*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่747 พระพุทธชินราช เนื้อตะกั่วฝังเขี้ยวหมาป่า หลวงพ่อดำ วัดกุฏี - เนื้อชนวนสิงห์ตะกั่วคู่หน้าโบสถ์ที่ลือลั่นทั่วปราจีนบุรี
    หลวงพ่อดำ ท่านเป็นพระธุดงค์จากเขมร มีตบะวิชาแกล่งกล้า เป็นพระที่ชอบธุดงค์ ตามป่าเขาแถวตะเข็บชายแดนติดเขมรและได้มาจำพรรษาที่วัดกุฏิ ซึ่งมีพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับฝั่งเขมร โดยเป็นที่รู้กันดีว่า วิชาคุณไสยมนต์ดำ, ยาสั่ง ตลอดจนภูตผีพลายกุมารรักยม เป็นที่ขนานนามว่าของเขมรนั้นแรงนัก ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นก็พากันหวาดกลัวกันไปทั่ว ร้อนจนถึงหลวงพ่อดำ วัดกุฏิ จึงได้เมตตาจัดสร้างวัตถุมงคลพระเนื้อตะกั่วซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรก ๆ ของท่าน ไม่ว่าจะเป็น
    • พระปิดตาเกลอเดียว (พิมพ์ปักเป้า)
    • พิมพ์พระปิดตาห้าเกลอ (ปิดตาพวงชมพู่)


    ในการสร้างครั้งนั้นหลวงพ่อดำได้กดพุทธาคมเจาะจงเลยว่า ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ อวิชชาต่าง ๆ ตลอดจนเกาะเพชรคงกระพันชาตรี ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากคมหอกคมดาบและอันตรายทั้งปวง สร้างเสร็จก็แจกจ่ายชาวบ้านให้พกติดตัวกันเอาไว้ โดยในครั้งนั้นก็มีประสบการณ์กันอย่างมาก

    พระเครื่องของหลวงพ่อดำ วัดกุฏิ ในรุ่นพิมพ์ต่าง ๆ ที่มีการฝังเขี้ยวหมาป่านั้น ครั้งตอนที่หลวงพ่อดำ ได้ออกธุดงค์ตามป่าตามเขาแถวตะเข็บชายแดน ท่านได้ไปเจอกับซากหมาป่าจำนวนหนึ่ง และในซากนั้นก็มีซากเสือโคร่งอยู่ไม่กี่ตัว ซึ่งในเหตุการณ์นี้อาจจะเป็นไปได้ว่า มีการต่อสู้กันระหว่างฝูงหมาป่ากับเสือโคร่งที่พลัดถิ่น จึงมีล่องลอยการต่อสู้และซากศพอย่างที่เห็น หลวงพ่อดำท่านได้มองเหตุการณ์นี้อย่างลึกซึ้งถึงความอาจหาญของหมาป่า แม้ว่าจะตัวเล็กกว่าถึงสองเท่า แต่ใจนั้นไม่ต่างกับเสือโคล่งแม้แต่น้อย ดั่งคำที่ว่า “เสือหลงป่า อย่าดูแคลนหมาเจ้าถิ่น”

    หลวงพ่อดำท่านสังเกตจุดนี้จึงนำเขี้ยวของหมาป่ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสร้างวัตถุมงคลของท่าน โดยเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นเครื่องรางที่หลวงพ่อดำท่านต้องการสะกดความเข้มขลังคงกระพันชาตรีและกำกับพระคาถาหัวใจราชสีห์ลงไปด้วยที่จะป้องกันและสะท้อนคุณไสยมนต์ดำ และอวิชชาต่าง ๆ กลับไปหาคนผู้นั้น และการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อดำท่านก็จะเป็นรูปแบบพระเนื้อชินตะกั่วฝังเขี้ยวหมาป่าซะส่วนใหญ่ และสำคัญด้วยว่าท่านได้มีรูปแบบพิมพ์พระที่หลากหลายกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ปิดตา, พิมพ์พระพุทธ และพิมพ์ต่าง ๆ มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต่างวาระกัน

    พระพุทธชินราชเนื้อตะกั่ว ฝังเขี้ยวหมาป่านี้ เนื้อชนวนตะกั่วได้มาจากโบสถ์เก่า โดยหน้าโบสถ์จะมีสิงห์ตะกั่วคู่หนึ่งตั้งอยู่ ขนาดไม่ใหญ่มาก เด็กๆ แถววัดจะชอบแบกกันไปเล่นกันตามท้องนาเป็นที่สนุกสนาน แล้วเรื่องที่แปลกก็คือสิงห์คู่นี้ ต่อให้เด็ก ๆ เล่นแล้วทิ้งไว้ตามท้องนา เช้ามาก็จะเห็นกลับไปตั้งอยู่หน้าโบสถ์ที่เดิมทุกครั้งไปโดยไม่มีใครทราบว่าใครเอามาไว้ที่เดิม
    ปิดครับ

    IMG_25620202_203626.JPG IMG_25620202_203538.JPG IMG_25620202_203559.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2019
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่748 สีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดใหม่กระบกขึ้นผึ้ง
    ประสบการณ์สีผึ้งหลวงพ่อทาบ เมตตาขนาด
    หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หรือพระครูอรรถโกศล เป็นคนระยองโดยกำเนิด เกิดที่บ้านนาตาขวัญ ต. นาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันศุกร์ เดือนหก ปีฉลู ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๐ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ วิชาของทั้งสองท่าน ว่ากันว่ากินกันไม่ลง ประเด็นสำคัญคือวิชาของหลวงปู่ทาบที่เลื่องลือว่าสุดยอดคือวิชาสีผึ้งเขียว
    การขอรับสีผึ้งจากหลวงพ่อทาบในสมัยก่อน สำหรับผู้ที่จะมาขอสีผึ้งเขียวของท่านนั้น กว่าจะได้ก็แสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าผู้ต้องการจะได้สีผึ้งเขียวของท่านจะต้องมานอนค้างคืนกันที่วัดหลาย ๆ คืน และหลาย ๆ ครั้ง จนหลวงพ่อทาบเห็นความมานะอดทนว่า ต้องการได้จริง ๆ ท่านจึงจะให้ แต่ท่านจะหยิบให้เพียงเท่าหัวไม้ขีดไฟเท่านั้น สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเมื่อใครได้มาแล้วเหมือนกับได้ของวิเศษที่เปี่ยมไปด้วยส่วนผสมแห่งเมตตามหานิยม คนเล่นของในสมัยนั้นจึงนำสีผึ้งหลวงพ่อทาบที่ได้มาเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟมาเลี่ยมทองหุ้มใส่สายสร้อยหรือแขวนติดตัว แต่ก่อนจะมอบสีผึ้งเขียวให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อทาบจะสั่งสอนวิธีใช้ให้ สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้น ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัติ
    นักเลงรุ่นเก่าชาวระยองยอมรับว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน ต.ตาสิทธิ์ ติดกับวัดหลวงปู่ทิมเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ข้าก็ได้อาศัยสีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบนี่แหละ จึงได้แม่อ้ายยอด มาจนทุกวันนี้ แม่อ้ายยอดเมื่อสาวๆ มันสวยอย่าบอกใครเชียว หนุ่ม ๆ มาจีบกันหัวกระไดแทบไม่แห้ง แต่ลุง (ตัวคนเล่า) มันพูดจาไม่เก่ง รูปก็ไม่หล่อ แรกๆแม่อ้ายยอดไม่เคยมองลุงเลย ความที่อยากเอาชนะไอ้พวกหนุ่มรุ่นเดียวกัน ลุงจึงดั้นต้นไปขอสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ไปก็หลายครั้งหลายหนอยู่จนท่านจำได้และเห็นมาบ่อย ๆ หลวงพ่อทาบท่านเลยสงสารควักให้มาหัวไม้ขีดหนึ่งสั่งว่าเพียงเอาห่อติดตัว เวลาจะใช้กับผู้หญิงคนใดก็เพียงแต่ทำใจให้นึกเห็นใบหน้าเขาและเข้าไปหาเถอะไม่ช้าก็สำเร็จ และก็ได้ผลจริงๆไม่นานแม่อ้ายยอดเกิดสงสารเห็นใจลุง ทั้งที่ก่อนนั้นเขาไม่เคยชายตามองลุงเลย พวกหนุ่มบ้านอื่นงงเป็นไก่ตาแตก
    ท่านผู้เฒ่าเล่าเสริมต่อไปว่า หลังจากได้แม่อ้ายยอดมาเป็นเมียและอยู่กับมาจนบัดนี้แล้ว ลุงเคยถามเขาว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดมารักลุง ทั้งๆ ที่แต่แรกไม่เคยสนใจลุงเลย แม่อ้ายยอดบอกกับลุงว่าเป็นเพราะอะไรไม่รู้ วันไหนถ้าไม่เห็นหน้าลุงใจคอมันหงุดหงิด ร้อนรุ่ม พอได้เห็นหน้าลุงแล้วสบายใจ และไม่ช้าลุงก็ชวนมันมาอยู่กับลุงเสียเลย ผมได้ถามลุงผู้เฒ่าว่า แล้วสีผึ้งนั้นอยู่ไหน? ขอผมดูหน่อย ท่านผู้เฒ่าบอกว่า เมื่อลุงได้เมียแล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย เพราะหลวงพ่อท่านสั่งนักสั่งหนาว่าถ้าใช้กับผู้หญิงแล้วต้องเลี้ยงเขาเป็นลูกเมีย ห้ามทิ้งขว้าง ลุงได้แม่อ้ายยอดมาครองคนเดียวก็นับว่าพอใจแล้ว เลยหุ้มทองเก็บไว้ จนอ้ายยอดลูกหัวปีของลุงมันเป็นหนุ่มแล้ว ลุงจึงมอบให้มัน ก็ดูซิอ้ายยอดลูกชายลุงมีเมียตั้ง ๓ คน และอยู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น หลานลุงมีเป็นพรวน มีเมียมากมันก็ไม่ดีหรอกหลาน หาเท่าไรไม่พอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่ก็ดีไปอย่าง อ้ายยอดมันได้เขาแล้วมันก็ไม่ทิ้งไม่ขว้าง เลี้ยงเป็นลูกเป็นเมียทุกคน อ้ายยอดลูกลุงน่ะ มันไม่เท่าไหร่หรอก มีเพียงแค่ ๓ คน เท่านั้น แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อทาบที่เคยบวชอยู่กับท่านคนหนึ่งซิ เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่จันทบุรี มีเมียอยู่บ้านเดียวกันถึง ๖ คน ทุกคนปรองดองกันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย แต่ลูกเป็นกระบุง แต่เขาก็มีฐานะดีนะ เรื่องสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ ถ้าใช้เรื่องผู้หญิงรับรองได้เยี่ยมจริง ๆ
    ท่านพระอาจารย์เสียน มนูญโญ เจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงทาบ ตลอดจน คุณปถม อาจสาคร อดีตสหกรณ์อำเภอบ้านค่าย และคุณประชา ตรีพาสัย เพื่อนผู้เขียนซึ่งจูงใจให้ผู้เขียนไปรู้จักกับหลวงปู่ทิมจนได้สร้างพระชุดชินบัญชรอันเป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้ เคยเล่าเรื่องอานุภาพของสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันแพร่หลายทั่วจังหวัดระยองให้ฟังว่า
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน
    อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า แป้งผัดหน้านั้น หลวงพ่อทาบท่านลงนะนวลจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยมของหลวงพ่อทาบ ก็ยิ่งโด่งดังขึ้น จนคนระยองถึงกับผูกวลียกย่องไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”

    สีผึ้ง หลวงพ่อทาบ วัดใหม่กระบกขึ้นผึ้ง ด้วยอานุภาพสีผึ้งหลวงพ่อทาบ เป็นที่โด่งดังมากด้าน มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม จนใครหลายคนต้องการกันมาก วันนี้นำ คาถาหลวงพ่อทาบ ในการบูชาสีผึ้งและการอารธนาติดตัวมาฝาก ถ้าต้องการใช้ขี้ผึ้งทาปาก ให้ตั้ง นะโม 3 จบ พร้อมกับทาสีผึ้งที่ริมปาก โดยคาถาว่าดังนี้ จิตติ มิตติ อะระหัง ปิยังมะมะ ใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งทาปาก ตามที่ต้องการดังนี้
    1.ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งทาปาก กรณีเข้าหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ
    2.ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งทาปาก เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้
    3.ให้ใช้นิ้วกลางแตะขี้ผึ้งทาปาก เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่หม้าย
    4.ให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งทาปาก เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆ
    5.ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งทาปาก เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ส่วนถ้าต้องการพกพาสีผึ้งติดตัว ให้ใช้พระคาถา อารธนาสีผึ้งเขียวติดตัว ดังนี้
    ตั้งนะโม 3 จบ อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง

    ปิดครับ

    IMG_25620202_203031.JPG IMG_25620202_203138.JPG IMG_25620202_203108.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2019
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่749 ล็อกเก็ตหลวงปู่สรวง(สองหน้า) วัดไทรพัฒนา ศรีษะเกษ
    ปิดครับ

    IMG_25620202_203912.JPG IMG_25620202_203827.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2019
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่750 พระเจ้าสัว พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) เนื้อดินปราสาทขอมผสมผงใบลาน แช่น้ำมนต์ ปี19
    หลวงปู่เคยพูดกับหลวงพ่อสร้อย ว่า พระเจ้าสัวนี้ดี เสกดีมาก ใครได้เอาไปใช้แล้วจะเป็นเศรษฐี ในเรื่องของพุทธคุณนั้น เด่นทางด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย และทางด้านแคล้วคลาดอีกด้วยเชื่อกันว่าผู้ที่ห้อยบูชาเหรียญเจ้าสัวแล้วทำมาหากินด้วยความวื่อสัตย์สุจริต จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทุกคน จึงได้รับสมญานามว่าพระเจ้าสัว อย่างในสมัยก่อนนั้น ผู้ที่บูชาเจ้าสัวทุกท่านล้วนแต่มีฐานะร่ำรวย ผู้ที่มีพระพิมพ์เจ้าสัวนี้ไว้ล้วนแต่อุดมด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินพูนทวีมีฐานะ เขาจึงมักเรียกพระพิมพ์นี้กันว่า "พิมพ์เจ้าสัว" ครับ
    ปิดครับ
    IMG_25620202_203309.JPG IMG_25620202_203329.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2020
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่751 รูปหล่อพ่อปู่ฤาษี ลป สรวง เทวดาเล่นดิน เนื้อลองพิมพ์ ปี19
    พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป
    ปิดครับ
    6138.jpg 6137.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2020
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่752 พญาอสุรินทราหู หลวงปู่สรวง บ้านละลม เนื้อดินปราสาทขอมพันปีผสมผงกสินไฟ แช่น้ำมนต์ ปลุกเสกปี ๑๙
    ***ชูดาว เสริมดาว เสริมโชค เสริมลาภ กลับร้าย กลับดี ศัตรูพ่ายแพ้
    ***หลวงปู่ได้จัดสร้างพระเนื้อดินไว้ 1 ชุด มีดังนี้ พระผงพิมพ์เจ้าสัว, ลีลา, สมเด็จ, ขุนแผน, ซุ้มกอ, พระพิฆเนศวร, พระปิดตา, พระสิวลี, นางพญา, ท้าวกุเวร, นางกวัก พิมพ์ต่างๆ เป็นพระเนื้อดิน พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป
    วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวงทุกชนิดบูชาเหมือนมีแก้ว 3 ประการ
    โดดเด่นหลายทางตามคำอธิฐานดังนี้
    1. บูชา 1 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี
    2. บูชา 2 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย
    3. บูชา 3 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอน หากผู้นั้นบูชาด้วยความศรัทธาแน่วแน่
    4. เรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์ แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง
    5. ขอได้ดังใจนึกทางด้านค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเวลาเดือดร้อนทางการเงินให้ทำพิธีบอกกล่าวจุดธูปบอกท่านและอาราธนาขอพรเช้าเย็น 9 จบท่านจะช่วยให้เห็นผลได้รับความสำเร็จสมหวังมามากแล้วไม่เชื่อทดลองเถิด
    6. คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ
    7. ป้องกันคุณไสย์ แก้อาถรรพณ์ ป้องกัน ผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทางได้
    8. เสริมดวง หนุนดวงชะตา
    9. ป้องฟ้าผ่า ไฟไหม้ ได้

    ปิดครับ
    IMG_25620202_204251.JPG IMG_25620202_204226.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2023
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่753 เหรียญหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินยิ้มรับทรัพย์วัดไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ ปี43
    รอยยิ้มหลวงปู่สรวง รอยยิ้มแห่งสันติสุข รอยยิ้มแห่งความเมตตาคุ้มครองโลกคุ้มครองลูกหลานให้มีความสุข
    ชาวโลกกำลังจดจำรอยยิ้มของหลวงปู่สรวง ผู้ได้รับการขนานนามว่า เทวดาเดินดิน เพราะเหตุใดหลวงปู่สรวงเป็นที่ศรัทธาของคนจำนวนมาก และคนเหล่านั้นกำลังมุ่งเข้ามาศึกษาเรื่องราวประวัติของท่าน จนบัดนี้ได้กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันไม่จบสิ้น แม้ว่าหลวงปู่สรวงจักได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 ก็ตาม รวมระยะเวลา 10 กว่าปีแล้ว อาตมาคิดว่าคงไม่ใช่เพียงแค่รอยยิ้มหลวงปู่สรวงที่ปรากฏในภาพ ที่ทำให้คนทั้งหลายจำจดท่านได้ แต่คงเป็นเพราะปฏิปทา จริยวัตร ของท่าน ที่ทำให้คนจดจำท่าน ที่สำคัญท่านเป็นผู้ที่มีความเมตตาต่อเหล่าสรรพสัตว์เท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์เดรัจฉาน ท่านเคยฉุดช่วยเหลือเหล่าสัตว์ทั้งหลายให้ได้พ้นจากทุกข์ยากลำบากทั้งทางกายทางใจมามากต่อมาก และที่สำคัญท่านก็เป็นที่พึ่งให้คนป่วยและคนเหล่านั้นก็หายป่วยประหนึ่งว่าได้ชีวิตใหม่ ได้รอยยิ้มแห่งสันติสุข รอยยิ้มแห่งผาสุขขึ้นมาใหม่ เช่น เรื่องชีวิตใหม่ของลำดวน ที่ปรากฏในหนังสือตามรอยหลวงปู่สรวงเล่ม 5

    มีเรื่องเล่าดังนี้ว่า

    ณ กระท่อมกลางท้องนาข้างต้นมะขาม ระหว่างบ้านละลมกับบ้านจะบก เห็นมีผู้คนนั่งอยู่ในบริเวณนั้นหลายคน หลวงปู่นั่งอยู่บนกระท่อม พอจอดรถไว้แล้วก็ช่วยกันพยุงคนป่วยไปนั่งบนพื้นดินต่อหน้าหลวงปู่ กราบท่านเสร็จแล้ว นายแปลงก็ได้พูดกับหลวงปู่ว่า

    “ลูกเอ็อวจูยโกนเจาละ เวียมันสรูลจะนับนึงเงื๊อบเฮย” (หลวงปู่ช่วยลูกหลานด้วย มันป่วยหนักจะตายแล้ว) พูดแล้วแกก็ยกขวดน้ำฝนที่นำมาจากบ้าน ประเคนต่อหน้าหลวงปู่

    หลวงปู่จ้องดูเธอแล้วนิ่งเฉยไม่พูดอะไร ท่านคว้าเอาขวดน้ำยกมาเทราดที่เท้าของท่านเอง น้ำไหลจากเท้าท่านผ่านร่องกระดานลงไปข้างล่างกระท่อม น้าชายรีบซุกดันเธอให้เข้าไปอยู่ใต้กระท่อมตรงที่หลวงปู่นั่งและราดน้ำลงมา น้ำไหลราดใส่หัวลำดวน เธอประนมฝ่ามือรองเอาน้ำมาล้างหน้าและดื่ม จนน้ำหมดขวดที่หลวงปู่เทราดลงมา จึงถอยออกมานั่งผิงแดดข้างกระท่อม ด้วยอาการหนาวสั่นจากพิษไข้บวกกับความหนาวเย็นของน้ำทำให้ลำดวนถึงกับสลบไป

    สร้างความตกอกตกใจให้กับพ่อแม่น้าชายและคณะที่ไปด้วยอย่างมาก คิดว่าอย่างไรลำดวนคงต้องตายแน่นอน รีบหามร่างเธอให้นอนบนรถพากันกลับบ้าน โดยมีญาติที่มาด้วยช่วยกันพัดวีไปตลอดทาง ไปถึงบ้านอาการของเธอยิ่งหนักขึ้น ถ่ายออกมาเป็นเลือดเป็นหนองตลอดคืน ญาติพี่น้องพ่อแม่ไม่ได้หลับได้นอนตลอดคืน คอยผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าพยาบาลดูแลทำความสะอาดขุดหลุมกลบเลือดหนองที่เธอถ่ายอาเจียนออกมาต่างก็รอดูลมหายใจสุดท้ายของเธอ เพราะคิดว่าคืนนี้คงเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตลำดวนแน่นอน

    ผิดคาดรุ่งเช้าอาการของลำดวนกลับดีขึ้น หิวน้ำหิวอาหารเรียกขอข้าวกินจากพ่อแม่หน้าตาดูสดใสมีเรียวแรงยกขันน้ำดื่มกินเองได้ สร้างความประหลาดใจให้กับพี่น้องเป็นอย่างมาก 2-3 วันต่อมา จากที่นอนแซ่วอยู่บนเสื่อ ก็สามารถยันตัวเองลุกขึ้นเดินเองได้ แต่ก็ยังไม่แข็งแรงเท่าไรนัก จากอาการที่ดีขึ้นของเธอสร้างความดีอกดีใจให้กับพ่อแม่และญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง ต่างคิดว่าเทวดาคงโปรดให้รอดชีวิต หลวงปู่ได้ช่วยให้รอดตายแล้วในคราวนี้

    อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมาน้าชายของลำดวนพร้อมกับพ่อแม่ พร้อมญาติพี่น้องเพื่อนบ้านเต็มคันรถ ได้พากันจัดจังหันไปกราบหลวงปู่ที่ทุ่งนาเดิมอีก และก็ไม่ลืมเอาขวดใส่น้ำฝนไปให้หลวงปู่ท่านได้ทำน้ำมนต์ให้อีก

    หลวงปู่เทน้ำจากขวดล้างมือท่านลงไปในขัน และก็แคะขี้เล็บ แกะขี้มูก ขี้หู ขี้ตาลงไปด้วย แล้วก็ดันซุกขันไปข้างหน้า เป็นเชิงบอกว่าให้เอาไปดื่มกินที่บ้าน พ่อรีบกรอกน้ำใส่ขวดเอาไปใส่รถไว้ตอนถวายจังหันให้ท่านฉัน หลวงปู่ได้จับอาหารที่ถวายเทไปข้างกระท่อม ขว้างขนมผลไม้ออกไปข้างนอก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดีว่าหลวงปู่ได้โปรดสัตว์เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้ได้มารับอาหารจากคนทั้งหลายเอาไปถวาย แต่ปุถุชนอย่างพวกเราไม่สามารถที่จะมองเห็นได้เหมือนอย่างท่าน

    หลังจากที่อยู่พูดคุยสนทนากับผู้ที่มากราบไหว้กับหลวงปู่ ที่ซักถามอาการของเธอจนเกือบค่ำจึงได้ลาหลวงปู่กลับ กลับไปถึงบ้านพ่อแม่ได้เอาน้ำมนต์ผสมใส่น้ำอาบ ดื่มกินทีละนิดๆ ทุกวัน อาการป่วยดีวันดีคืน และร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เป็นปกติเหมือนคนที่ไม่เคยมีโรคร้ายแรงมาก่อนเลย สามารถทำงานช่วยพ่อแม่ได้ทุกอย่าง เธอรู้สึกดีใจและสำนึกบุญคุณของหลวงปู่สรวงที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ ผู้ที่ดีใจที่สุดเห็นจะเป็นพ่อแม่ และน้าชายของเธอที่พาเธอไปรักษาหาหลวงปู่สรวงนั่นเอง

    จากเรื่องราวที่เล่ามานั้น ทำให้เราได้เห็นว่า หลวงปู่สรวงได้เมตตากรุณาลูกหลานเป็นอย่างมาก ทำให้ต่างคนต่างก็พลอยยิ้มได้อย่างมีความสุข แม้หลวงปู่จะได้ละสังขารไปแล้วแต่ภาพของท่านที่ยิ้มอย่างมีความสุขถือเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ลูกหลานมีความสุขไปด้วยเมื่อได้เห็นภาพหลวงปู่สรวง ดังนั้น รอยยิ้มแห่งความสุข คือรอยยิ้มที่หลวงปู่ยิ้มให้ลูกหลานทุกคน แม้ที่ตกทุกข์ได้ยากก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถือว่าเป็นรอยยิ้มแห่งกำลังใจ เป็นรอยยิ้มอวยพร เป็นรอยยิ้มแห่งความสมหวัง โชคดี ร่ำรวย ฉะนั้น ลูกหลานหลวงปู่สรวงอย่าได้ท้อแท้ อ่อนแอหมดหวัง รอยยิ้มหลวงปู่จะช่วยสร้างกำลังใจให้เราได้ เพราะ รอยยิ้มของท่านคือ รอยยิ้มแห่งความเมตตา ความเมตตานั้นเป็นธรรมที่ค้ำจุนโลก สมกับพุทธภาษิตที่ว่า โลโก ปตฺถมฺ ภิกา เมตฺตา : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

    เรียบเรียงโดย : พระอาจารย์อดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ

    ปิดครับ
    IMG_25620202_204450.JPG IMG_25620202_204427.JPG หลวงปู่สรวง-เว็บวัดขะยูง-2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2020
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่754 พระขุนแผนพรายกุมารไข่ผ่าซีก พิมพ์เล็ก หลวงปู่สรวง บ้านละลม เนื้อดินแดงปราสาทขอมพันปี แช่น้ำมนต์ ปลุกเสกปี ๑๙
    หลวงปู่ได้จัดสร้างพระเนื้อดินไว้ 1 ชุด มีดังนี้ พระผงพิมพ์เจ้าสัว, ลีลา, สมเด็จ, ขุนแผน, ซุ้มกอ, พระพิฆเนศวร, พระปิดตา, พระสิวลี, นางพญา, ท้าวกุเวร, นางกวัก พิมพ์ต่างๆ เป็นพระเนื้อดิน พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป
    หลวงปู่เป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สมถะ มีความอุเบกขาสูงสุดให้ความเมตตากับผู้ที่ได้พบเห็นทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหมดไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนยากจน เป็นเศรษฐี คนเข็ญใจหรือรู้จักหลวงปู่มานาน ก่อนหลังหรือได้ติดตามรับใช้หลวงปู่มานานๆ ก็ตาม ท่านไม่เคยเอ่ยปาก นับว่าเป็นศิษย์หรือให้สิทธิ์พิเศษแก่คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะแม้แต่ครั้งเดียว ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เท่ากัน จึงทำให้มีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำและจะกลับมากราบไหว้หลวงปู่อีก เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
    พุทธคุณ:
    มีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม,แคล้วคลาด,โชคลาภและมหาเสน่ห์
    วิธีการบูชา :
    ใช้ผ้าขาวยาว ๑ เมตรครึ่ง
    ดอกสะเลเต คนไทยภาคกลางเรียก ดอกว่านมหาหงษ์ ๕ คู่
    เทียนขี้ผึ้งแท้หนัก ๑ บาท จำนวน ๑ คู่
    เทียนเล็ก ๕ คู่
    หมากพลูบุหรี่ ๙ คำ
    เงินกำนัลครู ๑๒ บาท
    จุดธูป ๙ ดอก (หรือ ๑๙ ดอก )
    คาถาบูชาหลวงปู่สรวงนะโม ๓ จบก่อนแล้วว่าตามนี้
    นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา
    ท่อง ๙ ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่จะค่อยๆหายไปในที่สุด
    ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิระลึกถึงท่านเพื่อเป็นการถวายทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติภาวนา แล้วจะสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง

    ปิดครับ
    IMG_25620131_220640.JPG IMG_25620131_220622.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2023
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่755 พระเม็ดกระดุมศรีวิชัย พิมพ์ต้อ กรุเขาศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
    พระพิมพ์เม็ดกระดุมศรีวิชัย เป็นพระพิมพ์เนื้อดินดิบ มีสัณฐานทรงกลมครึ่งซีก หลังอูมนูน ส่วนใหญ่มักจะปรากฏลายนิ้วมือที่กดพิมพ์ ขนาดเล็กคล้าย "เม็ดกระดุม" (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ ซม.) อันเป็นที่มาของชื่อพระพิมพ์นี้

    ด้านหน้ารอบองค์พระ จะยกขอบขึ้นมาคล้ายยกซุ้ม ต่ำลงมาจากขอบที่ยกขึ้นมาเล็กน้อยปรากฏเป็นองค์พระอยู่ตรงกลาง

    องค์พระเป็นลักษณะพระพุทธรูป ประทับนั่งขัดสมาธิราบ ลอยนูนขึ้นมาจากพื้น บนดอกบัว ๒ ชั้น ชั้นบน ๗ กลีบ ชั้นล่าง ๗ กลีบ

    องค์พระแสดงปางสมาธิ มีประภามณฑลเบื้องหลังพระเศียร และรอบองค์พระ มีจารึกพระคาถา “เย ธมฺมาฯ” ซ้อนกันสองชั้น ทั้งด้านซ้ายและขวา เป็นภาษาสันสกฤต ตัวอักษรเทวนาครี อันเป็นอักขระโบราณที่นิยมใช้แพร่หลายในประเทศอินเดียตอนเหนือ จำนวน ๔ บท อ่านว่า

    "เย ธัมมา เหตุปัปภวา, เตสัง เหตุง ตถาคโต, เตสัญ จะ โย นิโรโธจ, เอวัง วาที มหาสมโณติ”

    แปลว่า “ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุของธรรมเหล่านั้น และความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้” (แปลโดยท่านอาจารย์ชะเอม แก้วคล้าย ผู้ชำนาญภาษาโบราณประจำหอสมุดแห่งชาติ...ขอขอบพระคุณอย่างสูง)...พระคาถานี้ เป็นบทย่อจาก หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า

    จากการสืบค้นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ได้จากหลายแหล่ง กล่าวตรงกันว่า พระพิมพ์เม็ดกระดุมศรีวิชัย นี้ค้นพบครั้งแรกโดยบังเอิญของชาวบ้านที่ประสงค์จะขุดหาลูกปัด เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ ที่เนินจอมปลวก บริเวณบ้านของนางอารีย์ เรืองเจริญ ซึ่งในอดีตที่ดินแห่งนี้เป็นบริเวณ วัดเขาศรีวิชัย ต.เขาศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

    ปิดครับ(ม)
    IMG_25620131_220818.JPG IMG_25620131_220702.JPG IMG_25620131_220748.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2020
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่756 พระพิฆเนศวร์แช่น้ำมนต์เนื้อแดง หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน จ.ศรีสะเกษ ปี 2519พระพิฆเนศวร์ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จและโชคลาภ เนื้อปราสาทหินขอมโบราณสีแดงแช่น้ำมนต์ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน จ.ศรีสะเกษ ปี 2519
    ในปี 2519 หลวงปู่ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำภูดินสำนักสงฆ์ภูดินได้จัดสร้างขุนแผนเนื้อดินปราสาทขอมพันปีซึ่งหลวงปู่ได้ร่วมปลุกเสกกับลูกศิษย์ ตลอดไตรมาส หลังจากนั้นลูกศิษย์ก็ปลุกเสกขุนแผนรุ่นดังกล่าวที่วัดถ้ำภูดินเรื่อยมาจนครบ 11 ปี สำนักสงฆ์ตาโคลที่เป็นลูกศิษย์โดยตรงได้รวบรวมขุนแผนชุดดังกล่าวมาปลุกเสกที่วัดตาโคล 10 ปี ปลุกเสกที่วัดสุทัศน์ 10 ปี (200 พิธีใหญ่ พระร่วมพิธีปลุกเสกนับแสนรูป) พุทธคุณครบเครื่อง ทั้ง เสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขายโชคลาภ ครอบจักรวาล
    ปิดครับ

    6602.jpg 6601.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2023
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่757 พระพิฆเณศวร์ พระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ปลุกเสก ออกวัดซับลำใย ปี 2543
    พระผงพิฆเนศวร์ชุดนี้จัดสร้างโดยอาจารย์ตั้ว วัดซับลำใย ในปี ๒๕๔๓ จัดสร้างโดยพระอาจารย์ตั้ว ผู้ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่หมุนที่หลวงปู่ครอบครูรับเป็นศิษย์ พร้อมๆกับอีกหลายๆพิมพ์ หลวงปู่หมุนกล่าว "พิมพ์นี้ออกแบบได้งดงามมาก" เนื้อหามวลสารดี อนาคตไกล น่าใช้ ท่านว่าหนุนโชคหนุนดวง โชคลาภบารมี ครบถ้วน ชนวนเชื้อผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ซึ่งรวมถึงผงเก่าที่ได้รับจาก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง และผง ๓๕๐ คณาจารย์อันลือลั่นซึ่งถือได้ว่าผงนี้เป็นสุดยอดผงของสายนี้เลยก็ว่าได้

    เข้าพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลใหญ่ที่วัดซับลำใย เมื่อวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๔๒ โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วมพิธี อาทิ หลวงปู่ละมัย, หลวงปู่หงษ์, หลวงพ่อรวย, หลวงพ่อเพี้ยน, หลวงปู่ธีร์, หลวงพ่อไสว เป็นต้น โดยหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เป็นประธานในพิธีในครั้งนี้ด้วยครับ เนื่องด้วย พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดซับลำไย ผู้บุกเบิกและสร้างวัดซับลำไยจนมีที่ดินเกือบ ๑๐๐ ไร่ กำลังดำเนินการสร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์ จนใกล้เสร็จ แต่ยังขาดปัจจัยอีกพอสมควร ด้วยความเลื่อมใสและศรัทธาในบารมีของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโลจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลายๆอย่างและด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์ซึ่งได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนมาโดยตลอด ซึ่งพระอาจารย์เองให้ความเคารพมากด้วยนั้น ในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๓ ซึ่งวัดซับลำไยจะได้มีการทำพิธีเททอง เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่งและวัตถุมงคลอื่นๆในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุนอีกด้วย
    ปิดครับ(ม)

    IMG_25620202_210800.JPG IMG_25620202_210657.JPG IMG_25620202_210417.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2020
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่758 พระสิวลี คำข้าว พิมพ์เล็ก หลวงปู่สรวง ปี 39
    "โชคลาภค้าขายดีมาก"
    บทสวดบูชาพระสีวลี
    (ตั้งนะโม 3 จบ)
    (สวดพระคาถาบทนี้เป็นประจำ อธิษฐานจิต ขอเงินทองโชคลาภ พระสีวลีเป็นพระอรหันต์ผู้บันดาลโชคลาภ)

    "สีวะลี จะ มะหาเถโร
    เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา.
    สีวะลี จะ มะหาเถโร
    ยักขะเทวาภิปูโต โสระโห
    ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลีเถระคุณัง เอตัง โสตถิลาภัง ภะวันตุ เม."

    อ.เสริฐ มหาวีโร. สร้าง
    พุทธาภิเษกกลางท้องทุ่งบ้านละลม
    วันที่12-13-14 เมษายนปี2539
    มีพระไปร่วมงานเกือบ300รูป
    เช่น...
    หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่
    หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกลด
    หลวงปู่เจียม วัดกะมอล
    หลวงปู่เจียม วัดหนองยาว
    หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
    ครูบาเที่ยงธรรม
    หลวงพ่อสาย วัดตะเคียนราม
    หลวงปู่โป๊ะ วัดบ้านบิง
    และ ๆลๆ
    ประสบการณ์ด้านโชคลาภสูง
    เด็กแขวนได้ผู้หญิงแขวนดีผู้ชายแขวนเดี่ยวได้

    ปิดครับ
    IMG_25620202_205402.JPG IMG_25620202_205248.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2020
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่759 พระพิฆเนศคำข้าว หลังพ่อแก่ ลป. สรวง ปี 39
    พระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จและโชคลาภ สร้างด้วยมวลสารข้าวจากการฉันของ ลป สรวง
    ...เมตตามหานิยม มีกูไว้มึงไม่จน คาถา บูชาหลวงปู่สรวงนะโม 3 จบก่อนแล้วว่าตามนี้ นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา ท่อง ๙ ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่ จะค่อยๆหายไปในที่สุด ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิ (บูชาแล้ว รวย รวย รวย รวย) ครับ
    ปิดครับ
    6937.jpg 6936.jpg 6938.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2020
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่760 หลวงปู่ทวดหล่อเหล็กไหลงอก7สี นั่งเหล็กไหลงอก7สี ขนาดประมาณ 1.5 นิ้ว
    เหล็ก ไหลเจ็ดสี เป็นเหล็กไหลชั้นยอดในชุดเหล็กไหลและเป็นเหล็กไหลที่หาพบได้ยากมาก ๆ มีอิทธ์ ฤทธิ์ คงกระพันชาตรี กันภูตผีปีศาจได้ดีที่สุด และสร้างภาพลวงตา เหล็กไหลเจ็ดสีนี้สามารถเจิญเติบโต ได้โดยการเลี้ยงน้ำผึ้ง โดยปกติจะให้เสพน้ำผึ้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง และเวลาเช้าก็นำไปล้างด้วยน้ำบริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่งประมาณ 2-3 เดือน จะเห็นได้ชัดถึงการเจริญเติบโตของเหล็กไหลชนิดนี้ เหล็กไหล7สีนิยมบูชาป้องกันภูติผีปีศาจ ป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็น แก้ปีชง แช่น้ำมนต์แก้คุณไสย์ ลดวิบากกรรม และป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็น และมองไม่เห็น

    เหล็กไหล 7 สี ชนิดนี้ สีสันต่างๆ จะเรียกได้ว่า เป็นแร่ที่ดูมีชีวิต ดูสดใสอยู่ตลอดเวลา รวดลายก็งอกตามธรรมชาติ รายเส้นก็งอกตามธรรมชาติ
    มีพลังมากมาย เหล็กไหลชนิดนี้บางคนเรียกว่าโคตรเหล็กไหล ซึ่อเป็นคำเรียกที่ผิดๆ จริงๆเป็นเหล็กไหลชั้นยอด ถ้าคนนั้นสามารถดูออก


    โคตรเหล็กไหล 7 สีสามารถตัดแบ่งเป็นชิ้นๆได้ ห้ามมีการไปเอาไฟเทียนรนตามถ้ำ หรือเอามาหุงใหม่ หลอมขึ้นมาใหม่
    เอามาตัดแบ่งย่อยเป็นชิ้นเล็กๆได้ พลัง ชีวิตจะอยู่ทั้งหมด เหล็กไหลชนิดนี้กินน้ำผึ้ง ถ้าคนไหนบอกไม่กิน
    แปลว่าผู้นั้นสัมผัสไม่ได้ สัพแต่จะขายหรือบอกไม่ได้สอนวิธีบูชาผิดๆไม่มีการสอนแบบสัมผัสญาณ แบบนี้คือคนขายทั่วไป แต่ก็ดีอย่างที่
    คนจำพวกนี้จะเป็นตัวเชื่อมที่ทุกคนอาจได้เหล็กไหล 7 สีชั้นยอดมาบูชากัน การเสพหรือกินน้ำผึ้ง คือการเสพทางทิพท์ญาณ ต้องเป็นผู้มีญาณรู้
    เห็นเท่านั้น เช่น ญาณทัศนะ เป็นต้น พึงเสมอว่าการบูชาที่ถูกควรบูชาแบบไหนถึงได้ ขอความสำเร็จต่างๆได้ดี คำว่าโคตรเหล็กไหล
    คือแร่ที่ทับถมกันเป็นชั้นๆไม่มีตะปุ่มตะป่ำหรือปูดนูนเป็นเม็ดๆผู้ที่หาเช่าซื้อเหล็กไหล7สีมา ควรสอบถามวิธีการบูชาที่ถูกต้องให้ดี และการนำไป
    เพื่อฝึกสมาธิในตัวผู้ครอบครองด้วย ว่าควรฝึกอย่างไรถึงจะสัมผัสธาตุกายสิทธิ์ได้ การฝึกต้องมีของจริงคือแร่ที่มีอำนาจ และมีเทวาอยู่เท่านั้น
    ป้องกันผีทุกชนิดได้ 100% ป้องกันการตายก่อนเวลา ป้องกันกรรมที่มากระทำต่อเจ้าของ คนเลวใส่ทำเลว โดน 10 เท่าของกรรมนั้นๆ
    ก็หมายความว่า ใส่แล้วเอาไปทำเลว ทำชั่ว เช่นใส่แล้วไปฆ่า เป็ด ไก ปลา เอามากิน หรือ ขโมยของ เป็นโจร โดน 10 เท่า คน
    จะเอาไปใช้ก็ต้องดูว่าตัวเองอยู่ในข้อห้ามหรือไม่ วัยเบญจเพศ ควรใส่อย่างยิ่งมีไว้ในรถ ก็ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง
    ใส่แล้วเวลาทำบุญให้นึกถึงองค์พญาเหล็กไหล ด้วยให้ท่านได้บุญไปกับเราด้วยทุกครั้งที่ทำบุญ ถวายน้ำผึ้งบ้างบางครั้ง
    เวลาขอไรท่านได้ ต้องรีบแก้ทันที อย่าขอมาก ขอเวลาจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ราคาไม่กี่บาท กับชีวิตคนทั้งชีวิต คุณว่าคุ้มมั้ยครับ แร่เหล็กไหลนี้
    เด็กคนไหนนอนสะดุ้งตอนกลางคืนหรือเวลานอน ก็ให้ใส่แร่ 7 สีชนิดนี้รับรองเห็นผล แร่ชนิดนี้มีอำนาจมาก ชีวิตคนมีค่า แต่ทำไมไม่ลองหันมาใส่กัน

    1.ผู้ที่โดนผีหลอก และกลัวผี ถ้าใส่พระแล้วไม่ได้ผล ลองหันมาลองใส่เหล็กไหล 7 สีดู รับรองหาย
    2.ผู้ที่โดนผีอำบ่อยๆ ให้ลองมาใส่เหล็กไหล 7 สีดู หายแน่นอน
    3.คนที่ชอบนอนค้างตามโรมแรมแต่ๆ ถ้ากัวผีหรือมีคนตายในห้องนั้น ให้ลองใส่เหล็กไหล 7 สีรับรองผีไม่มายุ่งกับผู้ที่ใส่เป็นอันขาด
    4.ถ้าไปท่องเที่ยวตามป่าเขา ต่างจังหวัด แล้วเกิดกัวเรื่อง ลมแพลมพัด ของคุนไส มนต์ดำต่างๆให้ลองมาใส่เหล็กไหล 7 สี รับรองไม่โดนแน่
    5.ถ้าคนไหนมีสัมผัสที่6 แล้วชอบเห็นเจ้ากรรมนายเวรมาขอส่วนบุญ ถ้าไม่กัวก็แล้วไป แต่ถ้ากัว ให้หันมาใส่เหล็กไหล 7 สีดู
    วิญญาณไม่ดีจะไม่สามารถเข้าใกล้ผู้ใส่ได้ นอกจากวิญญาณที่ดีเท่านั้น
    6.เด็กที่ชอบนอนสะดุ้ง ตกใจร้องจ๊ากเวลากลางดึก ให้ใส่เหล็กไหล 7 สี หายแน่นอน
    7. โดนผีเข้า ให้เอาไปใส่
    8.ผู้ที่ชอบนั่งสมาธิ นำเหล้กไหล 7 สีมาใส่สามารถป้องกันอตรายต่างๆเกี๋ยวกับวิญญาณในการนั่งสมาธิได้ดีเยี่ยม
    9.ธาตุกายสิทธิ์เสมือนทางลัดในการฝึกญาณบารมี

    บางตำราว่าของ (อ.บูรพา ผดุงไทย ) เหล็กไหล 7 สีเป็นเหล็กไหลน้ำหนึ่งที่ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งเหล็กไหลทั้งปวง

    ตามธรรมชาติจะมีถึง 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง ทั้งยังมีที่ออกเป็นสีทองและสีเงินยวงขาวบริสุทธิ์
    เหล็กไหลต่างๆเหล่านี้จะแยกกันเป็นอิสระ จะพบเจอรวมกันก็เฉพราะรังเหล็กไหลที่เป็น 7 สีเท่านั้น สีเขียว สีม่วง สีคราม น้ำเงิน
    เป็นเหล็กไหลโกฏิปีและเหล็กไหลเจ้าป่า สีเหลือ สีแสด และสีแดงอยู่ในตระกูลสีท้องปลาไหล และเหล็กไหลพลิง
    โดยแต่ละสีนั้นจะมีฤทธิ์บารมีแตกต่างกัน โดยปกติเหล็กไหลหนึ่งองค์ก็จะมีหนึ่งสี แต่อาจแปรสภาพต่างออกไป
    เช่นจ่างสีดำเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่ที่จะพบว่าในหนึ่งองค์นั้นมีครบ 7 สีไม่ค่อยมีนอกจากเหล็กไหลโกฏิปีเท่านั้นที่สามารถทอสีออกเป็นสายรุ้งได้
    รังเหล็กไหล 7 สีมีคุณทุกด้าน ทั้งเสน่ห์เมตตามหานิยมคุ้มครองปกป้องให้โชคลาพ เป็นแคล้วคลาดอย่างประเสริฐ เป็นตบะเดชะ
    เหมาะสำหรับนักปกครองด้วย เรียกดีทั้งนั้น มีอานุภาพ 108 ประการ มีรังเหล็กไหล 7 สีชิ้นเดียวเท่ากับมีเหล็กไหลชั้นยอดถึง 7 ชนิดด้วยกัน
    ผู้ครอบครองจะประสบความสำเร็จในการงาน สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงได้

    คำอธิษฐานน้ำมนต์เหล็กไหล 7 ธาตุกายสิทธิ์

    ลูกขอบารมีสมเด็จพุฒจารย์โต พรหมรังสี ท่านพญาสมิงเหล็ก ท่านปู่ฤาษีเวชยันต์ เทพยดาอารักษ์ ผู้สิงสถิตอยู่ในเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์นี้
    และครูบาอาจารณ์ทุกท่าน ข้าพเจ้า ( ชื่อ นามสกุล )

    ป่วยเป็นโรค......อาการ......ลูกขออนุญาตดื่มน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บในร่างกายของลูกให้หายขาด ณ บัดนี้ด้วยเถิด
    ( น้ำมนต์ใช้ดื่ม ทา หรืออาบ วันละหลายครั้งก็ได้ )


    คาถาต่างๆ ที่ใช้ภาวนากับ เหล็กไหล7สี

    ท่องพระคาถาบทนี้แล้ว พึงทำการอธิษฐานขอให้เหล็กไหลแสดงปาฏิหาริย์เป็นอนุสติให้ดูอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นว่าให้ยืดให้หด ให้เล่นไฟ ยังเป็นคาถาคุ้มครองตัวด้วย ท่องไว้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว ปราศจากโรคภัย เป็นคาถาที่เหมาะสมดีนัก พระคาถามีดังนี้

    จิ เจ รุ นิ เตชะ สะ ติ
    วายุละภะ ภะเวสัจเจเอชิมะ
    อะปานุติ ปะถะวิยัง
    (ตำรับวัดถ้ำแฝก)

    การนำธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหล 7 สีเข้าบ้าน จุดธูป 5 ดอกแล้วกล่าวอัญเชิญเหล็กไหล7สีดังนี้

    พุทโธ เมนาโถ ธัมโม เมนาโถ สังโฆ เมนาโถ สะกะทะจะปูชา
    จะบูชาท่านผู้ดูและตุอันศักดิ์สิทธิ์ทรงฤทธิ์อานุภาพ
    อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา เหล็กไหลเจริญมาเจริญยิ่งเจริญดีสิ่งดีดีทั้งหลายหลั่งไหลมาหาข้าพเจ้า
    สัมมะสัมมา สัมมา สัมมะ มะอะอุ
    คาถาถวายน้ำผึ้ง นะอึดโมอึด โธอัดนะอัด 3 จบ

    ข้อมูล อ.บูรพา ผดุงไทย

    คุณsumobaimon ปิดครับ
    7003.jpg 7004.jpg 7005.jpg 7006.jpg 7007.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2019
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่761 สิงห์สาริกา หลังรูปหลวงพ่อมุ่ย พุทฺธรักฺขิโต พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ วัดดอนไร่ ต.หนองสะเดา อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี
    ถ้าจะกล่าวถึงพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของเมืองสุพรรณ คงจะกล่าวเลย หลวงพ่อมุ่ย แห่งวัดดอนไร่ไปไม่ได้ ท่านเป็นพระคณาจารย์ถึง 5 รัชกาล ที่เกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกรูปหนึ่ง หลวงพ่อมุ่ยท่านเป็นพระสมถะ ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดเสมอต้นเสมอปลาย ทำสิ่งใดแต่พอเหมาะพอควร มีความเมตตาแก่สัตว์โลกทั่วไปทุกหมู่เหล่า ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่
    ประวัติ หลวงพ่อมุ่ย พุทฺธรักฺขิโต พระครูสุวรรณวุฒาจารย์
    เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2431 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 13 ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ณ.บ้านดอนไร่ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของพ่อเหมือน แม่ชัง มีศรีไชย เมื่อมีอายุครบบวชได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดท่าช้าง อำเภอเดิมบางนางบวช แต่อุปสมบทได้เพียง 10 พรรษา ก็ลาสิกขาออกไปช่วยบิดามารดาทำงาน ได้อุปสมบทครั้งที่ 2 ณ วัดดอนบุปผาราม (วัดตะค่า) ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันทร์ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2465 ได้รับฉายาว่า พฺทฺธรักขิโต จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองสะเดาได้ 3 เดือน จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดหัวเขา และย้ายไปยังวัดปู่บัวก่อนกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนไร่ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองสะเดา เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับพระสมณศักดิ์เป็น พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ ด้วยความที่เป็นพระเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ขยันในการศึกษาหาความรู้ทุกด้านโดยเฉพาะในเรื่องตัวเลขอักขระยันต์ คาถาอาคมของท่านเข้มขลังยิ่งนัก ทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อมุ่ยทุกรุ่น ได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก อาทิเช่น รูปเหมือนปั๊มลอยองค์รุ่นแรกปี พ.ศ. 2497 ตะกรุดธงมหาราช ผ้ายันต์ แหนบ สิงห์ แหวน เหรียญเสมาปี พ.ศ. 2493 รูปถ่ายภาพขาวดำเหรียญรูปเหมือน พระสมเด็จตะกรุดสามกษัตริย์ ฯลฯ ท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2517 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 รวมสิริอายุได้ 86 ปี บวชพระมาได้ 41 พรรษา
    ปิดครับ
    7008.jpg 7009.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2019
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่762 ท้าวกุเวรสองหน้า พิมพ์ใหญ่ ลป สรวง เทวดาเล่นดิน เนื้อดินปราสาทขอม แช่น้ำมนต์ ปี19
    ท้าวกุเวร "เทพเจ้าแห่งโชคลาภ" เนื้อดิน ปี 19 หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดินแห่งบ้านละลม จ. ศรีสะเกษ
    *ศาสนาพุทธสายเถรวาท นิกายมูลสรรวาสติวาท ได้มอบหมายหน้าที่ให้ท้าวกุเวร ทำหน้าที่ประสาทพรความร่ำรวยและโชคลาภให้กับผู้มาบูชาสักการะพระสถูปขององค์พระศากยมุนี ....ไม่ว่าใครหรือผู้ใด ที่มีท้าวกุเวรไว้สักการะบูชา มักจะเกิดความร่ำรวยมีลาภทันตาเห็น เพราะท้าวกุเวรเป็นเทพองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีผู้คนในสมัยโบราณถือกันนักว่า ท้าวกุเวรเป็นเทพเจ้าแห่งความสมบรูณ์พูนสุข มีความมั่งคั่งและเกิดลาภเกิดโชคแก่ผู้ครอบครองอย่างมหาศาลทีเดียว ...

    หลวงปู่ได้จัดสร้างพระเนื้อดินไว้ 1 ชุด มีดังนี้ พระผงพิมพ์เจ้าสัว, ลีลา, สมเด็จ, ขุนแผน, ซุ้มกอ, พระพิฆเนศวร, พระปิดตา, พระสิวลี, นางพญา, ท้าวกุเวร, นางกวัก พิมพ์ต่างๆ เป็นพระเนื้อดิน พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป

    คงไม่ต้องพูดถึงและบรรยายมาก เช่น เสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขายโชคลาภ ฯลฯ ครอบจักรวาล วิธีบูชาพระหลวงปู่สรวงที่ได้ผลดีที่สุดให้จุดธูป 9 ดอก บูชาด้วยดอกว่านมหาหงส์ 5 คู่ ด้วยยิ่งดีหรือถ้าไม่มีก็ดอกไม่ขาวทั่วไป ผ้าขาววาหนึ่ง เงิน 6 บาท เทียนหนักเล่มบาท 1 คู่ เทียนเล็ก 5 คู่ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วบอกกล่าวท่านเป็นภาษาเขมรว่า “หลวงปู่สรวง ออยเตียนสะลูน ออยเพิ่มพูน บายตึกเจีย ข้าพเจ้า (……บอกชื่อตัวเอง…….) ขอให้หลวงปู่สรวงได้รับรู้ด้วยเครื่องสักการบูชานี้และช่วยเหลือให้ข้าพเจ้า……(ขอในสิ่งที่ต้องการ)…… ด้วยบารมีของหลวงปู่สรวงด้วยเทอญ” ว่ากี่จบก็ได้ หลายจบยิ่งดีถ้าจะให้เห็นผลสำเร็จภายในเร็ววัน ให้ภาวนาคาถานี้ทุกวันให้ทำด้วยความตั้งใจ และความศรัทธา จากคำบอกเล่าผู้ที่เช่าไป ขอได้สำเร็จบางคนต้องกลับมาเช่าเพิ่มเพื่อเก็บสะสมไว้เป็นศิริมงคลนำไปขึ้นคอ และอธิฐานขอให้หลวงปู่ช่วยนะครับ

    การบูชาท้าวกุเวร
    ให้ใส่ไว้ในที่เก็บเงิน ลิ้นชักตู้เซฟ กระเป๋าสตางค์ถือ หน้าตู้ค้าขาย หน้ารถที่ใช้ประกอบอาชีพ (สามารถป้องกันวิญญาณร้ายสัมภเวสีไม่ให้เข้ามาได้) บูชาติดตัวเดินทางใกล้ไกลปลอดภัย ติดต่อธุรกิจการงานค้าขาย เปิดร้าน อธิษฐานขอพรขอโชคลาภให้ค้าขายดี ให้โชคลาภไหลมาเทมาทั้งแปดทิศ เสนียดจัญไร สิ่งอัปมงคลไม่เข้าใกล้ทั้งแปดทิศ โดยมีพระราหูคอยดักจับกลืนกินสิ่งชั่วร้ายและอัปมงคล มีพระธนบดีประทานโชคลาภและความมั่งคั่งให้กับสรรพสัตว์ทุกผู้ทุกนาม ตามแต่อำนาจบุญกรรมและวาสนาชะตาชีวิตของแต่ละคน หมั่นทำบุญให้ทาน ทำจิตใจให้ผ่องใส...

    ปิดครับ

    IMG_25620202_210056.JPG IMG_25620202_210016.JPG IMG_25620202_210147.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2020
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่763 ท้าวกุเวร 2 หน้า(พิมพ์ใหญ่) หลังเทพสุนทรีวาณี(เทพแห่งการมีปัญญา) ลป สรวง แช่น้ำมนต์ ปี19 ดินปราสาทขอมพันปี ผงกสินไฟ
    ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นอธิบดีแห่งอสูรย์หรือยักษ์ หรือเป็นเจ้าแห่งผี เป็นหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือ มียักษ์เป็นบริวาร
    ท้าวกุเวรหรือท่านท้าวเวสสุวรรณนั้น ส่วนมากเราจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือ พระอุระพลุ้ยอีกด้วย กล่าวกันว่า ท้าวกุเวรที่ปรากฏในรูปของชายพุงพลุ้ยเป็นที่เคารพนับถือ ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวกุเวรในรูปของท้าวเวสสุวรรณซึ่งมาในรูปของยักษ์เป็นที่เคารพนับถือว่า เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูติผีปีศาจ
    ***ป้องกันภูติผีปีศาจ โชคลาภ มีปัญญา เจริญในธรรม
    ปิดครับ

    IMG_25620202_210346.JPG IMG_25620202_210258.JPG IMG_25620202_210218.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2020
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่764 เบี้ยแก้ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ สร้างปี 2543 พร้อมสร้อยเชือกไนล่อนเดิม
    "เบี้ยแก้ "
    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ มีอิทธิคุณป้องกันอัตวิบากกรรม แก้ภาพหลอน จิตหลอน อุปาทาน กันและแก้อำนาจภูติผีปีศาล อาถรรพ์เวทย์ทำให้มัวเมาขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย์ คุณผี คุณคนทั้งปวง อุบาทวเหตุอุบาทวภัยทั้งปวง ยาพิษ ยาสั่ง ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข้ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ การกระทำจากภูติผี ผีพราย พรายเงือกผี ผีน้ำ ผีตายโหง ผีกองกอย วิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณผีร้าย อุปาทานเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ ปราศจากสิ้นแล ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี ในป่ามืด ในน้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง แก้สารพัดพิษ งูเงี้ยวเขี้ยวขอ มิมากร้ำกรายขบกัด
    คุณsumobaimon ปิดครับ

    IMG_25620210_135947.JPG IMG_25620210_135925.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่765 หล่อโบราณหลวงพ่อทวด หลังหลวงพ่อด่วน วัดบางนอน ระนอง เนื้อชนวนเก่าปี 05 รวมกับชนวนหลายเกจิ
    "หลวงพ่อด่วน ถามวโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดวารีบรรพต (วัดบางนอน) อ.เมือง จ.ระนอง พระสงฆ์ผู้สร้างปาฏิหาริย์เหนือคำบรรยาย เมื่อกายสังขารของท่านเผาไม่ไหม้ ในวันพระราชทานเพลิงศพจนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน วัดช้างให้ รุ่นแรก ปี 2497 และสร้างตำานานพระหลวงปู่ทวด วัดบางนอน จนดังกระฉ่อนไปด้วยประสบการณ์ความเข้มขลัง

    ก่อนหน้าที่ท่านจะละสังขารนั้น เมื่อปีพ.ศ.2550 ท่านได้สร้างพระหลวงปู่ทวด-จตุคามรามเทพรุ่น "รวบยอด" ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นสุดท้าย ปรากฏว่าในช่วงนั้นมีอยู่วันหนึ่งจู่ๆ ท่านก็ให้ลูกศิษย์นำชนวนมวลสารทั้งหมดที่มีอยู่มาปลุกเสกอธิษฐานอย่างเข้มขลังอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวกำชับว่า "เสกครั้งสุดท้ายแล้วนะ ให้สร้างรูปเราด้วย ขลังที่สุด" ทำเอาลูกศิษย์ลูกหาเกิดความงุนงง เพราะปกติท่านจะไม่พูดกำชับในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์หรือความขลังใดๆ โดยเฉพาะการสั่งให้สร้างพระเครื่องตัวท่านเอง

    ต่อมาไม่ถึงสัปดาห์ ท่านก็อาพาธและมรณภาพลงอย่างสงบ รวมสิริอายุ 91 ปี โดยขณะอาพาธได้สั่งไว้ว่า "อย่าเผานะ" แต่ด้วยความจำเป็นหลายประการ ทางลูกศิษย์และคณะกรรมการจึงลงมติให้ทำพิธีพระราชทานเพลิงศพท่าน จนเป็นที่มาของความมหัศจรรย์ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติจนลือลั่นไปทั้งแผ่นดิน เมื่อไฟเผาร่างท่านไม่ไหม้ต่อหน้าลูกศิษย์นับพันคน จึงเชื่อว่าท่านมีญาณรู้ล่วงหน้า วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

    หลังจากนั้นวันที่ 6 เม.ย.2551 ในโอกาสที่ทางวัดทำพิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อด่วน และวางศิลาฤกษ์วิหาร จึงได้นำชนวนมวลสารที่ท่านปลุกเสกไว้เป็นวาระสุดท้ายมาจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น โดยทำพิธีหล่อที่วัดตรงจุดที่เผาร่างท่าน ยึดพิธีกรรมของท่านคือ สร้างจำนวนน้อย เข้มข้นด้วยมวลสาร ปลุกเสกใหญ่โดยพระเกจิคณาจารย์สายเขาอ้อ มีพ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน อายุ 104 ปี เป็นเจ้าพิธี

    รูปแบบวัตถุมงคลคือ รูปเหมือนบูชา 9 นิ้ว 5 นิ้ว 3 นิ้ว และ 1.5 นิ้ว, พระช่อละ 19 องค์ (แบบลอยองค์ และพิมพ์เตารีด), ชุดพระเครื่องหล่อโบราณ พิมพ์ลอยองค์, พิมพ์เตารีด,พิมพ์รูปไข่ 2 บารมี, เหรียญมรดก (พุดซ้อนจตุรทิศ, รูปไข่) พระเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด-หลวงพ่อด่วน พิมพ์สมเด็จ, พิมพ์เตารีด และรูปไข่หลวงพ่อด่วน

    สำหรับพระบูชาใต้ฐานบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์ และพระเนื้อว่านหลวงพ่อด่วน ตอกโค้ดทุกองค์ ประเภทเหรียญได้มีการหลอมชนวนเก่าปี 05 รวมกับชนวนหลายเกจิ หลายพิธี ตอกโค้ดทุกเหรียญ พระเนื้อว่าน ได้นำมวลสารปี 97 ผสมมหาว่านและผงพุทธคุณทั่วแผ่นดิน ผงตะไบชนวนที่ท่านปลุกเสกเก็บรักษาไว้ตั้งแต่ยุคแรก โรยด้านหลัง ประทับโค้ดทุกองค์
    ล่าสุดวัตถุมงคลชุดนี้มีประสบการณ์แล้วหลายราย โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ดั่งเช่นสามีภรรยาคู่หนึ่งขี่จักรยานยนต์ไปประสบอุบัติเหตุชนกับรถกระบะอย่างจัง สภาพของภรรยานั้นเข้าขั้นโคม่า ไม่รู้สึกตัว ส่วนสามีบาดเจ็บไม่มาก โดยเขาห้อยพระเครื่องรุ่นนี้ของหลวงพ่อด่วน เมื่อเห็นอาการของภรรยาเขาจึงอธิษฐานจิตของบารมีหลวงพ่อด่วนให้ช่วยปกป้องคุ้มครองให้รอดชีวิต


    ปรากฏว่าหลังเข้ารับการรักษา สภาพของภรรยาก็ดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจทั้งๆ ที่เขาคิดว่าคงไม่รอด
    เชื่อว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อด่วนทำให้แคล้วคลาด

    ปิดครับ

    IMG_25620210_140106.JPG IMG_25620210_140016.JPG IMG_25620210_140552.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2019
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่766 เหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) ปี19
    ประวัติศาสตร์ของเหล็กไหลในสยามประเทศมีปรากฏชัดเจนที่สุดใน “โองการพระเจ้านอโม” กล่าวถึงเหล็กไหลในการประพันธ์โองการพระเจ้านอโมที่กล่าวถึงเหล็กไหลอยู่ประมาณปลายสมัยอยุธยาหรือต้นสมัยรัตนโกสินทร์ ดังนี้ “ตน+++เพ็ชชคงคงแก่ขวานเสน่านาง กระเบากระบี่สิ่งจะฟันกันหยั่นเยิน พะเนินหักฉะนักอยู่อังอะ ตน+++เพ็ชรคงคงแก่แสนธนูหน้าไม้ปืนไฟ ฟ้าดินดับหับบันดาล ทวาทศมิดปิดราษี ด้วยเดชะพระบารมีพระอิสวาสุ สุราไลยในไตรภพตลบวินาศ ตน+++เพ็ชชคงคงแก่เหล็กหมาด มีดตะบองกล้องสะลัดไชย ไม้รวกฉมวกและมีดเหน็บ เลื่อยและเหล็กแหลนหลาวหอกดาบคมขาว ของ้าวคมงอนลงอักษรถ้วนทั้งตัวดาบด้ามคร่ำนพคุณ พยู่บิ่นหินแลงคงแสง กะระมะถะ อสุนิการขวานฟ้าผ่าวังมหาเนาวะโลหะหล่อ เหล็กไหล หัวใจนพรัตนธนูสินเขาโคนินแลเขี้ยวพราย............

    องค์นี้ทรงรูปแคปซูล ขนาด 1.5 นิ้ว เป็นเครื่องรางอจินไตยของท่าน หายากสุดๆ เหล็กไหลชนิดนี้มักพบในที่เย็นจัด เช่นในแถบประเทศเนปาล ธิเบต และในแถบที่มีหิมะปกคลุม จึงไม่ค่อยพบในประเทศไทย เหล็กไหลชนิดนี้มีสีสันที่แปลกไปกว่าเหล็กไหลโดยทั่วไปเพราะมีสีขาวเงินยวงเหมือนปรอท เหมือนโลหะแวววาว บางชิ้นผิวพรรณดูคล้าย เกล็ดงูจึงเรียกว่า "นางพญางูขาวหรือพญางูเผีอก" จะมีอิทธิฤทธิ์ ทางด้านมายาภาพเช่นกัน และสามารถปรับอุณหภูมิรอบตัวให้ เหมาะสมแก่ผู้พกพาได้ เด่นในทางล่องหนหายตัว เป็นแคล้วคลาด จากภยันตรายทั้งปวง เหล็กไหลประเภทนี้ไม่ค่อยชอบเสพน้ำผึ้ง แต่ชอบอาบแสงจันทร์

    เหล็กไหลชีปะขาวหรือเหล็กไหลเงินยวงเป็นเหล็กไหลที่ นักบวชทางเหนือของประเทศไทยและพวกลามะธิเบตนิยมหามาพกติดตัวไว้เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ใช้ในการปกป้องคุ้มครองและใช้ในการแสดง ฤทธิ์ เช่น ใช้ทำน้ำมนต์ หรือเป็นเครื่องเพิ่มกระแสจิตให้กับตัวเอง เหล็กไหลชีปะขาวนี้จะล่องหนหายตัวไปต่อเมื่อผู้ที่เป็นเจ้าของ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือผู้นั้นถึงคราวหมดอายุขัย

    เนื่องจากเหล็กไหลชีปะขาวเป็นเหล็กไหลอีกชนิดหนึ่งที่หาดู ได้ยาก จึงมีน้อยคนที่จะรู้จักหรือได้เห็น อีกทั้งไม่ค่อยมีผู้ใดมีไว้ใน ครอบครอง คนทั่วไปจึงมักเข้าใจว่าเหล็กไหลต้องมีสีดำเท่านั้น รูปพรรณสัณฐานทั่วไปของเหล็กไหลชีปะขาวจะมีลักษณะยาวมนรื ทรงหนำเลี้ยบคล้ายเหล็กไหลที่ได้จากการตัด แต่เหล็กไหลชนิดนี้ สามารถเก็บมาเฉย ๆ ได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้วิธีการตัดเช่นเหล็กไหล ทั่วๆ ไป และบางครั้งยังพบที่มีลักษณะเป็นก้อนฝังอยู่ในใต้ดินด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องอาศัยการตรวจดูโดยทางในจึงจะสามารถรู้ได้ โดยมากเหล็กไหลชนิดนี้มักมีญาณของชีปะขาวหรือคนธรรพ์ดูแลรักษาอยู่

    ปิดครับ

    IMG_25620210_135143.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...