กิเลส

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ม้าไม้, 11 กันยายน 2018.

  1. ม้าไม้

    ม้าไม้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2018
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +49
    คนที่หมดกิเลสแล้วเขาน่าจะเป็นคนแบบใหนกันคับ และคนแบบนี้ตัวเขาจะมีความสุขใหมคับ
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อ่านประวัติพระพุทธเจ้าดูครับ จขกท
     
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    เปรียบเทียบประมาณว่า

    คนสร้างหนัง คือ พญามาร ที่ชอบสร้างเรื่องหลอกลวง
    มาลวงหลอกผู้คนให้หลงตามเรื่องที่ตัวเองสร้างมาเพื่อเงิน
    แต่คนสร้างหนังอีกคน สร้างหนังเกี่ยวกับ พระพุทธศาสนา คือ พระพุทธะ
    ที่สร้างหนังที่แม้ไม่ทำเงิน แต่ทำให้คนบรรลุธรรมได้

    ส่วนคนดูหนัง ที่ดูหนังที่เค้าสร้างแล้วชอบอินไปกับหนัง
    อยากเป็น พระเอก นางเอก ผู้ร้าย ตำรวจ ของหนังเรื่องนั้น
    อยากมีชีวิตเหมือนในหนัง คนพวกนี้คือ คนหลงวัฏฏ์
    ยังต้องมาเทียวเกิดเทียวตายอีกไม่รู้จบ ตามความอยากในหนัง

    ส่วนคนดูหนังอีกประเภทหนึ่ง ชอบดูหนังพระ หนังธรรมะ
    พอเห็นเค้าดูละคร ก็ไม่ได้อยากจะดูตามเค้า
    เพราะเห็นว่า ละคร คือ เรื่องไร้สาระ ธรรมะคือเรื่องจริง
    ดูละครก็รู้สึกเฉยๆ เพราะรู้สึกได้ทันที ละครคือเรื่องสมมุติ
    เป็นเรื่องที่เค้าสร้างขึ้น ยังไม่ใช่เรื่องจริง
    ดูแล้วก็ปล่อยวางอารมณ์อยาก ไม่อยากลงได้
    ไม่อยากเป็นอะไรทั้งนั้น คือ อารมณ์เฉยๆนั่นเอง

    เปรียบคนที่หมดกิเลสแล้ว กับเวลามีคนตาย
    เช่น มีคนมาบอกเราว่า พ่อเค้าตายนะ
    เราก็แสดงความเสียใจไปกับเค้า
    แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ
    แต่พอมีคนมาบอกว่า พ่อของเราตาย
    เราจะปรี๊ดแตกทันที เกิดอาการเสียใจทันที
    แต่ถ้าเค้าปล่อยวางได้ เดี๊ยวเค้าก็ควบคุมตัวเองได้

     
  4. เทวินตพรหม

    เทวินตพรหม พรหมวิหาร4มรรคมีองค์แปด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    649
    ค่าพลัง:
    +1,002
    ขอบคุณครับ
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    สมมุติสัจจะคือความจริงทางโลกที่
    มีทั้งดี ทั้งร้าย ทั้งเลวทั้งชั่ว
    ปุถุชนจะต้องพานพบ และต้องได้รับผลกระทบมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่
    ผู้ใครจะมีเกราะคุ้มกัน( คือบารมีธรรม)
    หนาบาง
    ขนาดไหนผู้ที่มีบารมีธรรม
    คือหมายถึงมีบุญกุศลติดตามคุ้มกันมากก็ไม่เดือดร้อนทุรน
    ทุรายเท่ากับคนที่มีบาปเวร(อกุศลกรรม)
    ติดตามตนมาก คนทุกข์มากเหตุเพราะ
    มีกิเลสมาก คนทุกข์น้อยเพราะกิเลสน้อยฮับ
    กิเลสคือเครื่องเศร้าหมองเป็นปัจจัยก่อสารพัดทุกข์ การกำจัดกิเลสออกเสียได้
    ก็คือการกำจัดเครื่องเศร้าหมองออกจากจิตใจ ยิ่งจิตผ่องใสปราศจากเครื่อง
    เศร้าหมองมากเท่าไร ความทุกข์ทั้ง
    หลายก็เข้ามากวนจิตใจมากเท่านั้น
    ในทางตรงกันข้าม
    ผู้ใดใช้ความเพียร ทำจิตภาวนา
    เพื่อเผากิเลส
    ได้มากเท่าใด จิตใจย่อมผ่องแผ้ว
    ขึ้น
    และมีความสุขมากขึ้นเท่านั้นฮับ
    คนที่เผากิเลสได้หมดจดสิ้นเชิง
    ก็จะไต่อันดับจากปุถุชนขึ้นเป็น
    อริยะบุคคลซึ่งความทุกข์ในทางสมมุติ
    รบไม่ได้อีกแล้วฮับ
     
  6. เทวินตพรหม

    เทวินตพรหม พรหมวิหาร4มรรคมีองค์แปด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    649
    ค่าพลัง:
    +1,002
    อธิบายได้คำตอบชัดเจนมากขอรับกระผม ^^
     
  7. กำลังเดินทาง

    กำลังเดินทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +103
    สุขนิรันดร
    ..
    สุขจริงๆ สุขถาวร
    สุขปลอดโปร่ง โล่งใจ เบา สบายเนื้อ สบายตัว ใจเบาๆ
    ไม่เครียด ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ตลอด 24 ชั่วโมงจนตาย

    ..
    จิตใจที่ freedom ....
    อิสระจากสิ่งทั้งปวง...
    อิสระจาก ...
    แลมโบกินี่ เงินทอง สาวงาม วัตถุนิยม
    ไม่อยากได้อะไร เฉยๆ ไม่โกรธเลย จิตใจพ้นแล้วจากรูปธรรมนามธรรม
    สภาพจิตใจที่หลุดพ้นแล้วจากทุกสิ่งทุกอย่างใน 3 โลกนี้
    ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
    ไม่มีอีกแล้ว
    ภาระงานต่างๆ ในโลกหน้า
    ไม่ต้องมาเรียนหนังสือ
    แข่งขันทำงาน
    หาเงิน
    อาบน้ำ
    ออกกำลังกาย
    นั่งสมาธิ
    เอาใจเจ้านาย
    อกหัก
    โดนด่า
    สารพัดทุกข์จะหมดแล้วเพราะชาติเป็นชาติสุดท้ายของเขา
    ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...