เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย >_<.ST.>_<, 6 พฤศจิกายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เล่าเรื่องการไปพบ ปู่อินทร์ตาทิพย์ แห่งเขาภูตำแย

    10376905_368975516638496_6269550959127252249_n.jpg

    เล่าเรื่องการไปพบปู่อินทร์ โดยคุณนับพ์ Nopp
    ตอนที่ 1


    ปู่อินทร์ตาทิพย์ แห่งเขาภูตำแย เป็นมนุษย์ผู้ที่ได้รับญาณบารมีของท่านท้าวสักกะเทวราช ทำให้กลายเป็นมนุษย์ที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ ปัจจุบัน(พ.ศ.2558)ท่านอายุ 116 ปีแล้ว และยังดำรงร่างกายเดินเหินใช้ชีวิตได้ตามปกติ เมื่อได้สนทนากับท่าน ก็จะรู้ว่าท่านมีสติสมบูรณ์มิได้หลง หรือเลอะเลือนเช่นคนชราทั่วๆ ไป

    ท่านบอกว่าท่านยังตายไม่ได้ เพราะบ้านเมืองมีปัญหา และยังต้องอยู่รอให้ถึงปี 2562 ก่อน เมื่อเหตุการณ์ภัยพิบัติจบลงในปี 2562 ท่านจะให้พระยาธรรมมิกราชมาปรากฏในปี 2563 เราก็จะได้พบกับสามร่มโพธิ์ศรี จากนั้นท่านจะพิจารณาอีกทีว่าจะอยู่ต่อหรือจะละร่างนี้ จากนี้จะเป็นบทสนทนาระหว่าง ข้าพเจ้ากับท่านท้าวสักกะเทวราชโดยตรง มีใจ ความที่จะสื่อสารมายังเพื่อนๆ ในหน้าเฟซนี้ดังนี้ค่ะ

    คำถามแรกที่จะขอให้ท่านตอบไขข้อข้องใจคือ เรื่องการสลับขั้วของแม่เหล็กโลก ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดการพลิกกลับในช่วงเวลานี้ การตรวจจับด้วยเครื่องมือต่างๆ ส่อให้เห็นว่าได้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเกิดความแปรปรวนขึ้นกับสนามแม่เหล็กโลกมากมาย จนทำให้ผู้ที่อ่านเครื่องมือเหล่านี้เป็นได้ลงความเห็นว่า "ใกล้จะพลิกแล้ว" ซึ่งท่านใดที่ยังไม่เข้าใจหรือยังไม่ทราบ ก็คงต้องไปเสิร์ชดูในกูเกิ้ลกันเอาเองว่า โลกนั้นจะเจอหายนะเช่นไร

    ท่านตอนทันทีว่า เจ้าจงไปออกประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่า "แกนโลกไม่พลิกแล้ว ถึงแม้ว่าเครื่องมือตรวจจับเหล่านั้นจะแสดงผลเช่นนั้นก็ตาม และมันก็จะแสดงให้เห็นถึงความแปรแปรวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างนี้แหละ แต่ไม่พลิก ไม่สลับขั้วอย่างแน่นอน ให้พลิกไม่ได้หรอก เพราะจะไม่เหลือ จะพินาศหมด" เหตุที่ไม่พลิกก็เพราะ ท่านได้ให้ปู่อินทร์ลงมาจากเขาภูตำแย เพื่อมาแก้ไขเรื่องนี้โดยเฉพาะ ด้วยการนำเอาเหล็กไหลจำนวนน้ำหนักรวมแล้ว 4 ตัน หรือ 4,000 กิโลกรัม

    มาตั้งไว้เป็นฐานพระพุทธรูปที่เห็นอยู่ข้างหน้า ตามภาพที่ลงให้ดูนี้แหละ ท่านได้ใช้ท่อวงกลมสองชั้นเทปูนระหว่างชั้น ตรงกลางบรรจุเหล็กไหลทั้งหมดเอาไว้ ใช้ปูนปิดทับด้านบน แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปปางจักรพรรดิขึ้นประดิษฐาน นี่คือสิ่งที่จะทำหน้าที่ถ่วงดุลและดูดประจุแม่เหล็ก ท่านใช้คำว่าดูดพลังงานมืดลงสู่พระแม่ธรณี พลังงานนี้ก็จะลงสู่ใจกลางโลก ทำปฏิกิริยากับลาวาและแมกม่าข้างล่าง ส่งผลออกมาในรูปของแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดอย่างที่เห็นๆ กัน

    นาซ่านะรู้ทีหลังเราอยู่แล้วทุกเรื่อง ตรงนี้ ถ้าอยากรู้ก็เอาเครื่องมือมาตรวจจับพลังงานดูได้นี่นา ท่านปู่บอกว่า จากนั้นปู่ก็เหนื่อยเพราะต้องคอยหาทางควบคุมการปะทุ การระเบิดและการเคลื่อนของแผ่นดิน ให้ไปออกในจุดต่างๆ ตามที่ได้หมายเอาไว้ ที่เนปาลก็เป็นจุดที่หมายไว้ และจริงๆ แล้วต้องหนักกว่านี้ เพราะมีคนที่จิตใจหยาบชั่วร้ายเป็นพวกทำลายศาสนามาอยู่กัน เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ามันแย่แค่ไหน

    เอาเป็นว่า ไม่ต้องช่วยและไม่ต้องให้แม้แต่สลึงเดียวก็ไม่ต้องให้นะ (มิน่าล่ะ เราจึงเจอสารพัดอุปสรรค แค่จะส่งข้าวหลามไปสักหมื่นกระบอกยังทำไม่สำเร็จเลย) ท่านบอกว่าไล่อุดกันอุตลุตเลยในเวลานี้ (มิน่าล่ะ เราเคยลงในโพสต์ว่า ดูหลายๆ จุดที่เกิดแผ่นดินไหว มีความรู้สึกว่ามีการจงใจให้เกิดในจุดนั้นๆ)

    ถามท่านเรื่องญี่ปุ่น ท่านบอกว่า มันยากมากที่จะทำให้ญี่ปุ่นรอด อาจจะเหลือหนึ่งในสี่ เหตุผลก็เพราะ การเริ่มต้นของแผ่นดินไหวจะออกมาจากจุดนี้ เรื่องแผ่นดินไหวคงต้องเล่ากันอีกที และจะขอข้อมูลให้ละเอียดมาเพิ่มเติมให้นะคะ ท่านคิดเหมือนนบพ์มั้ยคะ ว่าโดมศรีอริยเมตตัรยโยฯแห่งนี้ คือต้นตอของเมฆและรุ้งบนท้องฟ้าที่กำลังปรากฏอยู่ตอนนี้ ว่าที่คุณแป้นแล้น บันทึกคลิปแล้วปรากฏยานบินยูเอฟโอ บินกันให้ว่อนนั้นเป็นเพราะอะไร พิกัดที่คุณแป้นแล้นอยู่ก็ไม่ห่างจากจุดนี้เท่าไหร่ ก็ช่วยกันขนเหล็กไหลและดวงแก้ว และ ฯลฯ มาไว้ที่นี่ไงละคะ เดี๋ยวโพสต์ต่อไปจะลงรายละเอียดเรื่อง "โดมศรีอริยเมตตัยโยรัตนมุณี ครอบแกนกลางจักรวาลธรรมสถาน" ค่ะ

    เล่าเรื่องการไปพบปู่อินทร์ต่อค่ะ
    ตอนที่ 2


    เรื่องแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดจึงเป็นสองเรื่อง ที่จะส่งผลกระทบกับชีวิตและทรัพย์สินของพวกเราชาวโลกในตอนนี้ อันเป็นผลมาจากการที่พระแม่ธรณีดูดซับพลังงานมืดจากแท่งเหล็กไหล แล้วต้องกระจายพลังหรือปลดปล่อยพลังงานออกไปในรูปแบบของแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิด ซึ่งตอนนี้เบื้องบนก็จะช่วยกันดูแล มิให้พลังงานที่เร่าร้อนนี้ไปปะทุออกผิดที่ผิดทาง อย่างที่เคยบอกไว้เมื่อครั้งรายงานเรื่องแผ่นดินไหว และได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า "จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำเครื่องหมายไว้แล้ว"

    ในใจรู้สึกว่าท่านจะให้ออกตรงนี้ เพื่อปลดปล่อยพลังงาน แล้วจะได้ส่งผลให้จุดที่ควรจะปลอดภัยนั้นเกิดความปลอดภัย บางจุดก็จะเป็นจุดที่จะต้องเกิดอยู่แล้ว ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามนั้น ทีนี้คำถามคือจุดไหนจะปลอดภัยล่ะ? จุดที่จะต้องปกปักรักษาให้ปลอดภัยก็คือ จุดที่ถูกเลือกมาตั้งแต่ต้น ให้เป็นที่ที่จะ ช่วยเหลือมนุษยชาติ ให้ดำรงอยู่อย่างสันติ ซึ่งในตอนนี้เราก็ต้องบอกว่า สุวรรณภูมิทั้งหมด คือจุดดังกล่าว แต่ตอนนี้จุดนี้กำลังสร้างปัญหาให้กับเบื้องบน

    นั่นก็คือพวกเราคนไทย กำลังประพฤติตนไม่เหมาะสมกับที่ที่ให้มาเกิดให้มาอยู่อาศัย ปู่บอกกับเราว่า "ลูกเอ๋ย ปู่เหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยใจกับลูกหลาน ที่ไม่สามารถทำตัวทำตนให้สมกับที่ตั้งใจไว้ตอนก่อนมาเกิด พระสงฆ์องค์เจ้าก็เหลืออยู่เพียงไม่กี่รูปที่ทำตัวให้เป็นที่พึ่งได้จริง

    ปู่คือใครเจ้ารู้ไหม? ปู่คือพระกกุสันโธพุทธเจ้านะ ปู่มาตั้งศาสนาไว้ที่สุวรรณภูมิแห่งนี้ ปู่พญานาคที่มาพร้อมกันก็คือปู่ภุชงค์นาคาธิบดี ส่วนปู่ศรีสุทโธนั้น ท่านมาพร้อมกันกับพระพุทธเจ้าองค์ที่สอง ท่านโกนาคมนะพุทธเจ้า ปู่พระอินทร์นั้นมาปรากฏในรุ่นหลังคือรุ่นพระเจ้าสิบชาติ" โอ้ ตอนนี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้นั่งลงเบื้องหน้าพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑ แห่งกัปนี้กระนั้นหรือ? ช่างเป็นบุญของเราแท้ๆ

    ปู่กล่าวต่อไปว่า "มาตั้งแต่ครั้งกระโน้น และก็คอยเฝ้าดูตลอดมาถึงตอนนี้ ก็ต้องใช้ร่างกายของปู่อินทร์ทำงาน เพราะไม่สามารถพึ่งใครได้เลย ต้องมาช่วย และต้องให้ปู่อินทร์อยู่ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะพ้นช่วงเวลานี้ไป" ทีนี้จะขอเล่าถึงเรื่องการบ้านการเมืองและเรื่องการเงินการธนาคาร ท่านบอกว่า "ประยุทธ์นะเขาเป็นคนดี แต่เขาคนเดียวทำอะไรได้ไม่มาก บ้านเมืองเต็มไปด้วยข้าราชการขี้โกง เงินในท้องพระคลังนะมันเอาไปหมดแล้ว"

    ได้ถามท่านถึงเงินของพระเจ้าจักรพรรดิ ท่านบอกว่า"พระเจ้าจักรพรรดิก็นั่งอยู่ตรงหน้าเจ้านี่ไง"

    "ปู่ไม่ปล่อยนะ เงินจำนวนมหาศาล เอามากองไว้ตรงหน้าให้เห็น เห็นกันหมดแล้ว แต่ไม่อนุมัติให้เอาออกมาใช้ ต้องยอมให้ลูกหลานอดหยาก เพราะถึงเอาออกมา เงินก็หาได้ถึงมือพวกเจ้าไม่?"

    "มีแต่คนโกงคนกิน ทุกหย่อมหญ้า โกงกินแล้ว ไม่ทำประโยชน์แล้วยังใช้เงินนั้นทำลายคนดีๆ ให้ไม่มีที่ยืน"

    "ปู่ไม่ให้ ทองหลวงตาบัวก็ยังอยู่ ตั้งมันไว้อย่างนั้นแหละ มีทองจำนวนมหาศาลที่ปู่ไม่ปล่อยออกมาอีกราวๆ สี่สิบล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ที่ยังไม่ให้เอาออกมาไม่มีประโยชน์ พวกเขาเอาไปหมด"

    ถามท่านเรื่องคนชื่อทักษิณ ท่านบอกว่า "ถึงเอาคนไม่ดีออกไปแล้ว แต่คนที่เหลืออยู่ก็หาใช่คนดีไม่ โกงกินบ้านกินเมือง ตัวไหนก็เหมือนกันหมด" ถามถึงในรั้วในวัง คุยกันยาวแต่เล่าไม่ได้ค่ะ เพราะลืมไปหมดแล้ว ท่านพูดซ้ำอีกว่าเหนื่อยมากเหนื่อยเป็นที่สุด ภาคที่ท่านดำรงอยู่ในตอนนี้คือภาคช่วยเหลือลูกหลานค่ะ ท่านคงปล่อยวางไม่ได้ ด้วยภาระหน้าที่ของท่านที่กำหนดไว้แล้ว

    เพียงแต่ท่านคาดผิดไป ท่านไม่คิดว่า การที่เราเป็นชาวพุทธ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้เกิดในสุวรรณภูมิ อู่ข้าวอู่น้ำ ภูมิประเทศภูมิอากาศเอื้ออำนวยทุกอย่างให้ได้ใช้ชีวิตที่สำราญ กลับต้องมาอยู่ในสภาพนี้กัน และเมื่อนำพระพุทธเจ้าองค์ที่สี่มามอบให้แค่ 2,500 ปีผ่านไป สิ่งที่เหลืออยู่คือความหดหู่ใจของท่าน

    ตอนนี้ภาระกิจของท่านก็คือ การต่อกรกับความเปลี่ยนแปลงของโลกเรื่องสนามแม่เหล็กกลับขั้ว ด้วยการใช้แท่งเหล็กไหลมาปรับมิให้เกิดการพลิกกลับขั้วได้ ท่านบอกว่า ถ้าพลิก เราอาจจะต้องตกไปอยู่ในภูมิประเทศที่ไม่ร้อนตายก็หนาวตายค่ะ จึงให้พลิกไม่ได้ และท่านก็จัดการได้สำเร็จแล้วส่วนเรื่องลมพายุนั้น ปู่บอกว่า เวลาไปอุดภูเขาไฟให้ชะลอหรือหยุดการปะทุในจุดที่ไม่ต้องให้เกิดเหตุ หรือไปเหยียบจุดที่ไม่ต้องการให้แผ่นดินไหวนั้น เกิดเศษหางของพลังงานที่ปะทะกัน ท่านปัดออกไม่ทัน

    ทำให้เดือดร้อนกันไปบ้างเป็นหย่อมๆ ท่านให้คาถากันพายุมาด้วยค่ะ ถ่ายรูปลงให้แล้วนะคะ คุณอารยาที่อยู่ดูแลที่นั่นได้สอนว่าให้หลับตาลงทำใจให้นิ่งๆ ปล่อยให้ลมมาปะทะ แล้วสวดพระคาถา ดิน น้ำ ลม ไฟ นี้ค่ะ ท่านบอกว่าถ้ามีเหตุการณ์อะไรก็ให้รำลึกถึงท่าน ซึ่งก็คือการสวดคาถาพระมหาจักรพรรดินั่นเอง ใช้ได้ในทุกสถานการณ์เช่นกันค่ะ

    ทีนี้มาถึงเรื่องสำคัญ พวกเราคือความหวังของปู่ค่ะ ขอให้เพื่อนๆ จงอย่าได้ละเลยการปฏิบัติธรรมนะคะ จงปฏิบัติและก็ปฏิบัติ เพราะถ้าปฏิบัติแล้ว ท่านจะอยู่รอดปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ

    ตอนต่อไปเราจะมาคุยกันต่อเรื่องแผ่นดินไหวที่ใกล้ๆตัว

    --------------------------------------------------------------------------------------

    โดมศรีอริยเมตตัยโยรัตนมุนีครอบแกนกลางจักรวาลธรรมสถาน บ้านหนองขอน ต.สุขเกษม อ. ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2558

    ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้านมัสการและรับพลังได้ทุกเวลา หากต้องการกราบปู่อินทร์ ให้ไปเวลา9:00น-16:00น. เว้นวันพระ

    หากมาจากทางไกล ติดต่อคุณอารยาได้ที่ 089 917-3459 อยู่บนทางหลวงหมายเลข 2072 แยกจากสาย 304 เลยตัวอำเภอปักธงชัยลงมาเล็กน้อย จะเห็นทางหลวงสาย 2072 ทางไปวิทยาลัยเทคนิคปักธงชัย เข้าไป 8 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบ้านหนองขอนอยู่ซ้ายมือ ส่วนด้านขวามือจะเป็นวัดชุมแสง ถัดจากวัดชุมแสงก็คือที่ตั้งของโดมพระศรีอริยเมตตัยโยฯ ค่ะ


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/pu-xinthr-ta-thiphy/kar-pi-phb-pu-xinthr-tx
     
  2. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    มีตอนต่อไปไหมครับกำลังตื่นเต้น
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมก็บังเอิญไปพบเว็บไซต์ของคุณนับพ์ Nopp เมื่อวานนี้เองครับ ถ้าสนใจก็เข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ มีข้อมูลให้อ่านเพียบเลยครับ

    https://sites.google.com/site/jantimema/home
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Nibiru – นิบิรู ภาคนิยายปรัมปรา ภาค 1

    adam-i-eva.jpg

    entry นี้มาจาก pantip.com ครับ และจริงๆแล้วมีอีกหลายเวป copy กันไปมา หากท่านใดเป็นเจ้าของบทความ โปรดบอกกล่าวมายังผมเพื่อให้ credit แก่ท่านด้วยครับ เอาล่ะ blog นี้ผู้อ่านชอบเรื่อง นิบิรุมากๆ ถึงขนาดมี request มาว่า เอาอีก…..

    แต่อยากบอกให้ทุกท่านทราบว่า ข้อมูลเกี่ยวกับนิบิรุในไทยเนี่ย blog นี้ก็เยอะมากๆแล้วนะครับ การจะหามาเพิ่มเนี่ยมันยากมาก วันนี้เลยเอาของเก่า เก๋ากึ๊ก รุ่นแรกๆ ที่ผมไม่คิดจะเอามาลง เพราะมันดูตลก แต่เห็นท่านๆ สนใจเลยเอามาให้อ่านกัน ขำๆ นะครับ ยาวนิดนึง เอาฮานะครับ

    ก่อนจบหลายคนถามผมว่าโลกจะแตกจริงมั้ย หรือน้ำจะท่วมโลกมั้ย…ในฐานะที่อ่านมาพอสมควรเนี่ย ขอบอกว่าโลกอ่ะไม่แตกตอนนี้หรอกครับ แต่อีกสามร้อยกว่าปีน่ะไม่แน่ เพราะมีรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่าจะเกิด (จะมาเล่าให้ฟังทีหลัง) แต่ว่าภัยธรรมชาติ ฟันธงว่าหนัก นับจากนี้ไปหกถึงสิบเดือน ประเทศไทยก็โดนครับ ฟันธง รอแค่เวลาเท่านั้น…..

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    Nibiru – นิบิรู ภาคนิยายปรัมปรา ภาค 1

    เมื่อกาลครั้งหนึ่งในอดีตประมาณ 500,000 ปีล่วงมาแล้ว โลกของเราหรืออีกนามหนึ่ง เทียมัต เป็นสถานที่ที่ต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ชื่อเทียมัตนี้เป็นชื่อดั้งเดิม ส่วนคำว่าโลกหรือไกอา เป็นชื่อที่เพิ่งใช้เมื่อเร็วๆ นี้

    เมื่อ 500,000 ปีก่อน เทียมัตไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบันนี้ วงโคจรของมันอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ คือ ณ ตำแหน่งระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี ส่วนดาวอังคารนั้นจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ ในระยะที่ใกล้กว่าปัจจุบันนี้ ซึ่งทำให้ดาวอังคารเหมาะที่จะใช้อยู่อาศัยได้ เพราะมีอุณหภูมิพอเหมาะ และมีน้ำในรูปของของเหลว ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการยืนยันจากทางนาซาและนักวิทยาศาสตร์ ยกเว้นก็แต่เรื่องวงโคจรที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไป ไม่ยอมรับเรื่องการวิวัฒนาการโดยสิ่งกระตุ้น

    ในช่วงนั้นเทียมัตอยู่ใกล้กับดาวซิริอุส (หรือโซทิสตามที่ชาวอียิปต์โบราณเรียกขาน) ระบบสุริยะและระบบดาวซิริอุสนั้น มีความเกี่ยวโยงกันทางด้านแรงโน้มถ่วง ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้เริ่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในแวดวงวิทยาศาสตร์ ระบบซิริแอนนี้จะโคจรรอบดาวฤกษ์อคลีออนในกระจุกดาวลูกไก่ (พีลอาดีส) หรือที่จะเรียกขานว่าเขตพีลอาดีส พื้นที่อันกว้างใหญ่นี้จะโคจรรอบศูนย์กลางกาแลกซี่ ในทิศทางของกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) ในรอบระยะประมาณ 200 ล้านปี และรอบการโคจรของระบบซิริแอนและเขตพีลอาดีส จะมาบรรจบอยู่ในแนวเดียวกับศูนย์กลางกาแลกซี่ ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 (ค.ศ.2012) โปรดเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเหนือความคาดหมาย!!!

    วกกลับมาคุยถึง เรื่องประวัติของนิบิรุ และ เทียมัต โลกของเราในช่วงนั้น มีสภาวะอากาศที่หนาวเย็นกว่าปัจจุบันมาก ประชากรมนุษย์ในยุคนั้นตามที่นักโบราณคดีเรียกคือมนุษย์นีแอนเดอทัล จะมีขนดกหนาและสันทัด ล่ำสันกว่าพวกเราในปัจจุบัน พวกเขาล้วนอาศัยอยู่ในโพรงถ้ำ เพื่ออาศัยประโยชน์จากความอบอุ่นจากพื้นพิภพ เหล่าชาวพิภพแห่งเทียมัตนี้ สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษจากพีลอาดีส ซึ่งข้อเท็จจริงนี้สามารถยืนยันได้จากตำนานและนิทานปรัมปราของหลายชนชาติ เช่นชาวมายาและชาวโพลีนิเชีย แต่ในที่นี้จะขอเว้นที่กล่าวถึง จุดกำเนิดของชาวพีลอาดีสบนเทียมัตไว้ก่อน

    เมื่อ 500,000 ปี ก่อนระบบสุริยะนั้นมีเสถียรภาพ แต่เนื่องด้วยเหตุเหนือความคาดหมาย ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ดวงหนึ่งในระบบดาวซิริแอน ได้เกิดพลัดออกนอกแนวทางโคจรและมุ่งเข้าสู่ระบบสุริยะ ซึ่งดาวเคราะห์นี้ได้ถูกจับไว้เป็นบริวารของระบบสุริยะ โดยที่มีวงโคจรที่รี คล้ายวงโคจรของดาวหาง ซึ่งมีคาบการโคจรหนึ่งรอบในเวลา 3,600 ปี และมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ที่สุดในบริเวณกลุ่มเฆมออร์ด โดยที่คาดกันว่าดาวเคราะห์ดวงนี้ มีขนาดประมาณดาวเนปจูน ประชากรบนดาวนี้จะมีลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน ที่ปกครองโดยชนชั้นปกครองที่ เรียกว่า “เนฟิลิม” (ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถหาอ่านได้จากพระคริสต์ธรรมคำภีร์) ประชาชนทั่วไปจะเป็นที่รู้จักกันในนาม “อนูนากิ” (Anunaki ตามที่เรียกขานโดยชาวสุเมเรียน) หรือ”อนาคิม” (ในพระคัมภีร์เก่า) ในช่วงนั้นผู้ปกครองสูงสุดคือจักรพรรดิ์ อลาลู และจักรพรรดินี ลิลิตู

    ภายหลังที่ถูกจับเป็นบริวารโดยดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์นิบิรุได้เริ่มประสบกับภาวะ สภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย สภาผู้ปกครองทั้งสิบสอง นำโดยจักรพรรดิ์อลาลู ได้มีการประชุมฉุกเฉินและได้สรุปถึงวิธีป้องกัน เพื่อความอยู่รอดของดาวเคราะห์โดยการสร้างโล่ห์ความร้อน ที่ทำขึ้นมาจากทอง เพื่อปกป้องชั้นบรรยากาศจากการสูญเสียความร้อน ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อสิ่งมีชีวิตแบบสัตว์เลื้อยคลาน ที่ต้องขึ้นกับแหล่งความร้อนภายนอก เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย พวกเขาได้เริ่มทำการสำรวจระบบสุริยะใหม่นี้ทันที กองยานอวกาศได้ถูกส่งไปยังดาวเคราะห์ต่างๆ รวมทั้งเทียมัตเพื่อค้นหาทอง

    ผู้บังคับการมกุฏราชกุมาร อนู พร้อมทั้งราชโอรสทั้งสอง เอนกิ และ เอนลิล และราชธิดา นินคูซัค ได้ร่อนลงในบริเวณที่ปัจจุบันคืออ่าวเปอร์เซีย และย่างเท้าบนฝั่งในดินแดนที่ปัจจุบันคือประเทศคูเวต ในที่สุดก็ได้ก่อตั้งท่าจอดยานอวกาศในบริเวณเมโสโปเตเมีย ในตำแหน่งที่มีตำนานว่าเป็นสวนอีเดน โดยความช่วยเหลือชาวพื้นเมืองเทียมัต พวกเขาได้พบกับขุมทองบนเทียมัตและสามารถนำทองนี้ ไปสร้างเป็นโลห์กักความร้อนได้สำเร็จ อย่างไรก็ดีโลห์นี้มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ นี้จึงเป็นเหตุที่ต้องมีชาวอนูนากิประจำอยู่บนเทียมัต เพื่อทำหน้าที่ขุดทอง และ ส่งทองกลับไปยังนิบิรุ อย่างสม่ำเสมอ

    ครั้งหนึ่งอันแสนเนิ่นนานมาแล้ว ในช่วงที่นิบิรุโคจรรอบดวงอาทิตย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งประมาณราวๆ 26,000 ปี ของเทียมัต นิบิรุได้โคจรเฉียดเข้าใกล้เทียมัตมากจนก่ออันตรายร้ายแรง หนึ่งในดวงจันทร์บริวารได้พุ่งชนเข้ากับเทียมัต ทำให้เกิดมหาสมุทรแปซิฟิค และได้ทำให้ทวีปเลอมูเกิดการเปลี่ยนแปลง

    ลักษณะของประชากรนิริบุ จะมีความสูงในราว 10 – 20 ฟุต (3 – 6 เมตร) มีผมดกหลายสี แต่ขนตามตัวจะมีน้อยมาก เพศผู้จะมีหนวดเคราบ้าง และส่วนมากจะมีเขาคล้ายเขาแพะบนศีรษะ ส่วนเพศหญิงส่วนมากจะมีปีก พวกเขาจะไม่มีเหงื่อและไม่มีกลิ่นตัว ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลที่พวกเขา ไม่ได้ให้ชาวพื้นเมืองเทียมัต ทำหน้าที่ขุดทองหรืออยู่ใกล้กับพวกเขา เพราะพวกเขารู้สึกว่าพวกชนพื้นเมืองนี้มีกลิ่นตัวแรง ชาวนิริบุมีนิ้วมือนิ้วเท้าข้างละเจ็ดนิ้ว อาหารของพวกเขามักจะเป็นอาหารเหลว และนิยมแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งตัวที่ทำมาจากแผ่นทอง เมื่อเวลาผ่านไปคนงานชาวเหมืองเริ่มกระด้างกระเดื่อง จนในที่สุดได้นำไปสู่ การปฏิวัติและปฏิเสธการทำเหมือง

    องค์จักรพรรดิ์อนู จึงได้ปรึกษากับราชินีนันคูซัค ซึ่งราชินีนี้ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์และพันธุศาสตร์ จักรพรรดิ์ได้ขอร้องให้ราชินีสร้างสิ่งมีมีชีวิตลูกผสมระหว่างชาวนิริบุ กับ ชาวเทียมัต เพื่อทำหน้าที่เป็นแรงงานในเหมืองทอง องค์ราชินีได้ทรงรับหน้าที่ด้วยความรู้สึกท้าท้าย และในที่สุดก็ได้เป็นสิ่งมีชีวิตลูกผสมเพศชาย จากไข่ของหญิงเทียมัติกับเชื้ออสุจิของเจ้าชายเอนกิ ราชินีเรียกลูกผสมนี้ว่า “อดามู/ อดัม” ในเบื้องต้นลูกผสมนี้มีแต่เพศชายทั้งสิ้น โดยที่ชาวนิริบุเพศหญิงจำนวนหนึ่งทำหน้าที่อุ้มท้อง และเป็นที่เรียกขานผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ว่า “เทพีแห่งการเกิด”

    และทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี นิริบุมีทอง ชาวอนูนากิเป็นอิสระจากการทำเหมือง ส่วนลูกผสมจำลอง ก็ได้รับการผลิตเพื่อให้เป็นแรงงานเหมืองที่ดีเลิศ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังที่เคยเกิดในอดีต บรรดาเทพีแห่งการเกิด เริ่มรู้สึกเหลือทนกับการต้องมาอุ้มท้องพวกอดามู ดังนั้นชาวนิบิรุจึงได้ประท้วงและปฏิเสธที่จะอุ้มท้องอีกต่อไป ครั้งนี้จักรพรรดิ์อนู รับสั่งให้ราชินีเข้าเฝ้าและหลังจากนั้นก็ได้ข้อสรุปว่า ให้สร้างลูกผสมที่เป็นเพศหญิง (อีวา/อีฟ) เพื่อให้ทั้งสองเพศได้ผสมพันธุ์กันเองในธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ง่ายดาย

    แต่ปรากฏว่าเพศทั้งสองนั้น เป็นหมันเนื่องจากว่าทั้งสองเพศเป็นลูกผสม ดังนั้นจักรพรรดิ์จึงได้มีกระแสรับสั่งให้เลิกกระบวนการ ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตนี้เป็นลูกผสม ครั้งนี้ราชนีนินคูซัคได้ขอให้เจ้าชายเอนกิดำเนินการแทน เจ้าชายจึงให้ทั้งอดัมและอีฟกินสารบางอย่างเพื่อกลับกระบวนการที่ทำกับสิ่งมีชีวิต โดยหวังให้สิ่งมีชีวิตนี้มีลักษณะลูกผสมน้อยลง สิ่งมีชีวิตทั้งคู่ได้ลอกคราบผิวหนังชั้นนอก ที่มีลักษณะของสัตว์เลื้อยคลาน และเริ่มต้นจับคู่ผสมพันธุ์ แต่แล้วพระองค์ก็ได้ทรงทราบว่าสิ่งที่ทำไปเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะกระบวนการนี้ ทำให้ไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตนี้ได้ จักรพรรดิ์อนูจึงได้สั่งห้ามอดัมและอีฟ เข้าไปในสวนอีเดนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ด้วยเหตุนี้มนุษย์โครมันยอง ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 20,000 ปีก่อน ส่วนมนุษย์นีแอนเดอทัลก็ได้ค่อยๆ ล้มตายลงไปโดยที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ อันเนื่องมาจากอากาศที่อบอุ่นขึ้น เนื่องจากโลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น และในที่สุดเมื่อประมาณ 10,000 ปี มนุษย์นีแอนเดอทัลก็ได้สูญพันธุ์จนหมดสิ้น เหลือแต่เพียงมนุษย์โคมันยองที่ครอบครองเทียมัต

    ในหนังสือเรื่องแผนร้ายสายรุ้ง (The Rainbow Conspiracy) แบรด สไตเกอร์ได้เขียนถึงโครงการทดลองฟิลาเดเฟียที่ซึ่งประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดีลาโน รูสเวลล์ ได้พบกับมนุษย์ต่างดาว ที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ในปีช่วงประมาณปี พ.ศ. 2473 – พ.ศ. 2483 พวกมนุษย์ต่างดาวนี้จะมีผิวกายสีเขียว และเพื่อที่จะให้ไม่เป็นที่สังเกตพวกเขาใช้สารฟอกสีเพื่อทำให้สีกายของพวกเขามีสีอ่อนลง อย่างไรก็ดี ดูเหมือนจะมีความสอดคล้องกันของรูปวาดเก่าแก่ ถึงพระเจ้าในอินเดียที่พระเจ้าที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ มีผิวกายในสีโทนน้ำเงิน ซึ่งหากสังเกตให้ดีพวกกิ่งก่า ตะกวด และจิ้งเหลน จะมีสีผิวในทำนองนี้ ที่มีผิวอ่อนนุ่ม ละเอียดเหมือนไหม

    นอกจากนี้ข่าวที่มีการรายงานทางโทรทัศน์ ยังชี้ว่าคณะแพทย์ที่พยายามจะรักษาผู้ป่วย โดยการหาทางรักษาบาดแผลทางผิวหนังของผู้ป่วย พบว่าผิวหนังของงูนี้ คล้ายคลึงกับของมนุษย์มาก ที่จริงแล้วผิวหนังที่ใช้ในการรักษาบาดแผลวิธีนี้เป็นหนังงูเลยทีเดียว ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องกันของมนุษย์และสัตว์เลื้อยคลาน และกระบวนการย้อนกลับของการทำพันธุวิศวกรรมมนุษย์ ซึ่งกระบวนการย้อนกลับของอดัมและอีฟ ทำให้สิ่งที่สละทิ้งกลับรวมเป็นรูปใหม่ กลายเป็นงู และอาจจะอนุมานได้ว่าชาวนิริบุ ก็อาจจะมีความสามารถในการเปลี่ยนสีผิว ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เช่นเดียวกับสัตว์เลื้อยคลาน จำพวกกิ้งก่า หรือจิ้งเหลน โปรดศึกษางานเขียนของ อาร์ เอ บัวเลย์ (R.A. Boulay) ในหนังสือเรื่องเล่าของงูและมังกรบิน (Flying Serpents and Dragons)

    อ่านต่อภาคสองนะครับ…………..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2018
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิบิรู ภาคนิยายปรัมปรา ภาค 2

    gods-of-egypt.jpg


    เรื่องที่ต่อจากนั้นเป็นเรื่องที่มี บันทึกในประวัติศาสตร์ของเราเอง คือครั้งหนึ่งนิริบุได้เฉียดเข้าใกล้เทียมัต และทำให้เกิดภัยภิบัติ ทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหวไปทั่วโลก ซึ่งในครั้งนี้สวนอีเดนและท่าจอดยานอวกาศได้จมไปในน้ำและถูกทำลายไปจนสิ้น เจ้าชายอูตูแห่งเนฟิลิม จึงได้รับบัญชาให้สร้างสถานีจอดยานอวกาศขึ้นใหม่ ในบริเวณแหลมไซนาย และวิถีชีวิตบนเทียมัต ก็ดำเนินไปตามปกติอีกครั้ง แต่ในไม่นานก็ได้เกิดสงครามปิรามิดขึ้น

    พระราชกุมารีเจ้าฟ้าหญิงอินันนา ซึ่งเป็นหนึ่งในที่รักยิ่งของจักรพรรดิ์อนูได้รับพระบัญชา ให้เป็นผู้ปกครองดูแลบริเวณที่เป็นอินเดียและเนปาลในปัจจุบัน พระองค์มีพระนามอีกพระนามคือพระลักษมี ซึ่งเป็นพระนามที่ได้รับการสักการะนับถืออยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุที่พระสวามีคือดยุคดูมูซิ (พระวิษณุหรือเปล่า)ได้มีเรื่องทะเลาะกับบารอนมาดุค จนในที่สุดได้นำไปสู่สงครามปิรามิด ในสงครามชิงอำนาจระหว่างพระราชกุมารีอินันนาและดยุคดูมูซิกับบารอนมาดุค และ บารอนเนสศาพานิต ดยุคดูมูซิได้ถูกสังหาร ทำให้เจ้าชายอูตู และพระราชกุมารีอินันนา ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่บังควร โดยการทำลายท่าเทียบยาน อวกาศที่แหลมไซนายพร้อมทั้งศูนย์วิจัยและผักผ่อนคือเมืองบริวารโซดอมและโกโม ราซด้วย (The satellite R&R cities ไม่ทราบว่า R&R แทนอะไรอาจจะเป็น Research and Development หรือ Research and Recreation) ทำให้เหมืองทองในเขตแอฟาริกาใต้ เข้าสู่ความวุ่นวายด้วยเมื่อดยุคเนกอลและดัส เชสอีเรสกิกอลเข้าเป็นพันธมิตรกับบารอนมาดุค และทำให้เกิดความวุ่นวายในคณะผู้ปกครองแห่งเนฟิลิม

    จักรพรรดิ์อนู จึงจำต้องโปรดให้สร้างสถานีจอดยานอวกาศขึ้นใหม่โดยครั้งนี้พระองค์มีพระ บัญชาให้เจ้าชายเอนกิและเจ้าหญิงนินกิเป็นผู้ดูแล ทั้งสองพระองค์จึงได้ย้ายสถานที่ ไปเป็นบริเวณทะเลสาบติติคาคา (Titicaca Lake) ในเปรู และที่ตรงนี้ก็คือบริเวณที่ราบนาซคาซึ่งมีทองคำจำนวนมหาศาลอยู่ในเทือกเขาแอนดีส ดังนั้นศูนย์การผลิตทองที่แอฟริกาใต้ จึงถูกย้ายไปที่ทะเลสาบติติคาคาด้วย

    และนี่ก็เป็นเรื่องในอดีตหลายพันหลายหมื่นปีก่อน ซึ่งก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทำไมชาวนิริบุจึงดูเหมือนจะทิ้งเทียมัตไว้ อาจจะเป็นไปได้ว่าโลห์กักความร้อนนั้น สามารถคงรูปได้อย่างถาวรแล้ว ทำให้พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทองจากเทียมัตอีกต่อไป ครั้งสุดท้ายที่ดาวเคราะห์พวกเขาเฉียดใกล้เทียมัตคือในปี 687 ก่อนคริสต์กาล แต่แน่นอนถึงแม้ดาวเคราะห์ของพวกเขาจะมุ่งหน้าไปสู่การหลับไหลที่ยาวนาน ในกลุ่มเฆมออร์ด พวกเขาจะยังคงการติดต่อกับเทียมัตไว้บ้างบางส่วน อาทิเช่นสิ่งก่อสร้างใต้ดินในเทือกเขาแกรนด์เททอน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ภิภพที่อเมริกาใต้ ในห้องเปล่าที่ซาอุดิอาระเบีย ในภูเขาหิมาลัย หรือแม้แต่ห้องโถงใต้ดิน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาปิรามิดแห่งอียิปต์ที่ชาว เนฟีลิมสร้างไว้เพื่อเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศที่แหลมไซนาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปริศนาให้ถกเถียงกันว่ามีไว้เพื่อให้มนุษย์ต่างดาว ได้ใช้หรือไม่ ซึ่งเชื่อได้ว่าคำตอบสำหรับทุกปริศนาจะได้รับการเฉลยในอนาคตอันใกล้นี้

    ในขณะนี้คงจะมีคนจำนวนมากถามว่า แล้วดาวเคราะห์นิริบุอยู่ที่ใด แน่นอนมันต้องอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในระบบสุริยะเป็นแน่ บางครั้งนักดาราศาสตร์จะบังเอิญไปพบมัน แต่อาจะไม่รู้และเรียกมันว่าวัตถุลึกลับ อย่างเช่นกาแลกซี่ขนาดเล็ก บางทีรัฐบาลเองก็สงสัยว่าเจ้าสิ่งนั้นคือนิริบุเองแต่มีความเห็นว่า จำเป็นต้องปิดบังข้อมูลนี้จากการรับรู้ของสาธารณชน ผู้ที่เฝ้าสังเกตท้องฟ้าในสมัยโบราณ ทั้งในตะวันออกกลาง หรือชาวมายาในเมกซิโก ต่างก็ได้พูดถึงการมาของนิริบุในกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งมันจะมาปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ โดยที่ดูเหมือนว่ามันจะจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา อีกทั้งจะมีสีทองเหมือนดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋ว มีหางยาวคล้ายดาวหาง และมีบริวารโคจรอยู่รอบๆ และจะลอยให้เห็นดังอัญมณีที่ขั้วโลกเหนือของเทียมัต คล้ายกับการมาถึงของยุคแห่งพระเจ้า

    พระเจ้าองค์สำคัญๆของชาวสุเมเรียนได้แก่ เอนกิ(Enki) เทพแห่งน้ำ, กิ(Ki) เทพแห่งผืนแผ่นดิน, เอนลิล(Enlil) เทพแห่งห้วงอวกาศ หรือบรรพเทพ อัน(An) ผู้ปกครองสรวงสวรรค์เป็นต้น ชาวสุเมเรียนศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า และเชื่อกันว่าพระเจ้าของพวกเขาเสด็จลงมาจากท้องฟ้าที่แสนไกล ท้องฟ้าที่หมายถึงท้องฟ้าเบื้องบนนะคับ หาได้หมายถึงสวรรค์แต่ประการใดไม่นะคับ

    อีกอย่างนึงนะ จะเห็นได้ว่ามีการเอ่ยถึง Anunnaki อันนี้ ค่อนข้างบ่อย มาดูกันซิ มีความหมายยังงัยเอ่ย!!
    Anunnaki (อ่านว่า AN.UNNA.KI) แปลให้ตรงตัวคือ who from heaven to Earth came ซึ่งในบางครั้งชาวสุเมเรียนบรรยายถึงพระเจ้าเหล่านี้ด้วยอักษรภาพ โดยคำสำคัญที่เป็นส่วนประกอบเสมอคือคำว่า GIR เช่น DIN.GIR และ KA.GIR โดยไอ่เจ้าตัว GIR เป็นอักษรภาพที่มีรูปพรรณสันฐานคล้ายจรวดในปัจจุบันมากค่ะ โดยรวมแล้วความหมายของ GIR เมื่อประกอบเข้ากับคำอื่นๆแล้วก็อาจแปลความได้ว่า The Righteous one of the blazing rockets ไปเลย วู๊… เท่ห์ไม่ใช่เล่น น่าเสียดายที่สมัยนั้นนักโบราณคดีของเราไม่รู้จักจรวด หรือต่อให้รู้จักเค้าก็อาจคิดว่าเหลวไหลที่คนโบราณจะไปรู้จักหรือจินตนาการ ถึงจรวดไปได้ ความหมายของคำพวกนี้เมื่อถ่ายทอดออกมาในวงการโบราณคดี จึงเป็นไปในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งดูแล้วเป็นเทพนิยายไปนู่นเลย (แบบที่ใครๆหลายคนแถวๆนี้คิดกันด้วยล่ะ)

    เรื่องการผิดเพี้ยนของศัพท์ เมื่อแปลจากตำนานโบราณนั้นหาใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดเลย บางครั้งคำที่พวกเราคุ้นเคยกันดี ก็มาจากการแปลที่ผิดความหมาย หรือการตีความอย่างไม่รู้ของผู้แปล เช่นคำว่า Nefilim ในไบเบิล ซึ่งภาคภาษาไทยใช้คำว่ายักษ์นั้น เป็นคำที่มีความหมายเดียวกับ Anunnaki ของชาวสุเมเรียน และคำว่าเอโลฮิม อันเป็นพระเจ้าของชาวฮีบรูว์โบราณ ปัจจุบัน พวกเรารู้จักความหมายของศัพท์พวกนี้ในคำว่า Giants ไปซะฉิบ อย่างว่าแหละนะ ภาษามันดิ้นได้นี่นายจ๋า… อ้อ แล้ว Nefilim น่ะ แปลเป็น eng. แล้วมันจะมีรูปเป็นพหูพจน์ด้วยนะ แบบว่า Gods น่ะจ่ะ (อะไรมีพระเจ้าองค์เดียวไม่ใช่เหรอ ไบเบิ้ลอะ…??? เอาแล้วไง)

    ไม่มีข้ออ้างหรือจารึกใดๆ บอกว่านิบิรุมีสภาพทางกายภาพว่ามีพื้นผิวเป็นอย่างไร สภาพภูมิอากาศเป็นเช่นใด เท่าที่มีการอ้างถึงบอกแต่เพียงว่ามีขนาดใหญ่ (5 เท่าของโลก - ขนาดดาวพฤหัสบดี) การสังเกตเห็นคือจะคล้ายกับดาวหาง มีฝุ่น หรือเมฆสีแดงบ้าง สีทองบ้าง

    การที่ไม่เคยมีใครในสมัยปัจจุบันตรวจพบมันเลย แปลว่ามันไม่มีตัวตนอยู่ใช่ หรือไม่??~
    ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์สามารถค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะได้แล้ว ทำไมถึง ไม่สามารถตรวจหามันได้ ถ้ามันมีอยู่จริง?

    เริ่มที่การสำรวจหาดาวเคราะห์ที่อยู่นอกระบบสุริยะก่อนนะครับ ส่วนใหญ่การตรวจพบ เป็นการอ้างอิงอย่างมีหลักการ อันเนื่องมาจากการที่แรงโน้มถ่วงของตัวดาวเคราะห์มีผลต่อตัวดาวฤกษ์ ทำให้แสงที่ตรวจจับได้ที่โลกมีความยาวคลื่นเปลี่ยนไปในจังหวะที่แน่นอน และอีกวิธีที่ยอมรับกันว่าใช้ได้ผล คือการตรวจจับการเคลื่อนผ่านหน้าดาวฤกษ์ ซึ่งหลักการก็ง่ายแสนง่าย เมื่อดาวเคลื่อนที่บังดาวฤกษ์ แสงที่ตรวจจับได้จะมีความสว่างลดลงแล้วกลับสว่างดังเดิม

    ทีนี้กลับมาที่ดาวเคราะห์ปริศนาเราจะใช้วิธีนี้ได้หรือไม่ ก็คงต้องบอกว่าอาจจะได้แต่ความแน่นอนมีน้อยมากๆ แทบจะนับเป็นศูนย์ได้เลย เพราะว่าคลื่นแรงโน้มถ่วงที่รบกวนยูเรนัส และเนปจูนอาจจะมาจากดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง เศษฝุ่นผงในแถบคูเปอร์ และกลุ่มเฆมออร์ดนับเป็นล้านชิ้น ซึ่งเรายังค้นและจัดลำดับทำรายการได้ไม่หมด ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าชิ้นใดมีผลมากน้อยและเท่าใด นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำอาจจะช่วยได้ โดยการใช้รูปแบบจำลองการโคจรของดาวดวงนี้ นับพันๆ รูปแบบแล้วใช้กล้องโทรทัศน์เพื่อค้นหามัน แต่นี่มันย่อมใช้เวลานานนับปี หรือนับทศวรรษ ที่สำคัญรัฐบาลจะปกปิดข้อมูลการค้นพบไหม หากเกิดพบมันเข้าจริงๆ!!!


    ที่มา https://ov0ov0.wordpress.com/category/nibiru/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2018
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทาน ริบูนิ ของคุณ Noppตอนจบ

    ad_198530062.jpg

    คิดตั้งนานว่าจะเล่าเรื่องการรบกันบนอวกาศแบบไหนดี ที่จะไม่เป็นการทำให้เกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันแบบที่หาจุดจบไม่เจอ วัตถุประสงค์ที่นำมาเล่านั้นก็เพื่อที่จะให้เราเข้าใจสถานะการณ์ปัจจุบัน และทำให้มีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อกับสิ่งที่นบพ์เชื่อ "นั่นคือความดีงามกำลังจะเกิดขึ้นกับโลกของเราท่ามกลางข่าวร้ายทั้งมวล"

    จากนั้นก็ต้องหาหลักฐานมาประกอบคำบอกเล่าเพื่อให้เห็นคล้อยตาม ทีนี้คนที่เขาไม่เชื่อ เขาก็จะตีรวน เพื่อโต้แย้ง และเขาก็ต้องมีเหตุผลของเขา จากนั้นเราก็จะหลงประเด็นหลงทาง มัวตอบโต้กันไป-มา เสียเวลาอันมีค่าไปเปล่าๆ จึงจะขอเล่าเป็นนิทาน เป็นตอนจบของนิทานเรื่องบิรูนิก็แล้วกันนะ เออ จำเรื่องเก่าไม่ค่อยจะได้แล้ว ช่างมันนะคะ ต่อเลย

    สงครามอวกาศที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2007-2009 นั้น เดอะวันอาจจะประมาทไปนิดหนึ่ง ทำให้เพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ต่อผู้ที่กำลังสยายปีกเป็นผู้ปกครองโลก พวกเขาจึงยิ่งหลงระเริง สร้างโครงการลับไว้ต่อกรกับชาวดาวผู้เป็นบรรพบุรุษ โดยมีชาวดาวกลุ่มตรงกันข้าม ให้การสนับสนุนช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ จนกระทั่งในปีนี้เกิดการปะทะกันใหม่และจบลงด้วยฝ่ายเทพเป็นฝ่ายชนะดังที่เล่าไปแล้ว

    มนุษย์ทั้งหลายหาได้ทราบถึงโครงการ และแผนงานต่างๆที่กลุ่มซาตานนี้ได้กระทำกันอย่างเป็นระบบ มาตั้งแต่ปี 1900 มีการวางระบบการให้ความรู้หรือจริงๆก็คือ การจำกัดความรู้ว่าจะให้รู้เท่าใดผ่านระบบการศึกษา มีการวางระบบการแพทย์ ด้านพลังงาน ด้านการเงินการธนาคาร ฯลฯ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้กลไก ของระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมแบบซ่อนเงื่อนซ่อนปมเอาไว้

    ควบคุมมวลชนด้วยระบบศาสนจักร แก้ไขคำสอนเพื่อให้สอดคล้องกับการปกครองแบบที่เขาต้องการ จากนั้นก็ป้อนกิเลส กระตุ้นต่อมอยาก ให้กับมวลมนุษยชาติ เพื่อให้เรากลายเป็นทาสของระบบทุนนิยมที่นายทุนเท่านั้นคือผู้มีสิทธิ์ รวบรวมนายทุนทั่วโลกให้เข้ามาเป็นสมาชิกอยู่ภายใต้การปกครองของเขาอีกต่อหนึ่ง การปะทะกันนอกโลกนั้น ทางเขามีหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลอยู่

    มีบุคคลากรจำนวนมากที่ทำงานภายใต้หน่วยงานนี้ มีการเซ็นต์สัญญาว่าต้องเก็บข้อมูลเป็นความลับมิฉะนั้นก็จะถูกจำคุก มีเจ้าหน้าที่หลายคนเริ่มขโมยข้อมูลออกมาเปิดเผย หลายคนถูกไล่ล่า หลายคนถูกฆ่าตาย แต่กระนั้น เราก็ยังพอมีข้อมูลที่เอาออกมาให้ได้ดูได้ชมกัน ชนิดที่เขาปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันอยู่ในจอมอนิเตอร์ของเขาเอง ข้อมูลล่าสุดที่นำมาให้ชมนั้น เจ้าหน้าที่ของเขาเองเป็นผู้เปิดเผยว่า "แพ้แล้ว"

    พอเราได้รับข้อมูล เราก็เอามาตรวจเทียบกับแหล่งข่าวอื่นๆหลายๆแหล่ง ที่แม่นยำที่สุดก็ที่เราถ่ายภาพได้เองกับมือนะแหละค่ะ ถ้าเพื่อนสังเกต ก็จะเห็นว่านบพ์จะเอาภาพดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และท้องฟ้ามาลงเรื่อยๆ เพื่อดูความเป็นไปของตรงนี้ เราต่างก็เริ่มประหลาดใจกับสิ่งที่พบเห็น แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าคือ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์และองค์กรนาซ่า กลับ "เงียบเป็นเป่าสาก"

    กล่าวโดยสรุปก็คือ มีการปะทะกันอย่างหนักบนอวกาศ และกลุ่นทุนสามานย์ ซาตาน พ่ายแพ้ ถามว่าแล้วจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? โอมายกอด มันกระทบหมดทั้งโลกทุกหย่อมหญ้าอย่างแน่นอนค่ะ สงครามครั้งใหญ่ของการปกป้องมนุษยชาติ ให้พ้นจากความเป็นทาสได้สิ้นสุดลงแล้ว สงครามนี้พวกเราไม่ได้ต้องออกไปรบ มีบรรพบุรุษชาวดาวนำโดยกลุ่มเพลียะเดี้ยน ดาวลูกไก่ มาทำหน้าที่นี้ให้ทั้งหมด และได้รับความร่วมมือจากสมาพันธ์แห่งดวงดาว อันประกอบไปด้วยชาวดาวกลุ่มอื่นๆเข้าช่วยอีกหลายกลุ่ม

    เป็นการวางแผนงานกันมานานแสนนาน หลายสิบปีกว่าจะมีวันนี้ จากนี้ไปชาวดาวจะเป็นผู้สั่งการทั้งหมด อันดับแรกนี้น่าจะไปขนเอาทองคำแท่งที่พวกกลุ่มทุนสามานย์ ขนขึ้นไปเก็บไว้ที่ดาวอังคารจำนวนมหาศาลมายังโลก เพื่อเอามาใช้ในการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจโลก ภายใต้กฏหมายชื่อ เนเซอร่า ทำให้อดนึกถึง"ทองคำของพระเจ้าจักรพรรดิ" น่าจะเป็นตรงนี้กระมัง จะมีการปลดอาวุธทุกชนิดอย่างแน่นอน ชาวดาวได้เข้ามาแฝงตัวทำงาน อยู่ในทุกหน่วยงานที่สำคัญบนโลกตั้งนานมาแล้ว

    เอาเป็นว่าจากนี้ไปก็คอยดูไปก็แล้วกัน ยังไม่สามารถชี้ชัดในตอนนี้ว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นก่อนและหลังอย่างไร ทีนี้เราค่อยโยงมาถึงงานของเรา นั่นก็คือการนำพาเราไปสู่ความพ้นทุกข์ให้สำเร็จ จากนั้นก็พาเพื่อนๆเดินทางไปด้วยกัน ตรงนี้ชาวดาวก็ได้ใช้วิธีปรับแต่งพลังงานโลก เพื่อให้งานนี้สำเร็จสัมฤทธิผล จากนั้นเราก็จะเข้าสู่การเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ดวงดาวต่อไป (ตอนนี้เขายังไม่รับ เพราะเรายังไม่สะอาด ไม่สว่าง ไม่สงบ สอบไม่ผ่านค่ะ)


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/txn-cb
     
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    นั่นนะซิค่ะ เพราะอะไร?
     
  8. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    แม่ชีจิตยิ้มมีอะไรมาเพิ่มเติมไหมครับเห็นหลายๆที่กำลังเกิดละครับต่างประเทศ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    สารคดี องค์กรลับ "อิลลูมินาติ" องค์กรลับควบคุมโลก


    เผยแพร่เมื่อ 18 พ.ย. 2016
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2018
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    Illuminati แปลตรงตัวตามดิกชันนารี่ หมายถึง ผู้ที่มีสติปัญญาอันล้ำเลิศ
    อิลลูมินาติ เป็นกลุ่มนักวิทยาศาตร์ตั้งขึ้นมาอย่างลับๆเนื่องจาก พวกตนได้ถูกกลุ่มคริสตจักร ไล่ฆ่า เพราะถูกกล่าวหา
    ว่าเป็นลัทธิของซาตาน เนื่องจากเหล่านักวิทยาศาสตร์เกิดความขัดแย้งขึ้นกับคริสตจักร ในเรื่องการ กำเนิดโลก และ
    ในอีกหลายๆเรื่อง ประเด็นหลักก็คือ คริสตจักรเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสิ่ง แต่นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่าสสารไม่มีวัน
    เกิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า (จึงได้เกิดทฤษฎี บิกแบง ที่เป็นทฤษฎีการกำเนิดโลกที่ได้รับการเชื่อถือมากที่สุด ในทาง
    วิทยาศาสตร์

    เนื่องจากในอดีต คริสตจักร เป็นกลุ่มที่มีอำนาจมาก ทำให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ไม่อาจต่อกรได้จึงต้องคอยหลบหนี
    หรือแอบซ่อนไม่เปิดเผยตัว จึงได้ตั้งกลุ่มขึ้นมาโดยใช้ชื่อ illuminati และหาที่รวมกลุ่มเพื่อ ใช้สนทนาเรื่องวิทยาศาตร์กัน
    หรือแลกเปลี่ยนแนวความคิด สมาชิกกลุ่ม อิลลูมินาติ เช่น กาลิเลโอ
    สรุปได้ว่า กลุ่มอิลลูมินาติ ต้องการที่จะล้มล้างคริสตจักรนั้นเอง โดยการหาทฤษฎี ต่างๆมาหักล้างเรื่องพระเจ้า
    เพื่อที่จะเปลี่ยนแกนอำนาจความเชื่อของคนในยุคนั้นจากทางด้านศาสนามาเป็น ด้านวิทยาศาตร์นั้นเอง

    เครื่องหมายอิลูมินาติ

    อย่างแรก คือ “Numerology” เป็นศาสตร์ทางตัวเลขซึ่งเป็นองค์ความรู้เก่าแก่จากคัมภีร์ของ พวกฮิบรู หรือ ยิว
    เป็นการ Code ตัวหนังสือให้เป็นตัวเลข คือการเอาตัวหนังสือซ่อนไว้ในตัวเลขนั่นเอง

    ชาวฮีบรูยังนำตัวเลขไปเชื่อมโยงกับ พลังจักรวาล พวกเขามิได้แยกระบบตัวอักษรกับตัวเลขออกจากกัน แต่ตัวอักษร
    นั้นมีพื้นฐานมาจากตัวเลข ระบบตัวอักษรถูกวางเรียงไว้อย่างเป็นระบบ และถูกกำหนดรูปแบบที่บอกถึงระดับที่ต่อเนื่อง
    กันไปตามกระบวนการการพัฒนาของ จักรวาล ชื่อภาษากรีกและฮีบรูในพระคัมภีร์มีนัยสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์
    ที่ใกล้ชิดระหว่างความหมายตามตัวอักษรและตัวเลข

    ในภาษากรีกดั้งเดิม คำว่า “Jesus” หมายถึง “Iesous” (ไม่มีตัวอักษร “J” ในตัวอักษรกรีก) ชื่อดังกล่าวมีค่าเท่ากับตัว
    เลข 888 ซึ่งหมายถึง “ จิตใจที่สูงกว่า ” หรือ “ จิตใจศักดิ์สิทธิ์ ” ตามความเชื่อลึกลับของกรีก

    “จิตใจที่เกี่ยวข้องกับความตาย” ในภาษากรีกคือหมายเลข 666 ( ตามที่กล่าวไว้ในคัมภีร์เล่มสุดท้ายในพันธสัญญา
    ใหม่ ว่าหมายถึง “สัตว์ร้าย” )

    ปี 1782 อเมริกาออกแบบตราแผ่นดินใหม่โดยด้านหลังของตราแผ่นดินเป็น ภาพพีระมิดสร้างไม่เสร็จ มีดวงตาอยู่บนยอด
    ล้อมรอบด้วยภาษาละติน “Novus Ordo Seclorum” (New Order Of The Ages) ซึ่งหลายคนเชื่อว่า เป็นสัญลักษณ์
    ของสมาคมอิลลูมิเนติ ดวงตานั้นหมายถึงสมาชิกอิลลูมิเนติกำลังจับตามอง (โลก) และ “Novus Ordo Seclorum” คือ
    New World Order หรือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการ(ปก)ครองโลก และต่อมาในปี1935 ภาพตราแผ่นดินนี้ถูกนำมาตีพิมพ์
    ลงบนด้านหลังของธนบัตร 1 ดอลลาร์


    ข้อความนี้น่าสนใจ....พิจารณาให้ดี ๆ ค่ะ

    ภาพธนบัตร 1 ดอลล่าร์ของอเมริกา จะเห็นว่ามีการเขียนภาษาลาติน ที่หมายถึง ระเบียบโลกใหม่
    - มีรหัส 666 ที่ หมายถึง เครื่องมือหรือสัญญลักษณ์ของสัตว์ร้าย
    - ดวงตาของซาตานและอื่นๆมากมายไม่ต่างกับยันต์ทางไสยศาสตร์ดำเลย

    ปัจจุบัน สโลแกนของการปฏิวัติสำหรับ กลุ่มอิลลูมิเนติ ในภาษาลาติน คือ"NOVUS ORDO SECLORIUM"
    อันซึ่งหมายถึง "A NEW ORDER FOR THE AGES" การจัดระเบียบสำหรับยุคใหม่ ซึ่งมาจาก ความรู้ทาง
    โหราศาสตร์

    https://pantip.com/topic/32350082
     
  11. okใช่เลย

    okใช่เลย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2015
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +44
    สารคดี องค์กรลับ "อิลลูมินาติ" องค์กรลับควบคุมโลก

    ผมว่ามันเป็นนิทาน นิทานแน่นอน เรื่อง อิลลูมินาติ อ่ะนะ
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    นี้คือแสดงให้เห็นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังช่วยเหลือมนุษยชาติไปทั่วโลก กำลังให้รู้ถึงภัยอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โลกเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยดูแล "สัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรม" แต่ ณ ปัจจุบันนี้โลกเรายังมีความเหมาะสมเพราะยังมีพลังของพุทธานุภาพอยู่ยังไม่สิ้นยุคพุทธกัป ยังไม่ถึงกาลถูกทำลาย เปรียบเสมือนคนดีย่อมถูกความดีย่อมคุ้มครอง จะมีเทวดาและสิ่งศักดิ์คอยช่วยเหลือ โลก ณ เวลานี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเมื่อคนไม่ดีส่วนหนึ่งกำลังจะทำให้คนดีเดือดร้อน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มิอาจนิ่งดูดายได้โดยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

    หากดูรูปสัญญลักษณ์ของกลุ่มอิมมูลิติแล้ว สัญลักษณ์สามเหลี่ยมมีตาอยู่ข้างในตั้งอยู่เหนือโลก ให้บ่งบอกว่า รูปสามเหลี่ยมเป็นศาสตร์พลังจักรวาล ว่า "ฟ้ามีตา" กำลังจับตามองดูโลกอยู่

    ถ้ามนุษย์ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสดา พากันเดินสวนทางสัจธรรม เท่ากับมนุษย์กำลังฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของจักรวาล คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน การไม่ทำร้ายกัน การไม่เบียดเบียนกัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ล้วนมีอยู่จริง ไม่มีวันปล่อยให้ความหายนะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้ามนุษย์โลกสร้างความสมดุล รักษาความเป็นหนึ่งเดียวของระบบไม่ได้อีกต่อไป จักรวาลจะเข้ามาจัดกาชำระระบบสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างใหม่ เพื่อรักษาความสมดุลของระบบเอาไว้ ซึ่งในอดีตมันได้เกิดขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว เมื่อคราวยุคแอตแลนติคล่มสลายพร้อมกับจิตวิญญาณของผู้สร้างลัทธิใหม่ที่ไร้สำนึกอีกนับล้าน ที่ถูกกลบฝังไว้พร้อมกับขยะเทคโนโลยีที่ชั่วร้าย อันเกิดจากภูมิปัญญาที่ไร้จิตสำนึก พากันท้าทายสัจธรรมอย่างรุนแรง ด้วยการสร้าวความเจริญทางวัตถุให้คนติดลุ่มหลงติดยึด พากันสร้างศาสตร์ใหม่ ๆ สวนทางกับหลักธรรมศาสนา นำพามนุษย์ให้ตกหลุมสู่กองกิเลสตกเป็นทาสและอยู่ใต้อำนาจมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ศีลธรรมเสื่อมลงจนหลายคนไม่เชื่อเรื่องพระศาสดา ไม่ใฝหาหลักธรรม ไม่เข้าใจสัจธรรม กลับนำเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เข้ามาเป็นแก่นแท้ของชีวิต โดยยอมตามอย่างว่าง่ายแพร่หลายไปทั่วโลก สั่งสมตัณหาจนสำนึกในความเป็นมนุษย์ดิ่งลงสู่สัตว์เดรัจฉานเข้าทุกที

    สภาพความเป็นมนุษย์ย่ำแย่ลงทุกวัน นับวันก็ยิ่งจะทำให้คำพยากรณ์ใกบ้เคียงกับความจริงมากทุกที ที่ทั่วโลกต้องเกิดกลียุค จนจักรวาลต้องเข้ามาปรับความสมดุลของระบบโลกใหม่ก่อนความเลวร้ายของเขาจะทำให้โลกหายนะ

    มนุษย์พึงรู้ว่า ซาตานตัวจริงจะยึดถือเลข 13 เป็นอำนาจของตนเพื่อพยายามให้มีอำนาจเหนือเลข12 อันเป็นพลังอำนาจสูงสุดของจักรวาลเสมอ มนุษย์ปัจจุบันจำนวนหนึ่งถูกโปรแกรมความคิดความเข้าใจว่า " รหัส666 " เป็นเลขชั่วร้าย เป็นอำนาจด้านลบที่เป็นภัยต่อโลกปละมนุษย์ที่ซาตานจะถือเป็นรหัสลับในการทำลายล้างมิใช่การสร้างสรรค์ ผู้ใดกล่าวถึงรหัสนี้ในทางตรงข้ามกับความคิดที่ตนยึดถือผู้นั้นคือซาตานทันที "ซาตาน" มันหมายถึงผู้ที่มีพลังอำนาจด้านลบและชั่วร้าย หน้าที่หลักของมันคือ การใช้พลังงานด้านลบทำลายล้างพลังงานด้านบวกด้วยวิธีก้าวร้าว ไม่รู้จักและรังเกียจพลังงานรักบริสุทธิ์ กระทำตนเป็นปรปักษ์ต่อพระศาสดาผู้เผยแพร่พระศาสนา อันเป็นคุณต่อมนุษย์ สร้างความแตกแยกในหมู่มนุษยชาติ ด้วยการกระทำก้าวร้าวต่อกัน เพื่อผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของตนเองเสมอ ชักจูงและบงการจิตวิญญาณผู้อื่นด้วยอำนาจด้านลบให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของตน ไม่เชื่อเรื่องศักดิ์สิทธิ์ ไม่ยอมรับสัจธรรมใด ๆ มัวเมาลุ่มหลงอำนาจของตนด้วยการแสงหาความมีอำนาจเหนือผู้อื่น พอมองภาพออกไหมค่ะกับสิ่งที่โลกกำลังเป็นไปอยู่นี้

    การชำระโลกที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ จิตวิญญาณของพวกซาตานตัวจริงล้วนรู้ล่วงหน้าถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้มาก่อนแล้ว และเข้าใจรหัส 666 ที่ว่านี้อย่างถ่องแท้ แต่พวกเขาไม่เชื่อว่าจักรวาลจะมีพลังอำนาจเหนือกว่าตนได้

    ความหมายของรหัส 666 เป็นรหัสลับจากจักรวาลที่มีต่อมนุษย์ซึ่งมีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง เป็นพลังงานด้านบวกที่เป็นคลื่นความถี่แม่เหล็กเข้มข้น ถูกส่งเข้ามาในระบบโลก เพื่อเปลี่ยนโลกยกพลังงานโลกให้สมดุลขึ้น จากที่โลกเสียสมดุลพลังงานหมุนรอบตัวช้าจนเสียการทรงตัวโดยให้หมุนรอบทิศทั้งแปดให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และหน่วยชั่วโมงที่หมุนรอบตนเองต้องมีค่าหมุนครบรอบ คือ 24 ชม.เสมอ และแรงกระทำค่าโน้มถ่วงของโลกต้องมีค่าคงที่เสมอ แต่ปัจจุบันโลกเราไม่ได้เป็นเช่นนี้เพราะค่าพลังงานลดลงเพราะระบบเสียสมดุลไปมาก

    พวกเขารู้ดีว่า คำสื่อของจักรวาลด้วยรหัสนี้ คือคำพิพากษาสุดท้ายที่มีมาต่อพวกตนด้วย เพราะอีกไม่นานพลังอำนาจด้านลบของพวกตนจะถูกชำระและทำลายด้วยพลังงานด้านบวกที่เข้มข้นกว่าทั้งนอกระบบโลกและในระบบโลก จนไม่อาจแสดงอำนาจเหนือจิตวิญญาณบริสุทธิ์และไร้เดียงสาทั้งหลายได้อีกต่อไปแล้ว มันคือความพ่ายแพ้ต่อแสงสว่างอันเป็นพลังแห่งธรรมะโดยแท้ ไม่มีใครมีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติได้ ผู้ได้รับโทษสถานหนักคือ ผู้สร้าง รองลงมา คือผู้สนับสนุนทั้งหลายที่ไร้จิตสำนึก ซึ่งความมีอหังการ์ในความมีอำนาจเหนือโดยอาศัยสติปัญญาและผลผลิตร้ายแรงทำลายล้างกันเอง และผู้ที่ยอมตกเป็นทาสวิญญาณของพวกเขาเหล่านั้น จนต้องละเลยหน้าที่ของตนตกอยู่ภายใต้อำนาจใต้การบงการเหมือนสิ้นพลังอำนาจในตนเองเพราะขาดสติ จนยากไถ่ถอน

    นำข้อมูลจากสิ่งศักดิ์ จากหนังสือของ อ. ปริญญาค่ะ ว่าใช่ตามที่กล่าวไว้ไหม กับความเป็นไปของโลกในยุคปัจจุบันกับ เพื่อจะตัดสินใจว่าควรเชื่อหรือไม่เชื่อ กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
     
  13. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    ขอบคุณมากครับที่มาอัพเดทไห้
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ธรรมะจากต่างดาว และภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

    เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2017

    ธรรมะจากต่างดาว "เป็นเรื่อง!" รายการทอล์กแนวเจาะลึก ตอนที่ 19 วันพุธที่ 27 ก.ย. 60 นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว "มนุษย์ต่างดาว" ก็ค้นพบธรรมะคือกฎธรรมชาติ "กฎจักรวาล" เช่นกัน และพวกเขานำมาถ่ายทอดต่อให้ชาวโลก
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตอนนี้สหรัฐหรือกลุ่มอิลูมินาติยังไม่ยอมจำนน และได้หาวิธีเอาชนะชาวดาวหลากหลายรูปแบบ

    1431940542-maxresdefa-o.jpg

    บทความบทที่ 5 ของ Nopp Rattachat

    ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานขนานใหญ่ของระบบสุริยะจักรวาล ในภาคพื้นดินก็เต็มไปด้วยการห้ำหั่นกัน โซนนี้คือจุดยุทธศาสตร์ โลกถูกแบ่งออกเป็นสองพวก ตะวันตกกับตะวันออก วัตถุนิยมกับจิตนิยม

    วัตถุนิยมพยายามแทรกซึมเข้ามาทางตะวันออก และเกือบยึดไปได้ จักรวาลพิจารณาแล้วว่า หากปล่อยให้ยึดไปหมด โลกก็จะต้องถึงกาลอวสานอย่างแน่นอน เพราะมันพิสูจน์ตัวมันเองแล้วว่า การสนองกิเลสตัณหานั้น มันไม่มีคำว่าพอ ท้ายที่สุดมนุษย์ก็จะกินกันเอง จักรวาลจึงต้องยื่นมือเข้ามาแทรกแซง จิตนิยมไม่มีทางสู้ ชาวดาวจึงต้องเข้ามาช่วย

    ดังนั้น จึงเป็นสงครามโลกระหว่างชาวดาวกับกลุ่มวัตถุนิยม จริงๆ แล้วกระบวนการชำระโลกนี้ ได้มีการจัดทำอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน ค่อยเป็นค่อยไป แต่ตอนนี้สหรัฐหรือกลุ่มอิลูมินาติยังไม่ยอมจำนน และได้หาวิธีเอาชนะชาวดาวหลากหลายรูปแบบ ก็ต้องมาลุ้นกันว่า ความเสียหายจะเกิดมากน้อยเพียงใดและที่ใดบ้าง หากเราต้องการช่วย เราจำเป็นต้องรักษาระดับพลังงานของเราให้เป็นไปในทางบวกตลอดเวลา มีสติ อย่าเผลอเข้าทางมารที่จ้องจะทำให้จิตเราตกตลอดเวลาเช่นกัน

    พลังงานมวลรวมของคนในชาติ เป็นตัวกำหนดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับชาตินั้นๆ ในวันที่เห็นภาพการเกิดภัยพิบัตินั้นเป็นการเห็นล่วงหน้า แต่จากวันที่เห็น กับวันที่ทำนายว่าจะเกิดนั้น มีช่วงระยะห่างของเวลา ในช่วงห่างของเวลา ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงในด้านพลังงานอยู่แล้ว หากดีขึ้นก็สามารถเปลี่ยนผลของการทำนายได้ ดังนั้น เมื่อเราทราบตัววัดว่า "ส่งซิกแนลในทางลบ" เราก็ต้องรีบแก้ไขในด้านพลังงานนั้น

    ทางจักรวาลได้ร่วมมือกันกับท่านท้าวสักกะ (พระอินทร์) ผู้ดูแลรับผิดชอบแผ่นดินสุวรรณภูมินี้ ร่วมกันกับท่านท้าวจตุโลกบาล มอบหมายให้มนุษย์ในนามปู่อินทร์ตาทิพย์ ชายชราวัย 116 ปี อยู่ที่ปักธงชัย เป็นผู้จัดสร้างแกนโลกจำลอง เพื่อแก้ไขเรื่องพลังงานที่ไม่สมดุลและการเอียงของแกนโลก โดยใช้แท่งเหล็กไหลที่มีน้ำหนักรวมกันทั้งสิ้น 4,000 กิโลกรัม มาจัดวางเพื่อถ่วงดุล และทำการดูดจับประจุลบ พลังงานส่วนเกินจากเซิร์น พลังงานดำทั้งหลายลงสู่ใต้พิภพ แล้วให้กระจายพลังงานใหม่ ออกมาในรูปแบบของแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดแทน งานนี้เห็นทีนาซ่าต้องมาขอความรู้เสียแล้วกระมัง

    ในกรณีของประเทศไทย ก็พอจะมองเห็นอยู่ว่าถ้ากำลังใจของคนไทยดีขึ้น และการเผชิญหน้ากันเพื่อห้ำหั่นกันนั้น ได้ยุติลงไปแล้ว แต่กลับมีการลักลอบทำลายชาติทางนอกประเทศ ด้วยความร่วมมือกับชาติตะวันตก จักรวาลจึงได้รีบเข้ามาแก้ไขสถานะการณ์ และจัดให้คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับพวกอิลูมิเนติ โดยได้มอบหมายให้ทีมงานพิเศษเข้ามาจัดการและแก้ไขไปที่ตัวตั้งต้นของปัญหาทั้งปวง การปฏิบัติการกวาดล้างจึงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เราคนไทยจะต้องมีความเชื่อมั่นในพลังแห่งความดีงามต่อไป และจะต้องรักษากาย วาจา ใจ ให้สงบระงับให้จงได้ เพื่อที่จะเอาพลังบวกเหล่านี้ ส่งให้กับเบื้องบนให้กระจายกันเต็มท้องฟ้า

    ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญสติ เจริญภาวนา ส่งบุญกุศลไปให้ทั่วจักรวาล เราจะต้องช่วยกันทำต่อไป ก็คือการสร้างบรรยากาศที่ดีให้เกิดขึ้นให้ได้ เราต้องมีความเชื่อมั่นว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา มีอะไรๆมากมายที่ทำให้เราหมดศรัทธา และหมดสิ้นพลังที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องดีงาม เราท้อไม่ได้และเราก็ถอยไมได้ ให้เราใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งหมด ทุ่มเทไปกับการฝึกฝนพัฒนาจิตใจอย่างต่อเนื่อง จงอย่าได้ละเลยการกำหนดรู้ ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม

    เมื่อเราเริ่มต้นตั้งหลักได้เมื่อไหร่ สิ่งดีๆก็จะบังเกิดขึ้นกับตัวเราทันที จงอย่าผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไปเลย ทำทันที ตัวช่วยมารออยู่เต็มไปหมดแล้ว พิสูจน์ได้ด้วยตัวเราเองเท่านั้นที่สำคัญคือ เรามาร่วมมือร่วมใจกันสร้างคลื่นของความสอดคล้อง ให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยนี้ให้จงได้ เมื่อผืนแผ่นดินนี้ เกิดความสอดคล้องเป็นปึกแผ่นขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ความมั่นคงของผืนแผ่นดิน และพลังงานที่ล้อมรอบ ก็จะเป็นไปในทางที่ดีเช่นกัน และเราก็จะสามารถดำรงอยู่ได้รอดปลอดภัยจากภัยมารและภัยพิบัติทั้งปวงก็มิอาจกล้ำกลายได้ นี่คือความเชื่อของเรา ซึ่งเป็นความเชื่อที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาแต่ครั้งโบราณกาล

    และบัดนี้เราก็ได้พิสูจน์ให้ท่านทั้งหลายได้รู้ได้เห็นได้เข้าใจ ในคำบอกดังกล่าวว่า มันเป็นวิทยาศาสตร์นะ ผ่านข้อความ บทความ ภาพถ่าย วิดิทัศน์มากมายในช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมา เป็นเรื่องของคลื่น เป็นเรื่องของสสาร เป็นเรื่องของพลังงาน ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตามสภาวะแวดล้อมโดยมีมนุษย์เป็นผู้กำกับ ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด จิตมนุษย์สามารถเรียกความช่วยเหลือจากต่างดาว ผู้มีวิทยาการสูงกว่าให้เข้ามาช่วยเหลือโลกได้

    เราเป็นชาวพุทธ คำสอนของพระพุทธเจ้าสามารถช่วยเราได้ดีที่สุดในสถานะการณ์เช่นนี้ในตอนนี้ ดังนั้นขอให้เราเชื่อมั่นว่าเราคือผู้โชคดี เราคือผู้ที่ถูกเลือกให้มาช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกันทั่วโลก ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องศึกษาและปฏิบัติตน ให้ได้ตามคำสอนของพระพุทธองค์ และจะต้องเข้าสู่กระบวนการเจริญสติจนเป็นนิสัย เป็นสิ่งที่ต้องระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยตนเองและช่วยครอบครัวให้อยู่รอดปลอดภัย ขยายการปฏิบัติออกไปสู่เพื่อนฝูงญาติมิตรเพื่อนบ้านชุมชนและประเทศชาติ

    มันไม่ยากหรอก แค่เริ่มต้นกันเสียที จากหนึ่งเป็นสอง เพิ่มจำนวนไป สิ่งๆดีก็จะเข้ามาแทนที่ ความชั่วร้ายก็จะหมดไปจากผืนแผ่นดิน จำไว้ ต้องเริ่มที่เราก่อนเสมอค่ะ


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/bthkhwam/bthkhwam-bth-thi-5
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    http://palungjit.org/forums/#palungjit-org-official.212
    จากการะทู้ดังกล่าว....

    นักดาราศาสตร์เร่งหาข้อพิสูจน์ ดวงจันทร์มีผลต่อการเกิดแผ่นดินไหวบนโลกจริงหรือไม่ ?

    ความเห็นของนักดาราศาสตร์บางคน “แรงน้ำขึ้นลงจากการเรียงตัวของดาวอาจมีส่วนเสริมในกระบวนการเกิดแผ่นดินไหวจริง แต่ก็น้อยมาก น้อยเกินกว่าจะเอามาใช้ในการพยากรณ์” ฮัฟอธิบาย “ดังนั้นการที่แผ่นดินไหวในอดีตบางครั้งเกิดขึ้นตรงกับช่วงจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความบังเอิญ” จริงหรือ!

    “ความเชื่อที่ฝังลึกในหัวของผู้คนก็คงไม่อาจลบเลือนไปได้ง่าย ๆ ในอนาคต หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงจันทร์เพ็ญขึ้นมาอีก ก็คงมีคนออกมาพูดอีก ว่านี่ไง นี่ไง บอกแล้วว่าเกี่ยวกัน” ฮัฟกล่าวทิ้งท้าย เขาเห็นว่าอย่างนั้น

    ทีนี้มาดูข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหว ที่ตนเองนำมาให้พิจารณาจากกระทู้ดังกล่าว บางคนอาจไม่เชื่อเลยคิดว่าเป็นแค่โหราศาสตร์คำพยากรณ์ จากข้อมูลที่สถิติที่เกิดขึ้นของภัยพิบัติแผ่นดินไหวล้วนแล้วมาจาก "คลาส" คือ กรณีพระอาทิตย์ พระจันทร์ โลก เรียงตัวกันเป็นเส้นตรง ทำไม!ถึงต้องนำข้อมูลนี้มา ก็เพื่อให้ทราบก่อนว่า ข้อมูลสถิติที่เกิดธรณีพิโรธ ตามที่ได้เก็บสถิตไว้การเกิดภัยแผ่นดินไหวรุนแรงช่วงระยะหลังที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็ล้วนมาจากการเกิด"คลาส" นั้นด้วย ทำไม! เราต้องให้ความสำคัญเพราะ ก็เพื่อจะย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับโลก เช่นภัยต่าง ๆ แล้วล้วนเป็นจริงไม่ใช่สิ่งที่ล้อเล่นอีกต่อไป และ เป็นไปได้ตามข้อมูลที่เราได้รับมาว่าใช่แน่!!! จากข้อมูลสถิติกรณีเกิดภัยพิบัติกรณีที่"คลาส"พาดผ่าน ไมว่าจะเป็นวงแหวนไฟสุมาตรา ทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่พม่า 6.9 ริกเตอร์ และ ญี่ปุ่น 7.0 ริกเตอร์ และแผ่นดินที่เนปาล 7.8 ริกเตอร์ เสียชีวิต 8,000 คน แผ่นดินไหว 6.6 ริกเตอร์ ที่อิหร่าน เสียชีวิต 40,000 คน ก็ล้วนมีผลจากการเกิด"คลาส" หรือ การเกิดคลาสรุนแรงที่สุดในรอบร้อยกว่าปีที่พาดผ่านอเมริกามีผลให้ประเทศอเมริการและแม๊กซิโก ได้รับภัยพิบัติรุนแรง ข้อมูลเหล่านี้แม้จะเป็นคำพยากรณ์แต่ผลที่ผ่านมาในอดีตทำให้เรารู้ว่า ภัยทั้งหลายที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็นจริงดั่งที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกไว้ค่ะ

    วิชาโหราศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่การคาดคะเน การคาดเดา หรือนึกเอาของผู้ใช้ศาสตร์สูงส่งนี้แต่อย่างใด ความถูกต้อง ความชัดเจน หรือเลือนรางใด ๆ ขึ้นกับว่า ผู้ใช้ศาสตร์นี้กำลังยึดถือ ของแท้ หรือ ขยะ และขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และพิจารณาของผู้ใช้ศาสตร์ดังกล่าวด้วย ขณะที่ศาสตร์นี้เป็นศาสตร์ที่จริงแท้ แต่ความผิดพลาดคลาดเคลื่อนใด ๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถและคุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้ใช้ศาสตร์นี้ต่างหาก ผู้ใช้ศาสตร์นี้หากใช้เลขฐาน 12 ไม่ใช่ฐาน 10 แล้ว ความชัดเจนจะคมชัดขึ้น แม่นยำขึ้น และเชื่อว่าหลังจากการปรับเปลี่ยนความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเข้าสู่สภาวะสมดุลครั้งใหม่ มนุษย์หลายรายต้องสังเวยชีวิตไปกับภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิดทุกครั้งไป ขณะที่บางแห่งอิทธิพลของดวงจันทร์จะดึงดูดแผ่นดินใหม่ให้เกิดขึ้นมาบนแผนที่โลก ทิศเหนือตามแผนที่โลกจะไม่ชี้ไปทางขั้วโลกเหนืออีกต่อไป เพราะแนวสนามแม่เหล็กเบี่ยงเบน และแน่นอนว่าทิศต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไปจากเดิม เท่าที่จำนวนองศาที่แกนแม่เหล็กโลกเบี่ยงเบนไปเช่นกัน อีกไม่นาน ปรากฎการณ์อันน่าท้าทายสำหรับมนุษย์ จะได้รับการพิสูจน์หนึ่งใน "ความรู้ใหม่" โดยเฉพาะเรื่องนี้กันแล้ว : แหล่งข้อมูลเดิมค่ะ

    ไม่ใช่ให้เชื่อหรืองมงาย!! แต่ให้พิจารณาข้อมูลที่ผ่านมากับสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเหตุเป็นผลหรือไม่นะค่ะ โลกของเราประกอบด้วยชั้นเปลือกโลกตอนบนที่เป็นที่เป็นเปลือกทวีป (แผ่นดิน) และโลกตอนล่างที่เป็นเปลือกมหาสุทร(ท้องมหาสมุทร ) ลึกลงไปอีกชั้น เป็นแมนเทิลอยู่ถัดไปจากเปลือกโลก ประกอบด้วยหินเหลวหนืด (แมกม่า ) อุณหภูมิ 400 ถึง 4,300 องศา หินหนืดหรือ Magma คือสารเหลวร้อนซึ่งเกิดตามธรรมชาติ เมื่อพุ่งมาสู่โลกเรียกว่า ลาวา ลึกลงไปอีกชั้นเป็นแก่นโลกอยู่ในกลางโลก มีแท่งโลหะหนักมีของเหลวร้อนเคลื่อนไหลอยู่บริเวณรอบ ๆอุณภูมิ 4,300 ถึง 6,200 องศา เปลือกโลกมิได้เป็นแผ่นเดียวกันต่อเนื่องเหมือนดั่งเปลือกไข่ แต่หากเหมือนไข่แตกร้าวมีหลายแผ่นชิดตัวเรียงกันเรียกว่า"แพลต" ประกอบด้วยเปลือทวีปและเปลือกมหาสมุทรวางตัวอยู่ชั้นแมนเทิล(Mantle) ซึ่งลอยตัวอยู่บนบั้นหินหนืดเป็นลักษณะเนื้ออ่อนเคลื่อนที่หมุนเวียนด้วยการพาความร้อนภายในโลกคล้ายการเคลื่อนตัวของการน้ำเดือดในกาต้ม การเคลื่อนตัวนี้ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของเพลต อันนำมาซึ่งกาาเกิดแผ่นดินไหว นั่นเอง ลองพิจารณาดูค่ะ หากความพลังงานที่รับมาจากนอกระบบโลกเข้ามาสู่โลกโดยพลังงานนี้ต้องไปทำปฏิกริยากับแก่นใจกลางโลกที่มีผลกับแนวแกนแม่เหล็กโลก เมื่อคลื่นพลังงานความถี่สูงถูกส่งเข้ามายังกายภาพโลก ส่วนที่เหลือจากการสร้างพายุแม่เหล็กใต้ธรณี ทำให้ของไหลและโลหะแข็งใต้พื้นโลกคายพลังงานออกมาจำนวนมากจนสามารถเคลื่อนย้ายตนเองด้วยพลังงานมหาศาลนั้น ปรากฎการณ์ธรณีพิโรธจึงตามมานั้นเอง

    ขอย้ำนะคะข้อมูลความรู้ที่สำคัญใด ๆ ล้วนแล้วเป็นคำสื่อสาส์นจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จักรวาลเหนือโลก ที่นำมาจากหนังสือ อ.ปริญญา ตันสกุล ส่วนตนเองเป็นแค่ผู้หาข้อมูลมาประกอบให้เพื่อพิจารณาแค่นั้นเองค่ะ
     
  17. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    คงต้องรออัพเดทจากแม่ชีจิตยิ้มครับ
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ขึ้นอยู่กับค่าพลังงานของโลก และระดับพลังงานโลก ณ ขณะนั้นค่ะ แต่จะเป็นวันวิกฤตสุดท้ายตามสื่อสาสน์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่! ไม่ทราบเลยค่ะ

    แต่...ปรากฏการณ์ของ"คลาส" ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งของปีใดปีหนึ่งนับต่อจากนี้ไป จะมีผลสำคัญต่อภัยพิบัติธรรมชาติที่รุนแรงครั้งสำคัญของโลกหรือไม่อย่างไรนั้น นี้เป็นข้อมูลเตือนภัยให้ระวัง จากสิ่งศักดิ์ที่แจ้งไว้ตั้งแต่เริ่มปรับระดับพลังงานแล้วค่ะ.. เพราะอะไร?....

    การเกิดสุริยคลาสและจันทรคลาส มีผลเกี่ยวกับโลกมาก!!!ทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มีความสำคัญแก่โลกโลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ในการก่อกำเนิดชีวิต และ ดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อการรักษาสมดุลย์ความเร็วและเสถียรภาพในการหมุนรอบตัวเองของโลก ไม่ให้เร็ว/ช้าเกินไปช่วยรักษาองศาของแกนโลกให้หมุนทำมุมเอียงสม่ำเสมอ ก่อให้เกิดฤดูกาลและการหมุนเวียนอากาศ
    อิทธิพลจากแรงดึงดูดทั้งจากดวงจันทร์และจากดวงอาทิตย์เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยขับดันให้หินหลอมเหลวภายในโลกยังเคลื่อนไหว ☆สิ่งนี้ค่ะสำคัญ☆ เมื่อหินหลอมเหลวภายในโลกยังเคลื่อนไหว และเกิดเป็นพลังงานแม่เหล็กโลก ช่วยปกป้องโลกจากอันตรายของรังสีคอสมิค และสัตว์ต่างๆที่ต้องพึ่งพากระแสแรงแม่เหล็กโลกก็ยังดำรงวิถีชีวิตได้

    นี้เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไม"คลาส" จึงเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย้ำหนักหนาว่า วันสำคัญสุดที่จะมีการเปลี่ยนแปลงโลกวันเวลาก่อนถึงวันวิกฤติ คือวันที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกอยู่ในแนวเดียวกัน จะทำให้โลกได้รับพลังงานได้อย่างเต็มที่มากที่สุด เพราะเป็นตำแหน่งพิกัดโลกกับดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์เล็งทำมุมกันเป็นเส้นตรง การส่งคลื่นพลังงานเข้ามายังระบบโลกตรงบริเวณพื้นที่ซึ่งได้กำหนดไว้ เป็นพลังงานคลื่นความถี่สูงในปริมาณที่เข้มข้นกว่าช่วงระยะที่ผ่านมา ด้วยคลื่นความถี่สูงพร้อมไอเย็นมายังดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะ เพื่อให้สร้างปฏิกิริยาให้เกิดระเบิดขึ้นบนพื้นผิวระบบสุริยะแผ่กระจายออกมาจากจุดดับก่อให้เกิดคลื่นแม่เหล็กที่เข้มข้นอย่างมากด้วยอัตราความเร็วสูงสุดในพื้นที่เป้าหมาย

    แต่ในวันที่ 31 นี้จะมีปรากฎการณ์ใดเกิดขึ้นหรือไม่ หากเราได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ "คลาส" ที่ผ่านมา ระยะเวลาการเกิดภัยพิบัติบางครั้งก็ไม่ได้ตรงกับวันที่เกิด"คลาส" เลยค่ะ อาจจะล้าช้า 7 วันบ้าง จนถึง 1 เดือนก็ได้แล้วแต่กระบวนการพลังงานภายในโลก การเกิด"คลาส" เป็นเหมือนการรับพลังงานจากนอกโลก หากเป็นสภาวะปกติสถานที่ใดที่พลังงานอ่อนลงและโลกต้องรักษาสมดุลตัวมันเองก็จะเกิดภัยขึ้นได้ หรือ ถ้ากรณีที่ต้องดำเนินการไปตามเหตุปัจจัยที่ควรจะเป็น พลังงานจากนอกโลกก็จะถูกส่งเข้ามา ณ สถานที่นั้นก็จะได้รับพลังงานโดยตรงความสูญเสียก็จะมีมาก เคยทราบมาว่ากรณีเกิดแผ่นดินไหวที่เฮติ...คนตายนับแสน อันเนื่องมาจากสงครามกลางเมืองความอดอยากฆ่ากันตายด้วยพิษเศรษฐก่อนที่จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น นี้ก็เป็เหตุผลหนึ่งที่พลังร่วมกันของคนในชาตินั้นเป็นเหตุสำคัญด้วย

    การที่จะยกระดับโลกมิใช่เป็นการทำลายล้างมนุษย์ แต่เป็นความรักที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีต่อมนุษยชาติ กำหนดเป้าหมายมีมาหลายปีมากแล้ว แต่ยังไม่สามารถเป็นไปตามที่กำหนดได้เพราะมีเหตุหลากหลาย สิ่งกำลังดำเนินการอยู่นี้ มนุษย์หลายคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจไปกันบ้างแล้ว บางคนได้รับการเปลี่ยนแปลงสูงสุดและบางคนเกิดปรากฏการณ์อันมหัศจรรย์ใจแก่ตนเองอันมีผลเนื่องด้วยการยกระดับมิติพลังงานเพิ่มขึ้นนี้ด้วยเช่นกัน การยกระดับนี้จักรวาลต้องการให้มนุษยชาติเสียหายน้อยที่สุดการดำเนินการตามวันและระยะเวลาจึงไม่เป็นอย่างที่สื่อกันไว้ และได้แจ้งไว้แล้วว่ามนุษย์ควรจะปฏิบัติตนอย่างไร?

    ข้อมูลด้านล่างนี้น่าสนใจค่ะ การเริ่มยกระดับพลังงานโลกเข้าสู่มิติใหม่ตามเหตุผลวิทยาศาสตร์เริ่มมีมานานแล้ว แต่จุดจบจะเป็นอย่างไร? ก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่คนส่วนใหญ่ปฏิเสธอยู่ แม้แต่ระดับผู้นำของโลก

    https://voicetv.co.th/read/BkUXw-XSz

    นำเรื่องตำนาน กบกินเดือน มาฝากค่ะที่รู้กันมานานมากแล้ว เป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านที่แสดงความเชื่อของชาวบ้านในการอธิบายเหตุเกี่ยวกับการเกิดสุริยคราสและจันทรคราสซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติซึ่งผู้คนในอดีตเชื่อว่าเกิดขึ้นเพราะอิทธิปาฏิหาริย์และสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีพลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2018
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    รวบรวมข่าวแผ่นดินไหว ตั้งแต่ปี 2555 ว่าโลกเราเกิดอะไรขึ้นบ้าง!!!

    http://news.sanook.com/tag/ข่าวแผ่นดินไหว/

    และนี่ข้อมูลแผ่นดินไหวล่าสุดถึง ปี 61 อีกต่างหาก..ข้อมูลอยู่ตรงด้านล่างแผ่นดินไหวที่ชายฝั่งอลาสก้า วันที่ 23 ม.ค 2561 ระดับ 8.2 แมกนิจูด ค่ะ

    http://news.sanook.com/5082410/

    เฉพาะแผ่นดินไหวอย่างเดียวไม่รวมกับภัยทางน้ำ ภัยลม และภัยทางไฟป่านะค่ะ เฉพาะแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และกลางก็เกือบจะเป็นร้อยแล้วค่ะ และนี่ยังไม่รวมสถิติที่เกิดกับเปลือกมหาสมุทรที่ไม่ใช่พื้นทวีปอีกด้วยนะ ลองพิจารณาค่ะเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเราคิดว่าไม่ใช่สภาวะปกติธรรมดาเป็นไปตามสาส์นข้อมูลที่เรารู้กันนี่คือโลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงพลังงานโลกด้วยการย้ายแนวแกนแม่เหล็กที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังงานใต้ภิภพแม่ธรณีค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2018
  20. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    ขอบคุณครับต่อไปจะเริ่มหนักขึ้นไหมครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...