การตัดวงจรปฏิจจะสมุปบาท..ง่ายมากครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ใครบรรลุธรรม, 20 ตุลาคม 2018.

  1. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ผมอยู่ในขั้น ฝึกปฏิบัติ สั่งสมสุตตะอีกมาก และอ่านแผนที่อยู่ แต่ก็ถูกโฉลกเข้าใจได้ดี เบาสบาย
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ถ้าปฎิบัติแล้วถูกโฉลก เข้าใจได้ดี
    ทำให้เบาสบาย
    ก็ทำไปครับ.....แสดงว่า ตอนนี้เหมาะกับเราที่สุด
    ส่วนตัวมองว่า จะสายไหน แนวไหน
    ปลายทางก็เหมือนกันครับ...
     
  3. จันทร์ส่องฟ้า

    จันทร์ส่องฟ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +45
    ความคิด ความนึก ความตรึก สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นหรือว่ากำลังรับผัสสะขึ้นมาไม่จำเป็นต้องเป็นอกุศลกรรมเสมอไป หากเรามีตัวรู้ในความคิดว่าเป็นกุศลกรรม หรือ อกุศลกรรม ในขณะที่กำลังคิด ตัวรู้...ที่รู้อยู่นั้น จัดว่าเป็นสติ คือฝ่ายกุศลกรรม

    หากคิดแล้วหลง คือ หลงเข้าไปในความคิด เราจะสังเกตุดูได้ ถ้าคิดแล้วทุกข์...หลงแน่นอน

    ถ้าคิดแล้วรู้ว่าคิดเป็นกุศลหรืออกุศลย่อมรู้ไม่หลง

    แต่ถ้าคิดแล้วรู้...ก็รู้ว่าคิดไป ดูความคิดไปเรื่อย ๆ พอเกิดตัวรู้...ความคิดก็หยุด หรือที่ขณะที่ไม่รู้ความคิด แต่หลงกระทำไปแล้ว แล้วความคิดก็ดับไปเพราะมันหมดเหตุปัจจัยที่ได้ทำไว้แล้ว จึงไม่เห็นความคิด...นี้คือความหลงแต่ไม่รู้ว่าคิด ความหลงชนิดนี้ อันตราย! เพราะไม่รู้ว่าการกระทำเกิดการความคิดเพราะอะไรเป็นเหตุ จึงปล่อยให้มันผ่านไป

    ความคิดจึงไม่ใช่อกุศลกรรมเสมอไป การเข้าไปรู้ความสงบในความคิด การเข้าไปเห็นอภิสังขารมารที่มันล้วนก่อเหตุปัจจัยขึ้นมาเองโดยที่เราบังคับฝืนมันไม่ได้ ได้แต่รู้และปล่อยวางเท่านั้นหากไปยึดความคิดที่มันผุดขึ้นมาเองโดยไม่ตั้งใจ โดยที่เราไม่ได้เจตนา มันก็มีประโยชน์แก่ปัญญาได้ให้เราพิจารณาเห็นสัจธรรม


    ตราบใดที่เรายังมีสังขารอยู่ ความว่างจริง ๆ แล้วคือ น่าจะเป็นความว่างจากอารมณ์ กำหนดให้จิตว่างความคิดอยู่กับรู้ แต่..มีความอีกอย่างหนึ่งก็น่าจะว่างเหมือนกันคือ ความว่างจากอารมณ์แห่งความคิด คือ ความสงบจากความคิดรู้ว่าคิดแต่ไม่มีอารมณ์ร่วมในความคิด ก็จัดเป็นความว่างได้อย่างหนึ่งเหมือากัน แต่...

    มันยากมากที่จะมองเห็นว่าว่างจริงหรือ!! หากเราไม่ระลึกเวทนาภายในด้วย การว่างจากความคิดที่แท้จริง คือ สภาวะที่รู้ตัวด้วยสติสัมปบัญญะและหยุดจากความคิด เวทนาภายในจะสงบนิ่ง แต่ถ้าหากมีความคิดปรุงแต่งขึ้นมา เวทนาภายในจะเปลี่ยนไปตามกระแสที่คิดปรุงแต่งขึ้น เวทนาจะเปลี่ยนไปตามกระแสที่คิดนึกตรึก ทำให้เรารู้ได้ว่ากระแสความคิดนั้นเป็นอย่างไร? ยิ่งมีตัวยึดในความคิด เราจะเห็นเวทนาภายในควบแน่นมีสภาพลักษณะหรือสภาวะเกิดขึ้นกับเวทนาว่ายึดต่อความคิดที่เป็นอารมณ์ มากหรือน้อยจะรับรู้ที่เวทนาภายในได้ ว่าเป็นกระแสแห่งทุกข์หรือไม่ทุกข์

    ความคิดบางเรื่องหากเราคลายได้แล้ว มันก็ได้แต่คิดไป แต่มันไม่มีผลต่อใจน่ะ เราไม่จำเป็นต้องตัดมันออกเสมอไป เราเพียงแค่กำหนดรู้มันก็ได้ปัญญาด้วย

    คิดว่าอย่างลงไรกันบ้างครับ
     
  4. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
     
  5. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    สรุป..หากเรารู้จัก..ความคิดที่เป็น อกุศล ก่อน เผลอคิดปุ๊บ-ละนันทิ ทันที ..เพราะความคิดเล่นงานเรา -วินาที-นาที-วัน-เดือน ..ไม่มีเลย มันจะไม่คิด แม้จะเดินอยู่ ก็ไม่สามารถอยู่กับ "ปัจจุบัน" ได้..วิญญาณทางตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ ทำงานแบบสายฟ้าแล็บทุกวินาที..อย่าให้ วิญญาณทั้ง6 ออกไป ผัสสะกับอะไรก็ห้ามไม่ได้ทัน เพราะต้องใช้งานในชีวิตประจำวันทุกขณะจิต
    ..การละนันทิจะได้ผลมากกหาก ..จะทำให้สมาธิอ่อนๆ เกิดสติ เราจะระลึกได้ก่อนที่จะคิด ไม่คิดวนเวียน-ซำ้ๆ-ทั้งๆที่รู้..จิตพอมีสมาธิพื้นฐาน-ตั้งใจมั่น ละนันทิไป ละนันทิไป-กลับมาอยู่ที่ลมหายใจ..นี่แหละพยายามทำกันนะครับ
     
  6. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    :):):) การละความคิดอกุศล..ได้ไวเท่าใด- หากทำได้เร็ว-ดุจกระพริบตา พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ผู้นั้นมี อินทรีย์ภาวนาชั้น "เลิศ" ..ละนันทิครับ ละนันทิ..ๆๆๆ
     
  7. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    คำสอน พุทธวจน..มีเหตุ-มีผล-ให้ทุกคน คิด-พิจราณาได้ด้วยตนเอง หากเริ่มต้นด้วยคำสอนที่ถูก และเป็นสัมมาทิฎฐิ ไม่ต้องไปพึ่งใครมาตัดสินเลย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนโดยแท้ ก็ตรงนี้แหละคำ.."อัตตาหิอัตตโนนาโถ"..
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    มีจริงอ่ะ
    ในคำภีร์ปิฎกเล่มไหนมีสอนให้ภาวนาด้วย
    คำบริกรรมพุทโธ
    พุทโธ
    ยกมาโชว์หน่อยจิ เจ็กปัง
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,200
    โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า

    มัชฌิมาปฎิปทา (ทางสายกลาง) คือ

    การปฏิบัติตนอยู่ตรงกลางระหว่าง มื้อเดียวกับสามมื้อ ระหว่างเคร่ง กับ หย่อน

    ความจริงนั้น มัชฌิมาปฏปทา (ทางสายกลาง)

    คือ การปฏิบัติตนให้ครบถ้วน ในอริยมรรคมีองค์ 8 ต่างหาก

    ดังนั้น ถึงแม้ท่านจะปฏิบัติตนอย่างไรก็ตาม จะมื้อเดียว จะเคร่ง จะหย่อน จะอะไรก็แล้วแต่

    ถ้าหาก ยังปฏิบัติตนไม่ครบถ้วน ตามอริยมรรคมีองค์ 8 ก็ถือว่า

    ท่านยังไม่ได้ปฏิบัติตนตาม มัชฌิมาปฏิปทา (ทางสายกลาง) เลย

    ชอบค่ะ เห็นแล้วถูกจริต เลยนำมาฝากให้พิจารณากันนะคะ
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,200
    อุปาทานสูตร

    ว่าด้วยสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน และอุปาทาน (ฉันทะราคะ)

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย 1.สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทานเป็นไฉน และ 2. อุปาทาน เป็นไฉน?

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คือสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความหลง กำหนัด เพราะพอใจ ยึดมั่น ถือมั่น (อุปาทาน)

    ส่วนความหลง กำหนัด เพราะพอใจ ยึดถือมั่น (ฉันทะราคะ) ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ คือ อุปาทาน

    และ....

    ปริญญาสูตร


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงสิ่งที่ควรกำหนดรู้ (รู้รอบอย่างถ่องแท้) ความกำหนดรู้ (รู้รอบอย่างถ่องแท้) และบุคคลผู้กำหนดรู้แล้ว แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง.

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ควรกำหนดรู้ (ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้) เป็นไฉน?

    ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ในความหลงกำหนัดเพราะพอใจยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 (อุปาทานขันธ์ 5) ได้แก่

    1.ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ใน ฉันทะราคะ(คือความหลง ความกำหนัด เพราะพอใจยึดมั่นถือมั่น) ในรูป

    2.ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ใน ฉันทะราคะ ใน ความรู้สึกสุข ทุกข์ เฉย (วทนา)

    3.ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ใน ฉันทะราคะ ในความจำ(สัญญา)

    4.ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ใน ฉันทะราคะ ในความคิดปรุงแต่งดี - ชั่ว (สังขาร)

    5.ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ใน ฉันทะราคะ ในสิ่งที่ รู้อารมณ์ (วิญญาณ)

    ดูกร ภ! ท! อุปาทานหรือฉันทะราคะในขันธ์ 5 นี้เรียกว่า สิ่งที่ควรรู้รอบอย่างถ่องแท้ (กำหนดรู้)

    กะตะมา จะ ภิกขะเว ปริญญา ฯ ราคักขะโย โทสักขะโย โมหักขะโย ฯ ะยัง วุจจะติ ภิกขะเว ปริญญา ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลายความกำหนดรู้ (หรือรู้รอบอย่างถ่องแท้) เป็นไฉน? คือ ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ความกำหนดรู้ หรือคือ ความรู้รอบอย่างถ่องแท้ (รู้แจ้ง เห็นจริง จนไมหลงโลภ ไม่หลงโกรธ ไม่หลงเกิดกิเลสอีก)

    ขอนอบน้อมแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงสั่งสมหมั่นเพียรสุตตะ บาลีไวยกรณ์ที่แตกฉานสามารถนำคำความหมายการแปลคำไวยกรณ์ผู้ทรงซึ่งไว้รักษาพระพุทธพจน์มาให้เราได้รู้และกระจ่างค่ะ
     
  11. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ตัดนิวรณ์ให้ได้ก่อนะ
     
  12. เทวินตพรหม

    เทวินตพรหม พรหมวิหาร4มรรคมีองค์แปด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    651
    ค่าพลัง:
    +1,005

    นอนฟังเสียงลม..ครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2018
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    เสียงดนดนตรี เสียงนักร้อง จังหวะดนตรีสร้างความเพลินและความพอใจ รบกวนตะบะโยคีมือใหม่
    อย่างเหลือจะคาดเดาฮับ
     
  14. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ท่าน 5 ห่วงนี่ ปรมาจารย์ทางธรรม..อนุโมทนา ปกติไม่เข้ากะทู้ใครง่ายๆนะครับนี่ รู้สึกเป็นเกียรติ์
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    แต่ขออนุญาตแนะนำว่า อย่าฟันธงว่า
    แนวทางที่ตนปฏิบัติ เป็นที่สุด
    ถึงแม้ว่า ตอนนี้จะเหมาะที่สุดสำหรับตนเองก็ตาม
    ควรแสดงเป็นเชิงแนวทางเลือก หรือ ฝากไว้พิจารณา
    ให้ผู้ปฏิบัติได้ พิจารณากันเอง
    ตามวาระแห่งบุคคลนั้นๆ

    ไม่งั้นปัญหาจะเกิดตามมา
    เพราะจะเกิดการเปรียบเทียบขึ้นได้
    เพราะหากว่า เผลอฟันธงหรือยึดเป็นที่สุดแล้ว
    ใจเราจะไม่กลาง และยอมรับฟังความเห็นอื่นๆได้ยาก

    ให้ผู้ปฏิบัติแต่ละท่าน ได้เลือกพิจารณา
    ตามแต่แนวทางการปฏิบัติแห่งตน
    ของบุคคลนั้นๆ

    ไม่งั้นประกันได้ว่า
    จะคุยกันไม่จบครับ
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ถ้า ลวกเพ่ มหา0 ไม่สาระวนอยู่กับ การไล่จับ บระเจ้าจับมาพัด พยาดำ
    จะว่างขนาด มาแวะเวียน กระมวู้ ของ พี่เกิดฯ(จขกท)

    ก็ลอง สดับ พระสูตรก่องฮับ

    *ภิกษุทั้งหลาย คำของเธอทั้งปวงเป็นสุภาษิตโดยปริยาย อนึ่ง เราหมายเอาข้อความ
    ที่กล่าวไว้ในปัญหาของเมตเตยยมาณพ ในปรายนสูตรว่า
    ผู้ใดทราบส่วนสุดทั้ง ๒ ด้วยปัญญา แล้วไม่ติดอยู่ในส่วน
    ท่ามกลาง เรากล่าวผู้นั้นว่า เป็นมหาบุรุษ ผู้นั้นก้าว
    ล่วงเครื่องร้อยรัดในโลกนี้ได้แล้ว ดังนี้ ฯ
    เธอทั้งหลายจงฟังข้อความนั้น จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้น
    ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผัสสะเป็น
    ส่วนสุดที่ ๑ เหตุเกิดผัสสะเป็นส่วนสุดที่ ๒ ความดับผัสสะเป็นส่วนท่ามกลาง
    ตัณหาเป็นเครื่องร้อยรัด เพราะว่าตัณหาย่อมร้อยรัดผัสสะ เหตุเกิดผัสสะ และ
    ความดับผัสสะนั้นไว้ เพราะเป็นที่เกิดขึ้นแห่งภพนั้นๆ ด้วยเหตุเท่านี้แล ภิกษุ
    จึงชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้ เมื่อรู้ยิ่งธรรมที่ควร
    รู้ยิ่ง กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ย่อมเป็นผู้ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในปัจจุบันเทียว


    ทีนี้ ก็เพียง มหา0 อย่าสดับธรรม เพื่อไป หาวิธี อุบาย ในการทำ

    เพราะ กระทู้นี้จั่วเอาไว้ว่า "ง่าย" แปลว่า ให้ ฟังให้ดีๆ แล้ว เพ่งพิสูจน์ สัจจ
    ความจริงเข้ามาตรงๆ

    ไม่ใช่ไปนั่งสาระวนอยู่กับ ความชอบ ไม่ชอบ เพราะ เวทนานั้น เกิดได้เพราะ ผัสสะ เป็นเหตุ
    หาก มหา0 เพ่งพิสูจน์ไม่เข้าไปส่วนสุด คือ ผัสสะ และ เหตุของผัสสะ .....การดับของ
    ผัสสะ ก็ปรากฏ ต่อหน้าต่อตา ไม่ต้อง ตีลังกา หาอุบาย อะไรไปทำท่า ปฏิบัติ ป่วยซ้ำซ้อน

    เพ่ง พิสูจนสัจจ ตามจริง เข้ามาเนืองๆ แสนครั้ง แสนโกฏิครั้ง เท่าที่จะ ทำการเห็นได้

    มันก็ ผั๊วะ ง่าย

    ยาก ที่ไม่เพ่งพิสูจนสัจจ มัวแต่ ฟังเพื่อหาท่าทางในการทำ
    ดัดจริต ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ด้วย อุบายต่างๆ นานากร ณี


    ปล. ปฏิจสมุบาท มีไว้เพื่อ เข้าไปเห็น ไม่ใช่ ให้ไปทำ อะฮับ
     
  17. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    ปฏิจจสมุปบาท เป็นปัจจยการเป็นอาการของอวิชชา เป็นวัฏฏะ ยึดอาการใดในวงจรนี้เป็นตนก็ไม่พ้นออกไปจากวัฏฏะ


    เรียน ให้รู้เท่า ทันอาการของอวิชชาวิชชาก็เกิด แสงสว่างเกิดความมืดก็ดับไป นั่งตัดตัวใดตัวหนึ่งแล้วห่วงโซ่ดับลงหมดก็เกรงจะไม่ใช่ทาง เหตุดับผลจึงดับไปแน่นอน


    ผิดถูกอย่างไรเชิญพิจารนาด่าได้แต่อย่าแรงคับจาร
     
  18. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    :) ละนันทิ..ทำบ่อยๆทำเรื่อยๆจนเป็น อนุสสัยมั่งซิ -เห็นคาตา-ไม่ทำได้ยังไงครับ ทำไม่ได้เหรอ ..ใช่ไหม อาจารย์..
    ความตั้งใจมั่นเกิดแน่ ทีละนิด ทีละนิด ต่อเนื่องเข้าไปเรื่อยๆๆๆๆ..แช่จิตมันเลย แช่จิตตรงตั้งใจมันเลย ตั้งใจมั่นๆๆๆ..กุศลก็หลั่งไหลเข้าจิตเอง สมาธิไม่เกิดได้ยังไงครับ
    นาน-นานไป-สมาธิ อ่อนๆเกิดแน่นอน-อกุศลอื่นๆ ..ค่อยลดลง-หายไป-จิตใจสบายขึ้น ท่องเป็นอาขยานไว้เลยยิ่งดี ..ละนันทิ-ละนันทิ-ละนันทิ สาธุ
     
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    แหะ แหะ

    งั้น ขอ สัก ผั๊วะ !!

    ลวกเพ่ ก็ ทำการเห็นไปแบบนั้นแหละ ฮับ

    เพียงแต่ว่า สังเกต การเอา สัญญามาทับการภาวนา ด้วย

    ถ้า "ทำการเห็น ประจักษ์ ปฏิจสมุปบาท" แล้วเกิด อาการ เอาความเข้าใจ พยัก
    หน้าหงึกๆ หรือ ท่องสายเกิด สายดับได้ .....อันนี้ ให้ พิจารณาลงไปในจิต
    ว่า ยังเอา สัญญาไปทับจิต

    แต่ถ้า ทำการเห็น ปฏิจสมุปบาท ตามที่ปรารภ แล้ว รู้ว่า ต้องทำการเห็น
    ประจักษ์ให้มากๆ ตราบธุลีดิน ฝังร่าง สองเรานี้ไปพร้อมกัน อันนี้ก็ ผัว!!

    เอ้ย ผั๊วะ !! ฮับ ผั๊วะ
     
  20. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    :):) ท่าน5 ห่วง..กระผม ขอเรียนถามท่านหน่อยขอรับ ตอน พจ.ท่านตรัสรู้ นั่งพิจราณาธรรมใต้ต้นโพธิ์ถึง 7 วัน7คืนนั้น "ท่านพิจราณาธรรมบทใด"ขอรับ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...