แบ่งปัน ให้บูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์พลครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ธัญญ์นิธิ, 26 พฤษภาคม 2017.

  1. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รายการตะกรุดสำหรับวันนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดพิชัยสมบัติ จักพรรดินาคา (เคลือบเหล็กไหลบาดาลแก้วอำพัน)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปล. รายการนี้ผมมีตะกรุดดอกเล็กที่ได้มาพร้อมกัน แถมไปให้ด้วยครับ

    ปิดรายการครับโดยคุณ powernext


    IMG_20190513_213029.jpg IMG_20190513_213316.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-13#post-10438846

    เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านมีดำริเปิดให้บูชาตะกรุดตะกั่วขอมโบราณลงถม ซึ่งเป็นตะกรุดที่มีวิธีการสร้างซับซ้อนยุ่งยากโดยท่านจะนำก้อนตะกั่วที่ขุดได้จากบริเวณประสาทขอมยุคอารยธรรมโบราณ ซึ่งตะกั่วก้อนเหล่านี้เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากเนื่องจากได้ซึมซับพระเวทย์และผ่านพิธีพราหมณ์มายาวนาน ท่านนำมาหลอมรีดและทำการลงอักขระลบถมด้วยหินสะบ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก ตามวิธีการทำตะกั่วลงถมที่บูรพาจารย์แต่โบราณนิยมกระทำและหาคนที่จะทำมิได้แล้ว ก่อนจะนำไปหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุดในตอนท้ายนั่นเอง

    ซึ่งตะกรุดพิชัยสมบัติ จักรพรรดินาคานี้ เกิดจากดำริของพ่ออาจารย์ท่านที่จะทำสุดยอดวิชาจากตำราพระพิชัยสงคราม นั่นคือวิชาพิชัยสมบัติ ซึ่งหาผู้รู้จริงทำจริงที่จะทำได้ยาก ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่วิชาชนชั้นทั่วไป แต่เป็นวิชาโชคลาภโภคทรัพย์ตำรับพิชัยสงคราม เป็นวิชาที่ทำถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านให้ความสำคัญกับวิชานี้มาก ด้วยว่าเป็นวิชาที่มีอานุภาพค่าควรเมืองตำรับหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านให้ความสำคัญกับวิชาพิชัยสมบัติมากท่านว่าถึงกาลควรแก่เวลาแล้วที่คนจะได้เปิดดวงเบิกบุญปรับหนุนโชคชะตากันเสียที วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านต้องลงอักขระเลขยันต์ตามตำรับ หนุนด้วยสี่เทวราชที่คุมมหาทิศทั้งสี่นั่นคือท้าวจตุโลกบาลท่านว่าเพราะแบบนี้ไม่ว่าอยู่ทิศไหนที่ไหนก็รวยเพราะเป็นอาญาสิทธิ์ของจตุโลกบาล ไม่เพียงเท่านั้นวิชานี้ยังเป็นวิชาที่เสริมส่งคนใช้ด้วยคุณของสิบสองพระโพธิสัตว์อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าพระโพธิสัตว์ทุกองค์นั้นล้วนมีจิตเมตตาเปี่ยมด้วยมหากรุณาอันยิ่ง แน่นอนว่าทุกพระองค์ย่อมโปรดสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ยากได้ด้วยจิตมหากรุณานี้ แต่ท่านว่านี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยเพราะไม่ใช่มีกำลังเพียงหนึ่งแต่นี่มีถึงสิบสอง

    วิชาพิชัยสมบัตินั้นจึงเป็นวิชาสำคัญที่พลิกชีวิตคนได้แบบฉับพลันทันที เป็นวิชาชั้นสูงตามตำรับพิชัยสงคราม มีคุณอันหาค่ามิได้ ท่านว่าหากได้ไว้ผูกตัวหรือนำติดกายบูชา คนผู้นั้นจะเจริญรุ่งเรืองยกฐานะตนเองได้ แม้อยู่กับตัวก็ยกฐานะตัว แม้นำไปฝังในบ้านก็ยกฐานะเพิ่มทรัพย์สมบัติให้แก่เรือน หากบ้านไหนมีพระภูมิเทวดา นำตะกรุดนี้ไปฝังที่บริเวณพระภูมิ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ดีวันดีคืนทีเดียว เป็นอาญาสิทธิ์ท้าวจตุโลกบาลและสิบสองพระโพธิสัตว์ให้พระภูมิเจ้าที่รีบหาสมบัติมาให้ตรงไหนพร่องก็ต้องเติมให้เต็มอยู่เฉยมิได้เลย หากตั้งใจบูชาแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ล้วนแต่ผลิดอกออกผลงอกเงย ที่จะได้ชั่วหรือเสมอตัวนั้นหามีไม่ด้วยเป็นวิชาที่สืบมาแต่บูรพาจารย์มีคุณด้านโชคลาภสูงส่ง เชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้วว่าเป็นสุดยอดวิชาทางด้านเรียกโชคลาภให้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ชีวิตใครไม่เคยมีโชคหากจับพิชัยสมบัติขึ้นมาจะพลิกเปลี่ยนวาสนาได้ฉับพลันทันที ด้วยว่าพิชัยสมบัตินั้นคือปรับชีวิตให้มีชัยชนะเหรือทรัพย์สมบัตินั้นเอง ให้ผู้ใช้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติทั้งหลาย นี่จึงไม่ใช่วิชาโชคลาภโภคทรัพย์ธรรมดา สิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ก็จะบังเกิดขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ความปรารถนาใดที่ต้องใช้ความอุตสาหะมาก ใช้ความเพียรมาก ทำให้ชีวิตเรายากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่จะสำเร็จสมปรารถนาดั่งตั้งจิตมุ่งหวังไว้ไม่เคลื่อนคลาย นี่คือพิชัยสมบัติตามตำรับพิชัยสงครามอย่างแท้จริง

    พ่ออาจารย์ท่านเมตตาปลุกเสกแผ่นตะกั่วขอมโบราณลงถมโดยการนำมาแช่น้ำทิพย์มนต์ ท่านว่าคายมนต์อมฤตลงไปชุบแช่ตัวแผ่นตะกรุด ท่านว่าต่อไปคนใช้เค้าจะได้ผลิดอกออกผลไม่เหี่ยวเฉาฟื้นคืนชีวิตได้ฉับพลันทันที ต่อจากนั้นท่านจึงนำมาลงวิชาพิชัยสมบัติ เสริมด้วยมหามนต์บทสำคัญต่างหลายสิบพระคาถาที่ให้คุณสำคัญด้านต่างๆเช่นสิริกิระนะบทเต็ม ช่วยหนุนดวง อุ้มดวง ค้ำชูดวง เสริมแต่งสิริมงคลทั้งยังเป็นเมตตามหานิยมอย่างยิ่ง อยู่ที่ไหนทำอะไรท่านว่าไม่มีตกต่ำ นอกจากนั้นยังใส่หัวใจนางกวักทรัพย์หัวใจเทวดา และสุดยอดพระคาถาวิชาของพระอนุรุทธเถระเจ้าที่อยู่ที่ใดจะหนุนเสริมคนให้ไม่รู้จักคำว่าไม่ได้และไม่มี และเสริมด้วยพรหมสี่หน้า เมตตาสี่ทิศ ตลอดจนพระคาถาสำคัญต่างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังวิชาพิชัยสมบัตินั้นก็นับเป็นยอดของวิชาแล้ว แต่ท่านยังเมตตานำวิชาจักรพรรดินาคา และพระยันต์สำคัญสายเจ้าปู่สำเร็จลุนมาลงประทับหลังไว้ด้วย ท่านว่านี่เปิดบาดาลเปิดทางทรัพย์กันทีเดียว ด้วยว่าสำคัญนักเพราะมหาสมบัติทั้งหลายนั้นไม่ได้ลอยมาจากทิพย์สถานวิมานในอากาศ หากแต่อุบัติขึ้นจากในแดนบาดาล แม้ทรัพย์สมบัติเมืองฟ้าของเทพยดาทั้งหลายก็ย่อมมาจากพิภพบาดาลทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมืองบาดาลนั้นคือขุมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเหนือสวรรค์ชั้นฟ้าใดๆทั้งสิ้น ท่านจึงลงวิชาสำคัญด้วยจักรพรรดิบาดาล หรือจะเรียกจักรพรรดิบันดาลก็ได้ เริ่มจากลงวิชาเปิดบาดาล เปิดนาคพิภพ หนุนส่งด้วยวิชามหาคงคา จากนั้นจึงลงหัวใจจักรพรรดินาคา ผูกกับยันต์แก้วมณีโชติและยันต์ขุมทรัพย์ ท่านว่านี่สำคัญนักเพราะเป็นสิ่งเชื่อมต่อญานบารมีของจักรพรรดินาคาหรือองค์พญาอนันตนาคราชโดยตรง ท่านว่าวิชาสายพญานาคนี้สำคัญเพราะพญานาคนั้นเป็นเทพเดรัจฉานสามารถช่วยเหลือคนได้มาก ยิ่งพญาอนันต์ที่มีศักดิ์สูงสุดอยู่ในหมู่มหานาคดึกดำบรรพ์ที่เป็นบรรพชนของเผ่านาคายิ่งไม่ต้องพูดถึง พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากดึงดูดโชคลาภ ปกป้องคุ้มครองแล้ว ยังดึงดูดคู่ครองอีกด้วย ท่านว่าหากใช้วิชาพญานาคนี่มันเปิดทางทรัพย์เปิดทางคู่รักเปิดทางชีวิตทุกสิ่งที่เดียว ด้วยท่านลงวิชาสำคัญไว้ดุจพญาอนันต์นาคราชนี้ถือครองแก้วมณีโชติที่จะบันดาลได้ทุกสิ่งเสมอความคิดผู้บูชานั่นเอง ท่านว่าขุมทรัพย์บาดาลอยู่ตรงนี้ท่านพูดได้เท่านี้ ตะกรุดนี้ดีด้านชุ่มเย็น เป็นมหาอุดมเสริมส่งคนอย่างที่สุด เมื่อจะทำจะเสกนั้นท่านเชิญองค์อนันต์นาคราชมาช่วยทำด้วย ท่านว่าพญาอนันต์นั้นบอกว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก ด้วยวิชาจักรพรรดินาคานั้น สามารถใช้เชื่อมต่อญานเข้ากับกษัตริย์นาคและจักรพรรดิบาดาลได้ทุกพระองค์ ท่านว่าสุดแล้วแต่ใจเราจะปรารถนาเอ่ยนามมหานาคพระองค์ใดเลยทีเดียว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนย่อมรับรู้และเต็มใจช่วยเหลือเราทุกองค์ ไม่ว่าจะท้าววาสุกรี ท้าวมหากาล ท้าวมุจลินทร์ ท้าวนันโทปนันทะ ท้าวเอรกปัตต ท้าววิรูปักษ์ เป็นต้น ท่านว่าครอบคลุมทั้งหมดตั้งแต่มหานาคดึกดำบรรพ์ตลอดจนจอมกษัตริย์นาคาทั้งหลายในสี่ตระกูลไม่ว่าจะวิรูปักษ์ เอราปถ ฉัพยาปุตต กัณหาโคตมะ ด้วยว่าจะเป็นถลชะหรือชลชะตระกูลใดก็ดี ตระกรุดนี้มีอานุภาพไปถึงทั้งสิ้น

    เมื่อท่านลงพระยันต์และปลุกเสกแล้ว ท่านยังต้องเชิญเจ้าของวิชาอันเป็นบูรพาจารย์ของท่านมาร่วมเสกแผ่นยันต์นี้ด้วยอีกวาระหนึ่ง นั่นคือเจ้าปู่สำเร็จลุนนั่นเอง ท่านว่าทำแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุดจะครึ่งๆกลางๆอย่าไปทำ เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วท่านจึงนำมาม้วนและอธิษฐานจิตต่อไปแรมปีก่อนจะนำมาคลุกด้วยผงกายสิทธิ์วิเศษสมบัติเมืองบาดาล

    อันกายสิทธิ์นี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเหล็กไหลบาดาลแก้วอำพันซึ่งท่านมีโอกาสได้รับมาแต่หลวงปู่คำคะนิงผู้เคยเดินเข้าออกพิภพบาดาลมาแล้ว หลังจากนั้นท่านก็พบเจอเหล็กไหลชนิดนี้อีกครั้งหนึ่งในถ้ำที่ท่านตรวจสอบด้วยญานแล้วว่าเป็นที่เชื่อมต่อทั้งสองโลกท่านจึงบอกกล่าวเจ้าของและขออนุญาตินำออกมา ซึ่งเหล็กไหลนี้จะมีวรรณะดุจแก้วเป็นสีอำพัน ดุจอำพันที่มีอายุนับสิบล้านร้อยล้านปี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นยิ่งกว่าสมบัติบาดาลธรรมดา เพราะมีญานของจักรพรรดินาคาแฝงอยู่ทุกอณู เป็นของกายสิทธิ์มีฤทธิ์มาก อยู่นอกเหนือกฏธรรมชาติ สามารถช่วยเหลือและพลิกชีวิตผู้บูชาได้จริง ท่านนำมากระเทาะและตำนำมาเคลือบตะกรุดนี้ ท่านว่ามีคุณทุกทางตั้งแต่ปรับธาตุ ช่วยดูดซึมโรคร้ายและอวิชชาต่างๆ กรองสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาถูกร่างกายเราให้เป็นพลังงานที่ดี ท่านว่าพกไว้กับตัวเถิดชีวิตห่างไกลโรคระบาดและภัยพิบัติตลอดจนสงครามทั้งปวง แม้เกิดขึ้นก็ไม่ส่งผลกระทบกับเราเอาชีวิตหรือทำให้เราถึงแก่อันตรายไม่ได้ ซ้ำยังเป็นเมตตามหานิยมอย่างเอกท่านว่าแรงนักไม่รู้จะบอกว่าอย่างไรดีท่านว่าพวกชอบใช้ปั้นเหน่งน้ำมันพรายทั้งหลายนี่ไม่ได้ใกล้เลย เหล็กไหลอำพันนี่มีคุณทางเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์แรงกว่านั้นเยอะ คงเพราะเป็นของพญานาคเป็นกายสิทธิ์ในพิภพบาดาลจึงให้คุณหลายทาง นอกจากนี้ยังดึงดูดทรัพย์สมบัติได้อย่างดีอีกด้วย ท่านว่าลองได้เลย วันไหนมีธาตุเหล็กไหลอำพันนี้อยู่กับตัวจะรู้สึกว่าแปลก วันนี้เราจะโชคดีทั้งวัน ทำไมมีคนยิ้มให้ ทำไมมีคนรักผิดหูผิดตา ซ้ำวันไหนจะเสี่ยงโชคหรือทำอะไรที่ต้องเสี่ยงดวงหรือแข่งขันก็ตาม ท่านว่าพกเอาไว้เถิดวันนั้นดวงเปิดแน่นอน ไม่ว่าจะติดกรรมอะไรจะดวงปิดวันไหน แต่เวลาที่เราอาราธนาแร่กายสิทธิ์นี้วันนั้นจะเป็นวันของเราท่านว่าพูดได้เท่านี้นะ ให้นำไปอัดกรอบพลาสติกกันน้ำให้ดีเวลาจะอาบน้ำให้อาราธนาบอกกล่าวเจ้าปู่สำเร็จลุน หลวงปู่คำคะนิง และพญานาคทั้งสี่ตระกูลเป็นที่สุดนำตะกรุดแช่น้ำไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำนั้นจะอาบจะกินก็สุดแล้วแต่ใจเราเถิด เพราะอานุภาพรังสีที่แผ่ออกมาจากตะกรุดคุณวิชาและธาตุกายสิทธิ์นั้นจะซึมซับเข้าไปในร่างกายเรา ดีอย่างไรท่านว่าท่านพูดไม่ได้ เอาว่าดีและจงรู้เห็นด้วยตนเองเท่านั้นพอ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นสมบัติของเมืองบาดาลมีเจ้าของเป็นของเฉพาะคนทุกดอก ด้วยว่ามีแต่ผู้ที่เคยผูกพันธุ์กับเมืองบาดาลเท่านั้นจะรู้สึกผูกพันธุ์กับตะกรุดนี้ ท่านทำการจารและอธิษฐานจิตไว้ได้ทั้งหมดแปดดอก

    คาถาบูชา(พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้หายใจเข้าออก ท่องนาโคๆ เอาก็ได้)
    สุมะโน สุมะนะจะโล อะระวาเฬระปัตตะโก จัมเปยโย มุจะลินโท จะ กัมพะโล ภุชะคิสสะโร สุมนะนาโค สุมนจละนาโค อรวาฬะนาโค กาละนาโค มะหากาโฬ สังขะปาโล มะโหทะโร มะณิกัณโฐ มะณิอักขิ นันทะนาโคปะนันทะโก วะรุโณ ธะตะรัฏโฐ จะ กุงคุวิโลปะลาละโก จิตระนาโค มะหาวีโร ฉัพยาปุตโต จะ วาสุกี กัณหาโคตะโม ภุชะคินโท อัคคิธูมะสิโข ตะถา จูโฬทะโร อะหัจฉัตโต นาคา เอราปะถาทะโย อาสีวิสา โฆระวิสา เย สัพเพ นะยะนาวุธา ชะลัฏฐา วา ถะลัฏฐาวา ปัพพะเตยยา นะทีจะรา กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อายุมาโรคิยัง สะทา มะหันตา นาคะสา นาคา เวสาลา สะหะ ตัจฉะกา กัมพะลัสสะตะรา จาปิ เมรุปาทะสิตา พะลา ยามุนา ธะตะรัฏฐา จะ สัพเพ นาคา ยะสัสสิโน เอราวันโณ มะหานาโค โน กะโรนตุ อะนามะยัง


    ตะกรุดตะกรุดพิชัยสมบัติ จักพรรดินาคานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากและเสกได้ยากเพราะเป็นที่สุดของวิชาโภคทรัพย์ตามตำรับพิชัยสงคราม ซึ่งแต่โบราณนั้นอย่าหวังว่าคนธรรมดาสามัญจะมีไว้ในครอบครอง ยิ่งการเสกด้วยวิชาพิชัยสมบัตินั้นยิ่งยากเข้าไปอีก ท่านว่าท่านขอเสด็จพระใหญ่อยู่นานเมื่อจะทำตะกรุดนี้เพราะพิชัยสมบัตินั้นเป็นวิชาที่จะเปิดดวงคนให้มีชัยชนะเหนือทรัพย์ทั้งหลายโดยไม่สนชะตาชีวิตหรือสิ่งที่ผ่านมานั้นเอง เมื่อจะอธิษฐานจิตท่านจึงนำตะกรุดนี้มาปลุกเสกเก็บมาเรื่อยๆให้ตรงฤกษ์วันพระเจ้าเปิดโลกทุกครั้งตอนออกพรรษาท่านจะเชิญเสด็จพระใหญ่มาทำวิชาสงคราะห์ให้เฉพาะทีละดอกๆจนครบทุกดอก ท่านว่านี่เป็นตะกรุดสำคัญนักให้บูชากันให้ดี เพราะเสด็จท่านทำวิชาพิชัยสมบัติให้เอง เชื่อเถิดว่าชีวิตเปลี่ยนและพลิกกลับแน่นอน

    * สำหรับผู้ที่สั่งจองตะกรุดพิชัยสมบัตินี้ พ่ออาจารย์ท่านจะแถมตะกรุดพิชัยสมบัติดอกน้อยให้อีกหนึ่งดอกเป็นตะกรุดที่ท่านลงด้วยวิชาจักรพรรดินาคา ท่านว่าเผื่อดอกใหญ่เค้าจะได้นำไปบูชาในบ้าน ดอกเล็กจะได้นำติดตัวได้มีคุณเสมอกันเพราะเสกพร้อมกันทำมาให้เป็นคู่กัน ก็เลือกเอาว่าจะใช้ดอกไหน แต่ว่าหากอยู่ด้วยกันได้สองดอก สามารถนำมาติดตัวได้ทั้งสองดอกพร้อมกันแล้วท่านว่าจะเร็วและแรงมาก ดุจว่ามีของหนุนส่งกันทั้งตะกรุดดอกใหญ่ตัวแม่และดอกเล็กตัวลูกนั่นทีเดียว ท่านว่าสุดแล้วแต่ความสะดวกตามใจของผู้ใช้นั่นเลย ลองเอามาติดตัวพร้อมกันทั้งสองดอกก็ได้หากเห็นว่าแรงมากไป มีคนเมตตาเยอะเกินไป มีงานล้นมือเกินไปจนตัวเองเริ่มลำบากใจค่อยลดลงเหลือดอกเดียว

    * ตะกรุดพิชัยสมบัติ จักพรรดินาคานี้ เปิดให้จองเฉพาะทาง PM โดยให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเดินมนต์ทำการบอกกล่าวธาตุกายสิทธิ์และพญานาคทั้งสี่ตระกูลให้ผู้บูชาอีกคำรบหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2019
  3. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณ
    (เข้าผิดคน ทุกข์ผิดตัว)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @UN
    IMG_20190513_213052.jpg IMG_20190513_213230.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-20#post-10802716


    " เราจะทำไว้ ให้กับคนที่คู่ควร ".... (อ่านให้จบทุกตัวอักษรนับเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง)


    " ตะกรุดนี้แต่เดิมเมื่อพ่ออาจารย์ท่านเสกท่านทำเสร็จแล้ว แม้พญามาราธิราช(ท้าวมาลัย)ท่านก็ยังมาขอให้ระงับไว้ก่อน ไม่ให้ออกให้คนบูชา ด้วยว่าพลังของตะกรุดนั้นจะส่งผ่านให้เคราะห์กรรมผู้อาราธนานั้นผิดที่ผิดทาง ดวงชะตาผิดฝาผิดตัว แต้แม่คณะเทวปุตมารก็ยังทำงานไม่ได้ เรียกว่าสลับ กลับ คลาดกรรมที่ต้องโดนชำระหรือโดนเศษกรรมแทนผู้อื่น แม้บททดสอบอันแสนยาวนานของพญามาราธิราชและคณะ.... ตลอดจนกฎเกณมหาวัฏจักรบางข้อก็ไม่สามารถทำงานได้ ท่านจึงต้องระงับไว้ จนปัจจุบันนี้หลายๆคนเริ่มคร่ำครวญกันว่าถึงคราวซวยไปติดบ่วงเจอร่างแห ใช้กรรมแทนคนอื่นกันมาก ท่านจึงมีดำริให้นำตะกรุดออกให้บูชาเพื่อแก้กลให้เป็นมหาคลาดสลับกลับเคราะห์ภัยนั้นให้พ้นตัว "

    เกี่ยวกับวิชาการทำตะกรุดชนิดนี้นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าค่อนข้างจะแรงมากด้วยทำตามพระเวทย์โบราณ แต่เดิมนั้นคนที่ประสบเคราะห์ภัยจากชะตาลิขิตที่เบี่ยงเบน หันเห ผันผวนล้วนมีอยู่มากนัก กรณีของเคราะห์กรรมที่ไม่ตรงดวงชะตาหรือฟ้าลงผิดที่ผิดทาง บางคนไม่ใช่เรื่องของตัวเองแต่กลับซวยแทนเขาก็มี หรือเริ่มมาไม่เกี่ยวกับเราแต่ไปๆมาๆแจคพอตมาตกที่เรา เป็นเราได้อย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนรับกรรมแทนคนอื่น ซวยแทนชาวบ้านซ้ำเป็นเคราะห์กรรมผกผันที่แก้ปมยาก ถึงจะบอกว่าเราไม่เกี่ยว ไม่รู้ แต่มันก็กลายมาเป็นเคราะห์ภัยของเราไปแล้วแม้จะขัดกับดวงชะตาตัวเองก็ตาม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเศษกรรมที่สัมพันธ์กับคู่กรณีดลให้เป็นไป

    พ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นภัยในสังสารวัฏทั้งปัจจุบันและกาลเบื้องหน้า ท่านว่าเป็นจำเพาะมนุษย์ในยุคนี้ที่จะเจอบททดสอบให้ชำระเศษกรรมเหล่านั้นกันอย่างหนักหน่วง แม้เหล่าเทวดาเขาก็เตือนก็บอก หากแต่คนนั้นพาลไม่รู้และไม่ได้ยินไปเสียเอง พ่ออาจารย์ท่านว่ากาลข้างหน้าจะยิ่งหนักกันมากขึ้น วาสนาคนจะลดลง โรคภัยจะก่อตัวรุนแรง อายุขัยคนจะถดถอยลงไปเรื่อยๆ

    เมื่อแก่นเวลาของวัฏจักรชำระกฏแห่งกรรมนั้นเศษกรรมทั้งหลายเขาก็ไม่เว้น ไอ้เศษที่ว่านี่แหละเป็นปัญหาใหญ่ของชะตาวาสนามนุษย์ เพราะมันเป็นเศษบางทีจึงไม่ได้ปรากฏในชะตาลิขิตทำให้อ่านอย่างไรก็อ่านไม่ออกจากเรื่องเล็กน้อยเมื่อลุกติดไฟแล้วมันก็กลายเป็นชนวนเผาผลาญตัวเอง เผาไปลึกจนถึงจิตวิญญาณ ซ้ำเศษกรรมทั้งหลายร้อยทั้งร้อยล้วนแต่มีคู่กรณีที่ผูกมันเอาไว้ด้วยแรงอาฆาตพยาบาททั้งสิ้นดังนั้นพอเกิดผลมันจึงแรง บางคนชีวิตมาดีๆจึงไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าถึงคราวซวยแทนคนอื่น บางคนก็โดนฉกฉวยชะตาวาสนาที่ควรจะเป็นของตัวเองทั้งชีวิตไปอย่างโจ่งแจ้ง ....หลายๆคนเริ่มรู้สึกตัว เมื่อเจอบ่อยๆ บางคราเทวดาท่านเมตตาก็เข้านิมิตให้เห็นว่านี่คือชะตาชีวิตของเราแต่มันกลับเป็นตัวเขาที่เสวยวาสนาเราอยู่ ส่วนตัวเรานี้กลับใช้ส่วนกรรมของเขาแทน บางคนถึงรู้สึกตัวได้ก็ยังอับจนหนทางแก้ไข แต่บางคนกว่าจะรู้สึกตัวเองได้ก็สายไปเสียแล้ว

    ด้วยเวทนาที่สัตว์เหล่านั้นล้วนแต่มาสว่างแต่กลับไปมืด ซ้ำเศษกรรมยังขยายผลกลายมาเป็นกรรมปัจจุบันติดตามตัวเองไปอีกหลายภพชาติ พ่ออาจารย์ท่านจึงคิดแก้ไขเศษกรรมให้ระงับผลไปทั้งยังสลัดปัดขวางเศษกรรมใหม่ๆที่พร้อมต่อแถวเรียงคิวเข้ามาซ้ำเติมห้วงชีวิตในชาติมนุษย์นั้นจนครูพระสยมได้เมตตาบอกวิธีชักเส้นสายกลบทยันต์พระเวทย์แต่โบราณที่สืบทอดและขาดหายมานานนับพันปีขึ้นมาให้สืบทอดเป็นวาสนาแก่คนในยุคนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงตะกรุดไว้และทำการปลุกเสกเรื่อยมา

    ตะกรุดที่ท่านตั้งใจทำม้วนให้เป็นดอกน้อยๆไม่ใหญ่โตเพื่อง่ายต่อการอาราธนาใช้งานได้นั้น ท่านว่าพกไว้ได้ทุกส่วนในร่างกายไม่มีเสื่อม ไม่จำเป็นต้องห้อยคอก็ได้ ถึงจะทำให้ดอกเล็กใช้กันง่ายแต่อานุภาพสำหรับผู้ที่เห็นภัยในสังสารวัฏนั้นท่านว่ากลับไม่นับว่าเล็กเลย ตะกรุดนี้ด้วยเรารับฏีกาของพญามาราธิราชไว้แต่เริ่ม เมื่อจะออกให้บูชาเราจึงได้ฝากเป็นธุระแก่พญามาราธิราชท่านไป ว่าให้ดลใจเปิดตา เปิดความรู้สึกในจิตวิญญาณของคนที่ถึงวาระ มีวาสนายิ่งใหญ่ที่จะหลุดพ้นจากเศษกรรมและห้วงทุกข์ปัจจุบันทันด่วนเท่านั้น จะมีแต่คนเหล่านั้นที่เห็นค่าและมาเอาไป ส่วนคนที่มามืดและก็ต้องมืดไปต่อ คนที่วาสนายังปิดตาย คนเหล่านี้ก็ให้ท่านปิดตาปิดความรู้สึกหรือบุญสัมพันธ์กับโอกาสตรงนี้ไว้ ให้เขามองผ่านๆไปเหมือนเห็นอากาศธาตุไม่ได้ฉุกคิดสะกิดใจหรือสำนึกรู้สิ่งใดๆ แม้เงาของตะกรุดคุณวิเศษนี้ก็อย่าได้พบเจอ

    พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลที่ต้องฝากให้พญามาราธิราชท่านอุปถัมภ์เช่นนั้นก็ด้วยว่าของสิ่งนี้แม้จะเป็นวิชาช่วยคน แต่วาสนาของคนก็ไม่ได้เท่ากันเสมอไป บางคนต้องเป็นรากบัวเน่าตายอยู่ในโคลนตมเป็นเหยื่อของหมู่ปลากัดกินต่อไปก็มาก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ยึดสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับครุพระสยมแต่เริ่ม ว่า " เราจะทำไว้ ให้กับคนที่คู่ควร "

    ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้ให้ตัวเราคลาดแคล้วกับเคราะห์กรรมหลักและเศษกรรมแล้ว ยังต่อต้านอกุศลกรรมในตัวเองอีกด้วย โดยปกติของคนที่อาราธนานั้น ท่านว่าเขาจะรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่าเรื่องเคราะห์หามยามซวยทั้งหลายที่มาเกิดกับตัวเขานั้น จะถูกสลับสับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะหนีจะย้ายจากตัวเขาไปลงอยู่กับเหล่าคนที่มีกรรมอกุศลร่วมกันแทน เรียกลายๆว่าให้เขาเป็นตัวตายตัวแทน รับเคราะห์แทนเราก็ได้ เช่นนั้นจึงเรียกได้ว่าสลับ กลับ คลาดทั้งหมด
    - สลับ คือสับเปลี่ยนตัวตน
    - กลับ คือย้อนเจตนาและการกระทำกลับไปให้ผู้ทำ
    - คลาด คือคลาดแคล้วเนื้อตัว ไม่ได้กล้ำกรายให้ต้องทุกข์ โทษ ภัย


    นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตให้กลับตาลปัตรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ต้องทำความเข้าใจไว้ ว่ามันกลับเฉพาะอกุศลกรรมและเคราะห์ภัยรวมไปถึงเศษกรรม หากแต่กุศลกรรมก็ยังเสวยกันได้อย่างปกติมิใช่บางเรื่องดีอยู่แล้วจะกลับไปเลวลง ด้วยคนใช้ตะกรุดนี้ถูกลิขิตไว้แล้วให้ต้องพุ่งขึ้น สูงขึ้น ไม่ตกต่ำลงเท่านั้น นอกจากสลับ กลับ คลาดตัวบุคคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังย้อนกลับทุกความคิดปองร้ายและการกระทำด้วยคุณไสย อวิชชา เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลับคืนเข้าหายังผู้กระทำด้วย

    แม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ร่ำไป วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ไปหยุดยั้งกรรมไม่ให้เกิด แต่มันกลับสับเปลี่ยนให้ตกกับคนที่มีกรรมร่วมกัน ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแทนนั่นเอง ท่านจึงอุปมาคุณวิเศษของตะกรุดนี้เสมอดุจว่าเสมือนหาตัวตายตัวแทนทีเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรามารองรับเคราะห์กรรมเรา ย้อนสนองคืนการกระทำให้เขาไปตามเจตนาและชะตาฟ้าที่ควรจะเป็นเช่นนั้น

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย ตะกรุดนี้ท่านว่ามีไว้ชำระจิตวิญญาณของผู้อาราธนาด้วย ท่านว่าคำๆนี้เป็นมิติที่กว้างและลึกมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราทุกวันนี้ผ่านการเกิดมาแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เป็นมากันหมดตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก มนุษย์ เทวดา พระราชา...เรียกว่าอยู่กันมาหมดทุกภพูมิ ทุกโลก ทุกโกฏิจักรวาล ไม่มีจะว่างเว้นการมีชีวิตอยู่และล้มหายตายจากแม้ซักวินาที จิตวิญญาณตัวนี้ของแต่ละคนล้วนแต่ตรากรตรำกรำชีวิตกันมาหนักหนา ใช้งานกันมามากมายจนตกตะกอนอกุศลมูลทั้งหลายแปดเปื้อนเนื้อตัว ท่านว่าคิดดูเถิด ถึงเวลาชำระมันบ้างหรือยัง หรือจะปล่อยให้ตายไปแบบเปื้อนๆ แล้วก็เกิดใหม่แบบเปื้อนๆเลอะๆเช่นนี้สั่งสมไปเรื่อยๆ

    พลังที่ชำระจิตวิญญาณนี้เป็นพลังของครูพระสยมที่จะขัดเกลาอย่างช้าๆให้จิตวิญญาณสะอาดและบริสุทธิ์ขึ้นทีละขั้นตอน แน่นอนวาการขัดเกลาและชำระจิตวิญญาณนั้นมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวง ซ้ำยังแสดงผลชัดเจนกับตัวตนผู้อาราธนาด้วย พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าทั้งจิตใจ อารมณ์ ความคิด สติปัญญา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรของจิตวิญญาณทั้งสิ้น ให้มองตัวเองเถิดว่าเป็นคนอารมณ์แบบไหน ร้อนแค่ไหน แรงแค่ไหน มีความคิดอุบาทว์หรือไม่ ต่ำหรือไม่ สูงอย่างไร สมองตีบตันไร้พัฒนาการหรือไม่ ก็นั่นล่ะคือความตกต่ำของจิตวิญญาณตัวเองในกาลปัจจุบันชาตินี้ และต่อไปก็จะยิ่งเสื่อมถอยลงเรื่อยๆไปอีกหลายภพชาติหากไม่พัฒนาขัดเกลาเสีย

    ถึงเวลาชำระแล้วหรือยัง พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดมากมันก็ไม่ได้ ไม่ดีกับตัวเราและตัวเจ้าในทุกกรณี หากแต่เพียงบอกได้คร่าวๆไว้ดังนี้ ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเปลี่ยนตัวเองจากข้างใน ให้ตะกรุดนี้ค่อยๆชำระจิตวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์ขึ้นบ้าง นอกจากจะสลับ กลับ คลาดแล้วยังต้องเปลี่ยนแปลงพลังงานตั้งต้นคือจิตวิญญาณของเราชำระซักฟอกให้มันบริสุทธิ์ด้วย ท่านว่ามันต้องดีจากข้างในเช่นนี้ชีวิตถึงจะสว่าง แม้มาสว่างก็ไปสว่าง ถึงจะมามืดก็ยังไปสว่าง ดังนั้นก็ให้ไตร่ตรองดูให้จงดี

    ท่านดำริว่าคนเราต่อให้ย้ายเคราะห์กรรมพ้นตัวไปแล้ว แม้จิตวิญญาณสกปรก ฌาณสมาบัติมันก็พัฒนาไม่ได้ ชีวิตมันก็ยังมืดมัวคงตัวอยู่เท่าเดิมจะตะกายอย่างไร พยายามมากกว่าคนอื่นเท่าไหร่ก็ล้วนแต่เสียแรงเปล่าทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าตะกรุดนี้ท่านจึงถือเป็นของสำคัญ เพราะมันเปลี่ยนชีวิตคนได้โดยเปลี่ยนและชำระจากข้างใน ให้ดีทุกทางไปพร้อมๆกันทั้งชาติปัจจุบันไปถึงชีวิตหลังความตายและภพชาติต่อไปก็จะได้สูงขึ้นพัฒนาขึ้นเช่นนั้น กาลแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้ท่านว่าเราถือเป็นโอกาส ด้วยเพราะวาสนามนุษย์นั้นหากไม่พบกับเทพเจ้าหรือพระอรหันต์ชี้แจงแล้วก็ย่อมดักดานต่อไปไม่สามารถชำระจิตวิญญาณตัวเองได้เลย เช่นนั้นครูพระสยมท่านจึงให้วิชาแต่โบราณนี้สืบทอดต่อไปได้ เพื่อให้คนมีโอกาสใช้ มีโอกาสได้เปลี่ยนจิตเดิม เปลี่ยนวาสนาชะตาคนสืบทอดเฉพาะผู้มีบุญสัมพันธ์กันเท่านั้น

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของทำยากมีขั้นตอนมาก***เพราะต้องเสกจนกระทั่งฟ้าผ่าผิด ฟ้าต้องผ่าและต้องผ่าผิดที่ผิดทางตามครูพระสยมท่านกำหนดไว้จึงจะสำเร็จ โดยสายฟ้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเปรียบไว้กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เป็นเคล็ดที่ว่าแม้ทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาก็ยังไม่ถูกไม่โดนเนื้อตัวเสมอด้วยเคราะห์กรรมและเศษกรรมทั้งหลาย ท่านว่าต้องเสกจนฟ้าผ่าฟ้าฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฟาดอย่างไรก็ไม่ถูกไม่โดนตะกรุดและมณฑลพิธี ทำได้เพียงฟาดพื้นที่โดยรอบเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้กว่าจะเสกสำเร็จได้จึงนับว่าเป็นของที่เสี่ยงตายทำมาให้ใช้กันโดยเฉพาะ คิดแล้วก็ยังอดใจหายไม่ได้กว่าจะทำสำเร็จจนเสกเก็บไว้ยาวๆ เพราะถ้าพลาดก็คือเราตายมันท้าทายถึงขนาดนั้น ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้เลย ท่านว่าเมื่อสำเร็จแล้วก็ภูมิใจอย่างที่สุดว่าตัวตะกรุดเองก็ดีแบบใจหายเช่นกัน เสร็จแล้วก็มานั่งอาบนั่งคลุกด้วยว่านยาที่ท่านแช่น้ำหมากเอาไว้ด้วย ท่านว่าต้องพิถีพิถันมากเพราะเคราะห์กรรมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ดังจะเห็นว่าเราพูดมากก็ไม่ได้ เพียงทำได้แต่อธิบายให้เธอเข้าใจเพราะพญามาราธิราชท่านขอเอาไว้แล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้คิดดูเอาเองเพราะตะกรุดที่เสี่ยงตายทำเช่นนี้ต่อไปย่อมไม่มีอีก ท่านทำให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าเราทำให้เพราะมีกรรมร่วมกันแต่ตอนนี้ก็หมดภาระของเราแล้ว ใครเขาจะสำนึกรู้เห็นความสำคัญอย่างไรก็ให้มาเอาไป

    *** วิธีใช้
    พ่ออาจารย์ท่านให้ยกมืออาราธนาไหว้คุณพระสยมระลึกอยู่ในใจก็สามารถพกพาได้เลย ไม่ต้องใช้คาถาอะไรทั้งสิ้น ท่านว่าสำเร็จ ศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง เป็นที่สุดอยู่แล้ว

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากใช้สลับ กลับ คลาดได้แม้แต่มหาภัยพิบัติแห่งฟ้าแล้ว นอกจากชำระจิตวิญญาณ ท่านยังเสกผูกวิชาครอบคลุมไปถึงเคราะห์ตรีกาลทั้งเคราะห์วัน เคราะห์เดือน เคราะห์ปี เรียกว่าหลุดกฏจักรราศีและวิถีดวงดาว ตรงนี้ท่านว่าบอกเขาได้แค่เราลงไว้ครบไอ้ตัวเคราะห์หน้าตามันเป็นอย่างไร ต่อไปจะไม่ได้เห็น ไม่รู้จักมันทีเดียว เอาตะกรุดไปใช้อาราธนากันให้ดี ***จำไว้ให้ขึ้นใจเพียงอย่างเดียว อย่างวิ่งเข้าไปหาเรื่อง อย่าก้าวเข้าไปเหยียบปัญหาด้วยตัวเอง ขอเพียงเท่านั้นทั้งเรื่องและปัญหามันจะไม่เข้ามาหาเราเช่นกัน

    *** ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ทั้งหมดเจ็ดดอก ท่านว่าพอทำเสร็จต้องพลีให้ฟ้าดินไปหนึ่งดอก และตัวท่านเองก็อาราธนาใช้เองอีกหนึ่งดอก จึงมีให้บูชาเพียงห้าดอกเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสทางสังคมสืบต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2019
  4. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รายการตะกรุดเพิ่มอีก องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดชาติสงสาร(อุดแร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @un

    IMG_20190513_222032.jpg IMG_20190513_222101.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-24#post-10919362


    วิชาทำตะกรุดชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าตัวล่อ โดยเดิมทีนั้นท่านว่าเป็นวิชาของครูบรมพรหมสหัมบดีที่ถ่ายทอดไว้..อะไรคือตัวล่อ ล่ออะไร แล้วใช้อย่างไร วิชานี้ท่านว่าเป็นการทำเครื่องมงคลที่น่าประหลาดนัก ตะกรุดตัวล่อนี้ก็อุปมาเสมือนสื่อที่จะชักนำให้มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาในชีวิต กล่าวง่ายๆก็คือความคิดใด ความปรารถนาใด ของเราก็ดี สิ่งนี้จะเป็นเสมือนอุบายชักนำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดให้เราพบสิ่งที่ตัวเรามีประสงค์ได้เกิดขึ้น เรียกว่าโผล่ขึ้นมาทันใจ ล่อให้ได้ ให้เจอ ให้รับมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นอิทธิคุณที่ลึกซึ้งอย่างมากเพราะสิ่งนี้เป็นตัวล่อ เป็นกลกำเนิดก่อเกิดสิ่งต่างๆที่เป็นเล่ห์กลของโลกทั้งหมดไม่ว่าจะรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสทั้งหลาย สิ่งใดบรรดามีอันเป็นยอดปรารถนาของชาติภพ สิ่งใดจะอุบัติเกิดได้ภายใต้ชาติสงสาร สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นท่านว่าตัวล่อกลกำเนิดแห่งมหาพรหมนี้ย่อมคิดอ่านเอามาได้ดั่งใจประสงค์ทั้งสิ้น จะได้ดับกาลทุกข์โศกทั้งหลายของลูกๆทั้งชายหญิงให้พังพินาศสูญหายใช้ได้ทั้งเล่ห์กลรบรับสารพัดไม่มีขัดสน ....วิชาสำคัญนี้ครูบรมพรหมท่านจำแลงแปลงเป็นภิกษุชรามาสอนพ่ออาจารย์พร้อมทั้งมาย้ำเตือนกระตุ้นว่าปี62นี้ต้องใช้ ดุจดั่งมีบัญชาสวรรค์ว่าไม่ต้องเก็บไว้แล้ว ถึงเวลาแล้ว ให้เอาออกไปให้ลูกหลานในสายบารมีของครูพรหมบูชาได้แล้ว***ด้วยปกติวิชาทำตะกรุดตัวล่อนี้เดิมท่านจะหวงแหนแลกำชับนักหนาว่าเมื่อทำต้องกำนลครูด้วยทรัพย์ที่สูงค่า พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆเลยก็คือใครจะบูชานั้นครูบรมพรหมท่านให้นำสิ่งที่มีค่าควรเมืองมาแลกเอาไป(สำคัญมากถึงขนาดนั้น) เรียกว่าเมื่อจะออกให้บูชาก็ต้องใช้ทรัพย์มหาศาลเข้าแลกแต่เดิมนั้นใครมาทำบุญกับท่านเป็นหลักแสนท่านถึงจะยอมเอาออกมาให้ใช้ท่านว่าปกติวิชานี้ครูท่านกำชับไว้หนักหนาด้วยจะป้องกันมิให้ไพร่ได้วิชา เพราะตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดนั้นเป็นมหันต์คุณทุกสิ่งย่อมใช้ได้ดั่งใจนึกอุปมาว่ามีคุณค่าใหญ่มากดั่งแว่นแคว้นเมืองสวรรค์เช่นนั้น แต่หนนี้ด้วยมีนิมิตจึงนับว่าเป็นโชคกับหลายๆคน

    ด้วยวิชาของพระพรหมนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่า "มีอานุภาพมาก เห็นเป็นตะกรุดตะกั่วเช่นนี้อย่าดูถูกไปหนา ช่วยฟื้นพลังงานให้คนหายทุกข์ร้อนได้มากเชียวล่ะ" พ่ออาจารย์ท่านว่าโลกสมัยนี้ปรับเปลี่ยนไปมาก บางอย่างก็รอกรรมและชะตามาลิขิตไม่ได้ บางอย่างก็รอให้ความสำเร็จเกิดขึ้นจาก"แรง"หรือความพยายามก็ไม่ทัน ด้วยโลกทุกวันนี้หมุนไปด้วยปัจจัยสี่ ใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความสุขทุกอย่าง กล่าวได้ว่าเงินทองเป็นสิ่งที่ทุกคนมีความต้องการและจำเป็นต้องมีจนปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าคนสมัยนี้ใช้เงินซื้อความสุขได้ ถึงแม้ว่าในขณะที่เราตายไป จะนำเอาติดตัวไปด้วยไม่ได้ก็ตาม แต่เงินนั้นก็คือพระเจ้าที่จะเนรมิตได้ทุกๆอย่างเมื่อเรามีชีวิตอยู่ตามความต้องการของเรา ด้วยโลกนั้นขับเคลื่อนและเปลี่ยนโฉมไปเงินจึงเป็นสิ่งที่จะต้องใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ต้องการเพื่อจะได้นำมาเลี้ยงชีวิตของตัวเองและครอบครัวให้บริบูรณ์ในปัจจัยสี่ต่อไป ในยุคนี้ใครเล่าจะปฏิเสธว่ามีความสุขตั้งอยู่โดยไม่ต้องใช้เงิน ชีวิตนี้จะไม่ซื้อสิ่งต่างๆ สมัยนี้แค่เดินออกนอกบ้านอย่างน้อยก็ต้องซื้อน้ำซื้ออาหารกินเพื่อเพิ่มกำลังวังชา ให้ร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ใหญ่จะได้ประกอบการงานต่อไป กรณีเช่นนี้ตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดชาติสงสารเขาก็จะทำงานไปพร้อมกับเรา เรียกว่าขณะนั้นเราทำสิ่งใดก็ดี เช่นเมื่อเราทำงานหาเงินอย่างมุ่งมั่นเขาก็จะบันดาลให้สิ่งที่เรามุ่งมั่นนั้นได้มากขึ้น มีกำไรในการค้ามากขึ้น กิจการไปได้ดีขึ้น รับราชการเจริญงอกงามมากขึ้นเช่นนี้เป็นต้น เรียกว่าเป็นตัวล่อเอาสิ่งที่เราตั้งใจไว้เข้ามาจนกระทั่งในไม่ช้าเราก็จะร่ำรวยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นี่เป็นกรณีตัวอย่างเพียงด้านเดียวของเรื่องเล็กๆคือปัจจัยที่เรียกว่าเงินซึ่งพ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างไว้

    ในตะกรุดนั้น...อุดแร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์ แร่นี้พ่ออาจารย์ท่านรับมานานแล้วแต่ก็ไม่รู้จะนำไปทำอะไร ทีแรกท่านว่าจะเอาไปถลุงหล่อเป็นรูปพรหมขึ้นมาท่านว่าก็ใช้แร่ค่อนข้างมาก มากจนเปลืองเนื้อแร่อย่างมากมายมหาศาลกว่าจะได้พรหมเล็กๆซักองค์ ท่านจึงว่าได้ไม่คุ้มเสียเพราะแร่นี้มีอิทธิคุณในตัวเองอยู่แล้ว ครูพรหมท่านบันดาลให้เกิด ทำให้มาดีแล้ว เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพมาก เช่นนี้ท่านจึงได้นำมาอุดตะกรุดตัวล่อเสียเลยในคราวเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่นี้มีคุณใหญ่มากจึงเรียกว่าแร่สลายกรรม เริ่มจากสลายอารมณ์ขุ่นมัว อาการหมองเศร้าต่างๆออกไปจากจิตใจ ทั้งอาการมักกลัว ความโกรธเกลียดทั้งหลายลดน้อยลงให้ตัวเราเบาและสบายมากขึ้น ทั้งผ่อนกรรมหนักให้เป็นเบาที่เบาแล้วก็ให้จางหายไป ท่านว่าเมื่อใจเราเย็นขึ้น ตัวเราและคนรอบข้างก็จะมีความสุขไปกับเราด้วย เพราะแร่นี้เขาสลายสิ่งไม่ดีทั้งหมดไม่ว่าจะโรคที่รุมเร้า โรคที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคเวร โรคกรรม อาการหงุดหงิดร้อนรนในจิตใจทั้งที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณตามรบกวนเราก็ดี เกิดจากสนามพลังงานต่างๆที่เรามองไม่เห็นก็ดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เอาว่าทำอะไรไม่ได้ แร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์เขาจะสลายไปทั้งหมด ให้สังเกตุดูว่าโรคภัยไข้เจ็บและปัญหาชีวิตทุกด้านตั้งแต่การเรียน ความรัก ครอบครัว การงาน การเงินจะบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว ท่านว่าแร่นี้แรงมากนะแม้ใครจิตไม่นิ่งนั่งสมาธิไม่ได้นานก็ให้ลองเอาตะกรุดไปกำแล้วนั่งดูใหม่ ท่านว่าหนนี้จะไม่อยากลุกทีเดียวเพราะจิตสงบเร็ว ปิติบังเกิดอิ่มเอิบไปหมด ทั้งยังกระตุ้นเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกาย สิ่งที่เสื่อมถอยไปแล้วก็จะพัฒนามากขึ้น เป็นเมตตามหาเสน่ห์ชนนิยมทั่วโลกด้วยสำเร็จจากอำนาจของพรหม ทั้งบรรเทาและป้องกันภาพหลอน ฝันร้าย ...ใช้ได้หมดเพื่อจะสลาย ซ่อมแซมและฟื้นสภาพดั่งปาฏิหาริย์แห่งพรหม

    นอกจากแร่วิเศษชนิดนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านอุดไว้ภายในแล้ว หัวท้ายตะกรุดท่านยังอุดด้วยผงวิเศษมากมายที่ท่านรวบรวมไว้ด้วย ท่านว่าพกดอกเดียวเหมือนได้ทุกอย่าง ทั้งผงเหล็กไหล ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ ผงเพชรหน้าทั่ง ผงพระธาตุอรหันต์ ผงพระธาตุสีวลี ผงพระธาตุข้าวบิณ ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด ผงแก่นไม้สัก ผงลูกมณีโคตร ผงมณีรัตนะ ผงหงอนพญานาค ผงแก้วขนเหล็ก ผงแร่บางไผ่ ผงหยกพันปี ผงขมิ้นหิน ผงข้าวตอกพระร่วง ผงคดกะลา ผงกะลาตาเดียว ผงสะเก็ดดาว ผงหินขวานฟ้า ผงกัลปังหา ผงข้าวสารดำ ผงดอกไม้หิน ผงเพชรน้ำค้าง ผงลูกธนูคนธรรพ์ ผงงาช้างพรายกระเด็น ผงแร่อาถรรพ์ภูเขาควาย ท่านนำมาโขลกจนละเอียดผสมกับผงวิเศษของหลวงปู่เทพโลกอุดรและผงฤาษีผสมซึ่งท่านได้มาตามถ้ำสำคัญ ท่านว่าแร่บางอย่างนั้นทั้งชีวิตบางคนก็ไม่สามารถประสบพบเจอได้แต่ละอย่างล้วนแต่เป็นของมีอานุภาพมากส่งเสริมซึ่งกันและกัน และผงวิเศษสองชนิดที่ใส่ลงไปก็เป็นยอดผงอันจะหาผู้ใดทำเสมอเหมือนมิได้เพราะสำเร็จด้วยครูบาอาจารย์สำคัญซึ่งดำรงค์ขันธ์ลึกลับยากจะประสบพบเจอ ท่านว่าตะกรุดนี้ท่านตั้งใจทำให้มีกระแสพลังงานรุนแรงอยู่ภายในเพื่อเป็นสิ่งขับเคลื่อนชีวิตผู้บูชาโดยเฉพาะ ท่านว่าตะกรุดตัวล่อที่หุ้มแหล่งพลังงานเหล่านี้อยู่ก็เสมือนกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ไม่เสื่อม ไม่ตกต่ำ มีพลังงานให้ใช้ไม่รู้จบรู้หมด จะได้ใช้ลุยกับชีวิตให้เต็มที่เพราะของเหล่านี้มันขลังตั้งแต่ต้นธาตุ เมื่อนำมาบรรจุและเสกสำเร็จด้วยแรงครูสายพรหมแล้วย่อมเปลี่ยนจากผงวิเศษกลายเป็นของทิพย์ท่านว่าใครมีตาในหรือได้ญาณเจโตทั้งหลายขึ้นไปเขาจะเห็นและรับรู้ได้เป็นอย่างดี

    ทั้งนี้ด้วยปกติวิชาสายพรหมของพ่ออาจารย์ท่านนั้นยังมีอานุภาพมาก จะรู้กันดีว่าเป็นของดีที่เรียกทรัพย์ได้ง่ายตะกรุดตัวล่อนี้ก็เช่นกันท่านตั้งใจบอกกล่าวกับครูพรหมว่าให้คนที่นำไปติดตัว เอาไปใช้ จะไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ทั้งยังเปิดทางแห่งความสำเร็จ ให้ครูพรหมปัดเป่าทุกข์ โศก โรค ภัย อันตรายใดๆก็ดีหากมีก็ให้ฝากไว้กับตะกรุดได้เลย ให้เอาไปพลิกดวง พลิกวาสนา คนไม่มีโชคให้เป็นคนมีโชค คนหากินลำบากก็ให้เป็นเศรษฐีในชาตินี้ ปรารถนาสิ่งใดก็ให้สำเร็จได้เร็ววันทันตาเห็น ให้เป็นผู้เจริญรุ่งเรืองโดยส่วนเดียวไม่มีความตกต่ำ ทำอะไรจะมีเทวดาคอยหนุนมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ท่านว่าแต่ละดอกอธิษฐานฝากฟังกำกับไว้เป็นอย่างดีเพราะตัวล่อนั้นเป็นกลกำเนิดชาติภพ เป็นวิชาเฉพาะเอาว่าครูแรง ด้วยชาติภพนั้นเมื่อกำเนิดมาแล้วย่อมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่นนี้กลกำเนิดจึงเป็นกลที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหนทางชีวิตสรรพสิ่งในชาติภพนั้นๆ ที่ว่าแก้ไม่ตก ทุกข์ยากไม่คลาย เส้นทางเดินไปไม่มี สิ่งทั้งหลายย่อมเบี่ยงเบนไปในหนทางใหม่ได้ ย่อมเจริญก้าวหน้าขึ้นโดยลำดับ ด้วยครูท่านจะป้องกันเสนียดจัญไรคุณไสยเวรกรรมเคราะห์ร้ายอัปมงคลทั้งปวงนั้นไม่ให้กล้ำกราย

    "กลกำเนิดชาติสงสารนั้น เป็นดั่งกลพลิกสถานการณ์" พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมีชาติ ย่อมมีทุกข์ เวทนา สัญญา...ทั้งหลายเกิดขึ้น สิ่งทั้งหลายนี้จะดำเนินไปบนหนทางที่หลบไม่ได้ เลี่ยงก็ไม่ทันเพราะมันเป็นทางเดินของเรา มีแต่ต้องก้าวไปข้างหน้าจะถอยกลับไม่ได้ ไม่มีทางเดินอื่นใดให้เราเลือกเปลี่ยนเส้นทางเลย เช่นนั้นนั่นคือชะตากรรม ตะกรุดตัวล่อนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกลกำเนิด คือมันซ้อนกล ซ้อนบรรทัดฐานชาติสงสารของกรรมลิขิต ให้พลิกสถานการณ์กลายกลับได้ ท่านว่าเมื่อซ้อนกลกำเนิดแล้วหนทางที่จะไปต่อก็มีเพิ่มขึ้น มีการแตกแขนง มีโอกาสเปลี่ยนเส้นทางเบี่ยงเบนโชคชะตาแต่เดิมเป็นลำดับขั้น เรียกว่าเปลี่ยนแล้วก็ยังต้องเปลี่ยนต่อไปจนกว่าจะดี และก็จะเปลี่ยนต่อๆไปจนมันดีที่สุดชนิดที่เราแทบจะไม่รู้ตัวว่าได้ก้าวเข้ามาในการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่จุดไหนตอนไหน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ดีจริงคงไม่กำหนดแต่แรกให้แลกวิชานี้ด้วยทรัพย์มหาศาลซึ่งท่านก็ไม่อยากจะประกาศให้ใครบูชาเพราะกลัวเขาครหาและไม่เข้าใจ ต่อเมื่อภายหลังจึงถึงเวลาท่านว่าใครเอาไว้ได้ก็เป็นวาสนาของเขาแล้วกัน รายการนี้ท่านว่าไม่ต้องพิมพ์เยอะ สั้นๆแต่รู้เรื่อง เฉพาะแร่เฉพาะผงแต่ละอย่างนั้นก็ให้คุณมากอยู่แล้วใช้ทั้งชาตินี้ก็ไม่หมด ประกอบกับตะกรุดตัวล่อยังเป็นวิชาเอก ซึ่งไม่ใช่ของเราแต่เป็นวิชาเอกของครูพรหมท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้วให้มนุษย์ใช้ ทั้งล่อ ทั้งสลาย ทั้งซ่อมแซมและฟื้นฟูครบในดอกเดียว

    คาถาบูชา
    ทะสะทิสารัสมิง พรหมานังสฮัมปตีคุณัง ทุกขะ โรคะ ภะยัง เวรัง วิวัณชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัณชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ

    * ตะกรุดนี้มีให้บูชาสี่ดอก รับจองเฉพาะทาง PM ท่านใดจองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะฝากครูพรหมให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อนำไปใช้งานได้ประสิทธิสมเจตนามากขึ้นและแรงขึ้น รายได้สมทบทุนอาหารกลางวันโรงเรียนชาวเขาในชนบทสืบต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2019
  6. surasakkarun

    surasakkarun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +136
    จองพระปิดตา และตระกรุดพิชัยสมบัติฯ ครับ
     
  7. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  8. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    ปิดตะกรุดตัวล่อกลกำเนิดชาติสงสาร(อุดแร่สลายกรรมพรหมปาฏิหาริย์)
     
  9. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  10. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดหนุนพลังอินฟินิตี้(แก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ใช้ของไม่ขึ้น)

    ให้บูชา 4100 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @UN

    IMG_20190513_213131.jpg IMG_20190513_213350.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์-นิราศทุกข์ทั้งผอง-พ่ออาจารย์พล.548127/page-22#post-10839467

    *** ของเล็กๆที่ทำได้ยากยิ่ง และหาผู้ทำเสมอเหมือนมิได้ เพราะเป็นของจากข้างใน ....ในยุควัตถุนิยมที่สภาพบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับความเจริญและพัฒนาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ความเชื่อความศรัทธาทางด้านเครื่องรางของขลังนั้นลดน้อยลงทั้งมีความเชื่อหรือทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็มีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังเชื่อและศรัทธาในศาสตร์ลี้ลับอยู่ทั้งยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังหาของขลังหรือของดีไว้บูชาเพื่อหวังพึ่งทางด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หลายคนได้บูชามาแล้วก็สำเร็จสมหวังหรือที่เรียกว่าเห็นผล หลายคนบูชาแล้วก็ไม่เกิดผลเป็นเพราะเหตุใด

    พ่ออาจารย์ท่านแยกและจำแนกเกี่ยวกับสาเหตุการบูชาของแล้วไม่พบอิทธิคุณไว้ดังนี้
    - จิตไม่เป็นสื่อนำพา ในเรื่องนี้ท่านว่าเป็นที่จิตใจของผู้ใช้เอง ถ้าเขามีจิตใจที่ด้านเกินไปจนไม่อาจสื่อเข้ากับพลังงาน ครูบาอาจารย์ หรือความศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับใดๆรวมทั้งอำนาจของเครื่องรางต่างๆ ด้วยพื้นฐานที่ขัดแย้งหรือมีความรู้สึกลึกๆว่าไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้ว่านี้มีอยู่จริง ความรู้สึกต่างๆที่ต่อต้านในตนเองนี่แหละจะส่งผลให้พลังงานปิดตัวและปิดตาย ทั้งคนที่มีจิตใจชอบความท้าทาย อยากพิสูจน์ ชอบลองของแบบลบหลู่อันนี้ก็จะหนักหน่อยเพราะเขาจะใช้สิ่งใดไม่ขึ้นทั้งยังไม่ได้ผลและอาจเกิดโทษต่างๆในเวลาอันใกล้อีกเสียด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าปัจจุบันนี้หลายคนต้องการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องการเฉพาะผลลัพธ์โดยปราศจากฐานเริ่มต้นอุปมาเหมือนอยากใช้ของอยากได้ผลแต่ตัวเองไม่ได้ศรัทธาเช่นนั้น เรียกว่าจิตใจทื่อๆเห็นเครื่องรางเหมือนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียบไฟปุ้ปจะติดปั้ป เช่นนี้ย่อมไม่เข้ากันดุจดังเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เสียบไฟ ถือเอาไปก็ใช้งานไม่ได้
    - ไม่มีบุญสัมพันธ์ ข้อนี้จะเรียกว่าขาดวาสนาเชื่อมต่อซึ่งกันและกันก็ได้ ทั้งวาสนาจากอดีตและปัจจุบัน เพราะไม่เคยระลึกตรึกถึงครูบาอาจารย์ ไม่เคยนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่เคยทำบุญถวายครูบาอาจารย์และเทพเทวดาที่รักษาของเหล่านั้นเลย เรียกว่าไม่เคยสร้างวาระกรรมให้สัมพันธ์กันทั้งจากอดีตถึงปัจจุบันนั่นเอง
    - เคยปรามาสพระรัตนตรัย ข้อนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ส่งผลให้เทวดาไม่รักษา ใช้ของไม่ขึ้น ซึ่งสาเหตุนี้ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะพระรัตนตรัยเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ายังหมายรวมไปถึงสิ่งที่มีคุณท่วมหัวเช่นบิดามารดาบังเกิดเกล้า ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีพระคุณต่อเราทั้งหลายด้วย เคยหลบหลู่เขาไว้อย่างไร ผลของการที่ถูกละเลยเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สนใจก้มีเหตุมาจากเรื่องเช่นนี้
    - จิตมีมิจฉาทิฐิมาก คือมีความเห็นผิด มีทิฐิมานะความถือตัวตนของตนเองมาก เรียกว่าพวกหลงตัวเองก็ได้ ประเภทกูมี กูเก่ง กูสำคัญ กูดีที่สุด ตัวกูของกูคือศูนย์กลางของโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจิตมีมิจฉาทิฏฐิมาก หลงมาก โลภมาก มีอารมณ์อันไม่ควรจะมีอยู่มากมันก็จะไประงับอำนาจของวัตถุมงคลที่สร้างจากสัมมาทิฏฐิได้เช่นกัน ประดุจว่าคลื่นของคนให้และคนรับไม่ตรงกันจึงเข้ากันไม่ได้เช่นนั้น
    - มีกรรมเป็นเครื่องขัดขวาง สาเหตุนี้นับว่าสำคัญที่สุดและหลายคนลืมนึกถึงไปในเรื่องอำนาจของกรรม ถ้ามีแรงกรรมหนักมากั้นขวางให้ใช้ของไม่ได้ผลเพราะอานุภาพของวัตถุมงคลนั้นจะเป็นเหตุนำออกจากอำนาจกรรมเดิมที่กำหนดไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปกับผู้ที่บูชาเครื่องรางของขลังเพราะโดยทั่วไปเมื่อมีปัญหาเรื่องใด มักจะหาเครื่องรางของขลังที่แก้ทางด้านนั้นมาช่วยให้ดีขึ้น แต่บางทีก็ลืมไปหรือไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีกรรมและกำลังรับผลกรรมอยู่ เมื่อไปบูชาสิ่งใดมาแรงกรรมนั้นย่อมจะขัดขวางอยู่เช่นนี้ทำให้บูชาสิ่งใดก็ไม่ได้ผลเต็มที่หรือไม่เห็นผลเลยก็มี


    ด้วยหลากหลายเรื่องราวที่เป็นสิ่งปิดกั้นอำนาจพุทธคุณและครูบาอาจารย์ ทำให้ผู้ใช้ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องรับสัญญาณสื่อไม่ถึงกับสถานีส่งอย่างต่อกันไม่ติด พ่ออาจารย์ท่านจึงมีความเห็นส่วนตัวว่า ถ้าจะทำเครื่องมงคลให้ติดอยู่ในกฏไตรลักษณ์แล้ว เราจะทำขึ้นมาเพื่ออะไร แล้วของทั้งหลายนั้นจะไปช่วยฉุดดึงใครได้ คนบางคนถ้าดวงเขาเปิดเขาถือของดีไว้ดวงเขาจะวิ่งพุ่งแรงแซงทะลุวาสนาเดิมของตัวเขาด้วยซ้ำ แต่ของชิ้นเดียวกันอยู่ในมืออีกคนหนึ่งกลับไม่ส่งผลอะไร ท่านพิจารณาเช่นนี้แล้วจึงน้อมจิตถามครูพระสยมว่าจะมีสิ่งใดเป็นเครื่องนำออกจากสถานการณ์ปิดกั้นเหล่านี้ทั้งหมดทั้งมวลบ้างหรือไม่....นี่คือเหตุการณ์เริ่มต้นอันเป็นที่มีของตะกรุดแก้เงียบ

    ด้วยท่านประสงค์จะให้คนมีความหวัง เดินไปได้ตามความหวังและความฝันของตนเอง ไม่ใช่ซ้ายก็ผิด ขวาก็ไม่ดีแม้จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องระวังทั้งหน้าทั้งหลังมีข้อจำกัดที่ตนเองไม่อาจจะล่วงรู้ได้มาก่อนชนิดที่เรียกว่าตั้งแต่เกิดจนต่อให้ตายไปแล้วก็ยังไม่อาจทราบเลยว่าทำไมตัวเองถึงใช้ของไม่ขึ้น ไม่ได้ดีเหมือนคนอื่นๆที่ใช้ของเหมือนกัน

    ซึ่งครูพระสยมท่านเปี่ยมด้วยมหากรุณาเป็นที่สุดต่อมนุษย์ผู้มีทุกขเวทนาอันแรงกล้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านให้เราทำตะกรุดแก้เงียบดอกนี้โดยใส่ยันต์และวิชาเฉพาะซึ่งเป็นของบังบดหลายชนิดเพื่อให้ผลครอบคลุมทั้งหมด โดยเริ่มต้นท่านให้นำแผ่นตะกั่วที่จะใช้ลงวิชานั้น ไปหนุนรองฐานศิวลึงค์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านปั้นขึ้นเพื่อบูชาครูพระสยมเป็นปฐม พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องมีอาถรรพ์ตั้งแต่ยังเป็นแผ่นตะกั่วกันเลยทีเดียว ครูท่านให้เราเอาตะกั่วเหล่านั้นไปรองฐานนานนับปีเพื่อให้ตะกั่วซึมซับไศวะมนตรามากมาย และถือเคล็ดที่เข้าใจได้ง่ายๆว่าแผ่นตะกั่วนั้นหนุนพ่อ(ครูพระสยม)ให้สูงขึ้นได้ฉันใด เมื่อนำมาทำตะกรุดแล้วไซร้ก็ย่อมหนุนชีวิตลูกให้สูงขึ้นได้ฉันนั้น เป็นการสร้างพันธะความสัมพันธ์กันระหว่างพ่อและลูก ซึ่งแผ่นตะกั่วชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังยังไม่ต้องทำอะไรเลยตัวมันเองก็จะมีอิทธิคุณแฝดอยู่แล้ว ตรงนี้จะดีไปในทางหนุนชีวิตเรา หนุนดวงชะตาของเรา หนุนหมดทั้งฐานะการเงิน ฐานะการงาน หนุนทรัพย์สมบัติ หนุนกิจการให้เจริญงอกงาม

    มื่อความโลภบังตา ความอยาก ความต้องการ ความปรารถนาทุกสิ่งที่มากเกินพอดี เกินขอบเขต เกินขีดจำกัดย่อมเป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งความทรุดโทรมและความเสื่อมในใจมนุษย์ ครูพระสยมท่านจึงให้พ่ออาจารย์สร้างตะกรุดแก้เงียบ หรือที่ท่านเรียกว่าหนุนพลังอินฟินิตี้นี้ขึ้นมา เพื่อต้องการหมุนวนและขับถ่ายพลังงานอันไม่จำเป็นออกไปจากจิตใจและร่างกายของคนใช้เพื่อให้มีจิตเบิกบาน ทั้งยังแจ่มใสในส่วนเดียว พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงทางแก้กันไว้ครบทุกสิ่งทั้งกันเจ็บไข้ได้ป่วย แก้โรคร้ายต่างๆ แก้โรคเวรโรคกรรมทั้งกันสรรพภัยในทศทิศและท่านยังลงเวทย์ใหญ่ของครูพระสยมให้อธิษฐานใช้ได้ร้อยแปดพันประการ ท่านว่าเมื่อไม่มีโรคจิตใจย่อมแจ่มใส เมื่อไม่ประสบพบเรื่องเลวร้ายอันจะนำออกจากอำนาจคุณพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ ชีวิตย่อมได้ชื่อว่าเป็นปรกติสุข

    ท่านว่าทำยากเพราะต้องแบ่งแผ่นตะกั่วเป็นหัวท้ายลงจารวิชาให้หนุนและผลักดัน ให้หมุนวนถ่ายเทพลังงานทั้งขับเข้าและถ่ายออกแบบไม่จบสิ้น พอนำมาม้วนบรรจบกันเป็นเลขแปดก็เป็นสัญลักษณ์ของพลังอินฟินิตี้ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ครูพระสยมท่านเน้นให้ทำเช่นนี้เพื่อให้ได้ตะกรุดอันมีอานุภาพไม่มีประมาณและสามารถใช้ได้ครอบคลุมทุกเรื่อง ทั้งแก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ร้ายในชีวิต

    แก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ สามแก้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสิ่งที่แก้ได้ยากเย็นที่สุดในชีวิตของคน ไม่มีอะไรจะแก้และถอดถอนได้ยากไปมากกว่านี้ เพราะมันเชื่อมโยงกับเวรกรรมและอุปนิสัยตลอดจนเกี่ยวเนื่องกับทุกสิ่งที่เป็นตัวของเราชนิดที่ว่าแยกแยะไม่ออก ดังนั้นเมื่อท่านเชิญครูและอธิษฐานจิตจนสำเร็จแล้วท่านจึงนำตะกรุดฝังดินเอาไว้ด้วยตั้งใจจะฝากไว้กับแม่พระธรณี นานๆหนถึงจะนำมาใช้ทีเวลามีผู้เดือดร้อนซึ่งแก้ไม่ตกจริงๆ ชนิดที่ว่าเป็นปัญหาโลกแตกแก้ไขไม่ได้เช่นนั้น และต้องเป็นเรื่องเป็นปมที่ท่านเห็นว่าผูกพันธ์กับกรรมยุ่งเหยิงเท่านั้นท่านจึงจะให้คนมีเคราะห์เช่นนี้บูชา

    พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้พูดถึงตะกรุดตัวนี้มาก ท่านว่าเพราะการทำงานของมันนั้นสัมพันธ์กับร่างกายคนใช้และผูกเป็นฐานรากให้กับชีวิตของคน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสจับต้องอาราธนาแรงครูท่านจะหนุนทั้งหมด พลังงานจะเข้าไปปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ถ่ายเทสิ่งที่ติดขัดอันอยู่ข้างใน สิ่งที่ตาเราไม่เห็น ปัญหาที่เราไม่มีวันรู้หรือสัมผัสได้ตลอดชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้แต่เดิมมันไม่มีถ่ายทอดให้แก่กัน นี่ถ้าครูพระสยมท่านไม่สอนฉันก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นวิชาของพวกบังบดที่ผุดขึ้นและให้รู้ได้ทางจิตเฉพาะคน มันหมุนเวียนผันเปลี่ยนพลังงานการแสดงออกได้ร้อยแปดพันประการ ฉันจึงไม่รู้ว่าจะพูด จะบอก จะบรรยายให้เข้าใจกันได้อย่างไร

    ท่านว่าเอาเป็นว่าเชื่อเราไอ้ชีวิตที่เงียบ ที่มันต่ำจนไม่รู้ว่าจะต่ำไปมากกว่านี้ได้อย่างไรอีก ทั้งชีวิตที่มีปมยุ่งเหยิงจนไม่รู้จะจับเจอหรือควานหาปลายเชือกของบ่วงกรรมเส้นไหนมาแก้ไขก่อน ทั้งอาถรรพ์ลึกซึ้งที่พันผูกจิตวิญญาณเป็นเอนกอนันต์ในชาติสงสารทั้งหลายเหล่านี้ ด้วยพลังงานของแรงครูพระสยมและอาถรรพ์วิชานั้น จะได้ขับเคลื่อนถ่ายเทพลังงานต่างๆ เอาว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้แต่พอจะบอกได้คร่าวๆว่าถ่ายเทให้วางอยู่ในจุดที่ถูกที่ถูกทางเช่นนั้นก็แล้วกัน

    ใครที่รู้ตัวว่ากระแสพลังงานผันผวน เวรกรรมไม่สัมพันธ์กับบุญที่ทำไว้ ซ้ำชีวิตยังมีความปรารถนาใหญ่โตจนมองไม่เห็นปลายทางความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้ไปใช้และไหว้คุณครูพระสยมเสีย ขอให้มีศรัทธามั่นคงอย่างแท้จริงแล้วปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นในฉับพลันทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดมากกว่านี้ไม่ได้เอาว่าแค่เขาฟังภาษาคนรู้เรื่องก็คงเข้าใจได้ว่าหมายถึงอะไรและเหมาะสมกับเขาหรือไม่


    ให้หมั่นไหว้ หมั่นบูชา หมั่นภาวนา หมั่นขอ ไปเรื่อยๆ ท่านว่ามีแค่นี้แหละ สะดวกและง่ายดายถึงปานนั้นขอไปเรื่อยๆขอจนกว่าจะได้ จนกว่าจะสำเร็จ ท่านว่าเธอเชื่อฉันมั๊ยจากคนที่ดวงซวยๆใช้ของไม่ขึ้นแล้วเขาเคยใช้ตะกรุดรุ่นนี้ เขานั่งบ่นนั่งพล่ามนั่งภาวนาขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอจนเขาถูกรางวัลที่หนึ่งสองใบ เช่นนี้ก็มีปรากฏมาแล้ว ฉันจึงไม่อยากจะพูดว่าดีอย่างไรแต่ให้จำไว้ว่าจงขอและอย่าหยุดขอจนกว่าจะได้ ส่วนข้อห้ามใหญ่เลยของผู้บูชาก็คือควรเลี่ยมกันน้ำไว้และนำติดร่างกายไว้ตลอดอย่าให้ห่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เปรียบเสมือนความโชคดี เหมือนแรงครูที่จะหนุนนำชะตามนุษย์ ควรจะเอาติดตัวไว้ให้ได้ตลอดเพราะเมื่อใดที่ออกห่างแล้วชีวิตก็จะหมุนวนกลับไปตามอำนาจกรรมเช่นเดิมอีกแบบนั้น

    วิชานี้เป็นวิชาของข้างใน พ่ออาจารย์ท่านย้ำอยู่หลายครั้งว่านี่ไม่ใช่ของนอก หากแต่เป็นของข้างใน ทั้งไม่มีให้สืบทอดและก็มอบให้กับสงฆ์ทำไม่ได้ ด้วยเป็นพลังงานอันหมุนวนเปลี่ยนแปลงได้ตลอด หาได้ตายตัวเพราะเขาจะพลิกแพลงตลบแตลงไปมาอยู่เสมอ ดุจว่าพลังงานที่แสดงออกในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน ดุจว่าเขาเป็นตะกรุดที่มีภูติพระเจ้า เป็นตะกรุดที่มีชีวิต เมื่ออยู่กับตัวเราเขาจะรู้เองว่าอะไรที่เป็นจุดพอดี เป็นพลังงานที่เหมาะสมกับตัวกับร่างกายของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกที่มีตาในทั้งหลาย ตลอดจนคนที่รู้ค่าของคำว่าวิชาจากข้างใน เขาจะรู้และวิ่งหากันให้แทบพลิกแผ่นดิน เพราะวิชาเช่นนี้ยากนักที่จะมีปรากฏในโลก และยากนักที่จะมีคนทำให้แก่ผู้อื่น

    คาถาบูชา
    โยโทโส โมหะจิตเตนะ อาจาริยัสมิง ปะกะโตมะยา ขะมะขะเมกะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินาสสันติ อะตีตังโทสัง ปัจจุบันทังโทสัง อนาคตังโทสังกายกิริยากัมมัง วะจีกัมมัง ผัสสะวัตถุ วัตถาโทสัง อนุเสสะโทสัง ภันเต ขะมามิ (และว่าทุติยัมปิ...ตะติยัมปิ...ต่อด้วยคาถาข้างต้น)
    ข้าแต่พระรัตนตรัยและพ่อแม่ครูอาจารย์ หากมีสิ่งใดที่ตัวข้าพเจ้าประมาทพลาดพลั้ง เคยล่วงเกินครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แลท่านผู้สูงส่งทั้งหลาย จะโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี กรรมใดที่ส่งผลให้ใช้วัตถุมงคลแทนครูต่างๆได้ไม่ดีไม่เกิดผล ขอท่านทั้งหลายผู้ทรงพรหมวิหารมีจิตใจเอื้อเฟื้ออย่าได้ถือโทษและจงอดโทษแก่ข้าพเจ้า ขอให้แรงครูนั้นผลักดันและหนุนส่งผลให้กับตัวข้าพเจ้านับแต่กาลบัดนี้เป็นต้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2019
  11. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    วันนี้ลงครบแล้วครับ ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ
     
  12. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    ปิดเพิ่ม

    ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณ
    (เข้าผิดคน ทุกข์ผิดตัว)

    ตะกรุดหนุนพลังอินฟินิตี้(แก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ใช้ของไม่ขึ้น)
     
  13. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  14. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    สวัสดีครับ

    พรุ่งนี้ วันศุกร์จะมาลงรายการเหล่านี้เพิ่มนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    มงคลโคตรเสน่ห์น้ำมันใจขาด(มหาพฤกษาวิญญาณ)

    ให้บูชา 4000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @UN

    รายการนี้มีตะกรุดพิเศษที่ได้รับมาพร้อมน้ำมันให้ไปด้วยครับ
    สำหรับผู้ที่บูชา ผมจะแจ้งชื่อแม่ตะเคียนให้ส่วนตัวครับ

    IMG_20190517_015816.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม-พ่ออาจารย์พล.548127/page-13#post-10485775

    มงคลโคตรเสน่ห์น้ำมันใจขาด(มหาพฤกษาวิญญาณ) เป็นน้ำมันที่พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจัดสร้างด้วยเหตุผลใหญ่ๆสี่ประการ ท่านว่าน้ำมันนี้ไม่ใช่แต่เพียงน้ำมันเสน่ห์เท่านั้น ก่อนที่จะเป็นเสน่ห์นั้นยังใช้ด้านอื่นได้อีกด้วย ซึ่งท่านว่าน้ำมันของท่านนั้นใช้ได้ในด้านต่างๆดังนี้
    - เป็นน้ำมันเร่งรวย เร่งโชคลาภวาสนา ท่านว่าตรงนี้ถ้าเอามาเจิมหน้าผากเจิมฝ่ามือตัวเองจะเปิดดวงรับทรัพย์แบบไม่คาดคิดมาก่อน ที่ไม่เคยมีก็จะมี ไม่เคยได้ก็จะได้
    - เป็นน้ำมันแก้เสนียด ท่านว่าให้ดีดใส่น้ำซักหยด นำน้ำนั้นมาอาบชำระร่างกาย เสนียดประการใดที่เกิดจากอาถรรพ์ในทุกอวัยวะของร่างกายจะถูกขับล้างไป
    - เป็นน้ำมันพลิกดวง ท่านว่าทำไว้ให้แก้ดวง เวลาดวงใครชง พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ใช้น้ำมันนี้เจิมหน้าตาได้ จะไม่ทุกข์หมองหรือเจอพระเคราะห์เล่นงานแต่อย่างใด ท่านลงสูตรมหานารายณ์พลิกแผ่นดินบทใหญ่เต็มสูตรซึ่งท่านไม่เคยลงที่ใดกำกับไว้ พร้อมทั้งผสมน้ำมันกะลาอาถรรพ์ด้วยทั้งกะลาตาเดียว กะลาไม่มีตา
    - เป็นน้ำมันเสน่ห์ ท่านว่าสารพัดจะใช้ เจิมหน้าเจิมตาเป็นเมตตามหานิยมใหญ่ เจิมปากวนรอบริมฝีปากนี่ท่านว่าพูดอะไรเขาก็เชื่อเราหมด ดีกว่าลงมหานิยมหรือสาลิกาลิ้นทองเสียร้อยที่ ถ้ารักใครชอบใครก็บอกกล่าวขอบารมีครูแม่ตะเคียนให้ท่านดลจิตให้ ดีดน้ำมันใส่หรือป้ายเขา ท่านว่าน้ำมันของท่านนี้ไม่ใช่น้ำมันพรายไม่มีอันตรายอันใดแอบแฝง ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ด้วยอานุภาพของแม่ตะเคียนนั่นเอง


    ตะเคียนอาถรรพ์ตกน้ำมันฟ้าผ่ากิ่งทิศตะวันออก พ่ออาจารย์ท่านเลือกใช้ตะเคียนอาถรรพ์นี้โดยทำการพลีบอกกล่าวจิตวิญญาณอย่างดี ท่านว่าเพราะนี่เป็นของอาถรรพ์เป็นของที่ฟ้าเข้าหยิบยื่นให้กับมือเป็นมหาพฤกษาวิญญาณที่เทพเจ้าประจุพลังให้ ก็ในเมื่อครูบาอาจารย์ท่านตั้งใจให้จะไม่ดีได้อย่างไร มีอย่างที่ไหนฟ้าผ่ากลางวัน ฟ้าใสขนาดนั้นก็ยังผ่าได้ ท่านว่าตะเคียนนี่มีอาถรรพ์มากแต่เดิม เมื่อได้รับสายฟ้าชุบตัว ถือว่าได้รับพลังงานศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าชั้นสูงหรือได้รับอำนาจจากสายฟ้าที่เป็นอาวุธของพระอินทร์ ทำให้ตะเคียนนั้นมีพลังงานอาถรรพ์สูงขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านนำมาแกะสลักเป็นนางตะเคียนด้วยวิชามหาญาณธาตุสี่ ผูกหุ่น ผูกรูป ผูกนาม ตั้งธาตุ ปลุกชีวิต ท่านว่านางตะเคียนนี้มีตัวมีตน อานุภาพแรง และเฮี้ยนนัก เป็นนางตะเคียนซึ่งเป็นรุกขเทวดาที่ใจดีชอบช่วยเหลือ ชอบให้โชค บอกกล่าวได้ทุกเรื่อง ใช้งานได้ทุกอย่าง ท่านว่าเทพแบบนี้เค้าอยู่ใกล้ชิดกับเรามาก จะคิดหวังทำอะไรก็ขอเขาได้อย่างง่ายดาย ท่านว่าถ้าเป็นเรื่องของมนุษย์ขอให้กล่าวมาเถอะ ไม่มีอะไรเกินมือหรือทำไม่ได้ แต่ให้จำไว้ว่าเขาไม่ใช่เทพชั้นสูง เวลาสวดมนต์แผ่เมตตาก็นึกถึงเขาบ้าง หรือเวลาใส่บาตรก็อธิษฐานว่าใส่ให้เขาบ้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าทำได้ตามนี้จะสนิทกันเร็ว พูดกันง่าย และแม่ตะเคียนนั้นจะยิ่งมีอิทธิฤทธิ์สูงยิ่งๆขึ้นไปอีก(พ่ออาจารย์ท่านแกะเรียกจิตตั้งชื่อทีละองค์ ซ้ำยังลงตัวธรรมวิชาธรรมซึ่งถือว่าเป็นวิชาที่ไม่มีวันเสื่อมและยังมีอานุภาพแรงสุดๆจารไว้ด้านหลังละเอียดยิบชนิดกล้องจับไม่ได้เลย) นอกจากนี้ท่านยังลงอาถรรพ์ยันต์ไม้ฟ้าผ่าไว้คำรบหนึ่งก่อนที่ไม้ตะเคียนก่อนนำมาแกะให้ต้องกับอาถรรพ์ตะเคียนฟ้าผ่า ท่านว่าวิชานี้แม้นจะประสงสิ่งใดกับผู้ที่อาวุโสกว่าไม่ว่าจะท้าวพระยานารีสมณะชีพราหมณ์เอาน้ำมันทาหน้าผากย่อมได้ดั่งใจปรารถนา ถ้ามีคดีความเป็นปากเสียงกันเอาน้ำมันทาปากท่านว่าชนะแล แม้เอาน้ำมันทาตาทั้งคู่จะมองสิ่งใด แลสิ่งใด แม้เขาสบตาเราเป็นมหาละลวยอย่างยิ่ง น้ำมันนี้มีคุณมาก ท่านว่าเอามาทาคางเดินไปที่ใดดุจว่ามืดมิดคนมองมิเห็นตัวเราเลย

    เมื่อจะทำมงคลโคตรเสน่ห์น้ำมันใจขาดนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้เก็บตัวเพื่อจะลงตะกรุดผูกวิชาซึ่งมีอาถรรพ์มากสี่ประการ ด้วยความเมตตาของท่านทำให้ท่านได้ทำการบีบอักขระลงจารสิ่งที่ทำได้ยากขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการทำเช่นนี้ต้องใช้พลังปราณและสมาธิอย่างมากเพื่อจะเรียกสูตร เพราะท่านไม่ได้จารผ่านเลนส์หรือแว่นขยายแบบที่หลายๆที่ทำกัน อักขระมหายันต์แต่ละแผ่น วิชาแต่ละสูตร เน้นความแรง ร่ำรวย รวยเสน่ห์ รวยทรัพย์ ปลุกอาถรรพ์ รวมไปถึงยันต์ครอบจักรวาลและยันต์ลงน้ำมัน ท่านก็เมตตาบีบอักขระลงไว้ให้ในตะกรุดดอกเล็กๆซึ่งบรรจุในขวดจิ๋ว ท่านว่าเอาให้แรงอยู่ได้เป็นกัปเป็นกัลป์ ทำเล่นๆเราไม่ทำ พ่ออาจารย์ท่านมีความตั้งใจของท่านแต่เดิมอยู่แล้วว่า น้ำมันนี้ ต่อให้ใช้หมดอย่างไร เวลาผ่านไปนานเพียงไหน ขอเพียงให้หาน้ำมันจันทร์มาเติมลงไปในขวด ก็มีอานุภาพดุจเดิม ใช้ได้เหมือนเดิมตลอดไปไม่ขาดตกบกพร่องเลย ซึ่งวิชาต่างๆที่ท่านได้ลงไว้ในตะกรุด มีดังต่อไปนี้

    - ดอกแรกเรียกว่าพระฤาษีตาไฟ พ่ออาจารย์ท่านแปลงสูตรลงให้เต็มสูตร ท่านวาดอกนี้มีอานุภาพมากแม้ได้ติดตัวผู้ใดจะมิรู้ยากรู้จนเลย จะทำให้สตรีเพศเขารักเราถึงขั้นอยู่ไม่ได้ก็ได้ แม้นพกพาไปย่อมเป็นที่รักและนิยมแก่คนทั่วไป วิชานี้พระฤาษีตาไฟท่านให้ไว้เป็นทานแก่คนทั้งหลาย แม้จะเดินทางไปในมหาทิศทั้งสี่ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ตั้งใจให้มั่นนึกถึงองค์พระฤาษีตาไฟเถิด ศัตรูทำอะไรมิได้ มิต้องด้วยอันตรายทั้งสามสถานนั่นคือ บนบก ในน้ำ ในอากาศ ท่านว่าเป็นของวิเศษอุปมาไม่ได้ หากมั่นคงในคุณของพระฤาษีตาไฟ จะไม่ต่ำกว่าคน ไม่จนกว่าเขา ทำอะไรจะมิรู้ยากรู้จน มีแต่เฮง มีแต่รวย

    - ดอกที่สองเรียกถุงเงินถุงทอง ตัวนี้ท่านว่าดีทางโภคทรัพอย์อย่างที่สุด หาทรัพย์คล่องก็ตัวนี้ ได้ทรัพย์ง่ายก็ตัวนี้ ท่านทำให้เต็มสูตรเดินคาถาว่าอักขระเรียกสูตรอย่างเต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดถุงเงินถุงทองนี้มีอานุภาพมาก ปกติจะไม่ค่อยทำให้ใครเพราะว่าชีวิตของคนที่บูชาเขาจะสบายเกินไป มันเกินเลยคำว่าโชคลาภที่จะได้จะพบแบบครั้งคราวได้ๆหายๆเช่นวิชาธรรมดา แต่วิชานี้จะทำให้เขามีกินมิรู้สิ้นรู้หมดนั่นทีเดียว เป็นโชคลาภวาสนาที่เกิดมาพันคนหมื่นคนก็ใช่ว่าจะหาพบเจอได้ง่าย

    - ดอกที่สามเรียกมหานารายณ์แปลงสาสน์พลิกแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านว่าดอกนี้สารพัดแก้ อะไรไม่ดีนี่หลุดหมด ไม่ใช่แต่เพียงแก้ดวง แก้ชง แก้พระเคราะห์พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกราหูทับลัคนาทั้งหลาย ยังแก้เสนียด แก้อาถรรพ์ในร่างกาย ในสถานที่ ในภูมิแผ่นดิน แก้อาถรรพ์ไสยศาสตร์การฝังรูปฝังรอย ใครเคยต้องไสยดำทั้งหลายนี่หลุดหมด ดอกนี้สารพัดจะแก้ ท่านว่าแม้แต่ปอบเข้าก็ยังแก้ได้เลย นับประสาอะไรกับแค่แก้ดวงเคลื่อนชะตาเปลี่ยนผ่านฐานชีวิต ดอกที่สามนี้พ่ออาจารย์ว่าเป็นตะกรุดที่ลงยากแต่มีอานุภาพใหญ่มาก ไม่ใช่แต่เพียงแก้ได้ทุกอย่างยังช่วยให้ผู้บูชาหาทรัพย์คล่องอีกด้วย เป็นโฉลกกับเงินทอง อะไรที่เป็นเรื่องเงินๆทองๆนี่ดูดมาให้ตกถึงมือเราหมด เอาว่าได้ ได้เงิน ได้ทอง ไม่พ้นมือแน่นอน

    - ดอกที่สี่เรียกจักรวาฬฟ้าครอบ ดอกนี้ท่านเสริมวิชาผูกพยนต์ลงไปให้แม่ตะเคียนนั้นมีฤทธิ์มาก จะบอกกล่าวอะไรเขาให้เฝ้าที่ เฝ้าคน ให้เขาทำอะไรไปไหนใช้ได้ทั้งสิ้น ท่านว่าวิชานี้แรงนักเมื่อจะใช้ย้อนคืนวิชาหรือการกระทำใดๆที่คนอื่นเค้าทำร้ายเรามา ให้ระบุไว้ด้วยว่าทำแต่เพียงพองาม อย่าให้ถึงตายถึงชีวิตเลย นอกจากนี้ท่านยังเมตตาบีบอักขระลงมหายันต์ขั้นสูงอย่างยันต์ครอบจักวาฬไว้ด้วย ท่านว่าตัวนี้ดีนัก สารพัดกันมีค่าควรเมืองเช่นกัน ทั้งกันโจร กันปอบ กันพราย ใครที่กลัวๆผีนี่พกตัวนี้ไว้เอาไว้ผีห่าที่ไหนก็หลอกหลอนไม่ได้ ต่อให้ดวงชะตานั้นจะเปิดเป็นคนที่เข้าใกล้สิงอาถรรพ์ ดึงดูด ชักนำมันมา ก็ไม่อาจเผยกายเข้าใกล้เราได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลงตัวนี้ไว้ ทำให้แม่ตะเคียนนั้นมีอิทธิฤทธิ์และบารมีมาก เหนือกว่าพราย ภูติ ปี ปอบ ปีศาจใดๆทั้งมวล นอกจากนี้ท่านยังเมตตาลงยันต์ทำน้ำมันประทับหลังไว้ทั้งสองสูตร เรียกสูตรผูกวิชาเต็มสูตร ท่านว่าตัวนี้สำคัญนัก ลำพังแค่ตัวเดียวก็ทำให้ผู้หญิงเข้าหาเป็นเสน่ห์เมตตาขึ้นถึงบ้านแล้ว ท่านว่าไม่สมควรพูดอะไรมาก ท่านว่าวิชาน้ำมันนี้ถ้าใช้ทางเสน่ห์ทาผู้หญิงผู้ชายรัก ทาผู้ชายผู้หญิงรัก ทาหนูแมวก็มิกัดหนูเลย ที่โบราณเค้าเรียกหนูกินนมแมว วัวกินนมเสือก็เช่นนี้ ถ้าดีดน้ำมันใส่ตุ่มน้ำกินน้ำใช้ ท่านว่าเค้ารักเค้าเมตตาเราทั้งครัวเรือนทีเดียว เมื่อจะใช้ทางเสน่ห์หรือจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันให้เสกด้วยคาถา ดังนี้ สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา วะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต

    นอกจากนี้ภายในขวดพ่ออาจารย์ท่านยังเมตตาใส่มวลสารสำคัญต่างๆลงไปด้วย ดังต่อไปนี้
    - มวลสารสำคัญ สีผึ้งแม่ค้า ของหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ท่านว่าหลวงปู่ศุขนั้นท่านสำเร็จคัมภีร์อิติปิโส เล่นฤทธิ์เก่งมาก สีผึ้งนี้เป็นสีผึ้งสำคัญมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเมตตาอย่างยอด ใช้ได้ไปถึงมหาเสน่ห์ทีเดียว เพราะตำราการทำสีผึ้งของหลวงปู่ศุขนั้นทำยาก ท่านจึงไม่ได้แจกจ่ายออกไปมากเท่าไหร่ ใครได้ไว้มีแต่เฮงด้วยเงินทองกับร่ำรวยด้วยวาสนา พ่ออาจารย์ท่านได้จากอาจารย์ของท่านที่สืบวิชาจากหลวงปู่ศุขและเป็นผู้สักยันต์พร้อมสอนวิชาให้กับท่าน ท่านจึงนำมาตากแดดให้สีผึ้งอ่อนตัว และเมตตาใส่ลงไปเป็นชนวนก้นขวด ท่านว่าปั้นเท่าเม็ดถั่วเหลือง ใส่ไปขวดละสามก้อน ท่านให้ระลึกถึงหลวงปู่ศุขดีๆ ท่านว่ามหาเสน่ห์ เมตตานี่เรื่องขนมเด็ก ถือว่าเอาไปเพิ่มวาสนาบารมีก็แล้วกัน พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจลงสีผึ้งไว้ เพราะท่านว่าเวลาน้ำมันนั้นต้องกับสีผึ้ง น้ำมันนั้นก็จะมีอานุภาพมากดุจเดียวกัน ใช้แทนกันได้มิขาดมิเกินเลย อาราธนาดีๆเถอะท่านว่าเกิดมาแล้วทันใช้สีผึ้งแม่ค้านี้ถือว่าเป็นบุญวาสนายิ่งนัก


    - ผงยาสั่งรัก ท่านว่าเรียกเพราะๆหน่อยก็ยาใจขาดก็ได้ พ่ออาจารย์ว่าทำยากผสมสูตรยาก ว่านยาผงลบ ของวิเศษมีพลังต่างๆนำมาผสม เป็นมวลสารชั้นครู ท่านเมตตานำมาใส่เป็นหัวเชื้อลงไปในน้ำมันด้วย ท่านว่าธาตุพลังงานเหล่านี้ได้ทำมาดีแล้ว สำเร็จแล้ว จะได้เพิ่มอาถรรพ์ความแรงของคุณวิชายิ่งขึ้นไปอีก น้ำมันนี้มียาสั่งรัก ยาแรงๆที่สั่งให้รักก็ต้องรัก ไม่ได้รักดุจว่าใจจะขาดได้ทุกข์โทมนัสตรอมใจดั่งว่าอกจะแตกตายนั่นทีเดียว ท่านผสมยาสั่งรักลงไปเพื่อให้น้ำมันนี้จะได้แรงแบบลูกโดดทางเมตตา มหาเสน่ห์มีอานุภาพดุจยาสั่งรักทีเดียว

    - องค์ท้าวปรเมศวร พ่ออาจารย์ท่านว่าในไตรภูมินั้น ท้าวปรเมศวรเป็นเทพบดี ที่เป็นเจ้าเหนือหัว มีหน้าที่ปกครองเหล่าพระภูมิ รุกขเทวดา ภูติพราย พฤกษาวิญญาณทั้งหลาย ท่านว่าไหนๆจะทำแล้วก็เอาให้เฮี้ยนกันสุดๆไปเลย ท่านจึงเมตตาใช้ธาตุกายสิทธิ์หล่อองค์ท้าวปรเมศวรขึ้น โดยท่านแกะพิมพ์เป็นเทวดานั่งประทานพรอยู่บนภูเขาสามลูกแล้วเชิญญาณบารมีของท้าวเธอมาสถิตย์ ท่านว่านี่แหละอธิบดีแห่งภูมิเทวดาและรุกขเทวดา เวลาไปที่ไหนนี่ท่านคลุมหมดทั้งโลกธาตุเลยนะ จะขอพรอะไรพระภูมิเจ้าที่ เจ้าป่า เจ้าเขาที่ไหน หรือแม้แต่แม่ตะเคียน เขาจะไม่กล้าปฏิเสธหรือชักช้าเลย เพราะเขาเกรงอำนาจของท้าวปรเมศวร เรามีพลังของท้าวปรเมศวรอยู่กับตัวนี่เป็นอาญาสิทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังองค์ท่านก็เป็นนายผีจอมภูติเป็นเจ้าแห่งพฤกษาวิญญาณและรุกขเทวดาอยู่แล้ว เมื่อมาสถิตย์อยู่ในน้ำมันนี้ ย่อมขับเสริมอำนาจของแม่ตะเคียนให้เป็นกายสิทธิ์ยิ่งขึ้นไปอีก ท่านว่าเชื่อเราถอะ นางตะเคียนที่มีองค์ท้าวปรเมศวรหนุนหลังนั้น เขาจะทำจะช่วยอะไรเราก็ได้เป็นอาญาสิทธิ์ที่พิเศษสูงสุดจริงๆ

    ตัวน้ำมันนั้นท่านว่าใช้หมดก็หาน้ำมันจันทร์หอมมาเติมเปลี่ยนได้ตลอด อานุภาพไม่ได้ลดลงเลย ท่านได้ผสมน้ำมันว่านสกัดทั้งดอกทองและเสน่จันทร์ทั้งห้าลงไปเป็นตัวตั้งต้นแล้วกับน้ำมันจันทร์หอม ด้วยมวลสาร วิชาอาคมที่กำกับทั้งหลาย ท่านว่าใช้หมดก็เติมได้เลย ขวดเดียวใช้ได้ทั้งชีวิต จะเจิมหน้า ดีด ป้ายอะไรก็ตามแต่ใจจะใช้ ให้อยู่ในทำนองคลองธรรม ใช้ทางรวยก็รวย เปิดหน้าให้มีสง่าราศีก็ได้ แต่ถ้าใช้ด้านเสน่ห์ได้แล้วต้องรับเลี้ยง

    น้ำมันขวดน้อยนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ลองพกดูก่อน เพียงแค่พกก็เป็นเมตตามหานิยมอย่างใหญ่หลวงแล้ว อยากรวยก็รวยไม่ยาก จะเสี่ยงโชคอะไรก็ให้เอาน้ำมันทามือ ท่านว่าจะได้หยิบจับทรัพย์สมบัติใหญ่หลวง ใช้ได้สารพัดสุดแล้วแต่จะใช้ สำหรับแม่ตะเคียนนั้น ถ้าท่านเล่นฤทธิ์หรือแสดงออกมากไป เราอาจเจออาจเห็นท่านถ้าท่านคิดจะหยอกล้อเรา หากไม่ต้องการเจอเพราะกลัวหรือหวาดสะดุ้งก็ดี ก็ให้บอกกล่าวกับท่านดีๆ พ่ออาจารย์ท่านว่านางตะเคียนของท่านนั้นอาจจะขี้เล่นไปบ้าง แต่ก็เก่งมากแถมยังใจดีอีกด้วย มีอะไร ทุกข์อะไรก็ให้ระบาย ให้พูดให้บอกกับท่านตรงๆ กาลแห่งทุกข์จะคลี่คลายไปอย่างน่าประหลาดใจ ทุกการกระทำนั้นย่อมไม่สูญเปล่า จิตสื่อจิต ใจสื่อใจ อยู่ร่วมกันอย่าเอาเปรียบกัน หากประสบความสำเร็จใดๆก็ดี ให้ทำบุญตักบาตร กรวดน้ำแผ่เมตตาให้กับท่านด้วยเป็นน้ำใจและความรู้สึกดีที่มอบให้แก่กัน เวลาเราขอหรือทำอะไรในโอกาสต่อๆไปเขาจะได้ขวนขวายช่วยเราอย่างเต็มที่

    คาถาบูชา
    ไหว้ครู... วันทิตวา อิสีสิทธิโลกะนาถัง อะนุตตะรัง อิสิจะพันธะนังศาสตรา อะหังวันทามิตัง อิสีสิทธิเวสสะ
    คาถา.. เทวะราชานะกัสสะโล ภัคคะยัง สุกเขสุกขังวา มหาสุกเขโล ภัคคะยัง อะหัง นะโมตัสสะ สวาหะ โอมพุทธะเชยยะ เชยโย ตัสสะวะโร ปะโมทะติ


    * มงคลโคตรเสน่ห์น้ำมันใจขาด(มหาพฤกษาวิญญาณ)นั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดแปดขวด สำหรับท่านที่บูชาพ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานบอกกล่าวแม่ตะเคียนให้เป็นรายบุคคล ทั้งนี้ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลมาด้วย พร้อมกับสิ่งที่อยู่ในใจ มีสิ่งใดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่อยากจะฝากท่านบอกกล่าวแม่ตะเคียน ท่านจะอธิษฐานจิตให้ พร้อมกับออกนามแจ้งชื่อแม่ตะเคียนบอกกลับไปให้ทราบด้วย ท่านว่าเวลาจะบอกกล่าวสื่อสารกันจะได้ง่ายขึ้น จะอธิษฐานจิตอะไรก็ออกนามไปว่าพระแม่ตะเคียน...(ชื่อ)...ขอให้ช่วย...(สิ่งที่ประสงค์) รายได้ร่วมสมทบทุนบูรณะกุฏิสงฆ์ในถิ่นทุรกันดารต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2019
  16. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงาตำรับสำนักพระราชวังเขมรโบราณ(เงาะถอดรูป)

    ให้บูชา 1000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @UN

    IMG_20190517_015621.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม-พ่ออาจารย์พล.548127/page-11#post-10360912


    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเงาะถอดรูปนี้จะหาคนที่ทำเป็นและทำได้จริงนั้นหายากอย่างยิ่ง แต่เดิมนั้นเป็นวิชาที่บรมครูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายมักจะนิยมหยิบนำมาใช้กัน วิชานี้ท่านว่าคุณพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั้นก็เก่งอย่างหาตัวจับยาก แม้แต่หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัวก็ยังทำได้ขลังเช่นกัน ท่านว่าแม้สายวัดประดู่โรงธรรมก็ยังมีวิชานี้ ซึ่งทุกที่แต่ละตำรับนั้นครูบาอาจารย์ท่านจะเพิ่มเติมเคล็ดหรือวิธีการสร้างให้แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มนั้นมีแนวทางคล้ายกันอยู่แต่ก็มีความต่างอยู่ในตัวเอง ท่านจึงนำวิชาของทั้งสองสายมาบูรณาการและเรียกวิชานี้ว่าพระเจ้าซ้อนเงา ท่านว่าลำพังเคยสร้างก็เพียงเสี้ยววิชาหรือใช้คาถานำมาเสกเฉยๆก็นับว่าพุทธคุณสูงแล้ว และสำนักต่างๆก็มักจะทำกันเพียงเท่านี้ ไม่มีที่จะสร้างเงาะถอดรูปตัวเต็ม เพราะมันยากและวุ่นวายมากนั่นเอง แต่ในวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างบูชาคุณครูวิชาเสียชุดหนึ่ง

    ท่านตั้งใจจะลงตะกรุดตัวนี้ให้มีลักษณะเล็กๆเพื่อที่จะได้สะดวกต่อการพกพาและนำไปใช้ กล่าวให้เข้าใจคือนอกจากวิชาพระเจ้าซ้อนเงาหรือเงาะถอดรูปที่ท่านลงแล้ว ท่านยังเมตตานำแผ่นทองเหลืองมาชักพระยันต์ลงวิชา.....(บางอย่าง)*ท่านว่าวิชานี้ท่านไม่สามารถบอกชื่อได้เพราะเป็นวิชาของขอมโบราณ มีอุปเท่ห์ในการชักยันต์ที่ยากลำบากและกว่าจะสำเร็จนั้นยากเลือดตาแทบจะกระเด็นทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ต้องไปนั่งจารนั่งลงอยู่ในประสาทขอมโบราณ โดยเลือกฤกษ์ยามให้ตรงกับเวลาที่สงัด เมื่อคิดจะทำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าความยากอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงผูกอาถรรพ์เลยทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ปกติจะสืบทอดต่อกันมาและใช้กันเฉพาะในสายของสำนักพระราชวังแต่โบราณ ไม่เคยปรากฏว่าจะได้มาตกถึงมือคนนอกเพราะเค้าหวงแหนและบดบังกันมาก

    จะกล่าวถึงวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะไปนึกถึงนิยายรจนาเลือกคู่ไป ที่ไปนึกถึงมนต์จินดามณีก็มี ในครั้งหลังนั้นท่านว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายถึงกับอุปโลกเป็นเรื่องเดียวกับจินดามนต์ไปเลยก็มาก ท่านว่าความจริงแล้ววิชาเงาะถอดรูปเป็นวิชาที่ต้องใช้ความเพียรอย่างมาก เนื่องจากเวลาลง ทุกตัวอักขระต้องจรดเหล็กจารว่าพระคาถาเฉพาะทุกตัวไม่มีขาดหรือคลาดเคลื่อน แม้ชักยันต์ก็ต้องว่าสูตรชักยันต์เฉพาะทางของเค้า มีคาถาลงและเสกซับซ้อนมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าเห็นกันว่าเป็นตะกรุดดอกเล็ก นี่แหละทำยากกว่าสร้างพระเสียอีกแต่ท่านก็ตั้งใจทำ ท่านว่าทำไว้ให้ดู ให้คนมีวาสนากับคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มท่านเอาไปใช้ ทุกดอกล้วนมีตราบัญญัติมีเจ้าของครอบครองเขาทั้งสิ้น


    โดยวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ว่าอย่างแรกเลยที่จริงแล้วมันเป็นวิชาเสน่ห์เห็นพบสบตาให้เกิดจิตปฏิพัทธ์ในใจ ให้หลงรูปของเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่ให้ผลในวงกว้าง ท่านว่าแม้ไม่สวยไม่หล่อ แต่พอเค้าเห็นเราเท่านั้นจิตใจเขามันจะแกว่ง ต้องมอง อยากมอง อยากจ้องคนที่มีวิชานี้ จ้องเข้าไปแล้วให้เกิดความชื่นชมนิยมยินดี จ้องเข้าไปแล้วหากมีวาสนาต้องกันย่อมมีจิตหลงใหล จ้องเข้าไปแล้วอดใจไม่อยู่เก็บความรู้สึกไม่ได้เช่นนั้น นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าความจริงแล้ววิชาของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มนั้น มิได้หวังแค่อานุภาพพทธคุณฉาบฉวยแต่เรื่องโลกีย์วิสัยแต่อย่างใด เงาะถอดรูปคือถอดออกทั้งหมด เกิดเป็นคนใหม่ รูปใหม่ โฉมใหม่เลยทีเดียว ท่านว่าพลิกฟื้นคืนกลับถึงปานนั้น เพราะเป็นวิชาที่สูงมาก เมื่อทำต้องเสี่ยงบารมี นำเอาบารมีของแต่ละชาติในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ดึงบารมีท่านลงมาอาบมาฉาบมาเคลือบตะกรุดนี้ มีแรงครูสูงมากถึงขนาดรับรองได้เลยว่าย่อมทำให้ความปรารถนาทุกประการนั้นกลายเป็นเรื่องจริงและเกิดผลสำเร็จได้ ท่านว่าคุณของวิชามันซึมซับไม่ใช่ส่งผลเฉพาะกับรูปกายเท่านั้นที่ว่าทำให้คนอยากมองอยากเห็น แต่มันซึมลึก ซึมลงไปถึงจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อแตกกายย่อยยับดับสังขารลงแล้วยังจะตามคุ้มครองไปถึงชาติหน้าภพหน้า และยังเป็นปัจจัยติดตัวทำให้พบพระศาสนาในสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่ คุณวิชามันค่อยๆถอดทีละชั้นทีละชาติภพถอดจนกระทั่งมีนิพพานเป็นที่ไปในศาสนาสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าทีเดียวนี่แหละคือเงาะถอดรูป


    นอกจากนั้นท่านว่าโดยเนื้อแท้แล้ววิชาเงาะถอดรูปท่านกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีใครใช้แล้วจนลงหรือมีเท่าเดิมกันซักคน เพราะมันเป็นวิชาเรียกลาภอยู่ที่ไหนทรัพย์สินเงินทองไม่ขาด ปิดช่องทางจนหรือกระเป๋าแห้งไปเลย ท่านว่าใช้ได้หมด ใช้ทางเรียกทรัพย์เป็นมหาลาภ ชนะคู่แข่ง ไม่มีศัตรูมารบกวน ใช้ได้แม้กระทั่งอาราธนาแช่น้ำ ใช้น้ำนั้นถอดถอนอวมงคลทั้งหลายทีเดียว


    แต่คนมักไม่รู้ โง่เขลาเบาปัญญาคิดเพียงแต่เสน่ห์ชู้สาว โดยท่านว่าวิชานี้มีอำนาจรุนแรงมาก แม้แต่แขกทางใต้หรือเหล่าโนราห์ต่างๆก็ยังต้องมาเรียนดัดแปลงไปใช้ให้คนติดคนชมคนนิยมในตัวตนของตน ท่านว่าถ้าเทียบก็แรงกว่าขุนแผนทั้งหลายอยู่มากทีเดียว


    ท่านว่านี่เพียงแต่อำนาจพุทธคุณของตะกรุดเงาะถอดรูปเท่านั้น แต่ท่านเพิ่มในส่วนที่แตกต่างกันและเป็นข้อดีหนุนส่งกันของวิชาทั้งสองสายทั้งคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มลงไปจึงเกิดเป็นวิชาพระเจ้าซ้อนเงาขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากใช้แทนของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มได้อย่างสนิทใจ * ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก เมื่อได้ไปแล้วให้เอาไปแช่น้ำผึ้งเสียก่อนซักสามวัน เขาจะเสพย์น้ำผึ้งเข้าไปและเคลือบอาบฉาบทาน้ำผึ้งด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพุทธบารมี เมื่อครบกำหนดแล้วให้เอาน้ำผึ้งที่แช่ตะกรุดนั้นมาดื่มกิน ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจแห่งวิชาส่วนหนึ่งจะถูกขับเข้าไปอยู่ในตัวของเราซ้อนร่างซ้อนเงาของเราทำให้เราเป็นผู้ทรงวิชาเงาะถอดรูปไปโดบปริยาย ตรงนี้แม้วันไหนเราไม่ได้พกตะกรุดก็ยังใช้อานุภาพนั้นได้ดุจเดียวกัน หากยิ่งอาราธนาตัวตะกรุดไว้ด้วยเรากับเขาก็จะเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ท่านว่าให้ทำครั้งแรกครั้งเดียว หรือจะทำกินทุกครั้งตามแต่สะดวกก็แล้วแต่ เมื่อทำแล้วก็ให้นำตะกรุดมาล้างให้สะอาดก่อนจะตากให้แห้งแล้วอาราธนาพกต่อไป


    พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาเงาะถอดรูปเต็มสูตรนั่งภาวนาพระคาถาชักพระยันต์ต่างๆ ท่านว่าทำยาก จะทำให้เต็มสูตรเช่นนี้ครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่ขอทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ต้องเสี่ยงบารมี และมีผลกับคนใช้สืบต่อไปจนถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์ทีเดียว ท่านว่าไม่ใช่ของทำเล่นๆ ซ้ำวิชาอาถรรพ์ที่ลงทับหุ้มตะกรุดด้านนอกนั้น ท่านว่ายิ่งทำยาก ท่านว่าวิชานี้จะปรับสมดุลย์ขับล้างสิ่งไม่ดี ซ้ำยังปรับให้อยู่ในระดับที่พอดีไม่มากไปหรือน้อยไป ท่านว่าเกินไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี การจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับที่พอดี วิชาอาถรรพ์นี้ความจริงจะเรียกว่าใช้แก้อาถรรพ์ก็ได้ ท่านว่าตะกรุดอาถรรพ์นี้มีคุณอยู่มากแต่จะพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น หลังจากนั้นต้องใช้เองเห็นเองท่านว่าจึงจะดีที่สุด พ่ออาจารย์ทานปรารภว่าการแก้อาถรรพ์นั้นคือแก้ที่เกี่ยวพันสืบเนื่องมาแต่ชาติกำเนิด ท่านว่าจุดนี้มีกันทุกคน เป็นอัฉริยภาพของครูบาอาจารย์นับพันปีที่คิดกระบวนการวิชานี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้แพร่หลายเพราะต้องการใช้กันเอง ใช้เป็นรายบุคคลไป ไม่มีการสืบทอดเป็นของสาธารณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำกันถึงขนาดนั้นสืบทอดมาแต่ในวังของเขมรโบราณ เพราะสมัยยุคขอมนั้นกษัตริย์จะยกตัวเทียบเท่าเทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ต่างๆ ดังนั้นเขาจะมีชุดกระบวนการวิชาต่างๆที่ใช้แก้อาถรรพ์อันติดมาแต่ชาติกำเนิดของตนเอง ท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ ต้องมีวาสนามีบุญต้องกันมีความสัมพันธ์กับแรงครูและคุณวิชาจริงๆจึงจะได้มาเห็นและนำไปบูชา


    ตะกรุดนี้เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านมีดำเริว่าทำยากจริงๆ ท่านจึงลงไว้เพียง 8 ดอก และท่านจะออกให้ร่วมบูชากันเพียง 7 ดอกเท่านั้น โดยท่านว่าขอเก็บไว้เอง เอาไว้ดูเป็นที่ระลึกเสียดอกหนึ่ง เพราะทำครั้งนี้สำหรับวิชาที่ลงเต็มสูตรเช่นนี้ย่อมไม่มีครั้งที่สองอีกอย่างแน่นอน


    นอกจากนี้พ่ออาจารย์ว่าด้วยตำรับของพ่อเฒ่ายิ้มนั้น ท่านว่าหากอยากให้มีคุณวิเศษสูงยิ่งขึ้นไปอีก คือแรงกว่าเดิม ดีกว่านี้ต้องผสานทำวิชาพระลักษณ์หน้าทองลงไปด้วย กล่าวคือให้จัดเครื่องเซ่นอาหารคาวหวานต่างๆตามธรรมเนียม นำหัวโขนพระลักษณ์ที่ผ่านพิธีไหว้ครูและเคยใช้ในการแสดงมาแล้ว นำมาเซ่นตามธรรมเนียมแล้วค่อยลอบเข้าด้านหลังขูดเอาทองเฉพาะที่ปิดหน้าผากระหว่างจุดกึ่งกลางคิ้ว ต้องใช้เฉพาะจุดนี้เท่านั้น นำผงทองนั้นมาผสมกับดินสอพองปั้นเป็นแท่งไว้แล้วจึงลงวิชาพระลักษณ์หน้าทองลบทำผง ก่อนจะนำมาอุดที่ตะกรุดอีกคำรบหนึ่งท่านว่านี่คือสูตรปู่เฒ่ายิ้มซึ่งต่างจากของคุณพ่อศุข และเมื่อจะทำแล้ว ท่านว่าก็ควรทำให้แรงที่สุด ไหนๆก็ทำแล้วจะครึ่งๆกลางๆได้อย่างไร พ่ออาจารย์ท่านจึงทำให้ตรงตามวิชาเพื่อให้ของสิ่งนี้มีอิทธิคุณรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ท่านว่าความจริงแค่วิชาเงาะถอดรูปก็แรงเหลือกินแล้ว นี่ยังมีผงสำคัญที่อุดนี่อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปอธิษฐานใช้ไ้ดทุกประการสุดแต่ความปรารถนานั่นแหละ


    คาถาบูชา
    - อาราธนาตะกรุด โส ภะคะวา อิติปิวิชชาจะระณะสัมปันโน พุทโธ รูปงาม เหมือนรูปพระพรหม พุทธัง มะ รูปงามเหมือนรูปพระอินทร์ พุทธะสัง รูปงามเหมือนโฉมพระนารายณ์ จะแปลง ลงมา เหมือนเทวดาสวาหะ อะวิสุนุสสานุสสติ ติวาปิภะ
    - ภาวนาเน้นเสน่ห์เมตตา ธะนังสุก๊ะริ สวาหุม


    * พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะให้บูชากันในราคาที่ไม่แพงแต่เนื่องจากตัวตะกรุดมีจำนวนน้อยและยังเป็นของเฉพาะทางทีมีคุณลักษณะเป็นเอกลักษณ์มีความแตกต่างกับตะกรุดทั้งหลาย ท่านจึงให้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น โดยรายได้ทั้งหมดท่านจะนำไปสมทบโครงการแจกทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาศสืบต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2019
  17. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวง

    ให้บูชา 4000 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ @un

    IMG_20190517_015735.jpg
    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม-พ่ออาจารย์พล.548127/page-10#post-10179439


    เป็นที่จับตารอกันมายาวนาน สำหรับตะกรุดมหาสะท้อนแต่ละสูตรซึ่งนานทีปีหนจะมีออกมาให้ร่วมทำบุญบูชากันซักครั้ง เพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่ทำพร่ำเพรื่อนั่นเอง

    สำหรับตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงนั้น เรียกว่าเป็นตำรับที่แรงที่สุดของมหาสะท้อนก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วตะกรุดมหาสะท้อนธรรมดาก็แรงพอใจอยู่แล้ว แต่มหาสะท้อนหลวงนี้ยิ่งกว่านั้นเพราะกันได้แม้แต่ธรรมชาติ อันนี้พวกมีวิชาอาคมทั้งหลายทำอันตรายเราไม่ได้เลย อย่าว่าแต่มนุษย์ต่อให้เป็นพวกคนธรรพ์วิทยาธรก็ยังต้องแพ้ภัยตัวเอง

    โดยปกติสำหรับตะกรุดมหาสะท้อนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเน้นทางปกป้องคุ้มกันตลอดจนคุ้มครองและให้ผลสะท้อนกลับเท่านั้น ซึ่งต่างจากตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงเพราะตำรับนี้จะมีครบรสในดอกเดียว ท่านว่าได้ไม่ต้องห้อยกันหลายอย่างบูชากันหลายดอก เพราะท่านทำให้ยิ่งกว่ามหาสะท้อนเสียอีก

    ท่านว่าตัวชนะมารมหาสะท้อนหลวงนั้น อะไรที่มีคำว่าหลวงต่อท้ายเชื่อขนมกินไว้ได้เลยว่ามันเป็นที่สุดแล้ว เพราะมันเป็นมหาสะท้อนตำรับใหญ่นำมาผูกรวมกันถึงสามสูตรซ้ำยังหนุนอัดด้วยธาตุคาถาและวิชาต่างๆ ท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้พูดมากถ้าคนใช้ตั้งจิตดีๆให้แน่วแน่ในสมาธิภาวนาพระคาถา เราทำไว้ให้ใช้กัน สะท้อนโรคเวรโรคกรรมได้ทั้งสิ้น ไม่มีข้อแม้ใดเลยเพราะเป็นกันสะท้อนที่สำเร็จด้วยคุณแห่งวิปัสสนาขององค์พระทั้งแสนโกฏิ การสำเร็จตะกรุดมหาสะท้อนหลวงด้วยคุณแห่งวิปัสสนาขององค์พระแสนโกฏิอันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นอาทินั้น นอกจากยากและใช้เวลานานแล้ว แต่ผลที่ได้ท่านว่าก็คุ้มกับเวลาที่เสียไปหลายปี เพราะท่านว่าจะอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ ให้ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เวลามีคนคิดร้ายหรือกระทำการณ์ใดๆหมายรังแกพระบรมศาสดา ท่านว่าสิ่งนั้นย่อมสะท้อนย้อนกลับไป ไม่ต้องรอชาติหน้าฉันใด ผลกรรมนั้นเห็นคาตากันในชาตินี้ ตะกรุดมหาสะท้อนหลวงที่สำเร็จด้วยบารมีองค์พระทั้งแสนโกฏิในนิพพานก็มีคุณเช่นนั้น ท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ

    ดังที่กล่าวไว้แต่ต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตำรับมหาสะท้อนหลวงนี้นอกจากจะใช้ทางด้านมหาสะท้อนย้อนกลับคืนได้แรงที่สุดแล้วยังใช้หนุนดวง เสริมชะตาวาสนาบารมีในตัวได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีครบทั้งทางเสน่ห์เมตตาท่านว่าไม่ใช่เสน่ห์เรี่ยดินแต่อย่างใดแต่เป็นเสน่ห์ถึงขั้นขึ้นหานาง เข้าตัวขุนได้ จะเจรจาพาทีเอ่ยปากขออะไรก็ได้เป็นที่สุดทางมหานิยมเข้าหาคน ไปที่ไหนมีแต่คนรักคนตามใจไม่มีใครกล้าเกลียดหรืออยากเป็นศัตรูเพราะท่านลงมหาสะกดไว้ด้วย ซ้ำยังขับดันหนุนนำให้อาชีพที่กระทำอยู่เจริญก้าวหน้าผิดหูผิดตา แม้ทางด้านป้องกันก็ไม่ได้ทิ้งเพราะกันได้ทั้งคุณผีคุณคนตลอดจนมากกว่าผีหรือคน ซ้ำยังกันเคราะห์ภัยร้ายแรงที่พร้อมจะเกิดกับตนได้ตลอดเวลาด้วย

    ท่านว่าปกติตะกรุดมหาสะท้อนนั้นผู้เสกจะวางอารมณ์ไปทางมหาอุตม์ ทำให้คนใช้โชคลาภจะไม่มี หากินก็จะตกต่ำทำให้ไม่กล้าใช้ หรือจะหยิบมาใช้ได้เฉพาะช่วงที่คิดว่าชีวิตโดนรังแก เพราะมันอุดหมดปิดหมดทุกทางได้แต่กันและสะท้อนย้อนกลับอย่างเดียว แต่มหาสะท้อนหลวงไม่ใช่เช่นนั้นเพราะต้องเน้นพลังคุณทุกด้านพร้อมกัน ซ้ำยังสำเร็จด้วยวิปัสสนาญาณขององค์พระพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏิแน่นอนว่าทุกพระองค์นั้นไม่เหลืออารมณ์ใดๆอีกแล้ว ดังนั้นจึงไม่อุดไม่ปิดชีวิตใคร ไม่ปัดโชคลาภออกไปเช่นปกติ ที่สำคัญกว่านั้นตะกรุดทุกดอกต้องเสกจนมีธาตุรู้ นั่นคือมีจิตวิญญาณของตะกรุด ท่านว่าที่ต้องทำขนาดนี้เพื่อจะได้ไม่เสียชื่อตำรับมหาสะท้อนหลวง คนใช้ก็จะได้ไม่เป็นอันตรายด้วย

    เพราะว่าโดยปกติคนใช้ตะกรุดมหาสะท้อนนั้นจะต้องระวังลูกหลาน เด็กน้อยตลอดจนญาติมิตรคนสนิทรักใคร่ของตน ซึ่งทุกคนได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ย่อมมีอารมณ์รักโลภโกรธหลง อาจจะมีคิดร้ายเราบ้าง คิดแกล้งเราบ้างหรือจะแหย่เราบ้าง ก็เกรงว่าผลร้ายนั้นจะสะท้อนย้อนกลับไป กลัวว่าจะกลับไปหายังคนที่ตนเองรัก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าการสำเร็จตะกรุดมหาสะท้อนหลวงนั้นจึงต้องสำเร็จจนตะกรุดมีธาตุรู้ เมื่อเจ้าของได้รับตะกรุดไปเวลาอธิษฐานภาวนาพระคาถาตัวธาตุรู้นี้ก็จะจดจำปราณและคุณลักษณะของเจ้าของไปด้วย เหมือนการทำสัญญากันเชื่อมต่อเข้าถึงสัญญาความจำได้หมายรู้ของเรา ต่อไปเขาก็จะไม่ทำร้ายพวกเดียวกับเราญาติสนิทพี่น้องของเราที่มีอารมณ์โกรธชั่ววูบชั่วคราวเช่นนั้น หากแต่จะสะท้อนย้อนกลับเฉพาะผู้ที่คิดร้ายประสงค์ร้ายตั้งใจจะทำความพินาศฉิบหายให้เกิดขึ้นแก่เราโดยเฉพาะเจาะจง

    ตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงนั้น เป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์สร้างเพื่อให้สรรพชีวิตได้ถือครองอันจะนำมาซึ่งประโยชน์เกื้อกูลที่จะตกต้องอย่างใหญ่หลวงกับคนใช้จริงๆ เนื่องด้วยท่านได้จรดเหล็กจารหัวใจคาถาพิเศษลงไป ซึ่งหัวใจนั้นมีผลมากกับชีวิตมนุษย์นั่นเอง

    สืบเนื่องมาจากมนุษย์ในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่จะมีวาระกรรมร่วมกันเยอะ ชีวิตแต่ละคนมีมารผจญกันมาก จะหาใครมีชีวิตที่ดีไปหมดนั้นยาก ท่านว่าแม้แต่คนที่เรามองว่าชีวิตเขาดี แม้จะรวยเป็นมหาเศรษฐีก็ยังมีปัญหามากมายแก้ไม่ตก ท่านว่าเพราะมารเขาทำงานกันหนัก มารในที่นี้ก็คือเทวปุตมารหรือเทพเจ้าใต้การปกครองของท้าวมาลัยนั่นเอง

    เทพฝ่ายมารทั้งหลายมีทั้งที่เชื่อฟังก็ดี ไม่เชื่อฟังก็ดี กลับตัวกลับใจแล้วก็มีหรือที่จุติขึ้นมาใหม่ก็มาก ซึ่งแน่นอนว่าเทวปุตมารเหล่านี้ล้วนมีอานุภาพเป็นเลิศเหนือกว่าเหล่าเทพเจ้าทุกชั้นฉกามาพจรสวรรค์ มีฤทธิ์แทรกแซงได้แม้กับเหล่ามหาพรหม ดังนั้นพ่ออาจารย์จึงได้ขออนุญาติท่านท้าวมาลัยหรือที่รู้จักกันในฐานะพระจักรพรรดิ์พญามารผู้เป็นสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ เพื่อขอเทวราชอาชญากับเหล่าเทวปุตมารฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ อันจะได้ใช้อนุเคราะห์แก่สัตว์ผู้ยาก

    ซึ่งท่านก็ได้เมตตาให้หัวใจพระคาถาไว้ ท่านว่าแม้ปรากฏขึ้นที่ใดเหล่าเทวปุตมารตลอดจนเทพบริวารจะไม่กล้าแทรกแซงทำร้ายหรือก่อความวุ่นวายเข็ญใจให้เกิดขึ้นเลย เพราะว่าเขาจะเกรงกลัวเทวราชอาชญาแห่งสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ผู้เป็นพระจักรพรรดิ์พญามารนั่นเอง ท่านว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากในระบบกรรมนั้นมนุษย์ยังหนีไม่พ้นบ่วงมาร ดังนั้นจึงต้องจำกัดให้เฉพาะผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กันในวงศ์บรมโพธิสัตว์เท่านั้นที่จะได้ถือครองต่อไป

    ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่เรียกตะกรุดมหาสะท้อนหลวงว่าตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวง เพราะว่าเป็นตะกรุดที่ทำเฉพาะกรรม เฉพาะวาระของคน เมื่อหมดแล้วท่านว่าก็ให้มันหมดไปย่อมไม่มีเสริมเพิ่มเติมอีก ให้เฉพาะคนที่มีบุญสัมพันธ์มารู้มาเห็นพอดี

    คนเหล่านี้ท่านว่าถ้าเค้ารู้ตัวว่าชีวิตของเค้ามีมารเยอะ มีมารผจญมาก ไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร จะเป็นเวรกรรมหรือไม่ เจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ เป็นเทวปุตมารหรือไม่ ไม่แน่ใจว่าเหตุใดชีวิตจึงหาความเจริญไม่ได้ ท่านว่าเอาว่ารู้ตัวกันดีทุกคนว่าชีวิตใครเป็นอย่างไร ตรงนี้ก็ให้มาบูชาไป เพราะตะกรุดที่ทำขึ้นในกรรมและวาระนี้ครอบคลุมทั้งหมดทั้งสามสถาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวรกรรม เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนมารและเทวปุตมาร ล้วนตรงกับอานุภาพตะกรุดทั้งสิ้น

    ท่านว่าเมื่อบูชาไปแล้ว ให้หาดอกมะลิสดอันมีกลิ่นหอมซักสามดอก ยัดใส่เข้าไปภายในตะกรุด ให้ตั้งจิตอธิษฐานให้ดีๆทำครั้งเดียวพอบูชาคุณพระพุทธาธรรมสงฆ์หรือรัตนะทั้งสาม แล้วจึงนำไปเลี่ยมบูชาปกติ เพราะตะกรุดนี้สำเร็จด้วยบารมีพระเจ้าแสนโกฏิซ้ำยังมีบารมีแห่งสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ท่านท้าวมาลัยแฝงอยู่ภายในด้วย ท่านว่าให้ทำตามนี้ ทำไปเถอะ มันมีอะไรที่มากกว่านั้นซึ่งบอกกันไม่ได้และไม่จำเป็นต้องรู้อยู่ รู้แค่ว่าทำแล้วดีข้างบนเขาชอบก็พอ

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดชนะมารมหาสะท้อนหลวงไว้ได้ทั้งหมดเก้าดอก นำอธิษฐานจิตมาหลายปีเพราะว่าเป็นของสำคัญ ถึงระหว่างนั้นจะมีคนถามหามหาสะท้อนตัวแรงๆเข้ามาเพียงใดท่านก็ไม่เอาออกมาให้บูชา ท่านว่าไม่ใช่พลังคุณมันยังไม่เต็ม ท่านว่าที่อธิษฐานจิตนานนั้นไม่ใช่อะไร ที่จริงการสำเร็จของเหล่านี้ใช้เวลาแค่ช้างกะดิกหูงูแลบลิ้นเท่านั้น ที่ทำให้นานเพราะว่าครูบาอาจารย์ที่เชิญท่านมาให้ทำมีเยอะ เฉพาะองค์สมเด็จในนิพพานทั้งแสนโกฏินั้นก็กินเวลานานแล้ว เพื่อให้ตะกรุดนี้เต็มบารมีพุทธภูมิอย่างแท้จริง ซ้ำยังต้องคอยตรวจว่าใช้ได้หรือยัง ไม่เป็นอันตรายใดๆแก่สัตว์ทั้งหลายเช่นวิชามหาสะท้อนทั่วไปจริงหรือไม่ ท่านว่าถึงจะนานแต่ก็ดีที่สุดสมการรอคอยเช่นกัน นี่แหละที่สุดแห่งตำรับมหาสะท้อนหลวง หนึ่งไม่มีสอง

    ท่านว่าพูดอะไรได้ไม่เยอะเพราะข้างบนเค้าปิดปากไว้ และท้าวมาลัยเองก็ไม่อยากให้เราพูดมาก เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องเวรกรรม เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนเทพในปกครองของท่านนั่นคือเหล่าเทวปุตมาร ซึ่งตอนนี้คนในโลกยังมีกรรมร่วมกันอยู่ เทวปุตมารทั้งหลายก็ยังมีภาระหน้าที่อยู่ ฝูงชนที่หลงติดอยู่ในบ่วงมารหรือโดนอำนาจแห่งมารครอบงำแทรกแซงก็มีมากเสียยิ่งกว่ามากดุจเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรเพราะมันเป็นวาระกรรมของโลก ท่านว่าเอาแค่คนเห็นก็ถือว่ามีบุญร่วมกันตรงนี้แล้วกัน

    คาถาบูชา
    อิติปิโสภะคะวา สัมมาที่ไหน สัมไปที่นั่น นะอยู่หัว โมอยู่ท้าย ศัตรูคิดร้าย มรณะสันติ โอม มะกระดอนศรทอง เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ขอให้สะท้อนย้อนกลับไป ด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ


    * รับสั่งจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดมาด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเป่ามนต์หนุนดวงครอบตะกรุดให้อีกวาระหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ สำหรับรายได้จะนำไปร่วมสมทบทุนหล่อพระใหญ่ตลอดจนพระประธานในวัดที่ขาดปัจจัยและทุรกันดารเป็นอานิสงค์เพิ่มเติมสืบไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2019
  18. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    คันฉ่องดูดพลังจักรวาลแว่นฟ้าบาปวิบัติ(พระสิขีพุทธเจ้าส่องประทีบ)

    ให้บูชา 800 บาท


    ปิดรายการโดยคุณ
    จารุวณณร

    IMG_20190513_221938.jpg IMG_20190513_222006.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม-พ่ออาจารย์พล.548127/page-20#post-10793069

    สืบเนื่องจากวาระที่ท่านทั้งหลายต้องการจะบูชาพระพุทธเรวัตตะ(ไพรีพินาศ)ซึ่งติดจองเต็มอย่างรวดเร็วนั้น ทั้งนี้หลายๆคนได้แสดงความต้องการว่าถ้าไม่ได้ก็ขอเพียงแว่นฟ้าบาปวิบัติก็ยังดี ทั้งอยากได้แบบพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญและใช้บารมีเฉพาะทางเหมือนพระไพรีด้วย

    ทั้งนี้ด้วยความบังเอิญหรือเหตุผลกลใดก็ไม่ทราพ่ออาจารย์ท่านว่ามีคันฉ่องชุดนำฤกษ์อยู่ ซึ่งท่านเทไว้ก่อนสร้างพระพุทธเรวัตตะ ทั้งคันฉ่องชุดนี้ท่านยังนำวิชาเฉพาะทางของสมเด็จพระพุทธสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำตะกรุดคุณวิชาฝังไว้ด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระพุทธสิขีนี้เป็นคนละองค์กับสมเด็จองค์ปฐมนะ ถึงชื่อเหมือนกันแต่ก็ต่างกาลต่างวาระเป็นยุคหลังองค์ปฐมลงมา ดังจะยกประวัติคร่าวๆชองพระองค์ลงไว้เพื่อใช้แยกแยะ ดังนี้
    ในคัมภีร์มธุรัตถวิลาสินีระบุว่า หลังจากที่พระสิขีโพธิสัตว์จุติจากการเป็นท้าวสันดุสิตแล้ว ได้ทรงปฏิสนธิในครรภ์ของพระนางปภาวดี พระอัครมเหสีในพระเจ้าอรุณแห่งกรุงอรุณวดี ได้รับพระนามว่าเจ้าชายสิขี เมื่อเจริญพระชนม์ขึ้นได้เสกสมรสกับพระนางสัพพกามา มีพระโอรสด้วยกันพระองค์หนึ่งชื่อเจ้าชายอตุละ เมื่อดำรงค์พระชนมายุได้ 7,000 พรรษา ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง 4 จึงตัดสินพระทัยทรงช้างต้นออกผนวชโดยมีข้าราขบริพาร 137,000 คน ตามเสด็จออกบวชด้วย บำเพ็ญอยู่ 8 เดือนจึงตรัสรู้ แล้วออกประกาศพระศาสนา ทรงตั้งพระอภิภูและพระสัมภวะเป็นพระอัครสาวก พระเขมังกรเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระสขิลาและพระปทุมาเป็นคู่พระอัครสาวิกา สมเด็จพระสิขีพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพานที่วัดอัสสารามวิหาร กรุงสีลวตี สิริพระชนมายุได้ 70,000 พรรษา


    แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์จะเป็นสัพพัญญูผู้รู้แจ้งในทุกโลกเสมอกัน แต่บารมีเฉพาะทางอันเป็นอุปนิสัย เป็นพุทธวิสัยที่ติดตัวมาแต่อดีตชาติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็แตกต่างกันไป จากการที่ได้ฝึกฝนบำเพ็ญบารมีมาแตกต่างกันนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระพุทธสิขีพุทธเจ้านี้ท่านอุบัติมาในสมัยที่ชนทั้งหลายในโลกติดอยู่กับความมืดบอด มีความเห็นผิดแยกแตกต่างกันรุนแรง และยังดำเนินชีวิตกันไปในหนทางที่ผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จท่านต้องใช้เวลาถึงเจ็ดพันปี เจ็ดพันปีนี้เพื่อวางรากฐานสังคม เพื่อนำทางแก้ไขความมืดบอด ความเห็นผิด ความหลงผิดทั้งหลายในชนชั้นที่แตกแยกกันอย่างรุนแรงให้ประสานสามัคคีกัน แม้ออกผนวชสำเร็จเป็นพระบรมศาสดาแล้วพระองค์ก็ยังโปรดที่จะสงเคราะห์สัตว์โลกและพุทธบริษัททั้งหลายที่มีชีวิตมืดแปดด้าน หาทางออก ทางที่เหมาะสมคู่ควรกับการดำเนินชีวิตไม่ได้

    ด้วยพระเมตตาอันใหญ่และมหากรุณาอันยิ่ง บารมีของสมเด็จพระพุทธสิขีนี้ จึงเป็นบารมีเฉพาะทางที่จะช่วยพลิกชีวิตคนอันตกอยู่ในหนทางมืดมนไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตดี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสมเด็จท่านนั้นเป็นดุจดั่งดวงประทีปที่ฉายรัศมีปัดเป่าความขัดข้องออกไป หากได้สงเคราะห์ใครแล้วก็ดุจชีวิตเขาได้พบเจอหนทางเดินใหม่ ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดหนทางที่ปิด ขจัดเมฆหมอกอันมืดมัวในโลกสงสาร

    ด้วยมนุษย์ทุกวันนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้บางคนจะผ่านเวลามาครึ่งชีวิตแล้วก็ตามที แต่เขาก็ยังไม่รู้หน้าที่ ไม่รู้กิจที่ตนควรจะทำ ไม่รู้คำว่าเมื่อถึงเวลา เมื่อเวลามาถึง เวลานั้นคือเมื่อไหร่ มีแต่ต้องถอยร่นตกหล่นจนตายสิ้นชาติภพกันไปก็ยังไม่เข้าใจคำว่ายังไม่ถึงเวลา ด้วยความเห็นที่ผิดพลาดทั้งการสำคัญตัวผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งนั้นรังแต่จะประวิงเวลาให้ความสว่างความสงบในชาติภพนี้ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ซ้ำกรรมยังซ้อนทับกันให้ชาติภพใหม่ก็ไม่อาจพานพบ ดังนั้นท่านจึงได้ขออนุญาติใช้วิชาของสมเด็จพระพุทธสิขี ตลอดจนบารมีเฉพาะทางของพระองค์ท่านมาสงเคราะห์เพื่อเป็นแสงสว่างขับไล่ความมืดมน ขับไล่เมฆหมอกลางร้าย หายนะ จิตมาร และห้วงแห่งความผิดพลาดต่างๆ ให้ชีวิตที่มืดแปดด้าน หาทางเดินไม่เจอ หาทางออกไม่ได้ ให้คนที่เกิดมาไม่รู้หน้าที่อยู่ในสิ่งที่พึงกระทำ

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลงอักขระพระเจ้าส่องประทีปพร้อมทั้งขอบารมีสมเด็จพระพุทธสิขีสำเร็จตะกรุดนั้น ท่านว่าเราขอให้พระองค์ท่านเปิดทาง ส่องสว่างชีวิตที่มืดมน ใครที่ตาบอดมืดมัวด้วยอกุศลกรรมใดๆปิดกั้นอยู่ท่านว่านี่ใช้ได้เลย ถ้าพวกไหนชอบจับพลังพ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระเจ้าส่องประทีปนี่เอาให้จับไปเลยเขาจะพบเจอแต่แสงสว่างที่ไม่รู้จุดสิ้นสุดเป็นพลังงานที่จะทำลายความติดขัดมืดมนในอัตภาพตัวตนที่ติดกับชาติภพทุกรูปนาม

    ในส่วนของวิชานี้ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้อย่างน่าคิดว่ ถามหน่อยสิ ชีวิตใครบ้างที่มันจะส่องสว่างได้ตลอดเส้นทาง ไม่ตก ไม่มืดดับอับแสงเลย ในช่วงที่ชีวิตมืดบอดนี่แหละบางคนก็เสียเวลาอยู่กับมันทั้งชีวิต บางคนก็ล้มไปแล้วไม่สามารถกลับมาลุกยืนขึ้นได้อีก ซึ่งในจุดที่พลิกกลับนั้นหากมีดวงประทีปดวงหนึ่งส่องนำทางให้เธอล่ะ ในความมืดของชีวิตเธอยังมีแสงสว่างปัดเป่าและเป็นเชื้อเพลิงเติมให้จิตวิญญาณเธอตลอดเวลาอยู่ล่ะ ในเมื่อมีทางให้ไป มีแสงสว่างให้เดิน มีพลังงานลึกลับที่จะฉุดยื้อไม่ให้เธอตกลงไปได้ ในหนทางอันมืดบอดกับคนที่มีแสงสว่างนำทางมันก็ต่างกันถึงเพียงนั้น ..เพราะแสงสว่างของสมเด็จพระพุทธสิขีที่จะสถิตย์อยู่กับชีวิตของเธอต่อจากนี้ได้ชื่อว่ามีกำลังแรงกล้ายิ่งกว่าตะวันพันดวงเสียอีก

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดสำเร็จวิชาที่ขอบารมีพระพุทธสิขีดีแล้ว มาฝังไว้ในแว่นฟ้าบาปวิบัติด้วยความตั้งใจของท่าน เพื่อเป็นการเพิ่มพลังงานและขยายวงจรให้แว่นฟ้ามีแสงสว่างดุจตะวันพันดวงเบิกทางเปิดชีวิตให้กับผู้ถือครองได้

    แว่นฟ้าบาปวิบัติ พ่ออาจารย์ท่านได้ทำแว่นฟ้าบาปวิบัติขึ้นโดยอาศัยคติการสร้างคันฉ่องแต่โบราณที่ใช้รวบรวมพลังมงคลแห่งจักรวาลเพื่อหนุนเสริมบารมี วาสนา ยศถาบรรดาศักดิ์ ความก้าวหน้าในตำแหน่ง ความเจริญในหน้าที่การงาน ทั้งเสริมดวงให้แก่ผู้ครองครองบูชาได้มีพลังอำนาจเหนือดวงดาวด้วยพลังจักรวาลทั้งสามารถปกป้องคุ้มภัย ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีขับไล่เสนียดจัญไรโรคาพยาธิทั้งหลายให้มลายสิ้นไป

    อันแว่นฟ้านั้นท่านว่าแม้ได้ถือครองจะอุดมพรั่งพร้อมไปด้วยลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุขดั่งมหาเศรษฐี อายุยืนตลอดกาล และจะปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งที่เป็นอัปมงคลใดๆทั้งปวง ทั้งป้องกันเสนียดจัญไร ป้องกันลมเพลมพัด ป้องกันภูตผีปีศาจ

    ด้วยคันฉ่องหรือแว่นฟ้านี้สำคัญนักเพราะใช้ได้ทั้งกันทั้งดูดในคราวเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะดูดพลังจักรวาลมาเสริมส่งมงคลแก่ผู้ครอบครองแล้ว ยังดูดพลังวิญญาณร้าย พลังงานด้านลบทั้งหลายมาใช้เป็นอำนาจให้แก่ตนเองได้อีกด้วย เมื่อได้พกติดตัวก็จะสลายพลังร้ายในร่างกายเราได้ทั้งหมดเพราะเขาสังเคราะห์พลังงานทั้งจากในร่างกายเราและจักรวาลมาทำงานร่วมกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวแว่นฟ้านั้นเป็นสิ่งเล็กๆที่สร้างให้เกิดวงจรอันยิ่งใหญ่ เพื่อสนองตอบกับปัจจัยสี่ข้อหนุนเสริมผู้ครอบครองคือ
    - ความยิ่งใหญ่
    - ความสุข
    - ความมั่งคั่ง
    - ความไม่มีโรคมีอายุยืนยาว

    ซึ่งปัจจัยทั้งสี่นี้ท่านว่าเป็นเสมือนพรมงคลที่แม้แต่ทวยเทพยังทำให้ไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก ทั้งแว่นฟ้ายังเป็นสัญลักษณ์แสดงอำนาจเหนือกรรมลิขิตของพระบรมบิดาพรหมเทพ

    ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเสกและใช้แว่นฟ้าเพื่อรวมศูนย์พลังงานจักรวาลอันเป็นพลังมงคลที่ต่อต้านความหายนะ พินาศ ฉิบหายของอกุศลและความมัวหมองได้อย่างน่าฉงน ท่านจึงให้ชื่อแว่นฟ้านี้ว่าบาปวิบัติ

    อันพลังที่ขัดเกลาอกุศลตรงนี้เกี่ยวข้องกับวงจรใหญ่ ท่านว่าเปรียบได้กับการสร้างวงจรใหม่ขึ้นไปทดแทน ถึงจะเป็นวงจรเล็กๆแต่ก็เป็นวงจรใหม่ที่ใช้เปลี่ยนได้ทั้งหมด อาศัยอำนาจพลังมงคลของจักรวาลที่แว่นฟ้าจะรวบรวมไว้ตลอดเวลาลดทอนหายนะ อกุศลกรรมและความพินาศที่จะเกิดแก่ผู้ถือครอง

    *** เหนือสิ่งอื่นใดแว่นฟ้านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกยากมากเพราะเขามีอาถรรพ์ให้คุณเหนือกว่าเทวดาเจ้าบุญนายคุณนับสิบเท่า ทั้งยังดีทางด้านการพนันเสี่ยงดวงทั้งหลายด้วย โดยนัยน์ของแว่นฟ้านี้ท่านว่าแม้เราอยากได้ใครไม่ว่าจะคน จะเป็นสิ่งของหรือที่ดินทั้งหลาย ให้เราส่องแว่นฟ้านี้ออกไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเสมือนเงาสิ่งนั้นได้ถูกดูดไว้ในคันฉ่องแล้วท่านว่าพูดมากไม่ได้แต่เอาว่าได้แน่ๆ

    แว่นฟ้าหรือคันฉ่องนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีความสำคัญอยู่มาก แม้ตอนเสกเองท่านได้เชิญเสด็จพระใหญ่มาเสกซึ่งท่านก็มาดูด้วย ท่านว่า "คันฉ่องนี้มีความลับอีกมากมายที่เธอบอกเขาได้ไม่หมด ร้อยเรื่องพันเหตุการณ์ เขาจะไปประสบพบเจอกับปาฏิหาริย์ที่คู่ควรกับวาสนากันเอง ท่านว่าฉันเห็นไม่บ่อยหรอกนะที่ใครจะเชิญท่านพุทธสิขี ขอบารมีท่านสงเคราะห์คนเช่นนี้" (ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะบารมีพระพุทธสิขีนั้นเป็นแสงสว่างที่มีกำลังดุจตะวันพันดวง ท่านจะเผาผลาญความมืดบอดและขลาดเขลาทั้งหลายให้ย่อยยับไป)

    ด้วยวิชาคันฉ่องนี้พ่ออาจารย์ท่านทำให้เป็นเครื่องสูง เป็นของสูง ท่านว่านับแต่สมัยโบราณคันฉ่องถือเป็นของใช้งานเฉพาะจักรพรรดิ เป็นของแสดงพระราชอำนาจที่จะเลือกมอบให้แก่ใคร เป็นของแทนตัวพระจักรพรรดิ แม้มีทรัพย์สินเงินทองปานใดก็ไม่สามารถสร้างคันฉ่องได้ด้วยจะถือว่าเป็นกบฏทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าคันฉ่องนี้ก็เช่นกัน ท่านทำให้เป็นของสูงเสกตามศาสตร์ทุกศาสตร์ทีละเรื่อง เพราะเป็นชุดพิเศษ จึงเสกลงอาถรรพ์ของคันฉ่องโดยเฉพาะแยกออกมา ท่านว่าพกไว้เถอะ ดุจเรามีความน่าเกรงขาม มีพลังงานของโอรสสวรรค์คอยหนุนฐานชีวิต

    ท่านว่าที่สำคัญที่สุดเลย คันฉ่องนี้พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้เชื่อมโยงกับแว่นฟ้าของบรมบิดาพรหมเทพ ทุกความเป็นไป ทุกปัญหาและอุปสรรคมากมายในชีวิต จะฉายเป็นภาพขึ้นตรงกับพระบรมบิดา ท่านว่าเราบอกได้เท่านี้ แต่เราเองก็ขอท่านไว้แล้ว เรื่องไหน ใครเจออะไร ถ้ามันจะทำให้ชีวิตเขาแย่ลง เรื่องนั้นเราขอให้พระบรมบิดาท่านสงเคราะห์ทันที อย่าให้เหตุการณ์อันนำมาซึ่งความวิบัติรุนแรงเกิดขึ้นได้

    คาถาบูชา
    (พ่ออาจารย์ท่านว่าแว่นฟ้านี้เป็นของวิเศษ มีจิตสำนึกในตัวเอง เขาแรง เขาไวด้วยตัวของเขาอยู่แล้ว ให้อธิษฐานใช้งานได้เลยไม่ต้องอาราธนาอะไร เพียงแต่ระลึกถึงชื่อสมเด็จพระพุทธสิขีท่านเท่านั้นก็พอ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2019
  19. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พญาโจรมุสิกราชกระชากทรัพย์ (ลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง)

    ให้บูชา 900 บาท

    ปิดรายการนี้ครับโดยคุณ powernext

    IMG_20190513_221840.jpg IMG_20190513_221907.jpg

    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม-พ่ออาจารย์พล.548127/page-21#post-10819607

    พ่ออาจารย์ท่านเคยทำตะกรุดวิชาพญาหนูขนคำคนใช้ได้ผลกันมาก ใครมีก็เห็นประสบการณ์ร่ำรวยใหญ่ ท่านจึงมีดำริจะทำวิชาพญาหนูขนคำในลักษณะลอยองค์แบบจับต้องได้ให้คนทำงานหาเช้ากินค่ำได้ไว้เป็นขวัญกำลังใจ โดยผนวกรวมเอาวิชาลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง รวมลงไปด้วย

    เมื่อท่านมีดำริจะทำหนูที่ลงวิชาสำคัญเป็นหนูมหาโจรนั้น ท่านว่านิสัยหนูก็รู้ๆกันอยู่มันชอบลักเล็กโขมยน้อย ซ้ำยังเป็นนักย่องเบาที่หาจับตัวได้ยากยิ่งเรียกว่าไปได้ในทุกที่แม้ลงกลอนล๊อคประตูมันก็ยังหาโอกาสเข้าไปได้ เรียกว่าเมื่อมีเป้าหมายแม้มีอุปสรรคเสี่ยงชีวิตมันก็ยังทำ พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าหนูนั้นมันขโมยได้ทุกอย่าง ต่อให้เจ้าของจะรักจะหวง หรือต่อให้มีการดูแลคุ้มกันรักษาดีและประณีตเพียงใด ท่านว่าขอแค่เธอกะพริบตาเถิด แค่เผลอๆมันก็ไปเอา ไปขโมยมาได้ทั้งนั้น

    ด้วยคุณลักษณะดังกล่าวนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริทำพญาโจรมุกสิกราชที่ใช้ลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง ขึ้นมา เอาไว้ให้คนที่ทำงานหรือมีกิจกรรมซึ่งรู้ตัวว่าแข่งอำนาจวาสนากับคนอื่นเขาไม่ได้ เรียกว่ารู้ตัวเลยแหละว่าทำไปก็เจ๊ง ทำไปก็แพ้เขาตั้งแต่เริ่ม หรือคนที่คู่แข่งมีบารมี มีชื่อเสียง มีความสามารถ นำหน้าไกลเราไปหลายขุม พ่ออาจารย์ท่านเจตนาทำเพื่อให้คนเอาไปใช้ทำมาหากินใช้แข่งขันในภาวะสังคมปัจจุบันที่ท่านทายเอาไว้ว่าต่อไปการแข่งขันจะสูงยิ่งขึ้นจนน่ากลัว และหลายๆคนจะตามกันไม่ทัน

    ท่านตระหนักรู้ว่าหลายๆครั้งความปรารถนา ความตั้งใจ ความพยายามของแต่ละคนนั้น บางครั้งมันก็มีเกินตัวมากไป ด้วยตัวเองไม่มีวาสนา ไม่มีบารมีในทางที่กำลังทำอยู่นี้เลยพูดให้กระจ่างคือไม่มีสิทธิ์ที่จะทำสำเร็จหรือไปให้ได้ตลอดรอดฝั่งเพราะเดินมาผิดที่ผิดทาง ผิดไปแล้ว ผิดมาทั้งชีวิตแล้ว และก็ยากที่จะเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ เพราะทนทุกข์ยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ชะตาวาสนาของตัวเอง และในทุกการแข่งขันที่เกิดขึ้นจนเป็นวงจรชีวิตนี้ก็มักจะล้มเหลว ล้มคะมำอยู่ร่ำไป ท่านว่าเมื่อคนเหล่านั้นเขาไม่มีสิทธิ์แต่เขามีกำลังใจและความพยายามเพื่อจะขวนขวายเป้าหมายทำตามฝันของตน เช่นนั้นก็ต้องใช้วิชาช่วยเขาเพื่อให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่มีสิทธิ์ ไม่ได้รับอนุญาติจากชะตาชีวิตให้สำเร็จตั้งแต่เริ่มเหล่านั้น


    พ่ออาจารย์ท่านจึงนำแผ่นธาตุกายสิทธิ์พันคาถาที่ท่านหล่อหลอมทับถมไว้จากชนวนยันต์ต่างๆมาตีมาทุบและรีดเป็นแผ่นลงอักขระจารวิชาลักวาสนา โมยโชค ชิงดวงและทำการปลุกเสกจนเต็มวิชาเสียคำรบหนึ่งก่อน ท่านว่าวิชานี้สำคัญนักเพราะคนทั่วไปที่อับโชค เวลาเห็นใครที่เขามีชีวิตที่สุขสบายก็จะนึกน้อยใจในชะตาของตน เข้าทำนองว่าได้แต่มอง มองสิ่งที่สูงแล้วก็สูงยิ่งขึ้น มองจุดที่ตัวเองไม่มีวันไปถึง บางครั้งเห็นใครได้ดีเราก็อยากได้แบบเขาบ้าง พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจลงวิชาสำคัญนี้เพื่อให้คนใช้เปิดดวงและเห็นสิ่งที่ดี ได้สิ่งที่ดีดุจบุคคลที่เราปรารถนา เป็นวิชาว่าด้วยการลักวาสนา โมยโชค ชิงดวง ของบุคคลที่เราต้องการมาเสริมดวงของตน

    ในวันที่ตัวเองตกอับ ดวงตก ปีชง ต้องอุบาทว์สิ่งต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมักจะมาหยุดชีวิตเราและก็อยู่กับเรานานเกินความคาดหมาย แต่ความจริงแล้วชีวิตของเราของเรานั้นไม่ได้หยุด ต้องสู้ต้องแข่งกับเขาอยู่ทุกวัน มันจึงเกิดเป็นความทุกข์ที่พูดไม่ออกบอกใครไม่ได้เพราะไม่รู้สาเหตุ ท่านพิจารณาเห็นแล้วว่าในช่วงเวลาเหล่านี้ไม่ควรจะเสียไปเปล่าๆอย่างยิ่ง ก็เมื่อใดที่มีทุกข์จรเข้ามาจะได้รีบเอาพญามุกสิกราชขึ้นมาใช้ให้ดวงที่ไม่ดีกลับดี ให้โชคที่ไม่มีกลับได้ ให้วาสนาที่ไม่พบมาถึงดั่งเจตนานั้น ท่านจึงนำแผ่นยันต์ลักวาสนา โมยโชค ชิงดวง หล่อหลอมกับยันต์หัวใจโจร ในโจโรฤกษ์ให้กำเนิดพญามุกสิกราชขึ้นมาและทำการปลุกเสกชุบธาตุขันธ์ในเพชรฆาตฤกษ์เป็นปฐม ท่านว่าด้วยพญามุสิกราชนี้จะได้มีกำลังมากสามารถขโมยโชควาสนาได้ทุกสิ่งไม่ว่าจากคนหรืออมนุษย์ใดๆ ทั้งยังมีอำนาจย่ำยีสิ่งเลวร้ายในชะตาชีวิตคนใช้ได้ อุบาทว์ทั้งหลายจะถูกกำจัดหมดไป กาลอัปมงคลจะเปลี่ยนเป็นมงคลไปชั่วชีวิต ทั้งยังเป็นผู้ฆ่า ผู้ล่าวาสนาและชะตาฟ้าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าของสิ่งนี้มันน่าอัศจรรย์ยิ่งนักแม้ในโลกทิพย์เทพพรหมครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านยังมาช่วยกันอธิษฐานจิตให้ด้วยความเมตตา เพื่อจะช่วยสัตว์โลกที่มากความเพียรพยายามมีกำลังใจสูงมีค่าความเป็นคนเต็มคนเหล่านั้นออกจากทุกข์ภัย ซ้ำด้านหลังท่านยังได้ลบผงวิชาพญาหนูขนคำใส่เอาไว้ด้วย วิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จพระศรีอาริย์เเต่เดิมถือนักว่ามีอาถรรพ์เเรงกล้าเป็นอาถรรพ์ที่จะสนองตอบความต้องการของเจ้านายผู้ครอบครอง ท่านว่าถึงคนธรรมดาแม้จะเป็นมหาเศรษฐีก็อย่าคิดหวังว่าจะมีไว้ในครอบครองเพราะเป็นวิชาที่จะทำให้เฉพาะกับพระราชาเพียงเท่านั้น เเละเเม้พระราชาได้ไปแล้วก็ยังต้องบูชาเเละเทิดทูนไว้ดุจเครื่องมงคลคู่ชีวิตเก็บรักษาให้ดีตลอดพระชนม์ชีพ วิชานี้มีดีหลายด้านเมื่อได้ไว้บูชาด้วยอำนาจพระบรมโพธิสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านเเยกเยะไว้ ดังนี้
    - บุคคลที่มีความทุกข์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะทุกข์ต่างๆประการใด จากภายในหรือภายนอก จากภาวะสังคม หรือสิ่งเเวดล้อมใดๆก็ดี ก็ย่อมหลุดพ้นจากมหาทุกข์ดังกล่าว ท่านว่าพ้นจากทุกข์ ประสบซึ่งความสุขอิ่มเอิบในทุกด้าน เมื่อมีวิชานี้อยู่กับตัว ท่านว่าไม่ใช่สุขฉาบฉวยสามัญชั่วคราว หากเป็นความสุขที่เเท้จริง
    - บุคคลที่หมดหวัง ไร้ที่พึ่ง ไม่สามารถกระทำสิ่งที่คิดหวังไว้ให้ได้สมใจปรารถนา ชีวิตรันทดหมดหนทาง ท่านว่านั่นเเหละ วิชานี้มันพลิกกลับได้ทุกอย่าง เขาจะสำเร็จ ถึงซึ่งความสมหวัง มีสุขเสมอใจเขา ด้วยอำนาจเเห่งพระบรมโพธิสัตว์
    - บุคคลที่ได้บูชาด้วยใจทั้งหลาย ต่อไปเขาย่อมเเวดล้อมด้วยข้าทาสบริวาร ไร้เรือนก็จะมีเรือน มีคฤหาสต์ปรารถนาคนรักก็จะมีคู่ครอง มีทรัพย์สมบัติ ด้วยชะตาชีวิตนั้นพลิกผันไป
    - ผู้ที่ถือครองวิชาพญาหนูขนคำนี้ จะมีจิตตั้งอยู่ในกุศล ฝักใฝ่คุณงามความดี ความชั่วร้ายอวมงคล ปีศาจ สัมภเวสีทั้งหลายมิได้กล้ำกราย วิชานี้เมื่อผู้ใดได้ครอบครองไว้บูชาให้ดี ด้วยบารมีครูต้นองค์ปฐมท่านว่าภพชาติต่อไปมิรู้จักนรกเลย จะได้เสวยทิพย์สมบัติในเทวโลกเป็นเเม่นมั่น
    - ปิดหนทางตกต่ำ ปิดความมืดมนในชีวิต ไม่ให้ผู้ครอบครองต้องมีอันเป็นไป มีชะตาวิบัติขัดสนตกลงจากเดิมเด็ดขาด
    - ดึงดูดกัลยาณมิตร เเละสิ่งที่ดีทุกประการเข้ามาหาเจ้านาย ผู้ที่บูชาไป
    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวเพียงคร่าวๆเท่านี้ ท่านว่าวิชานี้เสมือนผู้บูชาเชิญสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์มาไว้กับตัว สิริเเละมหามงคลย่อมเกิดแก่ตนเอง จะเปลี่ยนจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดึงเเต่สิ่งที่ดีงามเข้ามา นับจากได้ไปจะมีเเต่เจริญขึ้นเเละไม่ขาดความสุขเเม้ซักวินาทีเดียว


    ซ้ำท่านยังได้อุดตะกรุดหัวใจมหาโจรนำพาเสริมทับเข้าไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้สำคัญ ท่านลงไว้ก็เพื่อชักนำให้พญามุกสิกราชเค้าทำงานตลอดเวลา ด้วยหนูนี้มีชาติตระกูลสูง สำเร็จด้วยเมตตาครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ทั้งยังมีรัศมีพระศรีอาริย์คลุมกายเขาจึงมีอำนาจมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ใช้ได้เต็มที่เลยไม่ต้องกลัวบาปกรรมใดๆ ไม่ใช่เพราะเราขโมยโชควาสนาดวงชะตาเขามาแล้วชีวิตเค้าจะตกต่ำเราจะติดกรรมแต่อย่างใด สิ่งนี้ท่านว่ามันเป็นเพียงนามธรรม เมื่อไม่มีรูปจึงไม่มีความผิด ซ้ำคนที่เราไปเอาโชคเค้ามาเค้าก็ยังมีดวงมีโชคอยู่เท่าเดิมหาได้ลดลง มีแต่ตัวเราที่จะอยู่ในจุดที่ดวงดี โชคดีมากกว่าเขา เรียกว่าหากเรามีคู่แข่งก็เหมือนกับเรามองเขาทะลุและเราอยู่เหนือกว่าเขาขั้นนึงเสมอไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนคู่แข่งอีกกี่คนเราก็เหนือกว่าเขาเสมอเพราะเมื่อโชคของเขาและของเรามารวมกันมันย่อมมีมากกว่าของคนเดิมนั่นเอง

    วรรคทองควรอ่าน
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้พลิกแพลงใช้ได้หลายด้าน แม้มีคุ่แข่งอยู่กี่คน ท่านว่าเขียนชื่อนามสกุลเขานำพญามุกสิกราชนี้ทับไว้ก็เป็นการข่มนาม ลักวาสนา โขมยโชค ชิงดวงเขามาส่งเสริมเรา(ท่านว่าวิธีนี้ทำได้หนึ่งตัวกับคนหนึ่งคนเท่านั้น) เช่นนี้จึงพลิกแพลงใช้ได้ไม่รู้จบ บางคนที่เขาเคยเอาไปใช้เขามาเล่าเผยเคล็ดให้ฟังว่าไปเอาชื่อพวกเศรษฐีระดับโลกมาทำ แม้แต่บางคนยังถึงขนาดใช้ชื่อกษัตริย์โซโลมอนก็ยังมี พวกเขาทุกคนล้วนบอกว่าชีวิตเปลี่ยนแบบดีดและก้าวกระโดดมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกนี้มันหัวขี้โกงไปเอากำลังวาสนามหาเศรษฐี มหาจักรพรรดิ์มาทำแต่ก็ถือว่าทำได้ไม่ผิด *** พ่ออาจารย์ท่านให้เคล็ดไว้ว่าคนที่บูชาพญามุสิกราชนั้นหนึ่งคนควรใช้ทั้งหมดสามตัว ตัวหนึ่งนำชะตาวาสนาที่สูงเทียมฟ้าของคนที่เราปรารถนาอยากเป็นเหมือนเขาทับไว้ อีกตัวหนึ่งเอาไว้คอยทับสะกดข่มชื่อศัตรูขู่แค่งของเรา ส่วนตัวสุดท้ายเอาติดตัวไว้กลับดวงแก้อุบาทว์โขมยพลังงานโชคลาภวาสนาคนที่เราหมายตาเจอในแต่ละวันแบบเป็นพักๆตามวงจรชีวิต (ท่านว่าคล็ดนี้ถ้าทำได้นับว่าเปลี่ยนคนหนึ่งให้ดีขึ้นจนกลายเป็นอีกคนหนึ่งได้ทันตาเห็นทีเดียว)


    พระคาถาบูชา
    โอม อะนะวะชะ สะระมะศรีอาริย์นามัง ชีวิตัง ถุมัง อุตันทะรานัง ชีวิตัง ปะนะวันดุงลัง ถุมัง ตันดะลัง วิสะเชตวา ปะนะขะทะเรติ เอเตนะ สัจจะยะ โสตถิ ภวันตุโน(ภาวนาทุกวันอย่าให้ขาด ท่านว่าทุกข์ไม่กล้ำกราย วันไหนมีทุกข์ท่านให้เร่งภาวนา หากสามารถกระทำความเพียรภาวนาพระคาถานี้ได้ถึงพันคาบในวันเดียวครั้งเดียว ท่านว่าบุคคลนั้นนิราศทุกข์ ไกลทุกข์ ชีวิตที่เหลือจะประสบเเต่ความสุขโดยเเท้เช่นนั้นเเล)

    พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าพญามุสิกราชของฉันนั้นเป็นของเฉพาะกาล และวิชาโขมยดวงนี้ครูในโลกทิพย์ท่านก็ขอไว้ว่าไม่ให้ทำอีก ด้วยท่านว่าพวกท่านมาช่วยกันทำให้ทั้งหมดและอธิษฐานไว้ให้ตกถึงคนที่คู่ควรแล้ว ต่อไปอย่าทำอีกเพราะวิชานี้อันตรายมากเกินไป ให้ใช้ได้เฉพาะสัตว์ที่มีวาระปลดแอกชะตากรรมรอบนี้เท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็รับปากไว้ว่าจะทำหนเดียวและท่านก็เสกเก็บไว้มานานยิ่งยวด ท่านว่าเราเองลึกๆก็กลัวใจคนเอาไปใช้เหลือเกินเพราะมันเป็นวิชาพิศดารอยู่แล้ว แต่ใจคนนั้นกลับพิศดารยิ่งกว่า ท่านว่าแรกเริ่มให้เขาบูชาไปก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครไปเอาชื่อกษัตริย์โซโลมอนมาเขียนจนเขามาฟ้องว่าเราไปรบกวนเขา ท่านว่าใช้กันให้ดีให้เหมาะให้ควรท่านพูดได้เท่านี้อะไรที่มันดูแล้ว ชั่งใจแล้วว่ามากเกินไปก็อย่าไปทำเพราะวิชานี้ใครได้ไว้ก็ถือว่าโกงเขาไปไกลมากแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2019
  20. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    วันนี้ลงรายการ ครบแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...