The Psi-ball : วิธีใช้และข้อควรระวัง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย minkbbk1993, 1 ธันวาคม 2010.

  1. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    The Psi-Ball

    1) The Healing: การรักษา

    การฝึก psi-ball ทำให้คุณมีพื้นฐานในรักษาผู้อื่น ด้วยการแตะบริเวณที่มีปัญหาแล้วกำหนดจิตถ่ายพลัง หรือ ถ่ายพลังโดยไม่แตะก็ได้ แต่หากไม่ได้เรียนวิชา "พลังจักรวาล" / ไม่ได้ปล่อยพลัง หยิน (พลังไม่ดี)ออก หลังจากการรักษา คุณย่อมต้องเสียพลัง หรือ รู้สึกเจ็บป่วยแทนคนอื่น

    ** กรณีที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรนั้น ต้องคุยกันดีๆก่อนนะจ๊ะ บางตนกลับคำก็มี หรือ ไม่ก็แอบมาดูดพลังทีหลังก็มี ส่วนพวกที่ป่วยเพราะ คุณไสยนี่ผมแนะนำให้อาราธนา พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ดีกว่าครับ เคยเจอมาแล้วขยาดเลยพวกนี้ กัดไม่ปล่อย **

    วิธีสังเกตุ ว่าเป็น สิ่งแปลกปลอม (เจ้ากรรมนายเวร คุณไสย บางทีเป็นสัมพเวสีลักลอบปลอมตัวมาเป็น เจ้ากรรมนายเวร) คือ เมื่อขณะที่รักษาอยู่นั้น ผู้ป่วยหายเจ็บที่หนึ่ง ไปเจ็บอีกที่หนึ่ง หรือ เรารู้สึกว่ามีพลังอื่นกำลังหนีมือนั้น จะเป็นจุดหนึ่งที่สังเกตุได้ ค่อยๆสังเกตุกันไปนะครับสำหรับผู้ที่กำลังฝึกฝนอยู่...Fighting !

    นอกจากรักษาแล้วเรายังสามารถ ตรวจสุขภาพได้โดยดูแต่ละ จักระว่า มีพลังมากน่อยขนาดไหนเมื่อเทียบกับแต่ละจักระในตัวคนๆนั้น


    ** สำหรับผู้ที่สนใจ ให้ไปอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับ จักระต่างๆ นะครับ **


    วันนี้เอาแค่นี้ก่อนครับ

     
  2. sandwich123

    sandwich123 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
    ผมก็กำลังฝึกPsi ballอยู่เหมือนกันคับ แต่ว่าไม่เข้าใจเรื่องเจ้ากรรมนายเวรอ่าคับหมายความว่าไง แล้วเนื้อหาเกี่ยวกับจักระต่างๆอ่านได้ที่ไหนคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  3. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    ตอบคำถาม : เรื่องเจ้ากรรมนายเวร

    เนื่องจากเวลาที่เราไปรักษาคนอื่นที่มีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนทำให้เค้าเจ็บป่วย เจ้ากรรมนายเวรเค้าก็จะไม่ชอบเวลาที่เราไปรักษา เพราะ จะทำให้คนป่วยรู้สึกดีขึ้น การแก้แค้นเลยขาดช่วง พอเป็นอย่างนี้แล้วบางครั้ง เราก็เป็นคนโดนเล่นงานซะเอง (เปลี่ยนเป้าหมายซะงั้น) การฝึกบ่อยๆ อาจสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้ครับ

    ตอบคำถาม: เนื้อหาเกี่ยวกับจักระต่างๆอ่านได้ที่ไหน

    เนื้อหาเกี่ยวกับ จักระ หาได้จาก เว็บ palungjit นี่แหละครับ เดี๋ยวนี้แพร่หลายมาก

    เนื้อหาโดยย่อ

    จักระ 1 (ดอกบัว 4 กลีบ)มีชื่อว่า มูละธารณะ
    - อยู่ระหว่างอวัยวะเพศ และทวารหนัก
    - เป็นรากฐานของระบบจักระ หรือระบบพลังงาน เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต และเป็นกลไกที่ทำให้สืบทอดพันธุ์เป็นมนุษย์อยู่ในโลกทุกวันนี้
    - ผู้ที่ปฏิบัติได้ถึงระดับสูงสุด จักระนี้จะเปิดเองโดยอัตโนมัติ

    จักระ 2 (ดอกบัว 6 กลีบ) ชื่อว่า สวาธิษฐานะ
    - อยู่ตรงปลายก้นกบ เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังทางเพศ รวมทั้งความเชื่อมั่นในตนเอง
    - ควบคุมระบบการสืบพันธุ์, การขับกากอาหารและของเสียออกจากร่างกาย (ระบบการขับถ่าย) รวมทั้งการตั้งครรภ์และการคลอด
    - ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับอัณฑะ, ท่อปัสสาวะ, อวัยวะสืบพันธุ์, มดลูก, รังไข่, ช่องคลอด, ทวารหนัก, กามโรค

    จักระ 3 (ดอกบัว 8 กลีบ) มีชื่อว่า มณีปุระ
    - อยู่ตรงแนวสะดือตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์กลางของการหยั่งรู้ ณ จุดนี้เป็นศูนย์กลางของร่างกาย
    - ควบคุมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย
    - ใช้รักษากระเพาะอาหาร, ลำไส้ใหญ่, ลำไส้เล็ก, ลำไส้อ่อน, ลำไส้แก่, ไส้ติ่ง, ตับ, ม้าม, ดี, กระเพาะปัสสาวะ, ไต, โรคเบาหวาน, ถุงน้ำดี, ต่อมหมวกไต

    จักระ 4 (ดอกบัว 10 หรือ 12 กลีบ) ชื่อว่า อะนาหตะ
    - อยู่ตรงแนวหัวใจตัดกับกระดูกสันหลัง เป็นศูนย์รวมของความรักที่แท้จริง รวมทั้งการพัฒนาจิตใจ ด้วยความเมตตากรุณา และความเสียสละ
    - ควบคุมระบบหมุนเวียนโลหิต, หัวใจและระดับไขมันในเส้นเลือด
    - ใช้รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจโต, หัวใจเล็ก, หัวใจรั่ว, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเส้นเลือด, หัวใจเต้นอ่อนและเหนื่อยเร็ว

    จักระ 5 (ดอกบัว 16 กลีบ) ชื่อว่า วิศทะ
    - ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ ความสมดุลของสติปัญญา
    - อยู่ตรงบริเวณเส้นแนวไหล่ตัดกับกระดูกสันหลัง
    - ควบคุมระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง
    - ใช้รักษาโรคปอด, หลอดลม, ลำคอ, ไซนัส, ต่อมผิวหนัง, หลอดลมอักเสบ, หอบหืด, ไอ, จมูก, ผื่นคัน, โรคผิวหนัง

    จักระ 6 (ดอกบัว 2 กลีบใหญ่ และกลีบย่อย 100 กลีบ) ชื่อว่า อะชะ
    - อยู่ตรงกลางหน้าผาก เปรียบเสมือนนัยน์ตาของปัญญา ใช้เป็นตาที่ 3 (ญาณวิเศษ) สำหรับการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ห้าม ผู้สำเร็จ ระดับ1, 2,3,4 และ 5 ใช้จักระนี้ในการรักษาโรคอย่างเด็ดขาด
    - ควบคุมสติปัญญา, ความนึกคิด, ความเฉลียวฉลาด, และระบบประสาท
    - ผู้ที่เรียนถึงระดับ 5 จะใช้จักระนี้ทำสมาธิเท่านั้น (ถ้ารักษาโรคด้วยจักระนี้ จักระที่เปิดไว้ทุกจักระจะปิด)

    จักระ 7 (ดอกบัว 1,000 กลีบ) ชื่อว่า สหสราระ
    - อยู่ตรงกลางกระหม่อมหรือจุดตัดของเส้นที่ลากจากปลายจมูก ผ่านกลางหน้าผาก ตัดกับเส้นที่ลากจากหูซ้ายไปหูขวา เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว
    - ควบคุม ระบบประสาททั้งหมดของร่างกาย เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระ เป็นจุดรับพลังจักรวาล และทำการกระจายไปทั่วร่างกาย เป็นจุดที่ สามารถรักษาอาการเจ็บป่วย ที่จักระอื่นไม่สามารถรักษาได้โดยตรง
    - ใช้รักษาเส้นประสาท, สมอง, ตา, หู, อวัยวะในช่องปาก, โรคเจ็บป่วยซึ่งเกี่ยวกับระบบประสาททั่วไป ที่อยู่นอกเครือข่ายของ จักระอื่น เช่น ระบบกล้ามเนื้อ, ไทรอยด์, ต่อมทอนซิล, กล่องเสียง

    จักร ทั้ง 7 นี้ทำหน้าที่ควบคุม จิต จิตใต้สำนึก อารมณ์ ปัญญา เป็นต้น เซลล์พิเศษของสมอง เรียกว่า ไมโครเซลล์ ไมโครเซลล์นี้ จะฉายแสงสีเหลืองเป็นประกายและสั่นไหวอย่างรุนแรง เป็นหลักการสั่นไหว เมื่อผู้ฝึกสมาธิ และจะสั่นไหวแรงขึ้น เมื่อ ฝึกในระดับที่สูงขึ้น จนขยายไปทุกส่วนของอวัยวะในร่างกายในทั่วร่าง และถ้าหากผู้ฝึกสามารถสั่งสมเพิ่มพลังงานให้มากขึ้น ไมโครเซลล์เหล่านี้ จะมีลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า กายทิพย์ และกายทิพย์นี้ เป็นเหมือนเครื่องมืออเนกประสงค์เลยทีเดียว บางที่อาจสร้างความมหัศจรรย์ของมนุษย์ได้ครับ

    credit:

    การเปิดบทสวดมนต์ขณะฝึกก็ดีนะครับ ส่วนตัวแล้วใช้บท [ame="http://www.youtube.com/watch?v=iG_lNuNUVd4"]YouTube - om mani padme hum[/ame]

    ขอบคุณที่ถามครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  4. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    มาแวะเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจครับ
    สู้..สู้
     
  5. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เข้ามาอ่านค่ะ.............
     
  6. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    รบกวนลงรายละเอียดการฝึก จักเป็นพระคุณครับ
     
  7. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    "ขอบคุณ อาจารย์ วสุธรรม ครับ"

    ------------------------------------------------------

    ตอบคำถาม: ละเอียดการฝึก Psi-ball

    การฝึก psi ball นั้น ผมมีความเชื่อว่าทุกคนทำได้ ผู้ที่มีสมาธิระดับต้นๆ นั้นก็สามารถทำได้แล้ว

    วิธีการฝึก

    1) ยกฝ่ามือหันเข้าหากัน หายใจเข้าลึกๆ ออกยาวๆ (สำหรับผุ้ที่ฝึกใหม่นั้นให้หลับตาเสียก่อนจะง่ายขึ้น แต่การฝึกแบบลืมตานั้นดีกว่าเพราะทำให้เรียกพลังได้คล่องกว่า)

    2) ขยับฝ่ามือเข้า-ออก ช้าๆ และ ให้ห่างน้อยที่สุด สมาธิจดจ่อที่กลางฝ่ามือ

    3) ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้สึกว่ามีเหมือนมีพลังอยู่ที่กลางฝ่ามือ (สำหรับผมรู้สึกเหมือนว่ามี ลูกโป่งอยู่ มันหยุ่นๆ อุ่นๆ กว่าจะทำได้นี่ปาเข้าไปเกือบเดือน)

    4) หลังจากนั้นแล้วค่อยๆเลื่อนฝ่ามือ ออก ห่างจากกันเรื่อยๆจนสุดแขน โดยยังรู้สึกว่ามีพลังอยู่กลางฝ่ามือ เป็นการฝึกความมั่นคงของสมาธิ

    5) หลังจากนั้นฝึกถ่ายพลังจากฝ่ามือหนึ่งไปอีกฝ่ามือหนึ่งโดย หงายฝ่ามือทั้งสองข้าง แล้วกำหนดจิต เรียกพลังไปอยู่ที่ มือข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้น กำหนดจิต ให้พลังนั้นย้ายไปอีกมือข้างหนึ่ง โดย

    5.1) กำหนดจิตย้ายพลังจากมือข้างหนึ่งเข้าสู่แขน แล้วเลื่อนผ่านอก จากนั้นก็อออกไปอีกข้าง
    5.2) กำหนดจิตให้พลังนั้นเป็นก้อน ก้อนหนึ่ง ลอยจากมือหนึ่งไปอีกมือข้างหนึ่ง

    การฝึกเบื้องต้นก็มีประการ ฉ นี้แล

    อย่าลืมเปิดบทสวดมนต์ด้วยนะครับ จะฝึกได้เร็วขึ้น

    ขอบคุณที่ถามครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  8. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    The Psi-Ball


    2) The Checking: การตรวจพลังต่างๆ

    ก่อนอื่นต้องบอกกันก่อนว่าการตรวจนี้ คือการใช้ฝ่ามือเข้าใกล้กับวัตถุแล้วค่อยๆออกห่าง โดยดูพลังที่แผ่ออกมาเหมือนตอนที่ฝึกนะครับ (บางคนรู้สึกหยุ่นๆที่มือ บางคนรู้สึกอุ่่นๆ)
    2.1) พลังพระ : เชื่อว่าหลายๆคนคงสงสัยว่า พระเครื่องที่เห็นให้เช่ากันทั้งในวัด และ แผงเช่าพระนั้น ศักสิทธิ์ จริงอย่างที่ป่าวประกาศหรือไม่? จากนี้ไปจะเป็นการตรวจว่าพระเครื่องนั้นมี พุทธคุณ ทางด้านอะไรกันนะคร๊าบบบบบ...

    2.1.1) สายเมตตามหานิยม : เป็นที่นิยมกันมากสำหรับคนทั่วไป เพราะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "เมตตา" ไปไหนก็ให้มีแต่คนเมตตา ตัวอย่าง พระสมเด็จ(ชอบมากเวลามองเหมือนถูกใจอย่างไรไม่รู้ มองแล้วสบายใจ อีกทั้ง design นั้นออกจะเป็น modern นิดๆด้วยถ้าสังเกตุดีๆ เพราะ พิมพ์นั้นทำเป็น สัญลักษณ์ แบบ vector...มีคนเข้าใจที่ผมพูดมั๊ยครับ?)

    เวลาที่ตรวจดูพลังนั้น จะสังเกตุ ได้ว่า พลังเป็นแบบ

    [องค์พระ] #####################

    คือสม่ำเสมอมาเรื่อยตั้งแต่องค์พระมาจนสุดระยะเขตพลัง (สัญลักษณ์ # คือพลังที่ตรวจได้นะครับ) พลังที่สัมผัสที่ฝ่ามือนั้นจะรู้สึกละมุนละไมกว่าสายอื่น ยิ่งเป็น พระธาตุ หรือ พระบรมสารีริกธาตุด้วยแล้วนั้น จะรู้สึกถึงความลึกของพลัง (ตอนตรวจพลังนั้น ขนลุกเลย)

    2.1.2) สายแคล้วคลาด : เป็นอีกสายที่คนนิยมโดยเฉพาะคนที่นับถือหลวงปู่ทวด (ผมก็นับถือท่าน) เวลาที่ตรวจดูพลังนั้น จะสังเกตุ ได้ว่า พลังเป็นแบบ

    [องค์พระ] ##### ########### ######

    คือเมื่อตรวจแล้วจะรู้สึกว่าพลังนั้นหายไปเป็นช่วง ส่วนมากแล้วจะหาย สอง ช่วง คือ ระยะใกล้ และ ระยะไกล แสดงขอบเขตว่าป้องกันอันตรายตั้งแต่ระยะใด ถ้า ไกลๆเลย ก็จะเป็นพวกกระสุน

    2.1.3) สายคงกระพัน : เป็นสายที่เหมาะสำหรับทหาร ตำรวจ เวลาที่ตรวจดูพลังนั้น จะสังเกตุ ได้ว่า พลังเป็นแบบ

    [องค์พระ] ## ### ## ## ## ## ## ## ## ## ##

    คือเมื่อตรวจแล้วจะรู้สึกว่าพลังนั้นหายไปถี่กว่า สายแคล้วคลาดมาก กันหลายระยะกันเลยดีเดียว เป็นอย่างนี้ไปตลอดจนสุดระยะเขตพลัง

    2.1.3) สายเรียกทรัพย์ : สายนี้เหมาะกับผู้ที่ค้าขายทำมาหากิน เป็นอย่างมาก สายนี้จะพิเศษกว่าสายอื่นคือ ต้องตรวจตอนวางทับเงินอยู่ เพราะ จะคล้ายกับ สายเมตตามหานิยมมาก เมื่อวางทับเงินแล้วจะมีพลังมากขึ้น หรือ ถ้าไม่วางทับเงินบางทีจะรู้สึกเหมือนว่าถูกดูดอยู่ ต้องตรวจทั้งสองแบบ เพื่อความแน่ใจ

    2.1.4) สายปัดเป่า : ชื่อนั้นบอกอยู่แล้วว่า ปัดเป่า (ไม่รู้ว่าคนอื่นเรียกอย่างงี้หรือเปล่า) ให้สิ่งไม่ดีออกไป แต่ไม่เกี่ยวกับ เจ้ากรรมนายเวร นะจ๊ะ เวลาที่ตรวจดูพลังนั้น จะสังเกตุได้ว่าพลังนั้นปัดมือออก หรือ ดันมืออก บางครั้งทั้งดันทั้งปัดก็มี ตัวอย่างที่ผมรู้จักและเช่ามาแล้วคือ พระไพรีพินาศ

    2.1.5) สายพิเศษ : สายพิเศษนี้ผมหมายถึงเวลาทำน้ำมนต์ เมื่อยังไม่ได้แช่น้ำนั้นจะมีพลังไม่เยอะ แต่เมื่อนำมาแช่น้ำแล้วสวดมนต์ หรือ ถ่ายพลังชี่ (ทำ psi-ball ลงไปนั่นแหละครับ) น้ำจะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ไม่ใช่ว่าพระองค์อื่นทำไม่ได้นะครับ แต่สายนี้ทำน้ำมนต์ได้ดีเป็นเลิศ คือ นำมาทำน้ำมนต์ดีกว่านั่นเอง ตัวอย่าง พระกริ่งต่างๆ


    2.2) ฮวงจุ้ย : ฮวงจุ้ยแปลตามตัวว่า "ลมและน้ำ" สูตรต่างๆที่ใช้กันนั้นคือการดูทิศทางของ พลัง ที่ไหลเวียนในโลกนี้ แต่ ถ้าเราสามารถดูพลังได้เลย แล้วเราจะใช้สูตรทำไมล่ะครับ

    เนื่องจากพ่อของผมศึกษา ฮวงจุ้ยมานานแล้ว ผมจึงลองจัดฮวงจุ้ยด้วยการดูพลังก่อนแล้วให้ คุณพ่อตรวจว่าตรงตามตำราไหม หลายต่อหลายครั้ง จนแน่ใจว่าใช้พิ้นฐานจาก psi-ball ดูได้จริง

    การที่จะดูอย่างนี้นั้นไม่ใช่ว่าไม่มีความรู้ด้านฮวงจุ้ยก็ดูได้นะครับ คือ ต้องพอมีบ้าง หรือ ถ้าจะไม่ใช้ความรู้ทางด้านนี้เลย เราสามารถทำได้โดย หยิบ ปากกา และกระดาษมาแล้วเขียนแผนผังบ้าน พร้อมกับเขียน คำำว่า "ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง" แล้วใช้วิธีถามว่าแต่ละจุดเป็นธาตุอะไร แล้วต้องใช้ธาตุอะไร เสริม จากนั้นลองเอาของที่จะเสริมนั้นไปใกล้ๆจุดที่จะกระตุ้นแล้วดูว่าพลังเพิ่มหรือลด แต่ถ้าไม่มีความรู้เรื่องฮวงจุ้ยเลยอย่าเสี่ยงดีกว่าครับ (ผมเคยพลาดไปเปิด "ประตูผี"...งานเข้าเลยพี่น้องครับ! ต้องเปลี่ยนฮวงจุ้ยแล้วตามเก็บ ผีแต่ละตัวที่เข้ามาในบ้าน







     
  9. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    The Psi-Ball

    The Psi-Ball


    3) Communicate with Dead People

    ด้วยพื้นฐานของการฝึก psi-ball พนวกกับการฝึก พลังจักรวาล
    ที่ฝึกมาจนค่อนข้างคล่องแล้ว เราก็สามารถติดต่อกับ วิญญาณต่างๆได้
    เนื่องจากวิธีนี้เราจะใช้มือในการติดต่อ
    เราจึงไม่สามารถมองเห็นได้ว่าวิญญาณรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
    หากใครเคยลองใช้ "เพนดูลัม" มาคงไม่ยากนักที่จะลองฝึกวิธีนี้ด้วยนะครับ
    และหากใครเคยเล่นผีถ้วยแก้วมาคงคุ้นเคยเพราะคล้ายๆกัน
    วิธีการ

    1) เขียน ตัวอักษร ในกระดาษเป็นไทย หรือ อังกฤษ ก็ได้
    โดยเขียนให้ห่างพอเพื่อความสะดวกในการใช้พลัง
    (ในการติดต่อทางจิต ถาษา ไม่ใช่อุปสรรคครับ)

    2) นำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับคนที่อยากติดต่อมาถือไว้
    (รูปถ่าย จะดีที่สุด เพราะ รูปถ่ายเก็บพลังของคนๆนั้นไว้เป็นอย่างดี)
    หากไม่มี การเขียนชื่อ จะดีที่สุด

    3) เดินพลังไปที่จักระ 7 และ 6 ในการติดต่อ

    4) ตั้งจิตถาม วิญญาณ นั้น แล้วใช้มือดูพลังว่า ตัวอักษรใดมีพลังขึ้นมา

    เหมือนผีถ้วยแก้วมั๊ยครับ ?

    ~ข้อควรระวัง ต้องอ่าน~

    ในการติดต่อนี้ ผู้ที่เป็นคนติดต่อสามารถโดนหลอกได้โดยง่าย
    วิญญาณนั้นจะมาสวมรอยและหลอกให้ทำสิ่งต่างๆ
    การจับผิด วิญญาณที่ติดต่อด้วยในการใช้วิธีนี้คือ
    ดูพลังว่าส่ายไหมตอนถาม และ อย่าตั้งคำถามปลายปิด
    (คำถามปลายปิด : ถามว่าใช่หรือไม่เท่านั้น)
    การตั้งคำถามปลายปิดนั้นจะโดนหลอกง่ายที่สุด

    คำตอบต่างๆนั้นควรใช้ วิจารณญาณ ด้วยไม่งั้นคุนจะโดนหลอก
    (เหมือนที่ผมเคยโดนหลอกมาแล้ว)

    การป้องกันการก่อกวน

    การนำเกลือ หรือ หินธรรมชาติมาไว้ข้างๆนั้นก็พอจะกันได้
    (หินธรรมชาตินั้นควรนำไปล้างและตากแดดเป็นเวลานานๆ
    ก่อนนำมาใช้ เพื่อ ป้องกันไม่ให้มีพลัง หยิน)

    วิธีนี้ติดต่อเทพเจ้าก็ได้เหมือนกัน
    และอีกครั้งที่ มาร อยากมีส่วนร่วม
    โดยมาสวมรอยอีกเหมือนเคยครับ

    ฉะนั้นการใช้วิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งสำหรับคนที่ไม่มี ตาที่สาม
    แต่ก็ถูกหลอกง่ายเหมือนกันครับ

    บอกวิธีี้ไว้ให้เป็นทางเลือกหนึ่ง





     
  10. noppo

    noppo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    อ่านดูแล้ว น่าสนใจดี จะลองฝึกดูครับ
     
  11. minkbbk1993

    minkbbk1993 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    The Psi-Ball

    the psi-ball

    4) Knowing Mood of Other People

    ในหัวข้อนี้จะเป็นการดูอารมณ์คนโดยใช้พื้นฐานการฝึก psi-ball

    โดยใช้รูปถ่าย หรือ เขียนชื่อของคนที่คุณอยากดูลงไป

    จากนั้นดูพลังที่สะท้อนมาที่ฝ่ามือ

    คุณพอที่จะดูแนวโน้มได้ว่าบุคคลเหล่านั้นมีอารมณ์เป็นอย่างไร

    ตัวอย่าง

    อารมณ์ขึ้นๆลงๆ : พลังจากแกว่งไปทางซ้ายที ขวาที มีลดและเพิ่ม

    อารมณ์เย็น : พลังที่สะท้อนมาจะหนืดๆหยุ่นนุ่มๆ

    อารมณ์ร้อน : พลังจะขึ้นๆลงๆไม่สม่ำเสมอ

    ฯลฯ
    .
    .
    .
    ตัวอย่างมีไม่มากเนื่องจากผมยังไม่ค่อยได้ใช้ดูเรื่องนี้บ่อยนัก

    ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแล้วจะมาบอกทีหลังครับ

    ปล. หากคนไหนทำอะไรได้ก็บอกกันหน่อยนะครับ
    จะไ้ด้ช่วยเสริมประสบการณ์ด้วย
    แบ่งๆกันรู้ แบ่งๆกันฝึก
    ทุกคนจะได้เก่งเหมือนๆกัน
    ที่เขียนมาตั้งเยอะตั้งแยะนี่ก็มาจากประสบการณ์
    ที่ลองทดสอบหลายๆครั้งแน่ใจว่าใช่ครับ



     

แชร์หน้านี้

Loading...