Share this photo with your friends.

เมื่อฉันพบคุณ(When I met you) ตอนที่ 5 เขาเล่าว่า “ผมเคยอยู่ต่างประเทศมา 6 ปี แล้วกลับมาทำงานที่เมืองไทย”และเรียนต่อระดับปริญญาเอก” ฉันตั้งใจฟังเขาอย่างมากและถามว่าทำไม เขาตอบว่า “คนเราพออายุมากขึ้นถึง 40 ปี แล้วก็น่าจะทำอะไรที่มั่นคงกับตัวเองและเมื่อเรียนจบแล้ว ก็เป็นความหวังของครอบครัว” ฉันก็พยักหน้ารับเขาว่าใช่ยิ่งเป็นลูกคนโตด้วย” เขาเล่าเกี่ยวกับคณะที่เขาเรียนซึ่งฉันเองก็สนใจแต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนและคิดว่าต้องไม่ธรรมดาแน่ ฉันถามถึงสิ่งที่เขาสนใจอื่นๆเพราะวันแรกๆที่พบกันและเขาดูท่าสนใจธรรมะเป็นพิเศษฉันจึงถามเขาว่า”ทำไมถึงเข้าวัด” เขาตอบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่ามีความทุกข์” ฉันถามว่าไปทำอะไรบ้างที่วัดแล้วหายทุกข์ไหม “เขาตอบว่า “ก็ไปสวดมนต์ ปรึกษาปัญหากับพระภิกษุสงฆ์ อ่านหนังสือธรรมะ และนั่งสมาธิ ส่วนหายทุกข์หรือไม่ ก็รู้สึกว่าดีขึ้นและเข้าใจชีวิตมากขึ้น” มาถึงตอนนี้ฉันคิดใจใจว่า คุณจะทุกข์เรื่องอะไรในเมื่อคุณเรียนจบปริญญาเอก มีหน้าที่การงานมั่นคงระดับ ซีอีโอ แทนที่จะเป็นฉันเล่ามากกว่าเพราะฉันหย่ามา 2 ปี เลี้ยงลูกคนเดียว และรับภาระครอบครัวทั้งหมด ที่มาทริปนี้ก็เพราะเบื่อหน่ายชีวิตและอยากพักสมองและจิตใจจากอดีตที่เจ็บช้ำและไม่อยากพบหน้าคนที่รู้จักด้วยซ้ำไป หากฉันไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณติ่งฉันคงไม่อยากคุยกับใครเลย ฉันนั่งฟังเขาซึ่งความรู้สึกขณะนั้นทั้งเห็นใจเขา และดีใจที่รู้ว่ายังมีคนที่เป็นทุกข์โดยไม่รู้สาเหตุ ฉันเริ่มยิ้มออกและรู้สึกโล่งใจที่ได้เปิดออกคุยกับเขา และดูท่าทางเขาก็ผ่อนคลายลงมาก เขาทั้งพูดทั้งยิ้ม และหัวเราะด้วยกันในบางครั้งที่ความคิดเห็นตรงกัน เราทั้งสองนั่งคุยกันนานจนกระทั่งเจ้าของร้านทำท่าจะปิดร้าน ฉันขอแชร์ค่าไอศกรีมกับเขาแต่เขาบอกว่าจะเลี้ยงเอง ฉันจึงขอบคุณเขา แล้วเดินออกจากร้านเพื่อกลับที่พักด้วยกัน ในระหว่างทางเราทั้งสองต้องรีบเดินให้เร็วเพราะฝนทำท่าจะตก ฟ้าเริ่มร้อง เมื่อเราทั้งสองมาถึงโรงแรมก็ต่างคนต่างแยกขึ้นห้องพัก โดยแดงบอกว่าถ้าพรุ่งนี้จะตักบาตรด้วยกัน เจอกันหกโมงเช้านะคะ” คุณติ่งตอบว่า “ ถ้าไม่เห็นผมคุณแดงทำบุญก่อนได้เลยครับ แล้วพบกันที่ห้องอาหารตอนเช้าครับ” แดงตอบ “ก็ได้ค่ะ และเจอกันค่ะ”

Loading...