ใครถึงนิพพานมาเป็นอาจารยํลุงที

คลิกลิงค์ อีกทวี...ห้องนี้ แจกซุบไก่
หากมี AV

Click

 

จิตวิญญาณ หรือสังขารจิต(อัตตาตัวตน) ที่มันลอยออกมานอกโลก มันยังมีสายใยเชื่อมกับกายอยู่ด้วยใจหรือ มโน...ถ้าสามารถ ละความยึดมั่นถือมั่นในจิตนี้ได้...มันจึงถือว่า ถึงที่สุดของ สมุทัย คือ ที่สุดของรู้ ที่สุดของอยาก ที่สุดของสงสัย ที่สุดของอัตตาตัวตน...ถ้าจะปล่อยวางจิตนี้ได้ ก็ด้วย วิชชาหรือปัญญา รู้ ในเหตุแห่งทุกข์ตัวแท้จริง แล้วปัญญาจะหาทางดับทุกข์เอง เหมือนที่เคย ปล่อยวาง กาย ปล่อยวางโลกมานั่นเอง...ถ้าวางจิตได้ ชำระอวิชชาตรงนี้ได้ จึงจะเหลือเพียงใจ แท้ๆที่เป็นมโนธาตุ ที่เข้าถึงนิพพานจริงๆ แล้ว ใจ จึงต้องหาทางกลับคืนสู่โลกสู่กาย อีกครั้ง ใจหยั่งลงมาที่โลกที่กายอีกครั้ง...เหมือนเกิดใหม่ ...เหมือนรีเซ็ตใหม่ทั้งหมด

 

+++ จิตรู้ ของน้าจร น่าจะตรงกับอาการที่เรียกว่า "ผู้รู้" ที่เป็น ตัว ๆ อยู่นะ
+++ ไอ้ผู้รู้ ที่เป็นตัว ๆ นี่แหล่ะคือ สังขารจิต สัญญาจิต คือจิตวิญญาณ ที่เป็นตัวตน
+++ นั่นแหละ อาการเป็นอย่างเดียวกัน "จิตรู้/ผู้รู้/ตัวรู้/วิญญาณขันธ์" นี่แหละที่ "ต้องวาง"

+++ แต่คำว่า "อาสวักขยญาณ" ของน้าจร ผมเรียกสภาวะนี้ว่า "สภาวะรู้/รู้ซื่อ ๆ" เพราะความเป็น "ตัว/ตน" ของมันไม่มี
+++ มันเป็น "ญาณ = รู้" ที่ไม่มี "อาสวะ 4" แต่ผมใช้ภาษาแบบไม่ต้องแปลว่า "สภาวะรู้" ตรงนี้ น่าจะ "รู้จักอาการ" ได้ง่ายนะ

 

ตอนนี้ขาก็พยายามเดินออกกำลังกายอยู่ครับ
ควบคุมอาหารอยู่ครับ แต่ยังฟอกไตอยู่ ..ท้องโตหายแล้ว คิดว่าโรคไตคงจะหายในไม่ช้า เหลือแต่ตามัว ครับ

ส้วนนังจิตยิ้มจิตนรก ปล่อยให้เขาหลงไปก่อนครับ ไม่เห็นโลงศพก็คงไม่หลั่งน้ำตา เดี๋ยวนรกก็จัดการเองแหล่ะครับ

 

กาย เนี่ยะ ยิ่งพ้นกาย ยิ่ง ดูแล มันดี..

พ้นแจ่มๆ พระท่านว่า จะมี ธรรมโอสถ

ได้ ธรรมโอสถ สักเม็ด ในสี่ขนาน
ขนานละ สองเม็ รวมเปน แปดคู่
นี่ อมตะ นอนมา

ไม่ต้องให้ใคร มาจูง หรือ อวยซะ
เสียวไปหมด โดยชอบ

_/\_ _/\_ _/\_


ปล. ดูแล กาย ดีๆ จะเปน การตอบ
แทนคุณพ่อแม่ญาติโก... ลูกสาว
จะสัมผัสได้....จนอาจจะกิน ธรรมโอสถ
ก่อน พ่อ ก้ล่ายนะฮับ

 

สำหรับผม...ผมเคยหลงอยู่ในสภาวะที่จิตอยู่นอกโลก กว้าง ไม่มีขอบเขต ไม่มีที่ไป ไม่มีทางออก จิตหลงว่าตนเองเป็นเทพ เป็นอรหันต์ เป็นพระพุทธเจ้า เป็นอมตะ ...สื่อสารกับจิตระดับเทพ เที่ยวหาเรื่องไปทั่ว สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว เพราะความหลงว่าตนเองบรรลุเป็นอรหันต์ ไม่กลัวฟ้ากลัวดิน....สุดท้ายได้อาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีมาช่วยชี้ทางออก...ถึงบาปบุญคุณโทษต่างๆ จนเกิดปัญญาเห็นเหตุแห่งทุกข์ตัวจริง...และท่านอาจารย์ก็ได้ชี้ อาสวะ เรื่อง สังขาร สัญญา อัตตาตัวตน ที่ต้อง สำรอก ออก จนหมดสิ้น เกิดวิชชา ทำลายอวิชชาลงได้...ปานนั้น ตัวผมเองยังต้องค้างเติ่ง อยู่นอกโลก แบบ ไม่เอาอะไร รอวันตาย...อาจารย์ต้องมาชี้ทางกลับโลกอีกครั้ง....ที่เล่ามานี่ เรื่องมันยาวนะครับ
และ เรื่องเหล่านี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว...5 6 ปีแล้วมั้ง

 

+++ "อาการ" ทุกอย่างที่กล่าวมา เป็นอย่างเดียวกันหมด
+++ รวมทั้ง "เหมือนเกิดใหม่ ...เหมือนรีเซ็ตใหม่ทั้งหมด"
+++ ตรงนี้เหมือนกัน ต่างกันแค่ "การสื่อภาษา" เท่านั้นเองนะ

 

ครับ...ที่ผมป่วย เป็นเพราะไม่เข้าใจ ในการแสดงธรรมครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้า เรื่อง อย่าประมาท....
ผมประมาทเอง...เลยทำร้ายตน จนล้มป่วย
ตอนนี้ธรรมโอสถก็คือ มรรคแปด ...อันเป็นธรรมจักร ครับ
กล่าวแล้วน้ำตาไหลครับ...

 

+++ อาการที่ น้าจร เล่ามานั้น ผมเรียกมันว่า "อาการของ จิตจักรวาล (จิตหลงจักรวาล)" หนะ
+++ เป็นอาการแบบ GOD เอาเลยจริง ๆ นะ แต่วิวัฒนาการของมัน ไม่ค่อยจะน่าดูเท่าไรเลย
+++ อีกหลายอสงไขย แน่นอน... หากไม่เจอผู้ชี้ทางให้ ยินดีด้วยนะครับ ที่ "รอด" ออกมาได้

 

ผู้ที่มาชี้ทางในการชำระ จิต สังขาร สัญญา อวิชชานี้..ผมเรียกท่านว่า....พระพุทธเจ้า...แต่พระพุทธเจ้า ให้เรียกตัวท่านว่า เป็น ตถาคต

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต....
ขอบพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระตถาคต ขอบคุณพระธรรม
ขอบคุณกัลยาณมิตรทั้งปวง

 

ยังพยาบาท หึหึ

 

ไม่ได้พยาบาท แต่เกลียดความโง่ของคน
เราบอกทางให้พ้นนรก เมื่อไม่ฟัง ก็ต้องถึบส่งให้มันเข้าสู่นรกเร็วขึ้น จะได้สำนึกไงครับ

 

หึ!!

 

+++ ณ ขณะที่ "อยู่/เป็น" ในสภาวะนั้น

+++ 1. ไร้ขันธ์ 5 ทั้งปวง
+++ 2. ไร้ "กิริยาจิต" ทั้งมวล
+++ 3. มโน เกิดไม่ได้ (ไร้รูป)
+++ 4. ไร้ ธัมมารมณ์ ทั้งหมด (ไร้นาม)
+++ 5. เป็นสภาวะ "เจิดจ้า พรรณรังสี" (ธรรมเดียว)
+++ 6. พระ "ตถาคต" ปรากฏมาเอง ในสภาวะนี้

+++ ถ้าสภาวะนี้ "ตรงกัน" ก็ขออนุโมทนา ด้วยนะครับ

 

ข้อ 1 2 3 4 ถูก
ข้อ5 มีธรรมเดียวคือ ถึงความพ้นจากทุกอย่าง รับรู้สภาวะนิพพานเท่านั้น คือ สุขที่สุดที่รู้สึกว่าพ้นแล้วจากทุกสรรพสิ่งอย่างแท้จริง โดยไม่มีวันกลับมาโง่ หลง ในวัฏสงสารอีกแล้ว ...เอาทั้งจักรวาลมาแลกยังไม่สนเลย...
ข้อ 6 ไม่เห็นพระพุทธเจ้า แต่เห็นธรรมในท่านผู้มาชี้ (โดยยังไม่เคยเห็นหน้าท่านมาเลย ชี้ทางโทรศัพท์)...เพราะธรรมที่ท่านชี้ มันช่วยชำระอวิชชาได้จริง...ธรรมนี้อยู่กับใคร ท่านผู้นั้นก็เป็นพระตถาคต...สำหรับผม

 

เคยเห็นแต่ในดวงอาทิตย์ ส่องรัศมีเป็นรูปธรรมจักร 8 แฉก 8 เหลี่ยม....ส่วนพระพุทธเจ้า ก็เห็นรูปก้อนเมฆที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องอยู่ด้านหลัง รูปร่างเมฆเป็นรูปองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

....ภาพปลากรอบ....

จขกท รับ พยากรณ์ ไปเลย น้าจร มาแว้ววววว

 

ผมมาหลอกเหยื่อเท่านั้น หาเหยื่อมาขึ้นเขียง
มิได้มารับพยากรณ์ให้ใคร เพราะคนที่อยากนิพพาน ล้วนแต่พยากรณ์ให้ตัวเองทั้งสิ้น...ยอมมอบกายถวายชีวิตนี้แด่...พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

ที่มาปฏิบัติธรรม ผมไม่ได้อยากไปนิพพานเลยสักนิด
ผมแค่อธิฐานไม่เอาอะไรเลยไม่ว่าจะเป็น นรก โลก สวรรค์ หรือนิพพาน...แค่ต้องการไม่มีความทรงจำ ไม่มีความคิด ลืมทุกอย่างให้หมด ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น...ผมอธิฐานแค่นี้เอง