การบรรลุธรรม ในสมัย พุทธกาล

การบรรลุธรรม ในสมัย พุทธกาล


ในสมัย พุทธกาล เหตุที่สาธุชนในสมัยนั้นบรรลุอรหันต์ กันง่าย เพียงพระองค์(พระพุทธเจ้า) แค่เอ่ยธรรมเพียง ไม่กี่คำ เป็นเพราะพระองค์ ทรงใช้พลังจิตช่วยผู้ฟังธรรมของพระองค์ จึงทำให้เข้าใจพระธรรมของพระองค์ได้ง่าย จน บรรลุอรหันต์ ได้ทันที จริงเท็จประกาลได้ วานผู้รู้ช่วยตอบทีครับ
ปล.ฟังมาจาก เทปบรรยายธรรมของ ท่าน เสถียร โพธินันทะ

 

ความจริง ไม่ควรเรียกว่าเป็นพลังจิตครับ เพราะมันคือความเป็น พระพุทธเจ้า หรือ ที่เรียกว่าทศพลญาณ(ปัญญาอันยิ่งสิบประการที่เป็นคุณสมบัติของความเป็นพระพุทธเจ้า) เปรียบเหมือน ความเป็นที่สุด ของปัญญา แต่กระนั้น....ก็ใช่ว่า..พระองค์(ตถาคต ..ผู้ชี้) ไช่ว่าพระองค์จะชี้ ให้กับทุกคน....นั่นเพราะ รูปธรรม และนามธรรม ในยุคนั้น ไช่ว่าพร้อมที่จะเบ่งบานกันทุกคน....หรือถ้า จะชี้ขริงๆ พระองค์ก็ทำได้แน่นอนครับ...แต่พระองค์ไม่ทำ...

ตรงนี้ผมเคยถามครับ ว่า เพราะทำไม ...พระองค์ไม่ทำ ให้ทุกคนตรัสรู้ตามเลย ทั้งๆที่พระองค์ทำเช่นนั้นได้

พระองค์ตอบว่า....กัปน์นี้ ต้องมีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์...ถ้าทุกคนตรัสรู้ตามหมด...แล้ว..มันจะไม่เป็นไปตาม ..ที่ควรจะเป็น น่ะครับ

ส่วนตัวผม คิดว่า....ถ้าทำให้ทุกคนตรัสรู้ง่ายไป...อาจเป็นการข้ามขั้นตอน ในการเรียนรู้ ความจริงของตนเองของแต่ละคนก็ได้ครับ..เพราะอาจมีคน ที่ชอบยากๆ ไม่ต้องการ ง่ายๆ หรือ...ไม่อยากรีบ นิพพาน..อะไรแบบนี้

 

อ้อ........ผมเข้าใจละครับ เมื่อกี้นี้เอง

มันแวบขึ้นมา ครับ....คือแบบนี้...ถ้าพระองค์...ช่วยใครให้ตรัสรู้ธรรมได้แล้ว...พระองค์ห่วงเวลาชีวิตที่เหลืออยู่ ของคนคนนั้นครับ ว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เป็นแน่...
พระองค์จึง ต้องเป็นผู้นำ เป็นพระศาสดา เพื่อ นำพาให้สาวกเรียนรู้ การที่จะอยู่ต่อ เพื่อเผยแพร่ในพระธรรม...ต่อไป..เพราะสมัย วรรณะ นั้น...ถ้าไม่ไช่พราหมณ์...คนสมัยนั้น เขาไม่เอา....ไงครับ...ท่ามกลาง ข้าศึกแห่งอวิชชา สาวกที่ไหนจะกล้า...เป็นผู้นำ

 

ไม่จริงหรอกคุณ
ถ้าเป็นจริงดังว่า จะมีพวกชั่วร้าย อย่างพระเทวทัต
หรือพวกภิกษุทุศีล ที่สร้างเรื่องเสื่อมเสียจนพระพุทธเจ้าต้องบัญญัติพระวินัยไว้มากมายหรือ

สาเหตุที่ในสมัยพุทธกาล ผู้คนฟังธรรมแล้วบรรลุธรรมกันง่ายๆ
๑.ผู้คนเหล่านั้น มีอุปนิสัยที่จะบรรลุธรรมอยู่แล้ว
๒.พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ปรีชาสามารถ ทรงหยั่งรู้จิตใจของผู้ฟังได้ว่า
คนเหล่านี้ หากเทศโปรดแล้ว จะบรรลุธรรมหรือไม่ คนเหล่านี้หากเทศน์โปรดแล้วจะไม่บรรลุธรรม
คนนี้ควรสอน คนนี้ไม่ควรสอน
บุคคลใดที่ควรสอนได้ พระองค์เสด็จไปสอน
บุคคลที่ไม่อาจสอนได้ พระองค์ก็ไม่เสด็จไปสอน เพราะเปล่าประโยชน์
ซึ่งพระองค์จัดแบ่งบุคคลเป็นสี่เหล่า คือ
๑.อุคฆติตัญญู ผู้มีปัญญามนทางธรรมมาก เพียงแต่พระองค์แสดงธรรมเท่านั้น ก็อาจบรรลุธรรมได้ง่ายๆ
๒.วิปติตัญญู ผู้มีปัญญาในทางธรรมอย่างปานกลาง
ต้องอาศัยการเรียนรู้และใช้เวลาปฏิบัตินานหน่อยแต่ก็จะบรรลุธรรมได้
๓.เวเนยยะ ผู้พอแนะนำสั่งสอนได้ เพื่อเป็นอุปนิสัย ต่อไปในภพหน้า

๔.ปทปรมะ ผู้มีมิจฉาทิฏฐิดิ่ง หรือผู้เดินไปสู่ทางสายอื่น หรือผู้ที่ไม่สนใจรับฟัง
แม้พระองค์เสด็จไปสอน ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเขาไม่เปิดใจรับ

บุคคล ๔ พวกเหล่านี้ สามพวกแรก เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงสอนได้
แต่พวกที่ ๔ เป็นพวกที่พระพุทธองค์ไม่ทรงสอน เพราะเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ
และไม่อาจจะละทิฏฐิของตนได้ ถึงสอนไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด

 

และมันมีเหตุผลมากมาย ในคำว่า....พระพุทธเจ้า....ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ของเจ้าชายสืทธัตถะ ตั้งแต่เด็กจนโต ครับ
มันส่งผลให้ พ่อแม่ มีความ..แทรกแซง ในชีวิตของเจ้าชาย
อาจมีคนเดือดร้อนด้วย ความจริง มันกระทบเลยอหล่ะครับ...กลายเป็นชีวิตที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติไงครับ..

ดังนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงทราบครับ ว่า....กลายเป็นว่า ใครก็อยากโชคดีเป็นพระพุทธเจ้วเหมือนที่เจ้าชายสิทธัตถะ ถูกทำนาย....มันเลยมีผลต่อความคิดของคนรอบข้างทั้งหลายครับ....

 

ง่ายๆสั้นๆเลยนะครับ "บารมีถึงพร้อมแล้ว"
บารมีทำมาน้อย ก็แค่โสดาบัน ทำมามากก็สำเร็จอรหันต์ไปเลย

ก็ที่เห็นๆคนเขาปฏิบัติธรรมกันอยู่ตามวัด ตามบ้านไงครับ
นั่นแหละครับ เมื่อบารมีได้ที่ ธรรมมะก็จะจัดสรร ให้ไปพบเจอพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง
ท่านก็ใช้ความเป็นสัพพัญญูตรวจว่าจริตเราตรงแบบไหน ก็เทศนาโปรดเรามาให้ตรงกับจริต

ก็ผลั่ว บรรลุธรรมครับ

ปฏิบัติเสียตั้งแต่วันนี้เลยครับ กว่าจะบรรลุธรรมกันได้ต้องฟังธรรมพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายองค์ และปฏิบัติกันมานานเสียยิ่งกว่านานกันอีกครับ

 

พระพุทธองค์มีอินทรียปโรปริยัตติญาณ.
ญาณหยั่งรู้ความยิ่งหย่อนแห่งอินทรีย์ ของเหล่าสัตว์
รู้จุดดีจุดด้อยจุดอ่อนจุดแข็งทุกแง่มุมของสัตว์โลก ทุกตนที่ประสงค์จะรู้ เพราะเหตุนั้นฯลฯ.

 

อ่าน บทว่าด้วย อิทธิปาฏิหารย์ กับ. อนุสาสนียปาฏิหารย์ หลายๆรอบ

แล้วจะแยกออก. ระหว่างเดียรถีย์ สอนธรรมมะ

กับ. การสอนธรรมที่แท้ ไม่หลอก. สะกดจิต ควักเงิน
ในกระเป๋า เปนยังไง

ยิ่งประเภทใช้พลังจิตเสกอะไรให้ดู เสร็จแล้วไข้วขา
สับหลอกว่า. นิพพาน. ให้เราตายก่อนแล้วประกันว่าจะไปสวรรคิ์
แล้วเจอดกันใหม่บนนั้น. เพื่อรับฟังธรรม พิพากษาสรุปอีกทีต้องระวัง
แนวพลัดวันประกันพรุ่ง ให้ดีๆ

 

การบรรลุธรรมครั้งพุทธกาลได้ว่องไว มีสาเหตุมาจากอันนี้ครับ ..พจ.ท่านมีญาณที่เรียกว่า การหยั่งรู้นิสัยสัตว์ เกิดมาจากไหน หรือตายแล้วจะไปไหน คนไหนสร้างบารมีมาด้วยเหตุอันใด หากเขาได้รับการฟังธรรมจากเรา เรื่องไหน แบบใด การ "ต่อยอด-คำสอน" ..จากเราได้ถูกจุด ได้ตรงนิสสัย- เขาจะบรรลุธรรมทันที..
นี่คือญาณหยั่งรู้นิสัยสัตว์โลก..จะมีเฉพาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ท่านจึงจี้ลงไปตรงธรรมนั้นๆ บทธรรมนั้น ที่คนๆนั้นจะบรรลุธรรมได้ทันทีหากได้ยิน-ได้ฟัง-หรือกระทำการแบบนี้...นี่คือเหตุที่คนบรรลุธรรมไวครับ

 

ก็ผมไม่มี ญาณแบบนี้...น่ะ...ที่ไหนมีขายครับ

อ้อเคยมี ผู้รู้ท่านหนึ่ง แนะนำมา...ว่า...ทศพลญาณ มันถูก..ถอดวาง..เก็บไว้ที่ ประทศ อินตะระเดีย....ท่านตอบมาแบบนี้

.....
แต่ผมไม่เคยไป อินเดีย..น่ะสิ...

 

น่าจะชื่อ.. จุตุปาตญาณ.. หรือ จาตุปาตญาณ...หรืออะไรนี่ครับ ผมอาจจำผิดวานผู้สงเคราะห์คนเมาหน่อย เมาทุกวัน เสพติดสังขาร พี่จรนี่ อิอิ

 

เมาผม....หรือ ผมเมา...หรือว่า เมาตามผม หรือว่า ตามผมเมา หรือตามเมาผม กันล่ะครับ ท่าน เพ่.....ครับ

เสพติด สังขาร...ข้อหานี้ ร้ายแรงนะครับ สำหรับผม....ผมถือว่าเป็นการไส่ร้าย ชัดๆเลย ดูผิด นะเนี่ย

ผมกำลัง พยายาม รื้อฟื้น สังขาร ...ต่างหากครับ
ผมกำลังพยายาม ปรุงแต่งสังขารต่างหากครับ
ผมกำลังพยายาม รักษาสังขารต่างหากครับ

ตอนนี้ โรคภัยไข้เจ็บ เวรกรรมมันตามมารุมเร้า..กระหน่ำ อั๊กๆซัดไม่ยั้ง กับผม ทั้งกรรมเก่า กรรมใหม่ กรรมที่ลืมไปแล้ว และกรรมที่ยังไม่ลืม รวมทั้งกรรมที่เคยเป็นเผ่าพันธุ์...มันเล่นงานผมซะ....ราบพนาสูร หมดแล้ว

ย่อยยับ อัปรา สิ้นสูญ
อาดูร เดียวดาย ไร้หวัง
หมดสิ้น เรี่ยวแรง พลัง
กายายัง แต่วิญญาณนั้น.....จากจร

โถ.......หลูโตน เจ้าของ...แต้ๆ

 

งง กระทู้แล้ว คร้าบ

ขีกียจหา ต้นเรื่อง ของน้าจร ที่ถามว่า ถอดไปข้างนอก ย้อนดูข้างใน
เป็นการ เห็น วิญญาณ หรือยัง

เนื่องจาก ระบบบอร์ดใหม่เก่งกระเด้ง เหลือเกิน จิ้มผิด จิ้มถูก ไปหมด

ขอตอบตรงนี้นะฮับ น้าจร

วิญญาณ ที่เป็น คำอธิบายเชิงมี รูปร่างกายเหมือนสัตว์ หรือเป็นดวงๆ อะไรก็แล้วแต่

อันนั้น คนละ คำสอนคนศาสนา ครับ

วิญญาณในทาง พุทธ หมายถึง ธาตุรู้ คำว่า ธาตุ ไม่ได้แปลว่า มันเป็นองค์
ประกอบจากอะไร แบบ นักเคมี คำว่า ธาตุในบาลี เป็นหน่วยจำแนก แยกแยะ
การบัญญัติธรรมดาๆ เพื่อให้รู้ว่า มันต่างกัน

วิญญาณ ธาตุรู้ ในทางพุทธศาสนา ไม่มีสี ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสัณฐาน
ไม่มีไป ไม่มีมา .....เป็นแต่เพียง ธาตุรู้ ทำหน้าที่ รู้

ทีนี้ ก็จะ งง แล้วมันจะยังไง กันหละ ก็จะ กร่อนธรรม

คำว่า กร่อนธรรม ไม่ใช่ ทำลาย แต่หมายความว่า อนุโลมลงมาให้พอจะ
ทำการพยักหน้าเข้าใจได้บ้าง ก็จะอธิบาย วิญญาณ เป็น หู ตา จมูก ปาก ลิ้น ....

ดูดีๆ นะฮับ ยังไม่ได้ ก่อตัวเป็น รูปสัตว์เลย อธิบายแยก ชิ้นส่วนอยู่

ถ้าไป รวบขันธ์เข้ามา มีระยาง มีหัว มีไอ้นั่น ไอ้นี่ นั่น คนละศาสนาแล้ว ศาสนาผี

 

ไปพูด ที่กระทู้...สถานนิพพานโน่นสิ..บ่นมาบ่นไป .มาพูดกระทู้นี้..ผิดกระทู้ละครับ

 

อิอิ...ก็เป็นปกติของ...คนไม่เคยเห็นจิต...ก็งี้แหล่ะ

งง...คือ คำตอบที่ ถูกต้องงงง...สำหรับ อาเฮียนิวรณ์ครับ

อันนี้ ไม่ต้องคาดเดาอะไรเลย งง แน่ๆ สำหรับคุณ

 

ไม่ใช่เพราะพลังจิตหรอกครับ
ถ้างั้นพระมหาฤาษีที่เคยสอนท่าน
ก่อนที่ท่านจะตรัสรู้คงพาสาวกเข้านิพพานหมดแล้วครับ
ขนาดพระพุทธฯพระมหาฤาษียังยกให้เป็นอาจารย์
ท่านยังต้องออกมาเพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์
จนกลายเป็นศาสดาเอกของโลกไปทำไมหละครับ