หยก 12 นักษัตร อีกหนึ่งงานฝีมือของช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 19 พฤษภาคม 2007.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD>[​IMG] <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2][​IMG]
    [/SIZE][/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]พระบรมธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บนดอยสูงซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขา ตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้[/SIZE][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] ก่อนที่จะสร้างพระเจ้าอชุตราชให้ทำทุง (ตุง) มีความยาว ๑,๐๐๐ วาปักบนยอดเขาหากทุงปลิวไปถึงที่ใดก็กำหนดให้เป็นฐานของพระเจดีย์ ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานทองคำให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้พวกมิลักขุ ๕๐๐ ครอบครัวดูแลรักษาพระธาตุ ต่อมาในสมัยพญามังรายพระมหาวชิรโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย ๕๐ องค์ พญามังรายจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม[/SIZE][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] บางตำนานว่าที่มาชื่อดอยตุงเนื่องจากพระมหากัสสปะได้อธิษฐานตุงยาว ๗,๐๐๐ วาไว้ที่ยอดดอยแห่งนี้ พระบรมธาตุดอยตุงได้รับการบูรณะหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้บูรณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาททององค์ปัจจุบัน[/SIZE][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] พระบรมธาตุดอยตุงเป็นที่เคารพสักการะของชาวล้านนา ไทใหญ่ หลวงพระบาง และเวียงจันทน์ ทุกปีจะมีงานนมัสการพระบรมธาตุในวันเพ็ญเดือน ๓[/SIZE][/FONT]
    </TD></TR><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]**ภาพบน พระธาตุดอยตุง[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=708 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=21>[​IMG]</TD><TD width=665>[​IMG]</TD><TD width=22>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=21>[​IMG]</TD><TD width=665 background=images/k_r2_c2.jpg bgColor=#fae8e8><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=4 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-1]อิมัสสะมิง ภัททะกัปเป จะตุพุทธา พุชูฌะติตะวา กะกุสะนูระ
    โกนาคะมะนะ กัสสะปะ โคตะมะราชะคะเห จะระติปิณฑายะ มิถิลายะนะคะเรสิ
    จะรัตติ ปิณะฑายะ อะตีตา พุทธาเน อิมัสะมิง ปัพพะตาคิริ ปะทะกังนะสิทิตะวา
    เมตเตยยะ อะนาคะเต จะระติปิณะฑายะ ราชะคะเห อมัสะมิง ฐาเนนะสิทิสิริ
    สุภะปะวะรังมะคะโล ตะโมลากะถามุนิราชะ
    สาตะระนะมามิหันตัง วะระชินะธาตุง อะหังวันทามิ
    สัพพะทานะตัง วะชิระธาตุโย อะระหังวันทามิ สัพพะทา
    [/SIZE][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top width=22>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width=21>[​IMG]</TD><TD width=665>[​IMG]</TD><TD width=22>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG] <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]ที่ตั้ง : ต.ห้วยไคร้ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย[/SIZE][/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]การเดินทาง

    [/SIZE][/FONT]<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=36>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2][​IMG][/SIZE][/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ ถึง อ.วังน้อย จ.อยุธยา เข้าทางหลวงหมายเลข ๓๒ ไปถึง จ.นครสวรรค์ จากนั้นแยกขวาไปทางหลวงหมายเลข ๑๑๗ ถึง จ.พิษณุโลกแล้วไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑ ถึง จ.แพร่ เข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐๑ ไปถึง อ.ร้องกวาง จะมีทางแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐๓ ซึ่งจะไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข ๑ ที่ อ.งาว จ.พะเยา แล้วตรงไปถึง จ.เชียงราย ระยะทางประมาณ ๘๐๔ กม. จากตัวเมืองเชียงรายใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ ไป อ.แม่สาย จะผ่าน อ. แม่จัน จนมาถึง กม. ที่ ๘๗๐ จะมีทางแยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๔๙ ขึ้นสู่ดอยตุงประมาณ ๑๗ กม.[/SIZE][/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=36>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] [/SIZE][/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] [/SIZE][/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=36>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2][​IMG][/SIZE][/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]มีรถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงราย ขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต (ใหม่) สอบถามเพิ่มเติมที่โทร. ๐-๒๙๓๖-๒๘๕๒-๖๖[/SIZE][/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=36>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] [/SIZE][/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2] [/SIZE][/FONT]</TD></TR><TR vAlign=top><TD width=36>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2][​IMG][/SIZE][/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif][SIZE=-2]สายการบินไทยมีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เชียงราย ออกทุกวัน สอบถามเพิ่มเติมที่โทร. ๑๕๖๖, ๐-๒๒๘๐-๐๐๖๐[/SIZE][/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับหยกที่คุณเพชรนำมาให้ชมกันนั้น เป็นหยกที่มีความพิเศษมากกว่าหยกที่เป็นของเดิมก็คือ องค์ผู้อธิษฐานจิต คุณเพชรได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งที่ 2 ซึ่งขอพระเมตตาจากองค์พระสิวลีเถระเจ้า ,องค์พระอนุรุทเถระเจ้า ,องค์พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์


    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับหยกที่คุณเพชรนำมาให้ชมกันนั้น เป็นหยกที่มีความพิเศษมากกว่าหยกที่เป็นของเดิมก็คือ องค์ผู้อธิษฐานจิต คุณเพชรได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งที่ 2 ซึ่งขอพระเมตตาจากองค์พระสิวลีเถระเจ้า ,องค์พระอนุรุทเถระเจ้า ,องค์พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ เป็นองค์อธิษฐานจิต


    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    [​IMG] 198 >> ชื่อหนังสือ : สัตว์ ๑๒ นักษัตรไทย
    ผู้เขียน : ทีมงานนิตยสารสารคดี
    ISBN : 9748211452
    ราคา : 380 บาท
    สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์สารคดี
    : non fiction
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=40>หมวด : </TD><TD vAlign=top>ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    --> เรื่องราวของสัตว์ 12 ชนิดใน 12 นักษัตรกับคนไทย ช่วยประมวลลักษณะเด่นทางชีววิทยาและพฤติกรรมของสัตว์ทั้ง 12 ชนิด และความเกี่ยวข้องผูกพันกับคนไทยทั้งที่มีปรากฏในความเชื่อ ศิลปกรรม และวิถีชีวิตไทย มาแต่อดีตจนปัจจุบัน นำเสนอในลักษณะของหนังสือ "ภาพความรู้"

    อีกเล่มหนึ่งน่าจะหมดไปแล้ว แต่ลองหากันนะครับ หากต้องการค้นคว้าให้รู้จริงเกี่ยวกับความรู้ 12 นักษัตรอย่างแท้จริง...

    <TABLE borderColor=#663399 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=50>[​IMG] </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #cacaca 1px dotted" vAlign=top>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]หนังสือเก่าและหมด...!!!
    ชื่อหนังสือ : โหราศาสตร์จีน 12 นักษัตรประยุกต์
    ผู้แต่ง : อธิคม สวัสดิญาณ
    คู่มือเข้าใจชีวิต การงาน ความรัก และการตั้งชื่อของคนเกิด ปีนักษตรต่างๆ ประยุกต์เข้ากับราศีกำเนิด และกรุ๊ปเลือดที่ต่างกัน
    [/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2007
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีข้อมูลของหยกจากเมืองจีนมาเพิ่มครับ...

    หยกจัดเป็นอัญมณีมีค่าของจีน และเป็นหนึ่งในงานฝีมือที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจนถึงขั้นสุดยอดมาแต่ครั้งโบราณ

    มีตำนานเล่าว่าเมื่อผานกู่สิ้นชีพ ลมหายใจของท่านได้กลายเป็นสายลมกับหมู่เมฆ เนื้อหนังกลายเป็นดิน ไขกระดูกกายเป็นหยกและไข่มุก ชาวจีนจึงเชื่อว่าหยกมีทั้งความงามและอำนาจวิเศษ คนโบราณเคยใช้หยกประกอบพิธีศาสนา ก่อนนำมาใช้เป็นเครื่องประดับ เครื่องหยกที่เก่าแก่ที่สุดนั้นขุดพบในชุมชนยุคหินใหม่เมื่อ 7,000 ปีก่อนที่เหอหม่าตู ความเชื่อที่ว่าหยกมีอำนาจปกปักรักษา ทำให้มีการนำหยกไปทำเป็นชุดให้กับคนตาย หยกประกอบด้วยธาตุเจไดต์และเนไฟรต์ เจไดต์นั้นมีค่ามากกว่าเพราะหายาก เนื้อแกร่ง สีใสกึ่งโปร่งแสง ในขณะที่เนไฟรต์จะมีเนื้ออ่อนกว่า สีของหยกมีหลากหลายตั้งแต่ขาวไปจนถึงเขียว ดำ น้ำตาล และแดง ชาวจีนถือว่าหยกสีเขียวมรกตเป็นหยกที่มีค่ามากที่สุด แหล่งผลิตเครื่องหยกของจีนในปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองชิงเทียน (มณฑลเจ๋อเจียง) โซ่วซาน (มณฑลฝูเจี้ยน)และลั่วหยาง (มณฑลเหอหนาน)
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    งานฝีมือช่างทองจันทบุรีของไทยเราก็ไม่ใช่ย่อย เป็นแหวนกล ศิลปะอัญมณีเครื่องประดับทองคำ 12 นักษัตร

    <TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 align=center bgColor=#ffffff background=../image/bg.gif border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD width=150><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif, Thonburi][​IMG] แผนฯ 9[/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif, Thonburi][​IMG] พลอยเมืองจันท์[/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif, Thonburi][​IMG] แหวนกล [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=style1 vAlign=top align=left>[​IMG]</TD><TD class=style1 vAlign=top align=right><FORM name=form><SELECT onchange=formHandler() name=site> <OPTION value=# selected>เลือกรายการที่สนใจ</OPTION> <OPTION value=ring01.html>กลไกปริศนาอัญมณีเครื่องประดับ</OPTION> <OPTION value=ring02.html>ช่างทองโบราณ</OPTION> <OPTION value=ring03.html>ความเป็นมา</OPTION> <OPTION value=ring04.html>วัตถุดิบ</OPTION> <OPTION value=ring05.html>ขั้นตอนการทำ</OPTION> <OPTION value=ring06.html>จุดเด่น</OPTION> <OPTION value=ring07.html>ผลที่เกิดกับชุมชน</OPTION> <OPTION value=ring08.html>การพึ่งพาตนเองของภูมิปัญญา</OPTION> <OPTION value=ring09.html>คุณค่าของภูมิปัญญา</OPTION></SELECT> </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]"แหวนกล" บันทึกภูมิปัญญา กลไกปริศนาอัญมณีเครื่องประดับงานศิลปะจากทองคำ
    กลไกปริศนาอัญมณีเครื่องประดับ เป็นเครื่องประดับตกแต่งที่ทำมาจากทองคำประเภท แหวน กำไล ปิ่นประดับ โดยฝีมือช่างทองโบราณ ที่มีภูมิลำเนาอยู่บ้านตลาดพลิ้ว ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เดิมเป็นแหวน ทำเป็น 2 วงย่อยเรียงซ้อนกัน สามารถถอดจากกันได้ และเมื่อประกอบเข้าด้วยกันก็จะกลายเป็นวงเดียวกัน ต่อมาได้พัฒนาเพิ่มความสลับซับซ้อน จาก 2 วงมาเป็น 4 วง
    [​IMG]
    คิดทำสัญลักษณ์มีการออกแบบลวดลายเพิ่มเติมเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปู ปลา กุ้ง เต่า แมลงป่อง ฯลฯ เป็นรูปดอกไม้ต่าง ๆ เช่น กุหลาบ กล้วยไม้ เป็นรูปผลไม้ต่าง ๆ เช่น มังคุด สับปะรด ทุเรียน เงาะ ฯลฯ
    ปัจจุบันได้คิดค้นประดิษฐ์เป็นรูป 12 นักษัตร (ปีเกิดของไทย) ซึ่งเป็นงานศิลปะหัตถกรรม ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ ภูมิปัญญาของคนไทย ในอาชีพ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ความรู้เรื่องการพิจารณาว่าหยกแท้ หรือหยกปลอม คงเป็นเรื่องที่ผู้ที่นิยมหยกควรรู้ไว้เพื่อพิจารณา เนื่องจากเป็นอัญมณีที่มีราคาสูง และบางท่านหวังผลในด้านพลังต่างๆเพื่อการบำบัด หรือเพื่อการป้องกัน และเสริมสร้างพลังใจ

    ก่อนอื่น ต้องทราบก่อนว่า หยกที่เรามีอยู่ เป็น หยกอ่อน <NEPHRITE>หรือหยกแข็ง<JADEITE> <JADEITE>ซึ่งทั้งสองจำพวกนี้มีสารประกอบไม่เหมือนกัน หยกแข็งมีความแข็งและน้ำหนักมากกว่า ส่วนหยกอ่อนอ่อนกว่าเล็กน้อย นอกนั้นมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่มาก ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญในการพิจารณา

    ทีนี้ มาถึงวิธีการดูของแท้-ปลอม
    1. หล่อทำด้วยพลาสติก น้ำหนักจะเบามาก สีไม่ใสทำด้วยยางไม้หรือยางสน น้ำหนักก็ยิ่งเบา ความแข็งน้อยมาก ลองถูเบา ๆ ผิวหน้าก็จะปรากฏเป็นเส้น ๆ ถ้าใช้กระจกหล่อทำก็จะพบฟองอากาศอยู่ในเนื้อแก้ว สีของหยกปลอมเหล่านี้มักจะอมสีน้ำเงิน และถ้ามีสีแก่สีอ่อนเจือปนกันหรือสีเขียวสีขาวสลับกัน เราจะสังเกตเห็นสีเทียมไม่กลมกลืนกันซึ่งผิดกับของจริง ทั้งนี้ก็เพราะหยกเป็นหินผลึกเฉียง ส่วนของเทียมไม่ใช่ผลึกจึงแตกต่างกันมาก

    2. ปลอมด้วยหินธรรมชาติที่ราคาถูกกว่า ย้อมสีให้เหมือนหยก เพื่อขายในราคาแพง เช่น นำหินสีขาวที่มีลักษณะหรือคุณภาพที่คล้ายคลึงกันมาย้อมสีเป็นหยก หรือนำหินโมราสีเขียวมาแต่งทำให้เหมือนหยก ถ้าเป็นหินสีขาวย้อมสีเป็นหินสีเขียวทำเทียม เราจะัสังเกตเห็นสีมักจะอมเหลืองและสีค่อนข้างขุ่นหรือมักจะอมดำ ถ้าเป็นโมราสีคล้ายหยก เราก็จะรู้สึกว่าน้ำหนักของมันเบากว่าสีเขียว มักจะอมน้ำเงินมองดูขุ่นไม่โปร่งใสน้อยมาก สังเกตให้ดี ๆ สีเขียวจะไม่เหมือนหยกแท้ ๆ เลย อีกประการหนึ่ง ของเทียมชนิดนี้ มักจะมีลักษณะดีเด่นมากเพราะว่าหินเทียมราคาถูกมากกว่ามาก สามารถหาชิ้นโต ๆ มาตัดแต่ง ลักษณะย่อมต้องดีเด่นกว่าของแท้ซึ่งมีขนาดเพียงจำกัดเท่านั้น สำหรับประเด็นนี้เราจะรู้สึกว่าของเทียมมักจะมีลักษณะดีมากจนของแท้ไม่เคยมีมาก่อน

    3. นำหยกธรรมชาติแท้ ๆ ที่สีไม่สวยมาย้อมให้สวยขึ้นเพื่อขายในราคาดีกว่า การย้อมสีหยกนี้ เมื่อสมัยก่อนโน้น ย้อมโดยใช้ความร้อนธรรมดาเคี่ยวให้สีแทรกซึมเข้่ไปในเนื้อหยก แต่เมื่อถูกความร้อนเข้าหรือใช้ไปไม่นานสีก็จะตกและค่อย ๆ กลายเป็นสีเดิม ต่อมาเทคนิคในการย้อมสีก็ได้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ได้ย้อมสีโดยใช้ความร้อนและความกดดันสูงมากจนทำให้หยกขยายตัว เพื่อกดดันให้สีแทรกซึมเข้าไปได้ลึกซึ้งกว่าเดิมมาก และยังสามารถแต่งสีให้กลมกลืนเหมือนของจริง ซึ่งถ้าไม่ชำนาญจริง ๆ ก็จะไม่สามารถดูออกได้ ความจริงหยกธรรมชาติแท้ ๆ จะหาสีสวย ๆ ได้ยากมาก ถ้าเราพบเห็นหยกสีสวย ๆ มีมากก็ควรตระหนักว่ามันต้องเป็นไปไม่ได้ และควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนจึงจะเชื่อ ถ้าเราใช้กล้องขยายพิจารณาดูให้ดี เราอาจจะพบสีเขียวของหยกเทียมเป็นสีเส้นเล็ก ๆ เหมืีอนเส้นไหม ซึ่งผิดกับสีเดิมของหยกแท้ อีกทั้งสีเทียมมักจะอมน้ำเงินบ้าง หรืออาจจะอมสีเหลืองเล็กน้อย เป็นต้น การย้อมสีด้วยวิธีใหม่นี้ ถ้าใช้ไปนาน ๆ สีก็จะค่อย ๆ ตกเหมือนกัน การพิสูจน์จะให้แน่ชัดและสามารถรู้ได้ทันที ก็ด้วยวิธีโยนหยกชิ้นนั้นลงไหในน้ำมันที่กำลังเดือด สีเทียมก็จะสูญหายไปทันที แต่ใครเล่าที่จะยอมเสี่ยงด้วยการทดลองแบบนี้ เพราะว่าหยกเข้าไปอยู่ในน้ำมันที่กำลังเดือด ๆ เมื่อร้อนจัดก็อาจจะแตกร้าวได้ง่าย ๆ เป็นการสูญเสียโดยใช่เหตุ

    หยกอ่อน <์์Nephrite> บางทีก็เรียกหยกจีน คงจะเป็นเพราะหยกอ่อนมีมากในประเทศจีน และได้นิยมใช้เป็นเครื่องตกแต่งร่างกายใช้บุเครื่องประดับต่าง ๆ ทั้งแกะสลักเป็นของใช้ เช่น ตรารูปคน และรูปสัตว์ต่าง ๆ สำหรับประดับในวังและตามบ้านนับเป็นพัน ๆ ปีมาแล้ว โดยที่หยกจีนมีธาตุไทเทเนียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก เล็กน้อยเจือปนอยู่ จึงมีสีเขียวแก่บ้างอ่อนบ้าง และมีสีขาวปะปนกันอยู่ น้ำหนักเทียบกับน้ำที่มีปริมาตรเท่าตัวเอง <ความถ่วงจำเพาะ> เท่ากับ 3 ความแข็ง 6-6.5 เป็นผลึกเฉียง การหักเหของแสง 1.61 - 1.62 ครึ่งโปร่งแสงและทึบแสง

    สี

    สีของหยกมีสีเขียว แดง ขาว เหลือง ม่วง และดำ หยกที่มี 3 สีปะปนกันอยู่ในเม็ดเดียว เรียกว่า หยก 3 สี ชาวจีนเรียกว่า "ฮก ลก ซิ่ว" ลือกันว่าเป็นสิริมงคล หายาก และราคาสูง แหล่งกำเนิด มีในประเทศจีนและำพม่า หยกอ่อนมีชื่อเรียกว่า หยกอ่อนก็จริง แต่ที่แท้ก็แข็งมากเหมือนกัน หากแต่อ่อนกว่าหินชนิดที่แข็งมากมากเท่านั้นเอง แต่มีความยืดหยุ่น ไม่เปราะเหมือนหินจำพวกอื่น ๆ มักจะใช้ทำ ขวดยานัตถุ์ ถ้วยสุราเล็ก ๆ

    หยกแข็ง <JADEITE>หยกแข็งมีมากในพม่าถึงกับลือชื่อ และเรียกหยกแข็งว่า หยกพม่า หยกชนิดนี้เป็นหยกสีเขียวมีทั้งครึ่งโปร่งใสและทึบเป็นผลึกเฉียงมีความแข็งประมาณ 6.5 - 7 น้ำหนักเทียบกับน้ำที่มีปริมาตรเท่าตัวเอง ความถ่วงจำเพาะ 3.30-3.36 การหักเหของแสง 1.65-1.66 สารประกอบมีกรดเกลือ อลูมินัม โซเดียม ทับถมมานานปีจนกลายเป็นหิน หยกแข็งจึงเปราะกว่าหยกอ่อน และแตกง่ายกว่า ที่รอยหักมีลักษณะเหมือนเข็มทิ่มเป็นรู ๆ เหมือนหยกอ่อน

    หยกแข็งมีทั้งทึบแสงและครึ่งโปร่งใส พบในพม่า ก็จะมีสีเขียว แดง ม่วง ขาว น้ำตาล และดำ สีเขียวก็มีสีเขียวต่าง ๆ กัน เช่น หยกสีเขียว ยอดต้นข้าว สีถั่วเขียว เป็นต้น หยกแข็งละลายในความร้อนยากกว่าหยกอ่อน เหมาะสำหรับแกะเป็นศิลปะวัตถุึ

    ในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พม่าถือว่าหยกสีเขียวเท่านั้นจึงจะมีคุณค่าเป็นหยก ส่วนหยกสีอื่น ๆ ถือว่าเป็นแก้วหินสีต่าง ๆ เท่านั้น หยกสีอื่น ๆ จึงนำไปทิ้งไว้ข้างโรงงาน ต่อมาได้ส่งไปขายในประเทศจีนในราคาถูก ชาวจีนถือว่าเป็นหินสีเท่านั้น เมื่อซื้อแล้วก็จะนำไปแกะสลักเป็นยานัตถุ์ รูปสัตว์ต่าง ๆ ถ้วยสุราเล็ก ๆ แต่สำหรับชาวพื้นเมืองในพม่า บางทีก็นำหยกสีต่าง ๆ ประดิษฐ์เป็นลูกประคำสลับสี ทำเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ขายในราคาของสวยงามธรรมดา

    ต่อมาสมัยนี้หยกสีต่าง ๆ จึงมีราคาสูงกว่าเดิมมาก

    การเลือกหยกแข็ง หยกแข็งที่ค่อนข้างเขียวใส แวววาวมาก ราคาสูงที่สุด การดูคุุณภาำพต้องพิจารณาใ้ห้ดูสีและน้ำ น้ำก็คือคุณภาพดีสวยแวววาวนั่นเอง

    การคัดเลือก

    การคัดเลือกหยกแข็ง นอกจากต้องคัดเอาสีสวยแล้ว ข้อสำคัญที่สุดจะต้องพิจารณาถึงความโปร่งใสมากหรือน้อย ถ้าโปร่งใสมากกว่า ราคาก็แพงกว่า เป็นต้นว่า หยกแข็งที่ทึบแสง ราคาอาจจะกะรัตละไม่กี่สิบเหรียญฮ่องกง แต่โปร่งใสมากและสีเขียวของมันเป็นสีเขียวที่นิยม ราคาก็อาจแพงถึงหลายพันเหรียญฮ่องกง

    การคัดเลือกหยกแข็ง ซึ่งเบื้องต้นก็มีดังนี้

    1. สี สีของหยกแข็งจะต้องเป็นสีเขียวสดและเขียวแก่ สีเขียวดังกล่าวนี้อาจจะเปรียบเทียบได้กับวีของใบไม้ฤดูร้อน เมื่อถูกน้ำฝนชำระจนเขียวสะอาดและเมื่อได้รับแสงตะวันก็จะสะท้อนแสง เราจะเห็นได้ว่ามันเป็นสีเขียวสดแวววาวน่าชื่นชมมาก สีนี้แหละเป็นสีที่สวยงามและนิยมที่สุด และสีเขียวนี้ถ้ายิ่งเขียวแก่ก็ราคาสูงขึ้นเป็นลำดับ

    2. ความโปร่งใส เมื่อเป็นสีเขียวที่ถูกต้องดังกล่าวแล้ว เราก็มองเข้่าไปในเนื้อจะเห็นสีเขียวนี้ใสบริสุทธิ์เหมือนน้ำในลำธาร สามารถมองทะลุถึงก้นหยกและมีแสงแวววาว นั่นก็คือความโปร่งใส และคุณภาำพของหยกแข็ง หยกแข็งเป็น "หิน" ครึ่งโปร่งใส เพียงแต่มองทะลุถึงก้นหยกก็นับว่าดีมาก แต่ถ้าเป็นหินโปร่งใสเราจะมองเห็นสี่งที่อยู่ด้านหลังของหินด้วย เช่น กระจกเพชร และมรกต เป็นต้น

    3. ความแก่อ่อนของสี ในหยกแข็งก้อนเดียวกัน สีเขียวควรจะต้องแก่เท่ากันหมดจึงนับว่าเป็นสีที่ดีที่สุด ถ้ามีสีทั้งแก่ทั้งอ่อนปนอยู่ในก้อนเดียวกัน ความแก่อ่อนจะต้องไม่ผิดกันมากจึงจะนับว่าเป็นหยกแข็งที่ดี แต่ถ้าสีแก่และอ่อนผิดกันมาก หรือมีสีอื่นเจือปนอยู่ด้วย เช่น เจือเหลือง น้ำเงิน น้ำตาลหรือดำ ก็นับเป็นคุณภาพรองลงมาตามลำดับ

    4. ขนาดของหยก ขนาดของหยกตามรูปลักษณะ และฝีมือการเจียระไนล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญเกี่ยวกับราคาทั้งสิ้น เช่น หยกแข็งชิ้นเล็กไม่พอขนาดที่จะทำเป็นสิ่งนั้น ๆ แต่ช่างเจียระไนก็ฝืนทำออกมาจนได้เลยกลับกลายเป็นของไม่สมกับลักษณะที่สมควร เป็นต้น

    5. ตำหนิของหยกแข็ง เช่น มีจุดสีเป็นสีอื่่น ๆ สีอะไรก็ตาม มีรอยร้าว หรือรอยอื่น ๆ ซึ่งแสดงถึงความไม่บริสุทธิ์เหล่านี้้เป้นตำหนิของหยกแข็ง

    สรุปการคัดเลือกหยกแข็ง
    1. ต้องไม่อมเหลืองหรือน้ำเงินมาก
    2. ตำหนิน้ิอย ของธรรมชาติจะต้องมีตำหนิบ้างแต่ตำหนิต้องมีน้อยและไม่อยู่ในที่เด่นสำคัญ การเจียระไนควรจะหลบตำหนิไว้้ข้าง ๆ อย่าให้ปรากฏอยู่ในที่ที่มองเห็นเด่นชัดมากจึงจะดี
    3. รูปลักษณะดี
    4. เม็ดโต
    5. ส่วนที่แซมสีขาวหรือน้ำตาล ไม่ควรมีจุดดำ
    6. ความโปร่งใสยิ่งมากยิ่งดี
    7. สีเขียวต้องเป็นสีเขียวแก่และสดสวย โปร่งใสเห็นก้นเต็มไปด้วยแสงแวววาว เหมือนก้นทะเลสาบที่ใสสะอาด มองเห็นก้นพื้นเป็นสีเขียวสดทั้งทั้งผืร จึงจะนับว่าเป็นหยกน้ำดีสวยงามจริง ๆ

    คัดลอกมาจาก "การบำบัดโรคด้วยพลังคริสตัล โดย Ragis Regis แปลโดย ชาย รัศมีจันทร์ "

    ราคาของหยกขึ้นอยู่กับสีเป็นหลัก นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับความโปร่งใส และลักษณะเนื้อของหยกชิ้นนั้น การซื้อขายหยก มักตีราคาตามลักษณะของชิ้นงาน มากกว่าคิดตามน้ำหนัก หยกชิ้นเล็กๆ ที่แกะสลักอย่างประณีตบางชิ้น อาจมีราคาประมูลสูงกว่าแสนเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว จึงนับว่าหยกคู่ควรที่จะได้รับการขนานนามให้เป็น “จักรพรรดิ์แห่งรัตนชาติ” อย่างแท้จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2007
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ชิ้นเป็นหยกของคุณทิพย์

    หยกแท้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมลงให้ดูว่าราคาหยกดิบของพม่าราคาประมาณซักเท่าไหร่ เมื่อทราบราคาแล้วก็ตั้งหน้าตาหา(ตังค์)ก่อนหากระงับกิเลสไม่อยู่ครับ...

    .........................................................................

    ความคิดเห็นที่ 3
    <TABLE style="PADDING-BOTTOM: 10px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>เรียน คุณทิพย์

    ลงราคามาด้วยก็จะดีครับ

    ขอเรียนให้สมาชิกทุกท่านทราบนะครับว่า
    สินค้าที่ขายในหน้าเว็บบอร์ดนี้
    ไม่ใช่สินค้าของ "นครอัญมณี" หรือร้านของเราแห่งนี้
    ดังนั้น ข้อตกลงต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อหรือผู้ขายกันเอง ทางนครอัญมณี ไม่ขอรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้นนะครับ
    แต่เรายินดีครับ ที่คุณทิพย์ ใช้เว็บบอร์ดของเราในการประชาสัมพันธ์ สินค้าหรือเรื่องราวเกี่ยวกับอัญมณี

    ด้วยความนับถือ[​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    By : นครอัญมณี The city of gems <NOBR>[​IMG]</NOBR> (04/10/2549 14:01:36) IP. 203.114.121.xxx

    ความคิดเห็นที่ 4
    <TABLE style="PADDING-BOTTOM: 10px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ขอบคุณ คุณนครอัญมณี ค่ะ

    ราคา 20,000,000 บาท (ต่อรองได้)

    ถ้าสนใจติดต่อมาได้นะคะ




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    By : คุณทิพย์ (10/10/2549 12:50:51) IP. 192.165.213.xx
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2007
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หยก อัญมณีจากสวรรค์
    ตามตำรารัตนชาติของไทยเรา ซึ่งมีอัญมณีเก้าอย่าง จะไม่ได้รวมหยกเข้าไปด้วย แต่ความนิยมในการนำหยกมาทำเป็นเครื่องประดับ ตลอดจนสลัก เสลาเป็นวัตถุมงคล รูปเคารพต่างๆ ก็มีมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ประมาณ 7,000 ปีมาแล้ว ที่เชื่อกันว่า มีพลังเร้นลับ สามารถบันดาลความ เป็นสิริมงคลแก่ผู้นำมาเคารพบูชา ซึ่งสืบทอดความเชื่อนี้ ตลอดเวลาอันยาวนาน จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เสื่อมถอยไปแม้แต่น้อย<O:p</O:p

    หยกที่นำมาเป็นเครื่องประดับ ส่วนใหญ่จะเป็นกำไลข้อมือ คนที่ไปเมืองจีนจะต้อง หาซื้อกำไลมาสวมใส่แทบทุกคน นอกจากกำไลหยกแล้ว ยังมีการนำหยกมาประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับประเภท สร้อยคอ หัวแหวน ที่ได้รับการออกแบบให้มีรูปร่างแปลกตา งดงาม เช่นเดียวกับเพชรนิลจินดาตามร้านจิวเวลรี่ทั้งหลาย<O:p</O:p

    ที่พิพิธภัณฑ์อัญมณีและ เครื่อง ประดับแห่งชาติ บริเวณ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มี ส่วนแสดงความรู้เรื่องหยก เอาไว้อย่างชัดเจน โดยจำแนกหยกไว้ 2 ชนิด คือ เจไดต์ และ เนไฟรต์ หยกทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง เนื้อละเอียด สวยงาม เหมาะสำหรับแกะสลัก เป็นรูปร่างต่างๆ<O:p</O:p

    หยกเนไฟรต์ เป็นแร่ที่มีลักษณะเป็น เส้นใย เนื้อละเอียด เหนียวกว่าเจไดต์ ในสมัยโบราณนำ ไปแกะสลัก เป็นอาวุธ แกะเป็นรูปมังกร ถือกันว่าเป็นเครื่องนำโชค และได้พัฒนามาเป็นลำดับ ตั้งแต่ 7,000 ปีก่อนยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงยุคหลังประวัติศาสตร์ที่แกะสลักได้สลับซับ ซ้อนขึ้น เป็นรูป สัตว์ ดอกไม้ พระพุทธรูป เป็นต้น<O:p</O:p

    การแกะสลักหยกได้พัฒนามาจนถึง ยุคราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายก่อนที่เมืองจีน จะเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตย และระบอบคอมมิวนิสต์ ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับ กรุงรัตนโกสินทร์ของเรา ได้ มีการพบหยกเจไดต์ จากแคว้นคะฉิ่นในพม่า ตอนเหนือติดกับเมืองจีน<O:p</O:p

    หยกเจไดต์นี้มีหลายสี คือ เขียว ม่วง ลาเวนเดอร์ ชมพู ฟ้า สีส้มอมเหลือง ขาว แดง น้ำตาล ดำ ที่นำมาเป็นเครื่องประดับ<O:p</O:p
    หยกเจไดต์สีเขียวมรกต ที่เรียกกันว่า “หยกจักรพรรดิ” ที่งดงามที่สุด เม็ดเดียวมีราคาถึง หลายร้อยล้าน ไม่ เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะมันเป็นจริง
    หลายท่านคงจะสงสัยว่า หยก อัญมณีจากสวรรค์นั้นสวยงามแค่ไหน<O:p</O:p

    ผมจึงขอนำท่านมาที่ ถนนราชดำเนินกลาง ข้างสภาทนายความ ใกล้สะพานผ่านฟ้า ห้องหัวมุมอาคาร มีพิพิธภัณฑ์ หยก และร้านจำหน่ายเครื่องประดับ สิ่งแกะสลักที่เป็นหยก ป้ายหน้าร้านคือ “MUSIUM OF JADE” เพื่อบอกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาถูกโดยไม่ต้องอาศัยไกด์<O:p</O:p

    พอโผล่เข้าไปในร้าน จะเห็น หยกขาวสลักเป็นรูปกวนอู เทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่อ สูงเท่าตัวคนยืนต้อนรับอยู่ พร้อมด้วยสาวๆที่เป็นพนักงานหลายคน ล้วนแต่สวยๆ ทั้งนั้น ทำให้ขุนทัพกวนอูมีสีหน้าอ่อนโยน นุ่มนวลขึ้นเป็นกอง<O:p</O:p

    ผ่านเข้าไปในห้องแรก จะเป็นตู้กระจกหลายตู้ มีหยกสีต่างๆ ทำเป็นเครื่องประดับ ที่ได้รับการออกแบบที่ทันสมัย ไม่ยืนพื้นแต่กำไลอย่างเดียว แต่หยกที่นี่มีมากมายหลายชนิดทั้ง สร้อย จี้ แหวน แบบต่างๆ ไม่แพ้ร้านจิวเวลรี่ทั่วไป มิวเซียม ออฟ เจด นี้ นอกจากจำหน่าย เครื่องประดับที่ทำจากหยก และหยกแกะสลักเป็นรูปต่างๆ แล้ว ยังให้ ความรู้เรื่องหยก สำหรับคนที่อยากจะรู้วิธีดูหยกแท้ และหยกเทียมเป็นอย่างไร<O:p</O:p

    ทางพิพิธภัณฑ์มีเอกสารอธิบาย ในเรื่องนี้ไว้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งผมจะขอคัดลอกมา ให้ท่านได้รับทราบ ไม่ซื้อไม่หา ไม่ว่ากระไร ถือว่าเป็นการ “รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม” ก็แล้วกัน หยกบางชิ้นดูสวยดีแต่ราคาถูก บางชิ้นคล้ายกันแต่ราคาแพงกว่า ความสับสนนี้เกิดจากหยก 3 ชนิด คือ หยกเอ หยกบี และหยกซี<O:p</O:p
    1. หยกเอ หรือ หยกธรรมชาติ คือ หยกที่เจียระไนเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น เม็ดรูปไข่ (คาโบชอง) จี้แกะสลัก เสร็จแล้วขัดเงาด้วยเทียนไข ไม่มีการเสริมเติมแต่งวัสดุ หรือสีเข้าไปในเนื้อหยก หยกธรรมชาติที่สวยคุณภาพสูง หาได้ยากที่สุดในบรรดาอัญมณี เมื่อเทียบกับเพชร พลอยต่างๆ<O:p</O:p
    2. หยกบี หรือ หยกเคลือบพลาสติก เรามักจะเรียกว่า “หยกอาบน้ำ” ทำจากการ นำหินหยกไปแช่น้ำกรดไฮโดรคลอลิค เป็นเวลา 1-10 วัน เพื่อกัดเอาสนิมโลหะ และสิ่งสกปรกในเนื้อหยกออกจนหมด นำไปล้างน้ำสะอาด เป่าให้แห้ง ในขั้นนี้โครงสร้างหยกจะถูกกัดผุกร่อนขุ่นมัว แล้วนำไปชุบสารละลายพลาสติกแข็ง ชนิดเดียวกับยูรีเทนที่เคลือบผิวไม้ สาร ละลายพลาสติกจะซึมเข้าไปในเนื้อหยก และเคลือบผิว ทำให้หยกคืน สภาพดูสดใส เหมือนหยกคุณภาพสูง เนื้อแก้ว คนทั่วไปไม่สามารถแยก แยะได้ เพราะเหมือนหยกธรรมชาติ ทุกวันนี้หยกที่ขายทั่วไป 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นหยกบี ถ้าหยกเอ มีราคา 100,000 บาท หยกบีจะอยู่ที่ 100-1,000 บาทเท่านั้น<O:p</O:p
    3. หยกซี คือ หยกบี ที่ใส่สีหรือย้อมสีเข้าไป เช่น สี เขียว ม่วง และแดง เป็นต้น<O:p</O:p

    เจ้าของพิพิธภัณฑ์หยกแห่งนี้ คือ คุณปรีชา ผ่องเจริญกุล และ คุณวรนันท์ ภรรยา ศิษย์เก่าแห่งธรรมศาสตร์ และมี ลูกชาย 2 คน คือ ชานนท์ และ ชนะ ซึ่ง 3 คนพ่อลูก จบจากสถาบันอัญมณีแห่งอเมริกา มีทั้งความรู้และความชำนาญด้านธุรกิจเกี่ยวกับหยก มีโรงงานผลิตที่เชียงใหม่ ช่างแกะสลักเป็นคนไทยทั้งหมด ดังนั้น จึงได้รับความนิยม เชื่อถือ จากลูกค้าทั้งคนไทย และฝรั่งมังค่ามาโดยตลอด<O:p</O:p

    ที่ร้านนี้มีพระแก้วมรกต องค์ใหญ่ประ ดิษฐานอยู่มุมหนึ่งในร้าน เป็นหยกสีเขียวก้อนใหญ่ หนักเป็นตัน งดงามควรแก่การเคารพบูชา พระแก้วมรกตที่แกะสลักจาก หยกสีเขียวนี้ อีกองค์หนึ่งได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ซึ่งได้พระราชทานไปประ-ดิษฐานที่พระธาตุดอยสุเทพ<O:p</O:p

    ส่วนชั้นบนจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงหยกของโบราณยุคต่างๆ ในเมืองจีน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ นับพันๆปี มาจนถึงยุคปัจจุบัน ที่การแกะสลักพัฒนาขึ้นมาก สามารถแกะเป็นลวดลายสลับซับซ้อน เป็นพระพุทธรูป ดอกไม้ ตั๊กแตนกำลังกินหัวผักกาดขาว ตลอดจนรถตุ๊กๆ ที่ละเอียด ลออ จนกระทั่งท่อไอเสีย ล้วนแต่แกะจากหยกก้อนเดียวทั้งสิ้น<O:p</O:p

    น่าดูครับ แวะเข้าไปชมได้ความรู้เรื่องหยกครบวงจร พร้อมได้ชมหยกแกะสลักงดงามหลายชิ้น ส่วนหยกที่เป็นเครื่องประดับ ถ้าถูกอกถูกใจซื้อหาไปก็จะได้ใบรับประกันว่าเป็นหยกแท้ <O:p</O:pตัดปัญหาหยกแท้ หยกเทียมไปได้โดยสิ้นเชิง<O:p</O:p

    ต่วย'ตูนและ ไอแสค อาศิระ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2007
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอกลักษณ์ของพระวังหน้าอย่างหนึ่งคือการลงรัก และปิดทอง การลงรักของช่างสิบหมู่แห่งวังหน้านั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งมากครับ เป็นกลด้านเมตตานิยมความหมายว่า มีผู้"รัก" ลงรักด้านหน้าคือรักทั้งต่อหน้า ลงรักด้านหลังคือรักทั้งลับหลัง ลงรักด้านข้างคือคนข้างๆก็รัก...เป็นกลโบราณที่ลึกซึ้งมาก การสร้างพระเครื่องในปัจจุบันนี้มีลักษณะที่เป็นการสร้างจำนวนครั้งละมากๆ ตามกระแสตามความเชื่อบ้าง ขาดรายละเอียดที่มี"เอกลักษณ์"เฉพาะตัว และหวังผลด้านพุทธพาณิชย์กันมากเกินไป

    หยก 12 นักษัตรชุดนี้เป็นหยกจีน ไม่ใช่หยกพม่า สังเกตว่าเมื่อส่องกับแสงสว่างแล้ว มีความโปร่งใส มี 3 สีในลักษณะฮก ลก ซิ่ว ลงรักตามแบบฉบับของวังหน้า(พระเครื่องวังหลวงส่วนมากไม่ค่อยพบว่ามีการลงรัก) และปิดทอง ลักษณะของทองเก่า ทองใหม่นั้นขอให้สังเกตกันเอาเองครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นยุคของการเฟื่องฟูในการค้าขายกับประเทศจีน ได้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกันระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน ทางประเทศจีนได้ส่งช่างของจีนเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปและวัฒนธรรมของจีน ช่างจีนจึงได้แกะสลักหยกต่างๆ รวมทั้งที่ผมเองมีนั้นก็คือ กระดูกช้าง (ในความคิดเห็นของผมนั้น น่าจะเป็นช้างที่พระมหากษัตริย์ทรงเลี้ยงไว้ แล้วได้ตายลง จึงนำกระดูกช้างมาสร้างเป็นวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อให้เกิดบุญกุศลกับช้างที่ได้ตายไป)

    หากท่านใดมีหยก ซึ่งมีการนำเข้ามาจากประเทศจีนและประเทศพม่า ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 , รัชกาลที่ 4 ซึ่งแกะเป็นรูปต่างๆ โดยช่างจากประเทศจีน (มีประมาณ 6-70 ท่าน) ขอให้เก็บไว้ให้ดีนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    คุณหนุ่มไปขุดกระทู้เก่าๆมาดูใหม่ อืมม! ตอนนั้นเราคิดยังไงถึงนำเรื่องราวของวัตถุมงคลของวังหน้ามา post หว่า? เค้าว่ากันว่าไม่มี หรือปลอมยังงั้นยังงี้ แต่ช่างเถอะ.. รอผู้มีวาสนาได้รับรู้เรื่องราวของพระแก้ววังหน้ากัน พวกเราเป็นส่วนหนึ่งที่ติดตามร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ไม่มีบันทึกไว้ ได้แต่แกะรอยจากประวัติศาสตร์เอา เอาไว้จะถ่ายภาพชุด"หยก ๑๒ นักษัตร"นี้ใหม่อีกครั้ง ..
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมเองมีหยก ซึ่งแกะสลักโดยช่างจีนในสมัยรัชกาลที่ 4 อย่างสวยงาม บางอันแกะได้งดงามมากๆ ผมมีปี่เซี๊ย ซึ่งแกะได้งดงามมาก สูงประมาณ 5 นิ้ว ความกว้างประมาณ 2 นิ้ว อยู่ 1 คู่ และยังมีปี่เซี๊ยอีก 2 คู่ที่เป็นขนาดย่อมๆลงมานิดหน่อย

    แต่ขอเก็บไว้ดูกันระหว่าง พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ดีกว่า ผู้ที่ไม่มีวาสนาบารมี ผู้ที่บอกว่าปลอม แม้แต่รูปก็ไม่ควรได้เห็นครับคุณเพชร

    .
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระเครื่องชุดนี้ มี ๑๒ ชิ้น ไม่ควรแยกชิ้นออกเด็ดขาด หากเข้าใจการ"ชง" การ"ฮะ" จะได้ประโยชน์มากมาย ปฏิทินดวงจีนมีบอกไว้แทบทุกเล่มว่าปีนักษัตรใดชงกับปีใด เราก็สามารถใช้หลักการของปีนักษัตรที่เข้าได้กับปีนั้นแทน สีเขียวของหยก ตามหลักของ New Age แล้ว ถือว่าเป็นสีเกี่ยวกับการบำบัด และรักษา จะสังเกตในห้องผ่าตัด เสื้อกราวด์ของหมอ พยาบาล จะมีโทนสีเขียวทั้งหมด เป็นสีของต้นไม้ใบหญ้า ดูสดชื่น ผ่อนคลาย สบายใจ อีกนัยหนึ่งหมายถึงการเจริญเติบโต ความร่ำรวย มั่งคั่ง เป็นลักษณะของกระแสการดึงดูด...<!-- / message --><!-- sig -->
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นั่นคือเวลามาก็มาเป็นชุด ๑๒ ชิ้น เวลาจะไปก็ไปเป็นชุด ๑๒ ชิ้น ...

    ความรู้เรื่องการชง การฮะ..

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" bgColor=#640002 border=0><TBODY><TR><TD>ดวงคู่สมพงษ์แบบจีน(ชง-ฮะ)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]ตารางดูคู่สมพงศ์แบบจีน ( ชง - ฮะ )
    วิชาคู่สมพงศ์ทั้งหลายที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนทั้งสิ้น มาจากหลักวิชาฮวงจุ้ย(คัมภีร์อี้จิง) การดูคู่สมพงศ์นี้เพื่อประโยชน์ ในการใช้ดูคู่เรื่องเนื้อคู่ หรือคู่หุ้นส่วนธุรกิจการค้า เพื่อนฝูงผู้ร่วมงานทั้งหลาย

    ถ้าดูแล้วเห็นว่าดวงทั้งสองเกิดชงกันหรือปะทะกัน หมอดูก็จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงเสีย ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องลดแรงปะทะให้หนักเป็นเบาลง ซึ่งวิธีการลดแรงปะทะหรือแก้นั้น ท่านซิงแสแนะนำไว้ให้ทำได้ 2 อย่างคือ

    1ใช้อุปกรณ์เป็นตัวแก้(ใช้เหรียญหรือล็อคเก็ตมาช่วยรับแรงปะทะ)
    2 ใช้บุคคลเป็นตัวแก้(หาบุคคลที่มีปีเกิดนักษัตรตามตำรามาแก้ชงเนื้อหารายละเอียดในเรื่องแก้ชงนี้มีค่อนข้างมากคงไม่สามารถแจงในwebนี้ได้)

    แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่คนนิยมทำกันมากคือการไปทำบุญ[​IMG]ถวายสังฆทาน(ตามความเชื่อของไทย)ร่วมกันในทุกๆครบรอบวันแต่งงานหรือครบรอบวันเปิดกิจการร้านค้า(ที่เป็นหุ้นส่วนกัน) อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อุทิศส่วนบุญกุศลที่กระทำให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเพื่อเปิดทางให้มีความสุขในด้านชีวิตคู่หรือเกิดความเจริญรุ่งเรืองในเรื่องคู่ ซึ่งรวมทั้งการเป็นคู่หุ้นส่วนธุรกิจด้วย แต่อีกนัยความเชื่อหนึ่งของคนจีนนิยมให้ไป ไหว้เทพเจ้าแห่งดวงชะตา
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หยก ๑๒ นักษัตรฝีมือช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ถ่ายใหม่อีกครั้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010439.JPG
      P1010439.JPG
      ขนาดไฟล์:
      203 KB
      เปิดดู:
      145
    • P1010440.JPG
      P1010440.JPG
      ขนาดไฟล์:
      217.6 KB
      เปิดดู:
      126
    • P1010441.JPG
      P1010441.JPG
      ขนาดไฟล์:
      219.6 KB
      เปิดดู:
      312
    • P1010442.JPG
      P1010442.JPG
      ขนาดไฟล์:
      201.1 KB
      เปิดดู:
      124
    • P1010443.JPG
      P1010443.JPG
      ขนาดไฟล์:
      215.2 KB
      เปิดดู:
      117
    • P1010444.JPG
      P1010444.JPG
      ขนาดไฟล์:
      196.6 KB
      เปิดดู:
      103
    • P1010445.JPG
      P1010445.JPG
      ขนาดไฟล์:
      211.5 KB
      เปิดดู:
      114
    • P1010446.JPG
      P1010446.JPG
      ขนาดไฟล์:
      211.4 KB
      เปิดดู:
      124
    • P1010447.JPG
      P1010447.JPG
      ขนาดไฟล์:
      198.9 KB
      เปิดดู:
      120
    • P1010448.JPG
      P1010448.JPG
      ขนาดไฟล์:
      226.3 KB
      เปิดดู:
      110
    • P1010449.JPG
      P1010449.JPG
      ขนาดไฟล์:
      214.3 KB
      เปิดดู:
      122
    • P1010450.JPG
      P1010450.JPG
      ขนาดไฟล์:
      210.2 KB
      เปิดดู:
      107
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ปี 2551 (ตามแบบสากล) ผมขออาราธนาพระบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย ,พระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ,พระบารมีพระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระบารมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,พระบารมีพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดจงดลบันดาลให้ทุกๆท่าน มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์และแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ในสิ่งที่ทุกๆท่านคิด ,กระทำการต่างๆในสิ่งที่ดี,ที่งาม,ที่ถูกต้อง ขอให้ประสบกับความสำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ ทุกๆประการตลอดปีและตลอดไปด้วยเทอญ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    หยก ๑๒ นักษัตรฝีมือช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    งดงามเกินห้ามใจ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...