเป็นพลังงาน จึงสามารถไปกับสัญญานโทรศัพหรืออินเต่อเน็ท ได้ วิธีป้องกัน คือต้องตัดสัญญาน เช่นลบเฟส ลบลาย ของบุคคลที่เกี่ยวพันธ์ กับกลุ่มเขากะลา หรือกลุ่มไล้เวอคเก่อร์ ปลอม หรือกลุ่มมโนมยิทธิ ในเวปนี้ และพวกโค้ชพลังจิต ทั่งหลายแหล่ บางคนแถวนี้ถูกสิงแต่ไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยเจอ ไม่มีความรู้ แต่ตัวเองเป็นพาหะเสียเอง จขกท ลองทำตามที่เราโพสก่อนถ้าไม่ได้ผล เดี่ยวเราส่งพลังจิตไปช่วยเคลีย์ให้

 

จริงๆเรื่องนี้พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้แล้ว
พระอริยบุคคลระดับสูงล้วนรู้จักดีและเคยประสบพบเจอมาด้วยกันทั้งสิ้น

มาร ที่พระพุทธองค์ได้ทรงจำแนกไว้ดีแล้ว นั้น มี ๕ จำพวก
ลองพิจารณาดูครับ
ว่า จำพวกใด ลึกลับ และมีการแจกแจงน้อยมาก
ไม่ใช่แจกแจงยาก หรือ ไม่ได้นะครับ
แต่มันเกินวิสัยของผู้ฟังนี่สิ
ท่านจึงเก็บไว้

เวลาสรุป ก็ ลงง่ายๆ ว่า
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตาม กรรม
จะได้ไม่ต้องไป วิตกวิจารณ์ มากจนเกินพอดี
ประกอบเหตุให้ดี ดีกว่าจะไปนั่งถามหาชื่อแซ่ของพวกมัน

 

ในสมัยโบราณ ยังไม่มีโทรศัพมือถือ ยังไม่มีระบบอินเต่อร์เน็ต ปรสิตผี หรือจิตวิญญานแฝง พวกนี้ ก็จะแพร่ได้ยากกว่าในปัจจุบัน ต้องอาศัยการยอมรับ หรือเชิญ พวกนี้จึงจะมาสิงได้ จิตที่มีโลพะ โทสะ โมหะ พวกนี้จะสิงง่ายที่สุด แต่ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยี่ก้าวหน้า คนส่วนใหญ่มีโทรศัพมือถือ และเล่นอินเต่อร์เน็ต ปรสิตผี หรือจิตวิญญานแฝงเหล่านี้ ก็จะแพร่กระจายได้ง่าย โดย ผ่านการยอมรับ แอทเฟส แอทลาย ผลก็คือคนในสังคมปัจจุบัน มีปรสิตผีไปสิงอยู่ ทั่วประเทศ และทั่วโลก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ประท้วง และสงคราม ในทุกที่ แม้แต่บนท้องถนน ก็มีเหตุยิงกัน ทะเลอะกัน เพียงแค่ขับรถช้า หรือปาดหน้า มีเหตุฆ่ากันตาย มากมายบ้านเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทะเลอะกันวุ่นวาย และเป็นต้นเหตุของภัยพิบัติ ในหน้าหนังสือพิมม์ ฉนั้น ท่านทั่งหลายจึงควร รู้เท่าทัน อย่าปล่อยให้ผีปรสิต เหล่านี้ เข้าสิงต่อไปอีกเลย จงรู้เท่าทัน และหาทางป้องกัน ก่อนที่จะไม่มีโลกนี้ได้อาศัย

 

ก็ตัดตัววิญญานการรับรู้ที่ส่งจาก
จิตเราซิครับ เป็นการแก้ที่ตนเหตุ
นึกภาพออกไหม คุณ จขกท
การไปรู้เริ่มต้นจากมี ๑.ตัววิญญานจากจิตเราส่งออกไปกระทบ
กับ๒.ภายนอกส่งเข้ามากระทบ หรือมาแหย่นั่นหละครับ
แหย่เพื่อจะดูว่าเราจะเล่นด้วยไหมนั่นเอง
หรือ ๓.ทั้งภายในและภายนอกทำงานร่วมกัน
ตรงนี้ถ้ามันได้ทำงานแล้ว เราจะ
ปรุงแต่ง เป็นเรื่อง เป็นราว
จนกลายเป็นอัตตาตัวตน
สร้างตัวตนอื่นๆขึ้นมา
อย่างไม่รู้ตัวนั้นหละครับ

จริงๆ แล้ว ฐานการส่งออกมา
จากตัว โทสะ โมหะ โลภะ ที่อยู่
ในจิตเรานั้นหละครับ ซึ่งในคนปกติจะมีทุกคน
ที่เป็นตัวส่งเสริม
ให้เกิดการส่งตัววิญญานการไปรับรู้ครับ

ถ้าเราไม่รับ และไม่ส่งไปกระทบ มันก็จะไม่มีการดึง
เข้ามา ไม่มีการรับรู้ใดๆ ก็จะตัดวงจร
การปรุงแต่ง แทรกแซงได้ ตั้งแต่เริ่มต้นครับ

พวกนี้ไม่ว่าจะเป็นอะไร
มันก็เป็นสิ่งที่มาจากภายนอกทั้งนั้น
เราก็ระวัง โทสะ โมหะ โลภะ ในใจเราก็พอ
ส่วนสิ่งที่มาจากภายนอก
เราก็ต้อง มีสติทางธรรมที่จะไปรู้มันก่อน
และเราก็จะต้องมีปัญญาทางธรรมเพียงพอ
ที่จะตัดตอนที่มันไปรู้ ให้ขาด ก่อนที่มันจะดึง
เข้ามาปรุงแต่งครับ .....

ต่อไปหากเรามี กำลังสมาธิ พอมีกำลังจิต
เราก็จะตัดได้ตั้งแต่ ก่อนที่จะส่งออกไปรู้
ทำอย่างนี้ได้ แค่นี้ ในโลกนี้
ก็ไม่มีอะไรจากภายนอก
ต่อให้จะเก่งระดับโลก ก็ไม่สามารถ
มาทำอะไรเราได้แล้วครับ

ปล.ไม่ต้องไปสนใจ และให้ค่า
กับพวก ปริสิต กระโหลกกะลา ไก่กา
พวกนี้ครับ ยิ่งพูดถึงมัน
จิตเราจะไปเชื่อมมัน
ยิ่งไปสร้างกำลังให้มันได้เกิด
และสร้างให้มันมีกำลังมากขึ้น
อย่างไม่รู้ตัวครับ

เพราะฉนั้น เริ่มจาก ตัดมันเลย
ถ้ายัง ระลึก นึกขึ้นได้ คิดขึ้นได้ ปรุงได้
เกี่ยวกับพวกปรสิต หัวกวยพวกนั้นครับ

 

คือปกติไม่ค่อยกลัวอะไรพวกนี้ กำตะกรุดภาวนานอนเป็นเกราะคลุมไว้ เช้ามาพิจารณาจึงค่อยๆหาวิธีเอาออกไปจากชีวิตเพราะเริ่มชัดแล้วว่าไอ้นี่แหละที่ตาม และแทรกเงาจิตของผม เงาจิตของคุณมาจากดินที่อธิบายไว้นั้นใช่ครับ แต่คนละตัวกับที่ผมพูดถึง ผมจะบอกว่าไอ้นี่แหละที่แทรกรวมกับเงาจิต ที่บอกว่าอยู่รอบนอกของจิตและรู้ข้อมูล รู้สัญญาต่างๆของจิต ก็ตัวนี้

ระวังบ้านะน่า นี่พูดจริงๆนะ ของพวกนี้ มจด.เล่นมาจนเบื่อแล้ว อิอิ