นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

เจ้าของชุดนี้น่าจะมีมากสุดแล้วครับตอนนี้ท่านใดน่อ

 

เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์พลังครับ 555 ไม่ยอมโชวลงเฟสตนเองเลย...

 

....เปิดบันทึกเรื่องราวเครื่องรางชิ้นสำคัญแห่งล้านนา มีความหมายที่คาดไม่ถึง....

....ดาบสรี๋กัญไชย (ดาบแห่งชัยชนะ) จากตำราของภาคเหนือ....


เราอาจได้ยินชื่อ ดาบสรี๋กัญไชย มาบ่อย ซึ่งจะควบคู่กับ พระขรรค์ชัยศรีพระแสงศาสตราวุธประจำองค์พระมหากษัตริย์

จริง ๆ เรื่องราวหลัก ๆ ก็จากในเน็ตนี่ละครับบันทึก ไว้อยู่ ....

ทีนี้ จากที่นักสะสมเครื่องราง อย่างผมหรือท่านอื่น ๆ พบมา ดาบสรี๋กัญไชย ก็มีให้เช่ากันหลายวัดอยู่ และบันทึกเป็นหนึ่งในวิชาหลัก ๆ กันเลย เป็นตะกรุดก็มี

ทีนี้ถามว่าผมเคยเช่าบูชาไว้ไหม ไม่เคยครับ เคยได้รับแจกฟรี จากศิษย์ครูบาอิน เป็นเล่มเล็ก ๆ ของครูบาอิน ท่านว่า "ไว้ฟาดฟันอุปสรรค"

ในความเป็นจริง ก็เอามาวางแป๊กซะมากกว่า 555 เพราะเป็นเล่ม เล็ก ๆ เก็บไว้บ้านต่างจังหวัดครับ ....

แต่ทีนี้ พอวัดหมูเปิ้ง จะมีการสร้างเสก ก็เลยสนใจ เมื่อวานนี้ และวันนี้ที่ปรึกษามา กทม. เลยสัมภาษณ์ซะเลย และได้รับความรู้ใหม่ที่คาดไม่ถึง...

 

... โดยสรุป ผมได้ยิงคำถามที่คาใจมานาน และสรุปได้ดังนี้ ว่า ดาบสรี๋กัญไชย มีความหมายมากกว่า มาวางแป๊ก หรือไว้โชว์ หรือเปล่า.....


....โดยสรุป ประวัติ จากที่ปรึกษาที่ได้ร่ำเรียนมาโดยตรงจากครูบาข่าย และจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นที่ได้สืบทอดวิชานี้มา......

....ต้นกำเนิด ที่บันทึกในเน็ต ที่กล่าวว่า สมัยอยุธยาที่ยกทัพมาตี ล้านนา โดยมีพระขรรค์ชัยศรี คู่บารมี จนทางล้านนา คิดค้นวิชา ดาบสรี๋กัญไชย (สรี๋กัญไชยเป็นการย้อนคำ พระขรรค์ชัยศรี ย้อนวิชากัน) จน ปกป้องล้านนาไว้ได้ ...

ที่ปรึกษาให้ความเห็นว่า ก็เป็นไปได้ เพราะมีหลายตำนาน...

...แต่ตำนานที่สำคัญคือ ... วิชาดาบสรี๋กัญไชยสูญหายไปพร้อมกับวิชาอื่น ๆ ก็ในยุคล้านนา ตกเป็นเมืองขึ้นของหลาย ๆ อาณาจักร ซึ่งแน่นอน วิชาความรู้ต่าง ๆ โดนยึด เผา ทำลายสูญหายไปมาก จนครูบาอาจารย์ยุคก่อน ๆ ต้องนำไปซ่อนไว้ในถ้ำ (เล่ากันว่า ครูบาทอง ผู้เสกมีดหมออภินิหารปราบไตรจักร ก็ได้พบวิชาเหล่านี้ในถ้ำ)


จนจุดสำคัญที่สุด คือ ครูบาศรีวิชัย ได้พบตำราวิชานี้ และวิชาอื่น ๆ ที่บันทึกในใบลาน หรือ ปั๊ปสา... ซึ่งหลาย ๆ ตำนานกล่าวไม่ตรงกันมากนัก บางตำนานว่า ครูบาพบในถ้ำ ...บางตำนานว่า พบในกระท่อมร้างที่โดนเผาไปแล้ว

ที่ ปรึกษาฟังครูบาอาจารย์เล่ามาว่า พบในกระท่อมร้างที่โดนเผานั่นละครับ...

 

ที่มาภาพ https://img.tnews.co.th/userfiles/image/ain002.jpg

.... คำถาม ต่อมา บอกว่าดาบสรี๋กัญไชย ทำไม รูปลักษณ์เป็นพระขรรค์

ที่ปรึกษาให้ความเห็นว่า เป็นภาษาชาวบ้านเรียกกันว่าดาบ ในตำราบันทึกต่าง ๆ ภาคเหนือจะไม่ค่อยพบคำว่าพระขรรค์กัน เขาเรียกกันว่าดาบ เป็นภาษาเรียกง่ายๆ


... จุดกำเนิดคำว่า ดาบสรี๋กัญไชย ก็คือ พระขรรค์ของพระอินทร์ นั่นละครับ ซึ่ง ที่ปรึกษากล่าวว่า ในชาดก ล้านนา มีกล่าวถึง ทั้งตัวบทคาถาด้วย

ท่านเล่าให้ฟังเรื่อง ตำนานเจ้าหงส์หิน ซึ่ง เล่าถึง ชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า

สรุปโดยย่อ คือ มีเมืองหนึ่งที่กษัตริย์ปกครอง มีมเหสี อยู่ 7 พระองค์ โดย พระราชารักมเหสี องค์แรกมาก จนมเหสีองค์อื่น อิจฉาริษยา เมื่อมเหสีองค์แรกคลอดบุตร จึงแอบนำลูกสุนัขมาเปลี่ยนแทน จนพระราชาขับไล่มเหสีและโอรสออกไป

ร้อนถึง พระอินทร์ หรือท้าวสักกเทวราช อยู่ ๆ แท่นประทับก็แข็งจนเล็งทิพยเนตรตรวจสอบ จึง นำโอรสไปเลี้ยง (ในเน็ตบอกฤาษีเลี้ยงแต่ที่ปรึกษาบอกพระอินทร์)

และให้ชื่อว่า หงส์หิน พร้อมมอบดาบสรี๋กัญไชยไว้ให้เป็นอาวุธ ซึ่งต่อมาได้นำดาบนี้ไปฆ่ายักษ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน...

 

...โดยสรุป พระขรรค์สรี๋กัญไชย หรือดาบสรี๋กัญไชย ได้สูญหายหลังล้านนาตกเป็นเมืองขึ้น หลายๆ อาณาจักร และวิชานี้ได้สาบสูญไป จนครูบาศรีวิชัยได้มาค้นพบ ซึ่ง จะพบที่ใด ก็ไม่ทราบได้ อาจเป็นในถ้ำ หรือ กระท่อมร้าง

...ในทางภาคเหนือ ก็หลายๆ สำนักก็มีวิชานี้สืบทอดกันครับ ส่วนใหญ่ ก็เป็นเคล็ด ว่าเป็นสิริมงคล

ในส่วนตัวผมก็นั่นละครับ ได้เคยเห็น แต่ไม่เคยเช่าเลยครับ 555 เพราะ ชอบมีดหมอมากกว่า จนเป็นที่มาของมีดหมอกริช อภินิหารปราบไตรจักรนั่นละครับ....

 

...ผมถาม ที่ปรึกษา "ฮ๊าาาา หลวงพี่ เอาพระขรรค์สับกระดาษที่เขียนชื่อศัตรู จะพินาศ เป็นไปได้หรือ.... มีดหมอเรายังไม่ได้ ทำแบบนี้เลย ต้องใช้กลวิธีอื่นเยอะแยะ ถ้าจะทำแนวนี้"

ที่ปรึกษากล่าวว่า "ได้สิ เป็นวิชาของพระขรรค์ชัยศรีเลย อาวุธของ องค์อินทร์นะ"

พร้อมนำภาพ พระขรรค์สำนักที่ผมเจอในเฟส ให้ดู และอาจารย์ฆราวาสผู้สร้างเสก ที่ปรึกษาบอกว่า "อาจารย์คนนี้ลึกล้ำมาก ๆ ท่านทำได้จริง"

เสียดาย เฟสลูกศิษย์เขาบอกหมดแล้ว ไม่งั้น ผมอาจหวั่นไหว 555 จึงถามประวัติที่มา และทำของเราให้เด็ดดวง......
...... ส่วนเคล็ดการใช้สับชื่อ ศัตรูในกระดาษจนขาด... อันนี้ขอเล่าในวันต่อไปครับ และที่มาแห่งวิชา ตำนาน ว่าทำไมทำแบบนี้ได้...

.....ย้ำ อย่านำไปเปรียบเทียบกับมีดหมอนะครับ เพราะคนละวิชากัน.... หากเข้าใจที่มา ต้นกำเนิดจะไม่สงสัยเลยครับ...

 

ขออนุญาตนำมาให้ชม...


เฟสที่ผมอ่านเจอพูดถึงครับ ของท่านนี้ก็สุดยอดเช่นกันครับ... เดี๋ยวหาว่าผมแต่งเรื่อง นี่คือที่มา เข้ากะสถานการณ์ตอนนี้พอดี...

 

....เคล็ดแห่งไสยศาสตร์ ฝ่ายมืด ..... เราคงเคยได้ยินมาบ้าง ต้องใช้ อุปกรณ์ สิ่งของที่ติดไอธาตุ

....เช่น ดินรอยเท้า(สมัยก่อนไม่ใช่รองเท้า) เส้นผม เล็บ เสื้อผ้า ของใช้ เพื่อใช้ทำคุณไสย

... อาจมีใช้รูปถ่าย ชื่อ ทีนี้ประเด็นสำคัญ...


...แค่ชื่อ นามสกุล ไม่ต้องมีวันเดือนปีเกิด ทำได้หรือ


...ที่ปรึกษาเล่า ก็คล้ายเคล็ด ตัดไม้ข่มนาม.... ก็ทำได้จริง ตามหลักวิชา...

....แต่มีดหมอทำไม่ได้แบบนั้นนะครับ พระขรรค์ชัยศรีทำได้ ตามเฟสที่ผมให้อ่าน ท่านว่า "อาจารย์ท่านนั้นลึกล้ำ ทำได้จริง"

 

....วันพรุ่งนี้จะเล่าตำนาน พระขรรค์สรี๋กัญไชย ที่คาดไม่ถึง และกลวิธีที่คาดไม่ถึง.... โปรดคอยติดตาม



ในภาพ คือพระขรรค์สรี๋กัญไชยของเจ้าแม่จามเทวีครับ ในชาดกล้านนา บันทึกไว้ชัดเจน ว่าคือ สรี๋กัญไชย

ย้ำว่า คนละแบบกับมีดหมอครับ... เพราะคือพระขรรค์ของพระอินทร์

 

รอติดตามครับ

 

ได้ข้อมูลมาแล้วครับ ไม่ใช่แค่มาวางโชว์แน่ครับ ที่เราได้ยินว่า ใช้ทางร้ายได้ ใช้ยังไง ฟาดฟันศัตรูยังไง เดี๋ยวบอกให้ครับ

ทำไมถึงชื่อว่าพระขรรค์พระอินทร์ ?
ต่างจากมีดหมอยังไง?

 

รออ่านครับ

 

ในฐานะ ที่พวกเรามีของดีเยอะแล้ว.... และหลายท่านอาจมีมีดหมอเด็ด ๆ แล้ว ผมจึงพยายามหาข้อแตกต่าง ของวิชา พระขรรค์สรี่กัญไชยนี้ จะได้ไม่ต้องนำมาแค่วางแป๊ก ไว้อวด ไว้โชว์...

ที่ปรึกษากล่าวว่า ในตำราก็บันทึกวิธีไว้ และบางอย่างก็ไม่อยากเปิดเผย โดยเฉพาะ คำว่า ฟาดฟันศัตรู... พระขรรค์แห่งชัยชนะ...?????

ข้อแตกต่างระหว่างมีดหมอ กับพระขรรค์สรี่กัญไชยก็คือ....

1. มีดหมอ ไว้สำหรับคนทั่วไป และใช้ประกอบพิธีไสยศาสตร์ เรียกว่า ผู้นำไปใช้ต้องมีวิชาคาถาอาคม มีการทำขันครู แต่งขันครู หากคนทั่วไปอย่างเรา ๆ อย่างมากคงได้แค่พก กันผี หรือแกว่งทำน้ำมนต์ แต่ไปทำพิธีกรรมต่าง ๆ คงไม่ได้แน่ จะมานั่งสวดคาถา ทำตัวเป็นหมอ อาคม คงไม่งามแน่แท้

2. พระขรรค์สรี๋กัญไชย ตามตำราคือ อาวุธของพระอินทร์มอบให้ พระโพธิสัตว์ จึง เหมาะกับ คนธรรมดาที่ไม่มีคาถาอาคมใด ๆ เรียกว่า ตามตำรากล่าวไว้แล้วว่า ใช้ได้หลายวิธี ตามแต่ผู้มีปัญญาพึงใช้

คำว่าผู้มีปัญญาพึงใช้ ผมถามว่า คืออะไร ท่านกล่าวว่า "หากนำไปบูชา พอมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ ก็จะคิดได้เอง"

ผมถามเจาะประเด็นว่า คำว่าคิดได้เองนั่นละครับ ยกตัวอย่างอย่างใดบ้าง โดยเฉพาะคำว่า ฟาดฟันศัตรู....

สรุป เค้นมาได้ ดังนี้ครับ 555 ท่านกล่าวว่า หากจำเป็นจริง ๆ โดนย่ำยีมากจริง ๆ ก็ ระลึก นำมาใช้ดังนี้

1. เขียนชื่อศัตรู ใส่กระดาษ ชื่อ นามสกุลก็ได้ครับ ตอนเขียน ก็นึกหน้ามันให้ดี ๆ หากได้ เส้นผม เสื้อผ้ายิ่งดี แล้วเอาพระขรรค์สับ ๆ ๆ สับไปเรื่อย ๆ ส่งผลแน่นอน

2. หากขออานุภาพแห่งชัยชนะ เช่น ไปแข่งขัน ประมูลงาน หรือต้องการบารมีข่มศัตรู ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ท้าวสักกเทวราช หยิบพระขรรค์ หันหน้าไปทิศใต้ (ตัวเราจะอยู่ทิศเหนือตามหลักข่มศัตรู) นึกหน้าคู่แข่ง หรือนึกถึงสถานการณ์ นำพระขรรค์กวัดแกว่ง ตวัดบนลงล่าง มโนในจิตนึกเอาครับ แล้ว วางไว้ที่เดิม ไปได้เลย จะชนะคู่แข่ง

3. วิธีนี้สายโหดหน่อย หาก โดนทำน้ำตาตก 7 ครั้ง ก็ ปั้นหุ่นด้วยดินป่าช้า เอาเส้นผม ใส่ในหุ่น ใช้พระขรรค์ตวัดจากบ่าหุ่นลงมาให้ขาด 2 ซีก แล้วใส่ขวดแยกขวด ไปลอยน้ำ แต่ต้องมี คาถากำกับ

... ่ผมเรียนถามประยุกต์ใช้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องมีคาถาได้ไหม ท่านกล่าวว่า ก็ปั้นสีผึ้งแท้เป็นหุ่นเอา ......

พระขรรค์นี้ ออกแบบ ให้เหมาะกับคนที่ไม่ต้องมีคาถา ขันครูใด ๆ

จะไม่ฟัน ก็สั่งสอน เอาพระขรรค์ตบปากหุ่น สมมติเอา 555

 

อีกวิธี ใช้พระขรรค์ปราบศัตรู คือ ซื้อท่อนต้นกล้วยมาครับ ไม่ต้องใหญ่มาก แกะเอาแกนกลาง มาเขียนชื่อ สกุลศัตรู อธิษฐานเอาพระขรรค์ปักตรงชื่อเลย ทิ้งไว้ 3 วัน

- หากแกนกล้วยเน่าแสดงว่าสำเร็จได้ผลดี

- หากเป็นรอยจ้ำ ๆ แสดงว่ามันมีของดี แต่ก็ได้ผลบ้าง

จากนั้นเอาพระขรรค์ผ่าให้ขาดกลาง ไปลอยน้ำเลยครับ

ตอนลอยน้ำก็อธิษฐานดี ๆนะครับ ว่า ให้มันหายไปจากชีวิต

ทุกวิธี ท่านบอก เมื่อโดนย่ำยีก่อน ใช้ได้ผลเลยครับ หากเราทำเขาก่อนจะไม่ดีเท่าใดนัก...

 

ความรู้ใหม่ สุดๆเลยครับ ^^

 

วิธีใช้มี มากกว่านี้อีกครับ ท่านบอกค่อยเอาทีละนิดๆๆ

 

แจ้งทางกล่องข้อความแล้วครับ

 

ติดต่อได้ที่อาจารย์อ่าง อชิโต 08-9129-0867. หรือเฟสไปที่ท่านได้โดยตรงเลยครับ

 

ผมนี้ถึงกับหวั่นไหวตามไปบูชาเลยทีเดียว ขอบคุณที่แนะนำของดีครับ