การพิจารณากระดูก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย newchai195, 31 มกราคม 2019.

  1. newchai195

    newchai195 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2019
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอสอบถาม ครับเนื่องจากตัวกระผมเอง ฝึกสมธิ ต่างๆนาๆ แต่ก็ยังคงงมต่อไป จนระยะหลังมานี้ ก็ทำเอาจริงเอาจัง กับตัวเอง แต่เมื่อก่อนตอนเป็นลูกศิษย์ รับใช้หลวงปู่ ผมก็นั้งๆไปก็ออกมาดูตัวเองผมตกใจ และอีกครั้งหนึ่ง นั่งไปเป็นเราอยู่แต่กลับเป็นโครงกระดูก ท่านั้งที่เรานั้งนั้นแว็บเข้ามาให้ดูให้มองเห็นร่างกาย ที่เหลือแต่กระดูก อันไม่มีอะไรเลยสลายไปตามกาลเวลา หลังจากนั้นผมก็ชอบที่จะปฏิบัติทาง ฤทธิ์ แต่ภาวนายังไง ก็ ไม่นิ่ง แต่เมื่อใด ภาวนาพุทโธ ไม่ก็ครั้งก็หลับไป แต่ละวัน ผมจะทำสมธิก่อนนอน หรือนี้ที่เรียกว่า จริต ผมเองก็ยังไม่เข้าใจ ส่วนมาก ชอบทำบุุญสร้าง คิดว่า การให้ทาน เรามีความสุข ผู้รับมีความสุข แต่ผมคิดว่า เมื่อถึงเวลา สิ่งที่เราค้นหาจะพบเองในตัวตนเอง ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะข้าพเจ้าด้วย บุญใดๆที่สั่งสมมาแต่อดีตชาติ ขอจง ปรากฏแก่ข้าพเจ้าเพื่อให้ได้เข้าถึงทำ น้อมนำเข้าสู่ทางนิพาน สาธุ
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แค่ฏิบัติตอนนั่งอย่างเดียวไม่พอ คับ ยืน เดิน นอน หายใจทิ้งประจำวัน สามารถปฏิบัติได้ครับ อานาปานสติ

    นั่งแล้วหลับ ขาดสติตกภวังค์โดนตัดหลับไป แก้ด้วยคำบริกรรมไม่ให้ขาดสายมีสติจดจ่ออยู่กับคำบริกรรมในกรรมฐานไม่ให้จิตฟุ้งซ่านส่งออกนอกคำบริกรรมจนจิตเป็นสมาธิ จิตเข้าสมาธิจะไม่มีทางหลับได้ครับ

    เมื่อจิตเข้าสมาธิ จิตเป็นผู้รู้แล้วให้เรียกกำหนดนิมิตกระดูกขึ้นมาแล้วพิจารณาต่อไปในสมาธิ ครับ
     
  3. มันติลา

    มันติลา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2018
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +117
    ฝึกสมาธิถ้าไปหวังถึงมรรคผลแค่ตอนนั่ง คงได้ยากครับ ทุกอิริยาบถ ทุกลมหายใจเข้าออก คือหนทางไปนิพพาน อยากได้จิตผู้รู้ ให้ฝึกรู้จิตผู้คิด อะไรมากระทบให้รู้ทัน เราจะได้สติ และกลายเป็นมหาสติ พอได้ตัวนี้ปุ๊ป ทุกอย่างก็จะเป็นของมันเองเลย ฝึกเรื่อยๆครับ อย่าท้อถอย
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ๑.ดีแล้วที่เห็นโครงกระดูกร่างกายอะไรก่อนเพราะอย่างน้อย
    ก็ตัดการยึดมั่นถือมั่นในตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นพื้นฐาน
    ที่สำคัญหากจะต่อยอดทางด้านพิเศษต่อไปที่ควรมี...

    ๒.ที่ระดับสมาธิไปไหนต่อไม่ได้ ไม่ใช่เพราะคำภาวนาใดๆ มันเป็น
    เหตุเพราะกำลังสมาธิสะสม
    ไม่เพียงพอ เนื่องจากมันได้หายไปในระหว่างที่เราใช้ชีวิตประจำวันปกติ
    ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติทั่วๆไป เกิดขึ้นได้ทุกคน....
    ปัญหานี้แก้ได้ง่ายๆ เช่น ๒.๑ให้มาเจริญสติในชีวิตประจำวัน
    ให้ต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจริงๆ ไม่ว่าจะนับก้าวเดินกรณีที่ร่างกายเคลื่อนไหว
    หรือระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกหยุดที่ปลายจมูกในเวลาที่ร่างกายนิ่งๆ
    ส่วนทำงานก็ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ไป
    ๒.๒ ทำสมาธิระหว่างวันในช่วงที่ว่าง
    เอาแค่จิตสงบ ครั้งละ นาที สองนาทีก็ว่าไป แต่ให้ทำบ่อยๆ
    ๒.๓.ให้เดินจงกลมสลับกับการนั่ง ถ้านั่งแล้วไม่สงบ ให้เลิกนั่ง
    ไปหาอะไรทำก่อน แต่ที่สำคัญก็คือ ให้รักษาระบบลมหายใจเอาไว้

    ๓.ทำบุญทำอะไรนะดีแล้ว และควรทำให้ในที่ลับที่แจ้ง อย่าคิดว่า
    ในที่ลับ ทำแล้วจะไม่มีอะไรมาเห็น....
    ๔.เลิกสนใจเรื่องบุคคลอื่นๆ หรืองดการพูดกล่าวถึงทั้งเรื่องอดีต และอนาคตร่วมด้วย
    ในระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องงาน ถ้าจบแล้ว ให้จบและทิ้งไว้ที่ทำงาน....

    ทำ ๔ ข้อ ข้างบนได้ จะพบว่า จะเข้าสมาธิได้ง่ายและนานขึ้นเอง
    *** ส่วนนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ ฟังหูไว้หู...
    ถ้าสนใจในเรื่อง ฤิทธิ์ หรือ เรื่องที่ในเวลาปกตินั้น
    จะมีความสามารถทางด้านการรับรู้ หรือ ทำอะไรได้มาก
    กว่าคนปกติทั่วไปนั้น.....
    ตามจริตของคุณ คุณจะต้องไปทางด้านการอฐิษฐานจิต
    ให้เกิดผลในกำลังระดับสูงให้ได้ครับ ซึ่งขอบอกว่า
    ต้องฟิตพอตัวครับ...
    ด้วยการขึ้น ด้วยกรรมฐานอะไรก็ได้ ที่ใช้ภาพในการเริ่มต้น
    เช่น ขึ้นด้วยกสิณน้ำ ก็ต้องทำจน สามารถอฐิษฐานน้ำให้ตก
    รอบๆกายได้(ส่วนนี้เล่าให้ฟังแต่ไม่เหมาะกับคุณ)
    หรือขึ้นด้วยภาพพระ แล้วอฐิษฐานจิต จนเกิดผลตามที่ต้องการ
    เช่น คิดว่า จะย้อนไปดูอดีตชาติที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖
    ต้องสามารถ เข้าถึงระดับปฏิภาคนิมิต ณ ระดับนี้
    แล้ว สามารถ อฐิษฐานจิต จนเกิดการแสดงให้เห็นเหมือนเราดูละคร
    ย้อน ไปทีละชาติได้ ตามลำดับ ตั้งแต่ ชาติที่ ๑๒๓๔๕๖
    วิธีเหมาะกับคุณที่สุด เพราะว่า มันเคยสะสมและเด่นมาแบบนี้ครับ.....

    โน้นละ พอทำ การขึ้นด้วยภาพพระและเกิดผลอย่างที่บอก
    ในเวลาลืมตาใช้ชีวิตปกติ ตัวจิตคุณ มันถึงจะมีความสามารถ
    รับรู้และเข้าใจอะไรๆพิเศษ ตลอดจนทำอะไรพิเศษ
    ขึ้นมาได้ หรือ ที่คุณเข้าใจว่า เป็นฤิทธินั่นหละครับ
    แต่จริงๆแล้ว ในวงการ จุดที่เล่าให้ฟังนี้
    มันเป็นเพียงแค่ การเริ่มต้น......

    อย่างคุณไม่หลงตัวเองหรอก
    โน้นทำให้ได้ ก่อน มีอะไรก่อนอย่างที่บอก
    ส่วนความสามารถจะพัฒนาหรือไม่
    มันขึ้นอยู่กับ เรื่องปัญญาทางธรรมล้วนๆ
    สรุป ทำให้ได้ก่อน ค่อยมาเน้นเรื่องปัญญาภายหลัง
    ถ้ามีจริตแนวๆนี้นะครับ......

    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  5. ยิ้มรับสิ่งใหม่

    ยิ้มรับสิ่งใหม่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +129
    สาธุ ผมขอขอบคุณ พี่ๆทุกท่าน ที่ตอบ newchai195 ผมเองครับ

    กระจ่างแจ้งเลยครับ ขอบคุณ คำที่ตรงประเด็นกับที่ใจตามหา ขอบคุณ พี่ nopphakan อย่างสูงยิ่ง โดนตรงตัว ผมขอถามอีกเรื่อง ทำไมผมชอบสวดมนต์ บทสั้นๆตลอดเวลาการเดินทาง ยันเวลาทำงาน ถ้าคิดได้ก็ท่องในใจ เวลาขับรถมอไซค์ผมก็ออกเสียงเบาๆ เพราะคิดไปว่า เทวดาคงได้ยิน ดวงจิตทั้งหลายคงโมทนาในบุญ ผมจะถามครับ มีวันหนึ่ง อารม เบาๆสบายๆ ฟังธรรมไปเรื่อยๆ แล้วท่อง ปราโมท ปราโมท ในใจ ไม่กี่ครั้ง องค์พระ มาเลยครับเต็มองค์ เงินใส่แจ๋ว สวยงามสมเด็จองค์ประฐามปางนิพาน หมุนวน วน วน ผมก็มองดูต่อไป เสียงได้ยินหลวงพ่อสอนธรม หูได้ยิน ตารู้สึกตัวทุกอย่างแต่หลับตาเมื่อใด ก็จะเห็น องค์พระ หมุน หมุน ซูมเข้า ซูมออก หมุนๆ ลืมตาหาย หลับตามาอีก เห็นอีก จากนั้นก็เลยลุกยกมือไหว้ ออกจากสมาธิเลย และ อีกครั้ง ผมเชื่อ นิพานมีจริง สาธุ ขอ ขอบคุณพี่ๆทุกท่านด้วยใจจริง ครับ
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    วิธีไหนที่ทำสบายแล้ว ให้ผลเยอะกว่า
    ก็ทำวิธีนั้น มันเป็นของเก่า
    เดี๋ยวพอคล่องตัว ค่อยไปเล่นอย่างอื่น
    ก็ยังไม่สาย แต่ใหม่ๆ ให้เลือกเอา วิธีเดียว พอ
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    ดีแล้วครับ ฝึกได้ถึงขนาดนี้
    แสดงว่า มีความตั้งใจมุ่งมั่นดี
    ทำไปเรื่อยๆครับ พอชำนาญดีแล้ว
    ต่อไป ให้พิจารณาความไม่เที่ยง ใส่ลงไปลองดู
    พิจารณากฏของพระไตรลักษณ์ ดู
    อาจจะได้ผลงาน ขี้นมาก็ได้
     
  8. newchai195

    newchai195 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2019
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +48
    สวัสดีครับต่อด้วย ความเข้าใจของข้าพเจ้า
    +เวลาสวดมนต์ จะชอบดูลมหายใจเวลาสวด เช่น นะชาลีติ ฉิมพาลี จะมหาเถโร (หายใจเข้าแล้วลมหายใจออกจะมาสุดที่ จะมหาเถโร)
    ต่อด้วย สุวรรณนะมามา โภชนะมามา (หายใจเข้าและออกสุดลมที่ คำว่า มามา
    วัตถุวัตถามามา (เข้าออก ครึ่งลมหายใจ ครึ่งลมหายใจที่ปล่อยออกไป จะมาหยุดที่คำว่า มามา
    ต่อด้วย พลาพลังมามา ครึ่งลมหายใจปล่อยไม่สุด หยุดกำลังที่คำว่า มามา ต่อด้วย โภคะมามา มหาลาโภมามา ( แปลก ตรงคำว่า โภ คะ จะปล่อยกำลังลมออก 2/4 แต่ มหาลาโภมามา ตรงคำว่า มหา ปล่อยออก 2/4 ครึ่งกำลังของคำว่า โภคะ สัพเพชนะนา พะหูชะนา พะวันตุเม (ท่อนสุดท้ายเหมือนถูกปล่อยวาง ว่างจากทุกสิ่ง ทุกสิ่งไม่ยั่งยืน เกิดแก่เจ็บตาย ผมชอบไปมองดูเมรุ ดูตรงปล่องด้านบนสุด ขเม่าสีดำ นึกคิดย้อนไป เราเกิดมาทำไม เกิดมากาอะไร ดิ้นรน ทำไม วุ้นวายทำไม พอคิดปุ๊บ แหงนมองดู ปล่องควัน เมรุ ก็ โอ้หน้อ ชีวิต สุดท้ายที่ความตาย แม้แต่ร่างกายนี้ก็ เน่าเห็น น้ำเลือดน้ำหนอง กระดูก ผุไปตามกาลเวลา คนเราเกิดจากอะไรก็ติดไป ทำไมธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ จะต้องมารวมกันเป็นชีวิตขึ้นมา ดิน ชิ้นเนื้อ น้ำ น้ำเลือด ลม การขยับร่างกาย ไฟการหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ หรืออย่างนี้ คือธาตุ ในตัวเรา ส่วนธาตุน้องตัวเราที่เราจับต้องได้ มีเห็นได้ ย่อมมีการพึ่งพาอาศัยกัน ตามสะภาวะที่เรารับรู้ว่า นี้คือ ดิน นี้คือน้ำ ต่อด้วยส่วนการบริกรรม นะมะพะทะ ก็คือธาตุ แยกกันออก ผมว่าเป็นสายเย็นทางเมตตา มีธาตุหลักเป็นน้ำ ส่วน บริกรรม มะอะอุ อุอะมะ แน่นๆ มีสติ หรือนี้คือ สายหนัก มีธาตุดินเป็นหลัก บวกกับธาตุไฟ ผมเองก็ไม่รู้มากเท่าใด แต่ที่พิมพ์มาทั้งหมด คือความรู้ของข้าพเจ้า ส่วนรูป กับนาม แยกกันออกได้แต่ไม่ชัดเจนในบางขณะ ไม่มีตัวตน ผมว่ารูปกับนาม ตอนจะเข้าใจได้กระจ่าง มาดีเหลือเกินอารมไม่ต้องทำไร ฟังธรรม เบาๆ นิ่มๆ เหมือนกับโลกนี้หยุดเวลา บางที 1-2ชั่วโมง แต่เราคิดว่าแค่ 10นาทีเท่านั้นเอง แต่ที่ไหนได้ ปาเข้าไป2 ชั่วโมง สำหรับผม ผมฟังหลวงพ่อฤาษีสอน ผมกลัวปาบ ผมคนไม่ดี มีบาป ใครจะว่าก็เชิญ จะยกยอ ก็เชิญ ผมไม่สนใจใครทั้งนั้น เทวดารับรู้กับผมก็พอ นิพานมีจริง วิมาน มีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง ตอนอยากไปทำแทบตายไม่ได้ไป พอจะไป ฟังนิดๆ พุทโธ พุทโธ วิ่งเลยครับ จัรกวาล นี้ นางฟ้าครับ มีวิมานของฉันมีมั้ย อยู่ที่ใด โล่ๆ สวยงาม หลังจากนั้นก็ขอเข้าไปกราบ องค์สมเด็จ ประทับปางนิพาน ท่านอน บนแท่นหินใหญ่ๆๆๆ องค์ใหญ่ๆๆๆ พอพระองค์ท่าน ลุกมานั้ง ปางประฐมเทศนา ผมก้มกราบ พระองค์ท่านก็ใหญ่ขึ้นสูงขึ้น มองไป ด้านหน้า ใหญ่โต งดงามยิ่งนีก เวลาพระองค์ทั้นยกมือ เหมือนกำลังจะให้พร ผมก็กราบ แสงจากก้านหลังพระองค์สว่างจ้า จ้ามาก จ้าจนต้องลืมตาออกจากสมาธิ แต่ว่าบางครั้ง เวลาฟังธรรมมั อ.สมภพ เทศ์อีสาน เหมือนจิตใจดำดิ่งในกระแสแก่งธรรม โอ้หน้อชีวิต ตายไป เหลือแต่บาปกับบุญที่ติดตัว มีทางเดียว วันใดที่ข้าพเจ้าตายจากโลกวันนั้นผลบุญกุศลทั้งหมดที่ได้กระทำมาขอจงส่งผลเกื่อหนุนให้ไปสู่ภพที่ดี มีนิพานเป็นที่สุด

    อิติสุขโต อระหังพุทโธ นโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระกุมมะเทวา ขมามิหัง

    บารมีหลวงปู่ ครูอาจารย์ ทั้งหลาย หลวงพ่อฤาษีก็ดี เจ้าคุณนร ก็ดี หลวงปู่หมุนก็ดี และ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมก็ดี โปรดนำทางข้าพเจ้าเข้าสู่ทางธรรม มีทานเป็นบารมี อันสูงสุด สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.7 KB
      เปิดดู:
      161
  9. newchai195

    newchai195 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2019
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +48
    ให้สวดบทนี้ สวดเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าวันไหนมี สิ่งมากระทบ แม้แต่บทสั้นๆก็จำไม่ได้ จนต้องดึงลมหายใจ ลึกๆแรงๆ2_3ครั้ง ถึงจะหยุดฟุ้งซ่าน และอีกประการหนึ่งเมื่อก่อนชอบ หยิบทุกอย่างขึ้นมาดู ใช่ใจเพ่งเดิน ลมปราน ตามจุดของเราจนออกมือ มีอาการกระตุก แต่ผมยังทำได้ไม่สุดแค่พอรับรู้ ส่วนที่คุณ nopphakan ที่บอกผมว่า จริตผมมาทางแนว อฐิฐานก็จริงครับ เหมือนกับตาเห็น ผมชอบอฐิฐานมาก อฐิฐานถึงเทวดาทั้งหลาย สัพสัตว์ทั้งหลาย ขอท่านจงมีความสุข ด้วยอำนาจของพุทโธ สาธุ พระไภษัศชยะคุรุ สาธุ ของสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข
     
  10. knug1

    knug1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +126
     
  11. knug1

    knug1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +126
    ***อธิบายได้ดี..เข้าใจได้ง่าย..กรุณาเขียนเป็นวิทยาทาน บ่อยๆ..จ้า**
     
  12. knug1

    knug1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +126
    ***อธิบายได้ดี..เข้าใจได้ง่าย..กรุณาเขียนผลการปฏัติธรรม..เป็นวิทยาทาน บ่อยๆ..จ้า**
     
  13. Luenvyshine

    Luenvyshine ชีวิตที่ถูกคุมด้วยเวลา คือ วงจรชีวิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    ขอบคุณคะ เข้าใจง่ายมาก กำลังสติมีน้อย มิน่า ตัดหลับทุกครั้งที่สวดมนต์ แหะๆ แต่สมาธิกล้าแกร่ง แรงมาก ตอนนี้ พยายามหลุดให้ออกจากมโน หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพบปะพูดคุยกับภพอื่นๆ หรือ เทพ เทวา หรือ ตัวตนจากภพอื่น ต้องการ แยกแยะให้ออกระหว่าง ปัจจุบันภพตนเอง กับภพอื่นคะ จะได้ไม่หลุดไปเจออะไรที่ไม่ดี

    กำลังสติ เท่านั้นที่ยังไม่คล่อง

    แต่รู้สึกตัวตนเรา จิตเรา ไม่ดูดเงินให้ตนเอง แต่ดูดให้คนอื่นตลอดเลยอะ เหมือนทางผ่านตลอด แม้กระทั้งโชค ยังไหลไปให้คนอื่นตลอดเลยคะ อันนี้ไม่รู้จะแก้ยังไงดีคะ

    เวลาทำอะไรรู้สึกเหมือนตอนทุกข์ก่อน เงินถึงจะมาคะ บางที ก็มาจากความทุกข์ และความตายคะ เหมือนได้ลาภจากอะไรเน่าๆ สักอย่าง มาให้ชีวิต เดินต่อได้ด้วยละคะ

    เอือม กับวิถีชีวิตแบบนี้คะ
     
  14. ยิ้มรับสิ่งใหม่

    ยิ้มรับสิ่งใหม่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +129



    พูดได้ตรงใจครับ เรื่องโชค วันนี้ผมนั้งคิดทั้งวัน แต่เริ่มคิดมาหลายวันละ ถ้าเราสวดเรามีโชค คนอื่นก็มีโชคพร้อมๆกับเรา แปลกดี แต่ก็ดี เห็นคนอื่นมีความสุข ผมก็สุขใจแล้วครับ
     
  15. Luenvyshine

    Luenvyshine ชีวิตที่ถูกคุมด้วยเวลา คือ วงจรชีวิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41

    เราก็ไม่ได้รู้สึกอิจนะคะ แต่แบบว่า มันรู้สึกแย่กับตนเองนะคะ ที่ไม่มีใ้ห้ตนบ้างเลย หากตนเองได้ดีมีโชคดี และมีเงินมันก็ทำให้เรารู้สึกว่า เรามีพลังงานมากพอที่จะแบ่งปันให้คนอื่นด้วย ตนเองยังไม่มีแล้วดันเป็นทางผ่านอันนี้รับไม่ได้กับมันอะ เหมือนร่างกายเราเป็นทางผ่าน ประตูเงินรั่ว และไม่มีดูดเข้ามาเลยคะ

    สังเกตแม้กระทั้งเวลาสวดมนต์บทที่บอกว่า เรียกเงินมานิ ก็มานะ มาแบบน้อยนิด แล้วก็ดีเนืองๆ แต่ก็มาเพื่อบรรเทาอะคะ เลยไม่ได้อินกับมันมากขนาดนั้นว่า จะได้เงินจริงๆ
     
  16. newchai195

    newchai195 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2019
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +48

    ผมว่านะครับ ผมขอมีข้าวปลา อาหารไม่ อดไม่อยาก ส่วนมากมาทางนี้ครับ ข้าวปลาอาหารไปไหนก็สบายใจดี มีคนคอยช่วยเลี้ยงดู แต่ ก่อนจะกินของที่เค้าหามาให้ ผม นั่งมอง แล้ว ก็ขอบคุณ ความโชคดี ขอบคุณครูบาอาจารย์ ที่ประทานอาหารการกินมาให้ เราและครอื่นก็มีความสุขกับแล้ว เมื่อกินเสร็จก็เหมือนให้พรเขาในใจขอให้ท่านจงมีความสุข ด้วยอำนาจ ของพุทโธ และเมื่อได้ สะดับพระนาม พระไภษัชยคุรุ ขอให้ท่านทั้งหลาย จงมีความสุข ตามมหาปณิทาน 12 ประการ ขอให้หมู่สัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข

    แต่ผมว่าเราทำแบบนี้เป็นประจำ ก็เกิดเป็นความเมตตาในตัว ทำต่อไปสักวันสิ่งที่ปราถนา จะสำเร็จโดยพลัน โชคดีสู้ต่อไปนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...