พุทธวจน-เราเป็นใคร-มาจากไหน-ในเมื่อตัวเราไม่ใช่เรา จิต ก็ไม่ใช่เรา..

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ใครบรรลุธรรม, 3 มีนาคม 2019.

  1. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ..เอ้อ..ใครรู้มั่งครับในเมื่อ..ขันธ์5 ไม่ใช่เรา-จิตก็ไม่เที่ยง เมื่อจิตมันไม่เที่ยง-จิตก็ก็ไม่ใช่เราอีก-แล้วเราเป็นใคร-เรามาจากไหน-แล้วเรามาทำไมนี่..
    ..รึว่า "แบบฟอร์ม"..การเกิดของเรา ถูกกำหนดมาแล้วจริงๆรึ แบบ พวกเขากะลา-เขากะลาจริงๆ-ที่เขาโฆษณา เกณ์คนพุทธ คนมีศิลมั่ง-ไม่มีมั่ง-ให้ไปนับถือ เอเลี่ยน-ต่างดาว หรือเป็นลูกน้องต่างดาวโน่น.

    ..มียา..ต้านเศร้า.. แจกที่ไหนมั่งครับ..ไอ้พวกที่มั่นใจตัวเองสุดๆ-เก่งไปทุกเรื่อง-กำลังอาละวาดหนักเลยครับ
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    BBUhtzT.jpg

    พี่สาวใช้ตัวเปนเกราะ ป้องกันไฟ
    ให้น้องจนมีคนเข้าไปช่วยทัน แต่
    ตนทนพิษบาดแผลไม่ไหว......

    ไม่สนใจ รอถามใคร...เกิดมาเพื่อ
    อะไร.........เพราะความดี มีอยู่จริง
    และ การสละความดีนั้น..ด้วยความ
    เหนในโลกธรรม8 ย่อมเหนือโลก
    เหนือวัฏไม่ต้อง ถาม ตายแล้วไปไหน

    ติ๊ง!
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ในพระไตรปิฎกไม่ได้บอกไว้หรอกค่ะ เพราะในยุคเมื่อก่อน 2,600 ปี มนุษย์ยังไม่สามารถเข้าถึง "พลังงาน" ได้เหมือนยุคปัจจุบันค่ะ

    แต่ทรงให้ความเข้าใจ เรื่อง "โลกธาตุ" หรือเรื่องราวของ "จักรวาล" ในจุฬนีสูตร และ ทรงตรัสไว้ใน "อัคคัญญสูตร" เรื่องกำเนิดโลก และได้ทรงกล่าวเกี่ยวกับรูปที่มาจาก ธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ธรรมธาตุ เป็นต้นนะค่ะ

    เมื่อมนุษย์สมัยนั้น ธรรมดาคนย่อมต้องการค้นหาเพื่อที่จะรู้ที่มาของตนเอง พยายามที่จะค้นหาคำตอบ เมื่อความรู้เหล่านั้นเป็นวิสัยที่จะนึกตรึกตรองได้ พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่าเป็นอจิตไตย 4 ไว้

    แต่..ในยุคสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไป และเป็นยุคการสร้างบารมีในยุคกึ่งพุทธกาล และไม่ว่ายุคสมัยใด หากต้องการหลุดพ้นหากไม่รู้สัจธรรมเหนือมิติโลกหรือเบื้องหลังมิติโลก อันเป็นสัจธรรมเป็นธรรมธาตุ จะไม่สามารถหลุดพ้นได้เลยค่ะ

    นอกจากนั้น พระองค์ยังได้ตรัส .........

    " ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ, ตญฺจโข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฐนฺติ
    ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ, ตญฺจโข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิวิปฺปมุตฺตนฺติ "

    คำแปล ตรงๆ ...-->> "ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผุดผ่อง แต่จิตนั้นแลเศร้าหมอง เพราะอุปกิเลส ที่เกิดขึ้นภายหลัง
    ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผุดผ่อง และจิตนั้นแล หลุดพ้นแล้ว จากอุปกิเลส ที่เกิดขึ้นภายหลัง "


    และทรงตรัสเรื่องการพิจารณา.....

    ๓๒. จตุธาตุววัฏฐาน ๔ พิจารณาร่างกายประกอบด้วยธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ


    ๓๗. อากาสานัญจายตนะ ถือ อากาศเป็นอารมณ์ จนวงอากาศเกิดเป็นนิมิตย่อใหญ่เล็กได้ ทรงจิตรักษาอากาศไว้ กำหนดใจว่าอากาศหาที่สุดมิได้ จนจิตเป็นอุเบกขารมณ์

    ๓๘. วิญญาณัญจายตนะ กำหนดวิญญาณหาที่สุดมิได้ ทิ้งอากาศและรูปทั้งหมด ต้องการจิตเท่านั้น จนจิตเป็นอุเบกขารมณ์

    ๓๙. อากิญจัญญายตนะ กำหนดความไม่มีอะไรเลย อากาศไม่มี วิญญาณก็ไม่มี ถ้ามีอะไรสักหน่อยหนึ่งก็เป็นเหตุของภยันตราย ไม่ยึดถืออะไรจนจิตตั้งเป็นอุเบกขารมณ์

    ๔๐. เนวสัญญานาสัญญายตนะ ทำความรู้สึกตัวเสมอว่า ทั้งที่มีสัญญาอยู่ก็ทำเหมือนไม่มี ไม่รับอารมณ์ใด ๆ จะหนาว ร้อนก็รู้แต่ไม่ดิ้นรนกระวนกระวาย ปล่อยตามเรื่อง เปลื้องความสนใจใด ๆ ออกจนสิ้น จนจิตเป็นอุเบกขารมณ์


    แต่...ในยุคสมัยปัจจุบันนี้....มีแสงธรรมส่องมายังโลกยุคกึ่งพุทธกาลค่ะ คนมีวิวัฒนาการสามารถรับรู้เรื่องพลังงานและเข้าถึงได้ ผู้ที่ได้ฌานและมีคุณวิเศษจะรับรู้และยืนยันได้

    หากจะกล่าวคำว่า ฟ้า คือ อากาศ....

    "เหนือฟ้า ยังมีฟ้า" ค่ะ

    เหนืออนุภาคคลื่นแสงของโฟตอนจากดวงอาทิตย์ที่เป็นคลื่นแสงปกติ ยังมีกลุ่มอนุภาคของคลื่นแสงที่เล็กละเอียดกว่าคลื่นแสงที่มนุษย์รู้จักเสียอีก

    ปรากฎการณ์ในมิติที่สาม ซึ่งกาลเวลาหยุดนิ่ง ยังมีรูปธรรมทางพลังงาน อันเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เกิดจากการรวมตัวกันของอนุภาคคลื่นแสงความถี่สูงเหนือความถี่ของรังสีแกรมม่าขึ้นไปอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอนุภาคเหล่านี้จะมีความสามารถในการคิดรู้ได้ทุกสรรพสิ่ง โดยเป็นคุณสมบัติของแสงที่มนุษย์ยังไม่เคยค้นพบและล่วงรู้มาก่อน ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กรูปหนึ่งเช่นกัน แต่อนุภาคต่างกันกับอนุภาคของโฟตอนของคลื่นแสงปกติ และแถบรังสีย่านความถี่ต่าง ๆ ที่นักวิทยาศาสตร์โลกรู้จัก

    images (33).jpeg

    นิวเคลียสใจกลางแสงสว่าง คือ คลื่นอนัตตา (สรรพสิ่งที่อนัตตา) เรียกว่า "จิต" มีความสามารถในการคิดรู้นั่นเอง ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างอัตตาตัวตนขึ้นมา

    หรือเปรียบดั่ง แสง กับ เงา


    "สรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา จะเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งที่มีอัตตาเสมอ"

    สรรพสิ่งที่เป็นอนัตตานี่เอง ที่ล้วนเป็นผู้สร้าง "อัตตา" คือ ความมีตัวตนให้เกิดขึ้น โดยจะซ่อนเร้นสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตาแต่เดิมซึ่งยังมิได้หายไปไหนเอาไว้ภายในเปลือกนอกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยพลังอำนาจของสรรพสิ่งที่เป็นอนัตตา นั่นเอง

    หมายความว่า ถ้าสรรพสิ่งใดที่มีอัตตา หรือมีความเป็นตัวตนทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น สรรพสิ่งนั้นจะต้องมีอีกสรรพสิ่งหนึ่งที่เป็นอนัตตาเป็นแก่นแท้เร้นอยู่ข้างในเสมอ

    หรืออาจกล่าวได้ว่า ทั้งหมดทั้งสิ้นที่อยู่รายรอบทั้งที่และเห็นและแลไม่เห็น ที่เห็นว่ามีอัตตาตัวตนอยู่จริง ล้วนเกิดจากแก่นแท้ซึ่งมีความเป็นอนัตตาเร้นอยู่ข้างในทั้งสิ้น

    การหลงยึดอัตตาตัวตนทั้งหลาย ก็ล้วนมาจากจากหลงมิติของจิตมนุษย์ทางรูปธรรมจากการมุ่งแต่ตัวตนรูปลักษณ์ ซึ่งเป็นแค่ "เงา" เป็นแค่เพียง "ภาพ" เป็นแค่เพียง "ความรู้สึกนึกคิด" อันเกิดจากอารมณ์และจินตนาการของตนเอง ก็สามารถทึกทักเอาว่า เป็นตัวตนเป็นรูปลักษรณ์ ที่มีอยู่ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างชำนาญการกันทีเดียว

    นี้และแค่ว่าเบื้องหลังเราเป็นใคร.....

    ส่วนคำว่า "มาจากไหน"

    ที่ทรงตรัสว่าหลุดพ้น พ้นไปจากโลก สิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปจากโลกมีแดนสุญญตา คือ สนามพลังงานอ่อนละอียดอ่อน คือ สนามพลังงานสากลที่อยู่นอกระบบเอกภพ ค่ะ คำว่า พ้นโลก ก็คือ นัยยะนี้ค่ะ
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    คำว่า "จิต" ไม่เที่ยง "จิต" ไม่ใช่ของเรา

    จิตที่ว่านี้ คือ จิตสังขาร ที่ปรุงแต่งดี-ชั่ว

    ไม่ใช่เป็น "จิต" ที่ทรงกล่าวว่า "จิต" หลุดพ้น คนละตัวกันค่ะ
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ปู่ ฉับฉล. งง. เป่าฮับ

    เวลา ตรึกธรรม. ต้องถูกวิธี นินุง

    ต้อง มนสิการให้แยบคาย. อย่าให้เกิดการ
    เหลื่อมของ. เวลา. ความแตกต่าง หรือ
    เกิด. อาการเปรียบเทียบ

    พระราชรี ท่านจะเขวี้ยง กะโถนเปรี้ยง
    เน้นว่า

    การรู้ ไม่มีขณะ. การเหนอาการของจิต
    เหนจิต. เหนวิมุตติ ไม่มีขณะ

    การปรารภธรรม. พี่เกิด. อย่าให้มีขณะ

    จิตเกิดจาก. ปัจจัย....

    รู้ซื่อๆ. รู้จบลงที่รู้ ธรรมใดต้องอาสัยปัจจัย
    ในการเกิด. พี่เกิดเหนเปน. ขนมยาย ได้ไงละฮับ
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    นะ

    ถ้าเข้าใจ

    เด็กผู้หญิงเสียสละช่วยน้อง. จิตเกิดแน่
    แต่ก้บ่ได้ห่วง. ตายแล้วจะแบกมหากุสล
    ไปไหน..

    ถ้าแจ่มๆละก้ ผั๊วะ!!

    ไม่ต้อง รอวาสนา. จิตอึ๊กได้ ไม่ต้อง เต้ยแล้ว
    แต่วาสนา ยกจิตสู่วิปัสสนา แสนกัป
     
  7. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    หวัดดีทุกท่าน
    เรื่องจิต

    จิตบริสุทธ์
    จิตอวิชชา
    จิตสังขาร
    จิตวิญญาณ
    จิตใจ
    จิตผัสสะ

    ถ้าเปรียบเทียบเข้ากับตัวเลข

    จิตบริสุทธ์เหมือนเลข0

    จิตอวิชชาเหมือนเลข1
    มันห่อหุ้มจิตบริสุทธุ์ไว้กลายเป็น10

    จิตสังขารเหมือนเลข2
    มันปรุงแต่งมาจากจิตอวิชชากลายเป็น210

    จิตวิญญาณเหมือนเลข3
    มันปรุงแต่งมาจากจิตสังขารกลายเป็น3210

    พอมาเกิดเป็นคน...มีความรู้สึกนิกคิดมีอายตนะ
    กลายเป็น
    จิตใจ จิตที่ทำงานกับอายตนะภายในคือใจ
    จิตผัสสะ. จิตที่ทำงานอายตนะภายนอกคือตาหูจมูกสิ้นและกายผัสสะ

    เวลาเรียนรู้เรื่องจิต ต้องรู้ว่ากำลังศึกษาตัวไหนอยู่
    จิตใจ กับผัสสะ เรียนรู้ไม่ยากเพราะมีสติในการเรียนรู้
    ส่วนจิตวิญญาณ จิตสังขาร จิตอวิชา มันปิดบังตัวมันเอง
    ต้องอาศัยการภาวนาจึงรู้

    เป้าหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ
    สอนให้ทำจิตให้บริสุทธิ์
    เมื่อจิตบริสุทธิ์หมดจากกิเลสทุกตัว
    ก็สามามรถข้ามฝั่งไปสู่แดนวิมุตติได้
    ก็จะจบกิจ..

    ถ้ายังทำกิจไม่สำเร็จ ก็ทำดีละชั่วเข้าไว้
    จะได้เกิดในภพภูมที่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2019
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    จิตผุดผ่องหรือจิตผ่องใส่นั้นแหละจิตอวิชชา
    ยังปรุงแต่งให้ผ่องใส

    ในปฎิจฯบอกไว้ชัด
    เมื่อหาจิตชนิดนี้เจอให้ไปถามผู้รู้
    บอกวิธีทำลายมัน

    ก็จะเจอจิตบริสุทธิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2019
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    จิตบริสุทธิ์ เป็นธาตุรู้มีมาแต่เดิม ไม่เคยชิบหาย
    เหมือนธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ. ไม่เคยสูญไม่ไหน

    จิตฝั่งวิมุตติไม่มีอาสวะห่อหุ้ม

    จิตฝั่งสมมุติ(ฝั่งวัฏฏะ)มีอาสวะห่อหุ้มอยู่
    ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่เลื่อยไป

    เทียบได้กับเมล็ดข้าว

    เมล็ดข้าวสารกับเมล็ดข้าวเปลือก..
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    พี่เกอะ. ต้อง ลูลีลีน้อ

    เกาะจิกผู้รู้ไม่เสีย. เฮียแน่นอน

    มันจะมี อาการ. "เอ้อ..ใครรู้มั่ง....."

    เจอจิกผู้รู้ เกาะไว้ไม่เสีย. ไปฟังคำสาวก

    อัสสาสะปัสสาสะสุดท้าย. "เอ้อ....ใครรู้มั่ง....."
    เฮียแน่นอน

    นะ

    "จิตเกิดจากปัจจัยการ". อิทัปปัจจัยตา.
    ปฏิจสมุปบาท. โต้งๆ

    แค่นี้แหละ. พี่เกิด อัสสาสะ ปัสสาสะสุดท้าย
    อย่าให้มี ขณะ. "เอ้อ......"

    ผั๊วะ!!!
     
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ที่นี้ มันจะมี พวกหนาสันติ

    "สัญญาทั้งนั้นอ้า......"

    พี่เกิด ก้ อย่าสับสนเกอะเปงคง

    สำรวจ. ทวนไปเลย. สีลก้สีลจริงๆ
    ทานก้ ทานจริงๆ

    อะมีไม้

    พระท่านก้เตือนเฉมอ. ต้นขั้ว อะมีไม้

    มีแบบ. ไม่ตลบแตลง. ปะผุ อะมีไหม

    ถ้ามี......อูย.....วางไว้ ไม่ต้องหยิบมา. เสียว....
     
  12. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ..อ่านแล้วจะทยอยตอบนะครับ หลายคนยังจับ อาจารวาท..มาตอบไม่ใช้ ธรรม พจ.ตามวงจรปฏิจจฯมาตอบ แน่นอน เหนื่อยแน่ๆผม..ถ้าตอบยาว
     
  13. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ..คุณน่าจะเข้าใจผิดแล้วครับ ไม่เป็นไร แลกเปลี่ยนความเห็นกัน..พจ.ท่านสอนว่า ทุกอย่างล้วนอนิจจัง ไม่เที่ยง สิ่งไหนไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นอนัตตา อะไรไม่เที่ยงอันนั้นเป็นทุกข์..
    ..พุทธวจน. จิตเกิดดับ-อยู่ตลอดวัน-ตลอดคืน-ตลอดเวลา-เปรียบเสมือนลิงที่วิ่งเกาะกิ่งไม้ไปเรื่อย..ตัวจิต ตามพระสูตรนี้ไม่ใช่สังขารจิต นี่คือ ธรรมชาติของจิต ครับ จิตไม่เที่ยง จิตจึงไม่ใช่เรา ไม่เป็นเรา ครับ
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เริ่มสนุกแล้ว. ค้านมาเลย บอร์ดจะได้คึกคัก
     
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ดีค่ะ ชอบค่ะ ชอบผู้มีปัญญาที่ใช้เหตุและผล ผู้มีปัญญาจะยอมเรียนรู้และยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง และพร้อมที่จะใช้เหตุและผลในการพิจารณาแทนที่จะดื้อรั้นเชื่อแต่ทิฐิตน
     
  16. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    มันขึ้นอยู่ว่า
    เขากำลังกล่าวจิตสภาวะไหน?
     
  17. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    พุทธวจน..
    ขันธ์5..วิญญาณเกาะสัญญา ที่เรียกว่าสัญญาเพื่อตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้ เรียก สัญญาขันธ์-วิญญาณเกาะเวทนาเพื่อตั้งอยู่-ก็ตั้งอยู่ได้ เรียก เวทนาขันธ์ วิญญาณเกาะสังขาร เพื่อตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้เรียก สังขารขันธ์..
     
  18. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    ไม่มีพระสูตรไหน ตามที่คุณพูดกล่าวมานะครับ ถ้ามียกมาดูซิครับ วงจรปฏิจจสมุปบาท ท่านเน้นการเกิด-ดับ ของจิต..จิต ตามวงจรนี้ ต้องเป็นจิต ผัสสะแล้วตามอายตนะภายใน6..เท่านั้น (วิญญาณคือ ผู้รู้ ในตัวเขาอยู่แล้วเมื่อกระทบฉาก เกิดรอยไหม้ จึงเรียกว่ารู้แจ้ง..จึงจะกลายเป็นจิต)
     
  19. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    คุณ กล่องไม้ขีดไฟ..ความรู้ที่คุณโพสต์มานั้น เกือบทุกความเห็น-ยินดีที่ได้สนทนา ผมอ่านแล้วรู้ได้ทันที่ว่า เป็นคำสอนสาวก "อาจารวาท" ที่คิดค้นหลักสูตรขึ้นมาเอง แค่เอาคำนาม ว่าจิต มาขยาย ให้ดูดี ตามคำแปลเท่านั้น ..ไม่ต้องมาพูดใครเขาก็เข้าใจได้ อ่านเป็นครับ จิตวิมุต-ไม่วิมุติ-จิตบริสุทธิ์ จิตไม่บริสุทธิ์
    .(เอาแค่ จิต-วิญญาณ-คืออะไร เราก็ไปกันคนละขั้วแล้วครับ ผมมีพระสูตรตาม พุทธวจน.อ้างครับ-คุณเปิดยูทูป-ได้เลย)
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    หากเป็นความหมายตามนี้นะคะ...

    ขันธ์ 5

    1. รูป
    2.เวทนา
    3.สัญญา
    4.สังขาร
    5.วิญญาณ


    ความหมายของคำว่า “รูป”
    ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “รูป” เพราะอาศัยความหมาย
    อะไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่แตกสลายได้ มีอยู่ ในสิ่งนั้น (เช่น
    นี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า รูป. สิ่งนั้น แตกสลายได้ เพราะอะไร ?
    สิ่งนั้น แตกสลายได้เพราะความเย็นบ้าง, แตกสลายได้ เพราะความร้อนบ้าง,
    แตกสลายได้ เพราะความหิวบ้าง, แตกสลายได้ เพราะความกระหายบ้าง,
    แตกสลายได้ เพราะถูกต้องกับเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานบ้าง,
    (ดังนี้เป็นต้น). ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่แตกสลายได้ มีอยู่ ในสิ่งนั้น
    (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่ารูป.
    - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๕/๑๕๙.

    ความหมายของคำว่า “เวทนา”
    ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “เวทนา” เพราะอาศัยความหมาย
    อะไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้สึก (ต่อผลอันเกิดจากผัสสะ) ได้ มีอยู่
    ในสิ่งนั้น (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า เวทนา. สิ่งนั้น ย่อมรู้สึกได้

    ซึ่งอะไร ? สิ่งนั้น ย่อมรู้สึกได้ ซึ่งความรู้สึกอันเป็นสุขบ้าง, ย่อมรู้สึกได้ ซึ่งความ

    รู้สึกอันเป็นทุกข์บ้าง, และย่อมรู้สึกได้ ซึ่งความรู้สึกอันไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง
    (ดังนี้เป็นต้น). ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้สึก (ต่อผลอันเกิดจากผัสสะ) ได้
    มีอยู่ ในสิ่งนั้น (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า เวทนา.
    - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๕/๑๕๙

    ความหมายของคำว่า “สัญญา”
    ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “สัญญา” เพราะอาศัยความหมาย
    อะไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่หมายรู้ได้พร้อม มีอยู่ ในสิ่งนั้น (เช่นนี้
    แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สัญญา. สิ่งนั้น ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งอะไร ?

    สิ่งนั้น ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีเขียวบ้าง, ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีเหลือง
    บ้าง, ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีแดงบ้าง, และย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่ง
    สีขาวบ้าง (ดังนี้เป็นต้น). ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่หมายรู้ได้พร้อม มีอยู่ ใน
    สิ่งนั้น (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สัญญา.
    - ขนฺธฺ. สํ. ๑๗/๑๐๕/๑๕๙.

    ความหมายของคำว่า “สังขาร”
    ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “สังขารทั้งหลาย” เพราะอาศัยความ
    หมายอะไรเล่า? ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่ปรุงแต่งให้สำเร็จรูป มีอยู่ ในสิ่ง
    นั้น
    (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สังขาร. สิ่งนั้นย่อมปรุงแต่ง
    อะไร ให้เป็นของสำเร็จรูป ? สิ่งนั้นย่อมปรุงแต่งรูป ให้สำเร็จรูปเพื่อความ
    เป็นรูป, ย่อมปรุงแต่งเวทนา ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นเวทนา, ย่อมปรุง
    แต่งสัญญา ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นสัญญา, ย่อมปรุงแต่งสังขารให้สำเร็จ
    รูป เพื่อความเป็นสังขาร, และย่อมปรุงแต่งวิญญาณให้สำเร็จรูปเพื่อความ
    เป็นวิญญาณ. ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่ปรุงแต่งให้สำเร็จรูป มีอยู่ในสิ่งนั้น

    (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่าสังขารทั้งหลาย.
    - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๖/๑๕๙.


    ความหมายของคำว่า “วิญญาณ”
    ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “วิญญาณ” เพราะอาศัยความหมาย
    อะไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้แจ้ง (ต่ออารมณ์ที่มากระทบ) ได้ มีอยู่
    ในสิ่งนั้น (เช่นนี้แล) ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า วิญญาณ. สิ่งนั้น ย่อมรู้แจ้ง
    ซึ่งอะไร ? สิ่งนั้น ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความเปรี้ยวบ้าง, ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความขมบ้าง,
    ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความเผ็ดร้อนบ้าง, ย่อมรู้แจ้งซึ่ง ความหวานบ้าง, ย่อมรู้แจ้ง
    ซึ่งความขื่นบ้าง, ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความความไม่ขื่นบ้าง, ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความเค็ม
    บ้าง, ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความไม่เค็มบ้าง
    (ดังนี้เป็นต้น). ภิกษุ ท. ! เพราะ
    กิริยาที่รู้แจ้ง (ต่ออารมณ์ที่มากระทบ) ได้ มีอยู่ในสิ่งนั้น (เช่นนี้แล) ดังนั้น
    สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า วิญญาณ.
    - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๖/๑๕๙.
     

แชร์หน้านี้

Loading...