หลวงพ่อตอบปัญหาเรื่องมโนมยิทธิ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ชนะ สิริไพโรจน์, 9 กันยายน 2009.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]

    คำถามที่น่าสนใจของผู้ไม่เคยฝึก, ผู้ฝึกใหม่,
    ผู้ฝึกได้แล้วและการฝึกแบบเต็มกำลัง

    ปัญหาของผู้ไม่เคยฝึกมาก่อน

    <TABLE style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt" class=MsoNormalTable border=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p< O:p < font>












    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">คำว่า มโนมยิทธิแปลว่ามีฤทธิ์ทางใจมโนมยิทธินี่เป็นการเตรียมอภิญญา จะเรียกวิชชาสามตรงก็เข้มเกินไป จะเรียกอภิญญาก็ยังอ่อนอยู่ เป็นการเตรียมอภิญญาเตรียมเพื่อรับอภิญญาหก วิชชาสามจริง ๆ ไปไม่ได้แต่เห็นได้ นั่งอยู่ตรงนี้สามารถเห็นเทวดา เห็นพรหม เห็นพระอริยะ สามารถคุยกันได้นั่งอยู่ตรงนี้สามารถคุยกับเปรตได้ คุยกับอสุรกายได้คุยกับพวกสัตว์นรกได้แต่ก็นั่งตรงนี้เอง

    ทีนี้สำหรับมโนมยิทธินี่ก็เป็นอภิญญาทางใจส่วนหนึ่งต้องถือว่าเป็นกึ่งของอภิญญา เพราะว่าสามารถเอาจิตไป เอากายในไปทว่าถ้าเป็นอภิญญาจริง ๆ เขายกตัวไปเลย จะไปสวรรค์ไปพรหมเขาเอาตัวไปเลยนั่นต้องใช้กำลังเข้มแข็งกว่า สูงกว่าแต่ว่ากันโดยผลเสมอกันเพราะไปเห็นมาได้เหมือนกัน

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< O:p < font>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะ ถ้าอย่างดิฉันต้องการฝึกบ้างต้องใช้เวลากี่วันคะ....?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 2"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ก็สุดแล้วแต่คุณจะทำได้ถ้าคนทำได้เร็วไม่ถึงวันก็ได้ อันนี้จริง ๆ นะ ถ้าทำได้เร็วใช้กำลังใจถูกต้องโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิงนี่ได้เร็วมาก เพราะพวกผู้หญิงนี่ไม่ค่อยสงสัยเพราะตัวสงสัยเป็นตัวนิวรณ์ ส่วนใหญ่จริง ๆ พวกผู้หญิงนี่มักจะได้วันแรกนี่พูดถึงส่วนใหญ่นะ แต่พลาดมาวัน ๒ วันที่ ๓ ก็มี ใช้เวลาไม่มากหรอกเราไม่ต้องนับเดือน ไม่ต้องนับปีกัน ถ้าคุณจะฝึก คุณต้องไปซ้อมกำลังใจเสียก่อนถ้าซ้อมกำลังใจให้ทรงตัวมาวันแรกก็ได้ มันอยู่ที่ความเข้าใจคือ ไม่ต้องทำอะไรมากทรงอารมณ์ไว้เฉย ๆ หายใจเข้านึกว่า นะ มะ หายใจออกนึกว่า พะ ธะไม่ต้องทำให้มันเครียดหรอก ให้มันชินเท่านั้นเอง
    คำว่าชินหมายความว่าถ้าให้เราภาวนาอย่างนี้เมื่อไรเราภาวนาได้ไม่ต้องไปนั่งเครียดทั้งวันทั้งคืนซ้อมให้ทรงตัวนะ

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 3"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">หลวงพ่อคะ อย่างเรามีความศรัทธาจะฝึกมโนมยิทธิเรามีความจำเป็นไหมคะ ที่เราจะต้องรู้รายละเอียดในความหมายของคำภาวนานะ มะ พะ ธะ<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 4"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ก็ไม่ต้องไปละ อยู่ที่เดิมน่ะถ้าฉลาดแบบนั้นไปไหนไม่ได้ เขาให้ภาวนาเพื่อเป็นกำลังของสมาธิเท่านั้นเขาไม่ต้องใช้ปัญญา ปัญญาเขาใช้ส่วนอื่น ถ้าขืนฉลาดแบบนั้นก็อยู่ที่เดิมการเจริญพระกรรมฐาน เขาต้องไปตามจุดต้องเฉพาะกิจที่เขาจะสอนให้แจกแจงนั่นต้องปฏิบัติในธาตุ ๔ เขาเรียกว่าจตุธาตุวัตถาน ๔แต่อันนี้ไม่ใช่เขาต้องการภาวนาเพื่อเป็นกำลังของจิตเพื่อให้จิตเป็นทิพย์ ชื่อเหมือนกันแต่ใช้กิจต่างกัน
    อย่างกับทัพพีเขาใช้คนหม้อข้าวเป็นทัพพีสำหรับหุงข้าวถ้าเขาไม่มีช้อน เอามาตักข้าวเข้าปาก นี่มันกลายเป็นช้อนไปใช่ไหม.....
    นี่ก็เหมือนกัน ต้องใช้เฉพาะกิจของเขาถ้าเรื่อยเปื่อยไปก็พังรับรองได้เลยถ้าเรื่อยเปื่อยไปนอกรีตนอกรอยอีกแสนชาติก็ไม่ได้ ต้องฉลาดพอดี ไม่ใช่ฉลาดเกินพอดีกิจอันนี้เขาทำเพื่ออะไร
    ถ้าเราจะแจกแจงเป็นธาตุ ๔ ก็ไม่ใช่ลักษณะนี้ นั่นต้องหวลเข้าไปหาสุกขวิปัสสโก ไม่ใช่ฉฬภิญโญหมวดแต่ละหมวดของกรรมฐาน ปฏิบัติไม่เหมือนกัน

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 5"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">หลวงพ่อคะ บางคนเขาภาวนาว่า "พุทโธ"แต่ว่าทำไมเขาไปได้คะ....?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 6"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ถ้าเขาไปได้แล้วอะไรก็ได้ให้มันสตาร์ทติดเสียก่อน ถ้าไปได้แล้วจริง ๆ ไม่ต้องภาวนานึกปั๊บมันถึงเลยกำลังเขาพอเข้าใจไหม..... คำว่าภาวนาที่เราใช้กันหนักเพราะเรายังไม่คล่อง แบบเขียนหนังสือน่ะ อ่านหนังสือวันแรก สองวัน สามวัน เขียน ตัวก.ไม่ได้ ถ้าเขียนคล่องแล้ว นึกเมื่อไรเขียนได้เลย ใครเขาพูดก็เขียนได้เลยเหมือนกันถ้าคล่องจริง ๆ ไม่ต้องภาวนา พอนึกปั๊บมันถึงทันที

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 7"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">หลวงพ่อคะ บทสตาร์ทนี่ ต้อง "นะ มะ พะ ธะ"อย่างเดียวหรือคะ "สัมมา อรหัง" ได้ไหมคะ...?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 8"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">เอาแล้ว หาเรื่องตกร่องอีกแล้ว มันมีหลายสิบบทไม่ใช่บทเดียว แต่ว่าบทนี้เท่านั้น ขณะที่ไปจึงจะคุยกับคนข้าง ๆ ได้นอกนั้นเขาไปเงียบ จบจุดแล้วจึงมาเล่าสู่กันฟัง
    ฉันคิดว่า ถ้าไปกันเงียบ ชาวบ้านเขาจะหาว่าโกหก ฉันจะตัดตัวนี้คือปัจจุบันเห็นแล้วคุยได้เลย ถามทางโน้นก็บอกทางนี้ได้ทันทีเขาต้องการอย่างนี้
    ฉันยังจำคำแนะนำของหลวงพ่อปานได้เมื่อก่อนฉันจะบวชฉันบวชนี่ฉันไม่ได้บวชตามประเพณีกับเขาบวชเพื่อพิสูจน์พระศาสนา พระศาสนาว่า สวรรค์มีจริง นรกมีจริงฉันจะไปเที่ยว
    หลวงพ่อปานท่านบอกความต้องการของแกน้อยไป ข้าต้องการมากกว่านั้นแต่ว่าแกบวชแล้วแกต้องรับคำสอนอย่างคนโง่นะ
    "อย่างคนโง่" ก็หมายความว่า ท่านบอกตรงนี้ จุดไหนก็ไปแค่นั้นแหละเดี๋ยวก็ถึง อันนี้ถูกต้อง เพราะท่านรู้จักทาง ท่านก็นำตรง ถ้าเราฉลาดเกินไปก็เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาอีก
    ฉันอยู่กับหลวงพ่อปานเดือนเดียว ฉันได้หมด เพราะฉันยอมโงอย่างลูกสาวของฉันนี่มันฉลาดมากเกินไป อย่างนี้เขาเรียกว่า "ฉลาดหมาไม่กิน"ใช่หรือเปล่า...........?

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 9"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ใช่ค่ะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ถ้าหมากิน เอ็งหมดไปนานแล้ว"
    "ค่อย ๆ ทำไปนะไม่ต้องใช้เวลาให้มาก ไม่ต้องไปใช้เวลาที่สงัดนั่งเล่นทำอะไรเล่นก็ตามนึกได้ก็ภาวนา หายใจเข้า นึก "นะ มะ" หายใจออก นึกว่า "พะ ธะ" สองสามครั้งก็ได้ถ้ามันฝืนขึ้นมาก็เลิกกัน ต้องการให้อารมรณ์ชินอย่างเดียวเวลาเขาฝึกจะได้ไม่แย่งกัน ให้แยกกันเสียให้เด็ดขาด
    ยามปกติเราต้องการความสุข เราภาวนา "พุทโธ"ของเราไปแต่บางขณะเช่นเวลานี้ ฉันจะเอา "นะ มะ พะ ธะ" ไม่ยอมให้ "พุทโธ" มาแย่งไม่กี่วันหรอกอย่างมากก็ ๒-๓ วัน
    ถ้าลองจนชินดีแล้วเราต้องการภาวนา "นะ มะ พะ ธะ" ก็ให้อยู่แค่ "นะ มะ พะ ธะ" พุทโธให้แยกไป
    ถ้าเราต้องการภาวนา "พุทโธ" ก็พุทโธไปตามปกติ อันนี้ก็ใช้ได้
    ค่อย ๆ ทำไปนะอยู่ที่ความเข้าใจตัวเดียว ใครจะคุมหรือไม่คุมไม่สำคัญต้องการภาวนาถูกต้องตามแบบเขา ไม่งั้นพระพุทธเจ้าก็ไม่วางแบบไว้ซิถ้าภาวนาอย่างไรก็ได้ พระพุทธเจ้าจะวางแบบไว้ทำไมสอนเสียอย่างเดียวก็พอใช่ไหม...."
    "พุทโธ"น่ะเป็นสายของสุกขวิปัสสโกเขา สายสุกขวิปัสสโก ไปไหนไม่ได้ ได้แต่ตัดกิเลส สายเตวิชโชก็มี
    คำภาวนาตั้งหลายสิบแบบ แต่ถ้า "นะ มะ พะ ธะ" เป็นการเตรียมเพื่ออภิญญา กรรมฐานไม่ใช่ว่าทำอย่างเดียว แบบจริง ๆ มี ๔๐ แบบ ถ้าเราใช้อะไรก็ใช้แบบที่ถูกต้อง ไม่งั้นไปไม่ได้"

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 11"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"สมมุติว่าหนูฝึก "พุทโธ" หลวงพ่อจะฉุดหนูไปได้ไหมคะ.........?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 12"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ได้ ฉุดลงใต้ถุนไป ไม่มีทางจะฉุดได้ยังไงพระพุทธเจ้าท่านยังไม่ฉุดใคร หลวงพ่อจะไปฉุดเอ็งเข้าดีไม่ดีจะมาตีเอาตายโทษหนักเสียด้วย โทษถึงประหารชีวิต เรื่องอื่นยังพอทำเนา บรรเทาโทษได้แต่ว่าเรื่องนี้ประหารชีวิตกันเลยนะ หนอยแน่........ไม่ได้หรอกไอ้หนูต้องฝึกเองแล้วทำไมภาวนา "นะ มะ พะ ธะ" ไม่ได้.........?

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 13"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"รู้สึกว่าเหนื่อยคะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 14"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">แล้วที่ด่าชาวบ้านทำไมทำได้ล่ะ..........?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 15"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หนูไม่เคยด่าใครคะครั้งเดียวไม่เคยค่ะ....."<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 16"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">น่ากลัวล่อไปหลายเที่ยว








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 17"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">(หัวเราะ)<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 18"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p></O:p>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ไอ้นี่ต้องคิดซิว่า "พุทโธ" เหมือนกับนั่งอยู่กับบ้านถ้าเราจะไป ไปอเมริกา เดินไปมันก็ไม่ไหวก็ต้องขึ้นเครื่องบินไป แบบ "นะ มะ พะ ธะ" เขาฝึกเพื่อหาเครื่องบินไปการฝึกในพระพุทธศาสนา เขามีตั้ง ๔ ประเภท ถ้าแบบใหญ่จริง ๆ มี ๔๐ แบบแบบย่อยอีกนับพัน อย่าง
    "นะ มะ พะ ธะ" เป็นส่วนหนึ่งของอภิญญา แต่ก็ยังไม่เข้าถึงอภิญญาจริง ต้องถือว่าเตรียมเพื่ออภิญญานี่เขามีจำกัดนะ แต่ว่าการปฏิบัติแบบนี้เขาก็มีหลายสิบแบบนะ ถ้าเป็นแบบเก่าคนข้าง ๆถามไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากสอนใคร ไปถึงไหน ๆ เล่าได้ตลอดเวลาถ้านอกจากนี้ไปก็นั่งเงียบแต่ผู้เดียวเลิกแล้วกลับมาจึงเล่าสู่กันฟัง
    อย่างนี้ฉันว่าของเก่านั้นของดีแต่ว่าพวกที่เขามีความสงสัยก็จะคิดว่าพวกนี้มาโกหก จึงไปหาแบบนี้มา
    แบบนี้ก็ไม่ได้สร้างเอง เป็นของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน คนข้าง ๆสามารถถามได้เวลานี้ไปถึงไหน แล้วจะบอกได้ตลอดเวลา หาอย่างนี้มา ๒๓ ปีกว่าจะพบตำรานี้ ไม่ใช่ค้นคว้าเองนะทราบอยู่ว่าของพระพุทธเจ้าท่านมี
    แต่ตำราที่เราฝึกเราไม่พบ กว่าจะพบก็สิ้นเวลาบวชไป ๒๓ ปีแต่ว่าวิธีอื่นน่ะทำได้ ถ้าเพื่อส่วนตัวนี่ทำได้ตั้งแต่พรรษาต้นแต่ว่าเราจะรู้เราก็ต้องรู้คนเดียวเลิกมาแล้วจึงมาเล่าสู่กันฟังทีนี้สำหรับคนรับฟังก็จะหาว่าโกหก
    อย่างสมมุติว่า พ่อเขาตาย แม่เขาตาย เขาถามว่าพ่อแม่เขาอยู่ที่ไหนตามผีนี่ตามง่ายกว่าตามคน ต้องการจะพบใครมันพบทันทีถ้าเราจะเอาให้แน่นอนเมื่อพบแล้วก็ให้เขาแสดงตัว
    เวลาที่เป็นมนุษย์รูปร่างเป็นอย่างไร แสดงให้ดูซิ เวลาป่วยยังไงผอมหรืออ้วน อาการป่วยที่คนพอจะรู้ได้ขอให้บอก พวกที่เขาถามเขารู้ว่าเคยป่วยแบบไหนเขาอาจจะไม่รู้ทั้งหมดรู้จุดใดจุดหนึ่งนะ เขาจะบอกให้ฟัง
    ถ้าถามถึงโรค มีอยู่หลายรายเขาบอกว่าที่หมอหรือพยาบาลบอกว่าตายด้วยโรคนั้น ๆ มันไม่จริง เขาตายอีกโรคหนึ่งแต่พยาบาลเขาเข้าใจว่าโรคนั้น
    นี่เราต้องถามอาการที่คนอื่นจะรู้เขาทำให้ดูเสร็จเรียบร้อยแล้วก็บอกคนข้าง ๆ ว่า พบแล้วเวลาที่มีชีวิตอยู่รูปร่างเป็นอย่างนี้ ใช่ไหม......และอาการที่จะตายจริง ๆ มีลักษณะแบบนี้ใช่ไหม.....คนนี้สมัยที่มีชีวิตอยู่เป็นคนใจดี หรือชอบหัวเราะ หน้าบึ้งขึงจอ อะไรก็ตาม ถามเขา เขาจะบอกตามความเป็นจริงหมด
    คงเข้าใจแล้วนะ สำหรับท่านที่ยังมีความสงสัยในคำภาวนาและการฝึกแบบนี้แต่ก็คงจะสงสัยอย่างอื่นอีกจึงขอนำปัญหาและคำตอบให้คลายสงสัยเสีย

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 19"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะถ้าหากฝึกมโนมยิทธิสามารถขึ้นไปข้างบนได้แล้วจะหลงวกวนอยู่บนนั้นไหมคะ..?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 20"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แหม......อีหนูเอ๊ย อยากให้หลงจริง ๆ ถ้ามันไปติดอยู่วิมานใดวิมานหนึ่ง แหม...ดีจริง ๆ<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 21"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">(หัวเราะ)ไม่หลงใช่ไหมคะ.......?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 22"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ไม่หลงหรอก"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 23"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แล้วที่ครูเขาแนะนำว่าไปที่วิมานวิมานอยู่ที่ไหนคะ..........?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 24"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p></O:p>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ถ้าเราไปถึงพระนิพพานได้วิมานบนพระนิพพานก็ต้องมี เมื่อไปถึงนิพพานได้เขาจะบอก ๒ จุดเพราะว่าครูเขาไม่มีเวลาสอน ถ้าเราขึ้นไปบนสวรรค์ดูวิมานของเรามีไหม.....ถ้าไม่มีก็ไปดูวิมานของเราที่พรหมมีไหม.....ถ้าไม่มีก็เหลือแห่งเดียวที่นิพพาน แสดงว่าขาตินี้ตายแล้วไปนิพพานแน่ถ้าหากว่าวิมานที่สวรรค์ยังมีอยู่หรือยังมีอยู่ที่พรหมและวิมานที่นิพพานมีอยู่แสดงว่าจิตเราจับวิปัสสนาญาณได้เล็กน้อยแต่มันหมองมันไม่แจ่มใสแต่วิมานเราอยู่จุดที่แน่นอนอันนี้แจ่มใส
    ถ้าวิปัสสนาญาณเราดีพอ จิตเราเข้าถึงโคตรภูญาณวิมานข้างล่างนี่จะหายหมด มันจะเหลือหลังเดียวข้างบน ถ้าเหลือหลังเดียวข้างบนตายแล้วมันไม่มีที่อยู่ ต้องไปอยู่หลังนั่นแหละ
    ถ้าพอถึงนิพพานแล้วยังถามว่าไปไหนอีกถ้าอารมณ์ใจยังพอใจในการเที่ยวก็แสดงว่ากิเลสยังหนาอยู่ถ้าเที่ยวไป ๆไม่ช้ามันจะเบื่อเที่ยว จิตมันจะรักอารมณ์อยู่จุดหนึ่งคือขึ้นไปนิพพานมันก็ไม่อยากขึ้น มันอยากจะตัดขันธ์ ๕ สบาย ๆ อารมณ์จิตเป็นสุข
    แต่ว่าก็มีเกณฑ์บังคับว่านิพพานต้องไปทุกวันเพื่อให้จิตมันจับเป็นเอกัคคตารมณ์ แปลว่าจิตมันเป็นหนึ่งเดียวต้องการอย่างเดียวคือนิพพาน ให้มีความผูกพัน
    แล้วไปนิพพานไปที่ไหน....?
    นิพพานมี ๒ จุดที่เราจะไปก็คือที่ประทับของพระพุทธเจ้า และก็ วิมานของเราถ้าเราไม่เห็นพระพุทธเจ้าเรานึกถึงท่าน ท่านจะมาทันทีคือว่าจิตอย่าปล่อยพระพุทธเจ้า ให้จิตมันเกาะไว้เป็นอารมณ์ทีนี้ตายแล้วก็มาที่นี่แหละ
    เรื่องของชีวิตมันจะตายเมื่อไรก็ช่าง คือว่าอย่าไปคิดว่ามันจะอยู่อีก๒ ปี ตื่นขึ้นมาเราคิดว่าเราอาจจะตาย วันนี้มันถึงจะถูกอันนี้เป็นมรณานุสสติกรรมฐานใช่ไหม......ถ้าวันนี้มันจะตายมันจะไปไหนตื่นขึ้นมาปั๊บเราคิดว่าเราจะตายวันนี้ จิตพุ่งปรู๊ดขึ้นนิพพานเลย ขึ้นไปแล้วสัก ๒-๓ นาที ก็ช่างให้อารมณ์มันสดชื่น พิจารณาขันธ์ ๕ เท่านั้นแหละ
    ถ้าจิตตอนเช้าเราจับเป็นอารมณ์ไว้แล้วกลางวันเราก็ไม่ได้นึกถึงนิพพาน มัวนั่งพูดกับเพื่อนบ้าง ทะเลาะกับเพื่อนบ้างขัดคอกับเพื่อนบ้าง หลบหน้าเจ้าหนี้บ้าง ตามเรื่องตามราวนะบังเอิญตายวันนั้นมันก็ไปนิพพานเพราะตอนเช้าเราตั้งอารมณ์ไว้แล้วใช่ไหม.....
    คืออารมณ์ตอนเช้า เวลาที่จิตมันสบายตั้งจุดไว้เลย ตั้งอารมณ์ไว้ก็อย่าตั้งเฉย ๆ ไปเลย ไปนั่งอยู่ข้างหน้าพระพุทธเจ้าให้จิตมันชื่นใจเวลานั่งข้างหน้าพระพุทธเจ้ามันสบายใจ ใช่ไหม........ ท่านสวย ท่านสว่างดูแล้วไม่อิ่มไม่เบื่อ อารมณ์มันก็มีความสุขคิดว่าที่นี่เป็นที่ที่เราจะมาในเมื่อขันธ์ ๕ มันพังให้ทำแบบนี้นะ"

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 25"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แล้วอย่างสมมุติว่า คนที่เขาฝึกได้แล้วเขาไปได้เขาก็เห็นวิมานของเขา แสดงว่าเขามีวิมานอยู่ถ้าหากเราอยู่อย่างนี้ เราทำแต่ความดีเราจะมีวิมานไหมคะ......?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 26"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"เราก็มีบ้านอยู่"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 27"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หนูอยากมีวิมานค่ะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 28"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ไปสร้างกุฏิสักหลังซิ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 29"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"มีจริง ๆ หรือคะ?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 30; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"วิมานน่ะ เขามีด้วยกันทุกคน ถ้าทำความดีแต่ว่าเราจะสามารถไปเห็นวิมานของเราหรือไม่ อย่างการก่อสร้างวิหารทาน สร้างโบสถ์สร้างกุฏิ สร้างส้วม สร้างศาลาอะไรก็ตามเถอะเราเอาเงินไปร่วมกับเขาด้วยความตั้งใจจริง วิมานจะปรากฏเลยเราจะรู้หรือไม่รู้อยู่ที่การฝึกจิต อย่างที่เขาฝึก "นะ มะ พะ ธะ" กัน"เอาล่ะ สำหรับปัญหาผู้ยังไม่เคยฝึกก็มีเท่านี้ ต่อไปนี้เป็นปัญหาของผู้เริ่มฝึกใหม่

    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <O:p< font O:p<>

    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 2<O:p< font O:p<>







    <HR align=center color=white SIZE=1 width="100%" noShade>

    ปัญหาของผู้เริ่มฝึกใหม่ๆ<O:p< font O:p<>

    <TABLE style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt" class=MsoNormalTable border=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< O:p < font>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">บางคนเขาก็มาปรารภว่ามาครั้งแรกทำไมจึงฝึกไม่ได้...?<O:p< p O:p <>








    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 94.5pt; mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 94.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 94.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">พวกที่ไม่ได้มันยังตั้งอารมณ์ไม่ถูกเขามีสิทธิ์ได้ มาถึงปุ๊บเดียวจะให้มันได้ความเข้าใจมันยังไม่ดี ที่เรียกว่ายังไม่เข้าใจ บางคนก็ใช้ตาดูบ้างบางคนก็ใช้ฌานหนักเกินไป มันก็ไม่ถูกจุด สูงเกินไปนิด ต่ำเกินไปนิด ก็ไม่ได้ต้องพอดี ๆ คือว่า ตอนจับทีแรกมันต้องอยู่แค่อารมณ์อุปจารสมาธิเพราะอันนี้เป็นวิชชาสาม พอจับภาพได้

    ปุ๊บ เกิดความมั่นใจ จิตเป็นฌาน<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 2"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ดิฉันก็เหมือนกันค่ะเวลามีครูมาสอบถาม ว่าเห็นอะไรบ้างหรือยัง ก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลย ตอบก็ตอบไม่ได้เพราะไม่เห็นอะไร ไม่เจออะไร ไม่ทราบว่าจะทำยังไงดี"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 144pt; mso-yfti-irow: 3"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 144pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 144pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">อันนี้มันเป็นอย่างนี้โยมมันเป็นอารมณ์ที่ไม่ชินนะ ทีนี้ที่เห็นนั้นเราไม่ใช้ตา มันเป็นกำลังของทิพจักขุญาณ ทิพจักขุญาณเบื้องต้นมันมัวเต็มที แล้วเราก็เห็นว่าเราจะต้องเห็นทางตา คำว่าทิพจักขุญาณ แปลว่ามีความรู้คล้ายตาทิพย์์มันเกิดเฉพาะความรู้สึก ไม่ใช่ลูกตาเห็นนั่นมันเป็นอันดับก่อนที่จะก้าวขึ้น ถ้าตอนนี้เราจับอารมณ์นั้นได้เมื่อเราจับได้แล้วครูเขาสนับสนุนโดยการให้พิจารณาตัดขันธ์ ๕บ้างนึกถึงบารมีของพระพุทธเจ้าบ้างและทำความรู้สึกเข้าไปภายในพระจุฬามณี ตอนนี้จิตมันจะเริ่มเป็นฌานความรู้สึกที่ว่าเห็นมันจะมีความใสขึ้น ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิมหน่อยหนึ่ง หรือบางคนก็ดีมากทีนี้ถ้าหากว่าความรู้สึกว่าเห็น ที่เราเรียกว่าทิพจักขุญาณจะดีมากดีน้อยขนาดไหน มันขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ ของจิตในเวลานั้นถ้าในเวลานั้นความรู้สึกของจิตมันล้างกิเลสไปได้มากเทียบเท่ากับพระสกิทาคามีหรือพระอนาคามี เฉพาะในเวลานั้นนะ ไม่ได้หมายความว่าเป็นเสียจริง ๆ เลยนะ คือเวลานั้นจิตมันสะอาดเทียบเท่ากับพระสกิทาคามีหรือพระอนาคามี ความรู้สึกที่เห็นมันชัดมาก การเคลื่อนไหวเร็วมาก"
    ถ้าฝึกใหม่ ๆ ก็อย่ากเห็นชัดอย่างนี้ละ อีกคนหนึ่งอยากเห็นชัดเหมือนกัน ถามว่า<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 4"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ที่หนูทำอยู่เวลานี้ก็พอจะเห็นบ้างแต่ว่ายังไม่ชัดหนูอยากจะไปเห็นชัด ๆ ค่ะ จะทำอย่างไรคะ...?<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 111pt; mso-yfti-irow: 5"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 111pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 111pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ถ้าอยากไปก็แสดงว่าไม่อยากไป ถ้าอยากไปมันเป็นนิวรณ์ คืออุทธัจจะกุกกุจจะมันคอยตัด อย่าอยากไปนะให้ทำแบบสบาย ๆ เราพอใจในผลที่เราได้มาแล้วในตอนก่อน จะได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถ้ารักษาอารมณ์ให้สว่างอย่างนี้มีผล อย่าลืมว่าอภิญญาจริง ๆ มันยังมีเวลาอีก ๑๙ ปี กำลังอภิญญาจึงจะเข้ามาถึงตอนนี้อภิญญาเล็ก ๆ แล้วก็พยายามฝึกไปเรื่อย ๆ นะถ้าต้องการจะให้เห็นแจ่มใสให้หมั่นจับภาพพระให้ไสเป็นประกายแก้วอยู่เสมอวันหนึ่งสักครั้งหนึ่งให้เป็นประจำ ก่อนหลับก็ได้ ถ้าทำอย่างนี้ละก็ ท่านบอกว่าถ้าถึงวาระอีก ๗ วันตายตอนนั้นจะพบพระหรือเทวดาเป็นประกายใสปลอดโปร่ง และจิตใจจะจับอยู่ในภาพนั้นและวาระนั้น นั่นแหละจิตใจจะตัดในที่สุด คือจิตจะตัดเข้าอรหัตผลตายแล้วไปนิพพานทุกคน"
    ถ้าอยากเห็นชัดละก็ตายแล้วไปถึงนิพพานชัดแจ๋วทุกคน<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 6"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะการนึกปั๊บเห็นปั๊บแต่เป็นภาพเดิม อย่างนี้เป็นสัญญาใช่ไหมคะ....?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 47.25pt; mso-yfti-irow: 7"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 47.25pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 47.25pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ไม่ใช่ เป็นสัญญาไม่ได้คือว่าคนที่เขาชำนาญเขาไม่นั่งป๋อหลอหรอก อย่างฉันนึกปั๊บได้เลย บางทีไม่ทันจะนึกละไปแล้ว"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 8"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ขึ้นไปถึงเลยหรือคะ..?"
    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 33pt; mso-yfti-irow: 9"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 33pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 33pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ไปถึงเลย คือมันจะเป็นสัญญาไม่ได้ สัญญามันได้แต่นั่งนึกเอา สัญญาก็นั่งจำแต่ภาพ เราเคยเห็นพระพุทธเจ้าในลักษณะไหนเราเคยเห็นวิมานของท่านในลักษณะไหนบ้าง วิมานของเราในลักษณะไหนบ้างเรานั่งนึกอันนี้เป็นสัญญา พอเรารวบรวมกำลังใจปั๊บแล้ว ไป อันนี้เป็นอภิญญามันไม่ใช่สัญญา<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 10"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะหนูนั่งทีไรเห็นไม่เต็มองค์ เห็นแค่เศียร เวลาขึ้นไปข้างบนเห็นวิมานมีหลังคาสูง ๆแต่เข้าไม่ได้ค่ะ ทำยังไงหนูจะเข้าไปได้คะ......?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 33pt; mso-yfti-irow: 11"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 33pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 33pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ตัดสินใจให้มันแน่นอนอารมณ์ไม่เด็ดขาดจริง ยังห่วงขันธ์ ๕ อยู่ ยังห่วงร่างกายยังห่วงลูกยังห่วงฝาละมี(สามี) อะไรพวกนี้ ยังห่วงอย่างนี้เข้าไม่ได้หรอก ถ้าก่อนที่จะขึ้นต้องตัดสินใจให้มันเด็ดขาด การเห็นภาพไม่ชัดมันบอกได้เลยว่าเราตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่ต้องไปเปิดตำราที่ไหนนี่เป็นเครื่องวัด"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 16.5pt; mso-yfti-irow: 12"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 16.5pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แต่ฝึกครั้งแรกขึ้นไปเห็นชัดมากค่ะ..."<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 33pt; mso-yfti-irow: 13"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 33pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 33pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"วันแรกเขาสอนเราไปตามเขาพอเขาทิ้งก็ชักห่วงหน้าห่วงหลัง พอออกไปหน่อย เอ... ไอ้โอ๋ไปไหนหว่าอยู่กับใคร...ก็ยังถือว่าดี ควรจะตัดสินใจให้มันเด็ดขาดตอนเช้ามืดควรจะตัดสินใจไปเลยว่าชีวิตนี้มันทรงตัวอยุ่ขนาดไหนก็ช่างมันเถอะถ้าตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพานเอาให้แน่นอน ถ้าตั้งอารมณ์ดีจริง ๆ ถ้าตั้งใจแบบนั้น ทีหลังเห็นเต็มองค์ไม่ยาก"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt; mso-yfti-irow: 14"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 15.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 15.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะเวลาฝึกมโนมยิทธิบางวันก็อารมณ์ดี ขึ้นไปก็เห็นแจ่มใส แต่มันดีเป็นพัก ๆค่ะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 435pt; mso-yfti-irow: 15; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 435pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; HEIGHT: 435pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">อารมณ์ดีเป็นพัก ๆ นี่ถูกคือว่าที่เป็นพัก ๆ เพราะว่าร่างกายมันยังเกาะขันธ์ ๕ ถ้าเหนื่อยเกินไปเพลียเกินไปอันนี้อารมณ์จะมัวได้ แล้วก็ประการที่ ๒ ถ้ามันป่วยขึ้นมามันจะทำให้ประสาทสั่นคลอนนิดหนึ่งโดยที่เราไม่รู้ตัวอันนี้มัวได้
    แล้วก็ประการที่ ๓ รวบรวมกำลังใจยังไม่เต็มที่ก็ขึ้นเลยอันนี้มัวได้
    การใช้กำลังอภิญญานี่เราจะถือความสว่างมากสว่างน้อยไม่สำคัญ สำคัญว่ากำลังจิตของเราเข้าถึงจุดหมายปลายทางไหมเขาถือตัวนี้เป็นตัวสำคัญนะ
    เพราะว่าถ้าเรายังมีขันธ์ ๕ อยู่เราจะให้ทรงตัวอยู่เป็นปกติมันไม่ได้แน่ พระอรหันต์ยังไม่ได้เลย
    บางคนก็มาบ่นให้ฟัง "ฝึกได้แล้วพอกลับไปบ้านก็มืดไปมัวไป"ก็ต้องไปดูว่ามันมืดเพราะอะไร มืดเพราะศีลบกพร่องหรือเปล่าถ้าศีลบกพร่องเราเข้าพระจุฬามณีไม่ได้
    ถ้าบอกว่ามืดเพราะสมาธิต่ำไม่ใช่ถ้าสมาธิต่ำมันไม่แสดงอาการของการมืด แต่การเคลื่อนของจิตมันจะช้าลงการมืดหรือสว่างมันอยู่ที่วิปัสสนาญาณ
    ศีลเป็นภาคพื้น
    สมาธเป็นกำลังเดินทาง
    วิปัสสนาญาณเป็นคบเพลิงสำหรับส่องทาง
    ทั้ง ๓อย่างนี้ต้องขนานกัน แต่ว่าบางทีศีลดี สมาธิดี วิปัสสนาญาณดีแต่ว่าร่างกายไม่ดีอันนี้ก็มืดเหมือนกัน
    แต่หลวงพ่อไม่งั้นนะถ้าร่างกายไม่ดียิ่งสว่างเพราะว่าถ้าร่างกายไม่ดีจิตมันจะดีทันที พอเริ่มป่วยนี่จะป่วยมากน้อยก็ตามจิตมันจะรวมตัวทันทีพร้อมใส่กระเป๋าเตรียมตัวเดินทางใช่ไหม..........
    จำไว้นะ ไม่ใช่พอป่วยร้อง อ๋อย ๆ คือว่าร่างกายมันจะครางมันจะร้องมันจะเจ็บ มันจะปวด มันเป็นเรื่องธรรมดาของร่างกายไม่ใช่ว่าถือธรรมดาแล้วร่างกายจะไม่เจ็บไม่ปวด อันนั้นไม่ถูก แม้แต่พระอรหันต์ทุกองค์ท่านก็เจ็บท่านก็รู้ว่าร่างกายเจ็บ ร่างกายหนาว ร่างกายร้อนท่านก็รู้ ร่างกายป่วยไข้ไม่สบายท่านรู้ แต่ว่าท่านไม่ได้ทุกข์ จิตท่านไม่กังวลท่านก็รักษาพยาบาล ท่านหิวท่านก็กิน ท่านร้อนท่านก็หาเครื่องเย็น ท่านหนาวท่านก็หาเครื่องอุ่นหาได้แค่ไหนพอใจแค่นั้นถ้าหาไม่ได้ก็แค่นั้นแหละ แค่นี้เอง"
    เอาละคงจะพอเข้าใจแล้วนะต่อไปนี้เป็นปัญหาของผู้ฝึกได้แล้ว








    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <O:p< font O:p<>

    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 2<O:p< font O:p<>


    ปัญหาของผู้เริ่มฝึกได้แล้วและการฝึกแบบเต็มกำลัง<O:p< font O:p<>

    <TABLE style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 1.5pt" class=MsoNormalTable border=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< O:p < font>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ผมเคยชวนคนอื่น ๆ มาฝึกมโนมยิทธิแต่แล้วเขาบอกว่า พอออกไปแล้วกลัวใครจะมาทำร้ายร่างกาย มาเผาร่างกายเรื่องนี้จริงไหมครับ........?"<O:p< p O:p <>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>








    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ไอ้คนที่ได้มโนมยิทธิจริง ๆ ถ้าไปถึงสวรรค์ได้เขาไม่อยากมองมนุษย์นะเพราะเมืองมนุษย์มันเลอะเทอะด้วยประการทั้งปวง โลกทั้งโลกมันสกปรกถ้าแดนสวรรค์ก็มีแก้วกับทองสวรรค์มีความสุขมีที่อยู่สบายถ้าไปถึงพรหมเราก็ไม่อยากไปสวรรค์ เพราะพรหมเขาดีกว่าถ้าเข้าถึงนิพพานเราก็ไม่อยากมองพรหม ถ้าบังเอิญเวลานั้นใครทำร้ายหรือจะเอาร่างกายไปเผาเสียก็ดี จะได้ไม่ต้องกลับมา กลัวเขาจะไม่ทำยังงั้นน่ะซิ ถ้ากลัวตายก็ฝึกวิชานี้ไม่ได้อันนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเจริญพระกรรมฐาน<O:p< p O:p <>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 2"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"มีลูกศิษย์บางคนนะคะ เขาไม่ชอบไปดูของสวย ๆ บนสวรรค์ เขาอยากไปนรก เขาบอกว่า เห็นในสิ่งที่ไม่ดีแล้วจะได้ไม่ทำในสิ่งนั้น"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 3"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">เออ....ไอ้นี่เหมือนกับฉัน ไปได้ครั้งแรกปีแรก ฉันไม่ไปสวรรค์เลย ไปนรกจุดเดียว นรกนี่ใช้เวลา ๑ ปี ไปไม่ครบนะ นรกจริง ๆ มันมี ๔๐๐ ขุมกว่า ขุมใหญ่มี ๘ ขุม แต่ละขุมมันแยกไปอีก ไปถึงก็ถามเขาแต่ละขุมเราเคยมากี่เที่ยว แต่ละครั้งที่เรามาทำบาปอะไร เราขอดูภาพเดิมสมัยเป็นมนุษย์เราทำบาปอะไร นรกขุมนี้ลงโทษแบบไหนฉันไปทุกขุมฉันก็ไปถามเขาทุกขุม ลองไล่เบี้ยดู เป็นการลงโทษตัวเองปรามตัวเอง อย่างไอ้หนูนี่คิดถูก ถ้าดูคนอื่นเขาลงน่ะมันไม่มันนะ ต้องดูของตัวเองดูว่าในสมัยที่เราเป็นคน เราทำอะไรผิดเราจึงลงนรก บางครั้งเราเป็นคนมีวาสนาบารมีสูงแต่ก็เมาในชีวิต มีอำนาจมากกว่าเขา ก็สร้างความชั่วข่มเหงเขาบ้าง ทำอะไรเขาบ้างตายแล้วก็ลงนรก ต้องขอดูภาพเดิม อย่าดูแต่ภาพนรกเฉย ๆ นะดูว่าสมัยเป็นมนุษย์เราทำอะไรไว้ จึงถูกลงโทษแบบนี้มันจะได้ประสานกัน
    ที่สวรรค์จุดแรกที่ต้องการไปให้ถึงคือพระจุฬามณีอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 4"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะดาวดึงส์กับจุฬามณีนี่ที่เดียวกันใช่ไหมคะ...?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 5"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ใช่ ที่เดียวกันจุฬามณีตั้งอยู่ในเขตของดาวดึงส์"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 6"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ดิฉันไปกราบท่านพ่อกับท่านแม่ที่ดาวดึงส์ค่ะแล้วก็ไปนิพพาน"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 7"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ก็ได้คือว่าเราต้องการให้อารมณ์จิตอยู่ที่นั่น ก็ต้องไปกราบทุกวันนะ ฉันก็กราบที่เราไปกราบพ่อแม่เพราะอะไร เพราะท่านจะไปนิพพานอยู่แล้วพ่อแม่นี่มีความจำเป็นต้องกตัญญูทางที่ดีพอขึ้นไปที่นั่นแล้วพอกราบท่านแล้วก็ต้องถามท่านว่า มีอีกบ้างไหมที่เป็นบิดามารดาเดิมที่ยังเป็นเทวดาหรือพรหมอยู่ ขอเชิญมาประชุมหมด แล้วท่านก็จะมาหมดพอมาแล้วก็กราบท่าน เราขอขอบคุณท่านเราจะได้รู้ว่าพ่อแม่ที่อยู่เป็นเทวดาหรือพรหมมีเท่าไร พ่อแม่ของเราในอดีตมีเยอะขึ้นไปแล้วไม่หงอยเหงาแน่ ๆเพลิดเพลินจนไม่อยากกลับทีเดียว<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 8"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หนูมีปัญหาอันหนึ่ง คือก่อนนอนก็ภาวนา นะ มะ พะ ธะ แล้วก็หลับไปเลย มีอยู่วันหนึ่งนะคะตอนใกล้เช้าค่ะ มีความรู้สึกว่าไม่ได้หลับแต่มีความรู้สึกว่าจิตมันจะออกไป แต่ไม่ยอมลอยขึ้นไปข้างบน แล้วอยู่ ๆ ก็ดึงลงไปข้างล่างเลยค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากจะให้ลงมันเป็นเพราะอะไรค่ะ.......?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 9"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">ถ้ามันดึงลงข้างล่างก็ให้มันดึงไป ไปเที่ยวนรกถ้าปล่อยตัวหลุดแบบนั้นเป็นตัวอภิญญาแท้ คือ นะ มะ พะ ธะ ที่เราทำเวลานี้นะ ถ้ามันถึงจุดมันจะออกจุดออกของเขาจริง ๆมันเหมือนกับตัวเราออกไปเลย มันออกไปจริง ๆทีนี้มันจะดิ่งลงก็ให้มันลงไปอารมณ์อันหนึ่งเขาอาจจะบังคับให้ไปดูนรก ข้างล่างว่าเป็นยังไงแต่ไปแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะกลับมาไม่ได้นะ กว่าจะกลับก็เช้า ทีหลังตั้งใจไว้ก่อนว่าถ้าออกได้จะขอไปพระนิพพาน แล้วไปจะหาแม่ หาปู่ แต่ว่าการตั้งใจไว้ก่อนเวลาภาวนาก็อย่านึกถึงท่านนะ ทิ้งเลย ถ้าออกปั๊บมันจะพุ่งไปเลยขณะที่ภาวนาเราต้องทิ้งอารมณ์อยากจะไปนิพพานจะไปหรือไม่ไปไม่สำคัญแต่ทำใจให้สบายนี่มันจะไปได้ซึ่งซ้อมแบบนั้นน่ะดีแล้ว มันจะเคลื่อนได้ดี
    ถึงฝึกแบบเต็มกำลังจริง ๆ ออกไปได้จะสนุกมาก เห็นวิมานเยอะแยะไม่มืดสลัว เห็นชัดเจนแจ่มใสดีมากแทบไม่อยากกลับมาทีเดียว<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 10"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"กระผมสังเกตดู อย่างวิมานของหลวงปู่ก็ดีของพระพุทธเจ้าก็ดี ปรากฏเห็นชัดดี แจ่มใสดีเวลาไม่ต้องการเห็นก็หายไป"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 11"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ใช่...ถ้าจิตเราไม่ต้องการเห็นแป๊บเดียวก็หายมันเป็นไปตามกำลังของจิตแต่ความจริงไม่ใช่วิมานหายนะจิตเราไม่เห็นเอง ถ้าเราไม่ต้องการมันก็ไม่เห็นไม่ใช่เราไปรื้อวิมานเขานะ ถ้าโยมไปรื้อวิมาน เทวดาตีตาย"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 12"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"เรื่องนี้องค์อื่นผมก็ไม่กล้าคุยครับ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 13"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">อาตมาไม่เป็นไรหรอกโยมความจริงพระที่ท่านเข้าถึงไม่มีองค์ไหนบอกนิพพานสูญเรื่องของนิพพานมันมีอยู่อย่างนี้ เราจะเห็นได้หรือไม่ได้มันมีอารมณ์ของจิตตามขั้นถ้าจิตของเราเป็นฌานโลกีย์ล้วน ไม่มีทางเห็นได้เลยสมมุติว่าเราไม่เป็นพระอริยเจ้าจริง เวลานั้นจิตมันต้องว่างจากกิเลสชั่วเวลาหนึ่งอันนี้จึงจะเห็นนิพพานถ้าตามเกณฑ์ที่จะเห็นนิพพานได้ถ้าสุกขวิปัสสโกนี่ท่านไม่เห็นเลยนะ ไม่เห็นผีไม่เห็นเทวดา ไม่เห็นนรกสวรรค์ไม่เห็นอะไรทั้งหมด ก็ชื่อว่า ตัดกิเลสได้ ถ้าเตวิชโชเขามีสองในวิชชาสาม คือทิพจักขุญาณกับปุพเพนิวาสานุสสติญาณถ้ายังเป็นฌานโลกีย์อยู่ ทิพจักขุญาณ ตัวนี้จะไม่สามารถเห็นนิพพานได้เลยจะเห็นได้แค่พรหมโลกนรกทุกขุมเห็นได้ สวรรค์ขึ้นไปถึงพรหมโลกเห็น ถ้าจิตเข้าถึงโคตรภูญาณเป็นอย่างต่ำอันนี้จึงจะเห็นนิพพานไม่ใช่ว่าทำทิพจักขุญาณได้จะเห็นอะไรทั้งหมดถ้าหากว่าเราปฏิบัติกันแล้วไปถึงนิพพานได้ แสดงว่าจิตเวลานั้นว่างพอ สะอาดพอ<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 14"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะ เวลาขึ้นไปแล้วแต่ว่าทรงอารมณ์อยู่ไม่นานก็กลับมาใหม่ อันนี้เป็นเพราะเหตุใดคะขอให้หลวงพ่อชี้ข้อผิดพลาดด้วยค่ะ...?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 15"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"มันไม่ผิดหรอก เวลาตั้งอารมณ์จิตไม่ตั้งเป็นฌานเพราะว่าอารมณ์ที่เป็นฌานมันน้อยเกินไป มันเป็นอุปจารสมาธิเสียมากวิธีที่ฝึกเวลานี้ไม่ใช่ไปแก้จุดนั้นไปแก้อีกจุดหนึ่งเมื่อยามว่างเราควรจะตั้งเวลาสัก
    นาที ๕ นาที จับลมหายใจเข้าออก แล้ว่า นะ มะ พะ ธะ เราจะนั่งท่าไหนก็ได้ ให้จิตมันอยู่เฉพาะคำภาวนากับลมหายใจนะ แต่ว่าอาการอย่างนั้นจะมีได้ในบางขณะ บางทีเราเริ่มจับปั๊บจิตมันตกต่ำลงไปเลยถ้าหากว่ามันทรงไม่อยู่ไปแล้วกลับมา พอกลับมาก็ทรงอารมณ์ให้สบาย ไม่ไปไหนละนั่งอยู่ภาวนาให้สบาย ๆ ให้จิตมันเป็นสุขพอจิตมีกำลังปั๊บ ขึ้นไปใหม่ มันอยู่ได้ไอ้นี่เรื่องธรรมดา"<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 16"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แต่บางครั้งในขณะที่ครูเขาทดสอบมีความรู้สึกว่าจะตายค่ะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 17"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"จะตายหรือ ดี คือ มีความรู้สึกว่าจะตายถ้ามันจะตายเวลานี้เราขออยู่ที่นิพพาน"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 18"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"พอมีความรู้สึกว่าจะตายเลยไม่ยอมไป"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 19"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ไม่เป็นไรนะ นั่นเป็นอารมณ์อันหนึ่งถือว่าเป็นอารมณ์แทรกเข้ามาคือว่ากำลังใจเราจะมั่นคงไหม แต่การแทรกเข้ามารู้สึกว่าจะตาย จะดูว่าเรามั่นใจในพระนิพพานไหมหรือเราจะไปยุ่งกับทุกขเวทนา ทีนี้ถ้าจิตมันตัด ตายก็ตาย ถ้าตายเราไปนิพพานแค่นี้เขาก็พอใจแล้ว คือว่าอาการที่เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่อาการของร่างกายเป็นอาการถูกทดสอบจากพระอริยะถ้าเวทนาแบบนี้เข้ามา กำลังใจเราเป็นอย่างไรถ้ากำลังใจเราตัดสินใจว่าถ้าเราตายเวลานี้เราไปนิพพาน/COLOR]และตอนนั้นเราดีดตัวถึงพระนิพพานได้ ลงมาเราก็ไม่เป็นไร ถืออารมณ์อย่างเดียว คือว่าเราห่วงตัวหรือห่วงนิพพานเขาต้องการเท่านี้แหละ........
    การเจริญพระกรรมฐาน มักจะมีเทวดา ครูบาอาจารย์และพระอริยะมาทดลองเสมอ เพราะฉะนั้นอย่าได้กลัว ท่านต้องการให้เราได้ดี"<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 20"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะ ตอนที่ฝึกมโนมยิทธินะคะเมื่อขึ้นไปบนสวรรค์แล้ว เห็นใส่เสื้อผ้าเป็นธรรมดาค่ะอันนี้เป็นภาพจริงหรือเปล่าคะ..?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 21"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ภาพน่ะเป็นภาพจริงแต่ไม่ตรงความจริง"
    <O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 22"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แล้วยังเห็นคนที่เขาอยู่บนสวรรค์เขาก็แต่งตัวไม่เหมือนชาวสวรรค์เราเป็นมนุษย์ยังแต่งตัวสวยกว่าตั้งเยอะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 23"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ที่เราเห็นเขาอย่างนั้นน่ะ เขาทำภาพเดิมให้ดูคือว่าเขาเกรงว่าเราจะจำเขาไม่ได้ อันดับแรกเขา ต้องแสดงแบบนั้นก่อนถ้าเราเห็นแบบนั้นเราควรจะถามเขาว่าเวลานี้ภาพความเป็นจริงของท่านมีรูปร่างเป็นอย่างไรขอให้แสดงความเป็นจริง"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 24"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"อยากถามเขาเหมือนกันค่ะแต่ดูหน้าตาเขาแล้วไม่อยากจะพูดกับเขาเลย ตอนนี้พยายามฝึกให้ได้ฌาน ๔ ก่อนเผื่อจะได้ถอดจิตไปถึงอินเดียบ้าง"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 25"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ฌาน ๔ เป็นอย่างไร..?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 26"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ไม่ทราบซิคะ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 27"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"นี่กินขนมอยู่แล้วยังนึกว่ายังไม่ได้กินไอ้การไปสวรรค์ได้ไปพรหมได้นี่มันเป็นกำลังของฌาน ๔ ถ้ากำลังไม่ถึงฌาน ๔ มันจะไปถึงจุฬามณีไม่ได้ จำให้ดีว่าขณะที่เราเห็นภาพครั้งแรกที่ครูเขาฝึกอันนี้เป็นทิพจักขุญาณ ตอนนี้เป็นอุปจารสมาธิ ถ้าเห็นภาพแล้วภาพเริ่มแจ่มใสตอนนี้เป็นฌาน แต่ถ้าไม่ถึงฌาน ๔ จะเคลื่อนจิตไม่ได้ถ้าจิตเคลื่อนไปถึงพระจุฬามณีได้ จงทราบว่าระหว่างนั่นเป็น ฌาน เป็นฌาน ๔ สำหรับใช้งาน"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 28"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"เป็นยังไงคะฌาน ๔ ใช้งาน...?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 29"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ฌานมันมี ๒ ลักษณะ ที่เขานั่งเข้าฌาน นั่งเฉยๆ เป็นการฝึกให้ฌานมันเกิดขึ้น แล้วก็ทรงฌาน ทีนี้ฌาน ๔ สำหรับใช้งานก็คือจิตเคลื่อนไปสู่ภพต่าง ๆ หรือไปที่ต่าง ๆ อย่างเรานั่งอยู่ตรงนี้คนที่นั่งอยู่ข้างหลังคิดอะไรอยู่เราอยากรู้เราก็รู้หรือเขาทำอะไรเราอยากรู้เราก็รู้ได้ แล้วเป็นฌาน ๔ ประกอบไปด้วยอภิญญา ถ้าฌาน ๔ เฉยๆ มันก็ไม่รุ้เหมือนกัน ถ้าไม่เคยได้อภิญญาความจริงถ้าฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มอัตราที่ฝึกกันนี่ใช้กำลังเพียงครึ่งหนึ่งถ้าแบบเต็มอัตรามีสภาพเหมือนฝัน คือไปได้แบบตัวเราไปเที่ยวธรรมดา รู้สึกได้เต็มที่ก็บังคับให้กำลังภาพมันหยาบหน่อย ที่เราฝึกนี่ใช้กำลังเพียงครึ่งเดียวคือกำลังที่เราใช้แค่วิชชาสาม เนื้อแท้จริง ๆ ของมโนมยิทธิต้องเป็นกำลังของอภิญญา
    แต่ว่าถ้าจะหันเข้าไปฝึกอภิญญา มันเป็นของไม่ยากอภิญญาต้องตั้งต้นด้วยกสิณ ๑๐ มีเตโชกสิณ อาโปกสิณเป็นต้นแต่ว่าได้มโนมยิทธิแบบนี้แล้ว ก็ใช้จับภาพกสิณได้ทันที เพราะว่าตัวที่ได้มโนมยิทธิถ้าเราไปเริ่มต้นกสิณจริง ๆ เราก็ถอยหลังเข้าคลองคือจับผลของกสิณเลยกสิณถ้ามันได้ผลจริง ๆ มันมีสีเหมือนกันหมดมีสีใสเป็นประกายแพรวเหมือนกันหมดเดิมจะเป็นสีอะไรก็ช่าง
    อย่างโลหิตกสิณ (กสิณสีแดง)จับภาพทีแรกมันเป็นสีแดงเขาต้องภาวนา "โลหิตกสิณัง" แต่ว่าถ้าทำไปสีแดงมันจะกลายจนกระทั่งขาวพอขาวแล้วก็เป็นประกายแพรวเต็มที่ ถ้าจิตมีกำลังถึงฌาน ๔ กสิณจะเป็นประกายแพรวพราว ฉะนั้นกสิณทุกกองจะมีภาพเหมือนกัน เมื่อถึงฌาน ๔ เราจับกสิณก็เป็นประกายให้หมดใช้กำลังมโนยิทธิที่เราได้ จับปลายของกสิณเลยแล้วมันจะคล่องตัว ปลุ๊บ ๆ จับได้หมด จับได้ก็ย้อนไปย้อนมาจนชินจนกระทั่งอารมณ์เราจะใช้เวลาไหนก็ได้ กำลังปวดท้องขี้เต็มที่จับภาพกสิณก็ได้ต้องได้จริง ๆ นะ ไม่ใช่ล้อเล่น
    ต้องได้จริง ๆ จึงจะฝึกอภิญญาได้"<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 30"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ถ้าฝึกอภิญญาได้ก็แสดงฤทธิ์ได้ใช่ไหมคะ....?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 31"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แสดงฤทธิ์ได้ แสดงไปเดี๋ยวก็หลงตัวเองความสำคัญมีอยู่ว่า ทำอย่างไรจึงจะเข้าใจว่าสวรรค์มีจริง พรหมโลกมีจริงนิพพานมีจริง พวกเปรต อสุรกายมีจริง ความสำคัญมันมีอยู่แค่นี้เองวิชานี้ที่เรามีอยู่แล้วทำเสียให้เต็มที่ทำให้พอใจเพราะว่าถ้าเราเป็นมโนมยิทธิเต็มที่ เต็มกำลังเราก็รู้อะไรทั้งหมดเวลานี้เราก็รู้หมดอยู่แล้วกำลังอ่อนหน่อยก็ไม่แปลก รู้ได้เหมือนกันเราก็ใช้กำลังส่วนนี้รู้จักพระนิพพาน จิตก็จับพระนิพพานเป็นอามรณ์มันก็แค่นื้ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อนิพพานอย่างเดียวไม่ใช่ทำเพื่ออวดชาวบ้าน"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 32"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ถ้าหากเราฝึกมโนมยิทธิได้แล้วต้องการดูกระแสจิตของเราเองจะได้ไหมคะ.......?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 33"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ได้........การดูใจเขาดูแบบนี้คือดูแสดงสว่างของใจที่มันออกมา กระแสจิตของนักปฏิบัติเป็นสีเนื้อหรือสีเคลือบแก้วถ้ายังเป็นสีเนื้ออยู่ก็แสดงว่าบุคคลนั้นเป็นปุถุชนเต็มอัตราถ้าเป็นแก้วเคลือบหนาขึ้นไปทีละหน่อย ๆ จนกระทั่งเป็นแก้วใสสะอาดอย่างนี้ใช้ได้ในด้านสมถภาวนา ต่อไปอีกขั้นหนึ่ง ถ้าเป็นประกายแพรวพราวอันนี้เขาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ถ้าจะดีจริง ๆ มันเป็นแสงละเอียด เหมือนประกายแว้บๆ เหมือนกระจกน่ะดี แต่ยังดีไม่เต็มที่ ถ้าจะดุว่าอารมณ์จิตละเอียดไหมถ้าวิปัสสนาญาณมาก จิตจะเป็นประกายมาก ถ้าประกายน้อย จิตมีวิปัสสนาญาณน้อยทีนี้กระแสจิตที่ออกมาน่ะ ออกเรียบร้อยดีไหม........หรือว่าลุ่ม ๆ ดอน ๆถ้ากระแสจิตเรียบร้อยดี อย่างนี้มีหวังไม่มีทางพลาดหวังพระนิพพานท่านบอกไว้เลยนะ
    การเห็นกระแสจิต เรียกว่าเจโตปริยญาณเป็นญาณหนึ่งในญาณ ๘ ถ้าฝึกมโนมยิทธิได้ฝึกญาณ ๘ ได้ง่ายมาก"<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 34"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"หลวงพ่อคะ ครั่งแรกที่ฝึกมโนมยิทธิเวลาที่ขึ้นไปพระนิพพานแล้วครูก็จะปล่อยให้นั่งชมบารมีของพระพุทธองค์พอกลับไปบ้านก็นึกถึงภาพนี้อยู่เสมอบางครั้งจะเห็นว่า ที่ขึ้นไปอีกคน ไม่ใช่ภาพที่เห็นค่ะ?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 35"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"ตัวเรามีคนเดียว"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 36"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"แต่ทำไมถึงเห็น ๒ คนเล่าคะ......?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 37"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"เห็นได้ เพราะสภาพความเป็นทิพย์เห็นกี่แสนคนก็ได้ รวมได้เป็นคนเดียวเสียเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ถ้าใช้มันจะใช้กี่แสนคนก็ได้ ทำงานเหมือนกันหมด ทำงานคนละอย่างคนหมดโลกนี่ต่างคนต่างพูดกันคนละเรื่อง เขายังทำกันได้ เพราะสภาพความเป็นทิพย์ไม่งั้นเขาจะเรียกความเป็นทิพย์ทำไม.....?"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 38"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"คือสงสัยค่ะปกติเห็นแต่ตัวเราคนเดียว......."<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 39"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"นี่เขาทำให้ดูอย่างนั้นแหละอะไรบ้างที่เราผูกพันเขาแสดงสภาวะอย่างนั้นให้ดู ถ้าเราเห็นอย่างนั้นจิตมันก็ผูกพันอยู่กับสิ่งนั้น ถ้าตายปุ๊บมันก็ไปอยู่ที่นั่นท่านหาทางให้จิตไปอยู่ทีนั่น"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 40"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"บางทีขออาราธนาบารมีท่านให้พาไปที่อื่นท่านก็เกาะหัวจุกไปเลย บางทีก็เกาะพระบาท บางทีก็เกาะบันเอว"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 41"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"จะถามอะไรก็ตาม ถ้าทำให้เราดึงดูดใจท่านก็ทำภาพนั้น ท่านดีใจจะตาย โดยมากท่านต้องการให้คนของท่านคำว่า "คนของท่าน"หมายถึง ลูกก็ดี หลานก็ดี บริวารก็ดี อย่างน้อยต้องขึ้นดาวดึงส์ให้หมดเวลานี้คนของฉันไม่มี เพราะว่าตัดสินใจแล้ว เพราะถ้าตัดไปกันหมดแล้ว แสดงว่าไม่ค้างถ้ายังค้างอยู่ ยังไปไม่ได้ ก็ไปสมัยพระศรีอาริย์"

    เรื่องการฝึกมโนมยิทธิแบบใหม่นี้ คนที่ไม่เคยฝึกมักจะมีปัญหาถามเสมอเช่น"ถ้าฝึกไปได้แล้วเวลาจะกลับ กลับยังไง"หลวงพ่อก็ตอบว่า"ให้มันไปได้ก่อนเถอะน่า"ทั้งนี้ก็กลัวว่าไม่ได้กลับและหลวงพ่อก็ยังบอกอีกว่า
    วิชานี้เดี๋ยวนี้เขาเฟื่องหมดแล้ว เขาได้กันเป็นแสนแล้วเวลานี้ก็หนักมากที่อเมริกา เยอรมันตะวันตกและเริ่มไปไหวตัวที่ญี่ปุ่นกับนิวซีแลนด์ ระวังนะ อยู่ประเทศไทยชาวต่างประเทศจะมาสอนเอา เขาเอาความรู้ไปจากประเทศไทยเขาจะเอาความรู้ของไทยมาสอนคนไทยต่อไป
    ข้อนี้น่าคิดนะครับ เราเป็นคนไทยอยู่ใกล้พระพุทธศาสนาจะเป็นดังสุภาษิตที่ว่า"ใกล้เกลือกินด่าง"บางคนไม่กินแล้วยังว่ากระทบกระเทือนเสียอีก อันนี้ก็ไม่ขอว่ากัน เราถือว่า"ของจริงย่อมทนต่อการพิสูจน์"และวิชานี้คนที่ได้พิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าก็มีเยอะแยะไปโดยเฉพาะผู้หญิงหลวงพ่อเคยบอกว่า

    "พวกผู้หญิงนี่คล่องตัวกว่าผู้ชายเราเสียท่าผู้หญิงแต่อีกพวกหนึ่งก็คือพระ เสียท่าฆราวาส พระนี่เสียท่าจริง ๆ เพราะพระมีศีล ๒๒๗ การฝึกกรรมฐานนี้ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์ มันเดินไม่ออกและพระเวลานี้ก็หนักใจเหมือนกันเพราะเวลานี้ท่านบวชเข้ามาท่านรู้ตัวว่าเป็นพระหรือเปล่าก็ไม่รู้
    ถ้าปฏิบัติแบบฆราวาสล่ะ เจ๊ง........สังฆาทิเสส ถ้าผิดเข้าไปแล้วไม่มีทางจะได้ฌานสมาบัติ ถ้ายิ่งเป็นปาราชิกก็ขาดความเป็นพระภิกษุ ส่วนฆราวาสเขาตั่งตัวได้ วันนี้ศีลขาดพรุ่งนี้เขาตั้งตัวใหม่ได้ ใช่ไหม.....ก่อนที่จะมาเจริญพระกรรมฐานศีลบกพร่องหรือไม่เป็นเรื่อง เละเทะมาก่อน พอเริ่มเจริญพระกรรมฐานตั้งใจรักษาศีลทันที ศีลฆราวาส ฆราวาสเขาทำได้ส่วนพระไม่เหมือนกัน พระถ้าพังแล้วพังเลย
    การสอนเวลานี้ เวลาพระเจ้าไปฝึกพระที่มารับการสอนก็รู้สึกหนักใจแต่บางท่านก็เก่ง บางท่านแป๊บเดียวได้เลย แล้วก็คล่องตัว เพราะศีลเขาบริสุทธิ์แต่เราก็อย่าไปถือว่าเขาไม่บริสุทธิ์ทุกองค์ไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักตำราที่ท่านบอกว่าเป็นเปรียญฯนั่นแหละ มันก็ ปะ ปะ ใช่ไหม.....
    พวกที่เปรียญที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ยิ่งเป็นนักเทศน์นี่ร้ายกาจแต่ท่านที่ดีก็มีนะ ไม่ใช่ว่าจะชั่วทุกองค์ เพราะเคยสัมผัส เคยอยู่ร่วมกันมาแกบวชเข้ามาแล้ว มาเรียนหนังสือ แกไม่ได้นึกว่าแกเป็นพระ ตั้งหน้าตั้งตาจะสอบให้ได้จะเอาผลนี่ไปแลกกับเปรียญพวกนี้ก็เป็นอาชีพ ก็ถือว่าเป็นอุปสมชีวิกาอาศัยศาสนาเลี้ยงชีวิตแบบนี้แล้วจะไปได้อะไร ถ้าไปเกาะไอ้พวกนี้
    แต่พระที่เป็นเปรียญที่เขาเก่งก็มี เขาดีจริง ๆ น่ะมี บริสุทธิ์ จริงๆ น่ะ อย่าไปนึกว่าเป็นเปรียญแล้วไม่ดีนะพวกพระราชาคณะที่เป็นเจ้าคุณที่เป็นสมเด็จที่ไม่เป็นเรื่องก็เยอะ ที่ดีจริง ๆ ก็มากเราต้องเลือกดูอีกนะ ดูพื้นฐานของคนคนทุกคนถ้าหาจุดเลวก็มีเลวทุกคนถ้าหาจุดดีก็มีดีทุกคนใช่ไหม....จุดบกพร่องมันก็ต้องมี คนก็ต้องมีดีแล้วใครจะเลว ผิดมุมไหนล่ะ......?"<O:p< font O:p<>








    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 42"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">ผู้ถาม<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">"อีกพวกหนึ่งครับหลวงพ่อพวกที่แก่วิทยาศาสตร์ไปอธิบายให้เขาฟัง เขาไม่ค่อยฟังครับ"<O:p< p O:p <>







    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 43; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 13%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="13%">หลวงพ่อ<O:p< p O:p <>







    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ebebeb; BORDER-LEFT: #ebebeb; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 87%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #ebebeb; BORDER-RIGHT: #ebebeb; PADDING-TOP: 0.75pt" width="87%">พวกแก่วิทยาศาสตร์ดี แต่พวกตุ่ย ๆ วิทยาศาสตร์ไม่ค่อยได้ความนะ ให้เขาแก่จริง ๆ น่ะ ไม่เป็นหรอกคือว่าเขาจะเรียนสาขาไหนก็ตามเถอะ ถ้าเขาเป็นคนมีเหตุมีผลหน่อยมันไม่แปลกถ้าจะค้นคว้าแบบไม่มีเหตุไม่มีผลมันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ใช่ไหม.....เขาจะรู้ได้ว่าบ้านของเขามีถ้วยขนาดไหน มีโถขนาดไหนเขาก็นึกว่าบ้านคนอื่นมีเหมือนกับเขาทุกอย่าง อาจจะมีคนเขามีของดีกว่าก็ได้ใช่ไหม... ถ้านักวิทยาศาสตร์จริง ๆ เขาเข้าใจอะไรง่าย มีเหตุมีผลดีมาก เจอะบ่อยไปสำคัญไอ้พวกลืมจริง ๆ น่ะซิ ปัญหาในการฝึกมโนมยิทธิ ก็ขอนำมาเพียงเท่านี้จะคงช่วยให้ท่านทั้งหลายที่ยังไม่ฝึกก็ดี ฝึกแล้วก็ดี คลายความสงสัยลงได้มากใครที่ฝึกได้แล้วสามารถไปสอนคนอื่นได้นะ หลวงพ่ออนุญาตและหลวงพ่อแนะนำว่า
    พวกที่ได้มโนมยิทธิแล้วนี่ถ้าไม่เป็นครูสอนเขาของเรามันจางง่ายพยายามสอนเขาถ้าเราเริ่มสอนเขาจะได้ระมัดระวังตัวเอง คือเราจะได้ฝึกฝนตัวเองการสอนเขามันมีประโยชน์มาก มันได้ ๒ อย่าง
    ประการที่การทรงตัว การคล่องตัว แจ่มใส มันจะเกิดขึ้น
    ประการที่ ๒ ได้ ธรรมทานเป็นการเร่งรัดบารมีเดิมให้มันแจ่มใสเร็วขึ้น เพราะธรรมทานมีอานิสงส์สูงมาก คือว่าผลที่เราจะพึงได้แทนที่จะ ๑๐ ปี อาจจะเหลือ ๓ ปี อานิสงส์สูงมาก
    สอนเขาใหม่ ๆ มันอาจจะงงก็ได้ถ้าตามทันหรือไม่ทันไม่สำคัญให้มีความเข้าใจเรื่องตั้งอารมณ์เอาไว้ เพราะเราผ่านมาเรารู้ใช้ไหม........ถ้าเราไปถึงนั่นแล้ว เผอิญเราตามไม่ทัน ก็กวดไปทีหลังได้ถามความรู้สึกถ้าเขาไม่รู้สึกก็แก้อารมณ์ที่ขัดข้องให้ ถ้าเป็นครูเขาสมเด็จฯท่านก็จะช่วยมากขึ้นคือว่าเป็นครูสอนเขา ให้ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าตรงบอกว่าการสอนก็ดี การติดตามก็ดี ขอเป็นภาระของพระองคบางทีเราจะพูดสิ่งที่เราไม่เคยคิดไว้เลยถ้าพูดไปนั่นมันเหมาะสมสำหรับบุคคลผู้นั้นก็ต้องใช้แบบนั้นนะพอเริ่มก็ขออาราธนาท่าน ขอเป็นภาระของพระองค์จะเป็นผลดีแก่ผู้ที่รับฝึกต่อไป
    สำหรับการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มอัตราจะลองซ้อม ๆ ที่บ้านก็ได้แต่เครื่องบูชาครูนี่ขาดไม่ได้นะ มีดอกไม้ ๓ สี ธูป ๓ ดอก เทียนหนัก ๑ บาท ๑ เล่มสตางค์ ๑ สลึง ต้องตั้งไว้ทุกครั่งที่ทำการภาวนา หายใจเข้า นะ มะ หายใจออก พะ ธะ เฉย ๆ โดยไม่ต้องการรู้การเห็นอะไร ทำเป็นสมาธิถ้ามันจะเต้นจะรำก็ปล่อยมันเลย การเต้นนี่มันจะเริ่มต้นตั้งแต่อุปจารสมาธิแต่บางคนก็ไม่เต้นเลย พอถึงฌาน ๔ มันก็เลิกเต้น เพราะกำลังของจิตทรงตัวจะสังเกตได้ถ้ามันจะมีความสว่าง คือเห็นจุดข้างหน้าขาวโพลน เป็นทางไปไกลเป็นทางขาวใหญ่ ถ้าเห็นข้างหน้าก็ลองใช้กำลังใจพุ่งจิตไปตามสายของทางนั้นคิดว่าเราไปละพอนึกว่าไปล่ะ ถ้ากำลังจิตเรามันก็ไป
    พอมันออกไปแล้ว มันไม่ใช่ออกไปแบบความฝันมันจะออกไปแบบชนิดมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เหมือนกับออกจากตุ่มหรือกระบอกหรือเหมือนกับถอดไส้หญ้าปล้องออกจากหญ้าปล้อง ออกไปแล้ว ไปได้ชัดสว่างเหมือนกลางวันมันจะเหลียวหน้าเหลียวหลังมาดูได้ มาดูไอ้โลกต่าง ๆ จะเห็นตัวเรานี่นั่งโด่อยู่ดูแล้วก็เป็นคนสองคน
    ต่อไปถ้าฉันสร้างที่ใหม่เสร็จจะต้องพักการเดินทางออกต่างจังหวัด จะลองเอาคนที่ได้แล้วนี่แหละ มาฝึกแบบเต็มอัตราคนที่ได้แล้วนี่ไม่ยาก ได้ใหม่หรือไม่ได้ไม่สำคัญ แต่ถ้าไม่เต็มแบบก็ยังดีได้ผลเท่ากันนั่นแหละ แต่แบบนี้กำลังสูงหน่อย
    (หลวงพ่อเริ่มฝึกให้แล้ว เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๒๘ที่ศาลาสองไร่เป็นเวลา ๑ เดือน)<O:p< font O:p<>








    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <O:p< font O:p<>

    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 2
    <O:p< font O:p<><O:p< font O:p<><O:p< p O:p<><O:p</O:p<>
    </O:p<>
    </O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<>
    </O:p<>
    </O:p<>
    </O:p<>
    </O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<>

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่ เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่าน

    <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 600px; HEIGHT: 300px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpages%2FBuddhaSattha%2F158726110822792&width=600&connections=20&stream=true&header=false&height=300" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    *<!-- google_ad_section_end -->
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p< b>
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p< font>
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p><!-- google_ad_section_end -->
    __________________

    </O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<></O:p<>
    </O:p<></O:p<>
    </O:p<></O:p<>

    </O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2011
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    กราบอนุโมทนาในธรรมทานของคุณชนะเป็นอย่าสูงค่ะ
     
  3. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    ------------------------------------------------------------------------------------------------<O:p</O:p
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๕๐๐ รูป งานวางศิลาฤกษ์ และ เคลื่อนย้ายศาลาการเปรียญหลังเก่า เพื่อนำไปก่อสร้างอุโบสถไม้ เฉลิมพระเกียรติ พระมหาเถรคัณฉ่อง พระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และ ทอดกฐินสามัคคี<O:p</O:p
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี-ปี-2552-ณ-วัดย่านยาว-จ-พิษณุโลก.202385/<O:p</O:p
     
  4. ก้องเจริญลาภ

    ก้องเจริญลาภ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +21
    ได้ความรู้ดีครับ
     
  5. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    [​IMG]

    กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ
    ---------------------------------------
    * คนเจ้าปัญญา ย่อมบริหารอารมณ์
    สร้างอารมณ์ที่ควรสร้าง
    เสพอารมณ์ที่ควรเสพ
    ควบคุมอารมณ์ทีควรควบคุม
    รักษาอารมณ์ที่ควรรักษา
    สลายอารมณ์ที่ควรสลาย
    เขาจึงเป็นนายของอารมณ์โดยสมบูรณ์ *
     
  6. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    โมทนาสาธุครับ

    เรียนเชิญทำบุญซื้อ อิฐ หิน ดิน ทราย เหล็ก ปูน สร้างศาลาแก้วพระจุฬามณีถวายสมเด็จองค์ปฐมครับ

    เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานสมเด็จองค์ปฐมและศาลาแก้วพระจุฬามณี ที่ จ.นครศรีธรรมราช (สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ)

    [​IMG]

    [​IMG]

    " บุญกุศลใดที่พึงจะได้รับ ก็ขอให้ทุกท่านได้รับเช่นเดียวกันถ้วนหน้าสถาพร ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ที่สุดถึงซึ่งพระนิพพานด้วยกันเทอญฯ สาธุ"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  7. ณกฤต

    ณกฤต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +476
    ได้ความรู้และไขข้อข้องใจได้ดีมากเลยคับ สำหรับผมที่กำลังจะเริ่มต้นฝึก
    อนุโมทนาอย่างยิ่งคับผม
     
  8. daisy lucy

    daisy lucy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +190
    ขอกราบหลวงพ่อ และขออนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. พชรรินทร์

    พชรรินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +474
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

    ขอกราบระลีกถึงพระคุณของหลวงพ่ออย่างหาที่สุดมิได้ค่ะ
     
  10. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    โมทนากับ อาจารย์ชนะด้วยครับ บุญกุศลที่อาจารย์ได้กระทำมาทุกกุศลผมขอโมทนาด้วยจิตเคารพสูงสุดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...