- ลบ -

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย VisionPower, 10 กรกฎาคม 2018.

  1. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,618
    ค่าพลัง:
    +586
    - ลบ -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2023
  2. จันทร์ส่องฟ้า

    จันทร์ส่องฟ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +45
    ไม่หรอกนะ เพราะเขาต้องการน้ำหล่อเลี้ยงให้ตนเองอยู่รอดไปวันวันต่างหาก

    หากเขากล้าเผชิญกับความจริงและก้าวข้ามมันออกมาได้ มันไม่น่ากลัวเลยสักนิด สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือการอยู่กับความไม่จริงต่างหากล่ะ
     
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    = =

    คนบางคนก็ไม่รู้วิธีแยกแยะระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกที่เขาคิดว่ามันควรจะเป็น
    เวลามีความทุกข์ก็เฝ้าแต่ถามว่าทำไมต้องเป็นแบบโน้นแบบนี้ ทำไมสิ่งนั้นต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมสิ่งโน้นต้องเป็นอย่างนี้ ทำไมมันไม่เป็นแบบนั้นแบบนี้ไปเลย ทำไมต้องเป็นกูที่ทุกข์อีกแล้ว
    สมัยนี้เป็นกันเยอะ หลายคนก็ไม่รู้ตัวว่าเขาก็ยังเป็นอยู่ก็มี

    ความจริงไม่ได้เจ็บปวด เขาแค่ไม่เข้าใจความทุกข์ของตัวเองและโทษความจริง
    เมื่อหาคำคอบให้กับชีวิตไม่ได้ก็เลือกที่จะ หาน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยวิธีต่าง ๆ นา ๆ กันไป ถ้าถามว่าทำไมเขาไม่ยอมรับความจริงแล้วสู้กับความทุกข์ ก็คงต้องพูดว่า "เขาไม่รู้วิธี เพราะไม่เคยมีใครบอกใครกล่าว ถึงเคยเรียนรู้มาบ้างก็อาจจะไม่เข้าใจ"
    เพราะเรื่องบางเรื่องต้องอาศัย ความตั้งใจที่ถูกต้อง ความรู้ที่ถูกต้อง ครบถ้วน การมีทักษะการคิดวิเคราะห์แยกแยะความสามารถทางปัญญาอีกยิบย่อย และปัจจัยอื่น ๆ อีหลายต่อหลายอย่าง

    คนรุ่นก่อน ๆ ก็ไม่ค่อยจะมีวิธีสอนให้ลูกหลานอยู่กับความจริงกันได้ดีเท่าไรหรอก เพราะคนรุ่นก่อน ๆ ก็สอนลูกหลานเท่าที่ตัวเองเป็นมานั่นแหละ ลูกหลานคนไหนออกนอกลู่นอกทาง หรือทำอะไรแผลง ๆ ที่ตนไม่เข้าใจก็จัดการเสีย น้อยครั้งที่จะมีใครสักคนแหลมขึ้นมาได้ จึง ไม่แปลกที่นาน ๆ ที จะมีคนที่มีปัญญาโผล่มาสักคน

    ถ้าเคยโง่ ก็จะรู้ว่าคนโง่มันไม่ได้ผิดหรอก ก็แค่ไม่รู้ เพราะโตมาท่ามกลางความไม่รู้ ซึมซับความหลง และกลายเป็นคนหลงทาง เมื่อหลงไปตาม ๆ กันใครพากันแห่ไปไหนก็เลยไปตามเขา ใครพากันเห่ออะไรก็เห่อตามเขา เหมือนแพลงตอนโดนกระแสน้ำพัด

    คนโง่ไม่ได้ผิด เพราะโลกมันเป็นมาอย่างนี้ มันช่วยไม่ได้ที่โลกจะเต็มไปด้วยความโง่ นี่ก็เป็นความจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2018
  4. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    โง่ธรรมชาติครับ บ่นมากไม่ได้พลังมารโผล่
     
  5. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ถ้าเราไม่เอาใจไปให้น้ำหนักกับคำว่าโง่ เช่น พูดถึงคำว่าโง่แล้วเกลียด ไม่สงสาร รู้สึกว่าควรเหยียบย่ำ มารก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก แต่ถ้าพูดด้วยความรู้สึกที่ว่ามาข้างต้น โดนมารครอบงำไปแล้วเต็ม ๆ มารที่ว่าคือกิเลสมาร

    ถ้าพูดด้วยความรู้สึกว่าเราพูดเรื่องจริง พูดด้วยเมตตา อย่าง คนโง่ต้องการความช่วยเหลือมากกว่าการเหยียบย่ำ อันนี้ชนะมารแล้ว แต่ก็ต้องระวังอีกแหละว่า คนที่ฟังเขาจะคิดว่าเราเหยียดเขาหรือเปล่า ซึ่ง ผมก็ไม่ค่อยระวังเท่าไรหรอก ผมไม่ใช่คนดีขนาดนั้น = =
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2018
  6. จันทร์ส่องฟ้า

    จันทร์ส่องฟ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +45
    ชอบคนที่เป็นความเป็นผู้นำ ความคิดที่แยบยลละเอียดลึกซึ้ง และซื่อสัตย์ มีคุณธรรมในจิตใจ ถ้าโลกความจริงยังไม่ได้ โลกที่ควรจะเป็นควรทำอย่าไรดีนะ แนะนำหน่อยนะจ๊ะ
     
  7. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ก่อนอื่นผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกครับ ทุกสิ่งทุกอย่างของผมที่มีอยู่ในตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกหัดทั้งหมดเลย

    โลกของความจริงก็คือ โลกนี้มันเป็นอยู่อย่างไรก็นั่นแหละโลก
    โลกที่มันควรจะเป็น ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเองนะว่าโลกควรเป็นแบบไหน

    คนที่ไม่มีความสุขกับโลกที่เป็นจริง ก็มักจะคิดว่าทำไมมันไม่เป็นอยางนั้นอย่างงี้กันนะ
    คืออยากให้โลกเป็นอย่างที่ตัวเองคิด

    ถ้าอยู่ในโลกความจริงไม่ได้ ก็ไม่มีทางจะอยู่อย่างมีความสุขได้ครับ
    ไม่ต้องพูดถึงการจะทำให้โลกกลายเป็นโลกที่ควรจะเป็นในความคิดเราเลยครับ เพราะ โลกทีเราคิดว่ามันควรจะเป็นนั้น ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนแปลงให้โลกในตอนนี้กลายเป็นมัน มันก็ต้องเริ่มจากการเปลียนโลกแห่งความจริงก่อนอยู่ดี

    แต่

    ต่างคนก็ต่างมีความคาดหวังในเรื่องโลกที่ควรจะเป็นเป็นของตัวเองน่ะนะครับ

    ดังนั้น ถ้าเรา ไม่มีกำลังมากพอที่จะทำอะไรให้เกิดผล ไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำให้คนเข้าใจและยอมรับและเปลี่ยนตามเรา เราก็ไม่มีทางเปลี่ยนโลกได้หรอก

    ดังนั้น การจะเปลี่ยนโลกไปให้ไปในทิศทางที่เราหวัง ก็ต้องเริ่มจาก ทำความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งที่แวดล้อมเราและอยู่ข้างในตัวเรา(คนที่เราเป็น สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เรามี สิ่งที่เรายังไม่มี) ตามความเป็นจริงให้ได้ก่อน แล้ว สั่งสมความสามารถไปเรื่อย ๆ เติมเต็มสิ่งที่เราขาด จนมีความสามารถมากพอที่จะเปลี่ยนโลกไปในทางที่เราอยากให้เป็นครับ ค่อยออกไปทำ

    แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีเราคนเดียวหรอก ที่อยากจะเปลี่ยนโลก
    คนอื่นยังมีอีกเยอะแยะ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงโลก มันก็ต้องแข่งกับคนอื่นด้วยอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2018
  8. จันทร์ส่องฟ้า

    จันทร์ส่องฟ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +45
    ชอบคนจริงใจ อย่างอื่นไม่เป็นไรอย่างไร ขอเพียงมีใจ ให้ใจ ได้ใจ สังคมก็ยอมรับคนจริงใจ

    หากความจริงมันเจ็บปวด แต่ความจริงใจไม่ทำให้ใคร ๆ เจ็บปวด

    ถ้าทุกวันนี้สังคมมีความจริงใจให้กัน สังคมก็น่าอยู่
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,560
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ชอบแนวคิดค่ะ ^^ รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
     
  10. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    Truth Is Stranger than Fiction, But It Is Because Fiction Is Obliged to Stick to Possibilities; Truth Isn’t.

    +++ ความจริงนั้น ประหลาดกว่า จินตนาการ (มโน/ความเชื่อ) มากมายนัก
    +++ เพราะ จินตนาการ ต้องมัดไว้กับ ความน่าจะเป็น (เชื่อ/เข้าใจ)
    +++ แต่ความจริง "ไม่สน" ความเข้าใจ

    By Mark Twain about the implausibility of truth versus fiction. Here are four versions:

    +++ เหตุผลน่าเชื่อถือระหว่าง ความจริง VS ความเชื่อ จาก Mark Twain

    1. Why shouldn’t truth be stranger than fiction? Fiction, after all, has to make sense.

    +++ ทำไม ความจริง แพ้ ความเชื่อ
    +++ เหตุเพราะ ความเชื่อ สร้างความเข้าใจ

    2. It’s no wonder that truth is stranger than fiction. Fiction must be credible.

    +++ ไม่ประหลาดที่ว่า ความจริง ประหลาดกว่า ความเชื่อ
    +++ เพราะความเชื่อ มีเครดิต ได้รับความเชื่อถือ (ส่วนสัจจธรรม ไม่มี)

    3. Truth is stranger than fiction. It has to be! Fiction has to be possible and truth doesn’t!

    +++ ความจริง ประหลาดกว่า ความเชื่อ มันเป็นเช่นนั้น
    +++ เพราะความเชื่อ ตั้งอยู่บน ความเป็นไปได้ (อาจจะ)
    +++ แต่ความจริง ไม่สน ความเป็นไปได้ (อาจจะ) ทั้งหมด

    4. The difference between reality and fiction? Fiction has to make sense.

    +++ ความแตกต่างระหว่าง สัจจธรรม กับ ความเชื่อ (มโน)
    +++ ความเชื่อ (มโน) ต้องสร้าง "ความเข้าใจ" นั่นเอง

    https://quoteinvestigator.com/2015/07/15/truth-stranger/
    ===================================================

    +++ สิ่งที่ พระพุทธเจ้า สอนคือ "ไปตามความเป็นจริง" อะไรเป็นอย่างไร ก็ เป็นไปอย่างนั้น
    +++ พระพุทธเจ้า สอนให้ "โอปนยิโก" คือ "เดินจิตเข้าสู่สถานการณ์" ไม่ใช่ "อธิบายปากเปียกปากแฉะ" นั่นเองแล ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...