ขอคำตอบจากเพื่อนสมาชิกและผู้รู้ที่ต่างออกไป

...อยากทราบความหมายแท้ๆ ในการคิด ในการนึก ของ สมาชิกที่เกี่ยวกับจิต เจตสิก รูป นาม เกิด ดับ ตามที่เข้าใจกันหรือนอกเหนือจากนั้นในการปฏิบัติ ในแบบที่สอนเราได้เนี่ย ท่านสมาชิกท่านใดทราบ บอกมาเป็นนัยยะให้ทราบได้บ้าง เอาตามนึก ตามคิดเลย..

 

เอาเวลามาปฏิบัติกรรมฐานดีกว่านะครับ

 

ทำไม่ได้ ขอรับ

เพราะ จขกท มี มิจฉาทิฏฐิ หนา และ เหนียว

บางอย่าง

แม้นชี้ให้ดู ก้ จะ เอา สันติ ลูบหน้าคน บอกทันที

ต้องทำใจ ชาตินี้ ตายเปล่าไป เพราะเกิดมา
ปราศจาก ปัญญาสัมปยุต

เว้นแต่ จะ ตายก่อนตาย แบบลพพุธ ฐานิโย
ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับ ฌาณส่งฌาณสี่เป็น

 

ไปฝึกมาใหม่เหอะ ยังไม่สาย
ว่างๆไปตรวจสมองด้วย
เด่วมีคนแนะนำก็เก๊ทับเค้าอีก
และก็อ้างแต่ระดับโปรหนุน
ความคิดตนเอง แนะนำเค้าคืนอีก
ทั้งที่การปฎิบัติตนเองพื้นๆ
ยังไม่รู้เรื่อง

มุขนี้ใช้ในห้องอภิญญาสมาธิ
คงไม่ได้แล้วหละครับ

ไปฝึกมาใหม่เถอะครับ
ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว ไอ้ขี้อ้าง

 

.....ท่านนี้ควรจะหมั่นภาวนาให้มากๆๆนะ ตรวจจิตตรวจใจตนเอง พิมพ์ออกมาให้เค้าได้เพราะตนเองมีมากรึเปล่าเที่ยวไปให้เค้าเนี่ยแสดงว่าตนเองมี พอมีก่อน แล้วก็พิมพ์ออกมาเป็นรูปธรรมให้เค้า ตรวจดูสภาพจิตใจตนเองหมั่นภาวนามากๆนะครับน่าสงสารอย่างส่วนตัวเนี่ย ให้เป็นสิ่งรู้ของจิตสิ่งระลึกของสติ (คำด่าเนี่ย) ก็เพียงเท่านั้น น่าสงสารมากๆ หมั่นภาวนานะครับตรวจจิตตรวจใจตนเองว่าวิตกวิจารณ์อะไรออกมาบ้าง....อนุโมทนา เป็นเพียงสิ่งรู้ของจิตสิ่งระลึกของสติ...

 

คุณต้องการรู้ว่าคุณสำเร็จแล้วในสิ่งที่ประพฤติหรือต้องการรู้ว่าผลขอธรรมที่ประพฤติคุณได้สำเร็จแล้ว

 

ผมไม่อยากอ้างใครเขานะเพราะตัวเลือกจะนำไปสู่ผู้จะมาให้คำตอบคุณ...คุณลองเคุณลองเลือกดูเอาแบบจริงๆจากใจนะ...คุณสามารถเลือได้ข้อเดียว...โดยคุณต้องมั่นใจเพราะผู้ที่จะตอบคุณได้เขาคงรอตอบคุณอยู่....ส่วนผมไม่ตอบเพราะรู้ว่าในนี้มีผู้ตอบได้ดีอยู่...ก็ยอมรับคำตอบนั้นนะคับ

 

....ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันนะครับ...เช่น เมื่อหลับ คุณคิดอะไร และเมื่อตื่น จึงจะใช้ความคิด และธรรมชาติของจิตเค้าคิดเอง ขอเกริ่นไว้ว่า ส่วนตัวไม่ได้เก่งอะไร หานักปฏิบัติ ที่นอกเหนือจากความนึกคิดคือจิตวิญญาณอย่างเที่ยงแท้จริง ..หลอกกันทำไม...

 

ค

คุณยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของคุณแล้วใครหน้าไหนจะจำเป็นต้องรู้

 

เอาแบบจบๆดีก็ดีไม่ดีก็แก้ไข...

 

ผมรู้ว่าในที่นี้มีผู้ที่ให้คำอธิบายได้

 

ประเด็นจึงอยู่ที่สองคำถาม...ไม่อย่างนั้นตัวคุณเองจะไม่พบคำตอบใดๆ

 

...คุณมาโยนความคิดของคุณ อารมณ์ที่อภิปรายมาแบบนั้นน่ะ ใช่ไหม ส่วนผมยังให้เป็นเครื่องรู้ของจิต เครื่องระลึกของสติ ใหจิตเค้าได้รับรู้ แค่นั้น ถ้ามีใครที่เค้าตอบได้ถูกต้องเหมาะสม ก็ไม่ได้ว่า ดีซะอีก เจริญจิตเจริญภาวนาต่อได้มีเพื่อน สหธรรมมิค เนี่ยคิดอะไรกันนึกอะไรกันก็ต้องตามท่านเหรอ ถูกทางเหรอ ย้ำ ยังให้เป็นสิ่งรู้ของจิต สิ่งระลึกของสติ จดจ้องอยู่ ที่ความรู้ ความคิด ความว่าง ?? งงมั้ย

 

.....อนิจจัง.....

 

อนิจจัง เมื่อ ยกขึ้นกระทำในใจ เพียรเพ่ง

จะผลิกเปน สัญญา อีกชนิดหนึ่ง

อนิจสัญญา จึงต้อง กำหนดรู้ ซ้อนอีกชั้น
เพื่อละ สัญญาที่เผารน ค้างเติ่ง มึนหน่อยๆ
จนกระทั่ง พูด อย่างอื่นไม่เปน

เปนแต่ ประโยคซ้ำๆ ทำมากๆ เซลประสาท
ส่วนสัญญานั้น จะ ตกร่อง กำหนดเหน
สัญญาดับไม่ได้อีก

ตายลงด้วย โรคติดอ่าง ไม่มี รสการไม่ถือมั่น
เจ้าตัว มองไม่ออกเพราะ เวทนากล้า ฉันทะเข้าว่า
เพลินจำเริญใจเข้ากระตืบ

ภูมิเดรัจฉานธรรมดา เช่น มด สละออก ขยัน
เอาหนวดแตะๆ อาสัยระลึก เครื่องรู้ของจิต

ถ้าอะไรผิดสำแดง ปากจะคม กัด หัวหลุด
ก้ยังมั่นใจ อาสัยระลึก เครื่องรู้ของจิต
ว่าง สะอาดจาก นิพพาน

 

............ทุกขัง.......อนัตตา

 

ความธรรมดาอย่างไรก็อย่างนั้น...ผมต่อให้คุณยกมาหมดทั้ง84000กว่าๆ ผมก็ยังเห็นในแบบเดิม...ที่...คุณไม่เข้าใจ...จึงมองไม่เห็นว่าธรรมที่ว่า...ให้อะไรกับเรา

 

.....

.....เห็น....หิน

 

...ยังไง...

 

..รู้....สึก...