หลวงพ่อตอบปัญหา...การรักษาศีล โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 11 กรกฎาคม 2009.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    ปัญหาการรักษาศีล

    คำสมาทานศีล
    ผู้ถาม “กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ การสมาทานศีลมี “วิสุง” กับไม่มี “วิสุง” จะต่างกันอย่างไรขอรับ?
    หลวงพ่อ “คงไม่เหมือนกัน ต่างกันที่สุงกับไม่สุง...(หัวเราะ) แต่ความเป็นจริงคำว่า “วิสุง” เขาแปลว่า “ส่วน” นะ ขอรับแยกเป็นส่วนๆ ปาณา...ก็ปาณา อทินนา...ก็อทินนา ถ้าไม่วิสุงละขอรับรวดทั้ง ๕ หรือ ๘ ข้อ ทั้งนี้ตามคำอธิบายของคณาจารย์ ถ้าแยกเป็นส่วนจะขาดเป็นตัว ถ้าไม่แยกส่วน ตัวอื่นขาด ก็จะขาดหมดด้วย
    ความจริงคณาจารย์ไม่รู้จริง จริงๆถ้าเราละเมิดตัวไหน ก็ขาดเฉพาะข้อนั้น จะว่าวิสุงหรือไม่วิสุงก็ตาม ไอ้ตัวที่ยังไม่ละเมิดก็ยังไม่ขาด นี่ฉันอ่านหนังสือที่เขาเขียนย่อๆเล่มเล็กๆ น่ะ บังเอิญอ่านเมื่อเป็นเด็ก คือว่าไปตามวัด เดี๋ยวนี้ก็วิสุง...เดี๋ยวก็ไม่วิสุง...ฉันก็แปลกใจ”


    รักษาศีลแล้วยังไม่รวย

    ผู้ถาม “หลวงพ่อเจ้าขา ความจริงลูกไม่อยากค้านหลวงพ่อหรอก เพราะรู้ว่าหลวงพ่อมีปัญญามาก ฉลาดในการสอน แต่วันนี้ขอถามแกมประท้วงสักนิดหนึ่ง ในคำสอนที่หลวงพ่อว่า มีศีลแล้วจะร่ำรวย มีเงิน ไม่เป็นหนี้ มีโชคมีลาภ แค่รักษา ๕ แต่ไม่พอใจเดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น ๘ มันก็ยังจนเหมือนเดิม”
    หลวงพ่อ รักษามากี่ปี?
    ผู้ถาม ๒ ปี...
    หลวงพ่อ โธ่เอ๋ย! ก็ซวยมากี่ปี ศีลขาดมากี่ปี มันคุ้มกันหรือ...คือว่ารักษาศีลจริงๆ แค่ศีล ๕ น่ะ ๑.ค่าเหล้าไม่เสีย ๒.ค่าเจ้าชู้ไม่เสีย ๓.ค่าม่านรูดไม่เสีย...(หัวเราะ)
    ผู้ถาม เอ๊ะ ไหนว่าพระอยู่วัดอยู่วา ไม่รู้อีโหน่อีเหน่?
    หลวงพ่อ พระน่ะท่านไม่รู้ แต่ฉันรู้ มีคนไปพูดให้ฟัง เลยไม่ขี้ร้อนไม่ต้องไปอาบน้ำตามห้อง...(หัวเราะ) เรื่องที่ไม่เสียมีเยอะแยะ ทรัพย์ก็ดีขึ้น ไอ้ใจร้ายไปฆ่าเขาไปตีเขา ทะเลาะกับเขาก็ไม่มี แม้แต่ติดคุกติดตะราง ไม่ต้องเสียสตางค์ นี่ถ้ารักษามาตั้งแต่เกิดนะ ป่านนี้รวยนานแล้ว แกรักษามากี่วันนี่ ขาดทุนมากี่ปี...?

    ฆ่าผัวตาย

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างยิ่ง กระผมข้องใจเรื่องศีลข้อ ปาณาติบาต กับข้อ คุณธรรม เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ขอรับ สามีป่วยหนักด้วยโรคร้ายทรมานเป็นอย่างมาก บอกเมียฆ่าให้ตาย เพราะทรมานเหลือเกิน เมียด้วยความเตตาผัวก็เลยดึงสายอ๊อกซิเจนออก ปรากฏว่าผัวเรียบร้อยทันที
    ทีนี้ผลจะพึงได้ คือเมียถูกข้อหาว่า เจตนาฆ่าผัวให้ตาย แต่ที่จะถามก็คือว่าอย่างนี้ ทำด้วยจิตเมตตาธรรมกับเขา อย่างนี้จะมีผลบุญผลบาปกับภรรยาอย่างไรหรือเปล่าครับ?
    หลวงพ่อ เขาไม่มีโทสะนะ เขาไม่โกรธ ผลบาปที่เป็นปาณาติบาตไม่มี เจตนาในการฆ่าไม่มี ศีลจะขาดได้ต้องตั้งใจเพื่อฆ่า และฆ่าได้สมหวัง ฉะนั้นไม่ขาดจริงข้อนี้นะ
    ผู้ถาม มีเมียอย่างนี้ก็ชื่นใจนะ แป๊บ...เมื่อไรก็จัดการ ชักใจไม่ค่อยดีเสียแล้วซิ
    หลวงพ่อ เราไม่ได้สั่งไม่เป็นไร อย่าไปแกล้งพูดประชดเขานะ เขาเอาจริงๆนะ (ให้อ่านหัวข้อ ช่วยสงเคราะห์กระต่าย เปรียบเทียบด้วย-ผู้พิมพ์)

    ถ้าลูกจะทำกับพ่อบาปไหม

    ผู้ถาม ลูกอยากถามหลวงพ่อเจ้าคะ คือผู้ป่วยที่อาการต้องตายแน่ มีเครื่องช่วยหายใจอยู่ แพทย์เขาสั่งให้เอาเครื่องช่วยหายใจออก เมื่อเอาออกแล้วเขาตาย จะบาปไหมคะ?
    หลวงพ่อ คนจะตายจะบาปยังไง ไม่ได้ฆ่าให้ตาย นั่นเครื่องช่วยหายใจ ถึงขืนช่วยไปก็ไม่ไหวแล้วเขาก็ต้องตาย ก็ไม่มีความสำคัญ คำว่าบาปก็ไม่มี ไม่ใช่ถ้ายังช่วยอยู่มีหวังจะฟื้นเราแกล้งเอาออก ไอ้นั่นจึงจะบาป เพราะมีเจนานะ และไอ้การที่จะบาปนี่ ต้องมีการตั้งใจกลั่นแกล้ง หรือทำให้ตาย
    ผู้ถาม หลวงพ่อครับ ถ้าอย่างนี้ ถ้าเกิดเป็นลูกกระทำ ถือว่าเป็น อนันตริยกรรม ไหมครับ?
    หลวงพ่อ เขาไม่บาป คุณฟังให้ดี...อย่าโง่ เรื่องไม่บาปก็ไม่เป็นอนันตริยกรรม ตัดคำว่าบาปนั้น ไม่มีเสียแล้ว เวลาฟังคำพูดต้องคิดตามเขาพูดเรื่องไหน จำหัวข้อคำพูดไว้
    หลวงพ่อ เอ้า...หมวด มีอะไรคุยไหมล่ะ เดี๋ยวต้องถามตำรวจยิงผู้ร้ายตายบาปไหม...บาปไม่บาป?
    ผู้ถาม บาปครับ
    หลวงพ่อ ฉันถามว่าตำรวจยิงผู้ร้ายตาย ฉันไม่ได้ถามว่าตำรวจยิงผู้ร้ายเฉยๆ (หัวเราะ) สอบตกแล้ว ผู้ร้ายมันตายแล้ว ไอ้นี่งานก็งาน การปราบปรามผู้ร้าย ถ้าเป็นผู้ร้ายจริงเขาจำเป็นต้องยิง ยิงให้ตายใช่ไหม ถ้าถามว่ามีโทษไหม...ต้องตอบว่ามีโทษ ถ้าถามว่าโทษทำบาปหนักไหม...ต้องตอบว่าไม่หนักมันมีนิดเดียวเพราะกำลังบาปนี่ไม่เท่ากัน ถ้าคนที่มีคุณมาก เราฆ่า...มีโทษมาก คนที่มีคุณน้อย เราฆ่า...มีโทษน้อย ไอ้คนจัญไรประเภทนั้นมันไม่มีคุณเลย แต่ว่าดับคนประเภทนั้นไปได้คนหนึ่ง คนอีกกี่คนที่มีความสุข
    ถ้าถามบาปมากไหม...คนเหมือนกันมันบาปไม่เท่ากัน หมวดนะ อย่างฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ นี่ไม่ต้องห่วงหรอกลงอเวจีดิ่งเลยใช่ไหม ถ้าฆ่าคนที่มีคุณน้อยไปกว่านั้น ยังไม่ถึงขั้นอเวจี และฆ่าคนที่มีคุณน้อยกว่านั้นอีก ก็เบากว่านั้นอีก ถ้าฆ่าคนจัญไรแบบนั้น มันมีบ้างเหมือนกัน มันแค่มีบ้างนะโยมนะ
    แต่ว่าทีนี้ถ้าตำรวจทำด้วยเจตนาดีคิดว่า ถ้าทำลายคนประเภทนี้เสีย คนอีกหลายแสนคนจะมีความสุข เพราะถ้าคนคนนี้อยู่คนเดียว มีความทุกข์ใช่ไหม บุญส่วนนี้เขามี บาปส่วนนั้นเขามีนิดเดียว นี่พูดกันตรงไปตรงมานะ จะคิดว่ายิงคนเหมือนกัน มีโทษเท่ากันนั้น...ไม่เท่า ก็ว่าตามธรรมนะ (ให้อ่านหัวข้อ ช่วยสงเคราะห์กระต่าย เปรียบเทียบด้วย-ผู้พิมพ์)

    ช่วยสงเคราะห์กระต่าย

    ผู้ถาม กราบหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ข้าพเจ้า สิริ ขออุทิศทั้งหมดที่เป็นกุศลของลูกมาให้กับหลวงพ่อ และขอแบ่งสักครึ่งหนึ่ง ที่ขอแบ่งคือย่างนี้ คือว่าตอนนั้นหมามันกัดกระต่ายตัวหนึ่ง ใกล้จะตาย ผมเห็นเข้าก็เลยเกิดสงสาร เห็นมันเวทนามาก ก็เลยบอกว่า ฉันสงสารแกนะ ฉันจะสงเคราะห์แกนะ เอาไม้ตะบองตีปั๊ก...ตายไปเลย
    ทีนี้ผมก็อุทิศส่วนกุศลไปแล้ว แต่มาข้องใจหน่อยหนึ่ง คือว่าการที่เรามีเมตตา ช่วยสงเคราะห์ให้เขาตายสะดวกขึ้นนี้ จะถือว่ามีบาปมีกรรมมีเวรหรือไม่ขอรับ?
    หลวงพ่อ ไม่ต้องถือ...มีแหง ไปช่วยมันตายเร็ว ควรจะประคับประคอง หายหรือไม่หายหรือตาย เราช่วยดีกว่า ช่วยรักษานะ ไอ้นี่แสดงว่าถ้าป่วยแหงกๆๆๆ มันไม่ทันตาย พวกฉีดยาให้ตายไปเลยนี่

    ทำหมันแมว

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ความจริงลูกไม่อยากจะรบกวนหรอกเพราะปฏิบัติตามธรรมะของหลวงพ่อมาด้วยดีตลอด เช่น เมตตา เป็นต้น ทีแรกก็เก็บแมวข้างรั้วมาเลี้ยงไว้ด้วยความเมตตา บัดนี้มันแข็งแรงสมบูรณ์ และได้ขยายพืชพันธุ์เป็นการใหญ่ (ออกลูกเยอะแยะ) แต่ลูกไม่ว่าอะไรหรอก แต่เกรงว่าลูกจะเกิดมาเดือดร้อน ลูกก็เลยเอามันไปฉีดยาทำหมัน ก่อนจะฉีดยาทำหมันลูกได้บอกว่า เอ็งจะมีทุกข์มาก ฉันจะแก้ทุกข์ให้เอ็งน่ะ อย่าเอาเวรเอากรรมนะ ลูกก็เลยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาอีกวาระหนึ่ง ถ้าหากจะมีกรรมใด ก็ขอให้หลวงพ่อได้โปรดอโหสิกรรมด้วยเถิดเจ้าค่ะ (เอ๊ะ! ไปเกี่ยวอะไรกับหลวงพ่อ)
    หลวงพ่อ ถ้าจะเห็นว่าฉันเป็นแมว...(หัวเราะ) เป็นพระแท้ๆ เห็นเป็นแมวไปได้ เป็น “หลวงปู่แมว” ใช้ได้ไม่เป็นไร ไม่บาป ทำหมันนี่ไม่บาป คือกันไม่ให้เกิด ไม่ใช่ฆ่าสัตว์ ไม่ใช่มาเกิดแล้วฆ่าจึงจะบาป นี่กันไว้
    ผู้ถาม อ้อ...แล้วประเภทกินยากันไว้ก่อน ก็ไม่บาป?
    หลวงพ่อ ไม่บาป

    อยู่สำนักงานทำแท้ง

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ลูกทำงานที่สำนักงานทำแท้งแห่งหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ มีรายได้ดีพอสมควร หนูเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการรับเงิน ลูกชักใจไม่ดีนัก เพราะมีหุ้นส่วนกับเขาด้วย ขอพึ่งบารมีถามหลวงพ่อว่า ลูกจะมีบาปมีกรรมขึ้นบัญชีพระยายมหรือไม่...ข้อสอง เอาเงินเดือนจากการทำแท้ง มาทำบุญกับหลวงพ่อจะช่วยได้ไหมคะ
    หลวงพ่อ เข้าท่าๆ แหม...ฟังตั้งนาน คิดว่าจะบอกยังงี้เหมือนกัน จิตใจเกาะบุญไว้ พระพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิใครเรื่องอาชีพนะ อย่างกับ ลูกศิษย์พระสารีบุตร พระพุทธเจ้าก็รับ และยังแนะนำพระสารีบุตรไปสอนอภิธรรมเพราะชาติก่อนเคยฟังพระอภิธรรมมา พอฟังอภิธรรมย่อๆ จบ ก็เป็นอรหันต์ทั้งหมด ฉะนั้นอาชีพก็ส่วนอาชีพ เรื่องบุญก็เป็นบุญไปแต่ว่าจิตอย่าไปเกาะอาชีพประเภทนั้น เกาะบุญอย่างเดียว มีงานเราถือว่าทำตามหน้าที่นะ หมดเรื่องหมดราวไป
    ผู้ถาม หลวงพ่อตอบแบบนี้ ค่อยสบายใจหน่อย ไม่เช่นนั้นละอึดอัดๆ
    หลวงพ่อ เรื่องของพระพุทธเจ้าท่านไม่เคยตำหนิใคร ท่านก็รับทุกด้าน อย่าง ตัมพทาฐิกโจร เห็นไหม...โจรเคราแดงฆ่าคนมาเกินหมื่นคน พอพบพระสารีบุตรเข้า พระสารีบุตรท่านไม่พูดเรื่องฆ่าคน ทีแรกพอกินข้าวเสร็จใช่ไหม... ท่านก็เทศน์เรื่องปาณาติบาตเลย ฆ่าคน ฆ่าปลา ฆ่าสัตว์ ตกนรกขุมไหนว่าเรื่อย ตัมพทาฐิกโจรเหงื่อแตกพลั่กๆ พอเทศน์ไปถึงครึ่งกัณฆ์ พระสารีบุตรท่านฉลาด ท่านเทศน์ไปท่านชำเลืองดูไปเห็นตานั่นเหงื่อแตก ถามโยมไม่สบายหรือ
    ตัมพทาฐิกโจรบอก จะสบายยังไงครับ ที่พระคุณเจ้าเทศน์มาผมเรียยร้อยหมดทุกขุมเลย ท่านก็เลยถามว่า โยม...โยมฆ่าคนตายใครเขาใช้หรือฆ่าเอง บอกพระราชาใช้ให้ฆ่า พระสารีบุตรท่านฉลาดกว่า ท่านถามว่า โยม...สมมุติว่าโยมเป็นลูกจ้างเขา นายจ้างเขามีนา ๑๐๐ ไร่ เขาใช้ให้โยมทำ เมื่อได้ข้าวในนาเสร็จ ผลของข้าวทั้งหมดจะเป็นของโยม หรือจะเป็นของนายจ้าง...?
    โยมก็บอกว่าเป็นของนายจ้างขอรับ นี่ท่านฉลาดกว่า ท่านก็เลยถามว่า พี่พระราชาให้ฆ่า บาปตกอยู่กับใคร อีตานั่นแกโง่ แกนึกว่าบาปตกกับพระราชา พระสารีบุตรเทศน์อานิสงส์ทานเลย เป็นพระโสดาบันเดี๋ยวนั้น
    ผู้ถาม โอ...เหงื่อแตกเลยนะ
    หลวงพ่อ ไอ้เหงื่อแตกน่ะ เป็นน้ำอาบชำระร่างกายให้สะอาด ชำระถึงจิตใจข้างในเลย

    เตี่ยมีอาชีพฆ่าหมู

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนที่เตี่ยของลูกมีชีวิตอยู่ เตี่ยก็มีอาชีพในการฆ่าหมูและก็เอาไปขาย ทีนี้ตอนที่แกแก่ๆ แก็รู้ตัวทำบุญเป็นการใหญ่ เวลาจะใส่บาตรทุกครั้ง แกจะยกมือไหว้พระสงฆ์ก่อน ทีนี้ตอนแก่ๆมีคนเขาบอกว่าตายแล้วจะไปตกนรก แกก็เลยใส่บาตรทุกวัน ก่อนจะใส่บาตรแกยกมื้อไหว้พระ แกจะท่องคาถานี้เป็นประจำ ตัวแกจะรู้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ
    แกว่าอย่างนี้... “นะโม ตะสะ นะโม ตะสะ” แล้วก็ใส่บาตรใส่ทัพพีหนึ่งก็ว่า “นะโม ตะสะ” ใส่ทัพพีที่สองก็ว่า “นะโม ตะสะ” ทีนี้ตอนตาย แกเห็นยมทูตมาแกก็บอก “นะโม นะสะ” ปรากฏว่ายมทูตเผ่นไปเลย”
    หลวงพ่อ ขนาดนั้นเขาไม่อยู่แล้ว อย่างนั้นจิตเป็นกุศล เขาไม่อยู่แล้ว เขาไม่เอาไป คือ ถ้ายมทูตมานี่ ยังไม่แน่จะลงนรกนี่ เขาต้องไปสอบสวนกันก่อน ทีนี้ถ้าแกนึก “นะโม ตะสะ” ได้ พระยายมก็ปล่อย ในเมื่อแกว่าตอนนั้น ไม่ต้อง ปล่อยให้ไปเลย... สวรรค์ทันที
    ผู้ถาม แค่นี้ก็ไปแล้วหรือครับ?
    หลวงพ่อ ไม่ใช่แค่นี้นะ...หลายแค่
    ผู้ถาม ไอ้ที่แปลกใจ ไอ้หมูเหมอ ไม่มากวนตอนนั้นนะ “นะโม ตะสะ” นี่สามารถป้องกันได้หรือครับ...หลวงพ่อ
    หลวงพ่อ ในเมื่อกุศลเข้าดลใจ อกุศลเข้าไม่ได้

    นึกถึงบุญไม่ออก

    ผู้ถาม บางทีมันเพี้ยนไป นึกถึงบุญไม่ออกครับ
    หลวงพ่อ เป็นธรรมดา บางครั้งอารมณ์มันดี อย่างนี้จริงๆ เหมือนกันทุกคนนะ... เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะบุคคลบางครั้งมันจะนึกถึงบุญไม่ออกก็มี ฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงสอนเจริญพระกรรมฐาน ฝึกจิตให้ชินไง ใช่ไหม... ฝึกจิตให้ชิน คือจับอันดับแรก พระพุทธเจ้าต้องเอาก่อน อารมณ์มันชิน คำว่า “ฌาน” ก็คือจะได้ไม่ลืม ถ้าเราปล่อยเละละเดี๋ยวมันก็เผลอ พอบาปเข้าสิงปั๊บมันจะตัดเราลืมเลย
    ทีนี้วิธีที่ท่านสอนแบบนี้กันบาปเข้าแทรก วิธีฝึกกรรมฐานเขาฝึกให้ชินกันบาปเข้าแทรกเวลาที่เราจะตาย บาปมันจะแทรกไม่ได้ ทำบุญอย่างอื่นหนักขนาดไหนก็ตาม แต่จิตมันยังไม่แน่นอนนัก เราจะตายบาปเข้าแทรกได้ เราจะลงนรกได้ ถึงบอกว่าทำจิตให้เป็นฌานทำให้ทรงตัว คำว่า ฌาน ก็คือ อารมณ์ชิน มันนึกได้เรื่อยๆใช่ไหม การนึกถึงพระพุทธเจ้าได้เรื่อยๆ น่ะ คือ ฌาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2009
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    สามีฆ่าตะขาบตาย

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา สามีของลูกเพิ่งแต่งงาน มีลูก ๑ คน ๑ ขวบ สามีของลูกเป็นคนใจดีมาก ใจบุญสุนทานพอสมควร แต่เมื่อเดือนที่แล้ว แกไปเห็นตะขาบในห้องลองเสื้อ แกตีจนตาย ตายแล้วแกก็มีจิตข้องอยู่ในสิ่งนั้น แกไม่สบาย รุ่งขึ้นไม่กี่วัน มอเตอร์ไซด์ ของตำรวจขี้เมาชนโป้ง ไปตายที่โรงพยาบาลตำรวจ ลูกสงสัยว่า คนอื่นเขาฆ่าสัตว์ตายมากมาย ไม่ต้องอายุสั้น แต่ว่า สามีของลูกฆ่าตะขาบเพียงครั้งเดียว ตัวเดียว ทำไมจึงอายุสั้นเจ้าคะ
    หลวงพ่อ อย่าลืมว่าตะขาบมันมีตีนกี่ตีน?
    ผู้ถาม โอ้โฮ คิดทีละตีนหรือนี่
    หลวงพ่อ (หัวเราะ) อย่าลืมนะ ไก่มี ๒ ขา ตะขาบมีกี่ขา นี่ฉันตอบนอกบาลีนะ แต่ว่าถ้าในบาลีถือว่า เป็นกฎของกรรมเก่า เพราะว่าเขามีวาระมาเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นก็เป็นเหตุให้ต้องตาย นี่เป็นเรื่องธรรมดา

    กรรมกำพร้าสามี

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง สามีของลูกชื่อ นายธเนศ แซ่ด่าน ตายเมื่อวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๓๓ ก่อนจะตายนี่ได้มีโอกาสถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ ๕๐๐ บาท ทีนี้ที่จะกราบเรียนถามก็คือว่า การที่ลูกเกิดมาสามีต้องตายยังหนุ่ม การที่ลูกเป็นสาวต้องกำพร้าสามี กรรมประเภทนี้ทำมาจากอะไรเพื่อไม่ให้กำพร้าต่อในชาติหน้า ขอหลวงพ่อเมตตาแนะวิธีอย่าให้พลัดพรากจากกัน ตั้งแต่วัยยังหนุ่มยังสาวเลยเจ้าค่ะ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ซิ รักษาพรหมวิหาร ๔ ไว้ เมตตาความรัก กรุณาความสงสาร มุทิตาจิตอ่อนโยน ไม่อิจฉาริษยาใคร พลอยยินดีด้วยนะ อุเบกขา วางเฉย เอาอย่างนี้อย่างเดียว ก็พอ เมตตาอย่างเดียวก็พอ
    ผู้ถาม แล้วประเภทที่ว่าเช้าตุ๊บ...เย็นตุ๊บ
    หลวงพ่อ อ๋อ...นั่นนักมวยเก่า (หัวเราะ) เขาซ้อมมวยกัน

    ต้มไข่อย่างไรไม่บาป

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ความจริงไม่อยากถามหลวงพ่อ แต่ความจำเป็นบังคับ จึงต้องถามเจ้าคะ คือว่า เพิ่งเริ่มขายของมา ๓-๔ วัน ลูกขายสลัดต่างๆ ที่สำคัญคือ จะต้องมี ไข่ต้มด้วย ทีนี้ที่ไม่สบายใจก็เพราะว่า ไม่รู้ว่าการต้มไข่นี้จะบาปหรือไม่ และวิธีต้มแล้วไม่บาปจะเป็นประการใด ถ้าหลวงพ่อห้าเมื่อไหร่ ลูกจะเลิกขายทันที เพราะลูกนับถือหลวงพ่อเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่าตรงไปตรงมานะ ไข่ถ้ามันฟักไม่เป็นตัวเราก็ไม่บาป ถ้าฟักเป็นตัวเราจึงจะบาป นี่เราสังเกตไม่ได้ ลองศึกษาดูก็แล้วกัน
    ผู้ถาม ก็ลำบาก ก็มีทางที่หลวงพ่อว่า ไข่เจ้าคะ ไข่เจ้าขากรุณาฉันเถิด
    หลวงพ่อ (หัวเราะ) เอาอย่างนี้ซิ ไอ้ฟาร์มไหนที่เขาเลี้ยงไก่โดยที่เขาไม่ผสมกับตัวผู้มันมีไหม ไก่ที่เขาเลี้ยงน่ะ ที่เลี้ยงไว้คัดเฉพาะตัวเมียเป็นราวๆ เป็นช่องๆ ไม่มีตัวผู้ผสม ถ้าไม่มีตัวผู้ผสมอันนี้คงจะไม่เป็นตัว ถ้าไข่ที่ฟัก ไม่เป็นตัวนี่มันไม่บาป นี่เราพูดตรงไปตรงมานะ

    สมัยก่อนไม่กลัวบาปกรรม

    ผู้ถาม เมื่อสมัยก่อนลูกไม่กลัวบาปกลัวกรรมเท่าไร เพราะว่าห่างไกลจากศาสนา พอมาเป็นศิษย์หลวงพ่อ แล้ว ทำอะไรก็กลัวบาปกลัวกรรมไม่หมด
    หลวงพ่อ ก็เหมือนหลวงพ่อนั่นแหละ ใหม่ๆ ก็ไม่กลัวบาปเหมือนกัน ไม่ใช่ดีวิเศษนักหรอก โอ้ย ใครจะดีมาแต่ท้องแม่เล่า เหมือนกันทุกคน ดูตัวอย่างองคุลีมาล ซิ ท่านฆ่าคนตั้งพันคนกว่า เห็นไหมล่ะ...ครั้นต่อมาฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้า จบเดียว ไม่ช้าเป็นพระอรหันต์
    อย่าง ตัมพทาฐิกโจร ฆ่าคนเกินหมื่นคน ฟังเทศน์จาก พระสารีบุตร เพียงครึ่งกัณฑ์เป็นพระโสดาบัน นี่ถ้าจิตไม่ตามนึกถึงนะ นึกถึงความดีข้างหน้า ก้าวหน้าแล้วไม่ถอยหลัง เป็นอย่างนี้บาปตามไม่ทัน ฝึกลืมซะตั้งใจนิพพานอยู่ที่ไหน เราจะไปที่นั่น

    เลี้ยงโคเนื้อขาย

    ผู้ถาม กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ปรกติผมทำงานไปรษณีย์ แต่จำเป็น ต้องเลี้ยงโคเนื้อขาย แต่มีความตงิดใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ทำอาชีพอย่างนี้จะมีบาปหรือไม่...และจะเป็นการตัดรอนขวางกั้นพระนิพพานชาตินี้หรือเปล่าขอรับ?
    หลวงพ่อ ไอ้เรื่องตัดพระนิพพานนี้ ฉันไม่ตอบดีกว่า เพราะไม่แน่นี่คนที่ทำบาป บางทีบาปมาจากการจองเวรจองกรรมกัน ถ้าบังเอิญชำระได้บาปก็สลายตัวไปนิพพานได้ อย่างท่าน องคุลีมาล ฆ่าคนพันกว่านะ ความจริงมันเป็นอย่างนี้ ท่านฆ่ามาก่อน แต่ไม่มีนิ้วเป็นประกัน ฆ่าไปฆ่ามาก็ลืม ไม่รู้ฆ่ามาแล้วกี่คน ทีนี้เอาใหม่ ถ้าได้ ๑ คน เอา ๑ นิ้ว ได้ ๙๙๙ นิ้ว
    ทีนี้ในขณะที่ท่านทำบาป ตอนท้ายก็ได้มาพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกว่า “ตถาคตหยุดแล้ว เธอยังไม่หยุดจากบาปกรรมธรรมอันลามกอีกหรือ?” ท่านได้สติโยนดาบทิ้ง โยนพวงนิ้วมือทิ้งเสยผมให้ดี แล้วเปลื้องผ้าที่หยักรั้ง เข้าไปกราบพระพุทธเจ้าขอบวชแล้วก็เป็นพระอรหันต์ มันไม่แน่นะ ที่พูดอย่างนี้เพราะตัวอย่างนี้นั้นหมายถึงบาปที่มีการจองเวรจองกรรมกัน


    สนับสนุนฆ่าไก่

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ที่บ้านลูกชอบมีคนมาอาศัยโทรศัพท์ เพื่อพูดติดต่อกิจการงานบ่อยๆ อันนี้ลูกก็ถือว่าเป็นการสงเคราะห์ เพื่อความสะดวกของเขา มีรายหนึ่ง แกชอบพูดติดต่อเกี่ยวกับเรื่องไก่ ขายไก่แล้วก็ส่งเข้าโรงงานเอาไปฆ่าทีละเป็นจำนวนมากๆ อยากจะเรียนถามว่า ลูกจะบาปหรือไม่ ไปสนับสนุนให้เขามีการซื้อไก่ขายไก่ฆ่าไก่?
    หลวงพ่อ หวาน...หวานพระยายม สนับสนุนก็เหมือนกับทำเอง มีการรวมกัน “เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าการตั้งใจเป็นตัวกรรม”
    ผู้ถาม อย่างสมมุติว่า เราไม่สนับสนุน ปล่อยตามเรื่องตามราวของเขา
    หลวงพ่อ ก็ปล่อยเขาไป เขาพูดก็พูดไป เราแค่รับฟัง หมดเรื่องหมดราวไป
    ผู้ถาม มีวิธีหลบได้นะ
    หลวงพ่อ ไม่ใช่หลบ ตรงไปตรงมา รับฟังเฉยๆ ว่าดีไหม ตามใจเห็นดีก็ทำเถอะ
    ผู้ถาม เป็นอันว่า...ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็แล้วกันนะ เอาแต่ค่าโทรศัพท์ก็พอแล้ว

    ส่งกุ้งและปลาเป็น

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ในการที่สั่งอาหารตามร้านค้า บางทีเขาก็เอาปลาเป็นๆบ้าง กุ้งเป็นๆบ้าง แต่เวลาก่อนสั่ง ผมก็อธิษฐานอย่างนี้ว่า ผลบุญอันใดที่ได้ทำมาแล้วแต่ในอดีต ก็อุทิศให้ล่วงหน้า แต่ว่าถ้าเป็นอาหารตายมาแล้ว ก็อโหสิกรรมซึ่งกันและกันเทอญ
    หลวงพ่อ นี่ไปอ่านเรื่องไก่เสียให้ดี ไม่ตอบละ ตอบยังไง ล่อเขาไปแล้ว เรื่องบาปก็เป็นบาป บุญก็เป็นบุญ


    ขโมยเงินสามีมาทำบุญ

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมาก็นานแล้ว ยังไม่เคยรบกวนอะไรเลย วันนี้ก็ขอรบกวนเล็กๆน้อยๆ
    หลวงพ่อ วันนี้ไม่ขอรบกวนขอปรึกษานิดหน่อย
    ผู้ถาม คือว่าขณะนี้ลูกมียักษ์ตนหนึ่งเข้ามาสิงในใจของลูก ลูกรู้เหมือนกันว่าไอ้ยักษ์ตนนี้คืออะไร คือเป็น “ยักยอก” คืออย่างนี้เจ้าค่ะ
    หลวงพ่อ อย่างนี้เขาดี คนที่เปิดเผยความจริงก็เป็นคนดี ถ้าไม่ดีเขาไม่กล้าเปิดเผยความเป็นจริง เอ้า ! ว่าต่อไป
    ผู้ถาม ก็คือว่าปรกติเป็นอย่างนี้เจ้าค่ะ ลูกชอบยักยอกเงินของสามี เอมาทำบุญกับหลวงพ่อ บูชาพระ ถวายส่วนองค์บ้าง อย่างนี้เป็นต้น ก็จะเรียนถามหลวงพ่อว่า ๑. ศีลของลูกจะขาดไหม ๒. ลูกจะมีโอกาสไปสวรรค์ครึ่งนรกครึ่งหรือเปล่า เพราะบุญก็ได้ขโมยก็มี?
    หลวงพ่อ ฉันว่าไม่ใช่อย่างนั้นนะ เขาไปสวรรค์ด้วย แล้วจะได้ บริวารด้วย ได้สามีเป็นบริวาร เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่า สตางค์ของสามีแต่ภรรยามาทำบุญ สามีมีส่วนได้ก็ไปเป็นบริวาร คือไปเป็นสามีใหม่
    ผู้ถาม นึกว่าจะไปไหน
    หลวงพ่อ ไม่ได้ไปไหน ตามเขาไป เขาได้นะ
    ผู้ถาม ทีนี้ว่าจะผิดศีลหรือเปล่าครับ?
    หลวงพ่อ ไม่ผิดๆ สามีภรรยาคนเดียวกัน

    เอาของหลวงที่เหลือมาใช้ส่วนตัว

    ผู้ถาม กระผมขอปรึกษากราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมเป็นข้าราชการในสถานที่แห่งหนึ่ง วันที่เขาเบิกพัสดุไปไว้ ก็ปรากฏว่าเมื่อเหลือแล้ว จะเอามาเข้าคงคลัง เจ้าหน้าที่บอกว่า แทงบัญชีไว้จำหน่ายจ่ายไปหมดแล้ว ให้ไปใช้ได้เป็นส่วนตัว กระผมไม่สบายใจเพราะว่าเป็นของหลวง คิดว่าจะเอาถวายวัดจะดีกว่า จะได้ไม่มีกรรมไม่มีเวรซึ่งกันและกัน เรียนถามหลวงพ่อว่า ผมจะทำอย่างนี้จะถูกหรือไม่ครับ?
    หลวงพ่อ ก็ถูก...คนเฝ้าเขาให้แล้วนี่ ก็เรื่องคนนั้น

    เล่นหุ้น

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกได้เล่นหุ้นมาเป็นเวลาช้านานแล้ว ก็ปรากฏผลว่าเป็นที่น่าพอใจ มีกำไรลูกเดียวไม่เคยขาดทุน แต่ทนไม่ได้ที่จะสงสัยในฐานะเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อว่า การเล่นหุ้นนี่จะผิดศีลหรือไม่ครับ?
    หลวงพ่อ ไม่ผิด ไม่ผิดหรอก...ไม่ผิด ไม่มัวหมอง
    ผู้ถาม แล้วลูกนำเงินจากกำไรมาถวายหลวงพ่อ ถวายสังฆทาน ถวายส่วนตัว ก็
    หลวงพ่อ โอ๊ย ! มีอานิสงส์ ๑๕๐ เปอร์เซ็นต์ เล่นหุ้นเขาตรงไปตรงมานี่ ซื้อขายธรรมดา
    ผู้ถาม เอากำไรมาทำบุญได้ผลสมบูรณ์แบบ

    หลวงพ่อ สมบูรณ์เต็มอัตรา


    ถูกล้วงกระเป๋าเป็นนิจ



    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง หลวงพ่อขา
    หลวงพ่อ นี่....ไม่มีแต่ขา แขนก็มีนะ (หัวเราะ)
    ผู้ถาม อ๋อ...คือว่าทำไมคะ ชีวิตของลูกมันกรรมหนักเหลือเกิน ทำบุญก็มาก ทำมาตั้งแต่อายุ ๓๐ กว่าแล้วนะ ขณะนี้ก็ ๖๐ แล้ว ศีลก็รักษาภาวนาก็มีทุกอย่างทั้งหมด แต่ว่าชอบโดนล้วงกระเป๋านี่มัน ๕ ปีแล้วนะคะ
    หลวงพ่อ ไอ้นี่เป็น...ทานบารมี
    ผู้ถาม เป็นทานบารมีหรือครับ?
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ ก็ใช้หนี้เก่าเขาไงเล่า อทินนาทานา เวรมณี สี่ขา.. ปะธัง สมาทิยามิ
    ผู้ถาม สิกขาหรือว่า สี่ขาครับ?
    หลวงพ่อ สี่ขา คือของเรา ๒ ขา คนล้วงอีก ๒ขา
    ผู้ถาม อ้อ พวกที่โดนล้วงกระเป๋า ของหายอะไรนี่ เป็น...
    หลวงพ่อ ใช่...เรื่องนี้อทินนาทานเก่า
    ผู้ถาม ครับ...ทีนี้ก็บอกว่า แล้วจะมีวิธีแก้ไขหรือป้องกันอย่างไร หรือไม่ ขอหลวงพ่อไปโปรดเมตตา
    หลวงพ่อ ต่อไปก็จงอย่าเอาสตางค์ติดตัวไป จะไม่มีขโมยล้วงกระเป๋า
    ผู้ถาม นี่วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ ง่าย ๆ ๆ ระวังไวก็ไม่ไหว พวกนี้มันเก่งมาก ขนาดเอามาให้ยังไม่รู้เลย ลุงฉันถูกล้วงกระเป๋าที่ท่าเตียน และท่านก็มีเพื่อนอยู่ที่บางลำพูใช่ไหม...เลยไปกาเพื่อนที่บางลำภู บอกว่าถูกล้วงกระเป๋า เพื่อนก็ถามว่าถูกล้วงที่ไหน เวลาเท่าไหร่ บอกที่ท่าเตียน เวลาเท่านั้นเท่านี้นะ บอกว่า ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ไปอยู่ที่นั่นยืนที่เดิม แต่ว่าสตางค์อาจจะบกพร่องไปบ้างนะ อาจจะเป็นได้ ถ้าคุณถูกพวกของเรานะ
    ก็เป็นอันว่า ตอนเพลท่านก็ไปยืนที่เดิม และก็ในช่วงเวลานั้นมีผู้ชาย ๒ คน แบบสมัยก่อนนะ ใส่รองเท้าดำคัชชูใส่ถุงน่องขาว นุ่งผ้าม่วงใส่เสื้อราชประแตน ๒ คน เดินคุยกันมา พอไปถึงลุงเขาก็หลีกไปสองข้าง อีกคนหนึ่งกระทบไหล่นิดหน่อย เขายกมือไหว้ ขออภัยด้วยครับ ที่เลี่ยงแล้วมันไม่พ้น
    ลุงก็บอกไม่เป็นไรๆ ครับ แล้วเขาเดินเลยไป เขาเดินไปแล้วปรากฏในกระเป๋าหนักๆ ล้วงเจอกระเป๋าสตางค์ นี่ขนาดมาให้ยังไม่รู้เลยนะ...(หัวเราะ) และไม่ขาดเลยนะ เงินทองไม่ขาดเลย
    ผู้ถาม นี่ก็ตกลงว่าเป็นกรรมเก่านะครับ
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ

    ผู้ถาม และอีกเรื่องหนึ่งคือว่า อย่างนี้ วันที่สะเดาะเคราะห์ครั้งก่อนที่วัดท่าซุง ก็มีหลายคนได้ให้ราบชื่อ และพร้อมด้วยปัจจัยมาจำนวนทั้งสิ้น ๑,๓๔๐ บาท เพื่อจะเอาไปเข้าพิธีที่วัดท่าซุง ก็พอดีตาลีตาเหลือกกลัวจะไปไม่ทัน ปรากฏว่าเงินไม่ได้เอาไป ชื่อเขาฝากไว้ก็ไม่ได้เอาไป เวลาจะเป่าก็ใกล้มาแล้วลูกจะทำยังไง ลูกเลยทำอย่างนี้ เอ้า ! ชื่อทั้งหมดจงมาปรากฏที่ศาลา ๒ ไร่ เอ้า ! เงินทั้งหมดที่อยู่บ้าน ฉันออกแทนไว้ก่อนเติมให้เป็น ๑,๕๐๐ บาท
    หลวงพ่อ โอ๊ย...ดี ๆ ๆ น่าจะเป็น ๓,๐๐๐ (หัวเราะ)
    ผู้ถาม ให้เกินนี่ดีกว่านะ
    หลวงพ่อ อ้าว วิสาขาไงเล่า พ่อให้เท่านี้ได้เท่าโน้น พ่อให้เท่านี้ได้เท่านั้น ได้เกินเสมอ ทำบุญแถมทำบุญเกินแบบนี้แหละ
    ผู้ถาม ตกลงว่าชื่อไม่ได้เอาไป และก็เงินของเขาไม่ได้เอาไป ลูกเอาเงินแทนไปอย่างนี้ เขาจะมีผลหรือเปล่า?
    หลวงพ่อ มี...ส่วนที่เป็นนามธรรมนี่มี แค่นึกถึงก็พอแล้ว
    ผู้ถาม แค่นึกถึงก็สมบูรณ์แบบ
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2009
  3. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047

    ลืมกระเป๋าสตางค์

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วลูกลืมกระเป๋าสตางค์บนรถเมล์ มีสตางค์มากพอสมควร มีเอกสารเป็นอย่างมาก ลูกกลับถึงบ้านแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรเงินไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่ เสียดายบัตรประชาชน กับเอกสาร ลูกจุดธูปที่บ้านต่อหน้ารูปถ่ายของหลวงพ่อ ไม่ได้บอกหลวงพ่อ แต่ขอความเมตตาหลวงพ่อว่า ขอได้โปรดไปตามกระเป๋ามาคืน...
    หลวงพ่อ (หัวเราะ) อ้อ...ความจริงควรเขียนว่าไม่ได้ใช้ ขอความเมตตานิดหน่อย (หัวเราะ) เอ้า! ว่าต่อไป
    ผู้ถาม ผลปรากฏว่ารุ่งขึ้น มีคนนำกระเป๋ามาให้พร้อมทั้งสตางค์เสร็จ เมื่อเป็นเช่นนี้ลูกก็เลยอยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า ลูกควรจะแบ่งเงินในกระเป๋าถวายค่าครูหลวงพ่อสักเท่าไหร่เจ้าคะ?
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่านะ อย่าคิดเงินในกระเป๋าเลยนะ เอาเป็นราคาค่าครูเฉยๆ ก็แล้วกันนะสัก ๕ ล้าน (หัวเราะ) ไม่จำเป็น เท่าไหร่ก็ได้ ไม่ทำก็ได้
    ผู้ถาม เอ๊...เวลาหลวงพ่อตามกระเป๋ามา หลวงพ่อตามด้วยวิธีไหน ตามแบบไหนครับ?
    หลวงพ่อ ก็สงสัยเหมือนกัน...(หัวเราะ) เพราะอะไรรู้ไหม วันหนึ่งหลายเจ้า ท่านที่เหนื่อยมากที่สุดคือ กรมหลวงชุมพรฯ พอของหายปั๊บ! ใครเขาบอกไป เอ้า! กรมหลวงฯ หาให้เขาหน่อย ช่วยหน่อยๆ


    ชอบเจอกระเป๋าสตางค์

    ผู้ถาม หลวงพ่อขอรับ กระผมเป็นคนดีเพราะนับถือหลวงพ่อปฏิบัติตามคำสอนขชองหลวงพ่อเป็นคนมีโชคประหลาด ชอบเจอกระเป๋าสตางค์ใครตกอยู่เสมอเป็นประจำ ขอบอกตรงๆว่า เอามาทำบุญกับหลวงพ่อเรียบ หมดไม่เหลือหลอ ผ่านมางวดที่แล้วมีความจำเป็นเลยเอาซื้อหวย หวยกินหมดเลย ต่อไปลูกจะไม่ซื้ออีกแล้ว เอามาถวายหลวงพ่อดีกว่า เงินที่เก็บตกเอามาทำบุญ แล้วขออุทิศให้แก่เจ้าของ ไม่ทราบว่า เจ้าของไม่รู้ไม่ทราบ จะมีผลหรือไม่ขอรับ?
    หลวงพ่อ มีได้...มีส่วน เงินของเขา

    พี่เป็นขี้ขโมย

    ผู้ถาม กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเล็กน้อยดังต่อไปนี้ คือว่า พี่ของลูกชอบขโมยของภายในบ้าน อะไรก็แล้วแต่ไม่ว่า จะเป็นของมีค่าไม่มีค่าก็ตามขโมยไม่ได้เอาไปไหน ส่วนมากก็ถวายพระหมด ทีนี้ชักจะไม่ดีอย่างหนึ่งแล้วก็คือว่า จะทำท่าขโมยโฉนดถวายวัด ก็กลัวจะไม่มีที่จะอยู่อาศัย ก็เลยอยากจะขอบารมีหลวงพ่อช่วยแนะลูก จะได้ไปป้องกันสถานการณ์
    หลวงพ่อ เดี๋ยวก่อน...โฉนดขโมยไปก็ไม่มีผล มันต้องโอนกัน และการจะโอนจะต้องประกาศก่อนใช่ไหม...ใครจะคัดค้านหรือเปล่า ไม่เป็นไร...เอาอย่างนี้ซิ บอกให้เขาขโมยไปถวายวัดท่าซุง ฉันจะเก็บไว้ให้แต่ค่ารักษาไม่มากหมื่นสองหมื่นก็พอ...(หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไร ก็เก็บไว้ดีซินะ อย่าให้แกขโมยได้นะ ความจริง คนนี้ก็มีอารมณ์เป็นกุศล แต่ว่ามันพลาดไปนิดหนึ่ง คือว่าไม่พร้อมกัน ใช่ไหม...
    ผู้ถาม ทีนี้อย่างขโมยของไปทำบุญ ผลบุญจะกระดักกระเดื่องอย่างไร?
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้นะ คนคนนี้นะ จะว่าเฉพาะจริยาที่ปฏิบัติใช่ไหม... อารมณ์เป็นกุศลเป็นปรกติ แต่ว่าไอ้สิ่งที่มันมีอยู่มันไม่พอกับกำลังใจ อย่าทำอย่างนั้นนะ ถ้าตายด้วยกำลังใจแบบนี้ สวรรค์แน่ แต่อย่าขโมยต่อไปนะ

    ถูกขโมยงัดบ้านเรื่อย

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าหมู่นี้ลูกโชคดีตลอด เดือนหนึ่งถูกขโมยงัดบ้านหลายครั้ง วิทยุ โทรทัศน์ ได้โน่น..ไอ้นี้ แต่ลูกก็คิดว่า เป็นกฎของกรรม คือชอบผิดศีลข้อ ๒ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เกิดความไม่สบายใจ ต่อไปข้างหน้ามันจะขโมยอีกหรือเปล่า?
    หลวงพ่อ ความจริงคนนี้ดีนะ เข้าถึงอริยสัจ
    ผู้ถาม หลวงพ่อ! ของหายยังมีอริยสัจอีกหรือครับ?
    หลวงพ่อ อ้าว...อริยสัจมันขึ้นอะไร ขึ้น ทุกข์ ของหายก็เกิดเป็นทุกข์แล้วในอริยสัจ ทีนี้ต่อไปเหตุให้เกิดทุกข์ คือ สมุทัย เพราะมีของมาก ถ้าเราไม่มีของ ขโมยมันจะเอาอะไรใช่ไหมล่ะ...ต่อไปก็ นิโรธะ ความดับทุกข์ เพราะหมดแล้ว ไม่รู้จะใช้อะไรแล้ว ต่อไปก็ มรรค แสวงหาต่อไป ไม่หาก็ไม่มีใช้
    ผู้ถาม อ๋อ...เป็นอริยสัจอย่างนี้เองนะ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้สิ ลองใช้คาถาของพระพุทธเจ้าท่านนะ ตั้งใจว่าเป็นสมาธิสัก ๓ นาที “ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัว ชานามิ ชานามิ ชานามิ” บทนี้ท่านบอกสมัยเมื่อ ท่านจุลปัณถก เป็นลูกมหาเศรษฐี ใช่ไหม...เรียนกับอาจารย์ เรียนยังไงก็เรียนไม่ได้ เขาเรียนวิชาการต่างๆ แต่องค์นี้เรียนไม่ได้ ปัญญาทึบ
    ต่อมาเมื่อตอนจะกลับบ้าน ตอนอยู่ปฏิบัติอาจารย์ดีมาก อาจารย์ก็เห็นใจ ลูกศิษย์คนนี้กลับบ้านไม่มีอะไรไปเลย ควรจะสนองความดี จึงสอนคาถาบทนี้ แค่นี้ท่องยัง ๗ วันได้ แกก็ได้มาเท่านั้น
    ต่อมาอยู่ที่บ้าน มีวันหนึ่งขโมยมันจะเข้าไปลักของในบ้าน พระเจ้าปเสนทิโกศลเดินเข้าไปตรวจเวลากลางคืน ก็เห็นคนมันขุดรั้วจะเข้าไป ท่านก็นั่งดูคิดว่า ถ้าเข้าไปจริงจะสั่งเจ้าหน้าที่จับ ท่านจุลปัณถกท่านตื่นขึ้นมาก็ท่องคาถา “ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ” ขโมยเปิดหนีเลย เพราะคาถาบทนี้
    ต่อมาท่านจุลปัณถกได้เป็นพระอรหันต์ ลองไปใช้ดูนะ สมัยปัจจุบันนี้มีคนไปใช้หลายราย เขาบอกงว่า ขโมยจะปล้นร้าน ปรากฏว่าไม่มีใคนเข้าปล้น
    ผู้ถาม อย่างนี้ก็ประตูประเตอ...ไม่ต้องปิด
    หลวงพ่อ ไม่ต้องปิด ขโมยยิ้มร่า ขโมยกลัว...กลัวความดี ขนหมด

    ลูกชอบขโมยเงินวิระทะโย


    ผู้ถาม ลูกชายของดิฉัน อายุ ๑๔ ปี ชอบขโมยเงินวิระทะโยไปเสมอๆ ลูกกลัวว่าจะเป็นบาปเป็นกรรม หลวงพ่อมีคำแนะนำอย่างไร เพื่อจะชำระหนี้ที่ทำไปแล้วบ้างคะ?
    หลวงพ่อ ความจริงก็คงไม่เป็นไรมั้ง ขโมยแล้วก็แล้วกันไป เพราะถือว่าเงินจำนวนนี้ ยังไม่เป็นของสงฆ์โดยตรง ก็ไม่ใช่ของแม่โดยตรงแล้ว เป็นของให้ระหว่าง เหมือนเรื่อง กากะเปรต กากะเปรตก็แบบนี้แหละ เขาจะนำไปถวายไปทำบุญที่วัดจับอยู่บนหลังคาศาลาบินโฉบไปกิน ๓ คำ ตายจากความเป็นกาไปเป็นเปรต หัวเป็นกาไปไหม้ทั้งตัว ถูกหอกแทง ลอยไปในอากาศ
    ตามบาลีบอกว่า ของนั้นจะถือเป็นของสงฆ์ก็ไม่ใช่ ของนั้นยังไม่ได้ประเคน จะถือว่าเป็นของชาวบ้านผู้ให้ก็ไม่ได้ เพราะขาดแล้วตั้งใจแล้ว ของระหว่างกลางเจ้าของกับของสงฆ์ จึงเกิดแค่เป็นเปรตไงล่ะ ไม่งั้นก็ลงอเวจีไป

    ขโมยไก่วัด

    ผู้ถาม หลวงพ่อขอรับ เมื่ออายุประมาณ ๓๒ ปี เพื่อนๆก็ขโมยไก่วัดมาตัวหนึ่ง แต่แล้วทุกคนที่ไปร่วมกันขโมยมาไม่กล้าฆ่า ผมแสดงความสามารถ จัดการให้เพื่อนจับขาคนละขาจับปีกแล้วผมก็เจี๋ยน...เมื่อจัดการไปแล้วรู้สึกสบายใจ ต่อมาฟังหลวงพ่อพูดเกี่ยวกับเรื่องกรรม เรื่องเวร เรื่องนรก ชักจะไม่สบายใจเสียแล้ว ผมได้ทำบุญทำกุศลอุทิศไปให้หลายครั้ง จะได้รับหรือไม่ ก็ไม่ทราบ ผมอยากจะถามหลวงพ่อว่า จะมี วิธีทำอย่างไร...จะได้ไม่เจอเขาอีกในชาติต่อๆไปขอรับ?
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เป็นวิธีที่ง่ายและเบา เวลาบูชาพระทุกครั้ง ทำบุญทุกครั้ง อุทิศส่วนกุศลให้ บอกเขาให้อโหสิกรรมนะ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะเข้านิพพานอย่างนี้มันเบาใจ ไม่ช้าก็สลายตัว

    เคยปล้นวัด

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงสุด ในอดีตที่ผ่านมากระผมเป็นคนไม่ดี เคยปล้นวัด เอาพระพุทธรูปไปขายมากมาย บัดนี้สำนึกบาปสำนึกผิดแล้ว จึงต้องมาพึ่งบารมีหลวงพ่อ นับเป็นที่พึ่งสุดท้าย กล่าวคือกระผมจะต้องชำระหนี้สงฆ์กี่ครั้ง และจะต้องชำระหนี้สงฆ์ประการใด...กรรมเวรที่เคยปล้นวัดจึงจะอโหสิกรรมให้ขอรับ?
    หลวงพ่อ ค่อยๆ ชำระไปก็แล้วกันนะ ถ้าถามว่าเท่าไร...ต้องเท่ากับจำนวนเงินที่นำของมา ค่อยๆ ผ่อนสบายๆ ก็แล้วกัน ถ้าถามว่าทำบุญอย่างไร...เอ่อ! วันนี้ท่านถึงเตือนเรื่อง อนุสสติ ตอนที่เขาเจริญพระกรรมฐานกัน พระพุทธเจ้าท่านเตือนว่า ทุกคนให้มั่นคงในอนุสสติจะไม่พลาดหวัง คือ
    1. มรณานุสสติ คิดว่าชีวิตนี้จะต้องตาย
    2. ก่อนที่เราจะตายต้องยอมรับนับถือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์
    3. พยายามตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์
    4. จิตใจตั้งไว้เพื่อนิพพานโดยเฉพาะ
    ผู้ถาม อ๋อ...อย่างนี้ค่อยผ่อนหนักผ่อนเบาได้บ้าง
    หลวงพ่อ อันนี้ไม่ผ่อนหรอก...ไปได้เลย ถ้าทำตามนี้ได้มั่นคงหลบได้เลย แบบ ตัมพทาฐิกโจร ไงล่ะ

    กลัวผิดศีลข้อ ๓

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพ ก่อนที่ดิฉันจะแต่งงานกับสามีคนสุดท้าย ไม่รู้เรื่องว่าเมื่อก่อนเขาเคยมีเมียมาแล้ว ลูกก็เลยได้เสียกับเขาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ลูกอยากถามว่า เมื่อลูกรู้ภายหลังอย่างนี้ จะเรียกว่าศีลขาดข้อ กาเมสุมิจฉาจาร หรือเปล่าเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ เจตนาแย่งในตอนต้นเขาไม่มี เขาไม่รู้ ไม่ผิดหรอกนะ
    ผู้ถาม อ๋อ...ถ้าไม่มีเจตนา ไม่เป็นไรหรือครับ?
    หลวงพ่อ “เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ” ต้องมีเจตนา ศีลนี่ต้องตั้งใจ ถ้าขาดความตั้งใจ ไม่เป็นการละเมิด

    ทำผิดกาเม

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ลูกขอสารภาพเป็นครั้งแรกเจ้าค่ะ คือ ว่าลูกมีครอบครัว มีความจำเป็นในครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ลูกเลยไปทำผิดกาเมสุมิจฉาจารกับชายคนหนึ่ง ต่างคนต่างก็รู้ว่ามันผิดด้วยกันทั้งคู่ แต่ให้เงินมาเพื่อจุนเจือครอบครัว บัดนี้ลูกสำนึกผิดที่ได้กระทำไปแล้ว เพื่อจะเป็นการลบล้างบาปที่ก่อไว้ ขอให้หลวงพ่อแนะทางออกให้ลูกสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ?
    หลวงพ่อ ก็ตั้งใจคิดว่า ๑.ชีวิตนี้จะต้องตาย ประการที่ ๒ ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ต่อไปก็ประคองจิตให้ตรงในศีล ค่อยๆ ประคองนะ มันพลาดบ้างอะไรบ้างไม่เป็นไร เท่านี้ใช้ได้เลย บาปเก่า ๆ ไม่มีแรงดึง ตามไม่ทัน ไอ้เรื่องผิดพลาดเป็นของธรรมดาของทุกคนเหมือนกัน

    รักง่ายหน่ายเร็ว

    ผู้ถาม หลวงพ่อคะ ปรกติลูกก็เป็นคนดี ทำบุญทำกุศลทุกอย่าง รักษาศีลเจริญภาวนา แต่มีนิสัยเสียอยู่นิดคือว่า เป็นคนรักง่ายหน่ายเร็ว คือว่า ชอบเป็นชู้กับสามีคนอื่นเสมอ ๆ อันนี้ลูกก็ทราบ แต่ว่ามันแก้ไม่ตกเข้าค่ะ ที่จะเรียนถามก็คือว่า ลูกได้ผ่านพ้นประเภทนี้มามากแล้ว ต่อไปก็อยากจะลุแก่โทษกับหลวงพ่อ ขอให้หลวงพ่อชี้ทางสว่าง เพื่อแก้กฎข้อนี้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ
    หลวงพ่อ ไม่มีอะไรมาก อย่างที่พระไปลาพระพุทธเจ้าเข้าป่า ใช่ไหม...แต่ว่าตอนแกจะไป แต่ทีหลังก็ท้อ ปรากฏว่า มีญาติโยมที่นั่นรู้ใจพระ รู้ใจคน นึกอะไรขึ้นมาก็ตาม นึกอยากจะกินต้มยำ...ก็รู้ นึกอยากจะกินแป๊ะซะ...ก็รู้ อยากจะกินอะไรก็ตาม โยมทำมาเสมอ พระทั้งหลายก็รู้ว่าโยมรู้ใจคน
    ทีนี้พระที่สัมผัสแบบนั้น เวลาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าก็บอกว่า มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง แค่นึกเท่านั้นแหละจัดให้แล้ว พระนึกอยู่ในป่านะโยมก็จัดมา พระพุทธเจ้าก็เลยบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นได้อนาคามีปฏิสัมภิทาญาณ พระที่จะลาไปรู้เข้าก็ท้อ ไม่กล้าไป พระพุทธเจ้าก็เลยบอกว่า เธอเอย่าสงนี้ก็แล้วกัน เธอห้ามอะไรสักอย่างหนึ่งได้ไหม...พระถามว่าห้าอะไร ท่านบอกเอาอย่างเดียวไม่ต้องมาก พระบอกได้ พระพุทธเจ้าบอก ห้ามจิต ไม่คิดนอกลู่นอกทาง
    ร้ายนี้ก็เหมือนกัน ห้ามใจมันเสียก็หมดเรื่อง ห้ามใจได้ กายก็ไม่ไป แต่ค่อยลดมันนะ ได้นี่อย่าไปโทษกัน กฎของกรรมห้ามไม่ได้ อย่าง ท่านสิริมา ไปว่าภิกษุณีเป็นพระอรหันต์เข้า จึงเป็นแบบนั้นที่แท้จริงท่านก็เป็นคนดี ในที่สุดท่านฟังเทศน์จบเดียวก็เป็นพระโสดาบัน แต่ว่าตอนท้ายจะตายนี่ไปนิพพาน เห็นไหมล่ะ...บุญของเขามีอยู่ นี่เขาก็มีบุญมาเจริญพระกรรมฐานได้ มาถวายสังฆทานได้ ความดีก็มี แต่กรรมบางอย่างเข้ามาทับ ก็เป็นของธรรมดา
    ผู้ถาม แหม...ถ้ามีโอกาสมาฝึกมโนมยิทธิได้ก็ดีนะ
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ คนเห็นทุกข์แล้วนี่ ถ้าเห็นทุกข์ชื่อว่าเห็น อริย กำลังสูงนะ ไม่ใช่เล่นนะ และการเปิดเผยความจริงประเภทนี้ มียากแก่บุคคลทั่วๆไป อย่างบลืมว่าตัวนี้บุญเก่าเข้าประสานมากแล้ว...ใช้ได้

    พาลูกสาวเขาหนี

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างยิ่ง มีการเถียงกันระหว่างผมกับแฟน เรื่องศีลข้อที่ ๓ ตอนแรกไม่ได้ คิดถึงศีล ตกลงสองคนพากันไปก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วกลับมาขอขมาภายหลัง พ่อแม่ก็โอเค แต่สงสัยว่าตอนที่พาไปกลับมาขอขมาเรียบร้อยแล้ว จะเรียกว่าผิดศีลหรือเปล่าขอรับ?
    หลวงพ่อ มันจบไปแล้ว พ่อแม่อภัยให้แล้ว...เลิกกัน อย่างขโมยของเขาไป ต่อมาเจ้าของบอกฉันไม่เอาโทษละก็แล้วกันไป

    ชิงสุกก่อนห่าม

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพอสมควร สมาธิลูกก็ปฏิบัติได้ มโนมยิทธิลูกก็ทำได้ ทำบุญลูกก็ทำเก่ง สังฆทานก็ทำบ่อย ครั้งละ ๕ บาท ๑๐ บาท(แหม...นึกว่าเก่งขนาดไหน)
    หลวงพ่อ ฮะ ๆ ซื้อ ก๋วยเตี๋ยวได้ชามละ
    ผู้ถาม นึกว่าจะไม่เป็นสังฆทานนะ
    หลวงพ่อ เป็น...สตางค์เดียวก็เป็น
    ผู้ถาม จะเป็นได้ยังไงครับ...หลวงพ่อ?
    หลวงพ่อ ก็ให้กับหมู่สงฆ์น่ะ ถ้าไม่พอใช้เวลารับจากที่อื่นมารวมกันซิ
    ผู้ถาม อ๋อ...ครับ ๆ ๆ คือเรื่องก็มีอย่างนี้ว่า ทุกอย่างนี่ ลูกปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามหลวงพ่อครบถ้วนบริบูรณ์ทุกอย่าง แต่ที่ลูกเสียอยู่นิดหนึ่ง ลูกขอสาภาพเลยว่า ลูกสมัยเมื่อเป็นวัยรุ่นลูกชิงสุกก่อนห่าม ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะผิดศีลหรือไม่แต่ตอนนี้ลูกพลาดไปแล้ว
    ก็เลยมาปรึกษาหลวงพ่อว่า ผลเพราะปฏิบัติชอบก็ดี มโนมยิทธิ ก็ดี ความปรารถนามรรคผลนิพพานชาตินี้ก็ดี จะยังมีสิทธิ์ หรือเปล่าเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ บุญทำแล้วไม่สลายตัวนะ ได้แล้วก็แล้วกันไป ก็ขังอยู่เลยไม่ไปไหน...ใช้ได้
    ผู้ถาม ไอ้ที่ผิดนี่เล็กๆ น้อยๆ หรือครับ?
    หลวงพ่อ ตั้งใจผิดหรือเปล่า ทีเผลอไปน่ะ อาจจะเผลอไปไม่เป็นไรนะ อย่าให้บ่อยนักก็แล้วกัน .... (หัวเราะ)
    ผู้ถาม นี่ยังดีนะครับ ทำผิดแล้วสารภาพผิด

    หารายได้พิเศษ

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ปัจจุบันนี้ลูกมีความลำบากขัดใจเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจภายในครอบครัว และลูกต้องหาโอกาสออกไปทำงานพิเศษนอกบาน แต่พอเวลากลับบ้านทีไร ลูกมักจะบอกว่า ไปหาพระมาบ้าง ไปโน่นบ้าง ไปคุยมาบ้าง เพราะจะบอกตรงๆ ไปหารายได้พิเศษ ผัวก็คงไม่ชอบและอาจจะทุบตีเอา ในลักษณะเช่นนี้ลูกเองก็กลัวจะมีบาปมีกรรม ก็เลยแบ่งเงินนิดหน่อยมาถวายหลวงพ่อ
    หลวงพ่อ ความจริงไม่เป็นไร เราบอกว่าไปหารายได้พิเศษ เขาอาจจะโกรธก็ได้ แต่ความจริงจะหาว่าบาป มันก็ไม่บาปนะ เพราะว่าไม่ได้ขโมยใครเขานี่ เขาหาพิเศษ
    ผู้ถาม แต่ยังดีนะ...มาปันผล
    หลวงพ่อ แต่ความจริงเขาไม่ปันผล เขาก็ไม่มีโทษอะไร ก็น่าเห็นใจ เพราะรายได้มันไม่พอกับรายจ่าย

    จะแต่งงานกับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกมีความสงสัยว่า อย่างผู้หญิงคนหนึ่ง ไปตกลงแต่งงานกับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว โดยไม่ทราบว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว โดยฝ่ายชายบอกว่าเป็นโสด อย่างนี้ผู้หญิงคนนั้น จะผิดศีลข้อกาเมหรือไม่เจ้าคะ?
    หลวงพ่อ ไม่ผิด...เพราะไม่รู้ อันนี้ถ้ารู้อยู่ผิดกาเมแน่ ถ้าไม่รู้นี่เป็นไรนะ ศีลทุกข้อต้องมี เจตนา คือการตั้งใจทุกสิขาบทนะ ตั้งใจจะทำและทำสำเร็จสมความปรารถนาตั้งใจฆ่าสัตว์ มีสัตว์ให้ฆ่า ลงมือ และฆ่าสัตว์ตาย ถ้าไม่ตั้งใจสัตว์ตายกี่ตัวก็ไม่บาป อย่างโยนของไปบ้าง เดินไปเหยียบบ้าง นี่ไม่ตั้งใจ อันนี้ไม่บาป ศีลทุกข้อต้องรู้อยู่และตั้งใจทำ (จึงจะบาป)


    เป็นภรรยา (น้อย) เขา

    ผู้ถาม กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ อย่าหาว่ารบกวนเลยนะคะ ลูกมีสามีแล้ว เลิกกันเรียบร้อย จดทะเบียนหย่ากัน
    หลวงพ่อ เอ๊ะ! จดสองจดนะ
    ผู้ถาม จดทะเบียนหมายถึงแต่งงาน จดทะเบียนหย่านี่
    หลวงพ่อ ทำสัญญาหย่าก็จดทะเบียนเหมือนกัน
    ผู้ถาม ครับ ๆ ๆ ปรากฏว่าเมื่อหย่าแล้ว ลูกก็มาเจอชายคนหนึ่ง ก็เกิดความรักใคร่จนมีลูกด้วยกัน ลูกเป็นภรรยาน้อย ภรรยาหลวงไม่ว่าอะไร แต่พอมาเข้าซอยสายลม มาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ เกิดละอายใจกลัวบาปกลัวกรรม กลัวคำสั่งสอนของหลวงพ่อเป็นการใหญ่ ก็ไม่รู้จะทำยังไง มีลูกด้วยกันแล้ว อีกใจหนึ่งก็กลัวจะตกนรก อีกใจหนึ่งก็กลัวไม่ได้มรรคผลนิพพาน ก็ขอความสว่างจากหลวงพ่อช่วยแนะนำให้ลูกสบายใจหน่อยเถิด จะทำยังไงดีเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ ยกครูอีก ๒ บาท
    ผู้ถาม อ้อ...มีค่าครูด้วยหรือครับนี่?
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ ค่าสินสอดเขายังมีได้ ค่าครูทำไมมีไม่ได้ นี่ในเมื่อภรรยาหลวงเขาไม่ว่า ไม่มีโทษหรอกนะ เพราะเขาไม่หวง ไม่เป็นไรนะ
    ผู้ถาม อย่างนี้ก็ถ้าจะปฏิบัติธรรม ก็มีสิทธิ์ไปนิพพานได้
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ ไม่มีบาปนี่

    สามีเจ้าชู้

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ไม่ทราบว่าลูกมีบาปมีกรรมอะไร อะไร ๆ ลูกก็ทำตามคำสอนของหลวงพ่อทุกอย่าง ทุกอย่างได้สมความปรารถนา เว้นอยู่อย่างเดียวเจ้าค่ะ...แก้ไม่ตก
    หลวงพ่อ ทุกอย่าง...แต่เว้นอย่างเดียว เอ้า ว่าต่อไป ๆ
    ผู้ถาม เว้นอยู่อย่างเดียวคืออย่างนี้ สามีของลูกมันเจ้าชู้ไม่หยุดไม่หย่อน ให้กินให้บริการทุกอย่างเรียบร้อย มันก็ไม่ยอม มันก็เจ้าชู้อยู่ร่ำไป ลูกไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ก็อยากจะมาปรึกษาหารือหลวงพ่อ ในฐานะหลวงพ่อก็เป็นพ่อของลูก หวงพ่อก็เป็นเพศเดียวกับสามี หาวิธีแก้ไขให้ลูกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ (โอ...นี่จะคิดว่าหลวงพ่อเป็นแบบผัวของตัวรึไง..พี่)
    หลวงพ่อ วิธีแก้ไม่ยาก...หามาให้สัก ๕ คน
    ผู้ถาม หาเมียมาให้อีก ๕ คน งั้นหรือครับ นี่จะแก้หรือครับ
    หลวงพ่อ แก้ซิ...ไปไหนไม่ไหวหรอก เพลียหมดแรง (หัวเราะ)
    ผู้ถาม วิธีแก้ง่ายๆ เลยนะครับ วิธีแก้สูตรเดียวกับขุนแผนเลยนะครับ
    หลวงพ่อ (หัวเราะ) เรื่องธรรมดา ให้ทานไปบางซิ เป็นทานบารมีนะ เป็นทานบารมีด้วย เป็นเมตตาบารมีด้วย
    ผู้ถาม เข้าหลักพรหมวิหาร ๔ เปี๊ยบเลย
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2009
  4. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    <table spaceing="0" cell="" align="center" border="0" cellpadding="2" width="90%"><tbody><tr><td valign="top" width="50%">
    ผิดศีลข้อกาเม


    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกหญิงได้เคยประพฤติในข้อกาเม ด้วยความจำเป็นมาฟังธรรมมาปฏิบัติตามหลักคำสอนของหลวงพ่อแล้ว เกิดความไม่สบายใจ อยากจะหาธรรมปฏิบัติ เพื่อลบล้างความผิดที่ทำไป นิดหน่อยนั้น ขอหลวงพ่อ ได้โปรดชี้แนะธรรมะด้วยเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ ไม่มีอะไรหรอก...ลืมมันเสีย พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า ให้ลืมเสียทุกอย่างที่พลาดมาแล้วนะ ไม่ตามนึกถึงมัน มุ่งหน้าเฉพาะความดี ที่ให้ภาวนา “พุทโธ...ธัมโม...สังโฆ” นี่ให้นึกถึงความดีอย่างเดียว ไอ้ความที่ไม่ดีอาจจะแลบเข้ามาบ้างเป็นของธรรมดา เราก็นึกถึงความดีให้มาก ไม่ตามนึกถึงมัน มันก็ไม่เกาะใจเรา ใจเราเกาะเฉพาะบุญใช่ไหม...เกาะเฉพาะบุญ เวลาตายบุญก็นำเราไปก่อน ไปสวรรค์ก่อนอย่างน้อย
    ผู้ถาม ถ้าได้มโนมยิทธิก็...
    หลวงพ่อ ใช่...ถ้าได้ก็พิสูจน์ได้เลย ว่าวิมานของเราอยู่ที่ไหน ถ้าไปพบวิมาน จิตใจก็รักวิมาน ไม่รักบาป ตายก็พุ่งไปเลย


    เรื่องศีลข้อมุสาวาท

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อเจ้าคุณที่เคารพอย่างสูง...
    หลวงพ่อ เอ๊ะ! วันนี้เป็นเจ้าคุณ ฉันขาดหลวงปู่ไปตำแหน่งนะนี่ หลวงตามาแล้ว ขาดหลวงปู่...หลวงทวด
    ผู้ถาม ลูกมีปัญหากลุ้มใจนิดเดียว เกี่ยวกับเรื่องศีลของหลวงพ่อ คือ ลูกเป็นแม่ค้าก็จำเป็นที่จะต้องโกหกอยู่เสมอ ไม่งั้นจะไม่ค่อยมีกำไร ลูกพยายามทุกอย่างแล้ว ธรรมะของหลวงพ่อทำครบหมด แต่ข้อนี้ทำไม่ได้ จึงขอบารมีหลวงพ่ออโหสิกรรมให้ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ซิ...ฟังให้ดีนะ จุดธูปตอนเช้า วันนี้ขอลาศีลมุสาวาทชั่วคราว...(หัวเราะ) เอาอย่างนี้ซิ...วิธีพูดน่ะ เราซื้อของมาถูก ต้องขายแพงตามท้องตลาดใช่ไหมล่ะ ก็บอกต้นทุนมันแพง ลดจากนี้ไม่ได้หรอกจ๊ะ เท่านี้หมดเรื่องกันไป ไม่โกหก อย่าไปบอกซื้อมาบาทนี่ขาย ๑๐ บาท นี่ซื้อมา ๙๙.๙๐ บาท โธ่...ได้กำไร ๑๐ สตางค์ กลัวศีลขาด บอกต้นทุนมันแพง ลดจากนี้ไม่ได้น่ะ นี่มันมีความจำเป็น ถ้าต้นทุนถูกลดจากนี้ได้มาเยอะแยะ แค่นี้ไม่ผิด
    ผู้ถาม หลวงพ่อคะ บางครั้งเราก็ไม่เจตนาไอ้เรื่องโกหกนี่มันอยู่ในสังคม บางครั้งอย่างนี้นะ เขาจะมาเบียดเบียนเราน่ะ เราโกหกเขาว่าเราไม่มี
    หลวงพ่อ อันนี้ต้องรู้คำว่า มุสา นี่ ต้องทำลายผลประโยชน์เขาไอ้ตัวนี้ไม่ใช่โกหก ไม่ใช่มุสา
    ผู้ถาม บางครั้งก็ไม่เข้าใจนะคะ
    หลวงพ่อ ดี...ถามอย่างนี้นะดี ทีนี้คำว่า “มุสา” นี่ต้องทำลายผลประโยชน์เขา แต่นี่เราทำเพื่อรักษาผลประโยชน์เรา ใช่ไหม...ยังไม่อยู่ในเกณฑ์มุสา อย่างนี้เขาไม่ถือว่าขาดศีล ๕
    ผู้ถาม บางครั้งพูดแล้วมันเสียดใจ มันตรงเกินไป
    หลวงพ่อ ก็ใช่ แต่เปล่า...ก็ต้องบอกเรารู้นี่ว่า ไอ้หมดนี่ถ้าหากมาขอยืมทีไร มันไม่ใช้ให้ทันที ใช่ไหม...นี่เราขืนให้ไปเราก็ไม่ได้ มีอยู่เหลือเฟือนี่ ไอ้เงินน่ะเรามี แต่เงินที่เราจะให้ยืมมันไม่มี เราก็บอกไม่มี เราก็บอกไม่มีเฉย ๆ ว่ายืมไม่ได้ ความจริงเรามีแต่เราจะต้องใช้นี่ ใช่ไหม...ถ้าเขาเอาไปเขาไม่เอามาส่งคืนเราก็ลำบาก ถ้าเรามีเหลือเฟือนี่มันไม่เป็นไร อันนี้เราถือว่าเรารักษาผลประโยชน์เรา เขาไม่ถือว่าเป็นมุสานะ
    อย่างพวกค้าขายนี่ก็เหมือนกันละ ลงทุนมาบาทเดียวแต่ขาย ๑๐ บาท เราขายตามราคาท้องตลาดเขาขอลดเราบอกลดไม่ได้หรอก ต้นทุนมันแพง มันแพงเท่าไรนี่เราไม่ได้บอก เราอย่าไปบอก ๙ บาท ๕๐ สตางค์ซิ เราบอกแพงเฉย ๆ ตามความนิยมของท้องตลาด อันนี้มันไม่เป็นไรนะ ไม่ถือว่าเป็นมุสาวาท อันนี้เข้าใจนะโยม ข้อนี้มีคนข้องใจกันมาก
    แต่ว่าถ้าเราพูดไปเพื่อรักษาประโยชน์ของเรา เพราะอะไร...เพราะว่าถ้าเราไม่รักษาประโยชน์เราให้ไป มันก็ไม่คืนซักที ทีนี้เราก็พังละซิใช่ไหม...อย่างนี้ยังไม่ถือว่าเป็นมุสาวาท มุสาวาทมันต้องเป็นอย่างนี้ คือประโยชน์ของเขาที่จะพึงมีอยู่ด้วยเหตุนั้น เราไปบอกนี่แกอย่าไปทำเลยแบบนั้น ขาดทุนตาย แต่ว่าเราจะเอาซะเอง
    ก็เหมือนกับผู้ใหญ่เลี้ยงเด็ก ไอ้เด็กเกินไปชานบ้าน ถ้าขืนปล่อยไป เดี๋ยวมันหล่นใต้ถุนตายใช่ไหม...บอกไอ้หนูอย่าไป เดี๋ยวหล่นใต้ถุน เด็กมันไม่เชื่อ แต่เด็กมันกลัวงู ก็บอกแก บอกอย่าไปนะไอ้งูมันมี ตุ๊กแกมันมี เด็กก็กลัว อันนี้เรารักษาประโยชน์ของเด็ก ไม่เป็นมุสาวาท มันเป็นเมตตา แต่ว่าถ้าเราพูดตรงไปตรงมาเด็กเขาไม่เชื่ออาจจะหล่นใต้ถุนบาดเจ็บหรือตาย ถ้าเราบอกแบบนั้นก็เป็นการรักษาอวัยวะ หรือรักษาชีวิตของเขาใช่ไหม...อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นมุสาวาทนะ เป็นเมตตาจิต มันเป็นคุณ ไม่ใช่โทษ แล้วยังไงล่ะ?
    ผู้ถาม พอพูดแล้ว มันไม่สบายใจค่ะ
    หลวงพ่อ นี่ทีหลังเอาใหม่ซิ บอกว่าข้าไม่พูด ๆ ๆ มันไม่ได้ล่ะค่ะ
    หลวงพ่อ ทำไมล่ะ?
    ผู้ถาม มันต้องพูดกันอยู่นะคะ
    หลวงพ่อ ถ้าพูดกันอยู่ก็บอกว่า ไม่ได้หรอก สตางค์ที่ให้แกยืมน่ะ ไม่มีล่ะเว้ย ข้ามีเหมือนกันละ มีแค่จะซื้อข้าวสารกินหรือซื้อกับข้าวกิน ใช่ไหม ข้ามีอยู่เล็กน้อยแบ่งไม่ได้ เราต้องบอกมีเล็กน้อย เราก็ไม่มีมากใช่ไหม มันมีอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ความจำเป็นมันมีอยู่สำหรับเราก็ถือว่า มีเล็กน้อย ใช่ไหม ไม่ใช่มีมาก ถ้ามีมากเราต้องมีจนเหลือเฟือ ถ้าเขาถามมีไหม...บอกว่าจะว่าไม่มีเลยก็ไม่ใช่ มันมีเหมือนกัน แต่จะซื้อกับข้าวตอนเย็นนี่นะ แล้วไอ้ภาพกิจอื่นมันมีมันไม่ไหว ถ้าคุณเอาไปเสีย ฉันก็ให้ไม่ได้
    หรือบางทีเราก็ต้องบอกไปเลย บอกเงินให้ยืมไม่มีละ ฉันไม่มีแล้ว ใช่ไหม เราตัดไปจุดนั้นเลย ตัดไปจุดตะรางที่ว่า “ให้ยืมไม่มีไอ้คนตื๊อนี่ บอกมีเล็กน้อยเดี๋ยวมันเอานะ เราก็ต้องตัดไปว่า เงินให้ยืม นั้นไม่มีจริง ๆ ฉันไม่มีหรอกใช่ไหม อันนี้เราพูดถึงเงินให้ยืมใช่ไหม ไอ้เงินที่เรามีอยู่มันจำจะต้องใช้ อันนี้ก็ไม่ถือเป็นมุสาวาทนะ

    ทานยาดองเหล้า

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ลูกมีความจำเป็นที่จะต้องทานยาดองเหล้า เพราะว่าออกลูกใหม่ เขาบอกว่าโบราณให้ทานอย่างนี้ ลูกมีข้อประเด็นอยู่ ๓ ข้อ เรียนถามหลวงพ่อช่วยชี้แนะ คือ
    1. ถ้าทานยาดองเหล้า ศีล ๕ จะขาดไหม
    2. มโนมยิทธิจะเสื่อมคลายหรือไม่
    3. ยันต์เกราะเพชรจะคืนกลับวัดท่าซุงหรือเปล่าเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ ถ้าเดินตามระเบียบเขาไม่เป็นไรนะ ตามระเบียบที่ยาเขาบอก อย่าให้เลยไปนะ ไม่ใช่ยาห่อเล็ก ๆ แต่ว่า เหล้าไหนะ เขาละลายตัวยาไม่เป็นไร


    บนให้สามีเลิกดื่มเหล้า

    ผู้ถาม กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกเคยกราบเรียนถามเรื่องสามีดื่มเหล้าว่าจะแก้ไขจะบนบานอย่างไร หลวงพ่อแนะนำปุ๊บ ลูกไปปั๊บ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจกล่าวคือ สามีเลิกดื่มเป็นเวลา ๓ วัน และแล้วก็ดื่มต่อ ลูกก็บนอีกแกก็หยุดไป ๓ วัน แล้วแกก็ดื่มต่อ
    หลวงพ่อ (หัวเราะ) ดีได้คราวละ ๓ วัน ทีนี้พอจะหมดวันที่ ๓ เราก็บนต่อซิ
    ผู้ถาม พอรู้ว่าหมดก็รีบบนเลย แต่ไม่อย่างนั้น ตุการณ์กลับเป็นอย่างนี้ ต่อมาอีก ๒-๓ เดือน สามีของลูกเลิกดื่มเหล้าโดยเด็ดขาด ลูกสงสัยก็เลยถามว่าเพราะเหตุใด จึงเลิกดื่มโดยเด็ดขาด แกพูดว่าอย่างนี้ “ข้าเกรงใจหลวงพ่อโว้ย...! หลวงพ่ออุตส่าห์มาจากวัดท่าซุง มาเทศน์มาโปรด สอนด้วยความลำบาก เพื่อให้คนทุกคนพ้นทุกข์ หลวงพ่อยังป่วยก็ยังมาสอน กูเห็นใจท่านว่ะ
    หลวงพ่อ เออ...เขาดี ๆ ๆ ขอชมว่าดี ขอบใจนะ ที่เห็นใจนะ
    ผู้ถาม สงสัยถ้าหากว่าหลวงพ่อไม่ป่วย แกคงไม่เลิกเด็ดขาดนี่เพราะหลวงพ่อป่วยอย่างนี้ หลวงพ่อก็ป่วยไปตลอดเลยซิครับ พอหายป่วยเดี๋ยวเขาเลิก เขาก็จะดื่มเหล้าต่อ
    หลวงพ่อ ก็ป่วยต่อ...มันป่วยทุกวันได้นะทุกคนน่ะที่พระพุทธเจ้าบอกว่า “ชิคัจฉา ปรมา โรคา” ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง หิวทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้หญิงน่ะ หิวตลอดกาลยามว่างสังเกตซิ กินข้าวเช้า แล้วยังไม่พอ ลูกไม้ลูกไร่กินกันเรื่อยเขาลดความผอม
    ผู้ถาม ลงท้ายเขาว่าอย่างนี้ ด้วยความดีของหลวงพ่อที่ป่วยแล้วเป็นเหตุให้สามีเลิกดื่มเหล้าโดยเด็ดขาด ลูกเลยใส่ย่ามหลวงพ่อ ๑,๐๐๐ บาท หัวว่าหลวงพ่อคงไม่รู้นะคะ
    หลวงพ่อ รู้แล้ว ๆ ๆ
    ผู้ถาม รู้แล้วหรือครับ?
    หลวงพ่อ รู้เมื่อกี้นี้
    ผู้ถาม ทีนี้เวลาใครดื่มเหล้านะ เราก็บนแบบคน ๆ นั้นนะ
    หลวงพ่อ นี่เขาบนว่ายังไง?
    ผู้ถาม ตอนบนเขาไม่ได้บอก แต่ว่าเวลาบนจริงๆ เลิกได้แค่ ๓ วัน แต่ตอนที่เขาเห็นหลวงพ่อป่วย เขาเกรงใจเลยเลิก
    หลวงพ่อ นั่นแหละ... เพราการบนเป็นเหตุ ทีแรกเลิกนานไม่ได้ ดีไม่ดีเดี๋ยวก็จะไปกินอีก เลิกไปหน่อยก็กินกระตุ้นนิดกระตุ้นประสาท ใช่ไหมล่ะ ประสาทมันยังไม่ชิน เว้น ๓ วันก็ว่าต่อไป อีกหน่อย เว้น ๓ วัน ว่าต่อไปอีกหน่อย ในที่สุดพอเว้นแล้วมันชินก็เลยเลิกได้
    ผู้ถาม ถือว่าคงจะหมดเวรหมดกรรมด้วย
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ อกุศลพ้นไป...กุศลมา
    ผู้ถาม และประเภทที่ว่า ในพรรษา ๓ เดือนไม่ดื่ม แต่ออก พรรษาดื่ม ๙ เดือน อย่างนี้เวลาตายแล้ว จะไปยังไงกันแน่ครับ
    หลวงพ่อ ก็เขาจะไปตรงไหนก่อน?
    ผู้ถาม ให้เขาเลือกตามอัธยาศัยหรือครับ?
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ถ้ายังพอใจในการดื่มก็ลง โลหะกุมภี แต่ที่นั่นกินฟรี นายนิรยบาลป้อนให้ ถ้าป้อนให้นั่งทนไม่ไหว จับนอนป้อนกลอกปาก ถ้าทนไม่ไหวจับโยนลงหม้อไปเลยให้กินทั้งตัว
    ผู้ถาม ตกลงทั้งเหล้าทั้งเบียร์ แค่อึกสองอึกนี่ก็
    หลวงพ่อ เหมือนกัน...เบียร์นี่มันเมรัย
    ผู้ถาม แต่ถ้ากินเพื่อสังคมนี่ก็คง
    หลวงพ่อ ถ้ากินเพื่อสังคมนี่ดีมาก ไปเป็นกลุ่ม
    [COLOR=darkgold,direction=-35);]เถียงเรื่องอาชีพขายสุรากับเลี้ยงกุ้ง[/color]
    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ผมและพี่ชายเถียงกัน ไม่ตกลงว่าใครแพ้ใครชนะ คือว่ากระผมมีอาชีพขายสุราและอาหาร พี่ชายมีอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ต่างก็เถียงกันว่า ของแกบาปกว่าของฉัน ของฉันบาปน้อยกว่าของแก เถียงไปเถียงมาก็ปรากฏว่าจะวางมวยกัน
    หลวงพ่อ เอาละซิ...ไมทันจะตาย บาปมาก่อนแล้ว รายหนึ่งขายสุราใช่ไหม?
    ผู้ถาม ครับ
    หลวงพ่อ เขาขายอย่างเดียวไม่ได้กินนะ
    ผู้ถาม ครับ
    หลวงพ่อ อีกรายหนึ่งเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เลี้ยงอย่างเดียว ไม่ได้ฆ่านะ
    ผู้ถาม แต่แกขายครับ
    หลวงพ่อ แล้วขายเขาเอาไปเลี้ยงต่อเรอะ?
    ผู้ถาม (หัวเราะ) ส่วนมากก็ อิมัสสมิง ลงกะทะครับ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เราพูดตามหลักวิชานะ ถ้าขายสุราและเมรัย พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็น มิจฉาวาณิชชา หมายความว่า ทายก อุบาสกอุบาสิกา ไม่ควรขาย แต่ไม่ปรับเป็นโทษ ถ้าหากว่าเลี้ยงกุ้งกุลาดำ นี่เป็นเมตตากับกรุณา ๒ อย่าง
    ผู้ถาม ? ? ?
    หลวงพ่อ เป็นตัวเล็ก เลี้ยงให้มันตัวโตขึ้นมา
    ผู้ถาม อ๋อ....
    หลวงพ่อ แต่อีตอนขายซิ ต้องเป็นแบบ...เดี๋ยว...ถามลุงดีกว่า ลุงเอาบัญชีมาเปิดปั๊บ ตัวแดงแจ๋เลย...
    ผู้ถาม อย่างนี้...ถ้าไม่จำเป็นก็เลิกเลี้ยงเลิกขายดีกว่านะ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่าถือว่าเป็นอาชีพ สัมมาอาชีวะ ทำไปเถิดตามชอบใจ เขาไมลัก ไม่ขโมย ไม่โกงใครก็หมดเรื่องหมดราวไป จะเอาแต่ธรรมะอย่างเดียว ก็เลี้ยงตัวไม่รอดเหมือนกัน แต่ว่าถ้าหากว่ามีกำลังใจดี เข้มแข็งนะ ส่วนที่ทำแบบนั้นเราก็ว่าไป เวลาว่างเราก็ทำบุญ ทำบุญหมายความว่า ทำบุญในห้องมีความสำคัญมาก เจริญภาวนาสวดมนต์ภาวนา เวลาตายก็ต้องแบ่งเป็น ๒ ซีก ทั้งบุญทั้งบาป แล้วเกาะความดีอย่างใดอย่างหนึ่ง
    อย่างให้ทาน ไม่ต้องให้มาก แต่ให้บ่อยๆ คือว่า ถ้าให้มากทรัพย์จะสูญเสียมาก คือเดือดร้อนใช่ไหม...ให้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้จิตมันเกาะ หรือว่าชอบใจสวดมนต์ก็สวดมนต์ สวดมนต์ก้ไม่ต้องหลายบทนัก เอาบทที่เราชอบใจ หรือว่า เจริญภานา บทไหนก็ได้ที่เราชอบให้จิตมันเกาะ ถ้าจิตมันเกาะเวลาตายแล้ว เขาก็มาเชิญไปสำนักพระยายม ประเภทนี้ไปแน่
    ถ้าบาปจริงๆ มันพุ่งหลาวลงนรกเลย ความชั่วก็มี ความดีก็ปรากฏ ทั้งสองอย่างต้องไปสำรักพระยายมก่อน เขาจะสอบสวนแล้วถ้าหากว่าไม่ฉลาดเกินไป ฉลาดพอดีนะ เวลาทำบุญให้พระยายมเป็นพยานไว้หมดเลย ไปถึงลุงพูดคนเดียว...เสร็จ! พูดเรื่องบุญอย่างเดียว บาปไม่พูดหรอก นี่รายการนี้ขอ ๖ บาทค่าครู...(หัวเราะ)



    ขายเหล้าบาปไหม

    ผู้ถาม อยากจะถามว่า คนที่ขายเหล้าแล้วคนขายไม่ได้กินอย่างนี้เป็นการค้า คนขายนี่บาปไหมครับ...หลวงพ่อ
    หลวงพ่อ คำว่า บาป แปลว่าอะไร?
    ผู้ถาม บาปนี่...ชั่ว...ครับ
    หลวงพ่อ บาปนี่ชั่ว ขายได้สตางค์ชั่วยังไง...รวย ความประพฤติ เขายังไม่ชั่ว แค่ขายอย่างเดียว ความประพฤติก็ว่า อีกส่วนหนึ่งต่างหาก
    ผู้ถาม แต่ว่าสิ่งที่ขายนี่ ทำให้คนที่ซื้อไปเป็นโทษ
    หลวงพ่อ ช่างมันปะไร...รู้แล้วเสือกซื้อไปทำไม
    ผู้ถาม ตกลงไม่บาปใช่ไหมครับ?
    หลวงพ่อ จะบาปยังไง...คือพระพุทธเจ้าทรงปรับว่าเป็น มิจฉาวาณิชชา เป็นการค้าที่ไม่สมควร เราจะไปพูดเกินพระพุทธเจ้านี่ไม่ได้ ใช่ไหม...อย่างขายปืนนี่ เราเป็นคนขายอาวุธ คนขายอาวุธไม่ได้บอกว่า เจ้าจงไปยิงคนนั้นนะ มันเรื่องเขาจะต้องมีการป้องกันตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ การขายอาวุธอย่างหนึ่งนะ การขายสุราเมรัยอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็น มิจฉาวาณิชชา อุบาสกอุบาสิกาไม่ควรจะค้าขาย
    แค่แนะนำไม่ใช่บาป ยังปรับโทษเขาไม่ได้เลย มันต้องดูเหตุดูผลว่ามันเป็นโทษได้ยังไง การค้าเขาไม่ได้กิน คนค้าเหล้าไม่ได้ เมาเหล้านี่ ใช่ไหม... จะต้องดูจุดตรงไปตรงมา ธรรมะนี่ต้องตรงไปตรงมานะ ก็อย่างมีคน ๆ หนึ่ง เข้าไปกรุงเทพฯ ที่ซอยสายลมแกมาถามว่า เชื้อโรคในร่างกายเป็นสัตว์มีชีวิตใช่ไหม...และการที่เราจะกินยาฆ่าสัตว์มีชีวิตในร่างกายไม่บาปหรือ?
    ฉันตอบว่ายังไงรู้ไหม ฉันก็ตอบว่า คุณลงนรกแต่ผู้เดียวเถอะ ฉันเชื่อพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ฉันไม่เชื่อคุณหรอก ใช่ไหมคุณ... ให้เขาลงนรกแต่ผู้เดียว นี่ของเราไม่ได้ลงด้วยนะ เชื้อโรคมีในร่างกาย รูปร่างมันอยู่ที่ไหนก็ช่าง เรื่องร่างกายของเรา เราทำให้ร่างกายของเราเป็นสุข ใช่ไหม... ไม่ใช่ร่างกายเกิดมาเพื่อเป็นพื้นฐานที่อยู่ของเชื้อโรค ต้องดูคำสอนแค่พระพุทธเจ้าสอน อย่าให้มันเลยไป ถ้าเลยไปนิพพานมันก็ต้องล่งอเวจี หรือลงอย่างดีก็ลงโลกันต์ก็เอากันแค่นี้ท่านสอน
    พระพุทธเจ้าทรงเป็นสัพพัญญูอยู่แล้ว อะไรทุกอย่างที่พระองค์ไม่รู้น่ะ... ไม่มี ท่านบอกว่าวิชาความรู้ที่ตถาคตรู้ แต่ว่ามันไม่เป็นทางบรรลุมรรคผลตถาคตไม่สอน อย่างวิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์พระพุทธเจ้ารู้ไหม... ถ้าไม่แน่ใจให้ไปถาม ดร. อาจอง คนนี้ได้กรรม,น ได้ทิพจักขุญาณ เคยสอนลูกศิษย์ได้ทิพจักขุญาณเอยะ ต่อมาฝรั่งก็จ้างไปทำจรวดอะไรหว่า... มันพังเรื่อยต่อมาแกเป็นหนึ่งในร้อยของนักวิทยาศาสตร์ที่เขาคัดไว้ คือเขาคัดไว้ ๑๐๐ คน เธอเป็นคนไทยคนเดียว ในหนึ่งในร้อยของเขา
    ทีนี้มาวันหนึ่ง เธอคิดว่าทำยังไง แก้กันอย่างไรมันก็ไม่หายมันก็พังเรื่อย และที่ข้างห้องที่พักมันก็มีเนินดิน ก็ไปนั่งอยู่ที่เนินดิน จิตสบาย ๆ ก็ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอสูตร เอาเพียงแค่แก้ให้หายไม่ได้ทำทุกอย่าง ปรากฏสูตรขึ้นมาในอากาศ แกก็รีบเขียนตามนั้นทันที และแก้ไขได้ เห็นไหม... เรื่องของจริงมันมีแต่ว่า เราทำให้มันถึง ความรู้พระพุทธเจ้ารู้ให้มาถึง รู้ให้มันจริง
    ความรู้มีกี่อย่าง ๔ อย่าง
    1. สุขวิปัสสโก
    2. เตวิชโช
    3. ฉฬภิญโญ
    4. ปฏิสัมภิทัปปัตโต
    ทั้ง ๔ อย่างนี้ให้มันครบ ถึงแม้จะครบอย่างละไม่ถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม จะมีผลเอยะแยะ ทีนี้พวกเราไม่ได้รู้จริง รู้แต่ข่าวเขาว่า ๆ จะเอาอะไรกัน ตำราเล่มนั้นท่านว่า ตำราเล่มนี้ท่านว่า พระองค์นั้นท่านว่า พระองค์นี้ท่านว่า พระองค์นั้นท่านรู้จริงหรือเปล่า...ใช่ไหม?
    พระที่รู้จริง ๆ มีองค์เดียว คือ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์มีรู้จริง แต่ไม่รอบรู้เท่าพระพุทธเจ้า ฉันยืนยัน อรหันต์ทุกองค์น่ะ รอบรู้ไม่เท่าพระพุทธเจ้า เพราะคำว่า “สัพพัญญู” ไม่มี จะมีสิ่งที่ไม่รู้ที่พระอรหันต์รู้แน่นอนไม่แพ้ใครก็คือ การละกิเลส แต่ความรู้รอบตัวนั่นยังก่อน
    ถ้าถามว่า ถ้าอย่างนั้นพระอรหันต์ที่สอน ๆ ไม่สอนผิดหรือ ก็ต้องตอบว่า อรหันต์สอนไม่ผิดหรอก เพราะท่านจะสอนแค่ท่านรู้ ถ้าเลยรู้ท่านไม่สอน แต่อรหันต์ขั้น สุกขวิปัสสโก ท่ารู้แค่ไหน ท่านละกิเลสได้แน่ อรหันต์ต้องเป็นอรหันต์เหมือนกัน แต่ว่าความรู้พิเศษท่านรู้แค่ไหน ท่านจะสอนแค่นั้น ถ้ามากกินไปท่านบอกสิ่งนี้เกินวิสัยของท่าน
    ถ้าไปถาม เตวิชโช หรือวิชชา ๓ องค์นี้จะรู้มากหน่อย ถ้าถามถึงเทวดา ถึงนางฟ้า ถึงพรหม ถึงมนุษย์ ถึงอะไรก็ตาม นรกสวรรค์ ท่านรู้หมด องค์นี้เห็นหมดทุกอย่าง คุยได้หมดทุกอย่างแต่ไปบอกท่านขอชวนไปเที่ยว ท่านบอกฉันยังไปไม่ได้ ฉันเห็นแค่นี้
    ถ้าไปถาม ฉฬภิญโญ เข้า ฉฬภิญโญฉันเห็นได้ ฉันไปถึงได้ ทุกจุด ฉันทำได้ใช่ไหม... ไปถามความรู้ความฉลาดหนัก ๆ เกินไป ท่านบอกไม่ไหว ฉันมีความสามารถแค่นี้
    ถ้าไปถาม ปฏิสัมภิทาญาณ ท่านบอกทุกอย่างฉันพร้อม แต่ต้องไม่เกินวิสัยของฉัน คำว่า “เกินวิสัย” คือเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้านี่ ท่านทำไม่ได้ ใช่ไหม
    ฉะนั้น ความรู้ในพระพุทธศาสนามี ๔ ขั้น ก็ทำให้มันจบ ๔ ขั้น ยังไม่ได้สักขั้นหนึ่งจะมาเบ่งว่ารู้ มันจะรู้ได้ยังไง โง่เง่าเต่าตุ่น และแต่ เลยตุ่นอีก...(หัวเรา) เขาว่า ๆ ๆ อ่านตำราที่นั่น อ่านตำราที่นี่ พระองค์นี่ว่าอย่างนี้ แต่ว่าทำไม หลักสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงสอน จริง เราทำไมไม่สนใจกัน ก็ไม่ยาก มันไม่มีอะไรยาก วันนี้ฉันพูดตามความเป็นจริงนะ วันนี้เอากันจริง ๆ


    อยากเป็นพระโสดาบัน

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง อยากจะบรรลุสำเร็จพระโสดาบัน แต่ที่นี้ไม่ดีอยู่ก็คือว่า ศีลข้อสุรานี่เอาไม่อยู่อย่างอื่นดีหมด แต่เวลากินเหล้าแล้ว ผมทำสมาธิดี ใจบุญใยกุศล (เออ หายากนะ)
    หลวงพ่อ เอ ... อย่างนี้เราเรียก “โสดาบันโลหะกุมภี”
    ผู้ถาม อ๋อ ... ลงล่วงเลยแบบนี้
    หลวงพ่อ ใช่ซิ
    ผู้ถาม ไม่มีทางเลยซิครับ
    หลวงพ่อ ละเสียก่อน
    ผู้ถาม ถ้าตัดโสดาบันจริง ๆ นี่ ศีล ๕ ต้องครบเลยหรือครับ
    หลวงพ่อ ครบถ้วน ... ศีล ๕ ครบถ้วยเป็นโสดาบันขั้นต่ำน่ะ สัตตักขัตตุง
    ผู้ถาม ยังต่ำอีกหรือนี่...?
    หลวงพ่อ ยังต่ำมาก ... แค่ สัตตักขัตตุง ต้องกรรมบถ ๑๐ เป็น โกลังโกละ หรือเอกพิชี
    ผู้ถาม ครับ ๆ ๆ อย่างนั้น ก็ไปไล่ศีล ๕ เสียให้ครบก่อน
    หลวงพ่อ อย่าไปไล่ซิ... ไปเอามา
    ผู้ถาม อ๋อ... ต้องรักษา ไม่ใช่ไล่ ปรกติก็จะไปอยู่แล้วซิ ไม่ต้องไล่ก็จะไปอยู่แล้ว


    ไปนิพพานไม่ได้ เพราะชอบกินเหล้า

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนที่ขึ้นไปนมัสการ พระธาตุดอยตุง หลวงพ่อบวงสรวงเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อได้พูดว่า เออ... มีอยู่คนหนึ่งนะ ไปนิพพานไม่ได้ เพราะว่าชอบกินเหล้าอยู่ ผมขอบอกได้เลยคนนั้นไม่ใช่อื่นไกล ที่แท้คือผมเอง ปรกติผมดื่มเป็นประจำเลยครับ ทำไมหลวงพ่อรู้ได้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยบอกเลย
    ที่จะเรียนถามก็คืออย่างนี้ ผมขอบอกหลวงพ่อว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะขอเลิกดื่ม และจะขอตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อไปพระนิพพานชาตินี้ หลวงพ่อจะอโหสิกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหน่อยเถิดขอรับ
    หลวงพ่อ ไม่ต้องอโหสิกรรม มีผลแน่นอน ไปได้... ถ้าเขาเลิกได้นะ
    ผู้ถาม เลิกปุ๊บ... ปฏิบัติปั๊บ นี่ไปได้
    หลวงพ่อ ไปได้ ๆ ๆ ยังขัด ๆ อยู่แค่นั้นแหละ ขัดอยู่แค่นั้นเอง ... วันนั้นน่ะ
    ผู้ถาม นี่ไม่ต้องไปไกล กลิ่นก็ไม่มี แต่ความจริงเขาบอกนะครับ ก่อนที่จะไปดอยตุง ดื่มเบียร์เข้าไปหน่อยหนึ่ง พอหอมปากแก้หนาว เขาสารภาพแล้วนะ นึกว่าจะดื่มต่อไปนี่เลิกแล้วนะโมทนาด้วย


    พระให้ศีล ๘ ไม่ถูก

    ผู้ถาม กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ เวลาลูกถวายสังฆทานพระแถวบ้าน พระท่านให้ศีล ๘ ไม่ถูก ลูกอยากทราบว่า ควรจะทำบุญกับท่านอีกไหมเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ มันไม่จำเป็นนี่ ท่านให้ไม่ถูกเรารักษาให้ถูก ก็หมดเรื่องหมดราว การที่พระให้ศีลเป็นการศึกษาเท่านั้น ว่าศีลมีอะไรบ้าง ในเมื่อท่านพลาดไปแล้ว นึกได้ข้อนี้ไม่ใช่เป็นอย่างนี้นี่หว่า เรารักษาตามความเป็นจริง ศีลอยู่ที่การปฏิบัติ คือตัวเว้น คือว่า “ศีล” จะมีได้มีศัพท์ว่า เวรมณี
    คำว่า “เว้น” เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการร่วมรักกับคู่ครองใช่ไหม... ศีล ๘ เว้นจากมุสาวาท เว้นจากการดื่มสุราเมรัย เว้นจากกินข้าวเวลาบ่าย เว้นจากการทัดทรงดอกไม้และของหอม เว้นจากที่นอนสูงที่นอนต่ำ ที่นอนสูงไปก็ไม่ควรนอน ต่ำเกินไปก็ไม่ควรนอน
    ผู้ถาม ที่ต่ำไม่ควรนอนเพราะอะไรครับ?
    หลวงพ่อ มันต่ำกว่าที่นอน...(หัวเราะ)

    กินข้าวเกินเวลา

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ลูกได้ไปรักษาอุโบสถที่วัดแห่งหนึ่งที่ กรุงเทพฯ บังเอิญตอนนั้นมันเลยเที่ยงไป นาฬิกามันเสีย ลูกก็ไม่ได้ดู กินไปกินมาเลยเวลาเข้าไปบ่ายโมง ตอนนั้นลูกไม่สบายใจเป็นอย่างมากว่า อุโบสถศีลของลูกนี่บกพร่องไปเสียแล้ว ว่าจะกราบขอขมาลาโทษว่า กินข้าวเพลินโดยไม่เจตนา ศีล ๘ ของลูกจะขาดหรือไม่เจ้าคะ?
    หลวงพ่อ ศีลวันนี้ไม่ขาด
    ผู้ถาม ไม่ขาดหรือครับ?
    หลวงพ่อ ไม่ขาด... เพราะวันนี้สมาทานศีล ๘
    ผู้ถาม ศีลวันนี้หรือครับ?
    หลวงพ่อ ใช่... (หัวเราะ) ใช่ ศีลวันนั้นขาดไม่เป็นไร ไม่มีโทษ มันไม่มีโทษถึงอบายภูมินี่ เป็นส่วนธรรม
    ผู้ถาม ได้ยินแว่ว ๆ ว่าเที่ยงสมัยพระพุทธเจ้า ตะวันตรงหัวหรือว่า นาฬิกาตรงเลย ๑๒
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าสมัยพระพุทธเจ้า เอาจริง ๆ ตามพระวินัยนะ พระอาทิตย์ตรงเงาตรงลงมือฉัน ตะวันคล้อยไปไม่เกิน ๒ นิ้ว ถ้าเงาคล้อยเกิน ๒ นิ้ว เป็นอาบัติ ถ้าไม่เกิน ๒ นิ้ว ไม่เป็นอาบัติ เวลานี้เร่งกันมาชั่วโมงหนึ่ง
    ผู้ถาม ถ้าเอาแบบพุทธกาลก็อาจจะเลยเที่ยงได้
    หลวงพ่อ เอาแบบพุทธกาลมันก็ลงมือเที่ยงได้ ไอ้เงา ๒ นิ้วนี่นานนะ
    ผู้ถาม ก็เอาตามสมัยใหม่นะ ๑๒ นาฬิกาเป็นเกณฑ์


    กระเพาะลำไส้ไม่ดี

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ลูกตั้งสัจจะไว้กับพระที่ฝั่งธนบุรีว่า จะรักษาศีล ๘ ชั่วชีวิต ลูกก็ทำโดยตลอด บัดนี้ลูกอายุมากแล้ว เพราะทางกรเพาะลำไส้ไม่ดี หมอบอกว่าถ้าขาดอาหารตอนเย็นแล้วจะไปไม่รอด จะขอเรียนถามหลวงพ่อว่า จะคืนสัจจะที่ซอยสายลมกับหลวงพ่อ แล้วให้หลวงพ่อบอกพระพุทธเจ้าอโหสิกรรมได้หรือเปล่าเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ เออ... เอาหนัก แฮะ เอาอย่างนี้ซิ ย้ายไปถือ กรรมบถ ๑๐ กินข้าวเย็นได้ ดีกว่าเยอะ เป็นทั้งศีลทั้งธรรม ได้ ๒ อย่าง
    ผู้ถาม แล้วอานิสงส์คงไม่ต่างกันใช่ไหมครับ?
    หลวงพ่อ อานิสงส์แข็งกว่าศีล ๘ อ้าว... จริง ๆ นะ ศีล ๘ เราไม่ค่อยจริงกันนัก แต่ถ้าปกติทุกวันก็ดี นี่มันปรกติไม่ได้นี่ ต้องเป็นบางเวลา ใช่ไหม กรรมบถ ๑๐ เขามีทั้งศีลทั้งธรรม มโนกรรมนี่เป็นธรรมะ แล้วก็สังเกตดูเป็นการตัดกิเลสได้ง่าย ฝึกตัดกิเลสไปในตัวเสร็จ...
    ผู้ถาม เกี่ยวกับข้อไม่กินข้าวนี่ เวลาไปกินเลี้ยงมันเผลอไผลไปตักเข้า กว่าจะรู้ตัวก็เข้าไปครึ่งท้องแล้ว แต่ไม่เจตนานะครับ
    หลวงพ่อ ความจริงถ้าเรารักษาศีล ๘ ไม่ขาดนะ ที่เราสมาทานมัน ๙ ข้อ นัจจะ กับ มาลาคันธะ เวลาเขาบวชพระ บวชเณร เขาแยกนะ เรารักษาแค่ศีล ๘ ทิ้ง วิกาลโภชนา เสีย
    ผู้ถาม อ๋อ.. ก็ดี
    หลวงพ่อ แต่อย่านะ...ลงนรก (หัวเราะ) แหม... ตั้งใจหูผึ่ง
    ผู้ถาม ได้กินข้าวเย็นก็ยังดี
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ซิ สมาทานกรรมบถ ๑๐ กรรมบถ ๑๐ เป็นคุณสมบัติพระโสดาบันขั้น โกลังโกละ กับ เอกพิชี และสกิทาคามี... หนักมาก
    ผู้ถาม ถ้ารักษาศีล ๘ เดือดร้อน ก็เอากรรบถ ๑๐ ดีกว่านะ

    ถือศีล ๘ กินนมได้หรือไม่

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าขา ลูกขอถามเกี่ยวกับเรื่องศีล ๘ ศีล ๘ ที่ลูกรักษาอยู่ปัจจุบันนี่ มีคนเขาพูดว่า นมกินไม่ได้ ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็กินไม่ได้ ไอ้เรื่องศีล ๘ นี่เกี่ยวกับเรื่องน้ำปานะนี่ เขาอนุญาตแค่ไหน... และที่ไม่อนุญาตเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่า... เนยใน เนยข้น น้ำมัน นำผึ้ง น้ำอ้อย นมนี่เป็นพวกเนย... กินได้ แต่ว่าอย่ากินนมดิบนะ (หัวเราะ) ใน มหาปเทส อนุโลมจากเนยเป็นนมได้ ใช้ได้จริง ๆ นะ

    รักษาศีล ๘ ซื้อหวยใต้ดิน

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกรู้จักกับอุบาสกคนหนึ่ง อายุประมาณ ๖๐ ปีเศษ รักษาศีล ๘ มาหลายปีแล้ว เขาบอกกับผมว่า เขาได้พระอนาคามีแล้ว วันหนึ่งลูกเห็นแกซื้อหวยใต้ดิน แล้วก็ล๊อตเตอรี่ธรดา ลูกเกิดความสงสัยว่า ผู้ที่เป็นพระอริยเจ้าขึ้นไป จะซื้อหวยใต้ดินและล็อตเตอรี่รัฐบาลได้หรือเปล่า?
    หลวงพ่อ เขามีขายก็ซื้อได้ แต่ไม่ใช่พระอริยะเบื้องสูง อย่าง พระโสดาบันท่านยังอยากรวย ยังมีความโกรธ ยังมีความหลง แต่ก็ไม่ลืมความตาย อยู่ในขอบเขตของศีล ๕ จะรวยก็ไม่ขาดศีล ๕ คือไม่ลักไม่ขโมยใคร ทีนี้หวยนี่ไม่ได้ลักไม่ได้ ขโมยใคร แต่ว่าถ้าบอกเป็นอนาคามี ไม่ใช่แน่ อนาคามีไม่ทำแบบนั้น ตัดหมดแล้ว พระโสดาบันอาจจะมีแต่ว่าดิ้นรนมากนะ สังเกตอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าอะไรขัดกับศีล ๕ พรโสดาบันไม่ทำ ถ้าสิ่งใดไม่ขัดกับศีล ๕ พระโสดาบันทำ... จำง่าย ๆ [

    ถือศีล ๘ อยากไปนิพพาน

    ผู้ถาม กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ขณะนี้ลูกตั้งจิตอธิษฐานว่า ๑. ลูกจะถือศีล ๘ เป็นเวลา ๗ วัน ๒. งดบริโภคอาหารเนื้อสัตว์เป็นเวลา ๗ วัน ๓. เจิรญกรรมฐานให้ครบทั้ง ๗ วัน ลูกตั้งจิตอธิษฐานและจะทำในลักษณะอย่างนี้ การกระทำอย่างนี้จะเป็นบุญ เป็น กุศล เป็น ผลให้ลูกมีโอกาสได้ไปเกิดบนนิพพานได้หรือเปล่าเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ ไม่ได้
    ผู้ถาม แหม... นี่ก็ ๗ วัน นี่ก็ ๗ วัน ไปไม่ได้หรือครับ?
    หลวงพ่อ แค่ ๗ วัน ปีมีกี่วัน... เราเกิดกี่ปี... อารมณ์ไม่ทรงตัว
    ผู้ถาม ความจริงนะ ไอ้ ๗ วันน่ะ เอาซ้อมมโนมยิทธิแป๊บเดียว ก็จะ
    หลวงพ่อ ดีกว่าเยอะ
    อยากจะบวชชี
    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนนี้ลูกเปรีบเสมือนผงเข้าตาเขี่ยไม่ออก จึงขอบารมีของหลวงพ่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกด้วยเถอะค่ะ ทางบ้านของลูกมีอาชีพทำสวนผักและขายอาหาร เมื่อเด็ก ๆ ชอบฟังธรรมะ หลังเลิกเรียนบ้าง ก่อนทำสวนบ้าง และไปวัดวันพระ พอจบมหาวิทยาลัยก็ได้ทำงานเป็นเสมียนห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ได้มีโอกาสไปถวายผ้าจำนำพรรษาที่วัดใกล้บ้าน โดยวิธีจับฉลากได้เบอร์ ๑ ในใจก็คิดอุทิศให้คุณย่าที่ตายเมื่อปี ๓๑ ท่านเคยรักษาศีลอยู่วัดนี้
    พอปี ๓๒ ก็ถวายผ้าจำนำพรรษาอีก ครั้งนี้ทำให้พ่อแม่ก็จับสลากได้เบอร์นั้นอีก ซึ่งเป็นพระที่ลูกนับถือท่านมาก จึงมีแต่ความปีติสุข เพราะสองปีที่ทำนั้น ทำจนเงินหมดกระเป๋าลูกทำงานมีเวลาว่างมากคือ ทำงานใจระลึกแต่ทุกข์เสมอ หนักเข้าใจร้อนมากคิดแต่เรื่องอิสระ อยากจะออกบวชไม่รู้จะทำเช่นไร ก็เลยไปซื้อผ้านุ่งผ้าห่มไปถวายชี ๑ ชุด โดยไม่เจาะจง คามอยากเข้าไปหาอีกก็เลยลาออกจากงาน อยากจะบวชก็ปรึกษาญาติผู้ใหญ่
    ท่านก็บอกควรทำงานตอบแทนคุณก่อน จึงได้ไปช่วยบ้านทำสวนบ้าง ไปขายของที่ร้านอาหารบ้าง แต่ว่าตัวเองไม่ชอบค้าขายอาหาร เพราะว่ามีผลทำให้สัตว์ตาย ก็เลยช่วยพ่อทำสวน ญาติพี่น้องก็ไม่ชอบบอกว่า เรียนมาแล้วเอความรู้มาทิ้งสวน และข้อนี้ก็เป็นเหตุให้ทางบ้าน ไม่ส่งเสริมให้เด็กเรียนหนังสือ ทีนี้อยากการาบเรียนถามว่า ควรจะทำอย่างไรดี... กับชีวินปานี้เจ้าทะ?
    หลวงพ่อ เออ... คำถามเมื่อกี้นี้ และมีสังฆทานมาคั่นก็ดี ความจริงพระท่านบอก เมื่ออยู่กับพ่อก็บวชซะเลย... ก็แล้วกัน วิธีบวชให้รักษา กรรมบถ ๑๐ ไม่ต้องไปทำอะไร ทำงานก็ได้ กินข้าวเย็นก็ได้ กินข้าวร้อนก็ได้แต่ให้ทรงกรรมบถ ๑๐ ไว้นี่พอแล้วมันไม่ใช่พอเฉยๆ นะ ถ้ากรรมบถ ๑๐ ครบถ้วนนี่เป็นพระโสดาบันเป็นพระอริยเจ้าเลย รู้จักไหม... กรรมบถ ๑๐ มีอะไร... กรรมบถ ๑๐ ก็อย่างนี้นะ
    ทางกาย ๓ อย่าง คือ ๑.ไม่ฆ่าสัตว์ ๒.ไม่ลักทรัพย์ ๓.ไม่ประพฤติผิดในกาม นี่ทางกาย
    ทางวาจามี ๔ อย่าง คือ ๑.ไม่พูดปด ๒.ไม่พูดวาจาหยาบ ๓.ไม่ส่อเสียดให้เขาแตกแยกกัน คือไม่นินทาชาวบ้าน และก็ ๔.ไม่พูดวาจาเพ้อเจ้อ เหลวไหล
    ทางด้านจิตใจ มี ๓ อย่าง คือ ๑. ไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติของใครโดยไม่ชอบธรรม ๒. ความโกรธยังมีอยู่ แต่ไม่จองล้างจองผลาญใคร ๓. มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
    เท่านี้แหละ...นี่เป็นพื้นฐานของพระโสดาบันนะ ถ้าทำอย่างนี้ได้เต็มที่ คือว่ายังเหลืออีก ๒ อย่างเป็นพระโสดาบัน คือ เคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพพระอริยะสงฆ์จริง และอีกข้อหนึ่ง มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องตาย ก็แค่นั้น เรามี พระนิพพาน เป็นที่ไป แค่นี้เองเป็นพระโสดาบัน จุดใหญ่อยู่ที่กรรมบถ ๑๐ [COLOR=darkgold,direction=-35);]อยากจะบวชพระ[/color]
    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด อยากจะบวชให้มันตลอดรอดฝั่ง ตลอดชีวิตชีวัง... แต่ไม่สมความปรารถนา เพราะบิดามารดาแกไม่ยอมอนุญาต แกจะให้เรียนต่อ ผมมีความเสียใจเป็นอย่างมาก อยากจะปรึกษาหลวงพ่อว่า จะแก้ไขอย่างไรจึงจะให้พ่อแม่อนุญาต หรือไม่ก็วิธีใดวิธีหนึ่งขอรับ?
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่านะ การบวช... คิดจะบวชไม่สึก โดยมากมันบวชไม่นานนะ
    ผู้ถาม พวกอธิษฐานพูดอย่างนี้หรือครับ?
    หลวงพ่อ โอ้โฮ...ร้อยทั้งร้อยเลย บางทีไม่เต็มพรรษาจะไปแล้ว ขนาดชั้นเอกนะ มาจากผักไห่ ผมบวชไม่สึกครับ พอครึ่งพรรษาจะไปแล้ว เอาอย่างนี้ดีกว่า การบวชหรือไม่บวชการบวชนี่มีโทษมาก ถ้าไม่บวชมีโทษน้อย สิกขาบทของพระ ๒๒๗ นี่มันยังไม่พอนะ อภิสมาจารอีก ธรรมะอีกหลายส่วนที่ลงนรกน่ะ การไม่บวชเพียงแค่ศีล ๕ เท่านั้น ฉะนั้น ก็ขอให้ฝึกมโนมยิทธิ ตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้ครบถ้วน ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ให้ครบถ้วนพอแล้ว ดีกว่าพระบวชห่วย ๆ ตั้งหลายแสนเท่า
    ผู้ถาม เป็นพระนี่ ลงนรกง่ายกว่า
    หลวงพ่อ โอ... บานเจ้าเลย เวลานี้ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เหลือนะ


    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2009
  5. Preedaa

    Preedaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนาสาธุในธรรมหลวงพ่อครับ สาธุ[​IMG]
     
  6. Ne_ko

    Ne_ko Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +47
    อนุโมทามิ เจ้าค่ะ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...