เรื่องเด่น การใช้ชีวิตในทางโลก : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 16 กันยายน 2017.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655

    หลวงพ่อ3 พลังจิต1.jpg

    การใช้ชีวิตในทางโลก : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน


    คุณครูคณิตพร บุณยเกียรติ(ชื่อเก่าท่านคือครูสมพร ชื่อเล่นคือครูเปี๊ยก) ได้เขียนเล่าเรื่องประทับใจในองค์หลวงพ่อเอาไว้ในหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม พิเศษ ทางเวบวัดท่าซุงมีนำเรื่องนี้มาลงไว้ด้วย

    ผมขอนำบางส่วนที่ครูเปี๊ยกได้เขียนถึงคำสอนหลวงพ่อหลายๆอย่างในการใช้ชีวิตในทางโลกเอาไว้ดังนี้ครับ :

    ๑. ท่านสอนให้เป็นคนตื่นแต่เช้า โดยบอกว่า “คนที่ตื่นเช้าจะไม่ยากจน” ตื่นมาทำอะไรให้เสร็จเรียบร้อย และจะไปนอนใหม่ก็ไม่เป็นไร
    ๒. ท่านสอนให้ทำอะไรเร็วๆ ไวๆ ไม่ชักช้ายืดยาด ถ้าท่านบอกให้ใครไปทำอะไร ต้องรีบลุกทันที จะใช้คำว่า “เดี๋ยวก่อน” ไม่ได้เลย การเดินทางติดตามท่านแต่ละครั้ง ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเวลานัดหมายประมาณ ๑ ชั่วโมง มีอยู่คราวหนึ่ง

    ท่าน นัดรถออกตี ๕ พอตี ๔ เศษๆ หลวงพ่อท่านออกมาแล้ว ข้าพเจ้าต้องรีบขึ้นรถทั้งชุดนอนแล้วไปเปลี่ยนที่ปั๊มน้ำมันเวลารถจอดเติม น้ำมัน ตั้งแต่นั้นมาการเดินทางทุกครั้ง พวกเราจะตื่นมาแต่งตัวและจัดกระเป๋าให้เรียบร้อยพร้อมขึ้นรถได้ทันที แล้วนอนคอยเวลา พอท่านมาก็ลุกไปขึ้นรถได้เลย เป็นการฝึกให้ลูกศิษย์มีนิสัยทำอะไรรวดเร็ว ไม่อืดอาดชักช้า และเป็นคนไม่ผิดนัด

    ๓. การเขียนหนังสือและตัวเลข ท่านสอนให้เขียนตัวโตๆ ให้อ่านง่าย อย่าไปเขียนตัวเล็กๆ หรือเขียนตัวหนังสือแบบเล่นหางเด็ดขาด เพราะทำให้อ่านยาก ท่านบอกว่า “คนที่เขียนหนังสืออ่านยาก แสดงว่าคนนั้นยังมีกิเลสมาก”

    ๔. พื้นห้องที่ปูด้วยกระเบื้องหรือหินอ่อนจะมีความเย็น ท่านสอนว่าอย่าไปนั่นนานๆ ให้หาอะไรมารองนั่ง เพราะจะทำให้เป็นโรคเหน็บชา
    ๕. เวลาท่านไปสอนพระกรรมฐาน ถ้าไปพักบ้านที่ติดชายทะเล หรือบ้านที่มีสระน้ำ ถ้าใครว่ายน้ำไม่เป็น ท่านให้ไปหัดว่าย ท่านบอกว่า การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกาย ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง และถ้าเผอิญไปตกน้ำก็จะไม่จมน้ำตาย

    ๖. ท่านสอนให้ข้าพเจ้ารู้จักขุดดิน ฟันหญ้า ปลูกผักสวนครัวที่วัดอยู่พักหนึ่ง ข้าพเจ้าคิดเองว่า ท่านสอนให้รู้จักสมบุกสมบันบ้าง และเป็นการออกกำลังกายด้วย เพราะทำงานนั่งอยู่กับโต๊ะมานานหลายปี
    ๗. เรื่องอาหารและผลไม้นี้ ท่านบอกว่า บางอย่างจะไม่ถูกกับบางคนเท่านั้น ไม่ใช่เสมอไปทุกคน เช่น แตงโมกับส้มโอ เห็นเป็นน้ำก็จริง แต่เส้นใยนั้นย่อยยาก คนที่เป็นโรคกระเพาะรับประทานเข้าไป จะทำให้ปวดท้อง

    ส่วน ปลาร้ามีประโยชน์ต่อร่างกาย พริกมีส่วนช่วยเรียกน้ำย่อยทำให้รับประทานอาหารได้ดี ถึงแม้ว่าหลวงพ่อจะมรณภาพไปหลายปีแล้วก็ตาม ท่านยังมีเมตตามาสงเคราะห์ข้าพเจ้า เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๔ ข้าพเจ้าฝันเห็นหลวงพ่อมาบอก ห้ามรับประทานอาหารและขนมที่มีส่วนผสมของไก่ หรือไข่ไก่ทั้งหมด

    ๘. แม้แต่เรื่องสายตา ท่านบอกว่า อายุ ๔๐ ปีขึ้นไป ควรไปตรวจสายตาว่าสมควรใส่แว่นหรือยัง เป็นการถนอมลูกตาไม่ให้ใช้งานมากเกินไป
    ๙. ข้าพเจ้าเคยตรวจต้นฉบับหนังสือธัมมวิโมกข์ก่อนส่งโรงพิมพ์ สมัยที่ยังไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ ท่านก็สอนว่า ถ้าช่วยพระทำงานก็ไปติดต่อพูดคุยกับพระสงฆ์ได้ แต่อย่าไปอยู่นานๆ ถึงแม้ว่าเราไม่มีอะไรก็ตาม แต่คนจะตำหนิเราได้ ให้เอางานลงมาทำที่ห้องพัก

    ๑๐. สมัยที่ข้าพเจ้ายังทำงานอยู่ ท่านสอนให้ตั้งใจทำงาน โดยไม่ต้องไปคำนึงว่าปีนี้จะได้เงินเดือนขึ้นกี่ขั้น ให้ถือว่างานนั้นเป็นงานของเราเอง เพราะเราได้เงินจากการทำงานนั้นมาใช้จ่ายในการดำรงชีวิตให้ทรงอยู่ ให้ผู้มีพระคุณเป็นการตอบแทนพระคุณท่านบ้าง และนำมาทำบุญทำทานสร้างบุญกุศลให้ตัวเราเองด้วย

    ถ้าไม่ ได้ทำงานเราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย บางครั้งที่ข้าพเจ้าลางานติดตามหลวงพ่อไปสอนพระกรรมฐาน หรือไปแจกของในถิ่นทุรกันดารบ้าง ท่านก็สอนว่า เวลากลับมาให้ตั้งใจทำ งานให้เต็มที่ มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของเรา ไม่ให้บกพร่อง อย่าเกียจคร้าน อย่างนี้หัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานก็ว่าเราไม่ได้

    สิ่ง ที่หลวงพ่อสอนไว้ยังมีอีกมาก ข้าพเจ้าเล่าเท่าที่ได้รับฟังมา และพอจะจำได้เท่านั้น เป็นความประทับใจที่หลวงพ่อมีเมตตา ปลูกฝังนิสัยที่ดีแก่ข้าพเจ้าและลูกศิษย์ทุกคน ได้ปฏิบัติจนชินมาจนถึงทุกวันนี้



    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2017
  2. noomawang789

    noomawang789 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +16
    ขออนุญาตสอบถามค่ะ ว่าหลวงพ่อท่านห้ามเพราะอะไรคะ
    โดยส่วนตัว ทานไก่ไม่ได้ ทานแล้วจะปวดหัวมาก ไข่ไก่ก็จะไม่ทาน
    เพราะได้กลิ่นแล้ว เหม็นคาวมาก ไก่เลิกทานมา 3 ปีแล้วค่ะ
    อยากทราบเหตุผลค่ะ
     
  3. นรวร มั่นมโนธรรม

    นรวร มั่นมโนธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +113
  4. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    อาจจะเป็นเพราะปัจจุบัน มีโอกาสที่เนื้อสัตว์จะมีสิ่งเจือปนมาก
    โดยเฉพาะกับไก่ ซึ่งก็มีโอกาสเป็นไปได้ครับ
     
  5. นายธนาคาร

    นายธนาคาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +111
    สาธุครับ
     
  6. noomawang789

    noomawang789 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอบคุณค่ะ
     
  7. ตี๋น้อย

    ตี๋น้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +7
    สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...