แบ่งปัน ให้บูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์พลครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ธัญญ์นิธิ, 26 พฤษภาคม 2017.

  1. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พ่องั่งลอยเคราะห์คลายปมปลดพันธนาการ รุ่น เทพกะซิบ(ปะคำเทพวิชามหาสูบ)

    ให้บูชา 800 บาท

    ปิดรายการนี้ครับโดยคุณ powernext

    IMG_20190509_203219.jpg IMG_20190509_203239.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-19#post-10748318

    พ่ออาจารย์ท่านได้รับนิมิตรให้ทำพญางั่ง(อีหง่างโบราณ)ขึ้นมา ท่านว่าวิชานี้แต่เดิมหาคนทำยาก ของเก่าๆบางคนเอาไปใช้เพื่อทำเสน่ห์ทำให้เป็นของต่ำต้องอาถรรพ์ไปก็มาก ท่านจึงจะบูรณาการทำไว้เสียใหม่

    ท่านว่าวิชาพญางั่งนี้ เป็นปางอวตารขององค์พระศิวะเจ้า(ครูพระสยม)ในพระชาติหนึ่ง เพราะเป็นปางอวตารที่จะลงมาเฉพาะเหตุการณ์จริงๆ ถึงแม้พระภาคเต็มก็ไม่สามารถแก้ไขในส่วนของปัญหาได้ ท่านลงมาเพื่อปลดเปลื้องกฏเกณฑ์ต่างๆในสังคมที่กำหนดขึ้นมาทำให้ธรรมชาตินั้นวิปริต จนพระผู้เป็นเจ้าไม่สามารถดำรงค์พระองค์อยู่ได้ต้องลงมาช่วยเมื่อถึงกาลถึงวาระนั้น โดยพญางั่งที่ทำนี้ท่านว่าต้องทำด้วยไศวะศาสตร์ เข้าให้ถึงองค์พระศิวะจะทำโดยวิธีอื่นไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นเพียงเครื่องรางธรรมดา ไม่ใช่รูปแบบของมหาบุรุษที่ลงมาเพื่อปลดเปลื้องชะตาชีวิต คลายปม แก้พันธนาการของสรรพสิ่ง เมื่อทำแล้วท่านว่าผู้ใดรู้ตัวว่าโดนกดดัน ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคม คือหาความยุติธรรมไม่ได้ในชีวิต โดนกดดัน โดนกดขี่ข่มเหง นี่แหละตรงเรื่องเอาไปใช้เลย เพราะว่าท่านคือผู้ปลดปล่อยสรรพชีวิตออกจากการโดนดูถูกเหยียดหยาม โดนผู้อื่นรังแกอย่างแท้จริง

    ครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ทำโดยลงวิชาอีหง่างโบราณไว้ด้วย ท่านว่าใช้ได้ครอบจักรวาลทั้งยังเป็นเสน่ห์สุดๆ เป็นสัญลักษณ์ของพ่อ เป็นรูปแบบของการกำเนิด ลูกคนใดที่ขาดที่ไม่มี ขอกับพ่อ อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะพ่อยกมือกวักเข้าหาตน พ่ออาจารย์ท่านเป่ากำกับด้วยนะเข้าหา เสมือนพ่อมีทุกสิ่ง ให้ได้ทุกอย่าง ถ้าลูกปรารถนาพ่อย่อมเรียกเข้ามาหามาประเคนให้ได้ทั้งสิ้น เรื่องหญิงสาวคู่ครองนั้นยิ่งกว่าจอมเจ้าชู้ใดๆ แต่หลักใหญ่ที่ท่านทำเพื่อแก้กฏเกณฑ์เวรกรรมต่างๆในชีวิตผู้บูชา

    งั่งชุดนี้เป็นชุดพิเศษ เพราะพ่ออาจารย์ท่านหล่อด้วยแร่เงินยวงเข้ากับธาตุกายสิทธิ์และชนวนตะกรุดลอยเคราะห์ วิชาลอยเคราะห์เป็นวิชาชั้นสูงที่ท่านต้องลงจารเสกเก็บไว้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือลอยอยู่เหนือเคราะห์กรรม คล้ายๆกับการตกตะกอนของน้ำ เคราะห์กรรมอยู่ส่วนหนึ่ง น้ำอยู่ส่วนหนึ่ง ลอยแยกจากกัน เคราะห์กรรมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา ดุจดั่งว่าเวทย์วิชานี้คือกำแพงที่ขวางกั้นน้ำกับตะกอนเช่นนั้น ที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนเรียนมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพง

    ที่สำคัญเลยพ่องั่งคลายปมนั้น ท่านอธิษฐานจิตจนสำเร็จมีตัวมีตนและกำกับวิชาเทพกะซิบไว้ด้วย เพื่อให้คนที่บูชาเวลาเรียกใช้งานหรือบูชาจะสัมผัสพ่องั่งได้ด้วยจิต เช่นการบอกเหตุล่วงหน้า พกติดตัวช่วยเตือนภัย คุ้มครองป้องกันอันตราย ช่วยเรียกโชคลาภเงินทอง บอกกล่าวค้าขายร่ำรวย บอกโชคลาภเลขหวยนิมิตได้ด้วย หรือจะเสี่ยงโชคก็ช่วยได้เสริมดวงการพนันให้ชนะได้ ซ้ำเป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ ตามหาความรัก ตามของหาย หรือจะบนบอกขอเรื่องการงานก็ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสมาธิของผู้ที่บูชา ท่านว่าเรียกพ่องั่งเทพกะซิบกระซิบมาใช้งานไม่ยากอย่างที่คิดขอเพียงเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ และงั่งรุ่นนี้ *....ท่านว่ายิ่งพูดคุยกับเขาบ่อยๆ พูดเองเออเองถามเองตอบเองเหมือนเลี้ยงกุมารทองยิ่งดียิ่งนัก ตอนทำแรกๆอาจจะไม่รู้สึกแต่พอได้พูดคุยกับเขาแล้วท่านว่ามันจะมีตัวรู้คอยตอบคำถามเราเอง ยิ่งทำบ่อยๆเสมือนได้พูดคุยโต้ตอบกัน จิตสัมผัสเราจะเฉียบคมขึ้น ไปเสี่ยงดวงบนบอกขออะไรกับพ่องั่งก็จะเร็วขึ้น

    ด้านหลังท่านฝังปะคำเทพวิชามหาสูบเอาไว้ เป็นประคำที่ท่านตั้งใจทำเพื่อบรรจุพ่องั่งโดยเฉพาะโดยใช้ผงสิริชมพูนุชอันเป็นสุดยอดวิชาเสน่ห์เมตตาค้าขายมาผสมกับผงเทพวิชามหาสูบผสานกับผงวิชาการทำประคำพระเจ้าคุ้มเรือน

    เกี่ยวกับเทพวิชามหาสูบก็จะพูดถึงรายละเอียดคร่าวๆดังนี้
    เทพวิชามหาสูบวิชานี้มักจะใช้ในการดูด ถ่ายเทพลัง สูบพลังจากสิ่งต่างๆเข้าสู่ตัวตนของผู้ใช้ ทั้งยังสลายพลังอาถรรพ์หรืออวิชชาให้สูญสิ้นไปอีกด้วย ท่านว่าฟังเหมือนง่ายแต่ติดที่ว่ามันใช้ได้ไม่มีข้อจำกัดนี่สิ เรียกว่าใช้ทั้งสูบทั้งสลาย แต่ที่อันตรายก็เพราะความคิดพิเรนทร์เพราะบางคนก็คิดจะใช้สูบมนต์จากครูบาอาจารย์ตนเอง ท่านว่าพิเรนทร์ถึงขนาดที่ว่าพระเกจิบางรูปที่รู้และสำเร็จวิชานี้เคยคิดแม้แต่จะสูบวิชาของพระพุทธเจ้าก็มีมาแล้วแต่ก็ทำไม่สำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าวิชานี้ด้วยจิตใจคนนั้นไม่มั่นคงจึงไม่ถ่ายทอดให้กับใคร ให้ใช้แต่เพียงคุณของวิชาที่ลงในไว้เท่านี้ก็พอ จำเพาะเท่านี้ท่านว่าก็เป็นคุณมหันต์ไม่มีข้อจำกัดใดๆแล้ว

    เกี่ยวกับผงมหาสูบวิชานี้ที่น่ากลัวแท้ที่จริงแล้วอยู่ที่เรื่องมหาสูบตามชื่อวิชานอกจากใช้สูบมนต์ สูบวิชาได้ทุกสิ่งแล้ว สิ่งที่สูบมานั้นก็ไม่ได้สูญเปล่า ไม่ได้ทำไว้เพื่อให้เราเอาไปรังแกใคร สูบมาแล้วก็ไม่ได้หายไปไหน ท่านว่าพลังงานที่ให้คุณต่างๆอันสูบมานี้ก็จะมาเสริมส่งเรา เป็นบารมีของเรา

    แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่สำเร็จวิชานี้ ที่เอาดีทางอาคมไปลองดีสูบวิชาคนก็มี แต่คนที่เรียนมาเหมือนกันแล้วเขาฉลาดเล่นทางอาคมเอาวิชานี้ไปสูบเงินสูบทองจากปุถุชน สูบบารมีจากคนจากสถานที่ต่างๆจนกลายเป็นเศรษฐีสืบวงศ์ตระกูลมาได้หลายชั่วโคตรก็มี ท่านจึงว่าวิชาเหมือนกันต่างกันที่คนใช้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร ถ้าใช้เป็น หมายถึงใช้แล้วคิดเป็นก็จะได้ดีเกินคนโดยไม่ยาก

    ตรงนี้ท่านว่าให้ใช้ความคิดมากๆ อย่าสักได้แต่ว่าคาด ยกมือไหว้ขอๆเอาให้พ้นๆไป ท่านว่าคิดซักเล็กน้อย วิชานี้เอาจริงๆยิ่งใช้ยิ่งดี พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งใช้เป็นมันยิ่งสนุกนะเวลาเราพกอาราธนาตะกรุดนี่ไปตามสถานที่ต่างๆ ตามวัดวาอารามทั้งหลายเราก็นั่งภาวนาอธิษฐานสูบบารมีเข้าไปเพิ่มให้กับตัวเอง คนที่วาสนาต่ำ ดวงตก ดวงแตก ดวงกาลกิณี ติดวิบัติ ติดพระเคราะห์ใดๆก็ตามให้ไปทำเถิด สูบบารมี สูบอำนาจตบะต่างๆของพระอริยะเจ้าที่ท่านเหลือทิ้งไว้ตามสถานที่ของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าพ้นกรรมกันได้ง่ายๆเลยถ้าใช้เป็น ไปอธิษฐานสูบเอาได้ไม่ต้องกลัวหมด คนที่ฉลาดหน่อยเวลาเขาไปธนาคารไปสถาบันการเงินการคลังก็จะอธิษฐานสูบสัญญาความจำได้หมายรู้ต่างๆเพื่อเปิดวาสนาทางการเงินเข้าไป ให้ดวงเราชีวิตเราผูกพันธ์กับเงิน กับโชคลาภตลอดเวลา ท่านว่ามันอยู่ที่วิธีคิดแล้วเอาไปใช้ ยิ่งคิดมากๆก็ยิ่งใช้ได้หลายทาง ยิ่งใช้เป็นก็ยิ่งสนุก อยากมีวาสนาด้านไหนก็เอาไปสูบเอาตรงนั้น สถานที่นั้นๆ ท่านว่านี่คือคนที่คิดแล้วใช้ให้เป็น ไม่ใช่พกแล้วสูบไปเรื่อย เช่นนี้ชีวิตก็คงที่ ฤทธิ์ บารมีอะไรทั้งหลายมันกินไม่ได้ แต่ถ้าเล่นเป็นตะกรุดนี้นับว่ามีค่าควรเมืองจริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากสูบวิชา สูบเงิน สูบทอง สูบมหาโชค มหาชัย มหาลาภที่ว่าบันดาลโชค เปิดวาสนา ทำให้ทรัพย์งอกเงย แข่งขันสิ่งใดก็แพ้ไม่เป็นแล้วแล้ว ไม่เพียงพลังงานเหล่านี้จะเกื้อหนุนสูบเข้ามาหาตัวเราตลอดเวลา ท่านว่าเรื่องเหล่านี้เด็กๆไปเลย มนต์วิชามหาสูบนี้แท้จริงแล้วเขาใช้กันได้มากกว่านั้น

    นอกจากการสูบทั่วไปแล้ว ท่านว่าของที่ทำได้ยากเช่นสูบเอาฤทธิ์ เอาตบะ บารมี สูบจนตนเองกลายเป็นร่างกายสิทธิ์ก็ยังทำได้ ตบะบารมีและฤทธิ์เดชเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการบำเพ็ญเพียรอย่างอุกฤติของบุคคลทั้งหลาย เมื่อเราสูบมาสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นของเรา เสริมส่งตัวเรา นี่คือที่สุดของวิชามหาสูบที่แท้จริง เรียกว่าตัวเราเป็นศูนย์ ไม่มีอะไรซักอย่าง แต่สูบจนมีได้ทุกอย่างในโลก สูบจนตัวเองเป็นกายสิทธิ์เสมอด้วยเทพยดาเช่นนั้น

    ดังที่กล่าวไปพ่ออาจารย์ท่านว่ามันให้คุณมากสำหรับคนที่ใช้เป็นและมันก็น่ากลัวมากสำหรับคนทำผิดคิดชั่ว ครั้นจะปล่อยให้เสื่อมสูญไปก็น่าใจหาย เช่นนี้วิชานี้หลายๆคนจึงไม่ถ่ายทอดและไม่ทำ ครูบาอาจารย์บางคนเขาก็กลัวศิษย์คิดล้างครู พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาเห็นว่าหากเราไม่ถ่ายทอด เราก็เพียงนำวิชามาทำไว้ ให้คนอาราธนาเขาได้ใช้คุณวิชา เช่นนี้เค้าก็จะเชิดชูคุณครูบาอาจารย์แต่หนหลัง ไม่ผิดครู ล้างครู เพราะเขาใช้ได้ด้วยมีตะกรุดที่เราเสกด้วยคุณวิชาจนสำเร็จรู้เพียงคาถาเพื่อใช้ส่วนหนึ่งแต่หาได้รู้วิชาจริงๆไม่ เช่นนี้ท่านว่าก็จะได้ใช้กันได้แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไร

    ท่านว่าให้ถือเสียว่าเป็นของคู่ตัว ใครรับไปก็ให้นอบน้อมในคุณเทพ เทวดาและครูบาอาจารย์ ด้วยสิ่งนี้เป็นเทพวิชาที่ลึกลับมาก ต่างจากพุทธคาถาหรือธรรมคาถาใดๆ อันเทพวิชานั้นย่อมใช้ได้และให้คุณไว เห็นผลสัมฤทธิ์ชัดเจนต่างจากอำนาจคุณพระทั้งจุดประสงค์โดยตรงของวิชานี้ก็ชัดเจนยิ่งว่าขัดกับทุกๆหลักการ ดังนั้นคนใช้อาราธนา * สิ่งที่ต้องมีก็คือความเชื่อ ยิ่งเชื่อมากก็ยิ่งใช้ได้เร็วมาก ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งสูบได้มาก การที่เราจะสูบอะไรจะได้มากหรือน้อย ท่านว่าต่อจากนี้ไป มันขึ้นอยู่เพียงแค่ว่าเขามีความเชื่อหรือศรัทธามากแค่ไหนเท่านั้นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิชามหาสูบมาทำปะคำสำคัญเพื่อฝังพ่องั่งแก้ปมโดยเฉพาะ ท่านว่าลำพังงั่งก็ยอดขลังแล้ว ถ้ารวมกับวิชามหาสูบและเทพกะซิบนั้นจะยิ่งเฮี้ยนและให้คุณมากจนประมาณความสำเร็จใดๆไม่ได้เลย เข้าทำนองว่าเก่งมาก มีฤทธิ์มาก สงเคราะห์ได้มาก ท่านว่าเอาไปกันนะ ให้เอาไปใช้ อย่าเอาไปเก็บ พ่องั่งนี้ยิ่งใช้ยิ่งขลัง ยิ่งสัมผัสเนื้อตัวเราบ่อยเท่าไหร่เขาก็ยิ่งช่วยเราได้มากเท่านั้น

    * วิธีเลี้ยง
    - ให้นำพญางั่งใส่ถ้วยไว้ แล้วตอกไข่ใส่ไป อธิษฐานให้พ่อนั้นเสพย์นั้นกินให้อิ่ม หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ซักสองชั่วโมงแล้วนำมาล้างน้ำทำความสะอาด จะทำอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งทำท่านยิ่งมีฤทธิ์มาก ยิ่งทำยิ่งขลัง เวลาจะบนอะไรก็ให้บนด้วยไข่นี่แหละ จะของานหรือหมายตาใครก็บอกท่าน ยิ่งใช้ยิ่งแรง
    - พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้เป็นของกายสิทธิ์ไม่ต้องใช้คาถาใดๆ ทำใจนิ่งบอกล่าวสื่อสารกับท่านด้วยภาษาใจ ขอให้ใช้ ยิ่งใช้ยิ่งแรง จะนำไปทำพวงกุญแจก็ได้หรือพกไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ หรือพกในที่ลับก็ได้ เป็นของกลางๆ ไม่จำเป็นต้องห้อยคอ แต่ถ้าพกในที่ลับมันจะกินเสนียดและช่วยล้างความอุบาทว์จัญไรต่างๆที่ติดตัวเรามาแต่ชาติกำเนิดเดิมได้ไวเป็นพิเศษ
    - ท่านสั่งให้บอกเค้ากันสั้นๆ แม้เคราะห์อันเกิดกับมหานคร เกิดแต่สรรพชีวิตหมู่มาก วิชานี้ยังแก้ไขได้ จากตกต่ำแล้วทำให้เจริญได้ นับประสาอะไรกับตัวบุคคล ท่านว่าอย่าอธิบายมากไปกว่านี้ลำพังวิชางั่งนั่งแพะ ท่านว่าตอนท่านเชิญญาณครูบาอาจารย์ต่างๆมาช่วยกันเสกก็ได้รับการยืนยันมากแล้วว่านี่มันพระเจ้าชู้นี่น่า ไม่มีขุนแผนหรือเครื่องรางใดๆจะมีคุณทางเสน่ห์มากไปกว่านี้


    บูชาได้ทั้งหญิงและชาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าถ้าไม่ปรารถนาจะให้เป็นเสน่ห์ก็บอกกล่าวกับท่าน ว่าขอเพียงมาเกื้อกูลให้ชีวิตลูกดีขึ้นเท่านั้นพอ เพราะดวงจิตท่านไวเราพูดเราบอกอะไรไปท่านรู้หมด

    * วิชางั่งเป็นวิชาที่แปลก ผู้เลี้ยงจะรู้กันดีว่ายิ่งใช้ยิ่งแรง ยิ่งเลี้ยงดูมากๆหลายตนก็ยิ่งสำเร็จมาก จะเห็นได้จากผู้ศรัทธาบางคนเวลาสงัดและอยู่ในชีวิตส่วนตัวจะเอาสายคาดเอวห้อยพ่องั่งทีสามสี่สิบตนมาแขวนไว้รอบเอวเลยก็มี จากคนต่ำชั้นไร้ชื่อไม่ถึงสิบปีเปลี่ยนเป็นเศรษฐีพันล้านมีชื่อเสียงโด่งดังในหลายประเทศก็มีมาให้เห็นแล้วเพราะอานุภาพของพ่องั่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าอยู่ที่ความศรัทธา พ่องั่งนี้ยิ่งศรัทธาเขาก็ยิ่งแรง จะห้อยกี่องค์ก็สุดแล้วแต่ความสำนึกรู้ในใจคนใช้ ท่านว่าเคล็ดบางอย่างมันบอกกันได้เท่านี้จริงๆ ที่บอกนี่ก็ยิ่งกว่าชี้โพรงให้กระรอกแล้ว จะใช้อย่างไรแต่เอาว่าเชื่อเถอะวิชานี้สร้างมาให้ใช้เข้ากับศรัทธา เขาแรงจริงๆ ...เพราะงั่งเปลี่ยนชะตาคนได้ จากจัณฑาลวรรณะที่ถูกสาปให้ได้กับเจ้าหญิงกลายเป็นมหาราชายิ่งใหญ่กว่าพระราชาทั้งหลายก็ปรากฏมาแล้ว ท่านว่าเครื่องรางนี้แปลก ยิ่งโดนกดขี่ กดดัน โดนรังแกก็จะยิ่งได้ดีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว พ่ออาจารย์ท่านว่ายุคนี้ที่เอางั่งคลายผมออกมาให้บูชานั้น เพราะทุกการงานและสายอาชีพแทบจะโดนกดขี่ ถูกกระทำ รังแกทั้งสิ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2019
  2. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พ่อขุนจักรพรรดิท้าวพันตาวาสนาครองฟ้าดิน(ผงเศรษฐีพันวิมานสหัสโยนี)

    ให้บูชา 2600 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190509_203400.jpg IMG_20190509_203420.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-19#post-10770382

    ด้วยตำนานแห่งปฐมกษัตริย์ของมหาอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ สู่ปฐมบทเครื่องรางพิศดารอันผูกไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ดูกัน นามเรียกขานมหาจักรพรรดิท้าวพันตาสู่เครื่องรางรูปหน้าคนหลากหลายใบหน้าสุมรวมกันทั่วทศทิศแทนความหมายอุปมาว่าเห็นได้นับร้อยพัน มีพันหัว พันตา พันมือ พันความคิด พันวิธีการ คิดอะไรก็สำเร็จเร็วกว่าเขาพันเท่า ทำอะไรก็ได้ไวกว่าเขาพันเท่า ด้วยมีแรง มีกำลัง มีสติปัญญา มากกว่าเขาร้อยเท่าพันเท่า ด้วยท้าวพันตานั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ความรู้เอาไว้ว่าท้าวเธอนั้นมีเมียเป็นนางฟ้าถึงห้าร้อยนาง(นางฟ้าเหล่านี้ล้วนเป็นนางฟ้าชั้นสูงทั้งสิ้น) และนางฟ้าที่เป็นเมียของพระองค์นั้นแต่ละนางล้วนอาศัยอยู่ในวิมานแก้วรัตนะแลวิมานทอง อันตัววิมานก็มีความกว้างยาวได้ด้านละพันโยช ทั้งนางฟ้าแต่ละองค์นั้นล้วนมีบริวารนับร้อยโกฏิทั้งสิ้น

    ในส่วนของท้าวพันตาก็ปรากฏเรื่องราวการสร้างอาณาจักรอยู่จริง "...นับแต่โบราณกาล มหาจักรพรรดิท้าวพันตา(ขุนเทียน) พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถทางราชการงานสงครามจนสามารถรวบรวมบ้านเมืองสถาปนาสร้างสหราชอาณาจักรคีรีรัฐหรือพนมสายรุ้ง ทั้งพระองค์ยังเป็นต้นราชวงศ์ของกษัตริย์ในยุคหลังไม่ว่าจะเป็นมอญในอาณาจักรฟ้าอิสานหรืออาณาจักรอิสานปุระในเวลาต่อมา และยังเป็นต้นราชวงศ์โจละเขมรหรือขอมเขมรในอาณาจักรพนมมันตัน สหราชอาณาจักรคีรีรัฐนั้นปกครองแบบสหพันธ์รัฐ ประกอบด้วยสามรัฐใหญ่ คือ สุวรรณภูมิ,ชบา(ดินแดนเกษียรสมุทร) และไตจ้วง(รัฐในดินแดนจีน) พระองค์ได้สร้างราชวงศ์ใหม่ขึ้นมาคือราชวงศ์ไศเลนทร์วงศ์ ในสมัยสหราชอาณาจักรคีรีรัฐมีกษัตริย์ปกครองประกอบด้วย ๖ ราชวงศ์ คือ ราชวงศ์เทพพนม(ไศเลนทร์วงศ์ ขุนเทียนเป็นปฐมกษัตริย์) , ราชวงศ์เทียนเสน , ราชวงศ์โคตะมะ(ขอม) , ราชวงศ์หยาง-โคตะมะ , ราชวงศ์ขุนหลวงจิวใหญ่(ขุนหลวงใหญ่ไกลโศก) และราชวงศ์อู่ทอง มีมหาจักรพรรดิปกครองตั้งแต่ปี พ.ศ.๖๙๓-๑๒๒๔ ทั้งหมด ๔๗ รัชกาล เมื่อสหราชอาณาจักรคีรีรัฐล่มสลายได้กำเนิดสหราชอาณาจักรเสียมขึ้นมาแทนที่ "

    ทั้งนี้ด้วยนามของท้าวพันตานั้นยังไปพ้องกับพระอินทร์ผู้มีสหัสโยนีถึงหนึ่งพันติดบนตัวด้วย ในภายหลังพระอินทร์ได้ไปขอร้องพระพรหมให้ช่วยเปลี่ยนคำสาป จากสหัสโยนีเป็นดวงตาพันดวง แต่นั้นจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่าสหัสนัยน์ พ่ออาจารย์ท่านเมื่อดำริจะสร้างท้าวพันตาเพื่อสืบสายเคล็ดวิชาโบราณนับแต่ยุคสถาปนาอาณาจักรไศเลนทร์วงศ์ขึ้นมา ท่านว่าท้าวพันตาของท่านนี้จะรวบเอาคุณวิเศษไว้ทั้งสองด้าน หนึ่งคือมหาจักรพรรดิท้าวพันตาหรือขุนเทียนผู้เป็นใหญ่ สองคือสหัสนัยน์ผู้เป็นเจ้าแห่งเทพเทวา ด้วยถือว่าพระอินทร์นั้นเป็นผู้คอยสอดส่องดูแลมนุษย์ทุกผู้คนด้วยจักษุทิพย์เสมอ เสมือนกับมีดวงตาหนึ่งพันปรากฏรอบด้าน ไม่มีผู้ใดรอดพ้นจากสายตาของท่านได้ฉะนี้แล

    เครื่องรางชนิดนี้กล่าวได้ว่าใช้ได้หลายทาง พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพูดถึงเครื่องรางทางเสน่ห์เจ้าชู้คนจะนึกถึงงั่ง แต่ท้าวพันตานี้ก็ไม่ด้อยกว่ากันนักซ้ำยังมีดีหลายอย่างที่งั่งไม่มี ท่านว่าเธอคิดดูเองเถิดหนา งั่งนั้นได้เมียเป็นเจ้าหญิง แต่ท้าวพันตานั้นเขาได้สูงกว่าเพราะท่านเล่นนางฟ้านางสวรรค์ทีเดียว นางฟ้าที่มีบุญมาก มีศักดิ์ใหญ่ อยู่ภพภูมิที่สูงกว่าตน ไม่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นท่านมีทีตั้งห้าร้อยคน เรียกว่ายังไม่ทันสิ้น ยังเป็นมนุษย์ก็มีวาสนามีวิมานให้อยู่ถึงห้าร้อยวิมาน นี่ต้องเป็นคนที่มีบุญ มีความสามารถระดับไหนถึงจะเกิดขึ้นได้ จักรพรรดิ์ธรรมดาย่อมเป็นเช่นนี้ไม่ได้เลย เรียกว่าเป็นบารมีเฉพาะตัวก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านเลยถือคติว่า ท้าวพันตานั้นนอกจากเป็นวิชาทางเสน่ห์แล้ว ยังใช้ดึงดูดเนื้อคู่ที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่และยังใช้พลิกชะตาชีวิต ใช้เริ่มต้นทำการใหญ่ เพื่อให้เจอคนดี ให้ได้ดี ทำสิ่งใดก็มีเพศตรงข้ามอุปถัมภ์ค้ำชู ที่สำคัญคือคนที่คิดการณ์ใหญ่ อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยทำได้สำเร็จท่านว่านี่เขาต้องใช้บารมีท้าวพันตา

    รูปทรงแต่เดิมท่านว่าของกรุเมืองนครนั้นเขาทำมาแปลกตาดูไปมาคล้ายสัปปะรดเพราะเขาเอาหัวมาแปะติดกันรอบด้าน ท่านจึงแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่ให้เป็นองค์เทพท้าวพันตานั่งอยู่ในซุ้มลักษณะพระขุนแผนพรายกุมาร และใช้ศรีษะมากมายปั้นแต่งทีละองค์ตามลักษณะท้าวพันตาศิลป์เมืองนครเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้เป็นเอกลักษณ์ของเราไม่ซ้ำใครนั่นแหละดี แต่เดิมเขามีแต่หัว แต่สร้างครานี้เราทำตัวให้ด้วย มีตัวแล้วกายินทรีย์ย่อมครบสมบูรณ์ อาการสามสิบสองก็ครบ จะได้เล่นฤทธิ์แสดงพลังกันได้สุดๆไปเลย

    ด้วยจะสร้างท้าวพันตานั้นผงมวลสารย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
    - ผงอิ่นแก้ว อิ่นคำ ผงวิชากำเนิดมนุษย์ อันดีด้านคู่ครองไม่ร้าง ไม่ห่างซึ่งเพศตรงข้ามที่ปรารถนา
    - ดินเจ็ดประตูชัย ถือคติว่าไปไหนดำเนินกิจการใดก็เอาฤกษ์เอาชัยไม่มีคำว่าแพ้
    - ผงลึงค์ช้าง อันเป็นยอดเครื่องครูเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์ท่านหวงแหนนัก ท่านว่าช้างตัวนี้แม้ตายไปแล้ว พังตัวเมียก็ยังห่วงหาอาลัยอาวรณ์เดินเฝ้าศพไม่ยอมไปไหนเป็นเหตุอันผิดปกติวิสัยยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าผงลึงค์ช้างนี้จึงมีอานุภาพทางเสน่หาอาลัยถึงขนาดตัวตายก็ไม่ยอมแยกจากนั่นเอง
    - ผงจักรพรรดิภูติพรายทองคำ ผงวิเศษที่ได้มาจากครูบาอาจารย์ของท่าน ท่านว่าเป็นผงมหาภูติที่งอกขึ้นเอง เพิ่มจำนวนเองได้ดุจผงวิภูติ ทั้งภูติยังมีฤทธิ์และมีศักดิ์สูงกว่าพวกผี พวกพรายทั้งหลาย นับเป็นเทวดาในปกครองของท้าวธตรฐจอมเทพแห่งจตุมหาราชิกา เป็นของกายสิทธิ์มีฤทธิ์รอบตัวทั้งยังงอกเงยพอกพูนเป็นกฤติยาคมแฝดให้คนใช้ได้ดี มีในสิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จักขาดรู้จักพร่อง
    - ขี้ผึ้งมหาละลวย ท่านว่าดีทางเจรจามีปากเป้นเอก เป็นเมตตาแก่ชนทั่วไป จะพูดจาสิ่งใดก็ต่อรองได้ดั่งสายน้ำไหล ไม่ตกเป็นรองคู่เจรจา เป็นมหาละลวยงงงวยโอนอ่อนผ่อนตาม พูดให้รวยก็รวย ใช้ทำมาหากินก็ได้
    - สีผึ้งเทียนมัทรี ขี้ผึ้งกัณฑ์เทศนี้ว่ากันว่ามีอานุภาพดีทางจูงจิตจูงใจให้หลงไหล พ่ออาจารย์ท่านหุงจนสัตว์เล็กๆทั้งน้อยใหญ่ล้วนแต่เคลิบเคลิ้มตกหล่นไร้สติ
    - ผงเศรษฐีพันวิมาน ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราลบเป็นมวลสารตรงตัวเพื่อจะสร้างท้าวพันตานี้ ให้คนใช้เป็นมหาเศรษฐีมีเรือนมีวิมานนับพัน เป็นยอดผงแห่งความเจริญรุ่งเรืองอันหาสิ่งใดเสมอเหมือนไม่ได้
    - ชันทั้งเจ็ด ได้แก่ ชันตะเคียน ชันพะยอม(นางยอม) ชันโรง ชันรูจี ชันยาง ชันเพ็ช ชันดิน ด้วยชันแต่ละชนิดล้วนมีอานุภาพแตกต่างกันไปตั้งแต่กันไฟ กันฟ้า กันเคราะห์ กันกระทำย่ำยี ทั้งยังเป็นเสน่ห์ เมตตา ตลอดจนใช้ให้นางยอมได้สมชื่อ
    - ผงสหัสโยนี คือผงองค์กำเนิดที่พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องลบยันต์โยนีถึงพันครั้งเพื่อให้สำเร็จตามสูตร เป็นมวลสารการกำเนิดก่อเกิดทุกสรรพสิ่ง ท่านว่าปราศจากพลังงานของศักติแล้วย่อมไม่มีสิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้นมาได้เลย พลังงานนี้แฝงอยู่ในทุกสิ่งเป็นทั้งเสน่ห์เมตตา เรียกลาภทั้งกันคุณไสยสารพัดจะใช้สุดแล้วแต่ปรารถนา ท่านใส่ผงนี้ลงไปด้วย ท่านว่าเวลามีคนจะกระทำย่ำยีเรา หรือจะทำของใส่เรา ใช้อาคมเวทย์มนต์ข่มเรา ของมาถึงเจอผงนี้หลุดกระจุยทั้งหมดทำอะไรไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรานั่งลบจนเทพเทวานางฟ้าเขาสมสู่กันเพราะโดนฤทธิ์ของผงนี้จึงถือว่าสำเร็จ


    ท่านได้นำผงต่างๆที่แรงและมีอำนาจเป็นกฤติยาคมแฝดเหล่านี้มาผสมด้วยผงสกุลเศรษฐีที่ท่านเก็บเอาไว้ทั้งพระปัจเจกพุทธเจ้าโปรดสัตว์ ผงพระสีวลีให้ลาภ ผงพระสังกัจจายน์อุดมลาภ ผงเศรษฐีทศชาติ ผงจินดามณี ผงพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้า ผงเศรษฐีค้าสำเภา ผงต่อลาภเร่งวาสนา ผงบันดาลโชค ผงเงินไหลมา ท่านว่าสมัยนี้จะทำของดีต้องเอาให้ครบเครื่องเน้นให้หนักทั้งเสน่ห์ ทั้งการงาน โชคลาภ วาสนา ทุกอย่างต้องไปพร้อมกันจึงจะเกิดยอดคนขึ้นมาได้

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิเศษมาผสมกันขึ้นรูปกดพิมพ์เพียรทำไปทีละองค์ ท่านว่าการสร้างท้าวพันตานั้น ไม่ใช่ว่ากดแล้วจะเสร็จเลย ท่านต้องนั่งปั้นเศียรพระค่อยๆต่อเติมลงไปด้วยกว่าจะสำเร็จนั้นจึงไม่ง่ายเลยด้วยต้องตำผงทีละครก ใช้ผงพอประมาณให้กดพระได้หนึ่งองค์ ปั้นไปแต่งไปเช่นนั้น

    ท่านได้นำของกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ในตัวเองชนิดหนึ่งมาโรยไว้ที่พระผงท้าวพันตานี้ นั่นคือผงตะไบท้าวพันตา พญาพันวัง ด้วยถือคติว่ามีชื่อเดียวกัน มีอานุภาพเสมอกัน ไม่มีอะไรมีตามากเท่าแหซึ่งมีตาเป็นหมื่นตา จึงได้ชื่อว่า "ท้าวพันตา" ส่วนพญาพันวังนั้นก็ถือว่าวังคือหนองน้ำ แหหนึ่งปากไปคลุมวังได้เป็นพันวัง พันๆ หนองน้ำแหปากเดียวมีค่าเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้นำแหที่ผ่านการใช้งานมาเสกเป็น "แหอาคม" วิชาชั้นยอดที่ใช้คลุมได้ครอบรอบหมดไม่มีอะไรหลุดรอด ท่านว่าแหอาคมนี้ตามแต่ใจและมโนนึกคิด จะดักจะปรารถนาอะไรก็ให้นึกเอาว่าสิ่งนั้นโดนแหคลุมไว้ อยากได้อะไรจะทำอะไรก็เร่งทำเถิด พ่ออาจารย์ท่านว่าแหอาคมคลุมแล้วไม่มีรอดซักราย ท่านนำแหอาคมนี้มาเผาไฟเข้ากันกับผงที่ใช้สร้างท้าวพันตา และนำตะกั่วตีนแหมาตะไบใส่ท้าวพันด้วย

    ด้วยแหอาคมนั้น นอกจากจะใช้ดักและเหวี่ยงครอบสิ่งที่เราอยากจับแล้ว ท่านว่ายังใช้สะกดและข่มอาถรรพ์ได้อีกด้วยทั้งถอดถอนและขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ทำให้เกิดสิริมงคลทดแทนขึ้นมาได้ ท่านว่าที่เอาแหอาคมทำเป็นผงผสมไปด้วยนั้นก็เพื่อจะแก้อาถรรพ์กันอันตรายในตัวคนใช้ ไม่ว่าจากสถานที่ต่างๆซึ่งในวันหนึ่งๆเราต้องเดินต้องเดินทางไปทำกิจการทั้งหลาย อาถรรพ์จากดวงวิญญาณและพลังงานลึกลับก็ดี อาถรรพ์ต่างๆที่สร้างความแตกแยก อาถรรพ์ในอาชีพที่กระทำ ในที่อยู่อาศัย ในพื้นแผ่นดิน ท่านว่าอาถรรพ์ทั้งหลายย่อมไม่เกิดขึ้นกับเราเลยด้วยท้าวพันตาท่านใช้แหอาคมครอบคลุมร่างกายสะกดกันอาถรรพ์ สิ่งชั่วร้ายและอัปมงคลทั้งปวงไว้หมดแล้ว

    ท้าวพันตามีตานับพันถือคติว่าท่านรู้หมดคือว่ารู้เงินทองโชคลาภอยู่ที่ไหน รู้ว่าเราอยากได้ปรารถนาสิ่งใด ใจเราต้องการอะไร รู้ทั้งร้อยทั้งพันและมีกำลังมากกว่าร้อยพันที่จะทำให้ความปรารถนาเราสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เข้าไปที่ไหนที่นั่นมั่งมีและยังสมบูรณ์ทั้งหมดทั้งอาหารการกินการบริโภคอุดมสมบูรณ์ โชคลาภไม่ขาดมือ หากินเก่ง หากินคล่อง ไม่อดอยาก มีกินตลอด เงินทองมาทางไหนต้องดักให้หมดให้ได้ทุกทางอย่าให้เหลือหลุดลอดไปได้ ท่านว่าตัวเราคนใช้จะกินอะไรก็ขอเอาเอง พระผงนี้นอกจากมีอานุภาพทางด้านเจริญรุ่งเรือง หากินคล่องเงินทองไม่ขาด ด้วยท่านนำแหอาคมทำเป็นมวลสารแล้ว นอกจากนี้ท่านว่าคนใช้เขาอยู่ตรงไหนเหยื่อก็ติดแหได้ง่ายขึ้นอยู่ที่ว่าเค้าอยากได้อะไรเป็นเหยื่อ ไปที่ไหนก็มีเงินไหลมาเทมาเข้าแล้วไม่ออกเพราะแหนั้นดักและปิดทั้งหมด

    ด้านหลังท่านฝังลูกอมท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารไว้ ท่านว่าจะมีอะไรมั่งคั่งสมบูรณ์เท่ากับคลังหลวงในพระราชวังอันยิ่งใหญ่ย่อมไม่มีอีกแล้ว ลูกอมนี้ท่านเอาดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารมาปั้นเข้ากับผงคตและแร่วิเศษต่างๆตำรับหลวงปู่เฒ่ายิ้มที่ท่านเสกเก็บไว้ ท่านว่าลูกอมนี้เชื่อขนมกินได้เลย อุปมาเหมือนคนไร้ทุนซึ่งสมัยนี้คนไม่มีทุนไม่มีปัจจัยสะสมไว้มีอยู่มาก เรียกว่าคนไม่มีความพร้อมเช่นนั้นก็ได้ ท่านว่าอย่าว่าแต่คนไม่มีทุนเลย แม้คนที่ไม่มีอะไรเหลือแล้วยังมีกินขึ้นมาได้ ดังนั้นแม้ไม่มีทุนไปแต่ตัวก็ต้องได้ของดีกลับบ้านแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้ง หรือที่พูดกันว่าไปแต่ตัวแต่ต้องเจริญขึ้นจนกลับบ้านเช่นนี้

    นอกจากนั้นยังมีปลาที่เป็นสื่อตัวแทนของโชคลาภวาสนาใหญ่โตต่อเนื่องไม่ขาดตอนที่พ่ออาจารย์ท่านลงเสกด้วยวิชาตะเพียนเงินตะเพียนทองตามตำรับหลวงพ่อจงไว้ด้วย วิชาเสกปลานี้ท่านว่าเหมือนมีโชคลาภชอนไชเข้ามาในชีวิต คนที่ไม่มีดวงทางการเสี่ยงโชค ซื้อให้ตายก้ไม่ถูกเล่นยังไงก็เจ๊ง ท่านว่านี่ดีคบหมดเลย เป็นมหาอุดมอย่างมากท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ

    พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกให้เต็มที่ท่านว่าเสกจนเต็ม จนเสกไม่เข้า และนำมาอธิษฐานจิตเสกปิดในฤกษ์จันทรคราสที่ร้อยปีนับจากนี้ก็ไม่มีจันทรคราสเช่นนี้อีก ด้วยถือเป็นมงคลเอาฤกษ์เอาชัยว่าคนที่ได้ไปชีวิตจะได้เหมือนจันทร์เต็มดวงที่ผุดเกิดขึ้นมาใหม่บนท้องฟ้าที่มืดดับ

    คาถาบูชา
    เอหิจิตตัง มหาจิตตัง พ่อปู่ท้าวพันตาอยู่หรือยัง(ให้ตอบเองในใจว่าอยู่) หากอยู่แล้วจงมากับลูก ไปช่วยลูกปราบทุกข์เข็ญ นะชาลิติ พุทธัง ลาภาคะยะ อุดเถหิมะมา ชัยยะลาโภ จะ มหาลาโภ ภวันตุเม มิเตพาหุหะติ(อธิษฐานได้ทุกสิ่ง)


    * พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาท้าวพันตาแบบเต็มวิชานี้ท่านจะทำให้ครั้งเดียวเพราะสร้างยากทำยาก และต้องเน้นพุทธคุณหนักแน่นไปทางโชคลาภ เสน่หา ทั้งยังเปิดวาสนาเป็นทุนรอนให้ชีวิตคน ท่านว่าของเช่นนี้พันปีก่อนมีอย่างไร วันนี้เราทำไว้ให้แล้วให้ดีครบดุจของเก่า และเชื่อว่าอีกร้อยปี พันปี ถึงจะมีก็ไม่สมบูรณ์เช่นนี้อีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2019
  3. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง}

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการนี้ครับโดยคุณ powernext

    IMG_20190509_203038.jpg IMG_20190509_203022.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-13#post-10426522


    ...มหาธาตุกายสิทธิ์ลงถม เป็นหนึ่งในศาสตราวิชาครูที่พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำโดยปกติ ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะสำเร็จเป็นพญางั่งเศียรโล้นนั้น ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย นั่นคือท่านต้องนำธาตุกายสิทธิ์มาเทเป็นพระขุนแผนก่อนจากนั้นจึงนำมาปลุกเสก และนำพระนั้นมาเคี่ยวด้วยไฟพระเวทย์ หล่อหลอมและเทใหม่เป็นพญาแผนแสนพลพ่ายซึ่งไม่ใช่รูปทรงพิมพ์พระพุทธเจ้า เมื่อเสร็จแล้วจึงทำการอัดวิชาเมตตามหาเสน่ห์ตามสายฆราวาส และหลังจากนั้นก็นำมาเคี่ยวและหล่อหลอมใหม่ เทเป็นพญางั่งเศียรแหลม อัดวิชาพ่องั่งผู้เป็นเอกในจักรวาล ก่อนจะสิ้นสุดด้วยการเทพญางั่งเศียรโล้นภาคสำเร็จกุมาร ท่านว่านี่คือมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ลงถม ทุกอย่างมีฤกษ์ยาม ทำได้ยากอย่างยิ่งกว่าจะสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมานั้นหลายคนมีความทุกข์ ทุกข์จากความต้องการของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ประสบอยู่มันสวนทางกับความต้องการของตน ไม่ได้ทุกสิ่งเสมอใจบ้าง ทุกข์จากปัญหาความรักบ้าง ทุกข์เกิดจากสังคมแวดล้อมบ้าง ทุกข์เกิดจากอาชีพการงานและปัญหาเศรษฐกิจปัญหาครอบครัวบ้าง ท่านว่าแต่ละคนนั้นก็มีปัจจัยปัญหาแตกต่างกันไป อันขึ้นชื่อว่าเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นจะหาที่สมบูรณ์พร้อมได้ก็ไม่มี กอปรกับหลายคนถามถึงพญางั่งนั่งแพะและพระเพชรจำแลงซึ่งมากมีประสบการณ์กันเข้ามาว่าจะหาเครื่องรางแบบนี้ได้ที่ไหนอีก พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดเผยเรื่องราวของพญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร(ภาคหากิน) ท่านว่านี่คือที่สุดของวิชาในสายของพญางั่งแล้ว แม้วิธีการจะสร้างและทำนั้นก็ยากอย่างยิ่ง ทำไมต้องเป็นงั่งเศียรโล้น งั่งสำเร็จกุมาร หลายคนคงสงสัยกันในจุดนี้

    พญางั่งเศียรโล้นนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ของต่ำ ไม่ใช่เดรัจฉานวิชา หากแต่เป็นพญางั่งที่อัญเชิญนิรมาณกายขององค์พระสยมลงมา พ่ออาจารย์ท่านอธิบายว่าหลายๆคนที่มีความทุกข์ยาก ทำคุณคนไม่ขึ้น ใช้ของไม่ขึ้น ไม่ประสบความสำเร็จในความรัก ในหน้าที่การงาน ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตหรือในสิ่งใดๆเลยก็ดี สิ่งเหล่านี้ท่านว่างั่งเศียรโล้นนั้นแก้อาถรรพ์ พลิกดวง ขับเสนียด ทำลายสถานการณ์ตกอับเหล่านั้นได้ทั้งสิ้น

    ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ความต่างของพญางั่งธรรมดาที่มีเศียรแหลมกับพญางั่งเศียรโล้นนั้นมีความต่างกันอยู่มากมายมหาศาล และเพราะความต่างนี้ตลอดจนหาผู้รู้จริงที่จะสร้างจะเสกงั่งเศียรโล้นจริงๆไม่ได้ ภายหลังครูบาอาจารย์จึงไม่นิยมสร้างกัน จะมีสร้างกันก็เฉพาะงั่งเศียรแหลมนั่นเอง

    ที่ว่าต่างกันนั้น ต่างกันอย่างไร เพราะพญางั่งเศียรโล้นนั้นเป็นงั่งที่ขยัน เป็นงั่งหากินเขาไม่นั่งเฉยๆอยู่กับที่ เรียกว่าเป็นภาคหากินของพญางั่งก็ไม่ผิด โดยปกติแล้วแม้พกบูชาพญางั่งเศียรแหลมธรรมดาพ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมแก้ดวงแก้เสนียดได้แรงพออยู่แล้ว แต่กับพญางั่งเศียรโล้นนั้นนับได้ว่าต่างกันมาก เพราะในปางนี้พ่องั่งจะไม่สนใจวิธีการใดๆทั้งสิ้นในการทำที่จะให้ได้มาซึ่งทุกสิ่งให้สมตามเจตนารมณ์และความปรารถนา ท่านว่าใช่และถูกต้องแล้วทุกสิ่งนั่นแหละทั้งความรัก การงาน การทำมาหากิน ทุกอย่างต้องดีขึ้น ท่านช่วยทั้งหมดโดยไม่สนใจกันทีเดียวว่านั่นจะเป็นเรื่องสุจริตหรือไม่ ทั้งยังไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆเพราะท่านถือว่าเป็นธุระของท่าน หน้าที่ของท่าน เทพพรหมใดๆก็มายุ่งหรือก้าวก่ายไม่ได้ คือพ่องั่งนั้นท่านให้ความรักและเมตตาช่วยเหลือโดยไม่สนใจเลยว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด ถูกก็ช่วยผิดก็ยังช่วย ช่วยไปทุกสิ่งตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต นี่คือความรักของพ่อที่มีต่อลูกอย่างแท้จริง แต่โบราณนั้นจึงถือว่าพ่องั่งเศียรโล้นนั้นเป็นพ่องั่งไร้ศีลธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าอาจจะฟังดูแรงไปบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆแล้วด้วยด้วยคุณแห่งครูบาอาจารย์และพระเวทย์วิชานั้นถือว่าไม่เกินเลยไปเลย ก็ในเมื่อยังมีตัณหา มีความปรารถนามีความต้องการที่จะเอาดีทางโลกกันอยู่ เช่นนั้นเรื่องบางอย่างมันย่อมขัดกับศีลธรรมทีเดียว แน่นอนว่าพระก็ยุ่งไม่ได้ เทพก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นพ่องั่งเศียรโล้นจึงเป็นภาคที่พญางั่งจุติขึ้นมาเพื่อช่วยในกิจต่างๆเหล่านั้นให้ได้ ให้สำเร็จในทุกช่องทางไม่เลือกวิธีการนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำทั้งที ให้ทำรูปร่างน่าเกลียดคนเค้าก็จะไม่กล้าห้อยกัน จึงทำองค์ขนาดปกติกำลังพอดี ท่านว่าจะได้ใช้กันได้ไม่รู้สึกลังเลใจว่าใครจะเห็น พ่ออาจารย์ท่านแกะแม่พิมพ์พ่องั่งนี้ให้อยู่ในซุ้มแบบพระขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านว่านี่ไม่ใช่พระพุทธแต่เป็นพ่องั่ง และเป็นพ่องั่งภาคสำเร็จกุมารเสียด้วย ท่านว่าลำพังวิชาของพญางั่งเศียรโล้น ตัวพ่องั่งเศียรโล้นก็มีคุณสมบัติเป็นเอกในสิ่งที่เครื่องรางทุกชนิดไม่มีและไม่สามารถช่วยได้อยู่แล้ว แต่นี่ท่านตั้งใจสร้างให้เป็นพ่องั่งภาคสำเร็จกุมารอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเป็นพระขุนแผนเป็นรูปพระพุทธเจ้าที่อยู่ซ้ายขวานั้นก็เป็นพระโมคคัลลาน์พระสารีบุตรไม่ใช่กุมารทองอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ แต่เมื่อท่านทำและตั้งใจทำเป็นพ่องั่งเศียรโล้นแล้ว ท่านจึงตั้งใจเสกขึ้นรูปซ้ายขวาให้เป็นกุมารทองอย่างแท้จริง ทั้งยังเมตตาอัดพลังอัดเวทย์วิชาเพื่อให้เขาเป็นกุมารทองที่เก่งและใช้งานได้ง่ายอีกด้วยท่านว่าเก่งกาจและซนได้ที่ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพ่องั่งเขาจะได้มีบริวารช่วงใช้ ช่วยกันหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นกิจเล็กๆหรือการณ์ใหญ่ๆก็ดีย่อมสำเร็จทั้งสิ้น นี่คือพญางั่งภาคสำเร็จกุมารเป็นพญางั่งที่มีบริวารคอยเกื้อหนุนช่วยเหลือ ดังนั้นท่านว่าเราเป็นคนใช้ไม่ต้องไปสนใจตรงนั้นเลย ในโลกทิพย์ท่านคุมและจัดการของท่านกันเอาเอง พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่ากุมารนี้เป็นทิพย์เป็นเทวภูติไม่ต้องเลี้ยงใดๆ พ่องั่งท่านเลี้ยงของท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์มาท่านก็ต้องนำมาลงหัวใจพญางั่งเสกด้วยวิชาพระเจ้าเข้าเรือนแก้ว พร้อมทั้งกำหนดจิตเสกขึ้นรูปกุมารทองไว้ก่อน ท่านว่าทุกอย่างพร้อมและสำเร็จตั้งแต่เป็นแม่พิมพ์ทีเดียว

    ดังที่กล่าวไปแล้ว ว่าจะทำทั้งทีต้องทำให้เต็มสูตร พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ใช่แค่รูปร่างนึกอยากทำก็ทำได้ ครูพระสยมนั้นท่านบอกว่าถ้าจะทำพ่องั่งเศียรโล้นให้สำเร็จทรงอิทธิฤทธิ์เปี่ยมด้วยมหากรุณาอันเอื้ออารีย์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริงแล้วนั้น จะต้องเตรียมมวลสารถึงเก้าชนิด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านพูดว่าเรามีหน้าที่หาหน้าที่ทำ บอกได้คำเดียวเลยว่าสิ่งที่ท่านกำหนดนั้นหายากทั้งสิ้น ล้วนแต่ของที่มีอาถรรพ์ผิดธรรมชาติทั้งนั้นแต่ก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะไม่ใช่ผีไม่ใช่ภูติพรายแต่อย่างใด ที่ว่าอาถรรพ์ผิดธรรมชาตินั้นเพราะมีประจุพลังงานฟ้า พลังเทพมีเทพวิญญาณถือครองอยู่กว่าจะได้ครบเก้าสิ่งจึงเป็นเรื่องยากและบอกใครไม่ได้ ท่านว่าทุกสิ่งนั้นท่านพลีมาและบดเป็นผงทำผงฝังด้านหลังพญางั่งนั่นเอง ท่านว่าจะทำทั้งทีก็ต้องให้ครบสูตร ครบและแรงตามเจตนาครู เจตนาฟ้า เจตนาองค์พระสยมภูวญาณท่านกำหนดมาจะให้ผิดพลาดไม่ได้ นั่นแหละจึงจะได้ชื่อว่าเป็นพญางั่งเศียรโล้นที่จะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลเราในทุกเรื่องจริงๆ เป็นพญางั่งภาคหากินช่วยด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูกโดยไม่สนศีลธรรมอย่างแท้จริง

    พญางั่งเศียรโล้นนั้นดานหลังพ่ออาจารย์ท่านฝังสิ่งสำคัญต่างๆล้วนแล้วแต่ของที่มีอำนาจและอาถรรพ์ในตนเองทั้งสิ้น ดังต่อไปนี้
    - ประคำโทนแทนครู ท่านว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเอาของที่เป็นตัวแทนพระตัวแทนเทพเจ้าอย่างประคำโทนแทนครูนี้มาฝังงั่ง ท่านว่าก็พ่องั่งของท่านใช่ของต่ำหรือเดรัจฉานวิชาเสียเมื่อไหร่ หากแต่เป็นภาคหากินขององค์พระสยมภูวญาณทีเดียว ภาคนี้เป็นภาคเทพสูงกว่างั่งธรรมดา จะห้อยคอก็ได้หรือคาดเอวก็ไม่น่าเกลียดขอแค่ให้พ่องั่งโดนเนื้อโดนตัวเราก็พอ นอกจากนี้ที่ฝังไว้ก็เพื่อสื่อความหมายเป็นนัยน์ว่านี่ไม่ใช่งั่งทั่วไปหรืองั่งท้องตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นงั่งครู งั่งวิชา อันประคำโทนนั้นดีและวิเศษอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าประคำโทนนั้นมีวิธีการทำที่ยุ่งยากซับซ้อนมากกว่าประคำธรรมดาหลายเท่าในวิชาการทำประคำ เมื่อสำเร็จแล้วเป็นของมีอานุภาพมากท่านว่าสามารถใช้แทนสังวาลประคำสายที่มีจำนวน 108 เม็ดได้ไม่ต่างกันเลย หากแต่ประคำโทนนั้นแรงกว่าเรียกว่าพกลูกเดียวจบ ทั่วพิภพจบแดนนี้ไม่ต้องไปหาอะไรอีก ไม่ต้องไปคาดสังวาลย์ประคำให้เกะกะแต่อย่างใด ท่านว่าการทำประคำโทนนั้นทุกขั้นตอนล้วนมีพิธีกรรมมีการภาวนาพระคาถากำกับทั้งสิ้น ซ้ำเวลาเสกยังต้องอธิษฐานจิตด้วยสูตรพระคาถารัตนมาลาอันสูงสุด ท่านย้ำว่าต้องเอาคุณจากประคำทั้ง 108 เม็ดมารวมไว้ในเม็ดเดียว พระทั้ง108 ครูทั้ง 108 ฤาษีทั้ง108 เทพยดาทั้ง108 พรหมทั้ง108 รวมกันอยู่ในนี้ทั้งสิ้น ท่านว่าไม่ง่ายหรอกนะกว่าจะได้แต่ละลูกถือมั่นถือให้ดีครูลงกันหมดแล้วสถิตย์แล้ว ท่านว่าทำยากต้องลงตะกรุดฝังอาถรรพ์ทำผงผสมผงเฉพาะ กว่าจะลงรักกว่าจะเสก ดังนั้นประคำโทนนี้ท่านจึงว่ามีคุณทุกทาง ใช้ได้ทุกอย่าง ท่านว่าวิชาการทำลูกประคำจริงๆนั้นทำยากมาก หลายๆที่ส่วนใหญ่จึงมักจะซื้อมาเสกไม่ค่อยทำกันตามวิธีการ ส่วนใหญ่จะเป็นประคำตลาดพระทั้งท่าพระจันทร์วัดราชนัดดาเป็นประคำสำเร็จรูปจากไม้มงคลก็ดีหรือที่เป็นแร่เหล็กก็ดีถือเสียว่าซื้อมาเสกเป็นใช้ได้ ท่านว่าของๆท่านนั้นจะให้ทำเป็นลิเกหรือสุกเอาเผากินเช่นนั้นไม่ได้ ประคำโทนนั้นเอาไปต้องเปลี่ยนชีวิตเขาได้ ขั้นตอนมีอย่างไรวิธีการแบบใดก็ใจเย็นๆค่อยๆทำไปไม่ได้รีบ ทำแล้วต้องเอาให้ขลังให้ใช้ได้ ท่านว่าประคำจริงๆนั้นมีอานุภาพใหญ่มาก ทั้งจะทำให้เกิดเมตตา ใช้เจริญภาวนาเป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นถึงภัยอันตรายต่างๆก็ดี ใช้ป้องกันอันตรายได้สารพัด ท่านว่าหากจิตจดจ่ออยู่กับประคำนี้หมั่นสวดมนต์ปฏิบัติภาวนาอย่างต่ำก็ได้โลกีย์ฌาน เพราะเวลาทำมันต้องตั้งสติเจริญสติ สติตัวนี้และอานุภาพของครูประคำนี่แหละ จะทำให้สำเร็จฌานโลกีย์ได้ นอกจากนั้นยังสามารถพัฒนาเป็นมรรคเป็นผลได้อีก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าประคำโทนนั้นเป็นที่สุดของครูประคำจริงๆ ท่านได้เมตตานำมาฝังไว้ในพ่องั่ง เพื่อให้เป็นงั่งครู งั่งวิชา เป็นพ่องั่งที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวสามารถใช้วิชาได้ร้อยแปดพันประการ ซ้ำประคำนี้ท่านว่าในสายไศวะนิกายนั้นให้ความสำคัญนักอย่างยิ่งยวด เป็นเครื่องระลึกถึงองค์พระศิวะหรือพระสยมได้เป็นอย่างดี
    - ธิดาสรวงหรือแม่นางฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะเรียกนะเรียกได้ทั้งสอง ท่านหล่อธิดาสรวงนี้ขึ้นมาจากธาตุกายสิทธิ์โดยเฉพาะ แต่เดิมนั้นท่านว่าวิชานี้คล้ายวิชานางพิมอยู่บ้าง เป็นรูปของหญิงสาวท้องแก่กำลังคลอดบุตร ต่างกันที่วิชานางพิมนั้นเด็กเขาเอาขาออกมา แต่ธิดาสรวงนั้นเด็กเอาหัวออกมา ท่านว่าท่านทำไว้แล้วก็นำมาเสกเรียกชื่อว่าแม่นางฟ้าเพราะท่านเห็นญาณนางฟ้าอยู่จริงๆ ซ้ำลูกของแม่นางฟ้านั้นก็เป็นเทพกุมารที่มีฤทธิ์มากเสียด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าธิดาสรวงนี่ดีนะ เป็นสัญลักษณ์ของการให้กำเนิด การเกิดขึ้นของสิ่งดีๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดชีวิตใครพังใครจมใครล้มเหลวมาอธิษฐานบอกกล่าวแม่นางฟ้าให้ท่านชุบตัวชุบชีวิตขอเกิดใหม่จากท่านเป็นได้เรื่อง พลิกฟ้าพสุธาหงายเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือกันทุกคน ท่านว่านอกจากนี้พกไว้กับตัวยังให้คุณในทุกทางออกได้ทุกด้านเลยตั้งแต่เสน่หาเมตตาไปจนถึงคงกระพันซึ่งปกติจะไม่มีอยู่ด้วยกัน นอกจากนั้นสำหรับคนที่ต้องสอบต้องมีการแข่งขันในธุรกิจหน้าที่การงานหรือสิ่งที่จะกระทำต้องต่อสู้แย่งชิงแข่งขันกับคนอื่นท่านว่าบนบอกแม่นางฟ้านี่ได้ผลชะงัดนัก เรื่องพวกนี้ท่านชอบช่วยเหลือผู้บูชาจริงๆ ลูกๆของท่านจะต่ำกว่าคนจะจนกว่าเขาไม่ได้ จะแพ้ไม่ได้ต้องชนะอย่างเดียว นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังย้ำอีกว่ารูปแม่นางฟ้าหรือธิดาสรวงนี้เป็นรูปอาถรรพ์ หากนำไปติดตัวคล้องคอบูชาไว้ใครที่มีเสนียดหรืออัปมงคลใดๆติดตัวแก้ไขไม่ได้เอาไม่ออก ท่านว่าอาถรรพ์ทั้งหลายนี่หลุดหมดนะ ภูติผีปีศาจทั้งหลายเกรงกลัวมาก เดรัจฉานวิชาไสย์ดำต่างๆเข้าใกล้ไม่ได้ทำอันตรายไม่ได้เลย ท่านว่าบอกได้เท่านี้ เอาว่าชีวิตอยู่ดีกินดีและปลอดภัยก็แล้วกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อนำธิดาสรวงมาฝังในพ่องั่งนี้พลังและธาตุตลอดจนทุกสิ่งล้วนเกื้อกูลกัน สองอย่างนี้ถ้าแยกกันอยู่ก็แล้วไป แต่หากรวมกันเช่นนี้ ความสมบูรณ์ถึงขั้นมหาอุดมจะเกิดขึ้นกับผู้บูชาจะรู้เองเห็นแท้แก่ใจประจักษ์กับตาตนเอง ท่านว่าได้สมใจในทุกสิ่งที่ปรารถนาทีเดียว
    - ตะกรุดเมตตาพรหมวิหารธรรม ท่านว่าครูแต่โบราณนั้นถือคติว่าวิชาเมตตาของพระพรหมนั้นเป็นวิชาสูงสุด บางที่ก็ย่อและดัดแปลงไปใช้ในทางจีบสาวทางกามตัณหาอยู่มาก เพราะถือเป็นมหาเสน่ห์อย่างใหญ่หลวง รูปงามดุจพรหมวิชานะหน้าพรหมนี้ล้วนเป็นสิ่งที่สูงกว่ารูปที่ว่างามของมนุษย์ ครุฑธา หรือเทวราช ท่านว่างามกว่าวิชานะหน้าทองหรือพระลักษณ์หน้าทองเป็นไหนๆ เพราะเป็นรูปที่งามที่สุดดุจรูปพรหม ดุจรูปพระมหาสัตว์พระมหาบุรุษอันเป็นเอกในโลกธาตุทีเดียว ตะกรุดเมตตาพรหมวิหารนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกระแสธารสูงสุดของความเมตตา ท่านว่าเป็นเมตตาล้วนๆไม่มีอุเบกขาการวางเฉยเข้ามาเจือปนเลยพ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดได้เท่านี้คิดเอาเองแล้วกัน ท่านฝังไว้โดยหวังอิทธิคุณแฝดสองประการนั่นคือ ให้พ่องั่งท่านนั้นรักเราดุจเลือดในอก สามารถช่วยเหลือเราได้ทุกสิ่งให้ท่านเมตตาเราโดยปราศจากอุเบกขาการวางเฉยใดๆมาเจือปน ทุกคำขอ ทุกเรื่อง ทุกสิ่งย้อมต้องสัมฤทธิ์ผล กับอีกประการหนึ่งนั่นคือผู้ที่พกตะกรุดไว้จะได้คุณของกระแสพลังความเมตตาอย่างยิ่ง สรรพสิ่งโดยรอบเค้าจะเมตตาเรา มองเราดีขึ้น มองด้วยความอ่อนโยน เห็นเรางามเหมือนพรหมเหมือนมหาบุรุษดูเป็นคนมีสง่าราศีน่าเข้าหาขึ้นมาทันตา
    - ตะกรุดมหาสะเดาะสารพัดกัน ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนะเพราะรวมวิชาหลายสูตรไว้ในส่วนของหัวใจคาถาสำคัญต่างๆ โดยพื้นฐานแล้วจะมีอำนาจแก้ไขโรคภัยไข้เจ็บ สารพัดโรคสารพัดความเจ็บป่วย กินพลังงานด้านลบดูดกลืนโรคภัยและย่อยสลายไปจากตัวเรา กันโรคร้ายๆโรคแปลกๆผิดธรรมชาติ โรคอันเกิดจากเคราะห์กรรมเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณทั้งหลาย ท่านว่าปกติวิชาต่างๆจะแก้โรคอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรดลบันดาลให้เป็นไปตามเคราะห์กรรมไม่ได้ แต่แปลกที่วิชานี้แก้และกันได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือโดยพื้นฐานเพราะท่านยึดถือคำพระตถาคตเจ้าว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นอกจากนี้ท่านยังลงวิชานะมหาสะเดาะกับมหากันเสริมลงไปอีกด้วย ท่านว่าจะได้สะเดาะเคราะห์บรรเทาทุกข์โศกและเคราะห์กรรมของคนใช้ เสริมอานุภาพให้พญางั่งโดยเฉพาะ จะได้กินพลังงานลบและเคราะห์กรรมได้มากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ท่านว่าตะกรุดนี้ดีหลายด้านคือนอกจากกันโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังใช้กันได้สารพัดสมกับชื่อมหากัน เวลาเรามีเรื่องจวนตัวไม่อยากให้เกิดกับตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ระลึกถึงตะกรุดที่ฝังอยู่นี้ยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์พระสยมผู้ตั้งฟ้าตั้งแผ่นดินเป็นที่สุด อธิษฐานบอกกล่าวว่า ด้วยอานุภาพแห่งมหากันนี้ขออย่าให้เรื่องนั้นๆเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเลย ให้นึกเอาดีๆว่าเป็นเรื่องอะไรด้วยวิชามหากันนี้เมื่อไม่ปรารถนาแล้วสิ่งเลวร้ายต่างๆย่อมไม่เกิดขึ้นเลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราจะเจอเรื่องไม่ดีและร่างกายเรามีพลังงานด้านลบต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะย่อยสลายไปเป็นพลังงานบวกให้กับพ่องั่ง ท่านว่าก็ชีวิตคนน่ะแหละนะ เกิดมามีกรรมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดพระเคราะห์เสริมส่ง จะหาดีได้ในช่วงชีวิตซักกี่วัน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าร่างกายเราจะไม่มีพลังงานด้านลบเหล่านี้ พ่ออาจารย์ว่านี่แหละคืออาหารของพ่องั่งเศียรโล้นเค้า เค้ากินพลังงานด้านลบเหล่านี้ออกจากตัวเรายิ่งมีเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่น ใช้งานอย่างเดียวสุดแล้วแต่จะใช้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างยากเสกยาก เมื่ออาราธนาแล้วก็ได้อย่าถือตัวว่ามีดี และจะลองดีหรืออวดดี ท่านว่าใครๆก็อยากจะมีชีวิตดี แต่เมื่อมีแล้วก็ต้องรู้จักรักษาหรือใช้ให้เป็นด้วย

    คาถาบูชา
    โอม อะหะปะมะอะ กำมะโปน กำตะเบง เมตตาสุเนอ พ่องั่งเอ๋ยเจ้าจงมาสู่หา จงเกยทรัพย์ เอาศรีมาให้กู มานิมานัง มหางั่งตันติ มานิมามะ มามา สวาหะ
    ใช้ทางเสน่ห์ว่า โอมระงั่งตรึงจิตคิดคะนึงตรึงใจ พิศวาทหลงใหลจิตคะนึง คิดถึงกูบ่มิรู้ลืม ใครเห็นก็จิตตรึงคิดถึงกูบ่มิคลาย หญิงชายทั้งหลายก็งวยงงหลงเสน่ห์กู มิเห็นหน้ากูอยู่มิได้ โอมกูจักปลุกพ่องั่งให้มาคลอเคลียอยู่ในตัวกู โอมตื่นมหาตื่น โอมลุกมหาลุก โอมสวาหะสวาหุม เอหิปิยังมะมะ มามะมามา โอมระงั่ง งงงวย มหางงงวย ระงะระงั่ง มะมะสวาหะ มะมะสวาหุม มะมะโอม


    * พ่ออาจารย์ท่านเมตตาจัดสร้างไว้ได้ทั้งหมด 9 องค์ สำหรับผู้ที่จะบูชาท่านว่าให้แจ้งเข้ามาทาง PM เท่านั้น พร้อมกับชื่อนามสกุล พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวประสิทธิ์พร้อมกันนี้ท่านยังจะเมตตาลงเหล็กจารนะพลิกแผ่นดินพร้อมกำกับฝากฝังเราไว้กับพ่องั่งให้เป็นการพิเศษอีกด้วย รายได้จากการบูชาร่วมทำบุญยกพื้นพระอุโบสถเพื่อยกฐานชีวิตต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2019
  4. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    มงคลพรายเสน่หาเพชรสยมภู (จอมครุฑจับนาง)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190509_202946.jpg IMG_20190509_203003.jpg

    อ้างอิงจาก

    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-13#post-10465002

    สืบเนื่องจากหลายๆท่าน ตั้งใจและมีความประสงค์อยากขอบูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ที่เป็นพรายหรือภูติผีด้วยเชื่อมั่นว่าท่านสามารถสร้างและคุมอาถรรพ์ได้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น เมื่อมีการสอบถามหรือขอกันเข้ามาบ่อยๆ ท่านจึงอนุโลมให้นำมงคลเสน่หาที่ท่านประกอบพิธีจัดสร้างด้วยศาสตร์วิญญาณอาถรรพ์ออกมาให้บูชาแทน ท่านว่าเอานี่ไปเขาดีกว่าพรายเสียอีก เราไม่ได้นำกระดูกหรือน้ำเหลืองตลอดจนเครื่องอวัยวะใดๆของสิ่งมีชีวิตมาเป็นเครื่องประกอบมวลสารเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือพรายเทพ พรายมหาภูติที่เราตั้งใจทำและผูกขึ้น เพื่อให้เขาใช้แทนอสุรกายภูติผีนั่นเอง

    ก่อนจะมาเป็นพรายเพชรสยมภูนั้น ก็จะมาพูดคุยกันถึงเรื่องพรายกันก่อน ว่าทำไมคนถึงชอบที่จะบูชาแม้จะมีผลข้างเคียงหรืออันตรายก็เอา พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะคนเหล่านั้นรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ เขารู้ว่าถ้าใช้พรายมันจะได้ จะสำเร็จ ขออะไรเขาก็ง่าย ง่ายกว่าขอจากเทพ เพราะเขาขยันมีความกะตือรือร้น อยู่ในภพภูมิเดียวกับเรา อันนี้ก็ในกรณีของพรายที่ผูกขึ้นมาด้วยวิชามหาภูติจริงๆซึ่งมีคนที่สามารถทำได้ไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะไปเจอแต่สัมภเวสีช่วยตัวเองยังไม่ได้ไปเอาเขามาทำโดยไม่รู้วิชามหาภูติเสียมากกว่า ด้วยเรื่องนี้เองคนก็เลยนิยมพรายกันมากเพียงแค่เซ่นแค่ไหว้ชวนเขาทำบุญก็ใช้งานเขาได้แล้ว ต่างจากเทพที่ชอบดูความประพฤติเรา ถึงเราไม่ไหว้ไม่บนเขาก็ไม่เดือดร้อนเพราะชีวิตเขาสบายกว่าเรานับพันนับหมื่นเท่า ตรงนี้ความกะตือรือร้นในการทำงานมันไม่มี เหมือนเราไม่ได้เอาเขามาใช้แต่เอามาเป็นนายต้องคอยประจบสอพลอ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านจึงจัดทำพรายเพชรสยมภูขึ้น สำหรับในกรณีคนที่ชอบของแรง เร็ว ให้ผลไว อยากใช้พรายจริงๆ

    พรายเพชรสยมภูนั้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าชื่อเพชรนำหน้าคือเป็นที่สุดแล้วของทุกสายวิชามหาภูติ เพชรสยมภู อันตัวสยมภูนี้คือสภาวะที่เกิดขึ้นเอง เป็นเอง เป็นสภาวะของผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดเช่นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและครูพระสยมเช่นนี้ เมือจะสร้างพรายเพชรสยมภูนั้น พ่ออาจารย์ท่านเริ่มจากพิจารณาจิตวิญญาณของเหล่าคนธรรพ์และเพชรพญาธรเสียก่อน ด้วยการประกอบพิธีกู้ว่านอาถรรพ์ที่มีคุณถึงขั้นมหาเสน่ห์รุนแรง นับแต่ว่านดอกทองทุกตระกูล เสน่จันทร์ทั้งห้า เสน่หาทั้งสิบ ท่านว่าเอาจริงก็มากกว่าสิบ ครูเบื้องบนท่านแฝงญาณไว้อะไรเป็นเสน่ห์ท่านกู้ท่านเก็บเองเสียทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าพรายเพชรนี่สำคัญมากนะ ถึงกับครูแฝงร่างตั้งแต่เริ่มกู้ว่านกันเลยทีเดียว

    เมื่อได้ว่านที่มีญาณเพชรพญาธรและเหล่าคนธรรพ์สิงสถิตย์อันเป็นว่านที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่าว่านทั่วไปชนิดแยกด้วยตาเปล่าไม่ออกแล้ว ท่านก็นำมาทำพิธีกรรมของท่านเรื่อยๆ จนนำไปตากแดดให้แห้งแล้วนำมาป่นเป็นผง ท่านนำผงว่านเหล่านั้นมาผสมผงอิทธิเจขาดตัว อิทธิเจดำ ที่มีคุณทางด้านเสน่ห์แรงเข้าไส้ ก่อนจะคลุกกับน้ำผึ้งเดือนห้าปั้นเป็นแท่งไว้ก่อนรอแห้งอีกคำรบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านเอาแท่งดินสอมหาว่านนั้น มาเขียนลบผงด้วยวิชาหุ่นอาถรรพ์ ค่อยๆวาดขึ้นรูปผูกธาตุชุมนุมธาตุ ใส่ฤทธิ์เรียกจิตเดินมนต์ปลุกพระเวทย์ ท่านค่อยๆทำไปด้วยความอุตสาหะ กว่าจะได้ผงหนึ่งกะปุกใหญ่โอวัลติน ท่านว่าใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียว ผงนี้ทำไปเสกไป เป็นการสร้างพรายมหาภูติด้วยการทำผงลบผงอาถรรพ์ตามตำรา ท่านว่ายิ่งกว่าพยนต์ทั่วไปเสียอีก มีอาถรรพ์ดุจโสมเฝ้าทรัพย์แผ่นดินทีเดียว ผงนี้สร้างยาก เสกยาก ปรับภพภูมิก็ยาก อาศัยนำธาตุตั้งต้นที่มีจิตวิญญาณอันทรงฤทธิ์เข้าปกปักคือว่านยาของเหล่าเพชรพญาธรนั้น มาสร้างเป็นธาตุขันธ์ให้กำเนิดจิตวิญญาณใหม่ นั่นคือพรายเพชรสยมภู

    เมื่อได้ผงอาถรรพ์สำคัญแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะทำพรายเพชรสยมภูนั้นมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดและจบเพียงเท่านี้ ที่เหลือนั้นท่านว่าเป็นเรื่องของพลังงานทางจิตล้วนๆ ต้องนำผงที่ได้มาขอบารมีครูบาอาจารย์เบื้องบนอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการเสกอธิษฐานจิต จนกว่าผงจะงอกและมีปริมาณเพิ่มขึ้นเองอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ดุจการเกิดขึ้นเองของผงวิภูติ ท่านว่าหากนึกไม่ออกก็ให้นึกถึงองค์พระที่มีพระธาตุเสด็จนั่นแหละ แต่พ่ออาจารย์ท่านก็เรียกอย่างมีนัยสำคัญว่าเป็นผงวิภูติของญาณว่านของพรายเพชรสยมภูนั่นเอง ท่านเพียรทำจนสำเร็จ จนมีผงงอกเกิดขึ้นเองในพรายเพชร ก่อนที่จะนำมาเข้าด้วยมวลสารต่างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านปรารถนาจะทำพระชุดนี้ให้ดีที่สุดอย่างแท้จริงๆ เมื่อสำเร็จผงพรายเพชรสยมภูแล้ว ท่านได้นำเอาผงวิเศษนั้นมาเข้ากับถ่านไม้อาถรรพ์ ท่านได้นำตะเคียนทองโบราณพันปี ตะเคียนทองก้นน้ำ ไม้กาหลงรัง ไม้วัวลืมคอก มาอธิษฐานจิตบอกกล่าวแม่ตะเคียนกับแม่กาหลงให้มาร่วมสร้างบารมี แล้วนำไม้นี้มาเผาด้วยไฟพระเวทย์จนดำสนิทกลายเป็นเถ้าถ่าน ก่อนจะเก็บถ่านไม่อาถรรพ์เหล่านี้ผสมผงพรายเพชรสยมภูอีกวาระหนึ่ง ท่านว่าไม้เหล่านี้มีญาณของพระแม่ตะเคียนทองกับนางกาหลงรังอยู่ จะเป็นอิทธิคุณแฝงทางจิตวิญญาณให้พรายเพชรสยมภูมีอิทธิฤทธิ์รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก กอปรกับคุณด้านเสน่ห์เมตตาของไม้วัวลืมคอกและไม้ตะเคียนกับกาหลงรังก็ดีไม่หย่อนกว่ากัน จึงเชื่อได้อย่างแน่ใจว่าผงทำพระชุดนี้เป็นที่สุดของจิตวิญญาณอาถรรพ์อย่างแท้จริง ผงอาถรรพ์ที่ผูกขึ้นมาให้เป็นพราย แต่ก็ไม่ใช่พราย และแรงกว่าพราย ท่านว่าไอ้ก้ำกึ่งนี่แหละดี เพราะมันไม่ติดข้อห้ามของภพภูมิ เขาช่วยได้เต็มที่เลย

    นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังเมตตา นำเอามวลสารวิเศษที่ทำไว้มาผสมกับสีผึ้งครูบาอาจารย์ยุคเก่าจำนวนมาก ท่านว่าองค์พระรุ่นนี้เนื้อจะนิ่มนวลเพราะผสมสีผึ้งและน้ำมันลงไปมาก หนักสุดคือสีผึ้งมนต์จินดามณีองค์หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ท่านว่าวิชาจินดามณีเรียกคนเรียกปลาของพ่อท่านอิ่มนี่แก่กล้านักยากจะหาคนทำได้เหมือนท่าน กอปรกับชื่ออันเป็นมงคลคนใช้ที่หิวๆกันไม่ว่าจะเรื่องอะไรจะได้อิ่มกันถ้วนทั่ว เท่านี้ยังไม่พอ ท่านยังนำสีผึ้งอิทธิเจหลวงพ่อกวย สีผึ้งเขียวหลวงปู่ทาบ ยอดสีผึ้งพยองคำ สีผึ้งหลวงพ่อดิ่ง สีผึ้งกาตอมซากและสีผึ้งสายไทยใหญ่ ท่านนำทุกอย่างนวดผสมกันกับผงที่เตรียมไว้ และใส่น้ำมันกลางหาว อันน้ำมันนี้สำคัญนักด้วยพ่ออาจารย์ท่านได้มะพร้าวตาเดียวกับไม่มีตามาหลายลูก ท่านนำมาเสกในฤกษ์สุริยุปราคา จันทรุปราคา จันทร์เพ็ญ จันทร์ซ้อนจันทร์ ตัวกะลานั้นท่านก็แยกเก็บเสกไว้ แล้วเอาเนื้อมาเคี้ยวทำน้ำมันมะพร้าว ท่านว่าได้ไม่มากหรอก ลูกมะพร้าวเช่นนี้หาไม่ง่าย ด้วยมีอิทธิคุณอาถรรพ์เป็นทนสิทธิ์ตามตำรา มันไม่ได้ดีแค่กะลา แต่ตัวน้ำมันมะพร้าวเองก็เป็นสุดยอดทนสิทธิ์เช่นกันเพราะเป็นมะพร้าวตาเดียวและไม่มีตา พ่ออาจารย์ว่าน้ำมันนี้ท่านตั้งใจเคี่ยวด้วยมนต์หนุนดวงและนำมาเสกเก็บในฤกษ์ราหูอมพระจันทร์พระอาทิตย์อยู่เนืองๆก่อนนำมาผสม ซึ่งพระขุนแผนรุ่นนี้ท่านว่าคนใช้จะได้หนุนดวง พลิกดวง ต่อต้านวิบากกรรมได้ ทีนี้ขออะไรก็ง่ายก็สำเร็จ เพราะไม่ติดวิบากกรรม ท่านกล่าวเล่นๆว่าผงเหล่านี้ช้อนหนึ่งเอาไปสร้างพระได้นับร้อยนับพันองค์ ยิ่งมวลสารสีผึ้งเก่าของหลวงปู่ครูบาอาจารย์ต่างๆ พระที่สร้างไม่ต้องเสกอย่างไรก็ขลัง

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำไม้ขนุนมาแกะบล้อกพิมพ์ เป็นขุนแผนพรายกุมาร แต่ขุนแผนของท่านนั้น ท่านตั้งใจให้นั่งขัดสมาธิเพชรและลงตัวเฑาะชักยันต์กลางอากาศประทับไว้ ท่านว่าขุนแผนนี้จะเป็นศูนย์รวมของศาสตร์วิชา พระเวทย์แขนงต่างๆดุจว่าใช้ได้ทุกสิ่ง ซ้ำยังนั่งอยู่ในท่าเพชรกลับ เวลาห้อยบูชาไปไหนมีอะไรเข้ามาถึงตัวเราเจอขุนแผนปุ๊ปจะได้กลับร้ายกลายเป็นดีฉับพลันทันที ด้วยท่านยังตั้งใจลึกๆว่าขุนแผนนี้จะพลิกกลับชะตาวาสนาคนใช้ได้อย่างแม่นยำ พ่ออาจารย์ท่านเสกและเชิญญาณพ่อขุนแผนหรือพรหมสุรินทร์มาสถิตย์ กุมารทองเจ้าจุกด้านล่างท่านก็เดินธาตุเสกให้เป็นอย่างดี ถึงกับออกปากว่าสำเร็จทั้งหมด พระรุ่นนี้ใช้ได้เหมือนพราย บนบอกขอได้เลยสำเร็จทั้งสิ้น

    มงคลพรายเสน่หาเพชรสยมภูนี้ ด้านหน้าพ่ออาจารย์ท่านฝังของสำคัญไว้สองสิ่ง ประกอบด้วย
    - ศิลาอาถรรพ์ คุณแม่บุญเรือน เป็นศิลาน้ำที่คุณแม่บุญเรือน ได้ทำการอธิษฐานไว้เพื่อใช้ป้องกันภัยบางประการ ใช้แทนของอธิษฐานของท่านเวลาวายชนม์ไปแล้ว ศิลาน้ำของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณครอบจักรวาล มีอานุภาพกันภัย รักษาโรคภัย ตลอดจนคุ้มครองรักษาผู้มีติดตัวไป เมื่อใช้ศิลาน้ำใส่ในน้ำ ก็กลายเป็นน้ำอธิษฐาน ไว้รับประทานแก้และป้องกันโรค ทั้งใช้ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
    - แร่หัวใจราหู พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่นี้อยู่กับท่านมาตลอดเวลาที่เชิญหรือส่งอสุรินทร์ราหูโพธิสัตว์ ซึงแร่นี้มีความสำคัญมาก ท่านมักจะนำมามนต์และเข้าพิธีเวลาเกิดคราสเสมอๆ ทั้งยังลงยันต์สุริยะประภา จันทรประภาคลุมไว้ ตามตำราว่ามีพระฤาษี 2 ตน อยู่ ณ เขายุคนธร ในยุคโบราณท่านทั้งสองสำเร็จพระเวทย์เจนจบทางธรรม ได้ฌานสมาธิชั้นสูงสุด บรรลุถึงไกวัลย์ภูมิ มีจิตเป็นหนึ่งกับพระเป็นเจ้าแล้วอย่างสมบูรณ์ เป็นมหาโยคีผู้ประเสริฐ ทรงไว้ด้วยเมตตาพรหมวิหาร เมื่อท่านส่องดูด้วยญาณหยั่งรู้จากอำนาจฌานสมาบัติ ว่าในอนาคตกาลภายภาคหน้านั้น โลกจะมีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย คนจะฆ่ากันตายด้วยราคะ โทสะ โมหะ ข้าวยากหมากแพง คนแล้งน้ำใจ มีคนอธรรมมากว่าคนมีศีลธรรม ด้วยจิตอันมีเมตตากรุณาของมหาโยคีในอดีตนั้น ท่านจึงคิดทำสิ่งหนึ่งอันเป็นที่พึ่งแก่กุลบุตรกุลธิดาที่จะมาเกิดในยุคต่อ ไป ท่านจึงอนุเคราะห์ด้วยการผูกพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมหายันต์อันประเสริฐผู้ใดบูชาไว้ย่อมไม่มีอดอยากยากจน แต่บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทองข้าวปลาอาหารและพ้นจากภยันอันตรายในกลียุค ยันต์ดังกล่าวเรียกว่ายันต์สุริยะประภาและยันต์จันทรประภาให้ใช้คู่กันถือ ว่าประเสริฐดีนัก ด้วยแร่หัวใจราหูนี้ที่พ่ออาจารย์เสกรับส่งองค์ท่านตลอดคลุมไว้ด้วยผ้ายันต์ที่ท่านลง ท่านว่าย่อมมีอานุภาพประเสริฐดุจเดียวกันกับคนพกยันต์ทั้งสอง


    ด้านหลังองค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านฝังด้วยจอมครุฑจับนาง(ฉุด จับ อุ้ม) สำหรับเรื่องครุฑฉุดนางที่พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเหรียญหล่อขึ้นมาจากธาตุกายสิทธิ์เพื่อฝังไว้ในองค์พระขุนแผนนั้น นับว่ามีนัยสำคัญแอบแฝงมากทีเดียว ด้วยเฉพาะว่าท่านนั้นได้พิจารณาอย่างดีแล้ว ถึงกับออกปากว่านอกจากเป็นของสูงและเป็นสิริมงคลยิ่งแล้ว อำนาจขององค์ครุฑในภาคเสน่ห์นั้นยังร้อนแรงและดุดันมากๆ เกินกว่าเครื่องมงคลใดที่ท่านเคยสร้างมา ไม่ว่าจะเป็นองค์พระเพชร หรือพญางั่งก็ตาม

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าองค์ครุฑนั้น โดยปกติแล้วถือเป็นเทพเดรัจฉานที่มีกำลังฤทธิ์อันประเสริฐ เหนือกว่าพระอินทร์พระพรหมพระยมพระกาฬทั้งหลายบรรดามี ด้วยมีฤทธิ์เสมอด้วยพระนารายณ์เป็นเจ้า จึงไม่ใช่กำลังฤทธิ์อันประเสริฐเฉกเช่นเทพเดรัจฉานทั้งปวง ดังนั้นเกจิอาจารย์ที่รู้จักศาสตร์ขององค์ครุฑดีบางรูปจึงมีการผูกวิชาในภาคของครุฑฉุดนางอุ้มนางขึ้นมาตั้งแต่ยุคต้นกรุงนั่นแล้ว ทว่าศาสตร์แห่งวิชานั้นก็ย่อมจะสูญหายไปกอปรกับหาผู้รู้และทำได้จริงนั้นยากเต็มที วิชาเหล่านี้จึงมีการสร้างขึ้นมาเป็นช่วงๆเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้หากทำไม่ดีพลีไม่ถูกเสกไม่เป็น คนเสกก็แย่เพราะเป็นของสูงมีอาถรรพ์มาก แถมยังเรียกได้ว่าสูงที่สุดแล้วในบรรดาเครื่องรางทั้งหมดเพราะนั่นคือองค์ครุฑนั่นเอง

    เกี่ยวกับเครื่องมงคลมหาเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้าง เป็นครุฑ(ฉุดนาง,จับนาง,อุ้มนาง)ก็เรียกนั้น ท่านว่ามีความสำคัญและแตกต่างจากเครื่องมงคลอื่นๆมากทีเดียว ท่านว่าครุฑฉุดนางนี้เป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่กระทำไปด้วยอำนาจการแสดงออกโดยการข่มอย่างสมบูรณ์ให้ได้รับมาซึ่งความรัก เรียกว่าดุดันและรุนแรงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสร้างและนำมาเสกแล้ว สำหรับคนที่เล่นทางเสน่ห์ชู้สาวและชอบเรื่องรักใคร่นั้น ร้อยทั้งร้อยหากใช้ครุฑฉุดนางนี้ย่อมมีแต่คำว่าสำเร็จและสำเร็จฝ่ายเดียวเท่านั้น ท่านว่าท่านก็พูดได้แค่นี้ พูดมากกว่านี้ไม่ได้เช่นกัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าครุฑฉุดนางคงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก

    ท่านว่าคนใช้นั้นหากไม่ใช่คนเจ้าชู้ก็จะออกไปทางมหาเมตตาใหญ่ซ้ำยังเป็นที่หวาดเกรงต่อสรรพชีวิตทั้งปวง อำนาจขององค์ครุฑปางนี้จะออกไปตามคุณลักษณะของผู้บูชา ถ้าหากยังเพลิดเพลินในกามตัณหาท่านว่านี่ยิ่งกว่าเจ้าชู้ยักษ์ทีเดียว ด้วยบารมีแห่งองค์ครุฑเสริมส่งแล้วยิ่งเหมือนเสือติดปีกเข้าไปใหญ่

    พ่ออาจารย์ได้อุปมาไว้อย่างน่าฟังว่า ก็ดูนางกากีเสียเป็นไร ขนาดอยู่ในวังมีทหารรักษานับพันนับหมื่นแถมมีเจ้าของอยู่แล้วเป็นถึงพระราชา หากใครไปหมายปองผู้หญิงแบบนี้เข้าต้องเรียกว่ายากยิ่งกว่าหมายปองดวงตะวันจันทราทีเดียว แต่ในทางกลับกันสำหรับองค์ครุฑนั้นกลับเป็นเรื่องง่ายดายเพียงแค่กะพือปีก ท่านว่าถึงขนาดที่หากปรารนาแล้วที่จะไม่ได้ไม่สำเร็จเป็นไม่มี

    ครุฑฉุดนางนี้จึงเป็นเครื่องมงคลที่แตกต่างจากสิ่งอื่นๆบรรดามี นอกจากกำลังฤทธิ์อันประเสริฐไร้ผู้ต้านทานแล้ว สำหรับสายเสน่ห์พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสำหรับคนที่ชอบทางเสน่ห์นั้นเขาจะรู้ดี ถ้าไปชอบคนที่เค้าสูงกว่า เค้ามีดี มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยรักษา ที่จะเข้าถึงหรือได้คู่กันนั้นถือว่ายากเต็มที ต่อให้ขุดพรายทั้งป่าช้าหรือหาของเสน่ห์มากมายมาใช้ก็ไม่ได้ผล แต่กับครุฑฉุดนางนั้น ท่านว่าแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ทำลายอาถรรพ์ช่วยให้การเข้าหาของเราสะดวกราบรื่นเพียงเท่านั้น ซ้ำยังเป็นสิ่งที่สะกดข่มอย่างสมบูรณ์อีกด้วย ก็อยู่บอกอยู่แล้วอย่างไรว่ามีกำลังฤทธิ์อันประเสริฐไร้ผู้ต้านทานไม่ว่าจะหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนก็ตาม บอกชัดๆขนาดนี้หากยังตีความกันไม่ได้ ท่านว่าเราก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร

    หากใช้เล่นไปเรื่อยตรงนี้ท่านว่าก็แล้วแต่จะใช้ แต่เตือนไว้ก่อนว่าเวรกรรมรับกันเอง ท่านทำให้ดีแล้วจะใช้หาคู่แท้หานางแก้วมาให้กับชีวิต ร่วมชีวิตช่วยกันสร้างบุญสร้างกุศลเช่นนี้ก็ได้ หรือจะใช้ไปทางเสน่ห์เจ้าชู้ยักษ์ก็ได้ ใช้ทางไหนก็ได้ทางนั้น ใช้ในทางที่ดีก็ย่อมได้ผลดีคืนสนองในที่สุด จิตตั้งต้นที่ดี ความตั้งใจที่ดี ความปรารถนาที่ดี เขาย่อมจะนำผลดีมาให้

    ท่านว่าตอนท่านออกพญาครุฑมือแปรพลิกฟ้านั้น คนอยากได้กันมากและก็ผิดหวังกันมากเพาะท่านทำมาน้อย ไม่พอจะให้ใครเค้าบูชา ดังนั้นพญาสุเรนทร์รุ่นนี้ของท่าน ท่านไม่ได้เสกไว้ทางเจ้าชู้หรือมหาเสน่ห์อย่างเดียว แต่ยังเชิญบารมีองค์ครุฑพญาสุเรนทรชิตลงมาเต็มที่เป็นกฤติยาคมแฝดให้กับผู้บูชาด้วย ท่านว่าใช้ไปทำไมของเสน่ห์ยิ่งใช้ยิ่งมีแต่ตกต่ำไม่มีจะกิน ของเสน่ห์ของเราทำทั้งทีต้องใช้แล้วเจริญรุ่งเรือง กันอุบาทว์ แก้อาถรรพ์ หนุนดวง พัดพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตไม่ว่าจะโชคลาภหรือแก้วแหวนเงินทองบรรดามีทั้งหลาย ทุกสิ่งต้องจบลงอยู่ในจุดนี้ เรียกว่าอย่างเดียวครบรสจะได้ไม่ต้องไปหาอะไรอีก

    นอกจากนี้ด้านหลังงมีตะกรุดชุดสี่ชนิดที่พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ด้านหลังด้วย ได้แก่
    - ตะกรุดตะกั่วขอมโบราณ พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาช้างประสมโขลงเอาไว้ ท่านว่าช้างนี่แหละกำลังดี มีแรงดุจยักษา อันวิชาช้างประสมโขลงนี้นอกจากเสน่ห์เมตตายังใช้ได้ทุกทางเป็นทั้งโชคลาภ หาทรัพย์ดี อุปมาเหมือนพญาช้างจ่าโขลง ซึ่งในฝูงนั้นย่อทจะมีช้างตัวเมียมากมาย แน่นอนว่าจ่าฝูงย่อมมีสิทธิ์ในตัวเมียทุกตัวทั้งโขลง ไม่ใช่เฉาะโขลงตัวเองเท่านั้น แม้โขลงอื่นก็ยังผสมข้ามได้ ท่านว่าตะกรุดช้างผสมโขลงนี้จึงเป็นเสน่ห์ใหญ่มีกำลังมาก ท่านจึงนำมาลงฝังไว้ในขุนแผนสำคัญรุ่นนี้
    - ตะกรุดทองเหลือง พ่ออาจารย์ท่านลงยันต์สวรรค์หลงทางกับยันต์รักกูไม่รู้สิ้นกำกับไว้ ท่านว่าชื่อคาถาก็บอกอยู่แล้ว ต่อไปจะได้มีหลงๆเข้ามาหาเราบ้าง อยากให้อะไรหลงเข้ามาก็ตามแต่ใจพวกเธอเลย อธิษฐานเอา ลาภจากสัตว์สองเท้าหรือลาภใดๆก็แล้วแต่ ให้หลงเข้ามาในชีวิตและผูกสมัครรักใคร่อยู่กับตัว
    - ตะกรุดปิโยเทพรัญจวน ท่านว่าแม้พระอินทร์พระพรหมก็ยังหลงเมตตาเรา นับประสาอะไรกับมนุษย์เดินดิน ตะกรุดนี้สำคัญมาก ใช้ออกสมาคมเข้าหาใครไม่จำเป็นต้องเพศตรงข้าม นี่สำเร็จหมดท่านว่าลงไว้คลุมทุกภพภูมิสำเร็จหมด เมตตาเราทั้งหมด
    - ตะกรุดคนึงหา ท่านว่าลงไว้ให้ครบถ้วนกระบวนความ อานุภาพตะกรุดคนึงหานี้จะทำให้คนที่ปรารถนาเขาคิดถึงเราฝันถึงเรานั่นเอง เมื่อจะอธิษฐานแล้ว ให้นำองค์พระนี้ใส้ไว้ใต้หมอนแล้วนอนหลับไปเถิด ท่านว่านี่เป็นวิธีโบราณเรียกว่าผูกจิตผูกสัมพันธ์กันในความฝันยามค่ำคืน พอเขาเจอหน้าเราแล้วจะมีอาการเขินอาย ทำให้เค้าคิดถึงฝันถึงเรา อะไรก็สำเร็จ ใช้ทางเมตตามหานิยมเค้าหาเจ้านายก็ได้ เค้าจะได้คิดถึงนึกถึงเราเอ็นดูเราเป็นพิเศษ


    สำหรับพ่อพรายเพชรสยมภูนั้น พ่ออาจารย์ท่านยังนำไม้วัวลืมคอกมาฝังไว้ด้านหลังให้ด้วย ไม้วัวลืมคอกหรือไม้ประนมปีเก็งนี้เป็นไม้มีคุณทางด้านเสน่ห์ ถ้าวัวหรือสัตว์ใดๆผ่านมาผ่านไปก็จะหลงวนเวียนอยู่บริเวณต้นไม้นี้อานุภาพคล้ายๆกับทำให้ละเมอ หลงวนเวียนออกไม่ได้หาทางกลับไม่เจอ นอกจากนั้นท่านยังฝังเม็ดก้อนผงพระเก่าของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ไว้ด้วย ซึ่งเป็นผงที่ท่านได้รับมาแต่หลวงพ่อสาคร ท่านว่าเธอจะเอาอะไรของหลวงปู่ทิมทุกอย่างก็อยู่ในนี้ สมัยก่อนนั้นพระท่านราคายังไม่แพง พระแตกพระหักก็มี ซึ่งท่านก็ได้รับมอบไว้ให้มาตำทำผง แต่ท่านว่าไม่ต้องตำหรอก มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น ฝังไปทั้งอย่างนั้นเลย เอาบารมีครูบาอาจารย์เป็นที่ตั้งให้เขาประสบความสำเร็จก็พอ

    คาถาบูชา
    โอมสิทธิฟ้าฟื้นเจริญศรี หน้ากูงามคือพระแมน แขนกูงามคือพระนาราย ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิกูงามคือพระจันทร์ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้ร้องไห้มาหากู นะมะพะทะกูจะรำลึกถึงต้นไม้ก็ให้งวยงง กูจะรำลึกถึงพญาหงษ์เธอก็มาลืมถ้ำพระคูหา กูจะรำลึกถึงพระยาปลาในน้ำก็มาลืมแม่พระคงคา กูจะรำลึกถึงมหาเสนาเธอก็มาลืมพระแท่นที่นอน กูจะรำลึกถึงไก่อ่อนก็มาลาลูกแล่นตาม กูจะรำลึกถึงสาวใช้ก็มาลืมแม่ กูจะรำลึกถึงสาวแก่ก็มาหลงไหล กูจะรำลึกถึงเจ้าไทเธอก็มาลืมสวดมนต์ กูจะรำลึกถึงฝูงคนก็มารักกูอยู่ทั่วหน้าทั่วชั้นฟ้าและพื้นดิน เหมือนดั่งช้างรักงา ปลารักน้ำ เข้าอยู่ในดงผมก็ลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นคิดถึงตัวกูอยู่ทุกเวลาและราตรี
    ขอบารมีองค์ครุฑ - โอม นะโม วิโลโค วิลู คะรี นะตี อูรู นะมัสเต ฮีเร คารัม มาตู มหิทธิกาสุปัณณาเย นาคะราชะ มะหัพพะเล คะเหตวา ชินะเขตเตวะ ปักขันทิงสุนะเภ พะลา เต พุทธะสรณา สะทาโสตถิง กโรนตุโน สะทา


    * พระขุนแผนพรายเพชรสยมภูนั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ 9 องค์ ก็จะเปิดให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น แจ้งชื่อสกุลและสิ่งที่พึงประสงค์ไว้ด้วย ท่านจะได้ทำการเจิมเบิกเนตรให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้สมทบทุนถวายสร้างวิหารทานในวัดที่จำเป็นต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2019
  5. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ท้าวอนันต์กาลมหายักษา (ฝังพยนต์ขุนศรีตัวพ่อ+ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการครับ

    IMG_20190509_202909.jpg IMG_20190509_202929.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-12#post-10416176

    วิชาการผูกพยนต์นั้น เป็นวิชาที่พระโบราณจารหรือผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์มักจะทำเอาไว้ ซึ่งก็มีปรากฏในหลายๆรูปแบบทั้งมนุษย์ สัตว์ หรือสัตว์ประหลาด พ่ออาจารย์ท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธาตุทั้งสี่ตลอดจนวิชาการทำพยนต์แขนงต่างๆอยู่มาก จะเห็นได้จากที่มีคนมาขอเศษก้านธูปที่ท่านหักหรือแม้แต่ก้อนดินที่ท่านปั้นเป็นหุ่นพยนต์แบบง่ายๆกำหนดจิตเสกเพียงชั่วอึดใจเดียวแล้วมอบให้เพื่อฉลองศรัทธาของเขาเหล่านั้น ก็ปรากฏว่าหุ่นพยนต์เหล่านั้นกลับไปแสดงฤทธิ์มีตัวมีตนให้คนเห็น บางคนมีตาในจิตมีตัวรู้ดีก็กล่าวสรรเสริญจนเกินเลยไปมากกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้บรรดาคนรู้จักหรือญาติของผู้ที่ครอบครองพยนต์ไม้ก้านธูปพยนต์ดินเหล่านี้ต่างขอเมตตาเข้ามามาก เรียกว่าในช่วงเวลาหนึ่งนั้น ท่านทำให้ชนิดว่าเอาจนก้านธูปไม่มีติดกระถางทีเดียว ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าวิชาการทำพยนต์ของพ่ออาจารย์นั้นท่านมีความชำนาญเพียงใด

    ด้วยบารมีบูรพาจารย์และญาณวิถีตลอดจนกฏของโชคชะตาและวิถีดวงดาว พ่ออาจารย์ท่านได้มีความรู้สึกถึงเทพโบราณตั้งแต่ยุคบรรพกาลองค์หนึ่งซึ่งเคยได้รับการบูชาในรูปของมหายักษ์ผู้ทำลายล้างอำนาจมืดทั้งหลาย ท่านว่าย้อนกลับไปก่อนจะมีมนุษย์ จนมนุษย์แตกดับสิ้นยุคสิ้นสมัยและอุบัติขึ้นใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนไปนับกัปกัลป์แลอสงไขย ดวงจิตแต่ครั้งบรรพกาลนี้ก็ยังดำรงอยู่ ท่านจึงเรียกขานว่าท้าวอนันต์กาลมหายักษา ด้วยหมายใจว่ามีห้วงเวลาของชีวิตที่ยืนยาวเป็นอนันต์กาล เพราะยังไม่รู้จุดสิ้นสุดหรือดับสูญ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยักษ์ที่มีอายุพอๆกับมหาพรหมทีเดียว ท่านว่าท้าวอนันต์กาลนี้เป็นหนึ่งในบรมครูฝ่ายยักษ์ของท่าน มีฤทธิ์มากสามารถปราบปรามหมู่เทวดายักษ์มารปิศาจหรือแม้แต่คลื่นพลังอันเลวร้ายต่างๆที่จะเปลี่ยนแปลงจุดสมดุลของธรรมชาติได้ เมื่อท่านตัดสินใจสร้างหุ่นพยนต์อย่างเป็นทางการ ท่านจึงอาศัยยืมรูปยืมนามของครูยักษ์ของท่านเพื่อให้เกิดสิริมงคลสูงสุดแก่ผู้นำไปบูชาส่วนหนึ่ง และเป็นการอาศัยบารมีบรมครูช่วยให้พยนต์นี้มีทิพย์อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่เทพยดาและมนุษย์จะกระทำได้ส่วนหนึ่ง ตลอดจนเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์อันจะดลให้ท่านเข้าคุ้มเกรงคุ้มครองรักษาดูแลผู้บูชาอีกส่วนหนึ่ง

    ดังที่กล่าวเบื้องต้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าการจะสำเร็จพยนต์ให้มีฤทธิ์สูงสุดก็จะต้องทำธาตุทั้งสี่ให้ครบจะขาดจะเกินไม่ได้ ซึ่งท่านก็ได้เพียรหามวลสารสะสมมามากมายตามอุปเท่ห์ที่เป็นรหัส จำต้องใช้ปัญญาคิดและพิจารณาว่าสิ่งต่างๆที่ครูเคยกล่าวให้หาหรือเทพเบื้องบนท่านบอกใบ้ให้เอามาผสมเป็นธาตุตั้งต้นให้ได้แต่ละอย่างนั้นคืออะไร ท่านว่ากว่าจะได้ครบก็หนักหนาสาหัสมากทีเดียว

    เมื่อท่านตั้งใจจะทำแล้วจึงได้ขอบารมีครูเทพครูพรหมครูยักษ์ทั้งหลาย นั่นย่อมหมายรวมไปถึงท้าวอนันต์กาลด้วย ท่านว่าครูท่านมานิมิตให้เห็นเป็นรูปของมหายักษ์ถือกระบองเพชรและจักรแก้วมีหัวยักษ์มากมายวางเรียงรายอยู่บนพื้น พ่ออาจารย์ว่าท้าวอนันต์กาลนี้มีฤทธิ์มากจริงๆ เอาดีๆแล้วจะเรียกว่ามีอานุภาพมากจนบงการเผ่าพันธ์ยักษ์ทั้งหมดได้ก็ไม่ผิด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้บูชาครูและแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาโดยท่านเรียกแม่พิมพ์นี้ว่าพระผงทรงผานไถ ท่านว่านี่เป็นมงคลที่หนึ่ง ผานไถนี้ใช้พลิกกลับหน้าดิน พลิกฟื้นพระแม่ธรณีให้อุดมสมบูรณ์ได้ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ท่านตั้งใจทำพระพิมพ์นี้ก็เพื่อจะให้ชีวิตคนใช้สามารถพลิกกลับพลิกฟื้นสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าเขาเช่นกัน ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์แล้วท่านก็นำมาลงวิชาเสกกำกับแม่พิมพ์ด้วยนะกลบทนารายณ์พลิกแผ่นดินทั้งสามสูตร เพื่อให้องค์พระที่จะกดออกจากแม่พิมพ์นี้มีอานุภาพดุจผานไถอย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของท่านนั่นเอง

    อันว่าหุ่นพยนต์นั้น พ่ออาจารย์ท่านหมายใจจะทำไว้ให้แต่แรกเพื่อเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างที่สุดแก่ผู้บูชา ท่านว่าสมัยนี้คนมักนิยมบูชาเครื่องมงคลต่างๆ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวคนบูชาเองนั้นต้องไปกราบไปอ้อนวอนขอสิ่งต่างๆเดือดร้อนทีก็อ้อนวอนที เป็นฝ่ายที่ดูไปดูมาคล้ายกับเราไปปรนนิบัติเสียมากกว่า ด้วยว่าความต่างกันของมนุษย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวกำหนดให้เราไม่สามารถล่วงเกินหรือไม่เคารพได้ ดังนั้นท่านจึงตั้งใจมากที่จะทำเครื่องมงคลชนิดนี้ เพราะท่านว่าหลายครั้งและหลายคนเป็นฝ่ายรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกันมานาน ควรแล้วที่จะมีและทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะคอยตามรับใช้พวกเขาให้เสมอใจในทุกๆสิ่งที่พึงมีพึงอยากบ้าง ซึ่งวิชาการผูกพยนต์นั้นท่านว่ามันก็ใช้ได้ในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายเกินไปกว่ากุมารทองเท่าใดนัก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงปลุกพระเวทย์ผูกพยนต์เทวภูติขึ้นมา ท่านว่ามันก็สูงสุดแล้วในสายวิชาพยนต์ทั้งเราได้ยืมรูปยืมนามครูยักษ์แต่บรรพกาลที่ถูกลืมเลือนไปมาตั้งไว้ให้เป็นชื่อเรียกขาน ท่านว่าถ้าจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวมันก็มีขั้นตอนอยู่มาก เพื่อให้ได้มาซึ่งมงคลวิเศษที่มีหน้าที่ประดุจทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์มีตบะและฤทธานุภาพสูงส่ง ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่อดทนพอทำไม่ได้จริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงวิชาธาตุสี่ มีธาตุตั้งต้นและหนุนธาตุเข้าไปทีละธาตุสลับกลับไปกลับมาตั้งแต่ดินน้ำลมไฟ เป็นดินหนุนด้วยน้ำเป็นต้น หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันจนครบตามหลักแม่ธาตุเพื่อให้เกิดฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์ตามเคล็ดวิชาจตุธาตุอันเป็นที่สุด ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมากสารพัดจะใช้หากเข้าถึงและทำเป็นทำสำเร็จแล้ว ผงนี้มีคุณมหาศาลเปรียบประมาณมิได้เลย ท่านได้นำผงวิชาจจตุธาตุนี้ มาผสมเข้ากับผงวิชาเทพนิมิตที่ท่านลบถมเพื่อให้ผู้ใช้มีเทวดารักษาตัวและสามารถขอหรืออธิษฐานสิ่งใดก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเมตตาลบถมผงพระยันต์สูตรสำคัญต่างๆผสมลงในเนื้อพระด้วย ไม่ว่าจะรัตนมาลา มหาจักรพรรดิ มหาปราบ มหาระงับพิศดาร พระเจ้าห้ามญาติ นวหรคุณ พระเจ้าเข้านิโรธ พระเจ้าห้ามทุกข์ พระไตรปิฏก ปาฏิโมกข์ วิปัสสิ กรณี พุทธจักร นวโลกุตรธรรม พระไตรรัตน์ พุทธคุณเจ็ดดวง โสฬสมงคล ตรีนิสิงเห จตุโรถอด ไตรสรณคมสามดวง ฝนแสนห่า พระเจ้าสิบหกพระองค์ นะโมตาบอด ฤาษีตาไฟ มงกุฏพระเจ้า ชาตรี จตุราริยสัจจ์สองดวง นกคุ้มตัวผู้ตัวเมีย อิติปิโสแปดทิศ ยันต์ธงพระฉิมสองสูตร นอกจากนั้นท่านได้นำผงคตสำคัญที่ท่านฝนรวบรวมไว้มาเข้ากับผงวิเศษเหล่านี้ พร้อมทั้งว่านยาอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้บอกว่าว่านอะไรรู้แต่ว่าหลายชนิดแน่นอนที่สำคัญท่านว่าจะทำพยนต์เทวภูติต้องใช้แต่ว่านที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวรู้จักหลบหนีมีชีวิต ว่านธรรมดาใช้ไม่ได้ ท่านได้นำผงวิเศษต่างๆเหล่านี้มานวดรวมกันกับน้ำมันว่านวิเศษของท่านเมื่อนวดได้ที่แล้วด้วยมวลสารธรรมชาติทั้งหลายทำให้เนื้อขององค์พระมีวรรณะอมแดงอมม่วงดั่งที่ปรากฏนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์องค์พระชนิดที่กดไปก็ลงเหล็กจารกำกับไปทีละองค์ ซึ่งพยนต์เทวภูติท้าวอนันต์กาลมหายักษานี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของวิเศษต่างๆไว้ดังนี้
    - พยนต์ขุนศรีตัวพ่อ พ่ออาจารย์ท่านใช้วิชาผูกพยนต์พ่อขุนศรีขึ้น โดยอาศัยเม็ดปะคำหลวงปู่ขาว ว้ดถ้ำกลองเพลบูรพาจารย์ของท่านมาทำเป็นส่วนหัวของหุ่นพยนต์ท่านว่าอาศัยกำลังพระกรรมฐานของบูรพาจารย์นั้นเป็นที่สุดที่จะได้ฉุดดึงเปลี่ยนชะตาชีวิตของผู้บูชาจากร้ายกลายเป็นดีแม้อยู่ในที่มืดย่อมพบเจอแสงสว่างเป็นที่สุด นอกจากนั้นท่านยังได้ลงอักขระทำตะกรุดผูกเป็นตัวพยนต์ขึ้นมา ท่านได้ตั้งธาตุหนุนธาตุประสิทธิ์พระเวทย์วิชาอาคมปลุกจนพยนต์ตัวเล็กนี้ดิ้นได้และสะดุ้งตกพาน ตลอดจนได้สอนสั่งใส่วิชาความรู้อบรมสิ่งต่างๆไว้อย่างดี ท่านว่าส่วนช่วงลำตัวนั้นท่านได้ประยุกต์โดยใช้วิชาลงตะกรุดแฝดม้วนเข้าหากันด้วยหัวใจมนุษย์ชายหญิง ท่านว่าพยนต์พ่อขุนศรีของท่านนี้เป็นหุ่นมหาเสน่ห์ที่มีฤทธิ์มากพอๆกับหุ่นเรียกคู่ทีเดียว เรียกว่าใช้ได้หลายทางเป็นทั้งพยนต์ผู้รับใช้ ซึ่งนอกจากจะอธิษฐานบอกกล่าวใช้งานเค้าได้ดุจทาสผู้ซื่อสัตย์แล้ว แม้พกไว้กับตัวก็ยังเป็นเสน่ห์เมตตาดึงดูดหัวใจมนุษย์ทั้งชายหญิงให้อ่อนใจรักม้วนพับเข้ามาหาเรา นอกจากนี้ยังเป็นหุ่นรับกรรมรับเคราะห์แทนเรา ท่านปลุกเสกไว้อย่างดีที่สุด ท่านว่าหากมีเคราะห์กรรมหนักก็จะเบา แม้เคราะห์กรรมเบาย่อมเข้าไม่ถึงตัว เพราะเคราะห์กรรมเหล่านั้นพยนต์จะดึงดูดเข้ามารับเคราะห์แทนตัวเราก่อน ท่านว่าเหมือนตัวตายตัวแทนนั่นแหละท่านทำไว้ให้ครบแล้ว พ่ออาจารย์ว่าพยนต์พ่อขุนศรีนี้มีฤทธิ์ดุจเทวดาเลยทีเดียว ท่านทำฝังไว้ให้ในท้าวอนันต์กาลมหายักษา ท่านว่าจะได้เป็นบริวารให้หุ่นท้าวอนันต์กาลอีกทอดหนึ่ง เพราะชีวิตคนเรานั้นร้อยพ่อพันแม่ ในแต่ละวันย่อมเจอร่างราวต่างๆมากมาย บางคนคราทุกข์คราเคราะห์มาเยือนก็ใช่ว่าจะทยอยมาทีละเรื่อง กลับประดังเข้ามาดั่งกับฝันแสนห่า พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเดียวย่อมช่วยได้ช้า ถ้าหลายมือหลายคนเขาย่อมช่วยได้ไว
    - ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆมี ท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆ จึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมา เมื่อจะทำพยนต์เทวภูติอนันต์กาลมหายักษา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่อง ไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลาย ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้งก่อนจะนำมาบรรจุใส่ขวด ท่านว่าผงในขวดนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกชิ้น เขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆ อธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มาก แต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน
    - ตะกรุดวิชาอาถรรพ์พันธะมหาสัญญาเนื้อตะกั่วขอมโบราณ พ่ออาจารย์ว่าวิชานี้แรงนัก ท่านลงในแผ่นตะกั่วขอมโบราณที่ท่านได้มาจากใต้ปราสาทสมัยอาณาจักกรขอมได้ผ่านพิธีเทพพิธีพราหมณ์มามากกมีพลังงานมากกว่าตะกั่วธรรมดาทั่วไป ซ้ำท่านยังได้นำมาลงถมซ้ำก่อนรีดเป็นแผ่นตะกรุดอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านผูกวิชานี้ไว้ในพยนต์ท้าวอนันต์กาลเพื่อให้พยนต์ท้าวอนันต์กาลมีอาถรรพ์ตรึงรูปนาม มีชีวิตและมีฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์สุดแล้วแต่จะใช้จะอธิษฐาน พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้พกติดตัวก็ได้ เฝ้าบ้านก็ได้ ท่านว่าแม้แต่สงครามเทวดาก็ยังเอาพยนต์นี้ไปสู้รบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดวิชาอาถรรพ์ท่านผูกให้เป็นหัวใจสำคัญของพยนต์เทวภูติ ท่านว่าวิชานี้เป็นเลิศยิ่งนักใช้งานได้สารพัดแม้จะไปกระทำอะไรกับใครเขา ท่านว่าตรงนี้ต้องระวัง อย่าไปคิดร้ายหรือสั่งให้พยนต์ไปทำร้ายใครเชียว มันจะเป็นกรรมหนักเปล่าๆ เพียงเอาไว้แค่คุ้มครองรักษาตัวเองก็พอ วิชาพันธะมหาสัญญานี้เป็นที่สุดของวิชาผูกหุ่นพยนต์แต่โบราณ เป็นวิชาที่หุ่นนั้นจะอุทิศทั้งร่างกายและชีวิตเพื่อรับคำซื่อสัตย์และทำตามความประสงค์ของเจ้านาย พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช่เถิด แม้จะสะกดคน สะกดขึ้นเรือนหรือเข้าหาหญิงสาวย่อมทำได้ทุกสิ่ง ท่านว่าพูดอย่างใดเป็นอย่างนั้นทีเดียว
    - ตะกรุดพ่อคาถาแม่คาถา พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ตั้งแต่ปฐมอักขระ พ่อคาถาแม่คาถา โองการพระเจ้ากำเนิดจักรวาลตัวต้น และพระเวทย์เฉพาะทางหัวใจต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งนี้เพื่อให้พยนต์เทวภูตินั้นสามารถใช้คาถาอาคมได้ เป็นครูอาคมที่มีเวทย์และวิทยาการต่างๆ สามารถใช้คาถาอาคมครอบคลุมได้ทุกบท ทุกตอน ทุกด้าน ท่านว่าเพื่อให้พยนต์เก่งเหนือกว่าพยนต์ทั่วไปนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าผูกพยนต์แล้วดีกว่ากุมารทองนิดเดียวอย่าทำ ถ้าทำแล้วต้องให้ดีให้แรงอย่างถึงที่สุดเหมือนพยนต์อาถรรพ์เฝ้าสมบัติของอยุธยานั่นทีเดียว
    - ตะกรุดถอนคุณแก้ดวงกันดวง ท่านลงเสริมไว้ให้ท่านว่าเพื่อให้พยนต์นี้มีอำนาจเหนือภูติผีตลอดจนกุมารทองและสิ่งที่ผูกขึ้นมาทั่วๆไป ให้เค้าสามารถแก้มนต์ได้ถอนคุณถอนของได้ ซ้ำยังยังแก้ดวงกันดวงให้กับผู้บูชาหรือเจ้านายของเขาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตามแต่จะใช้เถิด ที่ต้องพูดเช่นนี้เพราะว่าดีจนไม่ต้องพรรณณาอะไร ท่านวางไว้ให้หมดแล้ว พยนต์นี้ไม่เพียงจะรับใช้เราแม้เราอาราธนาพกพาไปเค้าคอยกันดวงแก้ดวงของเราให้กับเราด้วยเรียกว่าค้ำชะตาพลิกฟ้าดิน ท่านว่าท่านไม่ได้ผูกไว้ให้เป็นพยนต์ทั่วๆไป เมื่อเป็นเครื่องมงคลแล้วต้องมีดีครบทุกด้านอย่างแท้จริง
    - ตะกรุดหัวใจตรีเทพ พ่ออาจารย์ท่านลงใส่แผ่นทองแดงแผ่นเล็กๆไว้ฝังไว้ด้านหน้าบริเวณโคนกระบองของท้าวอนันต์กาล ท่านว่าเพื่อให้กระบองนี้มีอานุภาพดุจเทพศาสตราวุธของพระเป็นเจ้าทั้งสาม ผนวกกับมงคลนามคำว่าตรีเทพกับตีเทพ ท่านว่าเป็นคำพ้องเสียงกัน ท่านตั้งใจให้กระบองนี้เป็นกระบองตีเทพนั่นเอง จะได้ใช้ลงโทษเทวดามิจฉาทิฏฐิใจพาลเกเรต่างๆ มีอานุภาพมากเกินเทพศาสตราวุธใดๆด้วยใส่อาถรรพ์ของตรีเทพไว้ภายในนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราบางทีก็พลาดไปเหยียบเท้าสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่เราไม่รู้ตัวเข้าได้เหมือนกัน ทั้งมนุษย์หรืออมนุษย์ก็ตาม ดังนั้นท่านจึงได้ติดอาวุธไว้ให้กับพยนต์ท้าวอนันต์กาล ท่านว่าเผื่อกรณีฉุกเฉินจริงๆจะได้ใช้ ท่านว่าท่านทำตามวิชากระบองบรมครูของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์เลยนะ
    - เพชรน้ำค้าง เป็นเพชรเสกของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเพชรน้ำค้าง ท่านนำมาฝังไว้กลางอกของพยนต์เทวภูติ ท่านว่าเห็นมั๊ย พยนต์เรามีสมบัติจักรพรรดิ มีดวงแก้วมหาจักรพรรดิไว้ในครอบครองทุกตน อันเพชรน้ำค้างนี้ท่านว่าเปรียบได้กับรัตนะหรือหนึ่งในของวิเศษของมหาจักรพรรดิทั้งเจ็ด พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆก็มีไว้ให้เป็นสิริมงคลกับผู้บูชานั่นเอง แต่ในสิ่งที่มองไม่เห็นนั้น เพชรน้ำค้างนี้จะเป็นตัวรับคำอธิษฐานและส่งผ่านทั้งขับพลังงานต่างๆจากพยนต์เทวภูติออกมาสู่ผู้บูชาได้เร็วยิ่งขึ้น


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างและเสกพยนต์ไว้ทั้งหมดเก้าตน แต่มีออกให้บูชาไปบ้างแล้ว(*วิธีบูชา ท่านว่าให้ไหว้ด้วยเหล้าขาวรินใส่แก้วหรือจอกเล็กๆพอประมาณให้เขา ตรงนี้ถ้าบูชาติดตัวกลับมาบ้านก็ถอดออกแล้วถวายเหล้าให้เขาก็ได้ ท่านว่ายิ่งไหว้ยิ่งแรงอันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ในการบอกกล่าวอธิษฐานไหว้เหล้าขาวนี้จะทำให้เราเห็นตัวเห็นตนเขาชัดเจนขึ้น บางทีก็จะรู้สึกขนลุกหรือรู้สึกว่าเขาอยู่ข้างๆเราถ้าคนไหนตาดีก็จะรู้จะเห็นแบบชัดเจนไปเลย นอกจากนี้ท่านว่าถ้าในวันไหนจะใช้ทางเจรจามหาเสน่ห์หรือเมตตาทั้งหลาย ท่านให้หาขันน้ำมา นำพ่อพยนต์นั้นท่านแนะนำให้เอาไปเลี่ยมเสียก่อนเมื่อจะใช้ ให้นำพ่อพยนต์มาวางแช่ในขันน้ำ แต่ให้วางแนวตั้งอย่างวางแนวนอน วางพิงกับขันน้ำไว้ ใส่น้ำโรยดอกมะลิ ท่านว่าทำถวายไปเถิด น้ำนั้นเอามาผสมน้ำอาบไล่เสนียดร่างกายดีนัก แม้นำมาแตะหรือพรมหัวพรมใบหน้าก็ช่วยให้มีสง่าราศี แม้จะอธิษฐานดื่มกินก็ช่วยปรับสมดุลย์ธาตุขันธ์ในร่างกายได้ รวมไปถึงหากนำน้ำนั้นมาวนรอบริฝีปากท่านว่าดีกว่าไปลงสาลิกาที่ฟันเสียร้อยครั้งทีเดียว)

    คาถาบูชา
    พุทธังจุติ ธัมมังจุติ สังฆังจุติ ท้าวอนันต์กาลมหายักษาจงมาปฏิสนธิ อัตถะโลโปจะจงมาบังเกิดเป็นพยนต์มหาเทวภูติ ยักษะกาโรโหติสัมภะโว จงบังเกิดรูปด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ


    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าพยนต์เทวภูตินี้เลือกเจ้าของและมีเจ้าของแล้วทุกคน ท่านว่าผู้ที่มีวาสนาต้องกันจะได้ใช้งานนั้นเขาจะมีตัวรู้ผุดขึ้นในใจของเขาเอง ว่าสิ่งนี้แบบนี้แหละที่เขาหาที่เขาต้องการ ท่านว่าท่านทำไว้ไม่มากเนื่องจากผงลบและมวลสารอะไรหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย เพราะเมื่อทำแล้วก็อย่าจะใช้ชนวนมวลสารล้วนๆไม่ต้องผสมอะไรเจือจางให้มากมาย ดังนั้นท่านว่าให้บอกเค้าว่าตัวนี้ใครไวใครได้ เพราะหมดไปแล้วย่อมไม่มีอีก ท่านว่าทำพยนต์เทวภูติแบบนี้เหนื่อยกว่าทำเครื่องมงคลแบบอื่นๆหรือพยนต์ทั่วไปมากนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2019
  6. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    ปิด 3 รายการ

    พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ท้าวอนันต์กาลมหายักษา
    มงคลคณะเทพพระสยามเทวาธิราชทรงเมืองปกาศิต(รุ่นฟ้าผ่า)
    เหรียญ"พ่อ"ตราล้างบาปเปลี่ยนวัฏฏปกาศิตพระหระสดาจารประทับวาสุกรีนาคราช
     
  7. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  8. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รายการเพิ่มเติม คืนนี้ดึกๆจะมาลงรายละเอียดอีกทีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร)

    ให้บูชา 3100 บาท

    ปิดรายการครับ

    IMG_20190511_143509.jpg IMG_20190511_143529.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-14#post-10596584

    " วิชาชุดนี้แรงเกินไป เปรียบกับระเบิดก็เหมือนระเบิดปรมาณู จะไม่ทำอีกแล้ว ......ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าท่านจะค้นเจอที่สร้างไว้สมัยรุ่นๆแถมเสกจนลืม ซ้ำยังเลี่ยมไว้อย่างดีพร้อมจะขึ้นคอกันทุกองค์ "

    พ่ออาจารย์ท่านเคยมีดำริและพูดถึงพญามหิงส์นี้ไว้อยู่เนืองๆ เหมือนสิ่งนี้ขาดหายไปจากความทรงจำของท่านว่ามันยังมียังดำรงค์อยู่ ท่านมักจะพูดถึงความยากของการรวบรวมมวลสาร พิธีกรรม ตลอดจนอานุภาพของเครื่องมงคลชุดนี้

    แก้วมหิงส์หรือพญาควายก็เรียก พ่ออาจารย์ท่านทำควายพยนต์นี้ขึ้นมาโดยใช้ยอดผง ยอดธาตุ ยอดทนสิทธิ์ มาผสมรวมกันก่อนจะปั้นเป็นพญาควาย ท่านว่าสามยอดนี้หมายถึงมีกำลังที่เป็นยอดในสามโลก ท่านว่าผงแต่ละอย่างล้วนแต่เป็นผงที่มีฤทธิ์ มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์โดยธรรมชาติ เป็นของเหนือโลกทั้งสิ้น ท่านว่าตอนนี้ถ้ามาถามฉันว่าผสมอะไรลงไปบ้างฉันก็คงตอบไม่ได้แล้วเพราะมันนานเต็มที แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นสมัยก่อนเธอมาถามฉันว่าผสมอะไร เธอต้องเอาสมุดมาหนึ่งเล่มนอนจดกับฉันเสียสามวันฉันจะทยอยเล่าทยอยบอกให้ฟัง เชื่อเถอะว่าสามวันนี้ก็ยังบอกไม่หมด เพราะกว่าจะหาได้ครบต้องเข้าป่าเดินนับสิบๆปี

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนั้นมันร้อนวิชานะแล้วก็ลองทำ ยังไม่เคยทำอะไรเลยก็จะนำผงมานวดๆแล้วปั้นเอาไว้ ดังนั้นควายแต่ละตัวจึงไม่เหมือนกันนักหรอก สุดแต่จะนึกออกและปั้นออกมา หน้าตามันก็จะตลกๆหน่อยแต่มันก็ดูออกแหละว่าเป็นควาย ถ้าถามว่าแรงมั๊ยเรื่องความแรงนี่ก็คนละเรื่อง ท่านนำควายของท่านที่เรียกว่าแก้วมหิงส์นี้มาเสกเก็บไว้ใส่ธาตุตั้งวิญญาณผูกรูปนาม เชิญเทวดามาสถิตย์ในเขาทั้งสอง ขาทั้งสี่ ตาทั้งสอง รวมถึงอวัยวะมากมายตับไตไส้พุง ทำพิธีต่างๆทั้งชุบมหาอัคคี ปราบป่าช้าทั้งเจ็ด เสกเก็บเรื่อยมา ท่านว่าควายนี้ถึงจะเล็กแต่มวลสารก็มีอานุภาพมาก เรียกว่าเล็กแต่มีคุณมหาศาล

    แต่เดิมนั้นท่านตั้งใจแต่แรกว่าจะทำควายมงคลที่ใครบูชาจะดึงดูดโชคลาภวาสนาบารมีมาสู่ตัวตามตำรา ด้วยคงเป็นสมัยก่อนที่ท่านยังร้อนวิชาอยู่มาก ท่านกล่าวว่าควายนี้จะดีเพียงเท่านั้นก็ไม่สม ต้องดียิ่งขึ้นไปอีกคือมีชีวิตจิตวิญญาณธาตุขันธ์บริบูรณ์ ซ้ำต้องมีกำลังฤทธิ์มาก เรียกว่าคุ้มตัวได้ ท่านว่าวิชาควายธนูนี้ที่จริงมันมีมายาวนานนับพันปีทีเดียว ท่านว่าตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำของให้มันแรงๆ โดยใช้ตำรับทำควายทรงของพระขันธกุมารที่มีอาถรรพ์สูงสุดในวิชาควายทั้งปวงทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าควายของฉันนั้นเป็นธนูชน ไม่ใช่ควายสามัญแต่เป็นควายทรงของพระขันทกุมารหรือพระอังคาร เป็นควายพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามผู้ไร้พ่าย ควายเช่นนี้ดี ขลัง แรง ดุดัน แพ้ใครไม่ได้ไร้พ่ายในที่ทุกสถาน ที่สำคัญคือซื่อสัตย์ต่อนายเป็นที่สุดนอกจากนั้นยังช่วยขจัดคุณไสยฝ่ายต่ำ พลังงานลบทั้งหลายซ้ำยังเป็นควายมงคลที่หาทรัพย์เก่งดึงดูวาสนาบารมีมาสู่ผู้ครอบครองท่านจึงเรียกว่าแก้วมหิงส์

    การทำแก้วมหิงสานั้นเมื่อปั้นทำเสร็จ เสกเสร็จ ต้องสำเร็จในเปลวอัคคี ชุบด้วยไฟ นั่นแหละกล่าวง่ายๆคือไฟเผาไม่ไหม้ แม้แต่ไฟยังทำอะไรไม่ได้ รอดออกมาจากกองไฟได้ ท่านถึงจะนำมาลงยางรักเสียวาระหนึ่งไม่ใช่เท่านั้นยังต้องมีพิธีกรรมอื่นๆอีกกว่าจะสำเร็จเช่นการเสกในป่าช้า ท่านว่าไม่ได้เอาคุณผีมาช่วยนะพิธีของเรา แต่เราทำคือสะกดข่ม ตามตำราว่าเสกขึ้นต้องเงียบทั้งป่า ต้องเก่งถึงขนาดสะกดป่าช้าได้ทั้งป่า และทำไปเรื่อยๆจนครบเจ็ดป่าช้าด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ใช่สมัยก่อนคงไม่เสียเวลาทำเพราะป่าช้าสมัยนั้นเฮี้ยนอย่างยิ่ง ถึงขนาดปราบป่าช้าได้ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องคุ้มชีวิตคนแล้วมีหรือจะทำไม่ได้ ควายธนูชนนี้ทำยากมากจนพ่ออาจารย์ท่านออกปากว่าจะไม่ทำอีกแล้วเพราะว่าที่ยากนั้นไม่เพียงเนื้อหามวลสาร อานุภาพ แต่พิธีกรรมก็ไม่ใช่ของง่าย

    พ่ออาจารย์ท่านเสกจนควายขยับได้ ท่านว่าลืมตามาทีแต่ละตัวไม่มีอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะเรียกอย่างไรว่ามันเดินรึมันคลานดี ท่านว่ามันมีชีวิตกันเช่นนั้นเสกแต่ละทีต้องเดินหาเดินเก็บ โดยท่านนำควายทั้งหมดใส่ขันครูปลุกเสกไว้หลายปีจนลืม พอนึกได้ก็นำควายมาทำวิชารวมกับตะกรุดธนูพรหมาสตร์ที่พ่ออาจารย์ลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถาน

    พรหมาสตร์ แปลว่า ศรแห่งพระพรหม เป็นศรที่พระพรหมสร้างขึ้น ศรพรหมาสตร์เป็นศัตราวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ตามคัมภีร์ปุราณะว่า มีแต่ไม้เท้าพรหมทัณฑ์ของฤๅษีวสิษฐ์เท่านั้นที่จะต้านอำนาจของศรพรหมาสตร์ได้ ส่วนรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 กล่าวว่า ศรพรหมาสตร์สามารถล้างศรพรหมาสตร์ด้วยกันเองได้ ศรพรหมาสตร์นั้นเมื่อแผลงออก ก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น [ผู้ใช้ศรสามารถบังคับให้แล่นไปสังหารศัตรูได้ดังใจแม้จะไม่เห็นกายศัตรูก็ตาม และยังอาจบันดาลเป็นลูกศรหรือศัตราวุธนานาชนิดกลาดเกลื่อนเต็มท้องฟ้าและพุ่งอย่างรวดเร็วไปพิฆาตหมู่ศัตรู ในรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่๑ กล่าวถึง ศรพรหมาสตร์ที่อินทรชิตแผลงไป ดังนี้

    "จึ่งจับพรหมาสตร์ขึ้นพาดสาย หมายองค์พระลักษณ์รังสรรค์

    หน่วงน้าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป

    บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด ทำอำนาจพ่างพื้นแผ่นดินไหว"

    ในรามเกียรติ์อสูรสำคัญ เช่น กุมภกรรณ อินทรชิต และทศกัณฐ์ ต้องสิ้นชีวิตลงเพราะศรพรหมาสตร์ของพระราม

    ตะกรุดธนูพรหมาสตร์นี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นโดยขอความอนุเคราะห์จากองค์มหาพรหมธาดา โดยท่านได้นำแผ่นเงินมาขึ้นรูปศรพรหมาสตร์ลงอักขระพระเวทย์สำคัญกำกับ ท่านว่าศรพรหมมาสตร์นั้นเป็นศรสำคัญ หลายคนคิดเพียงแต่ว่าเป็นโคตรอาวุธทำลายล้าง ซึ่งก็ไม่ผิดแต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นศรสารพัดนึก ด้วยมีอำนาจการสร้างสรรค์ของพระบรมบิดาพรหมเทพจะแผลงออกไปเป็นอะไรก็ได้ตามใจผู้แผลง แผลงเมื่อไหร่ต้องได้เรื่อง ทุกกิจต้องจบสิ้นอย่างรวดเร็ว

    โดยพ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดธนูพรหมาสตร์นี้โดยกำกับนะไตรภพไว้ที่ลูกศร ท่านว่าศรนี้จะสอยสิ่งใดก็ได้ทั้งสิ้นตระเวณไปได้ในโลกทั้งสามตามแต่ใจผู้ใช้จะปรารถนา จะใช้สอยหรือใช้ทำลาย สิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมกำกับจิตใจผู้ใช้ ใช้สอยโชคลาภ ใช้สอยนางฟ้า ใช้อะไรก็สุดแต่จะใช้แต่อย่านำไปทำลายชีวิตใครก็พอ เพราะลำพังเทพศาสตราเล่มนี้พกไว้เฉยๆก็ได้ชื่อว่ามีอานุภาพเหลือประมาณแล้ว โดยพ่ออาจารย์ท่านลงไว้อย่างพิศดารถึงสามสถานได้แก่ กำจัด ดับ ทำลาย อันเป็นคุณลักษณะของพรหมาสตร์ให้ศรนี้มีฤทธานุภาพสูงสุด ท่านว่าคุณลักษณะทั้งสามนี้ไม่จำเป็นท่านก็ไม่อยากพูดถึงเพราะแรงได้เรื่อง
    - กำจัด หมายถึง การขับไล่, การปราบ, การทำให้สิ้นซากไป
    - ดับ หมายถึง การทำให้หมดสิ้นและสูญสิ้นไป ไม่สามารถดำรงค์สถานะไว้ได้อีก
    - ทำลาย หมายถึง การทำให้แตกหัก เสียหาย พังทลายลง
    แต่หากถามว่ารู้ว่าแรงทำไมถึงทำ ท่านว่าที่ทำก็เพราะจะทำมหาธนูพรหมาสตร์ยอดธนูเอกของไตรภพ ยอดอาวุธของท้าวมหาพรหมไม่ใช่ธนูนกกระจิบ จะให้ทำเล่นๆไม่สมเกียรติยศก็ไม่ได้ ด้วยอานุภาพสามสถานะ คือ กำจัด ดับ ทำลาย ของศรเอกพรหมาสตร์นี้ จึงได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธที่เหนือกว่าเทพศาสตราใดๆในไตรภพ มีอานุภาพเสมอด้วยตรีศูลปินากะของพระศิวะ จักรสุทรรศน์ของพระนารายณ์เลยทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำควายธนูชนนี้ มาพันไว้กับตะกรุดธนูพรหมาสตร์ด้วยสายสิญจน์ที่ท่านใช้ล้อมขันครูของท่าน ท่านว่าแรงเห็นเป็นเชือกขาวๆแบบนี้แต่ก็แรงเปี่ยมด้วยฤทธิ์แรงครูยิ่งนัก ท่านว่าควายติดศรพรหมาสตร์นี้ นอกจากอานุภาพเป็นเลิศปราบได้ทั้งมนุษย์ ยักษ์ คนธรรพ์ เพชรพญาธร เทวดา นาค ครุฑ มาร ภูติผี อสุรกาย ปีศาจ รากษส สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในสวรรค์ มนุษย์ บาดาลตามฤทธิ์ของควายธนูชนราชพาหนะของเทพกษัตริย์สงครามและฤทธิ์ของศรพรหมาสตร์แล้ว ทั้งนี้ท่านยังทำเอาความหมายว่า ควายนี้เมื่อใช้งานต่อไปในสิ่งใดๆก็ดี ย่อมต้องสำเร็จทันใจนึก ด้วยอานุภาพของศรพรหมมาสตร์ที่พ้นสาย ท่านว่าอุปมาไว้ลูกศรที่แผลงไปไม่ย้อนคืนสายฉันใด ควายนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างที่ใช้และปรารถนา ทุกเรื่องย่อมสำเร็จโดยพลันไม่กลับสู่จุดเดิมเช่นนั้น ศรพรหมาสตร์แผลงได้เรื่องทุกคราวฉันใด ควายที่ขี่ไว้บนศรพรหมาสตร์ใช้งานอะไรก็วิ่งได้ทันใจฉันนั้น

    เมื่อท่านผูกควายกับตะกรุดธนูพรหมมาสตร์เสร็จท่านก็สั่งให้นำไปเลี่ยมมาเก็บไว้แยกออกจากสิ่งต่างๆ จนท่านลืมไปในที่สุดว่ามีควายแก้วนี่อยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ยินแต่เสียงขลุกขลักๆอยู่ในถุง พอค้นดูจึงรู้ว่าควายธนูเหล่านี้มันขยับเริงร่าฮึกเหิมกันจึงนึกได้ขึ้นมา

    พ่ออาจารย์ท่านนำควายธนูชนนี้ออกมานับดูเห็นว่าเหลืออยู่ทั้งหมด 7 ตน ท่านว่าควายรุ่นนี้ดี เล็กแต่รสโต ควายสูตรนี้ทำยากหมดแล้วก็จบไปเพราะทำไม่ได้อีก จะห้อยคอห้อยเอวก็ได้ทั้งสิ้น ใช้ปราบ กัน แก้ หาลาภ นำความรุ่งเรืองได้ดี ท่านว่าก่อนจะนำออกให้บูชานี้ท่านแผ่เมตตาขออนุญาติเทวดาตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของผู้ที่จะได้ครองครองควายแก้วแต่ละคนไว้ เนื่องจากควายมีเจ้าของทุกองค์ขอให้ได้ใช้กันในหมู่ผู้มีสติ เป็นสิ่งนำมาถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ไม่เบียดเบียนชีวิตใครเช่นที่มีคนเคยทำ ท่านว่าขอให้เค้าไปอยู่กับคนดี ถ้าคนไม่ดีแล้วขออย่าให้ได้เห็นแม่แต่เงาของพญาควายนี้

    คาถาบูชา (แบบสั้นใช้ภาวนาได้ตลอด โอมนะยอ มหานะยอ)
    โอม ปู่เจ้าสมิงพราย ปู่เจ้ากำแหงให้กูมาทำควายธนู กูจักเชิญพระอิศวรมาเป็นตาซ้าย กูจักเชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา กูจักเชิญพระนารายณ์มาเป็นเขา กูจักเชิญพระอินทร์เจ้าเข้ามาเป็นหาง กูจักเชิญพระพุทธคีเนตร์พระพุทธคีนายมาเป็นสีข้างทั้งสอง กูจักเชิญพระจตุโลกบาลทั้งสี่มาเป็นตีนสี่เท้า กูจักเชิญผีทั้งหลายมาเป็นตับไตไส้พุง โอมพญาควายกูนี้ตัวใหญ่หลวงนัก เขาเป็นทองสิงคี เป็นใหญ่กว่าควายธนูทั้งหลาย กูจะเอาชนะผีตายโหง ตายห่า ตายท้องกลม ตายไม่ดี ตลอดจนผีป่า เสือ หมี ผีกะ ปอบ เปรต แลยักษียักษาทั้งหลาย จะให้มึงตายก็ตาย พ่อควายกูเอ๋ย จงตื่น จงลุก จงวิ่งสวาหะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ สวาหะ สวาหะ นะมะสะตีตินัง โยโสภะคะวายัง มะอะอุ (อธิษฐานได้ทุกสิ่ง)

    * มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสานี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมดเจ็ดตน สำหรับท่านที่จะบูชาให้แจ้งไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น พร้อมกับบอกชื่อนามสกุลไว้ด้วย เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวเป่าคาถากำกับให้เป็นการเฉพาะคนต่อไป รายได้จากการบูชาท่านจะนำไปร่วมทำบุญปูพื้นพระอุโบสถให้วัดในถิ่นทุรกันดารสืบไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2019
  10. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระเพชรกายสิทธิ์จำแลง(มหาปัดบาปเคราะห์)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการทาง PM ครับ

    IMG_20190509_203100.jpg IMG_20190509_203116.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-10#post-10219418


    แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านเคยบอกกล่าวไว้ ว่าเทพยดาจำพวกเพชรพญาธรนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งมารที่มีจิตมารรุนแรง ท่านจึงไม่ได้ทำสายนี้จริงจังซักเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าท่านจะไม่ได้สร้างไว้เลยเพราะวิชาเพชรพญาธรแท้ๆแบบไม่ใช่ของเล่นนั้น ท่านว่าให้คุณมากและเป็นสรรพวิทยาการที่ตกทอดมาแต่โบราณ ดังนั้นท่านว่าถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด และพระเพชรของท่านนั้นต้องชุบให้ไม่มีจิตมารจึงจะใช้ได้

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ตั้งใจสร้างเพชรพญาธรหรือที่ท่านเรียกว่าพระเพชรขึ้น ซึ่งท่านตั้งใจไว้แล้วว่าจะสร้างในรูปแบบของเครื่องราง ซึ่งพระเพชรนั้นจะมีคุณมากท่านว่ามากชนิดที่ว่าไม่มีปรากฏในเครื่องรางอื่นใดมาก่อน เพราะท่านจะทำและเสกรูปแบบวิชาเฉพาะของครูเทพท่านเสริมส่งลงไปด้วย


    ท่านว่าเพชรพญาธรนั้นมีสี่จำพวก ซึ่งแต่ละจำพวกก็จะมีวรรณะและฤทธิ์แตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับต่ำที่มีร่างกายสีทองแดง สูงขึ้นมาหน่อยก็เป็นสีเงิน และสีทอง ตลอดจนกายศักดิ์สิทธิ์หรือเนื้อสีผิวกายสิทธิ์ ซึ่งยิ่งมีระดับสูงกว่าก็ยิ่งมีฤทธิ์มากกว่าและสามารถเสพย์หรือกินชั้นที่ต่ำกว่าตนเองหนึ่งขั้นได้ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจแต่เริ่มว่าท่านจะสร้างพระเพชรกายศักดิ์สิทธิ์พรือพระเพชรกายสิทธิ์ขึ้นโดยใช้ธาตุกายสิทธิ์ของท่าน ให้เป็นพระเพชรขั้นสูงสุด


    เมื่อดำริเช่นนั้นท่านจึงขออนุญาติครูเทพครูพรหมทั้งหลาย เพื่อที่จะสร้างเครื่องรางสุดวิเศษชิ้นนี้ให้ดีที่สุด เพราะท่านรู้ว่าเครื่องรางชิ้นนี้สามารถช่วยคนได้มหาศาล ซ้ำวิธีการใช้ก็ไม่จำเป็นต้องพกในที่สูงหรือห้อยคอตลอดแต่อย่างใด ซึ่งครูพรหมและครูเทพทั้งหลายก็ได้นิมิตให้ท่านเห็นรูปแบบที่ควรจะทำและยังได้แนะเคล็ดในการเสกตลอดจนบอกถึงการลงตะกรุดคุณวิชามหาปัดบาปเคราะห์ให้ด้วยเพื่อใช้สงเคราะห์คนอันจะเป็นประโยชน์ใหญ่


    ตะกรุดมหาปัดบาปเคราะห์นั้นเป็นวิชาชั้นสูงซึ่งพ่ออาจารย์บอกว่าเป็นส่วนของวิชาเทพนิมิตร นั่นคือเทวดาสงเคราะห์ให้รู้ให้เรียนเพื่อที่จะช่วยเหลือสัตว์ที่ตกอยู่ในกองทุกข์ วิชาเหล่านี้ไม่เจริญกรรมฐานไม่ได้กสิณย่อมเรียนไม่ได้ ท่านว่าปกติตั้งแต่เกิดจนตายนั้นสรรพชีวิตทั้งหลายย่อมตกอยู่ในกฏแห่งกรรมที่ตนเองได้สร้างขึ้น และในวาระของชีวิตสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น เทวดาซึ่งเป็นฝ่ายบาปเคราะห์ก็ยังมีวาระให้เวียนมาเสวยอายุอีก เรียกได้ว่าจะหนีเคราะห์กรรมนั้นเป็นเรื่องที่ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้จึงเป็นสิ่งที่พิเศษอยู่ในตัวเองที่ท่านสร้างขึ้นตามมติของครูบาอาจารย์ ท่านว่าตะกรุดแต่ละดอกทำยากถึงยากมากที่สุด อะไรที่เกี่วกับเคราะห์กรรมนั้นอย่าหมายว่าจะทำออกมาได้ง่ายๆ ท่านว่าต้องใช้ฤกษ์ผานาทีลงจารด้วยกสิณตลอดจนเรียกสูตรว่ามนต์กำกับ ท่านว่ายากหรือไม่กว่าจะทำให้สำเร็จได้ดอกหนึ่งนั้นท่านว่าทำเสียไปไม่รู้กี่ดอก ที่เสีย ที่ไม่เต็มก็ไม่เอามาใช้ ต้องเพียรจารชักยันต์ไปทั้งหน้าหลังเต็มสูตรตามที่ครูท่านเมตตาบอก


    ท่านว่าตะกรุดมหาปัดบาปเคราะห์นี้ พื้นฐานคือมีอำนาจหลีกเลี่ยงเคราะห์กรรมทั้งหลาย ไม่ใช่ฝืนกฏแห่งกรรมไม่ให้เกิด แต่จะปัดเคราะห์กรรมทั้งหมดออกไปให้พ้นตัว ท่านว่าให้มันเกิดปกติ แต่ทำอย่างไรก็ไม่ถูกตัวหรือต้องตัวเรา ซึ่งวิชานี้ท่านว่ามีอำนาจครอบคลุมในระบบดวงดาวโดยเฉพาะดาวบาปเคราะห์ทั้งหลายด้วย เมื่อพระเคราะห์เสวยอายุ ท่านว่าก็ปล่อยเค้าเสวยไป แต่เค้าจะทำอะไรเราไม่ได้เพราะครูท่านปัดออกหมดด้วยอาถรรพ์แห่งคุณวิชา ใครที่กลัวว่าอนาคตหรือปัจจุบันนั้นดวงจะตกหรือดวงจะแตกท่านว่าเลิกคิดได้เลย ซ้ำในตะกรุดนั้นท่านยังได้ลงวิชาที่ท่านถนัดเสริมไว้อีกคำรบหนึ่งด้วย นั่นคือวิชามหาสะเดาะ ท่านว่ากันไว้ถึงสองชั้น นอกจากปัดออกแล้ว หากยังมีเคราะห์กรรมเหลือหลุดรอดเข้ามาได้เมื่อมาเจอกับมหาสะเดาะทุกอย่างก็จะสงบลง ท่านว่าไม่ต้องไปหาที่สะเดาะเคราะห์ที่ไหนอย่างใดให้เสียเวลาอีก เพราะพอเคราะ์กรรมความซวยความตกต่ำทั้งหลายมาถึงเจอคุณวิชาต่างๆเหล่านี้ ครูท่านทั้งปัดทั้งสะเดาะให้เราในตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วนั่นเอง ท่านว่าตะกรุดนี้มีวิธีใช้ง่ายๆนั่นคือให้พกติดตัวไว้ตลอดอย่าห่างตัวเพียงเท่านั้น


    ตะกรุดมหาปัดบาปเคราะห์นั้นท่านว่าเป็นวิชาที่แปลก เพราะหากมันอยู่กับตัวเราติดตัวเราตลอด ในระหว่างที่มันอยู่กับเรานั้นมันจะดูดซับเคราะห์กรรมและสิ่งไม่ดีต่างๆที่สะสมไว้ในร่างกายของเราออกมา วิชานี้จึงประสานเข้ากับคุณวิเศษของเพชรพญาธรขั้นกายสิทธิ์ได้อย่างลงตัว ท่านว่าวิชานี้ดูดซับและขับออกมาลงในตัวเพชรพญาธร ส่วนตัวเพชรพญาธรนั้นก็มีอำนาจกินพิษกินความซวยทั้งหลายที่อยู่ในร่างกายเราเป็นอาหารเพิ่มฤทธิ์ให้กับตัวเอง


    พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำว่าเครื่องรางเช่นนี้ย่อมไม่ปรากฏมีขึ้นโดยง่ายแน่ๆ โดยท่านทำตามโองการฟ้าที่ท้าวสักกะเทวาท่านแนะนำให้สร้างในรูปแบบเพชรพญาธรถือพิณหน้าเทพนั่งอยู่บนฐานที่เป็นเพชรพญาธรจำแลงอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าหน้าเทพนั้นมีฤทธิ์ดึงดูดและสะกดคนทั้งหลาย ดึงดูดสิ่งที่เราปรารถนาทำให้เจ้าของมีสง่าราศีสูงส่งกว่าชนทั้งมวล ส่วนร่างจำแลงนั้นมีหน้าที่ดูดกลืนอาถรรพ์และทำงานต่างๆตามเเต่ผู้เป็นเจ้าของจะปรารถนา


    ท่านว่าพระเพชรของท่านนั้นยิ่งคนใช้มีเคราะห์กรรมเท่าไหร่ยิ่งมีฤทธิ์แรงมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเอาติดตัวไว้ได้นานเท่าไหร่ ยิ่งมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าเค้ากินพิษ กินเคราะห์กรรม กินคุณไสยฝ่ายต่ำ กินตะกอนเวรกรรมและสิ่งที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราเป็นอาหาร รวมไปถึงอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย นี่เห็นหรือไม่ ท่านว่าเค้ากินหมดอะไรที่ว่าไม่ดีไม่งามในตัวเรา เค้ากินไปก็ยิ่งเพิ่มฤทธิ์ให้กับเค้า มันจึงเข้าทำนองว่าได้ประโยชน์ร่วมกัน เค้าก็อยากจะช่วยเรากินมากๆเพื่อเพิ่มฤทธิ์ให้ตัวเองเรียกว่าเสพย์เพื่อฤทธานุภาพ ส่วนตัวเรานั้นเมื่อพระเพชรเสพย์สิ่งปฏิกูลทั้งหลายในตัวเราออกไปแล้วเราก็จะดูอ่อนกว่าวัยกลายเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดขึ้นมาทันตาเห็น พอสิ่งอาถรรพ์ทั้งหลายหมดไปเรื่องดีๆมันก็จะตามเข้ามาไม่รู้จักหมด ท่านว่าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรเลี้ยงเค้าเอาแค่ว่าตราบใดยังอยู่ในกฏแห่งกรรมยังโดนดาวบาปเคราะห์จรทับตามวาระอยู่พูดง่ายๆตราบที่ยังหายใจเป็นมนุษย์อยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้เค้ากิน


    พระเพชรของท่านนั้นท่านว่ามันแปลกและดีเช่นนี้ ท่านว่าพระเพชรนั้นเก่งเหมือนกับเทวดาองค์หนึ่งเลยแต่เค้าสามารถทำอะไรทั้งหลายที่เค้าประสงค์ได้มากกว่าเทวดา และตัวเค้านั้นยังมีความรู้ครอบคลุมในทุกศาสตร์วิชาทั้งสิบแปดศาสตร์ พ่ออาจารย์ท่านนั้นสร้างพระเพชรขึ้นมาโดยกำกับมหามนต์ลงไปหลายบท ทั้งมนต์มหาระงับดับทุกข์ มนต์พระกาฬ มนต์จักราวุธพระเจ้าห้าพระองค์ ... ท่านว่ามนต์ทั้งร้อยแปดชนิดท่านใส่ไปทั้งสิ้นเพื่อให้พระเพชรนั้นมีฤทธิ์ทุกด้านตามที่ท่านชุบขึ้นมา


    โดยท่านใช้แร่กายสิทธิ์หล่อพระเพชรขึ้น ท่านว่านี่เป็นพระเพชรเนื้อกายสิทธิ์หรือกายศักดิ์สิทธิ์อันเป็นวรรณะที่อยู่สูงสุดของเพชรพญาธร ใช่แต่เพียงเท่านั้นท่านยังใช้มนต์กำกับให้พระเพชรเสพย์เหล่าเพชรพญาธรวรรณะทองซึ่งมีฤทธิ์รองลงมาจนครบร้อยแปดครั้ง ซึ่งทั้งร้อยแปดครั้งนั้นท่านว่าเหล่าเพชรพญาธรวรรณะทองคำทั้งหลายล้วนแต่ยอมพลีเลือดเนื้อร่างกายของตนให้กับพระเพชรทั้งสิ้นเพื่อฤทธิ์เดชและอำนาจอันเป็นที่สุด ท่านว่าพระเพชรรุ่นนี้จะเรียกว่าเป็นเจ้าในหมู่เพชรพญาธรก็ไม่ผิดเพราะได้เสพย์เพชรพญาธรวรรณณะทองถึงร้อยแปดหน จะหาเพชรพญาธรที่มีฤทธิ์เช่นนี้อีกเป็นไม่มี และเรื่องเมตตามหาเสน่ห์นั้นท่านว่าอย่าไปคิดมาก ขนาดเลือดเนื้อเค้ายังพลียอมเป็นอาหารให้ได้ จะนับอย่างใดกับคนใช้ ปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอาเถิด


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเพชรนั้นนอกจากกินสิ่งไม่ดีและอาถรรพ์ทั้งหลายแล้ว เค้ายังกินอาคมมาเพิ่มฤทธิ์ให้กับตัวเองด้วย ท่านว่าไม่ต้องห่วงไปว่าจะไปทำร้ายไปดูดกลืนพลังงานพระเครื่องของใครท่านว่าข้อนี้ไม่ต้องห่วง ท่านกำกับมาดีแล้ว อาคมทั้งหลายนั้นไม่ได้มีเฉพาะในพระเครื่อง แต่ในสถานที่อาถรรพ์ต่างๆที่วันๆนึงเราเดินผ่านหรือโคจรผ่านไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยตลอดจนอาคมทั้งหลายอันผู้มีวิชาปล่อยมาในอากาศท่านว่านี่มีเยอะมาก เต็มไปหมดทุกรูทุกเลี้ยวเพียงแค่เรามองกันไม่เห็น สิ่งเหล่านี้เค้าล้วนเสพย์ล้วนกินได้ตลอดเวลาเพิ่มฤทธานุภาพให้กับเค้า หน้าที่ของเรามีเพียงพกเค้าอย่างเดียวเท่านั้น พกให้โดนเนื้อโดนร่างกายเป็นดีที่สุด ท่านว่าที่พูดนี่ยังน้อยเพราะนอกจากนั้นแล้วเค้ายังกินพลังของภูติผีปีศาจตลอดจนคุณไสยมนต์ดำด้วย


    วิธีใช้
    พ่ออาจารย์ว่าให้ยกพระเพชรขึ้นจบหัว ตั้งจิตให้ว่าง ให้จิตเบา สบายๆ อย่าร้อน อย่าขุ่นมัว จับอารมณ์ให้สบายๆนึกถึงสายน้ำนึกถึงธรรมชาติต้นไม้สีเขียวทั้งหลายให้อารมณ์เราจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านี้ แล้วอารมณ์เราจะเย็นจะสบายไม่ร้อนหรือขุ่นมัวตามที่กล่าวแต่ต้น ทำเช่นนี้สักพักหนึ่งไม่ต้องอธิษฐานอะไรทั้งสิ้นเพียงเท่านี้ท่านว่าก็ใช้ได้แล้ว มันง่ายเพียงเท่านั้น ท่านว่าเพราะพระเพชรนั้นเค้ากินอารมณ์เราเป็นอาหาร ถ้าทำได้เช่นนี้ก็เป็นเสน่ห์เป็นโชคลาภอย่างที่สุดแล้ว วันนั้นจะมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเราไม่รู้หมดรู้จบรู้สิ้น เมื่อทำจิตให้เบาสบายแล้วก็ให้นำพระเพชรมาพกไว้จะส่วนไหนของร่างกายก็ได้ แต่ให้ติดเนื้อต้องตัว อย่าเอาไว้ห่างตัวเราเด็ดขาด ท่านว่าให้รักษาให้ดีดุจของคู่ชีวิตนั่นทีเดียว


    พระเพชรกายสิทธิ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมดเก้าองค์ ท่านว่าให้คนรับตั้งใจใช้ให้ดี ไม่ต้องไปทนุถนอมอะไรเค้ามาก ใช้ให้เต็มที่ให้โดนเนื้อโดนตัวไปไหนไปกันเค้าชอบเช่นนั้น ถ้าจะมีความปรารถนาสิ่งใดเป็นพิเศษก็ให้ตั้งอารมณ์ให้ดีและบอกกล่าวความปรารถนานั้นไปให้เพราะเพชรเค้ากินอารมณ์ของเราแล้วเค้าก็จะสนองงานให้กับเราเอง ท่านว่าเครื่องรางเช่นนี้ทำยากเพราะมันแก้ดวง แก้จุดอับจุดบอดในชีวิตได้ทั้งหมด อาถรรพ์ร้ายโรคภัยทั้งหลาย สรรพสิ่งอุบาทว์อันชักนำมหันต์ทุกข์หาความสุขไม่ได้ทั้งหลายมันกันและแก้ทางกันหมด และกว่าจะทำได้ท่านว่าเล่นซะจนเหนื่อยเหมือนกัน ดังนั้นท่านจึงตั้งใจไว้แต่เริ่มว่าจะทำเพียงครั้งเดียว ทำให้ครั้งเดียวแล้วจบกันท่านว่าจะไม่ทำอีก ให้คนที่เค้ามีความประสงค์ที่จะบูชาครูเพชรพญาธรจริงๆเท่านั้นไปบูชา ใครได้ไว้ก็ถือเสียว่าเขาทำบุญมามากและมีวาสนาต้องกันจริงๆ


    คาถาบูชา
    โอมพระเพชรพญาธร เธอเสด็จจรขึ้นบนอากาศ กูจะตวาดเรียกให้มึงมา โอมปลุกมหาปลุกกูจะปลุกมึงให้ลุก ลุกแล้วอย่านั่ง เจ้าครูกูสั่งให้มึงไปเรียกไปหา กูจะเรียกมึงมา กูจะใช้มึงไปหา.......(พูดสิ่งที่เราปรารถนา)...มาให้กับกู มาเรโสเอหิพุทธานุภาเวนะ มาเรโสเอหิธัมมานุภาเวนะ มาเรโสเอหิสังฆานุภาเวนะเอหิ


    * พระเพชรพญาธรทั้งเก้าองค์นั้นเปิดให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลคนรับไว้ด้วย ท่านจะทำการเจิมผงอิทธิเจและทำการเจิมน้ำมันเสน่ห์ปลุกจิตของครูเก่าให้และจะอธิษฐานให้พระเพชรท่านประสิทธิ์ในทุกกิจที่เจ้าของปรารถนาอีกคำรบหนึ่ง รายได้ทั้งหมดร่วมบุญวิหารทานสืบต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2019
  11. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    องค์กำเนิดบรรพกาลวราหาคลี่แผ่นดิน(หมูกินเสือตรีกาลมหาสะเดาะ)

    ให้บูชา 4100 บาท

    IMG_20190511_151355.jpg IMG_20190511_151427.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-17#post-10723993

    " วราหาผู้เป็นเจ้า ได้เสด็จออกปราบมหายักษ์ คลี่แผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้เจริญรุ่งเรือง "

    วิชาหมูนั้นมีอยู่หลายสาย เหมือนที่พ่ออาจารย์ว่าหมูนั้นมีหลายตัว บางตัวก็ปราบได้แม่แต่เสือเย็น หรือเสือสมิง นั้นคือหมูที่มีเดชมาก บางตัวก็กันพวกภูติผีปีศาจ ปล่อยออกไปได้เหมือนพยนต์ที่คอยทำลายอาถรรพ์ร้ายทั้งหลาย แต่บางตัวก็ดีด้านโชคลาภอย่างถึงที่สุด ในยุคนี้หลายๆที่นิยมสร้างหมูนารายณ์กันมากแต่กลับทำได้เพียงแค่ชื่อด้วยไม่ได้มีจิตแห่งพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง กอปรกับของบางอย่างภิกษุทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิง พ่ออาจารย์ท่านจึงใคร่สร้างยอดเครื่องรางวราหาวตารนี้ให้ปรากฏ

    หมูนารายณ์หรือพระวราหะนั้นสำคัญไฉน พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ดั่งว่าเมื่อเกิดกลียุค หิรัณยากษะมหายักษ์ใคร่จะเป็นเจ้าโลก จึ่งกระทำฤทธานุภาพให้ปรากฏม้วนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปเอาลงไปในบาดาล สรรพสัตว์ตลอดจนมนุษย์รวมไปถึงพระแม่ธรณีล้วนได้รับความทุกข์แสนสาหัส พูดง่ายๆคือกำลังจะตาย และตายกันชนิดล้างเผ่าพันธุ์ ในปางนั้นพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าได้ทรงกู้สถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นด้วยการอวตารพญาหมูป่าตัวเผือกขาวดังสำลีมีเขี้ยวโง้วยาวเป็นเพชรลงไปสังหารมหายักษ์ ครั้นแล้ว" วราหาผู้เป็นเจ้า ได้เสด็จออกปราบมหายักษ์ คลี่แผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้กลับเจริญรุ่งเรือง "

    ดังนั้นจึงถือคติที่ว่าเมื่อพระวราหาวตารคลี่แผ่นดิน คือนำแผ่นดินที่สิ้นหวังแล้ว แผ่นดินที่ตายแล้วทั้งสี่ทวีป อันสรรพสัตว์ทั้งหลายหากำลังใจหรือความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้วนำกลับมา คลี่ออกให้กำเนิดสรรพชีวิตขึ้นใหม่ สถาปนาแผ่นดินสี่ทวีปขึ้นใหม่จนถึงแก่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่สุด ด้วยคตินี้จึงอุปมาวราหาคลี่แผ่นดินเป็นวิชาที่ทำให้ชีวิตได้เริ่มต้นใหม่จนถึงที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง ถึงแม้จะเป็นชีวิตที่พิกลพิการ ลำบากยากแค้นสิ้นหวัง แม้จะแห้งเหี่ยวแล้ว ใกล้ดับสูญแล้ว ร้ายแรงถึงปานนั้นก็ยังกู้กลับขึ้นมาได้

    พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าถ้าท่านไม่ทำขึ้นมาจริงๆจังๆคนที่รู้และทำได้จริงก็ดูจะไม่มีเสียแล้ว ดังนั้นท่านจึงตั้งใจทำหมูของท่านมากด้วยวิชาพยนต์นารายณ์เป็นหลักเพื่อกู้แก้วิกฤติที่เลวร้ายสิ้นหวังทุกสถาน ซ้ำยังลบผงวิชาหมูทุกตัวผสานลงไปด้วย นอกจากนั้นด้วยปัจจัยที่ว่าหมูมันกินจุ กินเก่ง กินไม่เลือก กินได้ตลอดดุจดั่งลาภลอยมีให้กินไม่ขาด จะกินใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด "ท่านว่าหมูมันสบาย ชีวิตมีแต่นั่งกินนอนกินแล้วก็โตขึ้นๆไม่หยุด ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตแบบหมูๆคือการเติบโตแบบง่ายๆสบายๆดั่งวิสัยของคนนั่งกินนอนกินและต้องเจริญขึ้นเท่านั้น"

    ท่านตั้งใจทำหมูชุดนี้ให้มีอานุภาพ มีตัวตนโดยใช้มวลสารเฉพาะทางที่ท่านเก็บไว้นั่นคือเขี้ยวหมูตันพันปีซึ่งแข็งเป็นหิน ของชิ้นนี้มีอานุภาพมากท่านวว่าใช้ได้ทุกอย่างดุจอาวุธเทวดา มีเดชมาก แรงครูสูง วันดีคืนดีมักปรากฏเป็นหมูเผือกเขี้ยวเพชรออกมาหาข้าวกิน ท่านได้นำเขี้ยวหมูหินหรือเขี้ยวเพชรนี้บดเป็นผงเพื่อสร้างวราหาคลี่แผ่นดิน โดยฝังชิ้นส่วนเขี้ยวที่บดไม่ละเอียดไว้ด้านหน้าเป็นขุมพลังพญาหมูส่วนหนึ่ง ทั้งยังผสมด้วยผงลบวิชาหมูนารายณ์รวมถึงหมูทองแดงและหมูทุกสาย รวมไปถึงซ้องหมูป่าทนสิทธิ์ทรงอำนาจที่มีความเชื่อว่าหากหมูป่าไม่ตายหรือคายออกมาเองจะไม่สามารถพบได้เลย ท่านถือคติว่ากูไม่ตายคนอื่นก็ไม่ได้กินเช่นนั้นซ้ำซ้องหมูป่ายังมีเดชมาก ผงทั้งหมดนำมารวมกับว่านยาและไม้เฉพาะทางตามตำรับสร้างหมูนารายณ์ที่ท่านไม่ให้เปิดเผย ท่านว่าว่านและตัวยาแต่ละอย่างล้วนหายาก ไม่แปลกใจเลยที่โบราณจารย์จะกำหนดขึ้นไว้และเมื่อสร้างเสร็จนั้นหมูนั้นจะมีเดชมากพิฆาตได้แม้กระทั่งเสือสมิง

    รูปนั้นสำคัญไฉน ..ด้วยรูปเป็นสื่อที่บ่งบอกกิริยาและมีความสำคัญในการเรียกอาการตลอดจนสำเร็จตัวตนทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะพิมพ์หมูสำคัญนี้เป็นพระวราหะเขี้ยวยาวโง้งทูนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปไว้บนศรีษะ ดุจว่ากำลังคลี่ออกเพื่อรูปนี้จะให้กำเนิดสรรพชีวิตเป็นที่สุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงปฐวีธาตุผสมกับยันต์กำเนิดแม่พระธรณีทำพิธีบูชาไฟสักการะรูปนามแห่งมหาเทวีก่อนจะปั้นเป็นลูกกลมๆบรรจุไว้ที่หัวของพระวราหะ ท่านว่าใช้แม่ธรณีนี่แหละแทนแผ่นดินที่กำลังคลี่ออก เป็นมงคลสองต่อทั้งชนะมาร ปราบแผ่นดิน คลี่คลายวิบัติดุจผู้พกนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่หมูนารายณ์นี้กำลังแก้ไขคลี่คลายปัญหาโลกแตกตลอดเวลา ไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆใดจะมาปิดกั้น อุดตัน หรือเป็นอุปสรรคให้ฝ่าไปไม่ได้

    นอกจากสำเร็จรูปพยนต์นารายณ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังลงตะกรุดทำวิชาหมูกินเสือฝังไว้ด้านหน้ากำกับพยนต์หมูด้วย วิชานี้ชื่อประหลาดเพราะปกติหมูต้องเป็นเหยื่อเสือ ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกิน แต่หมูกินเสือนั้นท่านว่าเป็นวิชาที่กลับร้ายให้กลายเป็นดี เปรียบตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนด้อยไร้ฤทธานุภาพแต่เหล่าผู้มากด้วยวาสนาบารมีก็ยังมาตายคาปาก มาให้เรากินถึงที่ ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องดิ้นรน อิ่มแบบมีเกียรติไม่ใช่อิ่มไปมื้อๆขอไปที ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมากสมัยนี้คนเราชอบแสวงหาสิ่งที่ช่วยเหลือชั่วมื้อชั่วคราวประดุจหิวข้าวก็จะหาโภชนาหารเพียงเติมให้เต็มท้อง แก้หิว แก้อยากไปมื้อๆ อิ่มเช่นนี้เป็นอิ่มมื้อเดียว มื้อหน้าก็ต้องเหนื่อยออกหากินใหม่ กว่าจะได้กว่าจะอิ่มอีกก็เสียเวลาสูญเสียช่วงชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชาหมูกินเสือเพื่อแก้ปัญหาวาสนาชะตาคนให้มีชีวิตที่ง่ายขึ้น ทำอะไรก็ง่ายไปหมด และเป็นผู้ชนะตลอดกาล

    ด้านหลังพยนต์หมูนี้ท่านฝังของมงคลเพื่อหนุนธาตุวิชาให้เสริมอานุภาพซึ่งกันและกัน กลืนกินไม่ขัดแย้งกัน ดังนี้
    - องค์กำเนิดนัยน์ตามหาเทพ ด้วยความเชื่อและศาสตร์บรรพกาลในการบูชาลึงค์ดุจเทพเจ้านับพันปีพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะองค์กำเนิดอันเป็นขุมพลังแห่งเทวะไว้ นั่นคือมหาศิวะลึงค์เบิกเนตรพระสยม ซึ่งตาที่สามอันปรากฏนี้ เป็นสัญลักษณ์ของการหยั่งรู้ คือรู้กาลอดีต รู้กาลปัจจุบัน และหยั่งรู้ในอนาคตกาล บูชาไว้เปิดญาณทัศนะของตนจะดีมาก ด้วยดวงเนตรนี้หาได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความรู้แจ้งเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังการทำลายล้างสูงสุดอันเกิดมีมาแต่เดิมในฐานะพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย เหนือกว่าและมากกว่าเทพอาวุธอันทรงอานุภาพทั้งหลายของเทพเจ้านั้น ที่เหล่าเทพเจ้านั้นเกรงกลัวและเคารพองค์พระศิวะเทพเป็นที่สุดนั้นก็เพราะกลัวอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรนี้ แม้พระองค์มีพระประสงค์จะทำลายมหาจักรวาลให้ถึงกาลพินาศย่อยยับไป ก็จะเกิดเพลิงประลัยกัลป์ขึ้นมาจากพระเนตรที่สามนี้ เผาผลาญห้องมหาจักรวาลให้พังพินาศไป ด้วยคติแม้สัญลักษณ์ดวงเนตรพระสยมปรากฏขึ้นที่ใด เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายย่อมกลัวเกรงในอาญาสิทธิ์นี้ของพระเป็นเจ้า จึงอาจจะกล่าวได้ว่าบุคคลที่ได้ครอบครองไว้ สามารถปราบและข่มเขาได้ทั้งโลก วิชานี้ถือว่าเป็นมหาปราบอย่างที่สุดอีกสายหนึ่งทีเดียว โดยองค์กำเนิดเบิกเนตรนี้มีอานุภาพแลมงคลทั้งสถานะความเป็นพ่อ ด้วยพลังฝ่ายเทวะที่สรรค์สร้างและให้ทุกสิ่งตามี่ผู้บูชาปรารถนา รวมไปถึงการปราบปรามทำลายล้างศัตรูที่มุ่งร้ายอย่างที่สุด ดวงเนตรนั้นย่อมประกอบด้วยมงคลต่างๆ ดังนี้
    1. ปกตินั้นตาเป็นสัญลักษณ์ของการมองเห็น เป็นเครื่องรู้ เช่นเดียวกันกับนัยน์ตามหาเทพนี้ หากเบิกขึ้นแล้ว ผู้ครอบครองไว้จะไม่เดินทางผิด สิ่งที่ไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เคยประสบพบเจอ นับจากนี้ไปก็จะได้เห็นได้ทราบเฉพาะตัวของตนเอง
    2. ตาเป็นสัญลักษณ์ของการเห็น การรู้แจ้ง เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันยิ่ง ท่านว่าดวงนัยน์ตานี้ดีนัก ให้เอาไว้กับตัวสมองจะปลอดโปร่ง ความคิดจะแจ่มใสขึ้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดย่อมเกิดตัวรู้ ตัวปัญญาเด่นชัด ไม่ขุ่นเคือง
    3. แม้ในพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสุคตบรมครูท่านก็ได้แสดงธรรมไว้อย่างชัดเจนแล้วถึงความสำคัญของการมองเห็น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา สิ่งนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราถือเป็นเคล็ด สำหรับคนที่ยังมืดบอดอยู่ ยังไม่รู้จักคำว่ามี เพราะเรายัดหัวใจพระธรรมจักรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงไปด้วย สิ่งใดที่ปรารถนาจะมี ยังไม่เกิด ยังไม่มี นับจากนี้ให้เกิดมีตามที่เรานี้สาปสรรค์เอาไว้
    4. นัยน์ตา คำนี้สื่อถึงความหมายยิ่งใหญ่ ประดุจสิ่งรัก สิ่งที่มีค่าสูงสุดของเจ้าของ ดั่งที่คำโบราณท่านเปรียบเปรยว่าแก้วตาดวงใจ นัยน์ตานี้ก็คือแก้วตาสื่อถึงความรักหวงแหนสูงสุด เป็นอิทธิคุณแฝดทางด้านมหานิยม มหาเสน่ห์ใหญ่อย่างที่สุด ถ้ารักใครชอบใครนั้น ต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก ดุจเราได้ครองของสำคัญคือแก้วตาดวงใจของเค้าไว้แล้วนั่นเอง ให้ตั้งจิตนึกเอาว่าเรากุมแก้วตาดวงใจของเขาไว้ อยู่ในตัวเราเขาอยู่ในอุ้งมือเราแล้ว จะใช้ทางเสน่ห์เล่ห์กลใดก็สุดแต่ใจเถิด
    5. เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจการทำลายล้างสูงสุดในจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ในเหล่ามาร อสุรกาย เทพเจ้า และพระเป็นเจ้าด้วยกัน ก็ยังเกรงอำนาจการทำลายล้างอันเป็นปรมัตถ์นี้ เพราะเป็นการทำลายขั้นสูงสุด พกไว้กับตัวเป็นมหาเดช มหาอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นที่เคารพและเกรงกลัว จนเข้าต้องรีบเข้าหาเรามาประจบเอาใจเราเช่นนั้น

    - องค์กำเนิดลัชชาเคารี เทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วยอุบัติขึ้นจากโยนีของมหาสตรี พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นครรภ์หรือที่กำเนิดในทุกสรรพสิ่ง เป็นที่สุดแห่งความอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นตัวแทนพลังกำเนิดของฝ่ายอิตถีเทวะหรือมหาศักติทั้งปวงอีกด้วย เป็นปฐมครรภ์แห่งจักรวาล มารดาแห่งโลก รูปแห่งอารมณ์ มหามายา ปัญญา ความรู้แจ้ง ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลล้วนอยู่ในรูปของมหาศักติผู้ให้กำเนิดจักรวาล โดยถือว่าแม่คือตัวแทนของคำว่าความรัก ความปรารถนาดีที่มีต่อลูก เป็นสายใยที่ไม่มีวันตัดขาด ต้องอุปถัมภ์ค้ำจุนให้พรกันตลอดไป ในอารายธรรมโบราณนั้นถือได้ว่าเทวีลัชชาเคารีนี้เป็นต้นกำเนิดของแม่เป๋อฝั่งเราก็ว่าได้ ดังนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะสร้างองค์กำเนิดทั้งสอง ท่านจึงปรารถนาจะทำให้เป็นที่สุดโดยใช้องค์กำเนิดบรรพกาล ซึ่งนอกจากจะมีอำนาจด้านมหามงคลดลบันดาลได้ร้อยแปดแล้ว ยังเป็นที่สุดแห่งเสน่ห์ มหาเมตตา ความเย้ายวนสุขสันต์ด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด นั่นก็คือรูปแบบพลังงานชีวิต พลังงานต้นกำเนิดอันเกิดแต่การสร้างสรรค์ดั้งเดิมของปฐมครรภ์ล้วนบริสุทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์นั้นเกิดมากี่ภพชาติ อุบัติมาตั้งแต่ตัวตนสูงสุดยันต่ำสุด แปดเปื้อนมามากไม่รู้จะเท่าไหร่ พลังงานแห่งชีวิต พลังงานตั้งต้นล้วนมัวหมองไม่สมดุลย์ทั้งสิ้น เพื่อจะเปลี่ยนคนให้ได้ดี มีความสุข มีปรกติชีวิตที่จะเจริญก้าวหน้าได้ต่อไป จึงต้องใช้อานุภาพแห่งมหาเคารีนี้ขัดเกลาพลังงานชีวิตให้บริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นยิ่งใช้ชีวิตเวียนว่ายตายเกิดผจญเคราะห์กรรมก็ยิ่งจะมัวหมองมากลงไปเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราหากพลังงานชีวิตมันค่อยๆบริสุทธิ์ขึ้นทีละน้อยๆจนเต็มเปรี่ยมให้สังเกตุได้เลยว่าเรื่องดีๆทั้งหลายมันจะวิ่งเข้ามาหาเราเอง อุปมาดุจคำว่าผู้มีบุญญาธิการยิ่งใหญ่แม้ตกไปอยู่แห่งใดก็ย่อมสุขสบายไม่อนาทรร้อนใจ
    - ตะกรุดเวทย์สวรรค์ตรีกาลมหาสะเดาะ เป็นสูตรทำตะกรุดชุดของพ่ออาจารย์นว่าด้วยวิชาแก้เคราะห์กรรม หากพูดถึงวิชาแก้เคราะห์แล้ว ตัวนี้ท่านว่ามันต่างกับเคราะห์ทุกตัว ด้วยเป็นเวทย์สวรรค์ที่ออกจากโอษฐ์ท้าวมหาพรหมหรือจะเรียกว่าเวทย์ดึกดำบรรพ์ก็ได้ โดยปกติวิชาแก้เคราะห์จะหมายให้แก้เคราะห์ฉาบฉวย หรือเคราะห์ที่มันหนักๆเอาให้ถึงตาย จะเปร่งอานุภาพเป็นครั้งคราวจนหลายๆคนอาจสงสัยว่าทำไมชีวิตมันยังติดๆหรือดูแย่อยู่ จะมีก็แต่เรื่องแรงๆที่ผ่านไปได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่เคราะห์รายวันเล็กๆน้อยๆก็ยังเจอยังต้องปวดหัวคลี่คลายกันต่อไป ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้สังเกตุเอา ก็ดวงดาวทั้งหลายยังเคลื่อนตัวไม่หยุดที่จะให้พระเคราะห์ไม่ทำงานนั้นจะเป็นไปได้ที่ไหน ถึงหลายๆครั้งมหาเคราะห์เช่นนั้นจะเบาลงไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ยังมีผลของเคราะห์กรรมอยูดี ด้วยมนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อเสวยกรรม แต่วิชานี้กลับระบุครอบคลุมเคราะห์กรรมสามสถานนั่นคือ
    - เคราะห์วัน
    - เคราะห์เดือน
    - เคราะห์ปี

    เรียกว่าหากล่วงออกมาจากเคราะห์สามสถานนี้ก็ไม่มีเคราะห์หามยามร้ายใดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่กล้ำกรายได้อีกแล้ว ถึงจะหยุดการเคลื่อนไหวของดวงดาวไม่ได้ แต่ก็ล่วงเคราะห์ด้วยเวทย์สวรรค์ ด้วยอาญาสิทธิ์แห่งพระบรมบิดาพรหมเทพเป็นปฐม ซึ่งเคราะห์สามสถานนั้นครอบคลุมชีวิตคนทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเคราะห์วันตลอดจนเดือนหรือปี พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้มันสอดคล้องกับการจะเปลี่ยนชีวิตคนที่ยากลำบากให้มีชีวิตแบบหมูๆ กินแบบหมูๆ สบายแบบหมูๆ ท่านจึงจำเป็นต้องงัดวิชาที่เคยไปเรียนในบังบดขึ้นมาทำ โดยตั้งใจจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลและอาถรรพ์ที่ฝังเสริมลงไปนั้นทุกสิ่งล้วนขานรับซึ่งกันและกัน ด้วยหมูเขี้ยวเพชรนี้แม้จะดุดันอย่างไร เมื่อคลี่คลายแผ่นดินทั้งสี่ทวีปแล้วก็หาได้มีพลังแห่งการสร้างสรรค์ พลังแห่งองค์กำเนิด ต่อให้คลี่คลายไปวิกฤติต่างๆย่อมเรียงหน้ามาให้คลี่ใหม่อยู่เรื่อยๆ ไม่อาจจะพัฒนาได้ เหมือนชีวิตคนเจออุปสรรคแก้ไปอย่างก็มีอีกอย่างไม่รู้จบสิ้น ชีวิตต้องเวียนแก้อยู่อย่างนั้น ถึงจะแก้ได้แล้วจะอย่างไรในเมื่อเสียเวลาไปทั้งชีวิตกับการแก้ไขเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ ในขณะเดียวกันการพัฒนาต่อยอดพลังงานชีวิตนั้นหากติดซึ่งเคราะห์กรรมทุกอย่างก็จะหยุดนิ่ง ท่านจึงว่าเมื่อคลี่คลายแล้วจำต้องสร้างสรรค์แลระงับเคราะห์หยุดกรรม สรรพสิ่งจึงจะถึงซึ่งความรุ่งเรือง ท่านมองเห็นความสำคัญของวิชาหมูนี้โดยก่อนจะสร้างท่านคิดและขอคำปรึกษาจากครูเทพพรหมทั้งหลาย ว่าทำอย่างไรจึงจะปลดล๊อคชีวิตคนที่มันติดขัดได้สิ่งใดเมื่อทำแล้วจะแก้ไขปัญหาครบคลุมทั้งระบบชีวิตทั้งยังเป็นขั้นตอนและกระบวนการที่นำไปสู่การพัฒนา เมื่อลงตัวแล้วท่านพิจารณาว่าหากคนเราคลี่คลายปัญหา มีพลังชีวิตขับดันสร้างสรรค์ก่อเกิดสรรพสิ่ง เพื่อจะลิขิตชะตาแลวาสนาตนเองได้ ซ้ำยังก้าวล่วงเคราะห์ฟ้าชะตาดิน เมื่อนั้นชีวิตแบบหมูๆที่จะเจริญและพัฒนาไปเรื่อยๆก็จะเกิดขึ้น

    หมูนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เป็นพยนต์นารายณ์มีอานุภาพมาก ท่านว่าให้ใช้เป็นเครื่องรางหรือทำพวงกุญแจก็ได้ คาดเอวก็ได้มีตัวมีตนแรงมากนัก วันดีคืนดีจะเห็นหมูเผือกเขี้ยวยาว ถ้าใครตาดีหน่อยก็จะเห็นกันง่ายมาปรากฏ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีเคล็ดการเลี้ยงง่ายๆเพื่อให้บูชาได้ผลทันตาเช่นกัน
    * เคล็ดการบูชาหมูนั้น ท่านว่าหมูมันหากินเก่ง กินไม่หยุด แต่เราผู้เป็นเจ้าของมัน อย่าให้มันหากินเอง เราต้องเลี้ยงมัน อย่าให้มันกินสิ่งใดในบ้านของเราไม่เช่นนั้นมันจะกินจนไม่เหลือ ได้ไปต้องบอกกล่าวกันก่อนว่าห้ามหากินเองหรือกินข้าวของในบ้าน พ่อสัญญาว่าจะเลี้ยงเจ้าให้ดี พูดให้เข้าใจง่ายๆคือให้ถือเคล็ด ไปซื้อข้าวสารจากนอกบ้านมาซักถุง และตั้งใจไว้เลยบอกกับหมูเลยว่าข้าวสารนี้คืออาหารของเค้าตั้งใจเลยว่านี่คืออาหารหมู วันพระหนนึงก็เปลี่ยนให้มันทีนึง ถือคตินี้มันจะหากินนำทรัพย์สินจากภายนอกเข้ามาหาเราไม่หยุด โดยที่ทรัพย์สินภายในจะอยู่คงเดิมไม่ขาดตกบกพร่องมีแต่จะเพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นไป อุปมาดั่งกินแต่ของนอกบ้านหาเข้าบ้าน ลากมากินในบ้านจนอิ่ม ซ้ำยังไม่แตะต้องสมบัติทรัพย์สินใดๆในบ้านนั้น เมื่อจะขอสิ่งใดก็ให้ขอตอนเลี้ยงอาหารเขาเถิด


    คาถาบูชา
    โอม ศานตาการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัมสุ เรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสะทฤศัม เมฆะวรรณัม ศุภางคัม ลักษมีกานตัม กะมะละนะยะนัม โยคิภีร์ ธยานะคัมมยัม วันเทวิษณุมอภะวะภะยะหะรัม สรรวะโลกัยกานาถัม


    * วราหาคลี่แผ่นดินนี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ 8 ตน มีให้บูชาไปแล้วสองตนและท่านเลี้ยงข้าวน้ำไว้เป็นพยนต์พิทักษ์เองหนึ่งตน จึงมีให้บูชาทั้งหมด 5 ตน สำหรับผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่อาจารย์ท่านจะบอกกล่าวสั่งสอนเพื่อมอบอาญาสิทธิ์ให้เจ้าของใช้งานได้เต็มที่พร้อมกับเจิมประสิทธิ์มงคลชัยอีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนสร้างหอระฆังและเมรุเผาศพที่ชำรุดต่อไป
     
  12. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขออนุญาต ไปทำงานก่อนนะครับ ดึกๆ มาลงรายละเอียดเพิ่มเติมครับ ขอบคุณครับ
     
  13. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    ปิด มงคลทนสิทธิ์ธนูพรหมมาสตร์แก้วมหิงสา(กระบือประหาร) ครับ
     
  14. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  15. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระขุนแผนแสนนางล้อมรักผงทวิมหาภูติทองคำ(พระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการนี้ครับโดยคุณ powernext

    IMG_20190511_143646.jpg IMG_20190511_143712.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-11#post-10238601

    โดยปกตินั้นพ่ออาจารย์ท่านมักจะเจอปัญหาสำหรับคนใช้ของไม่ขึ้นอยู่บ่อยๆ ซึ่งปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆนั้นก็มาจากเหตุต่างๆทั้งศรัทธาไม่มั่นคง หรือแม้กระทั่งเป็นผู้มีตำหนิในร่างกาย เป็นด้วยเหตุผลกลกรรมประการต่างๆ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับมหาเสน่ห์นี้ ท่านจะเป่ามนต์ขุนแผนเปิดโลกให้โดยเฉพาะเจาะจง เพื่อแก้ทางสิ่งต่างๆ ก็ปรากฏว่าสำเร็จถึงขั้นได้เสียทุกรายไป

    สำหรับวิชาขุนแผนเปิดโลกนั้น ก็เป็นวิชาที่ท่านเอามาทำพระพิมพ์เฉพาะของท่านเช่นกัน เรียกว่าท
    อดสายตาออกไปนับแต่ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่เคยทีใครทำพระพิมพ์เช่นนี้ เพราะว่าหากจะสำเร็จพระขุนแผนเปิดโลกแล้ว นอกจากจะต้องทรงมนต์ขุนแผนเปิดโลก ในเรื่องของการเสกไม่ใช่ว่าเสกที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่ขุนแผนที่เป็นขุนผีต้องเสกในป่าช้าใช้อาถรรพ์วิญญาณสัมภเวสีเข้าช่วย แต่เป็นของที่จะต้องทำเฉพาะกาล เฉพาะวาระ และเฉพาะสถานที่พิเศษจริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริจะทำเครื่องมงคลให้เป็นที่สุดในตระกูลขุนแผนของท่าน ถึงขนาดที่ว่านำผงวิชาที่ทำไว้ในอดีต อันเป็นผงเสน่ห์ที่ให้คุณรุนแรงออกมาเป็นมวลสารประกอบทีเดียว ท่านได้ตั้งใจแกะพิมพ์ขึ้นเป็นพิเศษให้เป็นเอกลักษณ์ของท่านเอง ตลอดจนแม้เวลาอธิษฐานจิตปลุกเสก ท่านยังใส่วิชา"นะเม"ลงไปด้วยเพื่อแก้ทางคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นลอดจนเร่งผลทางด้านเมตตา เสน่ห์ โชคลาภความเจริญต่างๆให้บังเกิดขึ้นพร้อมกัน


    โดยท่านได้แกะแม่พิมพ์เช่นพระขุนแผนทรงพรายกุมารหรือพรายใหญ่ของหลวงปู่ทิม แต่เปลี่ยนองค์พระด้านในนั้น เป็นประทับยืนทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์แทนปางนั่งปกติ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าครูบาอาจารย์เราเคยสั่งไว้ ถ้ามีโอกาสให้ทำขุนแผนโดยลงวิชาพระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์ให้ได้ เพราะจะเป็นเสน่ห์ยิ่งกว่าเสน่ห์ใดๆ เหนือกว่าพลังของเทพ ของพราย หรือแม้แต่อำนาจที่จะพึงมีในพระพิมพ์ปกติ


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชาพระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์นั้น เป็นยมกปาฏิหาริย์ ขณะที่ทรงประทับณ.บันได้แก้วอันองค์อมรินทร์เนรมิตรให้เพื่อเสด็จลงจากดาวดึงส์ ตอนนั้นทรงแสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้งสามให้รู้แจ้งมองเห็นซึ่งกันและกันโดยตลอดทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง การกระทำมหาปาฏิหาริย์ท่านกลางหมู่เทพพรหมบรรษัทนั้น พระตถาคตเจ้าทรงมีพระสิริราศีสรรพโสภาคงดงามเลิศล้ำกว่าปกติ ประกอบด้วยพุทธรัศมี สง่า งดงาม และสงบ เกินกว่าเทพเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุ และหมู่มหาพรหมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดจะแสดงความงดงามเช่นนั้นออกมาได้ แม้มนุษย์ เทพทั้งอสงไขยโกฏิ ตลอดจนท้าวมหาพรหมทั้งหลายมีท้าวสหัมบดีเป็นปฐมก็ยังเพ่งพินิจชื่นชมในพระรูปอันเฉิดฉายนั้น แม้กระทั่งพระอรหันต์เองอย่างพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรยังบังเกิดปิติมีความยินดีสุดประมาณ เอ่ยวจีขานกล่าวสรรเสริญสมเด็จพระบรมโลกนาถว่าสง่า สงบ งดงาม อย่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าเทพพรหมบรรษัททั้งหลาย


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียนมาแล้วถ้าไม่ทำก็แล้วไป แต่ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด สำหรับพระขุนแผนที่จะเอามหาบารมีเมื่อทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหาริย์มาใช้นั้น จะทำเล่นๆไม่ได้เลย เพราะพระเจ้าทรงมหาปาฏิหาริย์นั้นจะว่าเป็นเสน่ห์ก็เป็นเสน่ห์สูงสุด ถึงกระทั่งทำให้สามโลกตะลึงงันกับรูปโฉมได้ ไม่เว้นแม้เทพบดีทั้งหลาย มหาพรหมทั้งหลายหรือพระอรหันต์ก็ตามที ท่านว่าเปิดโลกก็คือเปิดทั้งหมด เปิดดวง เปิดให้เห็น ให้ดีขึ้นในทุกทาง

    ท่านจึงนำธาตุกายสิทธิ์มาหลอมหล่อเป็นพระขุนแผนพิมพ์พิเศษนี้ พร้อมกับอธิษฐานจิต อธิษฐานธรรมเสกเก็บเอาไว้ในฤกษ์ยามที่ต้องที่ควร นานนับเนื่องสองปี จนท่านมีดำริกับศิษย์ที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศอินเดียให้เป็นธุระพาท่านไปรัฐอุตตรประเทศในบริเวณที่ตั้งเมืองสังกัสสะนครแคว้นปัญจาละ สถานที่อันพระเจ้าได้แสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่ตาโลก เพื่อจะทำการปลุกพลังจักรวาล ชุมนุมเทพยดา อธิษฐานจิตเชิญอำนาจพุทธบารมีสำเร็จพระพิมพ์เป็นการเฉพาะในสถานที่ที่เชิงบันได้เงินทองแก้วได้จรดพื้นปฐพี ตามที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้บันทึกไว้ว่ามีเชิงบันไดทั้งสามอยู่แม้ขุดลึกลงไปก็จะลึกลงไปถึงเมืองบาดาลแต่เพียงนั้น จนพระองค์ต้องทำอุโบสถคลุมเชิงบันได้ไว้ ก่อนจะล่มสลายหายไปตามกาลเวลาในชั้นหลัง ท่านเลือกทำเงียบๆ เดินทางแต่ผู้เดียวเพื่อความสงบและสงัดของท่านโดยให้ศิษย์เป็นธุระจัดเตรียมสิ่งต่างๆรอไว้ให้ ทั้งนี้ท่านได้พลีมวลสารสำคัญกลับมาด้วย

    ท่านว่าเสกที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่ จะให้สำเร็จให้แรงก็ต้องมาทำตรงนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ท่านเดินทางไปเพื่อสำเร็จพระพิมพ์พิเศษของท่านที่มีดำริว่าทั้งชีวิตนี้คงทำได้เพียงครั้งเดียว เมื่อทุกสิ่งสำเร็จแล้วท่านจึงนำพระพิมพ์ที่เสกไว้มาอุดผงและฝังของมงคลด้านหลัง

    โดยท่านนำมวลสารที่พลีกลับมา นำมาบดเป็นผงเข้ากันกับมวลสารที่ท่านทำไว้แล้วเรียกว่าผงมหาหลงใจขาด เป็นผงมีลักษณะสีเทาดำ ซึ่งท่านว่ากว่าจะได้มานั้นท่านทำได้ลำบากยิ่งนัก เพราะต้องเริ่มกันตั้งแต่เลี้ยงว่าน ดูแลว่านแบบพิเศษทีเดียว โดยใช้ตั้งแต่ดอกไม้ทอง เสน่ห์นางล้อม ว่านจันทร์แดง จันทร์ขาว เครือเถาหลง ดอกบัวแฝด และตัวยาอื่นๆ มาเข้ากับผงมหาปถมัง 9 วรรค ตรีนิสิงเห ผงเสริมดวงชะตา นะปัดตลอดและผงวิชามหาเสน่ห์ทั้งหมด นำมานวดกับดินเจ็ดโป่งปั้นเป็นแท่งอีกทีหนึ่ง โดยนวดเข้ากับน้ำตาหญิงสาวพรหมจรรย์ที่ผสมไว้กับน้ำผึ้งเดือนห้าและน้ำค้างกลางหาว ก่อนจะนำมาลงวิชา"นะเม"อันพิศดารของท่าน และนำผงที่ได้ทั้งหมดมาปั้นรวมกันอีกคำรบหนึ่งเป็นรูปตุ๊กตาชายหญิง เสกให้มีจิตใส่ธาตุปรุงวิชา กำกับด้วยจิตตานุภาพให้ตุ๊กตาชายหญิงเคลื่อนเข้าหากันทีละน้อยๆ จนกอดรัดพันตูไม่แยกออกจากกันในที่สุดเป็นเคล็ดที่ว่าไม่ว่าอยู่ทางไหนก็ต้องวิ่งเข้าหาเรา จะชายก็ดี จะหญิงก็ดี ล้วนแต่เต็มใจรักใคร่ชอบพอในตัวเรา แนบสนิทไม่ห่างไกลแยกกันไม่ออกดุจตุ๊กตาคู่นั่นทีเดียวจึงจะถือว่าสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตุ๊กตานั้นมาบดเป็นผงอีกคำรบหนึ่งเรียกว่าผงมหาหลงใจขาด ท่านว่าที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะมีคุณตามชื่อนั่นเลย คือหลงจนขาดใจนั่นเอง เป็นวิชาทำตุ๊กตาเสน่ห์ที่ท่านประยุกต์มาใช้ทำผงอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าวิชาผูกหุ่นทำตุ๊กตาเสน่ห์เหล่านี้ หากใครทำไม่เป็นก็จะเป็นเดรัจฉานวิชานำไปกระทำกับคนอื่นได้ แต่หากรู้จักทำแล้ววิชาเช่นนี้จะให้เกิดคุณกลายมาเป็นมวลสารที่ทรงพลังเกื้อหนุนค้ำจุนผู้บูชาก็ย่อมได้

    จากนั้น ท่านจึงนำผงที่ได้รับการผสมไว้แล้วมาอุดด้านหลังฝังลงไปด้วยของสำคัญสามสิ่ง
    1. แก้วสารพัดนึก เป็นเพชรเม็ดเล็กๆที่พ่ออาจารย์ได้เคยมอบถวายไว้ให้ครูสายกรรมฐานของท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ตั้งแต่หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น ตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้เมตตาด้วย และยังเอ่ยปากกำชับว่าเป็นเสียยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกแล้ว ไม่มีอะไรให้เสกลงไปทับได้อีกแล้ว พอแล้ว พอแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าแก้วสารพัดนึก ซึ่งเป็นชุดที่ท่านหวงเป็นพิเศษ ท่านได้เมตตานำมาฝังไว้กับองค์พระด้วย ท่านว่าคนเราเสน่ห์อย่างเดียวก็อยู่ไม่ได้ เวลาจะอธิษฐานอะไรให้จ้องที่เพชรนี้ ท่านว่าบอกกล่าวองค์พระและเทวดาข้างในเถิด ขอได้ทุกเรื่อง จะงาน จะเสี่ยงดวง โชคลาภ หาความเจริญ หาความรัก หาสิ่งที่ไม่สมหวังหรือผิดหวังอะไร แต่นี้ไปจะสมดั่งใจนึกเสมอปากคำว่าสารพัดนึกของพระอรหันต์นั่นทีเดียว
    2. ขวดบรรจุผงทวิมหาภูติทองคำ เป็นผงวิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายกับคนใช้ทั้งสองชนิด คือผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม และผงพรายทองคำของหลวงปู่ชื่น ท่านนำผงเพียวๆเลยทั้งสองชนิดฝังลงกันไปให้เห็นๆ โดยไม่ได้นำผงทั้งสองนี้ไปผสมในมวลสารที่อุดด้านหลังแต่อย่างใด หากแต่เลือกที่จะฝังไว้ ท่านว่าเพราะผงมหาหลงใจขาดนั้นลำพังก็แรงเหลือใจน่าดูอยู่แล้ว ยิ่งผงชุดนี้โดยเฉพาะผงพรายกุมารเป็นผงชุดที่หลวงพ่อสาครท่านย้ำให้เก็บไว้ให้ดี เพราะเป็นผงที่ท่านลองวิชาสมัยเรียนกับหลวงปู่ทิมและนำมาผสมกับผงหัวเชื้อหลวงปู่ทิมไว้ด้วย ท่านว่าผงเช่นนี้ไม่เคยให้ใคร พ่ออาจารย์ว่าคนที่ได้ไปนั่นนับว่ามีบุญอย่างยิ่งทีเดียว ผงมหาภูติทั้งสองนั้นไม่ใช่สัมภเวสีหรือพรายทั่วไป แต่เป็นจิตแห่งมหาภูติกึ่งเทวดามีบารมีมาก จึงบนบอกกล่าวได้แรงและเร็วไม่มีอันตรายหรือรบกวนผู้ใด ไม่บดบังชะตาชีวิต ไม่กินตัว ไม่ซ้ำเติมเวลาเราตกต่ำ มีแต่ช่วยกันเท่าที่จะทำได้ยิ่งกว่าเพื่อนรู้ใจคอยให้คุณเราสถานเดียว ซ้ำด้านบนนั้นพ่ออาจารย์ยังนำว่านยามหาเสน่ห์สูตรหงส์ร่อนมังกรรำของท่านที่ท่านแสวงหาไว้บรรจุไว้ด้วย ท่านว่าวิชานี้ถือว่าแรงมาก แรงกว่าทุกสาย ทุกแขนง ถึงขั้นว่าแก้ไขไม่ได้ทีเดียว จึงได้นำไปบรรจุไว้ในขวดให้บูชา ท่านว่าเพียงแค่พกก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดถึงที่สุดแล้ว
    3. ตะกรุดนะเม วิชาตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านลงจารใส่แผ่นเงินเสริมลงไป นอกจากจะเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุดแล้วยังเร่งผลเร่งพลังงานของมวลสารเดิมและสิ่งต่างที่อยู่ในองค์พระทั้งหมดให้เร็วและแรง วิชานะเมนี้ท่านว่ายังเป็นวิชาแก้ทางคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นทั้งหลายด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่กำลังแสวงหา.. คือแสวงหาสิ่งต่างๆทางโลก ไม่ว่าจะความรัก ความมั่นคง โชคลาภ วาสนา คู่อุปถัมภ์ จะลงหลักปักฐาน ทุกสิ่งทุกทาง วิชานะเมนี้ครอบคลุมเรื่องทางโลกเสียทั้งหมด เอาว่าสำเร็จเร็วและแรงตราบใดที่ยังมีความต้องการ ตราบใดที่ยังแสวงหา ยิ่งปรารถนาก็ยิ่งมีผลถึงเพียงนั้น


    จากนั้นท่านจึงนำมาอธิษฐานจิตอีกกว่าขวบปีด้วยวิชาแสนนางล้อม ตลอดจนกำกับวิชาทุกด้านทุกทางใส่ไปจนครบ ท่านว่าทำเต็มที่ มีทุกด้าน ครบรส ขุนแผนของท่านนั้นนอกจากเสน่ห์แล้ว ใช้แล้วโชคลาภมาทุกทาง เงินทองไม่ขาดมือ ท่านว่ากว่าจะสำเร็จได้ต้องนั่งตรวจกันทีละองค์เลย องค์พระนั้นมีวิมานเพชรครอบทุกองค์ มีมหาพรหมจำแลงมารักษาพร้อมบริวารทุกองค์ เรียกว่าองค์นึงนั้นข้างในวิมานอยู่กันแน่นขนัดทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 9 องค์ โดยตัวท่านนั้นได้นำไปพกอาราธนาเองหนึ่งองค์ท่านว่าเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพราะพระเช่นนี้แค่คิดจะสร้างก็ไม่ง่ายเลย และท่านถึงกับออกปากว่ารุ่นนี้แรงนัก ถ้าจะเปรียบพลังงานก็เป็นองค์บรมครูทุกองค์เสมอกัน เช่นนั้นจึงเหลือให้ร่วมทำบุญกันทั้งหมดแปดองค์


    คาถาบูชา
    นะโมพุทธายะ นะสุนะโมโล นะเมติสัมภะโว จิเจรุนิจิตตัง เจตสิกกังรูปัง นิพพานัง ตังนิพพุตัง ทะนะมะพะ ปฐวีธาตุทีฆังวา พะกะสะจะชีวังจะตะติ โอมจิตติจิตตัง จิตมนุษย์หญิงชายทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน เอหิมานิมามา มีจิตมารักกูทุกผู้ทุกคน อุอะมะเกลื่อนกล่นกันมา อะมะอุรักกูอย่าขาด สัพพะรักกู มหารักกู ภวันตุเม


    * พระขุนแผนแสนนางล้อมรักนี้สำหรับผู้ที่จะบูชาให้แจ้งมาเฉพาะทาง PM เท่านั้น พร้อมกับบอกชื่อนามสกลให้พร้อมสรรพ พ่ออาจารย์ท่านจจะเจิมน้ำมันสาริกาป้อนเหยื่อ และอธิษฐานผงอิทธิเจเสน่ห์กลเจิมนมัสการองค์พระให้ทุกองค์ รายได้จากการบูานั้นร่วมสมทบทุนการศึกษา สำหรับเด็กด้อยโอกาศสืบต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2019
  16. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)

    ให้บูชา 2600 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext


    IMG_20190511_143820.jpg IMG_20190511_143841.jpg

    อ้างอิงจาก

    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-12#post-10399614

    นับแต่โบราณกาลสืบมานั้นหากปรารถนาจะสร้างเครื่องมงคลที่มีอิทธิคุณหนักไปทางชุ่มเย็น เห็นผลทาง เมตตามหานิยม เสน่ห์ ลาภผล แคล้วคลาดแล้ว ก็มักนิยมทำเป็นรูปพระภควัมปติหรือพระปิดตากันมาก โดยเฉพาะเจาะจงให้ใช้เนื้อผงมวลสารวิเศษต่างๆเป็นหลักมากกว่าจะใช้โลหะธาตุอื่นๆ กอปรกับความนิยมของพระเครื่องพระปิดตาเนื้อผงของหลวงปู่โต๊ะมีสูงมาก และมีหลายๆคนมักจะถามว่าพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระปิดตาจัมโบ้แบบของหลวงปู่โต๊ะไว้บ้างหรือไม่ ซึ่งท่านก็รับแต่เพียงว่า เราทำไว้ แต่ยังไม่ได้เวลา

    จำเนียรกาลผ่านไป อาหารการกินชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเบื้องหน้านั้น ท่านเห็นว่าคนจะอยู่ได้ยากหากปราศจากวาสนาและลากสักการะนานาทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำรินำพระปิดตาที่ท่านได้บรรจงสร้างสรรค์ไว้ดีแล้วออกมาให้ร่วมทำบุญกัน


    พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)นั้น อุบัติขึ้นจากความตั้งใจของครูบาอาจารย์ โดยครูสมเด็จท่านได้นิมิตสอนพ่ออาจารย์ถึงการทำผงวิเศษที่เรียกว่าผงเปิดวาสนามหาอุดม ซึ่งเป็นผงเปิดวาสนาบารมีเฉพาะทาง โดยพ่ออาจารย์นั้นท่านได้พูดถึงตัวผงเปิดวาสนามหาอุดมว่า คนเรานั้นเมื่อพูดถึงคำว่าวาสนาแล้วเราจะนึกไปถึงคนที่เขาโชคดี มีโชคอยู่เรื่อยๆไม่รู้หยุดรู้หมด คิดว่าคนเช่นนี้คือคนวาสนาดี ซึ่งแท้จริงแล้วเจ้าตัววาสนานี้มันเกิดจากผลแห่งบารมีที่ตนได้กระทำไว้เป็นเหตุให้เกิดขึ้น มิใช่อยู่ดีๆมันจะเกิดขึ้นได้เอง หากแต่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสร้างบารมี เป็นคนมีบารมีมากก็พลอยให้มีวาสนาดีไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่ตัวเราเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่าตัวเองมีบารมีอยู่หรือไม่ แล้วชีวิตทุกวันนี้ในเมื่อมีบารมีอยู่ทำไมกลับไร้วาสนา ทั้งๆที่ทำบุญให้ทานปฏิบัติภาวนามิได้ขาด แต่ทำไมกลับผีซ้ำด้ามพลอยเจอแต่เรื่องแย่ๆไม่เว้นวัน


    ท่านว่าการทำผงเปิดวาสนามหาอุดมนี้ ก็คือผงเปิดโลก ผงที่ใช้เปิดบารมีช่วยให้คนมีวาสนาหลีกเร้นเคราะห์ภัยที่จะเกิดไม่ให้เข้าถึงตัวนั่นเอง ผงเปิดวาสนามหาอุดมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไมต้องมหาอุดม เพราะโบราณจารย์และครูสมเด็จท่านสอนว่ามหาอุดมนั้นก็คือที่สุด สูงสุด เป็นความบริบูรณ์พูลพร้อมในทุกสรรพสิ่งอย่างเลอเลิศ อย่างสูงสุดสมบูรณ์ไม่มีประมาณ ดังนั้นผงเปิดวาสนามหาอุดมนี้ก็คือที่สุดของผงที่ใช้เปิดบารมีให้คนเต็มคน ให้คนกลายเป็นคนที่บริบูรณ์ถึงพร้อมด้วยวาสนาและความโชคดีนานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นผงที่ครูท่านเมตตาสงเคราะห์เพื่อให้ใช้ให้ปรากฏเฉพาะกาล ในเฉพาะยุคสมัยเท่านั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่กระทำได้ยากเพราะสุดท้ายก็ต้องให้เหล่าองค์พระอรหันต์ช่วยกันอธิษฐานบารมีอันเป็นบารมีเฉพาะทางเพื่อให้ผงนี้มีกฤติยาคมสูงสุดแตกต่างจากมงคลสักการะทั่วไป


    พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาเล่าถึงพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะไว้ว่า ในตอนนั้นหลวงปู่ท่านได้มวลสารผงพระเก่าของวัดระฆังและบางขุนพรหมไว้มาก ท่านจึงได้อาราธนาบารมีสมเด็จโต ใช้ผงเก่าที่ชำรุดแตกหักเหล่านั้นมาสร้างพระเครื่องของท่าน จนพระเครื่องของท่านกลายเป็นพระที่มีอภินิหาริย์มากดุจเดียวกัน ดังนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างพระปิดตา ท่านว่าจำเป็นที่จะต้องใช้มวลสารเก่าของครูสมเด็จผสมด้วยผงวิเศษทั้งห้าประการเป็นผงตั้งต้น นอกจากนั้นแล้วเพื่อให้ได้อานุภาพสูงสุดตามแบบอย่างพระปิดตาที่ควรจะมีท่านจึงได้ลบถมผงวิเศษอีกสองชนิดเป็นการเฉพาะ ถึงอย่างละ 108 หน ประกอบด้วย
    - ผงยันต์มหาละลวยตัวเต็ม พ่ออาจารย์ว่าผงนี้เมื่อลบถมต่อเนื่องกันถึง 108 ครั้ง ซึ่งเป็นการลบผงที่กระทำได้ยาก ส่งผลให้ผงนี้มีอานุภาพมากเกินกว่าจะบรรยายได้ ท่านว่าพูดกันสามวันก็ไม่จบ โดยปกติแล้วผงนี้จะมีคุณมากท่านว่าแค่เศษผงหากได้พกพาอาราธนาแล้วจะช่วยยกสง่าราศีทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักของคนทั้งหลายไม่ว่าจะชายหรือหญิง ใครไม่รู้จักก็อยากเข้ามาหาเข้ามาทำความรู้จักเรารักเราดุจพี่น้องร่วมสายโลหิต ซ้ำยังเป็นตบะเดชะดีนักช่วยให้คนเกรงใจเรามีอำนาจดังพระยาราชสีห์เวลาจะทำอะไรก็ไม่ขัดใจเป็นทั้งเมตตาและมหาอำนาจประสานกันอยู่ในที และยังกันกระทำกันภัยอันตรายด้วยประการทั้งปวง ท่านว่าอธิบายได้คร่าวๆเท่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีอานุภาพมากถึงกับกล่าวได้วาหากใครได้พบ นับว่าเป็นบุญวาสนาของบุคคลผู้นั้น แม้จะมีชีวิตอาภัพมาจากไหนก็ตาม นับจากนี้ไปจะไม่รู้จักคำว่าอาภัพเลย

    - ผงยันต์สุกิตติมา พ่ออาจารย์ท่านได้ทำการลบถมถึง 108 หนเช่นเดียวกัน ท่านว่าบางที่ก็เข้าใจผิดว่าเป็นยันต์มหาละลวย เนื่องจากมีคุณด้านมหาเสน่ห์อย่างโดดเด่นนี่เอง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ดีนักไม่ดีจริงไม่ใช้สืบกันมาตั้งแต่พระสังฆราชแพแน่นอน ท่านว่ามีคุณทางเมตตาอย่างเอก ถึงกับปรารถนาให้สตรีใดมาหาเราเขาก็จะมาหาเราดังปรารถนา แม้มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งครอบครัวไม่ลงรอยกันก็จะคืนดีกันโดยไวนี่คือเมตตาอย่างเอกถึงขนาดที่ว่าทะเลาะกันอยู่ก็เปิดปากด่ากันไม่ลง นอกจากนั้นแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ยังมีดีทางหนุนดวงชะตาด้วยพลิกดวงกลับจากร้ายให้กลายดีแบบเชื่อขนมกินได้ ซ้ำเมื่ออาราธนาติดตัวไว้ ด้วยอำนาจของคุณวิชาพ่ออาจารย์ว่าผงนี้ยังจะช่วยขับไล่ปัดเป่าเสนียดจัญไรออกไปพ้นจากร่างกาย พ้นจากชีวิตทีเดียว


    เมื่อท่านได้นำผงมวลสารทั้งหมดมาผสมกันแล้ว ท่านยังได้ผสมผงเกษรว่านและดอกไม้มงคล ตลอดจนผงคตวิเศษและน้ำมันจากบูรพาจารย์ต่างๆนวดหมักไว้กับเนื้อพระ ก่อนจะกดพิมพ์องค์พระขึ้นมา ซึ่งพระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้พิถีพิถันในการเสกมาก เพราะเป็นพระที่ใช้เกี่ยวกับเรื่องเปิดบารมี ต้านทานผลกรรมและกฏแห่งกรรมทั้งหลาย ท่านว่าทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจึงมีรายละเอียดมาก ทั้งต้องอาราธนาเสด็จพระใหญ่ และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่มีประมาณในจักรวาลแสนโกฏิมาช่วยกันคุมพิธีไหนจะองค์อรหันต์และเทพพรหมมากมาย


    ซึ่งองค์พระปิดตานั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังอิทธิมงคลศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดลงไปด้วย ได้แก่
    - พญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือ พ่ออาจารย์ท่านได้นำรังต่ออาถรรพ์ที่ท่านพลีมาตามวิธีการของท่าน มากดเป็นพยนต์ต่อหัวเสือ เพื่อที่จะฝังในพระปิดตาโดยเฉพาะ ท่านว่าคุณปกตินั้นต่อจะเปิดทางโชคลาภวาสนาบารมีให้กับผู้บูชาอยู่แล้ว ทั้งต่อเงินต่อทอง ต่อโชคลาภวาสนาบารมีต่างๆ แต่พญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านใช้วิชาผูกหุ่นพยนต์เป็นกฤติยาคมแฝดด้วย ดังนั้นตัวต่อนี้ยังคอยปกป้องรักษาดูแลเจ้าของดุจทาสผู้ซื่อสัตย์ แม้ใครมารังแกหรือทำร้ายเราท่านว่าเค้าจะได้ผลกลับคืนสนองไปในสิ่งที่ตัวเองกระทำ พ่ออาจารย์ท่านว่าดูอย่างตะกรุดมหาสะท้อนนั่นเป็นไร เพียงแค่อาถรรพ์แห่งคุณวิชาก็ให้ผลปานนั้นแล้ว แต่นี่คือหุ่นพยนต์ที่มีชีวิตจิตใจ ท่านว่าก็คิดเอาเองแล้วกันว่าเค้าจะตอบสนองขนาดไหน ซ้ำยังช่วยเราได้หลายเรื่อง วันไหนติดขัดอะไร ให้ตั้งนึกถึงเจ้าตัวต่อนี้ให้ดี บอกเค้าไปว่าต่อโชคให้พ่อหรือแม่ทีสิ ต่อวาสนาให้พ่อหรือแม่ทีสิ คือจะทำอะไรที่คิดว่ามันหมดมันไปต่อไม่ได้แล้ว ให้อธิษฐานกับเค้า เดี๋ยวทางจะมา ไม่หยุดไม่หมดและจะได้ต่อออกไปเรื่อยๆ ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านพูดติดปากเกี่ยวกับตัวต่อนี้ว่าได้แล้วได้อีกทีเดียว ท่านว่าคนเราส่วนใหญ่มีหลายประเภท มีทั้งที่ไม่เคยได้รับเลยก็มี หรือที่ได้แต่พอได้แล้วจะตันก็มี ดังนั้นท่านจึงผูกพญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือขึ้นมาเป็นการเฉพาะท่านว่าสิ่งนี้ใช้แก้ทางกัน ซ้ำท่านได้อธิษฐานบอกกล่าวท้าวทั้งสี่ตลอดจนเทพยดาอันจำแลงเป็นตัวต่อนี้ให้คอยช่วยเหลือต่อวาสนา ต่อลาภผล ต่อสิ่งที่ดีทุกประการให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลออกไปไม่รู้หมด ท่านว่าสิ่งใดดีกับเขาก็ให้ต่อสิ่งนั้นออกไปเรื่อยๆเขาจะได้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต ให้ชีวิตเขาได้แล้วได้อีกไม่รู้หมดรู้พอนั่นเอง
    - ลูกอมหัวใจแม่นางฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาลบผงมหาเมตตาขั้นสูงเป็นการทำลูกอมที่ให้ผลด้านเสน่ห์เมตตาอย่างเอก โดยท่านว่าจะเรียกลูกอมหัวใจแม่นางฟ้าหรือได้นางฟ้าก็ได้ ท่านว่าเรื่องนี้เราไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ แต่เอาเป็นว่าให้เข้าใจตรงกันคือ แม้ใครไร้คู่ก็จะได้คู่ครองที่ดี เอาว่าผลมันออกมาตามเจตนาพื้นฐานของจิตใจคนใช้ หากมีคู่อยู่แล้วก็จะช่วยให้ได้อยู่ในสังคมที่ดี ได้เจอคู่เจรจาหรือเพื่อนร่วมงานที่ดี ท่านว่ามันเป็นพลังอาถรรพ์แปลกๆที่จะทำให้เราเจอแต่คนดีๆทำให้ชีวิตเรา ทำให้เราเจริญขึ้น เป็นวิชาอาถรรพ์วิชาหนึ่ง ท่านว่าจะใช้ทางเสน่ห์ชู้สาวก็ได้ หรือจะใช้ทางเมตตาเขาหาคนเพื่อจะเจราจาก็ได้
    - ตะกรุดเปิดขุมทรัพย์ เป็นวิชาที่ท่านลงตะกรุดฝังไว้ด้านหลังองค์พระหนึ่งคู่ ท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะอักขระเลขยันต์นั้นล้วนมีความสัมพันธ์กับดวงดาว เป็นวิชาที่จะเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนวิถีดวงชะตาของคนอย่างแท้จริง ท่านว่ามันจะดึงจะดูดสิ่งดีๆให้เข้ามา ถ้าใครหวังจะเอาดีทางโชคลาภก็จะได้ตามนั้น บังเกิดโชคลาภอยู่เนืองๆมีความเจริญในลาภสักการะ ท่านว่าทำยากกว่าจะสำเร็จเพราะต้องเสกถึงยี่สิบเอ็ดศุกร์ หกอาทิตย์ สิบห้าจันทร์ แปดอังคาร สิบเจ็ดพุธ สิบเก้าพฤหัสทีเดียว
    - ตะกรุดแฝดหัวใจมหาเวสสันดร พ้ออาจารย์ท่านว่าพระเวสสันดรคือพระผู้มีแต่ให้ มีสมบัติจักรพรรดิ์ใครขออะไรเป็นยกให้เขาหมด ท่านว่าท่านลงเอาไว้ให้เป็นตะกรุดที่ฝังด้านหน้าองค์พระ เพื่อให้ผู้ขอได้รับในทุกสิ่งๆตามแต่ที่ขอที่ปรารถนากัน แม้ว่าจะขอทรัพย์ขอสิ่งใดๆก็ตามทีจากองค์พระก็ให้ได้รับสิ่งนั้นสมความปรารถนาตั้งมั่นดุจดังว่าเราได้ขอกับพระเวสสันดดรมหาโพธิสัตว์เมื่อปางก่อนนั้นทีเดียว ท่านว่าขอได้ทุกสิ่งแม้แต่ลูกในอกท่านก็ยังให้
    - ทับทิมเสกหลวงปู่ดู่ พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ตรงพุงพระภควัมปติ ท่านว่าเป็นเคล็ดให้คนที่ร่างกายหรือชีวิตนี้ยังไม่มีสมบัติหรือทรัพย์สินใดๆติดตัว หรือมีแล้วก็ยังไม่พอไม่เสมอใจไม่เท่าเทียมใครเขา ท่านว่าตอนฝังนี้ท่านสวดคาถาเรียกลาภยัดไปด้วย ถือเคล็ดที่ว่ามีเพชรเต็มพุง มีคลังสมบัติมหาศาลอยู่กับตัวอยู่ในร่างกายใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดเพราะมันเป็นของติดตัวติดกายเราเช่นนี้แก้อาถรรพ์ชีวิตที่ยังไม่มีไม่ได้ของทุกคนอยู่ในตัวเองด้วยอำนาจบารมีของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด


    พ่ออาจารย์ท่านเสกพระปิดตามานานหลายปี ทั่งเชิญครูส่งครูและประกอบพิธีต่อชะตาสืบชะตาท่านว่าเสกจนมั่นใจว่าเต็มแล้วไม่มีที่ให้ลงอะไรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมาบูชา


    คาถาบูชา
    สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา วะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) ไว้ทั้งหมด 9 องค์ จะเปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านใดที่จองให้แจ้งชื่อนามสกุลมาด้วย ท่านจะเจิมองค์พระด้วยพระคาถาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้สมทบทุนวิหารทานในวัดทุรกันดารต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2019
  17. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    จิ้งจกเก้าหางมงคลโสฬสเก้าโกฏิพญาฟันดะ(ปลดหนี้กรรม ฟันลูกเดียว)

    ให้บูชา 4000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190511_143553.jpg IMG_20190511_143620.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-19#post-10755964

    กรรมนั้นเป็นเหมือนเงา ยิ่งหนีก็จะยิ่งติดตาม ยิ่งพยายามหลบเลี่ยงมันก็จะยิ่งวิ่งเข้ามาหาเรา ด้วยประจักษ์รู้ดีเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงแผ่นจารอักขระด้วยวิชาชุดหัวใจพระเจ้าอันจะใช้ปลดหนี้กรรมรวมถึงปิดอบายภูมิโดยเฉพาะก่อนนำไปหล่อหลอมสร้างจิ้งจกเก้าหางมงคลโสฬสนี้

    จำกันได้หรือไม่ที่พ่ออาจารย์ท่านเคยเจอจิ้งจกเผือกหางใบโพธิ์ หางทั้งเก้ากางออกมาสวยงามถึงเก้าหางมาหลายวาระแล้ว ท่านว่าแต่เดิมนั้นเขาเป็นร่างจำแลงลงมาคอยสังเกตุดูศิษย์ขององค์ท้าวสหัมบดีบรมพรหม จะจิ้งจกที่ไหนก็ช่าง แต่ของท่านนั้น ท่านว่าเป็นจิ้งจกมหาพรหม ด้วยลงไว้เป็นสองลักษณะทั้งเชิญท่านมาและลงวิชาจิ้งจก พ่ออาจารย์ท่านว่าเชิญพระองค์ท่านและขออานุภาพท้าวสหัมบดีบรมพรหมให้นิรมาณกายมาช่วยเหล่าศิษย์ มีจิ้งจกนี้ก็เหมือนอยู่ในสายพระเนตรของท่านเพราะเขาเป็นตัวแทนความรักความห่วงใยของท่าน ที่จำแลงกายคอยมาสอดส่อง ซ้ำยังมีกินไม่อดอยาก มีเสน่ห์เมตตาอย่างยิ่งตามสายวิชาจิ้งจก

    พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อจิ้งจกด้วยธาตุกายสิทธิ์ ทั้งวัชรธาตุ หยาดน้ำฟ้าและปรอทเข้ากับวิชาอักขระหัวใจพระเจ้าโดยเน้นให้มีดีจากข้างในสามารถปลดหนี้กรรมปิดทางอบายภูมิได้ ทั้งครูพรหมท่านยังกำชับไว้แต่เริ่ม ว่าจิ้งจกของเราต้องให้ท่านทำตะกรุดมหาลาภเก้าโกฏิฝังไว้ด้านหน้าบริเวณปากถึงท้อง หมายความว่าวิชานี้จะดึงดูดลาภมากมายเข้าสู่ปากเราตกถึงท้องเราให้อิ่ม ให้มี ให้เสพย์อยู่ตลอดเวลาไม่มีวันจางหาย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้นับเป็นธรรมขั้นสูง เมื่อนำมาทำของมงคลจะนำความเจริญรุ่งเรือง นำพาโชคลาภโภคทรัพย์มาให้ แม้พกติดตัวไว้ไปค้าไปขายก็จะได้กำไรดี อาราธนาเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคก็ได้ลาภมั่งมีเป็นกอบกำ จะมีชีวิตถึงขั้นเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีมีเงินใช้ไม่ขาดมือ ทั้งพลิกดวงชะตากลับร้ายกลายเป็นดีพลิกความจนให้เป็นความมั่งมี ทั้งยังหนุนดวงชะตา ใช้ค้ำชูชะตาหนุนดวงชะตาให้เจริญยิ่งขึ้นไปตลอดไม่มีวันตกต่ำ ท่านได้ยกขันคายคือขันห้า ขันแปด ผ้าแดง,ผ้าขาวยาวศอก,เทียนพันเล่ม ท่านว่ามีสูตรการลงด้วยเมื่อแต่งขันคายแล้วให้พินทุแผ่นจารทีละแผ่น จากนั้นก็ให้ลงโดยใช้สูตรแปดทิศาและสิบหกทิศา โดยกำหนดยามแต่ละยามและเป่าคาถาหันไปตามทิศนั้นก่อนลงอักขระพระคาถาวิชาพระเจ้าอุดมทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ลงยากเพราะเป็นวิชาธรรมในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยท่านได้นำมาไหว้ครูเชิญครูตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม รวมไปถึงพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลาย โดยจารลงถมด้วยคุณธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งสามสิบแปดประการ ซ้ำลงเรียกลาภ เร่งลาภ ดึงลาภ หนุนทรัพย์ในดินหนุนกำลังพระธรณี พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเชิญพระแม่ธรณีมาทำวิชาด้วย ตราบใดที่ยังมีแผ่นดิน ตราบใดที่เท้ายังเหยียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน ที่จะรู้ยากรู้จน ที่ว่าไม่อุดมด้วยทรัพย์สินและโภคสมบัตินั้นเป็นไม่มีทีเดียว และด้วยอานุภาพของพระแม่ธรณีนี้ ตะกรุดนี้ยังมีพุทธคุณแฝงอีกด้วย แม้นว่ามีผู้ใดมุ่งร้ายมีจิตพยาบาทอาฆาตเรา หากเขาอยู่บนแผ่นดินของแม่ธรณีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้เลย คนจะรวยจะเก่งแล้ว หากโดนสะกัดดาวรุ่ง โดนรังแก โดนให้ร้ายมันก็ไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เช่นนี้ท่านจึงทำวิชาให้เกิดขึ้นพร้อมกัน ท่านว่าจะได้ไม่ประสบปัญหาจนชีวิตไม่สามารถก้าวและกระโดดต่อขึ้นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าใครได้รับไปนับว่าโชคดีอย่างยิ่งเพราะวิชานี้เสด็จพระใหญ่ท่านกำชับมาว่าเป็นของจริงไม่มีวันเสื่อม ตราบใดที่พระเวทย์พระธรรมยังดำรงค์อยู่ในอนันตจักรวาลนี้ ตราบใดที่ธรรมอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายยังไม่เสื่อมลง ตราบใดที่จิตยังตั้งมั่นตระหนักในพระรัตนตรัย ธาตุธรรมอันเป็นธาตุตั้งต้นแห่งคุณวิชาย่อมไม่มีวันตกลงหรือเสื่อมจากจิตเราและจะคงอยู่กับเราเกื้อหนุนเราไปตลอดฉันใดก็ฉันนั้น ท่านว่านอกจากเป็นยอดของมหาลาภแล้วยังใช้ได้ครอบจักรวาล เมื่อทำตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านต้องสำเร็จด้วยบารมีสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยตามตำรา ด้วยท่านเป็นผู้ที่จะนำพาปุริสัทธรรมมาทุกห้องทุกไตรสู่มวลมนุษย์แลสรรพสัตว์น้อยใหญ่ในอนาคตกาล ***จุดนี้ท่านว่าอย่าปรามาสว่าเป็นตะกรุดดอกเล็ก เพราะทำยากมากเป็นของสูงค่า ท่านว่าเราทำให้ใช้กันแค่หนเดียวต้องคนที่มีบารมี มีความสัมพันธ์กับสายวิชาครูบาอาจารย์แต่โบราณเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้พบเจอและครอบครอง

    นอกจากนี้ในส่วนบริเวณหางครูพรหมท่านยังกำชับไว้ให้ฝังอาถรรพ์ด้วย "ดาบตัดกรรม" เมื่อท่านจะทำนั้นท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อน ว่าจะทำเครื่องรางให้เขารวยเพียงเท่านั้นมันคงไม่พอ เพราะถ้าจะรวยต้องต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วย ไม่เช่นนั้นเครื่องรางก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรม จำต้องทำเครื่องสูงที่มีอานุภาพส่งผลโดยตรงกับกรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงมาพิจารณาว่าจริงแท้ทีเดียว เครื่องรางประเภทดาบหรือพระขรรค์ที่สร้างได้ถูกต้อง ปลุกเสกมาดีนั้น ย่อมมีอานุภาพสูงสามารถใช้ริดรอนกรรมเก่าได้ เพราะเป็นของสูงใช้ผ่าใช้ตัดได้ทุกสิ่งและสำเร็จด้วยพุทธคุณ เป็นไปด้วยพุทธานุภาพและพรหมานุภาพ เมื่อท่านพิจารณาเช่นนี้แล้วจึงคิดว่าจะทำไว้เสียครั้งหนึ่ง โดยได้ใช้ไม้ตะเคียนฟ้าผ่าที่แรงและเฮี้ยนเข้าตำรามาแกะดาบไว้ ท่านว่าดาบนี้ต้องเก่งและต้องใช้ได้ดีมากทำตามตำราทุกอย่าง โดยท่านเสกตามตำราพิชัยสงครามประจุคุณจนเต็มทีละเล่ม ท่านว่าทำทั้งที่ต้องให้ดีที่สุด ลงด้วยวิชาลงเครื่องสูงลงตามเครื่องพิชัยสงครา, สำหรับถวายเจ้านาย เป็นพระแสงดาบที่ใครได้ครองไว้ ไม่ใช่จะมีแต่บุญ ยังต้องยิ่งด้วยบารมีที่สั่งสมมามากจึงจะได้พานพบและครอบครองได้ เมื่อได้ดาบตัดกรรมแล้วท่านได้เชิญครูพรหมขอเมตตาให้ท่านลงประสิทธิ์ให้อีกวาระหนึ่งด้วย

    ดาบนี้ก่อนที่จะฝังท่านยังนำมาแช่อธิษฐานจิตในน้ำล้างดาบสังหารของเพชรฆาต ท่านว่าเอาอาถรรพ์เคล็ดวิชาที่ใช้คร่าชีวิตคนได้จริง ด้วยชีวิตก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุด ถือว่าดาบนี้พิฆาตได้แม้กระทั่งสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์ ดังนั้นสิ่งมีค่าอื่นใดยิ่งไปกว่านี้ย่อมไม่มี ดาบนี้เป็นดาบฟันดะ ฟันลูกเดียว มีอะไรฟันเข้าเราหมด กอบโกยไว้หมดไม่เหลือให้ผู้อื่น ท่านว่าอธิษฐานจิตดีๆเวลาจะใช้จะเอาอะไรอยากได้อะไร อยากได้คนก็นึกถึงหน้าเขาเอาดาบฟันไป อยากได้โชคลาภจะเสี่ยงดวงก็มองไปที่หน้าเขาจินตภาพว่าเราเอาดาบฟันไป จะเจรจางานใหญ่ทำสิ่งสำคัญก็เหมือนกันท่านว่ามองหน้าเขาคิดว่าเราเอาดาบฟันไป อาถรรพ์คุณวิชาได้ลูกเดียวฟันลูกเดียวเป็นแบบนี้ดาบนี้ฝังไว้เป็นอาถรรพ์ที่หางจิ้งจกตามโองการครู ถือว่าเขาอยู่กับเราแล้วเวลาที่เขายกหางตีหรือฟาดฟันสิ่งใด ยังเท่ากับตัดและริดรอนผลกรรมให้เราด้วยอาถรรพ์แห่งไสยเวทย์ ทั้งยังเปิดช่องทางทำกินเปิดโอกาสชีวิตคนได้ด้วยคตินี้



    เมื่อจะเสกให้สำเร็จท่านได้นำว่านจิ้งจกทอง รากหญ้าตีนจิ้งจก กาฝากไม้กาหลง ไม้ดอกรัก ไม่ขนุน ไม้มะนาว ไม้คูณ ว่านดอกหอม ช้างผสมโขลง ดอกทอง เศรษฐี มหาโชค น้ำมันกะลาตาเดียว น้ำมันว่านไก่แดง ไก่ดำ น้ำมันชะมดเชียง นำมาเคี่ยวรวมกันจากนั้นแยกชนิดไว้เคี่ยวต่อด้วยสังขารจิ้งจกเดี่ยว จิ้งจกสองหัว จิ้งจกสามหัว จิ้งจกสองหาง จนถึงเก้าหางเป็นที่สุด หลังจากนั้นจึงนำจิ้งจกที่หล่อไว้ลงชุบตัวเสกในน้ำมันทีละชนิดจึงจะสำเร็จ ท่านว่าไม่ง่ายเลยกว่าจะทำน้ำมันสูตรต่างๆเหล่านี้และนำมาชุบทีละตนค่อยๆเสกไปจนสำเร็จ

    โดยปกติแล้ววิชาจิ้งจกเก้าหาง ท่านจะปลุกเสกเน้นให้คนใช้อธิษฐานได้สมดั่งใจดุจมีแก้วสารพัดนึกมีดีทุกอย่างจะทำอะไรก็เห็นผลทันตา ที่สำคัญท่านว่าหางทั้งจะปัดแกว่งไกว ยก ดีด ให้ท่านเจริญก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มีพลังแฝงดึงดูดลาภแบบทวิทวีทำอะไรมักจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจกว่าปกติถึงสองเท่า ทั้งคุณของวิชายังเด่นทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์สาวรักสาวหลง ได้รับเมตตาความรักช่วยเหลือเกื้อกูลจากบุคลคลรอบข้าง แม้ค้าขายทำมาหากินก็ดี หรือจะประสานงานเจริญไมตรี ผูกไม่ตรีทำกิจการกับผู้ใดท่านว่าล้วนคล่องตัวทั้งสิ้น แม้จะใช้ไปในทางเสี่ยงโชค เสริมดวง ก็ทำได้สารพัดท่านว่าวิชาจิ้งจกนั้นคนใช้เป็นนี่เล่นพนันได้ทุกชนิดเลยจริงๆ

    ทั้งนี้จิ้งจกเก้าหางของท่านยังมีฤทธิ์เป็นเยี่ยม สามารถขอได้ บนได้ ให้สำเร็จสมประสงค์ไม่มีข้อห้าม พ่ออาจารย์ท่านสร้างจิ้งจกเก้าหางด้วยหัวใจมหาพรหมโดยเฉพาะทั้งอธิษฐานจิตหยุดอยู่เพียงณานโลกีย์(ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมาก อะไรจะผิดจะถูกจิ้งจกช่วยได้ทั้งสิ้นไม่ติดคุณธรรมความดีแบบเทพพรหมทั้งปวง) เพื่อให้เป็นจิ้งจกที่แรงและขลังยิ่งกว่าสายไหนๆท่านว่าครูพรหมทำให้ถือว่าสูงสุดแล้วในสายวิชาจิ้งจกมหาบารมี ท่านว่าปลุกเสกจนมีเสียงร้องดังออกมาจากจิ้งจกเก้าหาง ตลอดทั้งมีจิ้งจกวิ่งมาจากทั่วสารทิศเต็มพิธีไปหมดแสดงให้เห็นว่าท่านเสกจิ้งจกถึงวิชาแน่นอน

    ในชีวิตของคนเรานั้นมีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง สิ่งที่มนุษย์ขาด ทั้งวาสนา โชคลาภ บุพเพสันนิวาส การงาน การประกอบอาชีพ การดำรงค์ชีวิต ทุกอย่างท่านว่าล้วนแต่มีปัญหาร้อยแปดพันประการทั้งนั้นแต่จิ้งจกหัวโจกนี้เขาย่อมเปลี่ยนปัญหาให้เป็นเรื่องไม่คาดฝัน เป็นสิ่งดีๆที่ทำให้เราปลื้มปิติเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งสิ้น

    และนอกจากนั้นชีวิตคนนั้นมักจะต้องอาถรรพ์ติดตัวมามากมายและอาถรรพ์เหล่านี้ก็ไม่มีวันเสื่อมหรือหมดไปด้วย เพราะคนเรานั้นต้องเดินทางไปเหยียบไปทับไปรับอาถรรพ์รับเสนียดในสถานที่ต่างๆเสมอๆ มักจะติดเสนียดติดอาถรรพ์จากสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะที่ดิน บึง บ่อ ท่อ ทางทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงลงกำกับมนต์แก้ธรณีสารในจิ้งจกไว้ ด้วยตั้งใจสร้างให้ไปตั้งตัวกัน ท่านจึงลงวิชาอันจะผลาญทำลายอาถรรพ์ในพื้นแผ่นดินทั้งหลายเสนียดจัญไรทั้งปวง แก้คุณไสย ผี พราย มนต์ ยาสั่ง ท่านว่าทำให้ครบหมดแล้ว

    วิชาจิ้งจกพรหมนี้หลังจากมีคนนำไปใช้แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าภายหลังครูพรหมท่านลงมาขอว่าอย่าได้ทำอีก ให้ทำเต็มอาถรรพ์วิชาเช่นนี้เพียงครั้งเดียวเพราะว่ามันแรงเกินไป ถ้าตกไปอยู่ในมือผู้ที่ไม่มีคุณธรรมน้ำใจแล้วจะทำให้เกิดโทษแก่ผู้อื่น ซึ่งท่านก็รับว่าจะทำเพียงครั้งเดียวเพราะทั้งของฝังและการเสกจนสำเร็จวิชาจิ้งจกนั้นทุกอย่างไม่ง่ายเลย มีขั้นตอนมากและยุ่งยาก แค่มานั่งเคี่ยวน้ำมันทีละสูตร นำมาชุบแช่ทีละตัวเรียงไล่ไปจนครบน้ำมันทุกชนิดนี่ก็ลำบากแล้ว

    - ข้อสังเกตุเวลาบูชา เมื่อได้บูชาจิ้งจกมเก้าหางนี้ ต่อเมื่อได้ยินเสียงจิ้งจกร้อง โดยในสถานที่บริเวณนั้นไม่มีจิ้งจกปรากฏอยู่เลย…ท่านว่าอย่าตกใจไป นั่นแสดงว่าตัวท่านกำลังจะมีลาภใหญ่เข้ามาแล้ว***อาราธนาห้อยเอวหรือพกต่ำกว่าเอวย่อมได้ทั้งสิ้น

    ***เลี้ยงจิ้งจกอย่างไร
    - จิ้งจกของพ่ออาจารย์นี้ท่านว่าให้เลี้ยงด้วยน้ำผึ้ง เปลี่ยนให้เขาทุกวันพระ แม้จะอาราธนาติดตัวเวลาเลี่ยมก็ควรจะเจาะรูเพื่อหยอดน้ำผึ้งให้เขากินด้วย ท่านว่าน้ำผึ้งหยดเดียวที่จิ้งจกเลียย่อมนำมาซึ่งความโกลาหลวุ่นวาย แต่หากนี่เป็นจิ้งจกพรหม น้ำผึ้งเพียงหยดนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภและสิ่งดีงามอย่างโกลาหลมืดฟ้ามัวดินทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ทางรักหรือทางหากินก็ระวัง อย่าไปเลี้ยงเขามากแค่พอประมาณเดี๋ยวจะเหนื่อย
    - จิ้งจกของท่านให้เลี้ยงด้วยไข่เจียว ถ้าจะบนอะไรไม่ต้องไปนึกอะไรมาก คิดอะไรไกล ท่านว่าเขาชอบแบบนี้ เวลาได้ลาภหรืออธิษฐานอะไรสำเร็จฉีกไข่เจียวใส่ถ้วยเล็กๆไหว้เขาก็ได้ หรือเวลาต้องการจะบนอะไรเขาก็บนด้วยไข่เจียวไปเลยก็ได้ ท่านว่ามันเลี้ยงง่ายแต่ให้คุณมาก


    คาถาบูชา
    อะอิอะมะ อะมะอะอิ อะอิจะหัง อะมะสวาหะ เอหิอะมะ ปิยะธิกา มานิมานะ นะมะพะทะ ทะพะนะมะ มีเคล็ดอยู่ว่าเมื่อเราว่าคาถาจบแล้ว ต้องทำเสียง "จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ " ตามไปด้วย พร้อมกับเคาะเบา ๆ ที่ตัวจิ้งจก
    จิ้งจกศัตรูพ่าย ภาวนาว่า ทมอึ ทมอือ อย่าอึ นะมะพะทะ ทะพะนะมะ


    รับจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ทานสร้างจิ้งจกหัวโจกไว้ทั้งหมดเก้าตัว แต่มีให้ร่วทำบุญเพียงห้าตัว ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะผูกชะตาให้ผู้ใช้เป็นนายจิ้งจกพรหมอย่างสมบูรณ์ท่านว่าเพื่อประโยชน์เกื้อกูลใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นซึ่งกันและกัน รายได้สมทบทุนวิหารทานสืบไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2019
  18. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    เหรียญหล่อมหาพรหมแปลงรูปวิชาคาดสังวาลย์(พ่อฟ้าฟื้น)

    ให้บูชา 4100 บาท

    IMG_20190509_202829.jpg IMG_20190509_202848.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมท...้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-3#post-9739768


    ในอดีตแต่โบราณกาล พระมหาเถระผู้ทรงคุณยิ่งใหญ่ ซึ่งพ่ออาจารย์ได้สืบสายวิชาของท่านเเละได้กล่าวถึงท่านบ่อยที่สุด นั่นคือหลวงปู่ผู้เฒ่ายิ้ม แห่งวัดหนองบัว ด้วยสรรพศาสตร์ สรรพวิชาของท่านทั้งหลายล้วนเป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ต้องอาศัยขั้นตอนกระบวนการเเละฤกษ์งามยามดี ยากนักที่จะกระทำได้ในปริมาณมากและจะมีใครกระทำสำเร็จได้

    และนี่ก็เป็นอีกปฐมบทหนึ่งที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ เพื่อประกาศกิตติคุณแห่งบรมครูเฒ่าหลวงปู่ยิ้ม

    ด้วยพระเวทย์วิชาการทำตะกรุดมหาสังวาลย์พิศดารของหลวงปู่ยิ้ม ในอดีตกาลจวบจนปัจจุบันนั้นอาจกล่าวได้ว่า แทบไม่มีผู้ใดเลยที่จะกระทำ ไม่เพียงมหาสังวาลย์นี้ให้คุณมากมีพลังเเละพุทธคุณเป็นเอก ล้ำลึก และพิศดาร ที่ว่ายากนั้น ก็คงเพราะขั้นตอนในการทำซับซ้อนและมีวิธีทำยุ่งยากทีเดียว

    ตะกรุดมหาสังวาลย์พิศดารตำรับหลวงปู่ยิ้มนั้น มีวิธีการทำดังนี้
    - พ่ออาจารย์ต้องนำเเร่เงินบริสุทธิ์ที่เสกสะสมมา ด้วยมีความเชื่อว่าแร่เงินนั้นเป็นแร่ชนิดหนึ่งที่ประจุพลังจิตตานุภาพได้ดี หากได้รับการลงอาคมจะมีอาถรรพ์มาก เป็นที่เกรงกลัวของสิ่งที่มองไม่เห็นและพลังงานด้านลบ ท่านได้นำเเร่เงินนี้ส่งไปรีดเป็นแผ่น
    - หลังจากนั้นจึงมาทำการลงถมแผ่นเงิน ด้วยยอดยันต์ที่ใช้ลงถมเครื่องคาดเครื่องสูงตำรับถวายพระเจ้าอยู่หัวในอดีตกาลที่หาผู้กระทำมิได้ หลังจากนั้นท่านจึงค่อยๆลงถม ลงเต็มก็ถูลบลงใหม่ (ใช้เวลานานหลายปี)
    - จากนั้นจึงนำแผ่นเงินนี้ไปเผาไฟด้วยถ่านเเละเชื้อเพลิงที่มาจากว่านยาตามตำราโดยเฉพาะ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ไหม้ไฟมีอิทธิคุณตรงตามตำราจึงได้นำมาทำตะกรุดมหาสังวาลย์พิศดารตำรับหลวงปู่ยิ้ม


    ซึ่งแผ่นเงินนั้นมีปริมาณน้อยนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าจะลงดอกใหญ่เช่นสมัยหลวงปู่ยิ้มก็กลัวจะไม่ทั่วถึงกัน เพื่อให้สมกับคำว่าสังวาลย์พิศดาร ท่านจึงกระทำโดยพิศดาร กล่าวคือลงจารในดอกเล็กๆ โดยท่านใช้สมาธิจิตสูงมากกว่าวิธีอื่นเพราะต้องลงจารเต็มสูตรพระยันต์แต่ละดอกซึ่งไม่ใช่อักขระน้อยๆเลย ท่านทำการบีบเเละทำให้โดยเมตตา เมื่อได้เเต่ละยันต์ก็ใส่พานไว้ทั้งหมด 16 ชุด 4พาน แยกกันเสกในแต่ละด้าน ก่อนนำมารวมกันเเละเชิญหลวงปู่ยิ้มท่านลงมาสำเร็จ ท่านทำเพื่อบูชาคุณวิชาแห่งหลวงปู่ผู้เฒ่ายิ้มจริงๆ

    ซึ่งวิชามหาสังวาลย์พิศดารนี้ ก็แยกตะกรุดออกเป็นสี่ดอก มีพุทธคุณสี่ด้าน กล่าวคือ
    - ดอกหนึ่งมหาเสน่ห์ ได้ชื่อว่าเป็นวิชาที่ทำให้คนอื่นรัก พ่ออาจารย์กล่าวว่าตะกรุดตำรับเสน่ห์ของบรมครูหลวงปู่พ่อเฒ่ายิ้มนี้ได้ชื่อว่าเป็นของกายสิทธิ์ที่ผู้ใดได้ครอบครองหรือถือไว้ก็จะนำพามาซึ่งความรักความสมหวังแก่หญิงชายทั้งหลาย ด้วยวิชาของหลวงปู่ยิ้มประกอบกับพระเวทย์และอาถรรพ์วิธีการลงที่ยุ่งยากซับซ้อน ท่านว่าวิชานี้ีแรงดึงดูดมหาศาลนัก ด้วยว่าเหนือกว่าเสน่ห์สายล่างทั้งปวง เป็นวิชาเสน่ห์ที่จะประกอบขึ้นสำหรับถวายเจ้านายเเละเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง(ท่านให้พูดเท่านี้)
    - ดอกสองมหาละลวย วิชานี้ได้ชื่อว่าเหลือร้ายหากนำมาประกอบเข้ากับศาสตร์แห่งมหาเสน่ห์ เพราะเป็นเวทย์ที่จะทำให้ผู้ที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเรานั้นงวยงง เคลิบเคลิ้ม หลงไหลไปกับคำพูดการกระทำเรา เห็นหน้าของเราก็รู้สึกมีอาการมึนๆ พะว้าพะวงถึงเรา คิดถึงเรารำพึงถึงเเต่เรา ครวญหาเรา ร้อนรนจนนอนไม่หลับ
    - ดอกสามมหาจังงัง วิชานี้เมื่อนำมาใช้เสริมกับศาสตร์มหาเสน่ห์ จะช่วยให้มีพิษสงร้ายกาจขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นวิชาที่ทำให้ผู้ที่เราหมายปองหรือสนทนา ตกอยู่ในภาวะอาการตกตะลึง หยุดนิ่ง จะอ้าปากก็ไม่ออก ยกมือเท้าก็แลมิขึ้นหนีเราไปไหนั้นหามิได้เลยอยูในสถานะที่จะปฏิเสธเรามิได้อย่างยิ่งเรียกว่าตะลึงจังงัง ในขณะเดียวกัน หากมีศัตรูปองร้ายก็มิสามารถทำร้ายเราได้ เขาจะด่าเราจะว่าเราก็ว่าไม่ออก จะตีเรามือก็ไม่ไปเช่นนั้น วิชาส่วนนี้ใช้ได้ทั้งสองโสตทีเดียว
    - ดอกสี่มหาชุมนุม วิชานี้เป็นวิชาสายมหานิยมชั้นสูง คือดึงดูดให้สิ่งมีชีวิตมาแวดล้อมที่เรา มาอยู่รอบตัวเรา เเม้เขาจะอยู่ไกล เขาก็จะอยากมาหาเรา เมื่อผสานกับศาสตร์ทางเสน่ห์เเล้วถืว่าให้ผลมากนัก คือจะดึงผู้ที่เราปรารถนาให้เค้าเขามาหาเราทำความรู้จักกับเราเอง


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเมื่อเสกนั้น ต้องไล่เสกไปทีละวิชา ซึ่งเดี๋ยวนี้คนมักจะใช้รวมๆกันเอามหาเสน่ห์ไปปนกับละลวยบ้างจังงังบ้าง พูดไปสนุกปากทั้งที่เป็นเวทย์วิชาคนละตัวกัน เมื่อเสกเสร็จนำมาเสกรวมจะให้ผลต่อกันเป็นลูกโดดแม้ผู้ใดได้ครอบครองไว้ ก็จะส่งผลต่อกันเป็นที่ละขั้น คือทำให้ตัวผู้บูชานั้นมีเสน่ห์อยู่ในตัว จากนั้นก็จะตามด้วยมีผู้ปรารถนาจะเข้ามาหาเพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจต่างๆหรือจะเป็นทางความรักก็ดีคนรักก็จะเข้ามาหาเราเองด้วยอำนาจของมหาชุมนุม เเละท้ายที่สุดเมื่อเขาได้มาอยู่ต่อหน้าเรา ก็จะหลีกหนีเราไม่ได้มีความเกรงใจเราอย่างถึงที่สุดด้วยวิชามหาจังงัง พร้อมกับเกิดอาการงุนงง เคลิบเคลิ้มหลงใหลมีใจให้เราด้วยวิชามหาละลวย พ่ออาจารย์เรียกวิชาสังวาลย์นี้ว่าหนูติดจั่นไปไหนมิได้แล

    เมื่อท่านลงตะกรุดเเล้ว ท่านก็ปรารถนาจะสร้างรูปครูในสายวิชาพ่อเฒ่ายิ้มขึ้นมา เนื่องจากหลวงปู่เฒ่ายิ้มนั้นมีถิ่นพำนักอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งก็ได้รับนิมิตรจากพ่อเฒ่ายิ้มให้สร้างพระยาสุรินทร์ฤาชัย ด้วยท่านมีความผูกพันธ์กัน หลวงปู่ยิ้มได้บอกกับพ่ออาจารย์ว่าในชีวิตของท่านนั้นได้สร้างขุนแผนไว้เช่นกัน เเต่ทำไว้น้อยมาก กาลเวลาผ่านไปนับร้อยปีจึงหายสาบสูญไปเสียหมด อยากจะให้พ่ออาจารย์ใช้วิชาของท่านทำแทนท่านไว้ซักครั้งหนึ่ง

    พ่ออาจารย์จึงตัดสินใจสร้างขึ้น ซึ่งพระยาสุรินทร์ฤาชัยนั้น จะเรียกท่านว่าพระกาญจน์บุรีก็ได้ หรือที่เรารู้จักท่านกันในนามขุนแผนนั่นเอง อดีตแม่ทัพใหญ่ฝ่ายหน้าในกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่บั้นปลายชีวิตได้ถอดจิตทิ้งสังขารไปเสวยวิมุติเป็นท้าวมหาพรหมอยู่ในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก พ่ออาจารย์ท่านเรียกชื่อว่าท้าวมหาพรหมพระสุเรนทร์

    เมื่อจะกระทำรูปท่านครั้งนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ถามโดยตรงกับมหาพรหมพระสุเรนทร์ว่าต้องการจะให้สร้างรูปท่านจากธาตุใด แบบไหน ระหว่างตะกั่วลงถมหรือธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งท่านได้ให้คำตอบว่าธาตุกายสิทธิ์ เพราะเหมาะที่จะลองรับกระแสญาณของท่านได้ดีกว่า พ่ออาจารย์ท่านจึงน้ำเหล็กไหลต่างๆมาหล่อเเละได้ควบคุมการหล่อด้วยตนเอง ได้แก่
    - เหล็กไหลช่อทิพย์
    - เหล็กไหลวัชรธาตุ(เหล็กนิพพาน)
    - หยาดน้ำฟ้าทวาราวดี (มีลักษณะคล้ายปรอทกลิ้งได้ แต่เหนือกว่าปรอทมากนักเป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง)
    ในระหว่างหล่อนั้นพ่ออาจารย์ได้ฝังตะกรุดตะหาสังวาลย์พิศดารตำรับหลวงปู่ยิ้มลงไปด้วย ถือได้ว่าพิเศษจริงๆเพราะเป็นตะกรุดที่ทำยากมาก


    เมื่อได้พระมาทั้งหมด 16 องค์แล้ว ท่านจึงนำมาเชิญญาณเเละกระแสจิตแห่งมหาพรหม ซึ่งท่านก็กำหนดจิตนั่งดูอยู่ตลอดเวลา ท่านกล่าวว่า พ่อพระพรหมขุนแผนนี่ท่านเมตตาเราอยู่มาก เพราะท่านใช้ภาวะอำนาจแห่งมหาพรหมนิรมาณกายดวงจิตของท่านลงมาแฝงไว้ในเหรียญหล่อนี้ นี่เป็นสาเหตุให้พ่ออาจารย์เรียกว่าวิชามหาพรหมแปลงรูป แม้ผู้ใดได้สวมคล้องก็จะมีพลังแลรัศมีแห่งมหาพรหมติดเนื้อต้องตัวทำให้ดูสดใส กะปี้กะเปร่า ขจัดโรคภัยร้ายเทวดาพาลเจ้ากรรมนายเวรเกเรและชะลอผลแห่งอกุศลกรรมทั้งหลาย ทั้งยังผสานอานุภาพแห่งตะกรุดสังวาลย์เสมอด้วยตนเองนั้นได้คาดสังวาลย์ทิพย์ตำรับหลวงปู่ยิ้มติดตัวตลอดเวลา เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตาขั้นสูงสุด

    ท่านได้เมตตาให้เรียกชื่อว่าพ่อครูฟ้าฟื้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าความหมายดี เหมือนชื่อยอดศาสตราของท่าน ดาบฟ้าฟื้นนั้นเคยแพ้ใครเสียที่ไหน ความรักใครเคยเหี่ยวเเห้ง ธุรกิจใครจะซบเซา อะไรที่ว่าแย่ ท่านไปอยู่ด้วยนี่ฟื้นหมดเลย เอาตามเเต่ใจปรารถนาอธิษฐานบอกกล่าวท่าน จะไม่มีหยุดนิ่ง สมดังคำปกาศิตที่ท่านกล่าวว่า " ผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ แม้เราอยู่ใต้ฟ้านี้แล้ว จะกระทำกิจใดให้สำเร็จประโยชน์ก็ขอให้บอกกล่าวเรา ก็ได้ชื่อว่าเราฟื้นคืนขึ้นมาเเล้ว ต่อไปนี้เจ้าจะล้มไม่เป็น มีเเต่ลุกและก้าวกระโดดในทุกเรื่อง "

    คาถาบูชา
    โอมสิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี สุนะโมโล นะโลโมสุ โลโมสุนะ โลสุนะโม สุรินทะราชัยยะมหาพรหมมา เมตตาจิตตัง กาวะกะ สะละสู มะสังเตอะ ยะมะรานังปะนีตัง อะวิกรึงคะเร อาคัจชะติ นะโมพุทธายะ(ถวายหมากพลูตามสมควร)(สวดอาราธานาอธิษฐานขอพรตามเเต่ปรารถนา)


    * รายการนี้สร้างทั้งหมด 16 องค์ พ่ออจารย์ท่านว่าทำยากมากที่สุดในกระบวนการพระที่ท่านเคยหล่อมา ดังนั้นให้คนที่เดือดร้อนตกต่ำลงต้องการที่จะพลิกฟื้นฐานะชะตาตัวเองจริงๆ หรือคนอาภัพไม่สมหวังในความรักจริงๆเท่านั้นบูชา คนที่ดีอยู่เเล้วไม่ต้องเอาไปใช้ ใครจะบูชา พ่ออาจารย์ท่านให้บอกปัญหาเเละความต้องการด้วยความสัตย์จริงรบกวนเเจ้งทางPM ท่านจะทำการบอกกล่าวเเละประสิทธิ์ให้เเต่ละคนเป็นเรื่องๆไป

    * รายได้จากการบูชาพ่ออาจารย์ท่านมีดำริให้เก็บไว้ถวายเพื่อสนับสนุนในโครงทานสร้างเจดีย์ตามวัดต่างๆ เพื่อถือเป็นวิหารทาน เป็นมหากุศลยิ่งใหญ่แก่ชีวิตผู้นำไปบูชา
     
  19. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    วันนี้ลงรายละเอียดให้ครบแล้วนะครับ
    ขออนุญาตไปพักผ่อนก่อนครับ
     
  20. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    จัดส่งให้เรียบร้อยแล้วครับ

    หมายเลข EMS : EV808143497TH

    ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...