พระอาจารย์สงบ เป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว และหลวงปู่เจี๊ยะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มโน, 16 มิถุนายน 2009.

  1. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    พระอาจารย์สงบ มนัสสันโต
    วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่)

    พระอาจารย์สงบ มนัสสันโต ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว และหลวงปู่เจี๊ยะ

    แจกซีดีธรรมะพระอาจารย์สงบ มนัสสันโต


    แผนที่การเดินทางไปวัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่)
    http://watpa-photharam.blogspot.com/2009/04/blog-post.html

    map.pdf

    - ขับรถไปทางพุทธมณฑล - ไปทางนครปฐม - ไปตามป้ายราชบุรี, กาญจนบุรี - เจอแยกบ้านโป่ง ไปตามป้ายแยกบ้านโป่ง - ไปตามป้ายกาญจนบุรี - ไปตามป้ายเขาช่องพราน - เจอวัดเขาช่องพราน - เจอแยกเลี้ยวขวาไปทางวัดถ้ำน้ำ(หนองกวาง) - ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 24.3 กม เจอกำแพงวัด สังเกตุประตูเหล็กด้านขวามือ (ไม่มีป้ายชื่อวัด ต้องสังเกตดีๆครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • map450.jpg
      map450.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.9 KB
      เปิดดู:
      1,188
    • map2450.jpg
      map2450.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.2 KB
      เปิดดู:
      834
  2. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    เชิญร่วมสร้างตึกสงฆ์อาพาธกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    - ข้อมูลทั้งหมดนำมาจาก
    www.luangta.com
    - รูปภาพทั้งหมดนำมาจาก
    www.luangta.com

    ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สนทนาธรรมกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จสนทนาธรรมกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่สวนแสงธรรม ถนนพุทธมณฑลสาย 3 และเสด็จถวายทองคำและเงินสดช่วยชาติกับหลวงตาในวันที่ 23 เมษายน 2541 ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • luangta001.jpg
      luangta001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      355
    • luangta004.jpg
      luangta004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      440
  4. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    หลวงปู่เจี๊ยะ...พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง

    หลวงปู่เจี๊ยะ...พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง
    จาก หนังสือ ประวัติ พระครูสุทธิธรรมรังษี หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง
    วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดประทุมธานี
    ที่ระลึกเนื่องในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    จำพรรษาที่วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

    อาศัยร่มใบบุญท่านพ่อลี
    <TABLE id=table16 width=109 align=right border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>
    ท่านพ่อลี ธมฺมธโร

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    เมื่อพระอาจารย์เจี๊ยะออกจากวัดญาณสังวรารามมาแล้ว จึงออกเดินทางไปพักอยู่ที่วัดอโศการาม พระอาจารย์มหาบัวจึงได้นิมนต์ให้ท่านอบรมธรรมะอยู่ที่วัดอโศฯ นี้ก่อน อย่าเพิ่งด่วนไปที่ไหน ท่านก็ทำตามคำที่พระอาจารย์มหาบัวสั่งด้วยความเคารพ ท่านพระอาจารย์เจี๊ยะเล่าว่า...
    ท่านพ่อลีท่านก็ได้ล่วงไป ๑๘ ปีแล้ว ทิ้งไว้แต่มรดกให้พระเณรดูแลรักษากันเอง รอยมือที่ครูบาอาจารย์สร้างเป็นความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ เรื่องจิต เรื่องธรรม ตลอดจนความรู้ภายใน ยากที่จะหาใครเทียมเท่าได้ ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนโดยแท้จริง ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ เรามาพักสบายทั้งกายจิต งานอะไรที่ท่านมอบหมาย ทำสำเร็จหมดจดไม่เคยปริปากบ่น ทำถวายท่านด้วยความเทิดทูน กุฏิน้ำท่านสั่งทำให้เสร็จในงานสมโภช ๒๕๐๐ ปี เราก็ได้ทำถวายสุดกำลังความสามารถ การกลับมาจำพรรษาที่วัดอโศการามครั้งนี้ นับว่าเป็นการมาอาศัยร่มใบบุญครูบาอาจารย์ทำไว้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าจะเปรียบแล้ว “เราก็เหมือนขี้ไก่ ท่านพ่อนั้นเป็นประดุจทองคำ”
    มาอยู่ที่วัดอโศการามนี้ ก็ได้อบรมสั่งสอนพระเณรเต็มความสามารถ แต่คงเป็นเพราะบุญวาสนาอาภัพ การอบรมสั่งสอนของเราจึงไม่เป็นที่ถูกจริตนิสัยของพระเณรนัก คงไม่เคยร่วมทำบุญ ร่วมเป็นศิษย์อาจารย์กันมาก่อน เราไปสอนเขาอย่างไร เขาก็ไม่เชื่อ ท้ายสุดกลับกลายเป็นธรรมะเหลวไหล ทั้งๆ ที่ทำแทบเป็นแทบตาย กว่าจะได้ธรรมประเภทนั้นมาครอง ในที่สุดก็ไม่พ้นคำที่ว่า “อตฺตาหิ อตฺตาโน นาโถ” ตัวใครตัวมัน ตนใครตนมัน รักษากันเอาเอง รับผิดชอบกันเอาเอง
    เรื่องศิษย์เรื่องอาจารย์ อันเป็นปุพเพกตปุญญตานี้ ในพระไตรปิฎก ท่านมีเล่าขานไว้เหมือนกัน
     
  6. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    ฐานิยตฺเถรวตฺถุ ๕ พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)

    ฐานิยตฺเถรวตฺถุ
    เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ
    พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
    ณ วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
    ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓
    [​IMG]
    หลักสมถวิปัสสนาของหลวงปู่เสาร์

    v พิจารณากายแยกออกเป็นฐาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ v
    หลักการสอน ท่านก็สอนในหลักของสมถวิปัสสนา ดังที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันมาแล้วนั้น แต่ท่านจะเน้นหนักในการสอนให้เจริญพุทธคุณเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเจริญพุทธคุณจนคล่องตัว จนชำนิชำนาญแล้ว ก็สอนให้พิจารณากายคตาสติ เมื่อสอนให้พิจารณากายคตาสติ พิจารณาอสุภกรรมฐาน จนคล่องตัวจนชำนิชำนาญแล้ว ก็สอนให้พิจารณาธาตุกรรมฐาน ให้พิจารณากาย แยกออกเป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วก็พยายามพิจารณาว่าในร่างกายของเรานี้ไม่มีอะไร มีแต่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ประชุมกันอยู่เท่านั้น หาสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ไม่มี ในเมื่อฝึกฝนอบรมให้พิจารณาจนคล่องตัว จิตก็จะมองเห็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน คือเห็นว่าร่างกายนี้ ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน เป็นอนัตตาทั้งนั้น จะว่ามีตัวมีตนในเมื่อแยกออกไปแล้ว มันก็มีแต่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขาไม่มี แต่อาศัยความประชุมพร้อมของธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิวิญญาณ มายึดครองอยู่ในร่างอันนี้ เราจึงสมมติบัญญัติว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา อันนี้เป็นแนวการสอนของพระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์สิงห์ การพิจารณาเพียงแค่ว่าพิจารณากายคตาสติก็ดี พิจารณาธาตุกรรมฐานก็ดี ตามหลักวิชาการท่านว่าเป็นอารมณ์ของสมถกรรมฐาน แต่ท่านก็ย้ำให้พิจารณาอยู่ในกายคตาสติกรรมฐานกับธาตุกรรมฐานนี้เป็นส่วนใหญ่ ที่ท่านย้ำ ๆ ให้พิจารณาอย่างนั้น ก็เพราะว่าทำให้ภูมิจิตภูมิใจของนักปฏิบัติก้าวขึ้นสู่ภูมิแห่งวิปัสสนาได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณากายคตาสติ แยก ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น ออกเป็นส่วน ๆ เราจะมองเห็นว่า ในกายของเรานี้ก็ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน มันเป็นแต่เพียง ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูกเท่านั้น ถ้าว่ากายนี้เป็นตัวเป็นตน ทำไมจึงจะเรียกว่าผม ทำไมจึงจะเรียกว่าขน ทำไมจึงจะเรียกว่าเล็บ ว่าฟัน ว่าเนื้อ ว่าเอ็น ว่ากระดูก ในเมื่อแยกออกไปเรียกอย่างนั้นแล้ว มันก็ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
    นอกจากนั้น ก็จะมองเห็นอสุภกรรมฐาน เห็นว่าร่างกายนี้เต็มไปด้วยของปฏิกูล น่าเกลียด โสโครก น่าเบื่อหน่าย ไม่น่ายึดมั่นถือมั่นว่าเป็นอัตตาตัวตน แล้วพิจารณาบ่อย ๆ พิจารณาเนือง ๆ จนกระทั่งจิตเกิดความสงบ สงบแล้วจิตจะปฏิบัติตัวไปสู่การพิจารณาโดยอัตโนมัติ ผู้ภาวนาก็เริ่มจะรู้แจ้งเห็นจริงในความเป็นจริงของร่างกายอันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ พิจารณากายแยกออกเป็นส่วน ๆ ส่วนนี้เป็นดิน ส่วนนี้เป็นน้ำ ส่วนนี้เป็นลม ส่วนนี้เป็นไฟ เราก็จะมองเห็นว่าร่างกายนี้สักแต่ว่าเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟ สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขาไม่มี ก็ทำให้จิตของเรามองเห็นอนัตตาได้เร็วขึ้น
    เพราะฉะนั้น การเจริญกายคตาสติก็ดี การเจริญธาตุกรรมฐานก็ดี จึงเป็นแนวทางให้จิตดำเนินก้าวขึ้นสู่ภูมิแห่งวิปัสสนาได้ และอีกอันหนึ่ง อานาปานสติ ท่านก็ยึดเป็นหลักการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมฐานอานาปานสติ การกำหนดพิจารณากำหนดลมหายใจนั้น จะไปแทรกอยู่ทุกกรรมฐาน จะบริกรรมภาวนาก็ดี จะพิจารณาก็ดี ในเมื่อจิตสงบลงไป ปล่อยวางอารมณ์ที่พิจารณาแล้ว ส่วนใหญ่จิตจะไปรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ในเมื่อจิตตามรู้ลมหายใจเข้าออก กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกอยู่เป็นปกติ จิตเอาลมหายใจเป็นสิ่งรู้ สติเอาลมหายใจเป็นสิ่งระลึก ลมหายใจเข้าออกเป็นไปตามปกติของร่างกาย เมื่อสติไปจับอยู่ที่ลมหายใจ ลมหายใจก็เป็นฐานที่ตั้งของสติ ลมหายใจเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยกาย สติไปกำหนดรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออก จดจ่ออยู่ที่ตรงนั้น วิตกถึงลมหายใจ มีสติรู้พร้อมอยู่ในขณะนั้น จิตก็มีวิตกวิจารอยู่กับลมหายใจ เมื่อจิตสงบลงไป ลมหายใจก็ค่อยละเอียด ๆ ลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดลมหายใจก็หายขาดไป เมื่อลมหายใจหายขาดไปจากความรู้สึก ร่างกายที่ปรากฏว่ามีอยู่ก็พลอยหายไปด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าลมหายใจยังไม่หายขาดไป กายก็ยังปรากฏอยู่ เมื่อจิตตามลมหายใจเข้าไปข้างใน จิตจะไปสงบนิ่งอยู่ในท่ามกลางของกาย แล้วก็แผ่รัศมีออกมารู้ทั่วทั้งกาย จิตลามารถที่จะมองเห็นอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายได้หมดทั้งตัว เพราะลมย่อมวิ่งเข้าไปที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ลมวิ่งไปถึงไหนจิตก็รู้ไปถึงนั่น ตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่เท้าจรดหัว ตั้งแต่ แขนซ้าย แขนขวา ขาขวา ขาซ้าย เมื่อจิตตามลมหายใจเข้าไปแล้ว จิตจะรู้ทั่วกายหมด ในขณะใดกายยังปรากฏอยู่ จิตสงบอยู่ สงบนิ่ง รู้กว้างอยู่ในกาย วิตก วิจาร คือจิตรู้อยู่ภายในกาย สติก็รู้พร้อมอยู่ในกาย ในอันดับนั้นปีติและความสุขย่อมบังเกิดขึ้น เมื่อปีติและความสุขบังเกิดขึ้น จิตก็เป็นหนึ่ง นิวรณ์ ๕ กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา ก็หายไป จิตกลายเป็นสมถะ มีพลังพอที่จะปราบนิวรณ์ ๕ ให้สงบระงับไป ผู้ภาวนาก็จะมองเห็นผลประโยชน์ในการเจริญสมถกรรมฐาน
     
  7. wuttichai0329

    wuttichai0329 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +742
    อ่านจากประวัติหลวงปู่เจี๊ยะ แล้วท่านเป็นคนมีสัจจะ และความอดทน มาก ครับ น่าเอาเป็นแบบอย่างมากครับ สังเกตุเวลาท่านทำอะไรท่านเอาจริงมาก ๆ
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    กราบครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
    เป็นที่พึ่ง เป็นที่อาศัย ให้เดินตามรอยท่านทั้งหลายครับ

    อนุโมทนา สาธุครับ


    ;aa24
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    พระอาจารย์สงบท่านสอนว่า

    ให้หาโจทย์กับจำเลยในใจให้เจอ

    อะไรคือโจทย์ อะไรคือจำเลย...นั่นแหละ เข้าใจเมื่อไหร่ ไม่เคยมีใครเถียงกันสักที ไม่ว่าสายไหน ๆ ก็สามารถเห็นตรงนี้ได้เหมือนกันหมด ยกเว้นแต่ว่า ยังไม่เห็น อันนั้นก็ไม่แน่ อาจจะเถียงกันหนักกว่าเก่าก็ได้
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    คุณ tboon สายเทวทัต เห็นเหมือนกับพระพุทธองค์ได้ไหม

    ดังนั้น เรื่องเถียง เรื่องโต้แย้ง ในความเห็นที่ถูกต้อง นี้สำคัญ
     
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    โมทนาสาธุบุญกับเจ้าของกระทู้ครับ......

    ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านทำจริงได้จริง....
     
  12. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ครับ แต่สิ่งหนึ่งที่มันต้องไม่ขาดหายไปจากการคุยการถกแบบนี้ คือ อุเบกขา

    พรหมวิหาร ประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา มันไล่ลำดับกันมาอย่างนี้

    เมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์ ป่วยการพูด เราต้องหยุด การดันทุรังย่อมไม่มีประโยชนฺ์อะไร

    ตัวดันทุรังนั่นแหละคือตัวอยาก เราต้องดับตัวนั้นด้วย ต้องไม่ให้จิตเขาเกิดเลยแม้แต่นิดเดียว

    แต่ตรงนี้มันก็ละเอียดมาก มันก็ต้องค่อย ๆ อ่านตัวเองให้ออก ค่อย ๆ ชำระสะสางกันไป สติต้องต่อเนื่องจริง ๆ กำลังจิตก็สำคัญมากด้วย ทิ้งไม่ได้เหมือนกัน
     
  13. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    [SIZE=+2][/SIZE][SIZE=+2]อ[/SIZE]ลชฺชิตาเย ลชฺชนฺติ
    ลชฺชิตาเย น ลชฺชเร
    มิจฺฉาทิฏฺฐิสมาทานา
    สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ . . . ฯ ๓๑๖ ฯ

    ละอายในสิ่งที่ไม่ควรละอาย
    ไม่ละอายในสิ่งที่ควรละอาย
    ผู้ที่มีความเห็นผิดอย่างนี้
    ย่อมไปสู่ทุคติ
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    หน้าที่สำคัญคือ ให้ดูที่จิตของตนเองเป็นหลัก จิตเกิดบางคนอาจจะไม่รู้ตัวเลยก็ได้
    ผู้ปรารถนาพิทักษ์โลก พิทักษ์พระศาสนา บางทีทุกข์เกิดกับตนก็ยังไม่รู้ ต้องอาศัยมีผู้ชี้บอกให้
    ไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้นั่นแหละ อันตราย จึงต้องมีครูบาอาจารย์คอยชี้แนะเช่นนี้เอง
     
  15. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    [SIZE=+2]น[/SIZE] เตน โหติ ธมฺมฏฺโฐ
    เยนตฺถํ สหสา นเย
    โย จ อตฺถํ อนตฺถญฺจ
    อุโภ นิจฺเฉยฺย ปณฺฑิโต . . . ฯ ๒๕๖ ฯ

    ผู้ที่ตัดสินความโดยหุนหันพลันแล่น
    ไม่จัดเป็นผู้เที่ยงธรรม
    ส่วนผู้ที่ฉลาด วินิจฉัยรอบคอบ
    ทั้งฝ่ายถูก ฝ่ายผิด
    (จึงจัดเป็นผู้เที่ยงธรรม)
     
  16. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    หลวงพ่อสงบ มนัสสันโต
    วัดป่าสันติพุทธาราม
    ต. หนองกวาง
    อ.โพธาราม
    จ.ราชบุรี
    ท่านเป็นพระป่ากรรมฐานองค์เอกในสายภาคกลาง ศิษย์อาจารย์หลวงตา พระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดนี้เป็นวัดป่าปลูกใหม่ เนื่อที่ 100 กว่าไร่ ติดชายเขา เงียบสัปปายะมาก ที่พักก็เรียบง่าย สะอาดสะอ้าน เป็นส่วนตัวมีโรงครัวไว้เลี้ยงอาหารผู้มาปฏิบัติธรรม

    การเดินทาง

    ไปทางตัวเมืองราชบุรีเลี้ยวขวา แยกเข้าโพธาราม เลยวัดเขาช่องพราน ไปทางหนองกวาง แล้วเลี้ยวขวาทางแยกวัดถ้ำน้ำ วิ่งจนสุดทาง 30 กม. จะสุดทางที่วัดป่าพอดี โมทนาสาธุ ครับ

    ง่ายสุดขึ้นรถตู้ที่ใต้ทางด่วนอนุสวรีย์ชัย ไป อ.บ้านโป่ง ลงหน้าไปรษณีย์บ้านโป่งเดินย้อนกลับไปที่หน้าอำเภอบ้านโป่ง นั่งรถประจำทางสาย บ้านโป่ง ราชบุรี ท่ารถอยู่หน้าอำเภอบ้านโป่ง ไปลงทางเข้าวัดถ้ำน้ำโพธาราม(บอกกระเป๋ารถก็รู้) นั่งเมย์เครื่องตรงไปผ่านวัดถ้ำน้ำ จนสุดทาง ก็ถึงวัดครับ<!-- google_ad_section_end -->

    หรือถ้าจะนั่งรถตู้ หรือรถทัวร์ก้อได้ค่ะ ไปลงที่จอมบึง แล้วก้อนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างอีกต่อหนึ่ง ใช้การเดินทาง 2 ต่อ จะง่ายกว่า แต่ว่า มอเตอร์ไซต์ คิดค่าบริการ 100 บาท ค่ารถทัวร์ ก้อประมาณ 100 คืองบที่ใช้เดินทางไปกลับ ก้อ 400 บาท

    มีทัวร์จัดไปใส่บาตรพระฉันจังหัน ตอนเช้า 8โมง
    เสร็จแล้วฟังเทน์ 1 กัณท์
    จากนั้นร่วมปลูกป่า ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ บำรุงต้นไม้ ฯลฯ
    บ่าย 4 โมง ตอบคำถามธรรมะโดยหลวงพ่อ จนถึง 6 โมงเย็น
    รถออก ตี 5 ที่หน้า กฟผ.บางกรวย
    กลับถึง กทม. ราว 3 ทุ่ม
    ค่ารถ 400 บาท
    เดินทางทุกอาทิตย์ที่2 และ 4ของเดือน
    ติดตอสอบถามได้ที่ 086-305-8609<!-- google_ad_section_end -->

    แผนที่วัดสันติพุทธาราม (พระอาจารย์��

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD>ามสุขจะอยู่ในความพอดี (หลวงตามหา�� </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลวงตามหาบัวท่านเคยไปเยี่ยมหลวงพ่อสงบหลายครั้งแล้วตั้งแต่หลวงพ่อสงบยังอยู่ที่วัดสันติธรรมารามครับ (ก่อนหน้านั้นหลวงพ่อสงบอยู่ที่วัดสันติธรรมารามใกล้ๆกับตัวอำเภอโพธารามก่อนที่หลวงพ่อจะมาสร้างวัดสันติพุทธารามครับ) หลวงตามหาบัวยกย่องชมเชยหลวงพ่อสงบมากครับ ผมแนบเทศนาของหลวงตาที่พูดถึงหลวงต่อสงบมาให้ด้วยครับ หลวงพ่อสงบซึ่งเป็นคนราชบุรีได้ปฏิบัติดี, ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัยจนเป็นเพชรน้ำหนึ่งองค์หนึ่งแห่งพระพุทธศาสนา
     
  18. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    คุณมโน
    ไม่ถอดเทปคำบรรยายของท่านมาลงบ้างล่ะ

    เห็นที่อื่นเค้าถอดเทปมาลงให้อ่าน ได้บรรยากาศดีมากเลยค่ะ
    รับรองกระทู้คึกคักแน่นอน


    จะได้เห็นคุณภาพของลูกศิษย์ของบางท่าน
    ที่ตอบที่นี่ กับที่ตอบอยู่ที่อื่นด้วย

    รู้สึกลูกศิษย์ของบางท่านที่ตอบอยู่ที่นี่
    จะไม่ค่อยคุณภาพเท่าไหร่ ออกแนวฟุ้งซ่าน...

    (smile)
     
  19. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    เคยได้ยินไหม..ฟุ้งซ่าน..ก็รู้ว่า..ฟุ้งซ่าน
     
  20. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    5555555

    โอ้ย........ขำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...