พระสมเด็จเกศไชโย หลวงปู่พวง, ตะกรุดคอแมวหลวงปู่จันทร์หอม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 12 มกราคม 2019.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    -ab-e0-b8-99-e0-b8-b8-e0-b8-99-e0-b8-97-e0-b8-a3-e0-b8-b1-e0-b8-9e-e0-b8-a2-e0-b9-8c-jpg-jpg-jpg.jpg
    -94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-99-e0-b9-89-e0-b8-b211-jpg-4092710-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg -94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-b1-e0-b8-8711-jpg-4092711-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    รายการที่ 1.พระหนุนทรัพย์ รากฐานมั่นคง หลวงพ่อหนุน บูชา 250 บาท EMS 50 บาท

    พระหนุนทรัพย์ รากฐานมั่นคง ที่ระลึกงานวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ วัดป่าพุทธโมกข์ อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร

    มวลสารพระหนุนทรัพย์ รากฐานมั่นคง หลวงพ่อหนุน :

    1.ผงศักดิ์สิทธิ์ มหาโภคทรัพย์
    2.เทียนชัยหลวงพ่อหนุน
    3.รัตนะนาคาธาตุ
    4.สายสิญจน์ พุทธาภิเษก หลวงพ่อหนุน 17/01/2556
    5.ปฐวีธาตุ มหาโภคทรัพย์
    6.มวลสารมงคล 500 ชนิด
    7.แร่ทรหด ร่ำรวย
    8.ทรายเสก องค์หลวงพ่อวัดท่าซุง (ทัน กันภัย)
    9.แร่พิเศษ หลวงพ่อหนุน มหาอำนาจ

    เปิดดูไฟล์ 4100167 เปิดดูไฟล์ 4100168 เปิดดูไฟล์ 4100169 เปิดดูไฟล์ 4100170 เปิดดูไฟล์ 4100171 เปิดดูไฟล์ 4100172 เปิดดูไฟล์ 4100174 เปิดดูไฟล์ 4100175 เปิดดูไฟล์ 4100176

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2019
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    พระเครื่องและวัตถุมงคล ที่ให้เช่าบูชา รับประกันแท้ 100%

    ท่านที่สนใจเช่าบูชา ลงจองในกระทู้นี้ได้เลยครับ หรือติดต่อหาผมทางมือถือ หรือทาง PM ครับ

    ท่านที่ได้จองเอาไว้ จองได้ 3 วัน ถ้าเลยกำหนดแล้วไม่ได้โอนเงิน ก็ขอยกเลิกสิทธิ์การจอง

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง EMS = 50 บาท


    บัญชีสำหรับโอนเงินนะครับ : ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 129-5-235657 ชื่อบัญชี เมธา รุ่งพัฒนพันธ์


    ติดต่อหาผมได้ที่ มือถือ 081-2670895
    เมธา.
     
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-99-e0-b9-89-e0-b8-b2-jpg-jpg.jpg
    0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-b1-e0-b8-87-jpg-jpg.jpg

    รายการที่ 2. สมเด็จมหาจักรพรรดิ์แหวกม่าน หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน บูชา 399 บาท EMS 50 บาท (ปิดรายการให้คุณ Supashine)

    สมเด็จมหาจักรพรรดิ์แหวกม่าน หลวงปู่ทรง วัดศาลาดิน แหวกออกจากอุปสรรค์ ทุกข์ โศก โรคภัยทั้งปวง

    หลวงพ่อทรง ท่านให้ทัศนคติเกี่ยวกับการสร้าง “พระสมเด็จแหวกม่าน” ของท่านว่า " เหตุใดพระองค์เล็กๆเนื้อผงธรรมดา จึงมีอานุภาพตัดกรรม หรือช่วยผู้บูชาให้พ้นจน พ้นทุกข์ไปได้ " ว่าหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั้นเป็นหลักใหญ่ เป็นกฎแข็งที่ไม่มีใครมาเปลี่ยนได้

    ที่นี้ หากเราไม่เคยทำบุญทำทานไว้เมื่อชาติปางก่อนเลย ไม่เคยสนใจเรื่องศีล สมาธิ หรือสัมมาทิฐิเลย ผลที่ตามมาก็คือ เราต้องเป็นคนยากจนแน่ๆ อันว่าคนยากจนก็มีหลายประเภท ประเภทที่แย่ที่สุดคือ เมื่อเกิดมาเป็นคนยากจนแล้วยังไม่พอ ยังดื้อดึง ไม่เคารพพระศาสนาอีก ผลของการไม่มีสัมมาทิฐิในชาติปางก่อน ก็จะทำให้ไม่ขวนขวายหากิน หาอยู่ ไม่มุ่งในการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ หากินไม่ไกลเกินตัวคือหากินพอกันอดตายเท่านั้น บางคนเป็นขอทาน ต้องตากแดดร้อนกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ตกเย็นก็นำเงินไปซื้อเหล้ามากินหมด อย่างที่โฆษณาเขาว่า จน เครียด กินเหล้า นั้นแหละครับ หากเลิกกินเหล้าก็เลิกจนไประดับหนึ่งแล้ว

    หากเราเคยสนใจในเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา ในชาติก่อนมาบ้าง หรือเคยทำบุญในพระศาสนาอยู่บ้างสิ่งเหล่านี้จะรักษาตัวเรา แม้ว่าจะเกิดมายากจนอย่างไร ก็จะพยายามขวนขวายหากินสร้างตนเองและหากเรามีบุญเกี่ยวเนื่องกับพระทรงศีล ทรงอภิญญาองค์ใดแล้ว อำนาจบุญก็จะชักนำให้เราได้มารักกระแสแห่งอภิญญาญาณของท่านเองโดยอัตโนมัติ

    อำนาจของพระที่มีศีล มีการเจริญสมาธิ ปัญญา จะช่วยผู้เคารพเลื่อมใส ในหลายประการ เช่น ช่วยตัดกรรมเก่าที่ไม่หนัก ให้ขาดได้ หรือทำกรรมหนักให้เบาบางลงมาได้ บางครั้งพระองค์นั้นบำเพ็ญบารมีด้านทานมามาก ผลของทานก็จะช่วยให้เราผู้เลื่อมใสทำมาหากินเจริญก้าวหน้าไม่ฝืดเคือง เมื่อเราตั้งตัวได้ด้วยกระแสอภิญญา กระแสบารมี ของพระที่เราเข้าไปอยู่ใต้รอยบาท เราก็จะทำบุญทำทานสั่งสมไว้ในภายภาคหน้าต่อไปอย่างไม่รู้จบ หลวงพ่อทรงท่านใช่คำว่า หากไม่เคยเกิดมาเกื้อกูลกันมาก่อน แม้ชาตินี้พบเจอกัน ก็จะไม่เลื่อมใสศรัทธา พบเห็นพระอยู่ตรงหน้า ก็จะไม่เห็นความสำคัญถือว่าไม่ใช่ของของเขา แต่หากเคยมีความผูกพันกัน ให้ยากเย็น ไกล ใกล้แค่ไหนเขาก็มาเอาของของเขาไปจนได้


    ***พระพิมพ์แหวกม่านนี้ เป็นพระที่ฝืนดวงได้ แหวกทุกข์ แหวกโศก และแหวกอุปสรรคทั้งปวง ดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง พระอริยเจ้าหลายท่านสร้างพระพิมพ์แหวกม่านไว้เพื่อจุดประสงค์ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น พระแหวกม่านของหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม พระแหวกม่านของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระแหวกม่านผสมผงสมเด็จชองหลวงพ่อนาค วัดระฆัง หรือพระกรุเช่น พระพิมพ์แหวกม่านของวัดท้ายตลาดเป็นต้น ผู้มีไว้บูชาและนับถือจริงล้วนแต่ประสบความสำเร็จในชีวิตกันทั้งสิ้น

    หลวงพ่อทรง ท่านเล่าเรียนวิชาจากสายหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ซึ่งได้ตกมาจนถึงหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เขาว่า หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขาเป็นพระทรงอภิญญาจิตชั้นสูง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ก็เคยไปเรียนการทำผงจินดามณีในสายหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา หลวงพ่อทรง ท่านได้รับสืบมาจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เพราะท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อมุ่ยหลายครั้งด้วยกัน


    ***พุทธคุณ ท่านทำให้เน้นไปทางด้าน แหวกทุกข์ แหวกโศก แหวกโรคภัย แหวกอุปสรรค อันตราย ดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง เหมือนชื่อพระ นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของผงฝืนดวง ค้ำดวง ทำให้ผู้บูชามีดวงดี ไม่ตกไม่ต่ำ ถึงคราวจนก็จนไม่นาน ถึงคราวดวงตกก็ไม่ตกจนถึงต่ำ จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเขา ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่หลวงพ่อพูดนะครับ พวกผมพูดเอง

    ***แต่หลวงพ่อท่านเคยบอกว่าพระแหวกม่านของท่านทำดีไม่แพ้ของเก่า หลายคนใช้พระแหวกม่านของหลวงพ่อทรงแล้ว บอกว่าดีมาก ถึงขนาดศิษย์ชัยนาทบอกว่า พระแหวกม่านของหลวงพ่อกวยหาไว้ขายต่อ เพราะได้ราคาดีเหลือเกินพระแหวกม่านของหลวงพ่อทรงการันตีไว้ใช้ดีเหลือเกินเช่นกัน


    ***พระสมเด็จมหาจักรพรรดิ์แหวกม่าน เนื้อน้ำตาลเข้มมวลสารผงพุทธคุณของหลวงพ่อทรง ผงพระแหวกม่านของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ฯลฯ พุทธคุณดีทางด้าน แหวกออกจากทุกข์โศกโรคภัย แหวกออกจากอุปสรรค์ เจริญก้าวหน้า ป้องกันและคุ้มครอง เสริมชะตาบารมี โชคลาภค้าขายดี ลองเอาไปใช้ดูครับ แล้วชีวิตคุณจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้น

    ***พระสมเด็จมหาจักรพรรดิแหวกม่าน ของหลวงปู่ทรง วัดศาลาดิน ด้านหลังเป็นยันต์เต่าเรือนลูกศิษย์สายวัดศาลาดินจะทราบกันดีว่าหลวงพ่อดังเรื่องวิชาจักรพรรดิ์วิชาเทพรัญจวนและเต่าเรือนสุดๆครับ วัตถุมงคลหลายชนิดของหลวงปู่เป็นที่เสาะแสวงหากันโดยทั่วไปบางอย่างมีราคาสูง บางอย่างหายาก บางอย่างมีปลอมมีเสริม แต่วัตถุมงคลพระสมเด็จมหาจักรพรรดิแหวกม่านนี้ เป็นของแท้จริงไม่มีปลอมไม่มีเสริม ค่าบูชาไม่แพง หลวงปู่ปลุกเสกหลายวาระ ตั้งแต่มวลสารเข้าพิธีต่างๆมามากกว่า9ปีผ่านพระเกจิคณาจารย์มามากกว่า1000ท่าน สำเร็จมาเป็นรูปลักษณ์แล้วหลวงปู่ยังเสกหลายวาระตั้งแต่ประมาณท้ายปี48-ปี49 50 ทั้งที่วัดศาลาดิน และที่กรุงเทพฯ


    เครดิตข้อมูล : เว็บพญาหงส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2019
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87111-jpg.jpg
    0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2111-jpg.jpg
    0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87111-jpg.jpg

    รายการที่ 3.เหรียญเจ้าสัว ครบ ๗ รอบ หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก บูชา 280 บาท EMS 50 บาท (ปิดรายการ)

    เหรียญเจ้าสัว ครบ ๗ รอบ (ปี ๒๕๓๗) หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมกล่องเดิมๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2019
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    a1-jpg-4118653-jpg-jpg.jpg

    หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี


    พระครูสุจิณธรรมวิมล หรือ หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อ ดังวัดเนินตามาก ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นามเดิม นายม่น นามสกุล วิญญาณ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ ตรงกับวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2453 โยมบิดาชื่อ มา โยมมารดาชื่อ แดง มีพี่น้องรวมกัน 3 คน คือ 1.นางเทียม เอมเปีย 2.หลวงปู่ม่น 3.นางย้อย โบราณ

    ในวัยเยาว์ โยมบิดามารดา นำไปฝากเรียนกับพระที่วัดใกล้บ้าน ศึกษาอักขระสมัย เนื่องจากท่านเป็นผู้มีจิตใจอ่อน โยน โอบอ้อมอารี สนใจใฝ่เรียน มีความพยายามและอดทนเป็นเยี่ยม ทำให้พระอาจารย์ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างเต็มกำลัง จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น ด้านอักษร การแพทย์แผนโบราณ และการช่าง
    เนื่องจากท่านเป็นบุตรชายคนเดียว จึงถือเป็นหลักของครอบครัว ขยันขันแข็ง ประกอบสัมมาอาชีพช่วยเหลือโยมบิดามารดาทำให้ครอบครัวมีฐานะมั่นคงในเวลาต่อมา มีที่นาทำกินเป็นของตนเองจำนวนพอสมควรจนกระทั่งอายุได้ 29 ปี ท่านจึงได้ขอบรรพชาอุปสมบท ในวันเสาร์ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2481 ณ พัทธสีมาวัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี

    มี พระครูสังวรศีลาจารย์ วัดหลวงพรหมาวาส ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ วัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูอาจารสุนทร วัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัส นิคม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า "ธัมมจิณโณ" เมื่อได้อุปสมบทแล้ว ได้พำนักที่วัดโคกเพลาะระยะหนึ่ง จึงได้ย้ายไปจำพรรษา ที่วัดเนินตามาก เริ่มศึกษาเล่าเรียนคันธุระและวิปัสสนาธุระอย่างจริงจัง เคร่งครัด ประกอบคุณงามความดีตามความเหมาะสมของเพศสมณะ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัยตั้งแต่เริ่มอุปสมบท ศึกษาปริยัติธรรม เข้าสอบนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ตามลำดับ มีความสามารถในการจำและสวดพระปาฏิโมกข์ได้ จนมาทำการค้นคว้าด้วยตนเอง ฝึกการปฏิบัติจิตและกัมมัฏฐาน

    เพื่อหลุดพ้นอย่างจริงจังเมื่ออุปสมบทได้ 5 พรรษา จึงได้ออกธุดงค์เพื่อหาประสบการณ์ไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น พระพุทธบาท สระบุรี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นต้น

    ท่านเล่าว่า ไปศึกษาวิชาธรรมกายกับ หลวงพ่อสด วัดปาก น้ำ (สมัยที่หลวงพ่อสดยังมีชีวิตอยู่) แต่เมื่อปฏิบัติได้ 7 วัน ท่านบอกว่าไม่ถูกกับจริต เลยขอลาไปที่อื่นต่อมาภายหลังท่านได้ฝากตนเป็นศิษย์ พระสมุห์บุญยิ่ง วิริโย ที่วัดเขาบางพระ อ.ศรีราชา รับคำแนะนำสั่งสอนในการปฏิบัติอันเป็นไปด้วยธาตุและจริตเป็นหนึ่งเดียวกัน

    นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาด้านเวชกรรมจากพระสมุห์บุญยิ่งเพิ่มเติมจนมีความเชี่ยวชาญ ต่อมา พระสมุห์บุญยิ่ง ได้ชักชวนหลวงปู่ม่น ออกธุดงค์หาสถานที่ปฏิบัติวิเวก เป็นสัปปายะ จนได้พบถ้ำจักรพงศ์ บนเกาะสีชัง ทั้งอาจารย์และศิษย์จึงได้พำนักอยู่ ณ ที่นี้ จนหลวงปู่ม่นเกิดความก้าวหน้าทางจิตเป็นอย่างมาก

    ปี 2490 พระอธิการกี่ เจ้าอาวาสวัดเนินตามาก ได้ลาสิกขา ทางคณะสงฆ์ และอุบาสก อุบาสิกาได้มาอาราธนานิมนต์หลวงปู่ม่น กลับไปเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด สั่งสอนภิกษุ สามเณร และ อุบาสก อุบาสิกาสืบต่อไป เมื่อหลวงปู่ม่นเป็นเจ้าอาวาส ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทำนุบำรุงวัดเนินตามากให้เจริญรุ่งเรือง สร้างถาวรวัตถุ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ วิหาร ฯลฯ

    นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนาท้องถิ่น ทำถนน ไฟฟ้า สร้างโรงเรียน ตั้งกองทุนมูลนิธิต่างๆ ให้การศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร สอนนักธรรม พระนวกะ ส่งเข้าสอบนักธรรมสนามหลวงทุกปี หลวงปู่ม่นเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาศิษย์ เสียสละ สร้างคุณงามความดี ให้แก่พระพุทธศาสนาและท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของสาธุชนทั่วไป ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ม่นมากที่สุด คือ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ส่วนเหรียญที่มีประสบการณ์มากที่สุด คือ "รุ่นเจริญพร" ซึ่งเป็นรุ่นที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่บูชาติดตัวมากที่สุด

    ปี 2529 คณะสงฆ์ได้พิจารณาขอพระครูชั้นโทที่ พระครูสุจิณธรรมวิมล ปี 2523 หลวงปู่ม่นได้อาพาธด้วยโรคอัมพฤกษ์ เข้า รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนัสนิคม เกือบหายเป็นปกติ จึงกลับมาพักฟื้นที่วัด จนกระทั่งปี 2537 ท่านอาพาธหนักอีกครั้ง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง 8 เดือน จึงสามารถกลับมาอยู่วัด

    หลังจากนั้น ท่านก็อาพาธเป็นๆ หายๆ เข้าออกโรงพยาบาลสมิติเวช กระทั่งมรณภาพด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค.2541 เวลา 18.00 น. สิริอายุได้ 88 ปี 5 เดือน 24 วัน พรรษา 60

    เรื่องเล่าของน้องที่เคยเป็นศิษย์ท่าน

    หลวงปู่ม่น ท่านเป็นพระเกจิดัง อีกท่านหนึ่งของชลบุรี สมัยก่อนตอนท่านยังอยู่ดังมากเรื่องแก้คุณไสย ไล่ผี ถ้าไปรักษาที่ไหนไม่หาย มาหาท่านแล้วหายทุกราย ขนาดหลวงพ่อเอียตอนท่านอายุมากแล้ว มีคนมาให้ท่านไล่ผีที่สิงในร่างคนท่านยังแนะนำให้ไปหาหลวงปู่ม่นเลย หลวงปู่ม่นท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชาวบ้านมาตามจับหมาที่ไปกัดเป็ดชาวบ้านและหนีมาอยู่ข้างกุฏิท่าน จะเอาไปยิงทิ้ง พอมาขออนุญาตท่านเพื่อไปจับหมา พร้อมกับเล่าเรื่องให้ท่านฟัง ท่านบอกว่า เดี๋ยว... แล้วท่านก็เอาข้าวให้หมากิน พอชาวบ้านเอาหมาออกไปพ้นเขตวัด แล้วเอาปืนมายิงหมา ปรากฏว่ายิงยังไง ก็ยิงไม่ออก กระสุนด้านทุกนัด เลยต้องกลับมาขอขมาท่าน แล้วก็เลยเลิก ไม่ยิงหมาแล้ว ให้อภัยมัน... สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิต มีประสบการณ์ทุกรุ่น ไม่เว้นแม้แต่ภาพถ่ายของท่าน เคยมีคนเอาภาพถ่ายของท่านไปผูกคอไก่ แล้วลองยิงห่างแค่ 2 ฟุต ยังยิงไม่โดนเลย ยิงยังไงก็ไม่โดนครับ มีอยู่รายหนึ่งโดยควายขวิดจนกระเด็น แต่ก็ไม่เป็นไร หรือบางคนโดนหมากัดก็ไม่เข้าบางคนขณะออกไปทำไร่ ทำนา ก็ไปเหยียบ งูเห่าเข้า แทนที่จะฉก กลับกลายเป็นเลื่อยหนีหายไปเองอย่างน่าอัศจรรย์

    เครดิตข้อมูล : http://boonvithee.blogspot.com/2011/09/25.html
     
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B211-jpg.jpg E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%8711-jpg.jpg
    %E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B211-jpg.jpg
    %E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B211-jpg.jpg a1-jpg.jpg a2-jpg.jpg
    รายการที่ 4.เหรียญพระเจ้าสัวมหาลาภ บูชา 299 บาท EMS 50 บาท (ปิดรายการให้คุณ Supashine)

    พระเจ้าสัวมหาลาภ เนื้อโลหะชนวนล้วนๆ

    ที่ระลึกสร้างศาลาครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง
    ณ พุทธสถานพระพุทธบาทเขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ พ.ศ.2556

    สร้างเพียง 158 เหรียญเท่านั้น ติดเกศา/จีวร ครูบากฤษดา
    ตอกโค๊ดและหมายเลขกำกับ (เลข ๑๐๖)

    อธิษฐานจิตเดี่ยวโดย ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) จังหวัดลำพูน


    แผ่นยันต์จำนวน ๒๐๐ กว่าแผ่น ตะกรุดโทน หลวงพ่อพระมหาสิงห์ ถ้ำป่าไผ่
    และชนวนแผ่นยันต์ต่างๆ ชนวนพระกริ่งทุกรุ่นที่สร้าง
    ชนวนพระกริ่งพระพุทธสิขีทศพลที่ ๑
    ชนวนพระกริ่งชินบัญชรเงินล้านพระกริ่งปวเลศสิริวิชโย
    ชนวนพระกริ่งจตุรพิธพรชัย
    ชนวนพระขรรค์จักรพรรดิปราบไพรีพินาส
    ชนวนมีดฟ้าฟื้น
    ชนวนพระกริ่งชินบัญชรมหาโภคทรัพย์
    ชนวนพระกริ่งเจริญลาภยศบารมี
    ชนวนพระโคมหาลาภ
    ชนวนสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุง
    ชนวนพระมหาจักพรรดิวัดท่าซุง
    ชนวนแร่โคตรเศรษฐี
    ชนวนตะกรุดมหามงคลครอบจักรวาล
    ชนวนแผ่นยันต์ต่างๆ
    ชนวนสมเด็จองค์ปฐมวัดพุทธโมกข์
    ฯลฯ

    จัดสร้างโดยคุณวุฒิพงษ์ เว็บพลังจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2019
  7. Supashine

    Supashine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +762
    จองรายการที่4
     
  8. Supashine

    Supashine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +762
    จองรายการที่2 ครับ
     
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    รับทราบครับ
     
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-jpg.jpg
    7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-jpg.jpg
    3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%97-jpg.jpg
    7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87-jpg.jpg
    รายการที่ 5. เหรียญหลวงปู่เรือง อาภัสสะโร รุ่นเจริญรุ่งเรือง ๙๕ บูชา 300 บาท EMS 50 บาท (ปิดรายการ)

    เหรียญหลวงปู่เรือง อาภัสสะโร รุ่นเจริญรุ่งเรือง ๙๕ หลังเจ้าพ่อพระกาฬ เขาสามยอด จ.ลพบุรี ปี ๒๕๕๐ เนื้อทองแดง

    ที่ระลึกฉลองอายุครบ ๙๕ ปี ๗๕ พรรษา เนื้อทองแดง สภาพสวย พร้อมใบรับรองการผลิต

    ด้านในของใบรับรองการผลิต จะมีคาถาเพิ่มพลังจิต เทพนิมิตคุ้มครอง หลวงปู่เรือง อาภัสสะโร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2019
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    ประสบการณ์ของท่านที่บูชาพระเครื่องวัตถุมงคล หลวงปู่เรือง อาภัสสะโร

     
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    ประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงปู่เรือง อาภัสสะโร

    วัตถุมงคลของหลวงปู่มีประสบการณ์มากในทุก ๆ ด้าน ที่ผ่านมา มีทั้งแคล้วคลาด เมตตา ค้าขาย กันภัยอันตราย มหานิยม ฯลฯ ล้วนเรียกว่า “ไม่เป็นสองรองใครเลยมีเดียว” จึงเป็นที่ชื่นชอบของลูกศิษย์ลูกหานักสะสมเป็นอย่างยิ่ง

    ประสบการณ์ต่างๆ นั้น มีตั้งแต่ยิงไม่ออกเลยสักนิด เรียกว่าแคล้วคลาดชั้นยอด อุบัติเหตุขนาดรถคว่ำ 3-4 ตลบ รอดมาได้โดยไม่เป็นอะไรเลย

    หรือเมตตาขึ้นโรงขึ้นศาลชนะคดีความค้าขายคู่แข่งปิดร้านกันเลยก็มี เป็นที่ประจักษ์แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหากันมากมายหลายรายทีเดียว ล้วนบอกกันได้คำเดียวว่า “แจ๋วจริงๆ”

    ชาวต่างชาติแท้ ๆ ยังยอมรับในอภินิหารแห่งวัตถุมงคลของหลวงปู่เรือง ถึงขนาดขึ้นเขามาเพื่อกราบหลวงปู่ และขอบูชาวัตถุมงคลไปไว้สักการบูชามากมายทีเดียว ทั้งที่สั่งบูชามาทางธนาณัติจากต่างประเทศก็มีมาก

    หลังจากที่ผู้เขียน ได้นำเรื่องราวของหลวงปู่เรือง ลงพิมพ์ในนิตยสาร “ปรกโพธิ์” มาหลายตอนในช่วงปี 2538-39 แล้ว ก็ได้นิตยสารและหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น ๆ นำข่าวนี้ไปลงซ้ำอีกหลายฉบับ ทำให้ผู้คนรู้จักหลวงปู่เรืองมากขึ้น ๆ ขยายแวดวงกว้างออกไปมากขึ้น มีผู้คนแห่แหนกันไปขึ้นเขาสามยอดทุกวัน วันละหลายๆ คณะ ในวันเสาร์อาทิตย์ มีมากเป็นพิเศษ จนลาดวัดแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาจากทั่วทุกสารทิศ

    ฉะนั้น ถ้าพูดถึงพลังจิต พลังญาณ พลังเมตตาแล้วละก็ เรียกว่า ในยุคนี้พระเกจิอาจารย์ อย่างหลวงปู่เรือง ไม่เป็นรองใครแน่ๆ

    ดังจะเห็นได้ว่า วัตถุมงคลที่หลวงปู่ปลุกเสกออกมาในแต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์มาก เป็นที่ประจักษ์ของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาไม่ว่าทางแคล้วคลาดมหาอุด มหานิยม ทางเมตตาด้านค้าขาย ล้วนแต่ชั้นเลิศทั้งสิ้น
     
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A21-jpg.jpg
    %E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%872-jpg.jpg
    4%E0%B9%87%E0%B8%88-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-jpg.jpg
    4%E0%B9%87%E0%B8%88-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-jpg.jpg
    b8-b1-e0-b8-a2-e0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-99-e0-b9-89-e0-b8-b211-jpg-jpg.jpg
    b8-b1-e0-b8-a2-e0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-b1-e0-b8-8711-jpg-jpg.jpg
    b8-b1-e0-b8-a2-e0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-a5-e0-b9-88-e0-b8-b2-e0-b8-8711-jpg-jpg.jpg
    รายการที่ 6. พระเครื่องครูบาเหนือชัย โฆสิโต (พระชุดที่ระลึกงานออกนิโรธกรรม ประจำปี 2556) บูชา 1,099 บาท (ปิดรายการ)

    พระชุดที่ระลึกงานออกนิโรธกรรม ประจำปี 2556 ครูบาเหนือชัย โฆสิโต สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย (พร้อมกล่องเดิมๆ) ประกอบไปด้วย :

    พระสมเด็จองค์ปฐม หลังยันต์เกราะเพชร(วัดท่าขนุน ปี 53) จำนวน 5 องค์ + พระกริ่งโฆสิโต รุ่นหนึ่ง(นิโรธฯ56) จำนวน 1 องค์ + พระสมเด็จลอยฟ้า (รุ่นจันทร์เพ็ญ 55) จำนวน 5 องค์ รวมทั้งหมด 11 องค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2019
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    แยกจิตออกจากกาย

    ปฏิบัติการด้วยการแยกจิตออกจากกาย

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ขณะที่กำลังนั่งสมาธิบนโขดหินโดยอธิษฐานว่า “จะขอนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะบรรลุธรรม แม้ตายก็จะไม่ลุกจากที่นี่” นั่งนิ่งอยู่ 15 วัน จนผึ้งมาเกาะทำรังตามเนื้อตัว รู้สึกเจ็บจึงพยายามแยกความรู้สึกของกายออกจากจิต มาบวชนี้ก็ต้องการความพ้นทุกข์แล้ว เจ้ากรรมนายเวรอยู่ที่ไหนก็แห่กันมาเลย มาเอาไปเลยทั้งต้นทั้งดอก สักพักมาจากไหนไม่รู้ มาตอมเลย กระดุกกระดิดฟุ้งซ่านมันต่อยเอา เอ้า!บทไหนก็จะตายแล้ว ปวดๆ เมื่อยๆ ไปหมดเลย กระดูกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ลุกก็ลุกไม่ได้ผึ้งตอมอารมณ์ใจเวลาคนธาตุขันธ์จะแตก เขาเรียกว่ายางคางคกมันออก เขาเรียกคราวตาย ตาฝ้าฟางเสลดจุกติดคอหายใจไม่ออก กระดูกกระเดี้ยวคาถาบทไหนก็เอาไม่อยู่ จะตายแล้ว ชินบัญชรก็เอาไม่อยู่ อิติปิโสก็เอาไม่อยู่ บทไหนๆ ก็ไม่อยู่แล้ว ตายแน่ๆ ก็เลยภาวนาบทหายใจเข้าตายแน่ หายใจออกตานแน่ แม้กายจะเจ็บแต่จิตนิ่งใสสว่าง ความเจ็บก็ทุเลาลง นั่งจนหมดสติไป ในฝันได้เห็น “หลวงปูเกษม” ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง มาบอกว่า นี่คือการเข้านิโรธสมาบัติ แยกจิตกับกาย และให้หมั่นเพียร นั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการบรรลุธรรม

    เมื่อแยกจิตออกจากกายได้แล้ว ให้แยกจิตออกจากเวทนา แรกๆ มันไม่อยากจะแยกออกจากเวทนา เพราะมันเป็นเพื่อนก่ากันมาหลายภพหลายชาติ เวทนามีทั้งทุกข์และสุข แต่จิตต้องการความสุข เมื่อมีความสุขก็ดีใจ เมื่อเจอความทุกข์ก็โวยวาย ต้องเอาจิตคบกับเพื่อนใหม่ เพื่อนใหม่ของจิตนั้นคือสมาธิ แรกๆ ไม่อยากจะคบหรอก เพราะสมาธิมันหยุด มันนิ่ง มันสงบ ไม่อยากจะคบ เพราะไม่เคยคบ คบแต่เวทนา

    ทีนี้เมื่อใจหยุด ใจนิ่ง เมื่อนิ่งได้ 10 วินาที ก็สงบ เมื่อสงบได้ 2 นาทีก็เป็นสมาธิ เป็นสมาธิได้ 2 ชั่วโมงก็เป็นสมาบัติ พอเป็นสมาบัติ 3 วัน ขึ้นไปก็เป็นนิโรธสมาบัติ เมื่อเป็นนิโรธสมาบัติเสร็จแล้วก็เข้าสู่วิมุตติ หลุดออกจากโลกธรรม 8 หลุด ออกจากกาย ขันธ์ 5 เข้าสู่วิมุตติญาณทัสสนะญาณรู้ทัสสนะตัวเองก็พบเชาว์พระนิพพาน เชาว์พระนิพพานมีพระวรกายเหมือนพระประธานเป็นกายแก้ว เมื่อเข้ามาใกล้ๆ เราแล้วนี่เป็นกายที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ เป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเต้มไปหมด หัวเราะชอบใจเสร็จแล้วค่อยๆ เดินห่างไปกลายเป็นกายแก้วทีละองค์ๆ เต็มป่าเต็มเขาไปหมด


    เครดิต : แยกจิตออกจากกาย ครูบาเหนือชัย
     
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    นักบุญแห่งขุนเขา

    art_41957004-jpg.jpg

    ได้รับการขนานนามว่า “นักบุญแห่งขุนเขา”

    หลายคนมักจะคุ้นตากับภาพที่ครูบาขี่ม้าบิณฑบาต จนหลายคนเรียกติดปากว่า “ครูบาขี่ม้า” ครั้งแรกเลยไม่เคยมีความคิดจะใช้ม้าในการออกรับบิณฑบาตหรอก แต่มีชาวบ้านมาบนขอให้หายป่วย พอหายป่วยก็เลยเอาม้ามาแก้บน ชาวบ้านเอาม้ามาแก้บน เลยต้องเลี้ยงไว้เพราะเขาเอามาถวาย เราเป็นพระไม่รับก็ไม่ได้

    เหตุที่ต้องขี่ม้าบิณฑบาตรนั้นก็เพราะแต่ละหมู่บ้านอยู่ห่างไกลกันมาก ต้องเดินทางข้ามเขาเป็นลูกๆ การเดินด้วยเท้าจะลำบาก ยิ่งหน้าฝนทางเดินลื่นมาก การใช้ม้าช่วยให้การออกรับบาตรสะดวกมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ครูบามีโอกาสได้ไปเผยแผ่หลักธรรมตามหมู่บ้านชาวเขาในแนวชายแดนที่ห่างไกลอีกด้วย ส่วนในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่ที่พระขี่ม้า ครูบาเห็นว่าน่าจะดูที่การปฏิบัติกิจของสงฆ์มากกว่า

    ครูบาใช้ม้าเพื่อเผยแผ่ศาสนาในโครงการ “มิตรมวลชน คนชายแดน” ที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงรับเป็นองค์สังฆราชูปถัมป์โครงการนี้ด้วย มีเนื้อที่ในการดูแลรักษาผืนป่าอย่างเป็นทางการ จำนวน 880 ไร่ และอีกจำนวน 400 ไร่ เป็นผืนป่าเสื่อมโทรมที่เป็นต้น้ำลำธาร (ที่รอการรับรองจากกรมป่าไม้)

    โดยปัจจุบันได้จัดตั้งโครงการอนุรักษ์ม้าไทย โดยมีม้าในความดูแลทั้งสิ้น 200 กว่าตัว นอกจากนี้ยังมีโค – กระบือ อีก 10 ตัว มีคนงานชาวเขาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถึง 60 คน ซึ่งม้าดังกล่าวนั้นครูบาอนุญาตให้ชาวเขา ข้าราชการครู ตำรวจ และทหารในพื้นที่หยิบยืมไปใช้ได้ การใช้ม้าจึงมีความสะดวกในการเดินทางเกือบ 17 ปี ของการออกธุดงค์ เผยแผ่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าตามชายแดนไทย – พม่า โดยไม่แบ่งชาติพันธุ์

    ในที่สุดก็ได้รับขนานนามว่า “นักบุญแห่งขุนเขา” จากเจ้าหน้าที่ที่ร่วมงานกันในโครงการ “มิตรมวลชน คนชายแดน” ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังเฉพาะกิจกรมการทหารราบที่ 17 กองพันที่ 3 (ฉก.ร.17 พัน 2) ตั้งให้ เพราะเห็นว่าครูบาเป็นพระที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่า เผยแผ่ธรรมะอยู่ในป่า

    เครดิต : นักบุญแห่งขุนเขา
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    จัดส่งไปให้แล้วครับ

    รหัสตรวจสอบพัสดุ EMS = EU993852158TH

    ขอบคุณครับ
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    พระนาคปรก ด้านหน้า.jpg
    พระนาคปรก ด้านหลัง.jpg

    รายการที่ 8. พระนาคปรก หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ปี 2511 บูชา 830 บาท EMS 50 บาท

    พระนาคปรก หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ปี 2511 รุ่น 3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2019
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    รูปถ่ายแสตมป์ ปี 29 ด้านหน้า.jpg
    รูปถ่ายแสตมป์ ปี 29 ด้านหลัง.jpg

    รายการที่ 9. รูปถ่ายแสตมป์ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ปี 2529 บูชา 530 บาท EMS 50 บาท

    รูปถ่ายแสตมป์ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ปี 2529 ปั๊มตราวัด จัดสร้างโดยตระกูลสมสงวน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2019
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    1017-0562-jpg.jpg

    ชาติภูมิ
    พระครูนิสัยจริยคุณ ฉายา ปัญญาโร นามเดิมชื่อ วิสุทธิ์ นามสกุล แป้นโต แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อโอด" ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๘ เดือน ธันวาคม ๒๔๖๐ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเส็ง ณ บ้านเลขที่ ๑๐๓ หมู่ที่ ๗ (บ้านหัวเขา) ตำบลตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ บิดามารดาของท่านชื่อ นายชิต นางต่วน แป้นโต มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม ๗ คน

    การศึกษาเบื้องต้น
    ท่านสำเร็จการศึกษา วิชาสามัญประถมบิริธูรณ์ จากโรงเรียนวัดหัวเขา อำเภอตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

    1016-afc8-jpg.jpg
    อุปสมบท
    เมื่อวันเสาร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๔๘๑ ณ พระอุโบสถ วัดหัวเขา อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โดยมี
    ๑. พระธรรมไตรโลกาจารย์ (ยอด) วัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี เป็นพระอุปัชฌาย์
    ๒. พระครูนิปุณธรรมธร วัดตาคลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    ๓. พระครูพิพัทธศีลคุณ วัดหัวเขาตาคลี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    วิทยฐานะ
    พ.ศ. ๒๔๘๔ สอบได้นักธรรมเอก จากสำนักเรียนวัดมหาพฤฒาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

    สมณศักดิ์
    ๑) พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้น ตรี
    ๒) พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้น โท
    ๓) พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้น เอก
    ๔) พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้น พิเศษ

    1014-7dc0-jpg.jpg
    ด้านการศึกษาของภิกษุ-สามเณร
    - เป็นครูสอนนักธรรม ของวัดดอนยานนาวา เขตยานนาวา กรุงเทพฯ (ในสมัยที่พระอาจารย์กึ๋น เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนฯ)
    - เป็นครูสอนนักธรรม วัดหัวเขา และวัดหนองสีนวล อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
    - เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดจันแสน
    - เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง


    ความสัมพันธ์กับหลวงพ่อรุ่ง และหลวงพ่อเดิม
    หลวงพ่อโอด ท่านมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อรุ่ง แห่งวัดหนองสีนวลและหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ สองพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของอำเภอตาคลี ในฐานะที่เป็นหลานที่ใกล้ชิด กล่าวคือ โยมพ่อของหลวงพ่อโอด คือ นายชิต แป้นโต เป็นน้องชายแท้ๆ ของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล และแม่ของนายชิต แป้นโตและหลวงพ่อรุ่ง ก็เป็นพี่สาวโยมแม่ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ดังนั้นหลวงพ่อโอดท่านจึงเรียก หลวงพ่อรุ่ง และหลวงพ่อเดิมว่า "หลวงลุง"


    การศึกษาด้านพุทธาคม
    เมื่อท่านกลับจากการเป็นครูสอนนักธรรมที่วัดดอนยานนาว่าแล้ว ได้มาอยู่กับหลวงพ่อรุ่งที่วัดหนองสีนวล ซึ่งในระยะนี้เองที่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อรุ่ง โดยศึกษาคู่กับหลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร (พระครูวิจิตชัยการ) หลวงพ่อรุ่งได้เขี่ยวเข็ญ และพร่ำสอนท่านเป็นอย่างดี ซึ่งท่านได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ท่านเองได้ค่อยจะสนใจเรียนเท่าใดนัก แม้หลวงพ่อรุ่ง จะแสดงคุณวิเศษทางวิชาที่สอนให้ท่านดู ท่านก็ไม่ค่อยจะสนใจ จนหลวงพ่อรุ่งถึงกับเอ่ยปากต่อว่าท่านว่า ท่านเป็นพระหัวสมัยใหม่ สักวันหนึ่งจะต้องนึกถึงตัวท่านอยู่ศึกษาวิชากับหลวงพ่อรุ่ง จนกระทั่งหลวงพ่อรุ่งมรณภาพ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ท่านก็ได้รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองสีนวลต่อจากหลวงพ่อรุ่ง และในปีนี้เองชาวบ้านหนองสีนวล ชื่อนายอ๊อด ถูกลอบยิงด้วยปืนลูกซอง กระสุนฝังในทั้งเก้าเม็ด จะไปรักษาที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะเป็นยุคปลายสงคราม ญาติๆ ของนายอ๊อด จึงได้นำร่างที่บาดเจ็บของนายอ๊อดมาไว้ที่ศาลาวัดหนองสีนวล แล้วนิมนต์ท่านให้ทำการรักษาด้วยความจำเป็น ท่านจึงต้องรักษาให้ตามที่เขาขอร้อง โดยก่อนที่จะลงมือรักษาท่านได้จุดธูปอธิษฐานต่อหลวงพ่อรุ่งว่า "หากหลวงลุงต้องการใช้วิชานี้คงอยู่สืบไป ก็ขอให้ทำการรักษานายอ๊อดให้หาย หากรักษาหายจะเริ่มเรียน วิชาที่สอนให้ทั้งหมด" เสร็จแล้วท่านจึงทำน้ำมนต์ตามที่ได้เรียนมา แล้วนำไปให้นายอ๊อดดื่มและพรมตามบาดแผลที่ถูกปืน หลังจากนั้นท่านจึงได้เข้าจำวัดจนเช้ามืด ท่านได้ยินเสียงเรียกว่า หลวงน้า หลวงน้าผมไม่ตายแล้ว ท่านจึงลุกออกมาดู ปรากฏว่าเป็นนายอ๊อด ที่ท่านได้รักษานั่นเองผลออกมาว่าลูกปืนที่ฝังอยู่ในตัวนายอ๊อดทั้ง ๙ เม็ดไหลออกมาทั้งหมด และบาดแผลก็สมานกันดี เลือดหยุดไหล เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาท่าน ดังนั้นท่านจึงหันมาศึกษาวิชาของหลวงพ่อรุ่ง ทั้งหมดอย่างจริงจัง

    ส่วนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ระยะที่ท่านอยู่หนองสีนวล ท่านได้ไปมาหาสู่กับหลวงพ่อเดิมเป็นประจำ และหลวงพ่อเดิม ท่านก็มาหนองสีนวลอยู่เป็นประจำซึ่งท่านก็ได้ศึกษาวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อเดิม ทั้งที่วัดหนองโพและที่วัดหนองสีนวลต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดจันเสน หลวงพ่อเดิมท่านก็ได้ให้ทายกยิ้ม ทายกใหญ่วัดหนองโพ นำตำราต่างๆ ของหลวงพ่อเดิม ขึ้นรถไฟมาให้ท่านได้ศึกษาที่สัดจันเสนอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งหลวงพ่อเดิมมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๙๔

    จึงนับได้ว่า หลวงพ่อโอดท่านเป็นทั้งหลาน และเป็นทั้งศิษย์ ของสองพระเกจิอาจารย์ ที่โด่งดังและเกรียงไกรที่สุดของอำเภอตาคลีในยุคนั้น แต่ มิใช่ว่าจะมีอาจารย์ที่ท่านได้ศึกษาทางพุทธาคม เพียงแต่หลวงพ่อรุ่ง และหลวงพ่อเดิม เท่านั้นก็ไม่ ที่ผู้เขียนรู้จากคำบอกของท่านเองยังมีอยู่อีก ๒ องค์คือ

    - หลวงพ่อพรหม วัดช่องแคอำเภอ ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ยุค พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ท่านไปหาหลวงพ่อพรหมบ่อยๆ มาก ท่านบอกว่าท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อพรหม แต่ท่านไม่ได้บอกว่าไปเรียนวิชาอะไร แต่ที่รู้ๆ หลวงพ่อพรหมรักใคร่ในตัวหลวงพ่อโอดมาก ถึงกับยอมมาปลุกเสกวัตถุมงคลให้ที่พระอุโบสถวัดจันเสน ซึ่งหลวงพ่อพรหมท่านไม่เคยยอมไปปลุกเสกนอกวัดช่องแคเลย

    - หลวงพ่อเชน วัดสิงห์ ตำบล ทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ท่านไปอยู่เรียนกับหลวงพ่อเขน ที่วัดสิงห์เลย ท่านบอกว่า ท่านไปเรียนวิชาทำตะกรุดซึ่งหลวงพ่อเชน ท่านเก่งมากในเรื่องการทำตะกรุดโทน

    ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า พระอาจารย์ที่หลวงพ่อโอด ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนไสยเวท พุทธาคม มีอยู่ ๔ องค์คือ
    ๑. หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
    ๒. หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
    ๓. หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
    ๔. หลวงพ่อเชน วัดสิงห์ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

    ด้านวิปัสนากรรมฐาน
    หลวงพ่อโอดท่านเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านการปฏิบัติมาก ท่านศึกษามาจาก หลวงพ่อรุ่ง ต่อมาท่านได้ไปศึกษาต่อที่สำนักวิปัสนากรรมฐาน วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ และต่อมาในปี ๒๕๐๕ ท่านได้ไปศึกษาต่ออีกที่วิเวกอาศรม จังหวัดชลบุรี จนท่านมีความชำนาญ และมีพลังจิตที่กล้าแข็ง สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีต และในอนาคตอย่างแม่นยำ ในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ท่านได้เปิดสำนักสอนวิปัสนากรรมฐานขึ้นที่วัดจันเสน โดยท่านเป็นผู้สอน และในระยะเวลาที่เข้าพรรษาท่านจะนั่งปฏิบัติของท่านติดต่อกัน๗ วัน โดยไม่ลุกออกมาจากกุฏิเลย ผมในวัยที่ท่านชราภาพและป่วยก็จะปฏิบัติของท่านอยู่เสมอ ในตอนกลางคืนและตอนเช้ามืด แม้จะป่วยอยู่ในโรงพยาบาลก็ตาม

    ลูกอม และ สีผึ้ง สุดยอดวัตถุมงคล
    วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงมานานที่สุดของท่านคือ ลูกอม และสีผึ้ง ซึ่งท่านสร้างตามตำรับของหลวงพ่อรุ่ง มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกระพันอยู่พร้อม ลูกอมในสมัยหลวงพ่อรุ่งนั้นท่านบอกว่าจะต้องใช้วัสดุต่างๆ คือ ๑) ดิน ๗ เมือง ๒) ขี้ตะไคร่เรือจ้าง ๗ ท่า ๓) ขี้ตะไคร่เสาตะลุงช้าง ๗ เสา ๔) รังนกหัวหงอก ๕) ดินอุดโพรงนกเหงือก ๖) เทียนวิปัสสนา ๗) หนังสือ แต่ ในสมัยของท่านวัสดุบางอย่างหายากมาก จึงต้องใช้อย่างอื่นแทน และในการปลุกเสกทุกครั้ง ท่านจะนำเม็ดลูกอมของหลวงพ่อรุ่ง มาผสมปลุกเสกด้วยเสมอสีผึ้งและลูกอมวัดจันเสนนี้โด่งดังมาก ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ท่านสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเพียง ๓ ลูกเท่านั้น และนำติดตัวไปด้วยเสมอ ต่อมาท่านมีกิจนิมนต์ ท่านจึงไปพร้อมกับพระครูพยอม วัดราษฎร์บำรุง ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี ได้ไปยืนคอยเรืออยู่ริมแม่น้ำ เรือผ่านไปมาไม่มีแวะรับท่านสักลำ จนเวลาจะไม่ทันงานที่เขานิมนต์ ท่านจึงนำลูกอมที่ท่านสร้างมาเสกภาวนา พร้อมอธิษฐานว่าถ้าเรือมาขอให้จอดรับท่าน วิ่งไปจนระยะคุ้งน้ำงเลี้ยวกลับมารับท่านทั้งสอง เมื่อนิมนต์ท่านขึ้นเรือแล้วท่านก็ถามว่า "เมื่อกี้ทำไมไม่จอดรับต้องเลยไปก่อน" คนขับเรือตอบว่า "พอผมเลยไปถึงข้างหน้าแล้วพึ่งนึกขึ้นได้ว่าท่านทั้งสองจะไปไม่ทันฉันเพล จึงย้อนกลับมารับ" ดังนั้นการสร้างลูกอมจากวัดจันเสนจึงมีมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้จะสิ้นหลวงพ่อโอดไปแล้ว แต่ท่านพระครูนิวิฐธรรมขันธ์ (เจริญ) ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชานี้ไว้จากหลวงพ่อโอดไว้ จนมีความสามารถที่จะสร้างแจกแก่บรรดาผู้ที่ยังต้องการลูกอมของวัดจันเสนอยู่

    ทรายเสกที่ศักดิ์สิทธิ์
    ในห้องพระหลวงพ่อนาค วัดจันเสน จะมีกระถางธูปขนาดใหญ่ใส่ทรายไว้ตลอดเวลา ประชาชนที่มากกราบไหว้หลวงพ่อนาค และหลวงพ่อโอด จะต้องนำถุงใส่ทรายในกระถางธูปนี้กลับบ้านทุกคน เพราะทรายในกระถางธูปนี้ หลวงพ่อโอดท่านจะทำการปลุกเสกในตอนกลางคืนของทุก ๆ คืน เชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการคุ้มครองป้องกันไฟ โจรผู้ร้าย และภูตผีปีศาจ ได้อย่างดี วันหนึ่ง ๆ จะมีผู้นำทรายจากวัดจันเสนไปเป็นจำนวนมาก แม้ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้มานำทรายไปอยู่เช่นเดิม ท่านพระครูนิวิฐธรรมขันธ์ (เจริญ) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ท่านจะทำการเสกไว้ในตอนกลางคืนทุก ๆ คืน ท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อโอดไว้เช่นกัน

    ภาพยนตร์ ลิเก ต้องจ้างให้เลิก
    วัดจันเสนปกติจะมีงานประจำปีเพียงปีละ ๓ ครั้งเท่านั้นคือ ๑. งานคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อโอด ๒. งานวันสงกรานต์
    ๓. งานวันลอยกระทง ในงานประจำปีทุกครั้ง สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับงานนี้คือ ภาพยนตร์และลิเก ซึ่งที่วัดจันเสนนี้ ไม่เหมือนที่วัดอื่น ๆ เพราะ ภาพยนตร์ ลิเก ที่มาแสดงในวัดนี้ จะต้องจ้างให้เลิกแสดงทุกครั้งในวันสุดท้ายของงาน หากว่าหลวงพ่อโอดท่านไม่จ้างให้เลิกเล่นแล้ว ทั้งภาพยนตร์ ลิเก ก็จะเล่นอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าจะเช้า สายเพียงใด และเป็นเช่นนี้มากกว่า ๒๐ ปี แล้ว เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ ภาพยนตร์ ลิเก และประชาชนทั้งหลายเชื่อมั่นกันว่า จำนวนเงินที่หลวงพ่อโอดท่านจ้างให้เลิกแสดงนั้น จะไปตรงกับหวยที่ออกในงวดนั้น ๆ เสมอ

    มีเมตตาสูงยิ่ง
    หลวงพ่อโอดท่านเป็นพระที่มากด้วยเมตตา ท่านตัดแล้วซึ่งโกรธ โลภ หลง วันหนึ่ง ๆ ท่านจะนั่งคอยรับแขก อยู่ทั้งวัน ใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใจไปหาท่าน ท่านก็จะให้คำแนะนำที่ดีแก่เขาเหล่านั้น ไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะเป็น คนรวย คนจน ท่านอนุเคราะห์ให้แก่เขาเหล่านั้นเสมอกันทุกคน มีบางคนขึ้นไปขอเงิน ขอข้าวของต่างๆจากท่าน ท่านก็ให้โดยมิได้หวงแหน บางคนนำของมาเสนอขายให้ท่าน ท่านก็ซื้อไว้ทั้งที่รู้ว่าเป็นของไม่ดี เช่นนำพระเครื่อง พระบูชา มาให้ท่านเช่า ท่านก็มีเมตตาเช่าไว้ โดยท่านพูดว่า เมื่อชาติก่อนติดค้างเขาไว้ ชาตินี้เขาจึงต้องตามมาทวงคืน ให้ๆ เขาไปเถิดจะได้ไม่ต้องติดค้างกันอีก ในการพูดคุยกับญาติโยมที่มาหาหรือว่ากล่าวใคร ท่านยิ้มอยู่เสมอ แม้แขกมานั้นจะจู้จี้ พูดมาก จนน่าเบื่อเพียงแค่ไหน ท่านก็ไม่มีอาการให้เห็นว่าท่านรำคาญหรือรังเกียจเขาเหล่านั้น แต่จะยิ้มเสมอ ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นท่านแสดงอาการโกรธ หรือดุด่าว่ากล่าวใครเลย นับว่าท่านมีเมตตาสูงยิ่ง

    1013-ea9c-jpg.jpg

    อาพาธ
    หลวงพ่อโอดท่านป่วยด้วยโรคเบาหวานมานานนับสิบๆปี แต่ท่านก็ใช้พลังจิตของท่าน ข่มกลั้นความเจ็บป่วยนั้นมาตลอด ไม่หนักหนาจริงๆ ท่านจะไม่ยอมให้พาท่านไปโรงพยาบาลเลย จนบั้นปลายของชีวิต อาการเบาหวานของท่านกำเริบมาก จนเท้าของท่านบวมอยู่ตลอดเวลา คณะกรรมการวัดและศิษย์ของท่าน ก็นำท่านไปรักษาที่กรุงเทพฯ บ้าง ที่บ้านหมี่บ้าง แต่ท่านเองก็ไม่ค่อยจะยอมไปเพราะท่านเกรงใจเขาเหล่านั้นที่จะต้องมาเสียค่า ใช้จ่ายในการรักษาท่าน จนครั้งหลังสุดอาการเบาหวานของท่านกำเริบมากจนไตไม่ทำงาน ต้องนำเข้าโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ เพื่อล้างไต เมื่ออาการดีขึ้นท่านก็ขอให้ท่านกลับวัด มาอยู่จันเสนได้ไม่นานอาการของท่านทรุดลงอีก คณะศิษย์จึงนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ ท่านอยู่ ที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ได้ไม่นาน ท่านก็มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๓๒ เวลา ๒ ทุ่มเศษ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งเป็นวันอาสาฬบูชา ประชนชนชาวจันเสนและใกล้เคียง ต่างเศร้าโศกเสียใจ อาลัยในมรณภาพของท่านมาก ทางคณะกรรมการวัดได้เคลื่อนศพของท่านจากโรงพยาบาลบ้านหมี่ มายังวัดจันเสน มีประชาชนเข้าร่วมขบวนแห่มากมายเป็นประวัติการณ์ปัจจุบันร่างของท่านยังอยู่ ที่ตึกนิสิตสามัคคี เปิดให้ประชนชนทั่วไปได้สักการบูชาทุกๆ วัน สิริรวมอายุได้ ๗๒ ปี ๖ เดือน ๑๙ วัน ๕๐ พรรษา

    เครดิต : หลวงพ่อโอด พระครูนิสัยจริยคุณ (วิสุทธิ์ ปัญญาธโร) วัดจันเสน นครสวรรค์
     
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,251
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,517
    เชิญครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...