ผมไปรับขันธ์มา...เลยมีองค์เยอะเลย..มันจริงมั้ยครับ

ขันห้าธรรมดาครับ...อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร
รับมาโดย ฝึกเรียนภาษาจิต...ภาษาภพภูมิ..ก็แปลกดี
เขาบอกต้องหมั่นเจริญธรรม...เจริญกับ.จิตวิญญาณทั้งหลาย
.....
อยากทราบว่า ใครเคยมีประสบการณ์ แบบผมบ้างครับ (อิอิ)

ต่อมา ไปเรียนรู้เรื่อง มนุษย์ต่างดาว อีกด้วย แบบว่า จานบินลำเบ้อเร่อ มาเลยครับ

โอม....องค์ลงๆๆๆๆ องค์ทำมิกกะราดนางหลอดปิ๊ยิ้ม จงอย่ามาๆๆๆๆๆ

 

พวกองค์แมวกัดกัน กรุณาไปกัดกันที่กระทู้อื่น นะครับ
ขอความกรุณา อย่ามาสร้างความรำคาญ แถวนี้เลย สาธุ สาธุ สาธุ

 

สำหรับผม แสงไม่มีความเร็ว..
.พลังงานไม่มีความเร็ว มันเคลื่อนไปตามสื่อ (ที่จริงไม่เคลื่อน)
หรือ เคลื่อนไปตาม สนามแม่เหล็ก สนามแม่เหล็ก มีอยู่แล้ว
สนามแม่เหล็กที่มองไม่เห็น เหมือนสะสารที่มองไม่เห็น
ในอวกาส ในจักรวาล ทั่วไป ..ดังนั้น ที่มองดู แล้วเห็นว่า แสงจากดวงอาทิตย์ส่องมาถึงโลก ได้ไง...มันไม่ได้เดินทาง มันมีแสงของมันอยู่แล้ว
แค่ โลกเป็นตัวสะท้อนให้ เห็นว่ามีโลก ...

 

เวลาเรามองดู นอกโลกตอนกลางคืนเห็นดาว...(ดาวไม่ได้อยู่บนท้องฟ้า)
ดาวที่อยูนอกโลก...มันมีแสงสะท้อน จากดวงอาทิตย์ให้เห็นเป็นดาว
แต่ระหว่างความว่าง ระยะห่างกันของดาว กลับมืด ..
เพราะ ความมืดก็เป็นแสงมืด(พูดไม่ถูก ต้องพูดว่า พลังงานมืด)

มีสนามแม่เหล็ก ไปทั่ว ต่อๆกันเหมือน เนื้อเดียวกัน แต่จะหนาแน่น หรือเบาบาง
ขึ้นอยู่กับ สะสารหรือธาตุที่รวมกันเป็น ดาวนั้นๆ

 

ดังนั้น สำหรับผม จึงไม่มีอะไรเร็วกว่าแสง...
และ แสง ก็ไม่มีความเร็ว...แสงดวงอาทิตย์ ไม่มีความเร็ว
แต่คนมาทำการคิด เพราะ มาเห็นแสงไฟฉาย มันเปิดปิด ได้ ส่องจากด้ามไปกระทบฉาก..แล้วคิดว่า นี่คือการทำงานของแสง..แต่ไม่ไช่
แสงเป็นแค่ รูปแบบนึงของพลังงาน ที่แสดงตัวมาให้เห็น เท่านั้น

 

บางคน ตีความ(คิดมาก) ว่าา ถ้า มีอะไรที่เร็วกว่าแสง มันจะเป็นการย้อนอดีตได้ เหมือนในหนัง ที่คิดคอนเสบ ขึ้นมา

ผมมีทริดสะดี...เรื่องความเร็ว สองมุม มาให้ คิดเล่นๆ

สมมุติเราขับรถ หรือเหาะได้ เหมือนลูกปืน..วิ่งไปข้างหน้า

1.ถ้าเราไปด้วยการเกาะพื้นไป จะเหมือนตัวเรา พุ่งไปข้างหน้า(อันนี้คล้ายตัวเราเคลื่อนสะสารตนเองแบบอาสัยพลังงานของตนเอง)

2.ถ้าเราเคลื่อนที่ไปในอวกาส ไม่เตะพื้น เหมือนลูกปืน พุ่งไปข้างหน้า(จะเหมือนว่า ที่เคลื่อนคือสภาพรอบข้าง ลูกปืนแค่อยู่กับที่ สถานที่เปลี่ยน เคลื่อนถอยหลังเอง

ดังนั้น มุมมอง
ถ้าเรา ตามไม่ทัน...สิ่งที่เห็นเหมือนมันมีความเร็วกว่าเรา
ถ้าเรามีความเร็วเท่าสิ่งที่กำลังเคลื่อน เราตามทัน จะเห็นว่า ...เราเคลื่อนไปข้างหน้า..กับ สิ่งรอบข้างเคลื่อนถอยหลัง
ถ้าเรา ไปด้วยความเร็วกว่า สิ่งที่เร็วช้ากว่าเรา ก็จะเห็นว่าสิ่งที่ช้ากว่าเรา กำลังถอยหลังอยู่ ส่วนวิวรอบข้างถอยหลังเร็วมาก

 

ความเร็วคืออะไร...คือภาพหลอกตา
มันคือความไม่เที่ยงที่หลอกลวง ผัสสะ
ถ้าเรา อยู่จุดนึง..แล้วเดินไปข้างหน้า 10เมตร ...อะไรเปลี่ยน(เปลี่ยนทั้งเราและรอบข้าง)
แล้วถ้าเรา ...เดินจากจุดนึง ไปข้างหน้า10 เมตร แล้วเดินกลับมาที่จุดเดิม..อะไรเปลี่ยน..(เปลี่ยนหมดนั่นแหล่ะ)

แล้วถ้าเรา ยืนนิ่งๆ ไม่เดิน... อะไรเปลี่ยน (เปลี่ยนหมดเหมือนเดิม)

นั่นเพราะ สรรพสิ่งมันก็ยังคงไม่เที่ยง มันยัง ขยาย โต พอง ...ย่อ ลด เสื่อมสลาย อยู่...มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกเสี้ยววินาที (เซลล์ในร่างกายทำงานมั้ย..ทำ) พลังงานมันเคลื่อนไหวมั้ย..เคลื่อนไหว...มีทั้งเห็นและไม่เห็น

 

อะไรคือ ความไม่เที่ยง..?..มีเยอะแยะมากมาย
อะไรคือ ความเที่ยง..?..มีอันเดียว

 

อยุ่กระทู้ของตัวเองดีกว่า...น่าจะสงบดี
เบื่อพวก ไบโพลา เบื่อพวกวิปัสสนึก เบื่อพวกโรคจิตชอบทะเลาะกัน

 

เปลี่ยนใจละ นางหลอดปิ๊ยิ้ม..จงอย่ามาๆๆๆๆ
จงไปไกลๆๆๆๆโอม นะโมพุทธายะ

ส่วนท่านใด อยากคุย ก็เข้ามาคุยกันได้ครับ
เรื่องไร้สาระ ก็ได้ครับ...วันนี้

 

รูป...จิต....เจตสิก....นิพพาน
รูป...นิพพาน
จิต...นิพพาน
เจตสิก..นิพพาน

รูปและจิตและเจตสิก ล้วน...นิพพาน
เพราะ รูป จิต เจตสิก ล้วนไม่เที่ยง...จึง ดับได้ นิพพานได้

 

ตกลงคุยได้เนาะ
อนุภาคหากว่ามันขาดสมมาตร
จะเคลื่อนที่ได้เองเร็วกว่าแสงครับ
อยู่ในเรื่องอนุภาคพระเจ้า ตอน ๓

แสงที่เป็นพลังจากดวงอาทิตย์
เกิดจากโปรตรอนเปลี่ยนฮีเลี่ยม
อยู่ในส่วนแรงนิวเคียร์แบบอ่อน
ตอน ๒ เรื่องเดียวกับข้างบน

ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ในข้อ 2 คุณ
เรียกว่า ความไม่สมบูรณ์ของการหยุดนิ่ง
เป็นชื่อเรื่องนี้เลย

ถ้าข้อ 1. อยู่ในเรื่อง เกี่ยวกับเรื่อง
อนุภาค ฮิกต์

ใน Sci ways มีบอกไว้ครับ

ส่วนตัวมองว่า
ดูเรื่องแบบนี้
มาทางธาตุ ที่รวมเป็นกาย
น่าจะพอได้ประโยชน์
ในส่วน ต้นกำเนิดได้
แล้วพลิก ไปใช้ในเรื่อง
เหตุแห่งการปรุงแต่ง
ประมานนี้ครับ

 

รูป คือ ธาตุหยาบ
จิตเจตสิก คือนาม คือวิญญาณ

รูปอาสัยนามเกิด เพราะนาม มีขันธ์ครบ คือ รูปเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ สัญญา...นามสร้างรูปจากสัญญา

นามอาสัยรูปเกิด...(เกิดในที่นี้คือเกิดเป็นคน มีนามรูป) ..นามทำไมต้องอาสัยรูปเกิด เพราะนามสามารถเจ้าไปตั้งอยู่ ในรูปธาตุ ได้...เวลาตายทำไมนามไม่ดับ ทำไมวิญญาณไม่ดัย...ทำไมนามหรือวิญญาณถึงมาเกิดได้..ก็เพราะในนามหรือวิญญาณ มันมีขันธ์ห้าครบ(อรูป ที่เป็นรูปที่มองไม่เห็นด้วยตา)..
เมื่อนามหรือวิญญาณมีขันธ์ห้าครบ มันจึงสามารถมาเกิด โดยมี กรรม(ก็คือ ขันธ์ทั้งห้านั่นแหล่ะคือกรรม)

 

คือ ตัวผมเองก็ไม่เคย อ่าน เรื่อง อนุภาคพระเจ้ามาหรอกนะครับ
ที่ผมเขียนเรื่องแสงไม่มีความเร็วนี่ ก็ รู้เองครับ
ยังไงผมก็ยืนยันว่า แสงไม่มีความเร็วครับ
สิ่งไหนที่เคลื่อนที่เร็ว มันมาจาก เหตุปัจจัยทั้งนั้นครับ..
แม้ความไม่เที่ยง ทั้งหลาย ก็มาจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้นครับ
ในเมื่อ ทุกที่คือ สนามแม่เหล็ก ดังนั้น ขั้วบวก ขั้วลบ จึงมีอยู่ทุกที่เช่นกัน
ส่วน พลังงาน จะมาในรูป รูป รส กลิ่น เสียง แสง สี สัมผัส..มันก็ไม่ต่างกันครับ
ล้วนเป็นของไม่เที่ยง ไม่แน่นอน..ผมจึงไม่ให้ค่า ไม่ให้ความสำคัญใดใด กับสิ่งที่ไม่เที่ยงทั้งหลายเหล่านี้ครับ

 

ผมว่าไอสไตน์ ยังงี่เง่าอยู่เลย..ผมว่าพวกวิทยาสาด คือพวกบ้าไบ่ตามความอยาก ไล่ตามความคิดความสงสัย เป็นพวกโง่ สำหรับผมนะ
พวกทำเพื่อสนองความอยากกันทั้งนั้น ไม่ได้ทำไปด้วยความฉลาด หรือปัญญาพ้นทุกข์ โดยเฉพาะพวกที่ พยายามออกไปนอกโลก เพื่อค้นหา(บิดามัน)อะไรก็แล้วแต่
อย่างนาซ่านี่...พวกโคตระโง่เลย

 

มันมี ประโยค นึง ที่ ต้องทำความเข้าใจ
ก็คือ คำว่า ...ได้อย่างย่อมเสียอย่าง..
ได้วัตถุนิยม แต่เสียความเป็นธรรมชาติ ไป

 

ได้สิ่งของเพิ่ม ย่อมเสียพื้นที่ว่างไป
ได้อัตตา ย่อมเสีย อนัตตาไป...เปรียบเทียบ เหมือนข้อแรก

 

นามทางวิทย์ ที่เข้าใจ
คือพวกอนุภาคที่เป็นสื่อนำแรงต่างๆ
ที่เรียกว่า ปัวซองค์
รูป คือ อนุภาคที่เป็นองค์ประกอบสะสาร
ที่เรียกว่า เฟอร์มิออน สองส่วนนี้
แทรกรวมกันอยู่ปกติครับ
จากแรงที่ค้นพบ ณ ปัจจุบันนี้
๔ แรง คือแรงโน้มถ่วง แรงสนามแม่เหล็ก
หรือแสง และนิวเคลียแบบอ่อนและเข้ม

ที่น่าสนใจนั้น คือนิวเคียร์แบบอ่อน
เพราะเป็นชนิดเดียวที่มีสื่อนำแรงมากกว่า
๑ ชนิด และมันสามารถเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ได้นั่นเอง ตัวนี้ใกล้เคียง
ในเรื่องธาตุ เช่นธาตุน้ำเกิดจากอนุภาคมี่แตกต่างกัน ธาตุดินคืออนถาคที่เข้ากันได้เป็นต้น การเปลี่ยนรูปนามต่างๆ
อยู่ในส่วนนี้ครับ ส่วนอรูปที่คุณ เข้าใจ
คือกิริยา ตอนที่แรงเหล่านี้กำลังคลายประจุ
ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์นั่นเองครับ
ปล เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

 

นามทางวิทย์ที่ค้นพบไม่เจอ คือ วิญญาณ
รูปทางวิทย์ก็คือ ธาตุต่างๆเช่นเดียวกัน

วิญญาณ เป็นสื่อนำแรงที่ มีมากกว่า 4ทิศทาง
อรูปนี่แหล่ะคือ วิญญาณ คือขันธ์ห้า

นี่ก็ความเห็นส่วนตัวของผมครับ

 

พวกอิเลคตรอน กรณีไม่มีมวล
มันมีความเร็วเทียบเท่าแสงอยู่แล้วครับ
ตามข้อมูลที่ฟังมานะครับ

แรงที่มีประจุขั้วบวกและลบนั้น มีอยู่แล้วครับ
คือแรงสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีโฟรตรอน
เป็นสื่อนำแรงนั่นหละครับ ในนิวเคียร์
แบบอ่อนก็มีครับ
ต้องมีทั้งผลักและดึงดูดกัน ไม่งั้นถ้ามีแต่ดูดกัน จะไม่ต่างอะไรกับหลุมครับ