ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

"เจ้าพี่น้องเคยได้ยินแต่ฝึกออกรบ มิเคยได้ยินการฝึกถอยทัพมาก่อน ถึงแม้ในตำราพิชัยสงครามจักมีก็ตาม แต่ที่น้องเห็น ดั่งการรบแบบกองโจรนะพะย่ะค่ะ "
พระอนุชาทรงสรวลด้วยเสียงดัง แล้วทรงดำเนินมานั่งประทับข้างเจ้าหอหน้า
"รบเยี่ยงโจรกระนั้นฤา อย่างไร หลอกล่อให้ศตรูมาติดกับ มิใช่โจร มันเป็นกลศึก"

เจ้าหอหน้าทรงทอดพระเนตรเมตตามองมาทางสิงห์"สิงห์เอ๋ย บางเพลาเราต้องใช้กลอุบายชนะศึก หลอกให้ศตรูตายใจ ว่าเราเพลี่ยงพล้ำ อ่อนแอแพ้ทุกทาง แล้วจึงจัดทัพ ถล่มให้ราบเป็นหน้ากลองคือกระบวนรบที่พี่พึงใจที่สุด เจ้าจงจำไว้ องค์ดำมิเคยแพ้กลศึกใด "

 

"เมื่อคราเราต้องต่อกรกับคนพาลสันดานหยาบ ที่ใช้กำลังพล กำลังทรัพย์ที่มากกว่า เจ้าจงอย่าเสียกำลังใจ แม้แพ้คราแรก แต่เมื่อเจ้าตลบหลัง เจ้าคนพาลอาจถึงกับกระอักเลือดตาย ด้วยความประมาท ในการศึกมิใช่กำลังจักชนะ จงใช้กลศึก แม้คนเพียงหยิบมือ ก็เอาชนะได้ทั้งกองทัพ"

 

"จงนอนเสียเถิด เพลารุ่งยังต้องเตรียมอาวุธ หารือกับครูดาบ แลยามราตรี ข้าจักลงรบเอง"

 

สวัสดีค่ะหายไปนานต้องขออภัยด้วย วันนี้ลองใช้การเล่าเรื่องแบบใหม่โดยการพูด ไม่ได้พิมพ์แล้วให้เครื่องพิมพ์ข้อความภาษาไทยเอง

 

หลังจากหายไปนาน เรื่องคดีก็มีความคืบหน้า ด้วยบารมีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพ รวมทั้งหลวงปู่หลิว ที่ได้ไปกราบไหว้สักการะ ในที่สุด ความจริงก็ปรากฏ ศาลอุทธรณ์พิจารณา ให้ ครอบครัวป้าชนะคดี ยังเหลือศาลฎีกา เป็นศาลสุดท้าย ป้าก็ได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเช่นเดิม ขอให้ทุกคนที่ชื่นชอบในการเขียนเรื่องของป้าเป็นกำลังใจ ให้ป้าด้วยนะคะ

 

ต้องขออภัยหลายท่านที่ไลน์ส่วนตัวเข้ามาดูดวงรวมทั้งลูกค้าเก่าๆที่เคยดูดวงกับป้า ช่วงนี้ด้วยสภาวะจิตใจที่ไม่สงบและความคิดหลายอย่างที่ไม่ได้สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ป้าคิดว่า ป้าน่าจะเลิกดูดวงค่ะ

 

มีเรื่องประหลาดอยากเล่าให้ฟังอันนี้ไม่ใช่ฝันตามกระแสตอนนี้นาคี 2 กำลังดังมากแต่ป้าก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้อยากดูแต่อย่างใดแต่สุดท้ายก็เหมือนมีเสียงกระซิบจากในหัวก็เลยไปดูซะหน่อย ไม่ขอวิจารณ์หนังแต่ขอวิจารณ์ในมุมเรื่องเร้นลับเกี่ยวกับพญานาคและพญาครุฑ ก่อนที่จะไปดูไม่ได้ดูสปอยหนัง ก็เลยไม่รู้ว่าตอนสุดท้ายมีพญาครุฑออกมาด้วย ฉากต่อสู้ของพญานาคในหนังทำค่อนข้างสมจริงในความรู้สึกของป้า แต่ฉากของพญาครุฑ ในความรู้สึกว่าดูไม่ค่อยยิ่งใหญ่เท่าไหร่ลูกป้าบอกว่าแม่ทัพนกอินทรีย์ตัวใหญ่จัง อีกเรื่องที่ป้าได้จากการดูหนังก็คือ ป้าพึ่งได้คำตอบของสิ่งที่เฝ้าสงสัยและถามตัวเองมาตั้งนาน แล้วพญาครุฑกับพญานาคจะสมหวังในความรักได้ยังไงนะ ป้าคิดและเฉลยเอาเองว่า ก็น่าจะสมหวังได้นะ ถ้าพญาครุฑมีจิตใจมั่นคงและเฝ้ารอ และพญานาค สร้างกุศลบารมี ขอกำเนิดเป็นครุฑเช่นกัน แต่ถ้าจะให้พญาครุฑลงมาเกิดเป็นพญานาค น่าจะยากกว่าเพราะการบำเพ็ญสะสมบารมีคนละแบบและยาวนานต่างกันมาก อันนี้แหละคือเหตุที่อยากจะเล่าจากหนังนาคี 2 ป้าชอบจุดจบของหนังนะ ถึงแม้จะผ่านเรื่องราวมากมายแต่สุดท้าย ก็สมดังที่เฝ้ารอ

 

ไปไหนก็เล่าแล้วขอเล่าฝันอีกสักเรื่อง อันนี้ฝันประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาฝันประหลาดว่าป้าไปนอนอยู่ท่ามกลางจักรวาลอันว่างเปล่า พอลืมตาขึ้นมาสำรวจสิ่งรอบๆตัวก็รู้สึกแปลกใจแต่ป้าไม่ได้สนุกหรือตื่นตระหนก อันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พัฒนาขึ้น ตามความฝันและจิตเมื่อก่อนเวลาป้าตื่นขึ้น ในสถานที่แปลกจิตจะตระหนกและสั่นไหว แต่ปัจจุบันไม่ว่าป้าจะฝันไปตื่นณ.ที่แห่งใดป้าจะค่อยๆ สำรวจด้วยจิต ไม่ว่าที่ใดในจักรวาลนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกันเมื่อป้าตื่นขึ้น ก็พบดวงจิตดวงหนึ่งเป็นดวงจิตที่ใหญ่และมีพลังงานมาก คำว่าดวงจิตไม่ได้แปลว่าเป็นดวงกลมสีขาวสีฟ้าสีแดงตามที่หนังสือได้เขียนหรือมีคนเล่าไว้ ดวงจิตในความหมายของป้าคือความรู้สึกของกลุ่มพลังจิต ที่เป็นไปในทางเดียวกันเป็นกลุ่มก้อนไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างที่เห็นด้วยตาเปล่าด้วยการจำแนกของป้าเองป้ารับรู้ได้ว่า ดวงจิตที่ป้าพบนี้ มิใช่ดวงจิต ของมนุษย์ และมิใช่ดวงจิตของมนุษย์ต่างดาว เป็นดวงจิตที่อยู่เก่าแก่มาเนิ่นนาน ความรู้สึกที่ป้าได้พบดวงจิตนี้ มันย้อนกลับไปเหมือนตอนที่ป้ารู้สึกตอนที่อยู่ในท้องของแม่ก่อนที่จะมาเกิดมันเป็นความรู้สึกว่างเปล่า ไม่ร้อนไม่หนาวไม่เย็น แต่รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น ดวงจิตนี้ให้ความรู้สึกถึงแสงสีขาวอมส้ม ป้ารับรู้ถึงความรู้สึกที่ไม่เป็นภัย ต่อดวงจิตของป้า ก็เลยเปิดรับความรู้สึกให้ดวงจิตนั้นเข้ามา ปรากฏภาพ ของคน ที่ป้ารู้สึกสนิทสนม แต่ป้าก็รับรู้ด้วยจิตเช่นกันว่าเป็นเพียงภาพจำแลงให้ป้ารู้สึกปลอดภัยและกล้าเปิดใจดวงจิตนั้นมอบลูกแก้วดวงหนึ่งขนาดฝ่ามือให้ป้า เพราะป้ายื่นมือไปรับ ก็เห็นภาพมืออีกหลายร้อยหลายพันในที่ต่างๆของโลก ยื่นมือมารับดวงแก้วนี้ ดวงจิตนั้นกล่าวว่า เราอยู่คู่กับโลกมนุษย์ที่เจ้าเรียกมานานแสนนาน ตั้งแต่ต้นกำเนิดดาวสีฟ้าดวงนี้ เรามอบวิทยาการความรู้เฝ้ามองดวงดาวสีฟ้าเติบโตและล่มสลายแล้วเติบโตและล่มสลายมาหลายยุค ในยุคที่เจ้าอาศัยนี้คือยุคที่ 7 ดวงดาวที่เราจากมามีดวงอาทิตย์ 7 ดวง ดวงจิตนั้นกล่าวต่อไปอีกว่า เจ้าอาจจะคิดว่าโลกที่เจ้าอยู่ในยุคนี้คือยุคที่เจริญที่สุดของมนุษย์ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ มันคือยุคที่เสื่อมโทรมที่สุดของมนุษย์ ดวงจิตนั้นบอกเราอีกว่าเขาเฝ้าดูแลและปกป้องมนุษย์จนถึงยุคที่ 7 ธรรมชาติจะเริ่มระบบฟื้นฟูตนเอง โดยการทำลาย สิ่งที่อยู่บนพื้นผิว การทำลายมีได้หลายรูปแบบทั้งทางน้ำทางบกและทางลม

 

ดวงจิตนั้นพูดต่อไปว่า บัดนี้ถึงเวลาที่เราจะเข้ามาช่วยโลกอีกครั้งเราได้มอบวิทยาการและเทคโนโลยีผ่านสมองและจิตของคนหลายร้อยหลายพันคนดังดวงแก้วที่เจ้ารับไว้ในมือ พูดมาถึงตอนนี้ป้าก็เลยมองลูกแก้วที่อยู่ในมือ แต่ที่แปลกประหลาดลูกแก้วที่อยู่ในมือของป้ามองไปกลายเป็นพื้นดินอันกว้างใหญ่อยู่ในลูกแก้ว เหมือนป้ามองลงมาจากที่สูงแล้วมองลงไปในสถานที่แห่งหนึ่งที่มีแต่ดินและความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ดวงจิตนั้นกล่าวต่อไปอีกว่าถ้าเทคโนโลยีที่เรามอบให้นั้น ซับซ้อนและชาญฉลาดแต่เทคโนโลยีที่เราจะมอบให้เจ้านั้นคือ เทคโนโลยีแห่งจิตเทคโนโลยีนี้จะนำพาให้มนุษย์รอดภัยพิบัติทั้งปวง หากเจ้าเปิดใจยอมรับ ชะตากรรมของโลกมนุษย์นี้จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลเราจะเข้าสู่ยุคศิวิไลอย่างที่เจ้าหวังไว้จริงๆมิใช่ศรีวิไลเพียงแค่รูปธรรม แล้วลูกแก้วในมือป้าก็เป็นแสงเจิดจ้าแล้วก็อันตธานหายไปรวมกับดวงจิตของป้าตอนนั้นเป็นตอนที่ป้าตื่นขึ้นมา แต่วูบเดียวก่อนจะตื่นป้าเห็นภาพที่ไม่ค่อยจะสวยงามนะภัยพิบัติที่ป้าไม่อยากให้เกิด ในหลายซีกโลกทั่วทุกมุมโลกบางมุมผืนดินจะงอกเงยและตลบมนุษย์ลงไปฝังอยู่ใต้ดิน บางส่วนน้ำจะพุ่งพวยขึ้นสู่ฟ้าไหลลงมาท่วมบ้านเรือน

 

สนุกดีนะครับอ่านแค่หน้าแรกก็สนุกขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวว่างๆจะเข้ามาอ่านอีกครับ

 

อ่านมาหลายร้อยหน้าแล้วครับ ยังสรุปในใจตัวเองไม่ได้ว่า ที่ จขกท. เขียนเป็นนิยายหรือความฝัน หรือเป็นอดีตชาติกันแน่ ขออภัยที่ตามไปดูเฟสนะครับ เห็นออกตัวว่าเป็นนักเขียน แต่มาอ่านหน้าท้ายๆ บอกเป็นหมอดู ไม่ได้กวนทีนนะครับ แค่อยากรู้ ว่าเป็นยังงัยกันแน่

 

ขอบใจจ๊ะ

 

ไม่ใช่นิยาย นั่นมันเรื่องแต่งตามจินตนาการ ใช่ความฝัน เคยเป็นหมอดู เลิกเป็นแล้ว เพราะ...

 

เหตุผลที่คิดว่าจะเลิกเป็นหมอดู เพราะความฝัน
ป้าฝันว่าไปงานประมาณงานบุญงานกฐิน ขับรถไปกับลูกชาย และญาติคนหนึ่ง ป้าหาที่จอดรถไม่ได้วนไปวนมา จนไปเจอใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ เลยขอนุญาติรุกขเทวดาในใจ ขอจอด พอลงจากรถญาติป้าก็ลงไปก่อน แล้วเอามือไปจับรถข้างๆ เหมือนจะพยุงตัว ป้าก็เหลือบไปมองเห็นเป็นรถเบนซ์รุ่นเก่ากึ้ก แต่สภาพยังดีอยู่ คล้ายรถคลาสสิค แล้วก็ได้ยินเสียงคนในรถตะโกนด่ามาว่า เฮ้ยจับรถกูทำไม สกปรกหมด กูรีบ ป้าก็สะดุ้ง แล้วเค้าก็ถอยรถอย่างเร็ว จนญาติป้าแทบล้ม ป้าก็งงๆ อะไรวะ ตอนมาจอดไม่ยักเห็นรถคันนี้ สงสัยมาซุ่มมืดๆ แล้วป้าก็กำลังจะดับเครื่อง เพื่อลงจากรถ ก็ได้ยินเสียงเบรครถดังมาก เห็นไอ้รถคันเมื่อกี้ ขับไปปาดหน้ารถเก๋งสีขาวคันเล็กคันนึง ป้าก็เหลือบไปมอง แล้วเรียกญาติขึ้นรถ เห็นท่าไม่ดี ว่าจะไปหาที่จอดไกล้ๆงานดีกว่า พอถอยรถออก ก็เห็นว่ารถเบนซ์เป็นผู้ชายขับ แต่งตัวย้อนยุคเหมือนรถ ใส่ทองเส้นเท่าโซ่ แต่งตัวเหมือนยุค 2499 กางเกงขาบานเชียว แต่ที่ตกใจคือเค้าทุบกระจกรถ แล้วกระชากประตูเปิด ในรถคันเล็กผู้หญิงขับเค้ากระชากผู้หญิงลงมาแล้วทุบตี จิกผม ป้าก็เลยขับรถพุ่งไปไกล้ แล้วเปิดกระจกด่า เฮ้ย อย่ารังแกผู้หญิง เดี๋ยวจะโทรเรียกตำรวจนะ บ้านเมืองมีขื่อมีแปร มีไรไปคุยกันในศาล (ในฝันห้าวมากขอบอกจริงๆเป็นคนขี้กลัวมาก) ไอ้ผู้ชายก็สวนมาทันที มึงเป็นใคร มึงเสือกอะไร มึงนึกว่าแน่เหรอ
ในฝันมันก็ซ้อมผู้หญิงต่อ ป้าในฝัน ไม่รู้ใครเข้าสิง ลงจากรถไปเฉยเลย ลงไปบอกว่า เฮ้ย มึงปล่อยผู้หญิงเลย ลูกผู้ชายนักเลง เค้าไม่รังแกผู้หญิง(นี่มันบทพระเอกนะ ไม่ใช่ป้าอ้วน 555)
แล้วไอ้คนนั้นก็เข้ามากระทืบป้า แต่แปลกในฝันป้าไม่รู้สึกเจ็บไม่มีริ้วรอย ไอ้นั่นดูโกรธมาก ป้ายังมีหน้าไปท้ามันว่า แกทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก เรามันคนละชั้นกัน แทนที่มันจะเกรงใจ มันกลับไปทำท่าเรียกคนในรถมันลงมา มีคนลงมา แต่ที่แปลกในฝัน ทั้งผู้หญิง ทั้งเด็ก ลงมาเป็นสิบคน เข้ามารุมจับแขนขาป้า ส่วนไอ้ผู้ชายวิ่งไปที่รถป้า มันบอกว่า กูทำมึงไม่ได้ กูจะทำลูกมึง ในฝันป้าโกรธมากที่ได้ยินประโยคนั้น สะบัดพวกผู้หญิงที่มารุมจับ แล้วเหมือนจะกลายร่างเป็น....
บอกมันว่า มึงกล้าเหรอ ถ้ามึงยุ่งกับลูกกู กูจะจองเวรมึง ไม่ให้มึงได้ผุดได้เกิด ไอ้นั่นชะงักไป ขณะที่ป้ากำลังจะทำบางอย่างที่ร้ายๆ ลงไป ก็มีรถกะบะสีขาวขับมาจอด แล้วก็มีผช คนนึงเดินลงมาเงียบๆ ผมเกรียน คางผ่า ตัวใหญ่ ตาดุ พวกนั้นพอเห็นผู้ชายคนนั้น ก็ดูกลัวลนลาน รีบวิ่งหนีไปขึ้นรถเบนซ์ขับหายไปอย่างไว แต่ผู้ชายคนนั้น ไม่ได้มาถามหรือพูดคุยมีแต่สายตาตำหนิ ในฝันป้าเลยสำนึก ตอบไปว่า ขออภัยเจ้าค่ะ ที่โกรธจนลืมตัว จะไม่ทำการสุ่มเสี่ยงต่อกรรมอีกเจ้าค่ะ

 

ฝันเป็นตุเป็นตะเลยนะครับ เล่ายาวแต่ก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่เลิกดูหมอ

ผมเลยคิดเองไปว่า คนขับเบนซ์น่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคนที่ป้าไปช่วยเขาจากการดูหมอ

ส่วน ผช.ที่มาทีหลังน่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถืออยู่มาเตือนสติ ให้หยุดยุ่งเรื่องเวรกรรมของผู้อื่น

ไม่รูู้ใช่หรือเปล่านะครับ คนความรู้น้อย ด้อยการศึกษา 555

 

มาเล่าฝัน เป็นปริศนาธรรม สำรวจใจตน
ป้าฝันไปว่า ไปงานเลี้ยงแห่งหนึ่งกับเพื่อนๆ ที่ก.ท.ม พอตอนจะกลับป้ารู้สึกว่าอยากไปห้องน้ำ เลยเดินไปเลยไม่หยิบกระเป๋าไป พอกลับมา เจอแต่พนักงานบริการยืนรอ บอกว่าเพื่อนรีบกลับหมดแล้ว เหลือแต่ป้า ป้าก็งงๆ แล้วน้องบริการก็บอกอีกว่า มีคนมารับรถป้าไปแล้ว ป้าก็งง ใครวะ น้องบอกว่าเป็นผญ หน้าตาเหมือนป้าเลย ป้าก็ อ้าว พี่สาวป้ามาเอารถไปใช้ทำไมไม่บอก เลยโทรไปหาก็ติดต่อไม่ได้ กำลังหงุดหงิด และหัวร้อน เพราะโรงแรมที่ไปกินเลี้ยงขับรถเข้ามาลึกและวกวนมาก ก็ได้ยินเสียงคนโวยวาย เหมือนจะมีคนทะเลาะกัน ก็เห็นบริกรกำลังยื้อยุดกับผช คนนึง ใส่ชุดวอร์มสีขาว รองเท้าผ้าใบขาว หน้าตาผิวพรรณดูดี แต่สภาพเมา แล้วผช คนนั้น ก็ตะโกนทักป้า เสียงอ้อแอ้เชียว บอกไม่เจอหันนาน ไม่ทักทายเลยนะมึง ป้าก็งงๆ แล้วเค้าก็เริ่มท้าวความว่าเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน มหาลัยเดียวกัน ป้าก็งงๆ แต่ก็รู้สึกคุ้นหน้า เค้าก็บอกว่า หาทางกลับบ้านไม่ได้เหรอ ไปรถเราดิ แต่ไปส่งเราก่อนนะ เราขับรถไม่ไหว ป้าก็ลังเล บริการก็เข้ามาขอร้องบอกเพื่อนพี่เมาแล้วโวยวายล้มโต๊ะ รบกวนแขกคนอื่น พี่ช่วยพากลับบ้านหน่อย ป้าก็เลยตกลง

 

แล้วพนักงานก็ไปรับรถมาให้ แล้วเอากุญแจมาให้ป้า เป็นรถ BMW X7 สีดำ สวยมาก แต่กระจกดำมาก ป้าก็ขึ้นไปขับ ในใจ คิดว่า วาสนาตู ได้ขับไปส่งเพื่อนก็ยังดี แล้วเพื่อนก็แนะนำหน้าปัดนู่นนี่ให้ ป้าถามว่า บ้านอยู่ไหน เพื่อนบอก แถวเกียกกายไง ทำไมแกลืมบ้านเรา ป้าก็งงต่อ แล้วเพื่อน
ก็สั่งรถด้วยเสียง ว่า "home" หน้าจอ GPS ก็ขึ้น ป้าก็ว้าวววว ในใจคิดอยากได้ซักคันเลย กิเลสทะลุเพดาน แล้วป้าก็ขับพาเพื่อนไปส่งในฝันขับเร็วมาก เพื่อนถามขับเร็วจัง ขับช้าๆก็ได้ จะได้คุยกันนานๆ จะได้เจอกันที ป้าก็บอกเห็นเมานะเลยไปส่ง จะรีบกลับไปรับลูก ต้องไปหารถใช้อีก ไม่รู้ต้องขี่มอร์ไซค์เปล่า ไม่มีตังค์ซื้อรถ รถที่มีพี่สาวก็มาเอาไปแล้ว

 

เพื่อนก็เงียบไปพักนึง บอกว่าเอารถคันนี้ไปส่งเรา แล้วแกเอากลับบ้านไปเลย เราให้ยืมตลอดชีวิตแก ป้าก็บอกบ้า ไม่มีตังค์จ่ายภาษี จ่ายค่าบำรุง เลยถามทำไมกระจกมันดูหนาๆแปลกๆ เพื่อนบอกเป้นรถกันกระสุน มีแค่ 9 คันในประเทศไทย เพื่อนบอกเอาไปเหอะ เรามีรถหลายคัน รถถังก็มี ป้าก็บอกมุขแบบนี้วอนซะแล้ว วอนโดนปรับทัศนคติ เพื่อนบอกต่อว่า ก็แกเอาไว้ไปส่งลูกไปโรงเรียนจำเป็นไง ของนอกกาย เราไม่เคยเสียดาย ตอนเกิดก็ไม่ได้เอาอะไรมา รถจะมาจะไป เป็นของเราไม่เป็นของเรา เราก็ไม่ทุกข์แล้ว เพราะแม้ตัวเราก็ไม่ใช่ของเรา แล้วป้าก็ตื่น

 

คิดถึงนะ คุณจารุ

 

ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นฝันประมาณ 1 อาทิตย์ที่แล้วแต่เมื่อคืนนี้ฝันภาคต่อฝันว่านั่งทำงานอยู่ก็มีคนเอารถมาจอดที่หน้าออฟฟิศเป็นรถ BMW คันนั้น แล้วก็มีคนขับเปิดประตูลงมาแต่ไม่ใช่เพื่อนของป้า เขาเดินมาหาป้าแล้วบอกว่าเพื่อนฝากกุญแจมาให้ เขาบอกอีกว่ามาหลบอยู่ที่นี่เองตามหาเสียตั้งนานอยู่ไกลผู้ไกลคนเหลือเกินแล้วก็บอกว่าเพื่อนป้าฝากมาบอกว่าสัญญาอะไรไว้ไม่เคยลืม ขอให้ป้ารับความปรารถนาดีนี้ไว้ด้วยป้าก็งงๆแต่ในใจไม่มีความโลภเหลืออยู่ ก็เลยคืนกุญแจให้เขาไปแล้วบอกว่ามันเกินความจำเป็นเอาไปคืนเจ้าของเถอะ ป้าดูแลตัวเองได้ แต่ในฝันผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอมกลับเอากุญแจรถยัดใส่มือป้าที่ยื้ดยุดฉุดกระชากจนป้าเริ่มโมโห แล้วก็เลยตื่นขึ้นมาถ้าตามนี้แล้ว ป้าสอบผ่านหรือเปล่านะ พ่อเทวดา
ป.ล. ในฝันคนที่ขับเอารถมาให้ หัวเกรียนแบบทหาร ใส่เครื่องแบบทหารบกครึ่งท่อน
ป.ล.2 แถวเกียกกาย คือ ค่ายทหาร แถวนั้นมีอะไรน้อ ที่อยากให้ป้าไปหรือเปล่า