Share this photo with your friends.

เมื่อฉันพบคุณ(When I met you) ตอนที่ 6 ฉันตั้งใจตื่นนอนแต่เช้าเพื่อจะได้ตักบาตรในตอนเช้า แด่พี่ที่เป็นเพื่อร่วมห้องกลับบอกให้ฉันรอก่อนเพราะกลัวบรรยากาศของโรงแรมที่เคยเป็นพระราชวังเก่าของเจ้านครจำปาสัก ฉันจึงไก้นั่งคอยพี่สาวจนกระทั่ง 7 โมงเช้าจึงได้ลงมาข้างล่างอย่างรีบร้อน โดยวิ่งไปถามเจ้าหน้าที่โรงแรมว่าพระท่านบิณฑบาตหรือยัง คำตอบคือตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้ว ถ้าหากจะทำบุญต้องเดินไปที่วัดซึ่งอยู่ด้านข้างโรงแรมเดินไปประมาณ 50 เมตร ฉันจึงวิ่งออกจากโรงแรมพร้อมกับถึงขนมที่เตรียมไว้และมีน้องที่เป็นไกด์อาสาพาไปที่วัน เนื่องจากฝนตกหนังและลมแรงมากตอนกลางคืน ระหว่างทางไปวัดจึงมีน้ำนองและเฉอะแฉะพอสมควร ฉันเดินนำหน้าน้องไกด์กึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพราะต้องกลับมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมและขึ้นรถ 8 โมงตรง ฉันไม่อยากให้คนอื่นรอนาน พอไปถึงวัดปรากฎว่าพระท่านฉันอาหารเช้าเสร็จแล้ว ยังเหลือเพียงแม่ชีสูงอายุ 1 ท่าน ฉันจึงเข้ไปกราบท่านและถวายขนมและปัจจัยจำนวนหนึ่ง ท่านก็ถามไถ่ตามสมควร แล้วฉันจึงลากลับโรงแรม ฉันมาถึงห้องอาหารของโรงแรมเวลาประมาณ 7โมงครึ่ง กลุ่มทัวร์ส่วนใหญ่ทานอาหารเช้าแล้ว ยังเหลือประมาณ 10 คนที่นั่งในห้องอาหาร ฉันตรงไปที่อาหารแล้วรีบตักอาหารเพื่อรีบกินให้เร็วและเผื่อเวลาต้องเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนขึ้นรถโดยไม่สนใจว่ามีใครกำลังสังเกตดูฉันหรือไม่ ฉันตักอาหารเสร็จแล้วนำมาที่โต๊ะที่ว่างนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่างด้านหลังโรงแรม ทันใดนั้นสายตาฉันจึงไปสบตากับคุณติ่งที่นั่งโต๊ะตรงข้ามข้างหน้าต่างนั้นเอง เขามองดูฉันและทำท่าทางทักทาย ฉันจึงทักทายเขาโดยการไหว้แล้วกินต่อไป สักพักหนึ่งเขาทานอาหารเสร็จแล้วเดินมาหาฉันที่โต๊ะอาหาร ฉันเชิญเขานั่งข้าง ๆ เมื่อนั่งแล้วเขาพูดว่า”ผมลงมาทานอาหารเช้ามองหาคุณแดงอยู่แต่ก็ไม่เห็นนึกว่าคุณแดงไปทำบุญหรือยังไม่ตื่น” แดงตอบว่า “แดงคอยพี่ที่อยู่ห้องเดียวกันจึงสายแล้ววิ่งไปที่วัดมา เพิ่งมากินข้าวนี่ค่ะ” ขณะกินด้วยพูดด้วยอย่างรีบร้อน เข้าก็ยิ้มและขอตัวไปคอยที่ร็อบบี้โรงแรม ฉันจึงทานอาหารต่อให้เสร็จและเดินตามเขาออกไปโดยหยิบกล้วยหอมสุก 2 ลูกไปด้วย มีคนพูดว่าคุณติ่งชอบทานกล้วยมากตั้งแต่อยู่เวียดนามแล้ว ถ้าใครไม่กินกล้วยก็ลงให้คุณติ่งได้เลย ส่วนตัวฉันไม่กินกล้วยสด ต้องผ่านการแปรรูปแล้วถึงจะกินได้ ฉันเดินไปพบเขาแล้วยื่นกล้วยให้

Loading...