นางวิสาขาประกาศขายเครื่องมหาดาปสาธน์เพื่อบำรุงศาสนา...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 19 กรกฎาคม 2008.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]


    เป็นอันว่า ถ้าจิตมีราคะก็ตัดด้วย อสุภกรรมฐาน อสุภ แปลว่า ของไม่สวยงาม ดูหาความจริงว่า ถ้าเราไม่ชะระล้างมันนี่มันจะเป็นอย่างไร ในที่สุดมันจะทรุดโทรม เศร้าหมอง นี่ถึงเนื้อแท้ของมันจะเป็นอย่างไร ในที่สุดมันก็ทรุดโทรม เศร้าหมอง นี่ถึงเนื้อแท้ของมัน นี่เมื่อพิจารณาร่างกายด้วย กายคตานุสติ กรรมฐาน คิดว่ากายนี้ประกอบไปด้วย ธาตุ 4 คือ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ แบ่งออกมาเป็นอาการ 32 มี ผมขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เป็นต้น ทุกส่วนที่มีร่างกายมันสะอาดตรงไหน สกปรกตรงไหน ค่อยๆ คิด<O:p</O:p
    และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเราป่วยก็ต้องเอาจิตเข้าไปตั้งว่าขันธ์ 5 คือ ร่างกายทั้งร่างกายของเรา นี่มันดีหรือมันไม่ดี ตั้งแต่เกิดมาแล้วไอ้เจ้ากายมันสร้างใจของเราให้เป็นทุกข์ เพราะอะไร เพราะว่ามันดี ตั้งแต่เกิดมาแล้ว ไอ้เจ้ากายมันสร้างใจให้เกิดทุกข์ เป็นทุกข์เพราะไม่มีอาหารจะกิน ต้องเหน็ดเหนื่อยทุกอย่าง เรื่องอาหาร เป็นทุกข์เพราะไม่มีของจะใช้ เป็นทุกข์เกรงจะไม่มีบ้านจะอยู่ เป็นทุกข์เพราะเกรงว่ามันจะป่วยไข้ไม่สบายเราก็หาทรัพย์สินทั้งหลายมาประคองกาย นี่แสดงว่า ร่างกายไม่ดี มันเป็นทุกข์ ทำให้ใจต้องดิ้นรน<O:p</O:p
    ก็เป็นอันว่าคิดว่าใจของเรานี้ที่องค์สมเด็จพระทศพลกล่าวว่า มันไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา นี่เป็นของจริง ในเมื่อร่างกายมันไม่ดีอย่างนี้แล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิงพยายามตัดกำลังใจเสีย ว่าถ้าจิตจะพึงมีราคะ มีความกำหนัดยินดีในร่างกาย จงวางภาระมันเสีย ค่อยๆ วาง อย่าไปวางแรงเดี๋ยวมันจะแตก ร่างกายถ้าไม่มั่นคง จิตใจถ้าไม่มั่นคง วางแรงมันแตกค่อยๆ วางตามกำลังใจที่มันจะพึงวางได้ การวางได้น้อยอย่างพระโสดาบัน พระโสดาบันวางได้แบบเบาๆ ยังมีความรักในระหว่างเพศ แต่มีอยู่ในขอบเขตของศีล คือ ไม่ทำกาเมสุมิจฉาจาร พระโสดาบันวางความโกรธได้ โดยที่ยังมีความโกรธได้ โดยมีความโกรธขังใจ แต่ว่าไม่ทำร้ายใครด้วยอำนาจ เกรงว่าศีลจะขาด พระโสดาบันวางความหลงได้ คือ พระโสดาบันยังต้องการความสวยสดงดงาม พระโสดาบันก็ไม่ลืมความตาย<O:p</O:p
    อย่างเรื่องนางวิสาขามีเครื่อง มหาดาปสาธน์ วันหนึ่งไปสดับพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ลืมเครื่อง มหาลดาปสาน์ มีราคา 16 โกฏิไว้ เมื่อหญิงคนใช้วิ่งไปดู ถ้าหากเธอบอกว่า ถ้า พระอานนท์ เก็บไปแล้ว ก็ไม่ต้องเอามา ก็พอดี พระอานนท์ เก็บไว้ก่อน พอรุ่งขึ้นเช้า นางก็ขอประกาศถวายองค์สมเด็จสมเด็จพระชินวร คือ ประกาศถวายแล้วก็ขายเจ้าของบำรุง เอาเงินบำรุงสงฆ์ เงินมันตั้ง 16 โกฏิ ไม่มีชาวบ้านเขาซื้อ นางวิสาขาก็ซื้อเอง ซื้อเองแล้วเงิน 16 โกฏิ บำรุงพระพุทธศาสนา<O:p</O:p
    เป็นอันว่า พระโสดาบันยังมีความต้องการสวย แต่ก็ไม่เมาในความสวย มีจิตมุ่งมั่นในการให้ทานเป็นสำคัญ ฉะนั้นตระกูลที่เป็นอริยเจ้า คือตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป จะเห็นว่า ตระกูลนั้น หรือ บุคคลนั้นจะมีจิตมุ่งมั่นไปในทานกองการกุศล ถ้าตระกูลใดเป็นพระเสขบุคคล คือ เป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ห้ามพระสงฆ์ขอของเด็ดขาด ถ้าไปขอท่านมีความสงสารให้ ดีไม่ดีท่านขอหยิบขอยืมกู้ยืมเขามาให้ นี่เป็นการทำลายศรัทธาของบรรดาท่านพุทธบริษัท<O:p</O:p
    ฉะนั้นสำหรับวันนี้ ก็ขอเตือนบรรดาท่านพุทธบริษัทในด้าน จิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน ว่าทุกๆ วันจิตคิดไว้เสมอว่า เวลานี้เรามีราคะไหม ถ้าจิตมีราคะก็จงรู้ว่าจิตของเรามีราคะ แล้วเมื่อรู้แล้ว ก็อย่าคิดว่าราคะนี้เป็นปัจจัยทำลายความดีของอารมณ์ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราว่า มันจะทำความวุ่นวายให้เกิดขึ้นแต่ปกติเราเกิดมาราคะมันก็มีอยู่แล้ว ในเมื่อราคะมีอยู่แล้วเราก็พยามยามแก้ไขค่อยๆ แก้ ค่อยๆ ไข ค่อยๆ วาง จะไปนึกว่าวางทีเดียวมันให้หมด ใช้วิธีมีอารมณ์รักอยู่หนึ่ง คือ มีจิตกำหนดไว้เสมอ เมื่อเราต้องมีคู่ผัวเมียอยู่ด้วยกันในระหว่างเพศ เมื่ออยู่แล้วก็แล้วไป มีแล้วก็แล้วกันไป ภาระใดเป็นภาระของสามีภรรยาที่ต้องทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วน แต่จิตนี้ก็คิดไว้เสมอว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นปัจจัยของความทุกข์ มันไม่เป็นปัจจัยของความสุขมันจะเกิดขึ้นมาเพราะเราไม่มีราคะจิต ปราศจากความหนัก<O:p</O:p
    ในเมื่อจิตมันมีราคะกำหนดจับอยู่อย่างนี้มันความหนัก จิตใจเราจะปราศจากความดี สิ่งที่เราต้องการก็คือ พระนิพพาน ตามที่องค์สมเด็จพระชินศรีทรงแนะนำ นี่เราทำอย่างไร มีคู่ครองอยู่ ๆ จะมาแยกทางกันมันก็เกิด มันไม่ใช่ของดี ทางที่ดีก็พึงมีอยู่ว่า คิดไว้เสมอว่า สภาวะมีคู่ครองมันเป็นไปแล้วด้วยอำนาจกิเลส ก็เป็นไปแต่ว่าให้มันเป็นไปเฉพาะชาตินี้ชาติสุดท้าย กำลังใจของเรามีความต้องการอย่างเดียวคือ พระนิพพาน เราจะพยายามหาทางกำจัดราคะ กิเลสที่มีอยู่ในจิตให้สลายตัวไปให้ได้ ทีนี้เราทำอย่างไร ก็พยายามจับหาความจริงให้มันพบ หาความจริง ร่างกายของผู้ชาย ผู้หญิง สัตว์ มันสกปรกหรือสะอาด หาความจริงให้มันพบ หาความจริงร่างกายของคนอื่นมันหายาก หาจากเราเองมันหาง่าย ที่พระพุทธเจ้าให้ดูภายในกาย คำว่า ภายในกายก็หมายถึงว่า กายของเรานี่มันจะสะอาดหรือมันสกปรก กายประกอบด้วยอะไร <O:p</O:p
    กายประกอบไปด้วย ธาตุ 4 คือ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ



    จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติของหลวงพ่อฤาษีลิงดำหน้า191-193คัดมาบางส่วน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kongkwan.jpg
      kongkwan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.5 KB
      เปิดดู:
      3,590
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2008
  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
     
  3. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    <!-- / message -->​
     
  4. parapuda

    parapuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +250
    [​IMG]

    ขออนุโมทนา ในสัมมาปฏิบัติของหลวงพ่อ และผู้เผยเเผ่บทความนี้ด้วยครับ
    --------------------------------------------------------
    निब्बान นิพพานนะปัจจะโยโหตุ-ขอปัจจัยทั้งปวงนำพาสรรพชีวิตทั้งหลายให้นิพพาน
     
  5. evatranse

    evatranse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +571
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2013
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ
    พระคาถาเงินล้านของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ตั้ง นะโม ๓ จบ
    สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา



    (บูชา 3,7,9 จบ ตัวพระคาถาต้องว่าทั้งหมด ​


    ท่านวิสาขาเป็นปูชนียบุคคลอีกท่านหนึ่งที่ผมเคารพอย่างยิ่งในปฏิปทาลีลาปฏิบัติ ในการแนะนำหมู่คณะญาติมิตรของผมก็ได้ให้เขาเหล่านั้นพยายามพากันทำตามแบบอย่างอันประเสร็ฐนี้ โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 เมษายน 2013
  7. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  8. Nat Simon

    Nat Simon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +172
    Arnumotan Satu Ka. Thank you for this information.
     

แชร์หน้านี้

Loading...