เมื่อภรรยาผมถูกคนที่ที่บริษัทใส่ร้ายและเข้าใจผิดกันเป็นส่วนใหญ่

ไม่ได้เข้าข้างเขานะ แต่ผมรู้จักเขาดี และเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยไปพูดแก้ตัวกับใคร ๆ

เขาบอกผมว่า ปล่อยให้เขาคิด คิดไป เข้าใจกันไป เขาบอกกรรมเขาที่ต้องมาเจอแบบนี้สาสมแล้ว



เขาบอกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว เขาภาวนาลำบากขึ้นเขาบอกผมว่า

เพราะหลายกระแสจิตพุ่งทางลบเข้ามาเยอะ



แต่ผมก็แย้งไปว่าไม่ใช่หรอกเพราะใจเรากังวลไปต่างหากจึงภาวนาไม่สบายจิตไม่อ่อนต่องาน



ผมกับภรรยาใครคิดถูกครับ

 

+++ ให้ไปถาม "เท้าเทพสุวัน" ดูซิ
+++ ตั้งแต่ เอาเข้าบ้านมาแล้ว มีอะไรดีขึ้นบ้างล่ะ
+++ แค่นี้แหละนะ.....

 

คิดผิดทั้งสองคนครับ

มันเกิดแต่เหตุเกิดแต่กรรม
ครั้นกรรมให้ผล อะไรก็ขวางไม่ได้ ไม่ว่ากรรมดีกรรมชั่ว

การภาวนาไม่ เลือกสบาย เลือกลำบากนะครับ

มีแต่เอาสบายเอาลำบากมาภาวนา ไม่มีแยก ว่านี่ภาวนา นี่ทำหาหากิน

มันทำพร้อมได้เลย



ส่วนถ้าปฏิบัติ จนจิตละเอียดขึ้น มันจะรู้ได้จริง คือเมื่อใครนินทา ชมเชย หรือ คิดถึง
มันจะพุ่งมาหากระทบที่จิต เรียกว่า เป็นธรรมมารมณ์ชนิดนึง

ถ้าสติ สมาธิยังไม่เพียงพอ ไม่ทัน ก็จะทำให้หงุดหงิดฟุ่งซ่านไป

ถ้ารอบดี มีกำลังสมถะ ก็จะเอาตรงนั้นมากำหนดรู้ที่จิตเฉยอยู่
หงุดหงิด รู้หงุดหงิด เป็นต้น

 

คาถา มหาสะท้อน

เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา

ถ้าภาวนาคาถานี้ทุกวัน ภาวนาจนจิตเป็นสมาธิ
คนที่ทำให้เราเป็นทุกข์จะโดนคืนไปหลายเท่า
ผลของคาถาจะมีมากน้อย ขึ้นอยู่กับสมาธิของผู้ที่ภาวนาคาถาครับ

ภาวนาทุกวันได้ยิ่งดี เอาให้ขลังจริง ๆ แล้วจะเห็นผล

 

ถามที่ไหน

 

นี่คือพลังของโลกธรรมซินะครับ เราวางจิตโดยใช้พลังสมถะก่อน หรือตามรู้ความฟุ้งซ่านดีละ ครับ

 

ขอบคุณครับ ผมเลือกวางเฉย และให้อภัยดีกว่า

 

คือ มันก็อยู่ที่ หากทำสมถะไว้เป็นประจำเช่นเพียงแค่ สวดมนต์ไหว้พระพอจิตสงบๆ
วันละ สิบห้าหรือสามสิบนาที พอให้จิตแจ่มๆ สว่าง ได้มาทุกวัน ไม่ถึงกับต้องได้ฌาน ได้ญาณ

มันจะมีกำลังในการข่มกิเลส เวาลาโดนโลกธรรมกระทบ
หมายถึง ข่มกิเลสจากตัวเราไม่ให้อาละวาดมาก และในขณะเดียวกัน ก็ทำสติ ตามรู้ความคิด ที่มันฟุ่งซ่าน เพื่อให้จิตได้จดจำสภาวะ ที่เกิดตามเป้นจริง

ทีนี้ หากไม่ได้ทำสมถะมาต่อเนื่อง หากฟุ้งๆแบบเอาไม่อยู่ ก็ หลบมุมทำสมถะก่อน พอให้จิตมีพลัง แต่ถ้าเอาอยู่ ก็กำหนดรู้ไปตรงๆ ตามอารมณ์ ตามความเป็นจริง

และก็ฝึกต่อๆไป

อีกอย่างนึง คือ การ ทำทาน ทำสังคทาน ก็จะช่วยผ่อนเบา
กรรมแบบเปลือกๆ เบาลงได้บ้าง (ประมานว่า รักษาอาการคัน ที่ทำให้หงุดหงิดรำคาญได้บ้าง) จะส่งเสริม การเจริญสติได้ ดีขึ้น

 

เวลานึกถึงเรื่องนี้ก็หวนให้นึกถึงนางจิญจวิกา ใช่ชื่อนี้ไหมไม่รู้ แต่มันมีเหตุคล้ายกัน ในพุทธบารมีพระศาสดาโดนเขาใส่ร้ายเนื่องด้วยเดียรถีริษยา แต่เพราะมีบ่วงกรรมมาแต่ปางบรร ตรวจสอบที่เราก่อนหาดไม่มี อภัยทานนั้นดีสุด กรรมใดของเขาเราไม่รับ ขอให้ผ่านพ้นด้วยดีครับ

 

ในชัยมงคลคาถา