พระป่าสายกรรมฐานและพระเครื่องทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ChintopTM, 27 มิถุนายน 2019.

  1. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    IMG_0149.JPG

    นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา
    ความนอบน้อมของข้าฯจงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าฯจงมีแด่วิมุตติธรรม

    พระเครื่องสายกรรมฐานและทั่วไปให้บูชาในราคาเบาๆครับ แบ่งๆกันนำไปใช้ครับ

    บวกค่าจัดส่งครั้งละ60บาท/ครั้งนะครับ

    ชื่อบัญชี:นายวุฒิชัย ต่อฤทธิ์
    เลขที่บัญชี: 739-0-14103-9
    ธนาคาร: กรุงเทพ
    สาขา: เทสโก้โลตัสท่าบ่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2019
  2. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 1
    พระกริ่งปวเรศ หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร เนื้อทองเหลืองชุบเงิน สร้างเพียง100องค์ หมายเลข 58 รายการหายาก

    บูชา300บาท

    ปิดรายการ

    IMG_0150.JPG

    กำเนิด

    หลวงพ่อแปลง สุนทโร นามเดิมท่านชื่อ แปลง นามสกุล อินทร์หนอง เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ ณ บ้านดอนเชียงคูณ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อนายกง อินทร์หนอง มาดาชื่อนางคู อินทร์หนอง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด ๗ คน ท่านเป็นคนที่ ๖

    หลวงพ่อแปลง ท่านได้เข้าศึกษาในโรงเรียนประชาบาลบ้านดอนกระเล็น ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ปัจจุบันเป็นตำบลเชียงเครือ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ต่อจากนั้นได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนช่างไม้สกลนคร จนจบอาชีวะชั้นต้นปีที่ ๓ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๙ หลวงพ่อเล่าถึงอาชีพของท่านว่า “ก็ได้ทำไร่ไถนาธรรมดานี่แหละ ทำก็ทำไร่ทำนา ส่วนมากจะทำนา ทำนาเป็นอาชีพ เลี้ยงวัวเลี้ยงควายเลี้ยงม้า เป็นอาชีพของชาวบ้าน”

    การอุปสมบท
    สาเหตุที่จะได้บวชนั้นหลวงพ่อแปลงเล่าว่า “คือบวชตามประเพณี คือป่วยตั้งแต่เป็นเด็ก เขาบนบวช ทีนี้ว่าจะบวชวัดบ้านนั่นล่ะ มีโยมคนหนึ่งที่รู้จักกับแม่ บอกว่ากูจะไปฝากหลวงปู่ฝั้นให้ เขาเป็นโยมอุปัฏฐากท่าน โชคดีไปฝากกับหลวงปู่ฝั้น เลยได้ไปอยู่กับท่าน ก็ห่างจากบ้าน ๖ – ๗ กิโล จากวัดท่านน่ะ สาเหตุที่ได้ไปบุญดึงไปล่ะถ้าพูดตามภาษาบ้านเราน่ะ ไม่ใช่เจตนาหรอก บวชก็บวชไม่ใช่จะอยู่ตลอดหรอก บวชตามประเพณี” “ ได้บวชผ้าขาวกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ เพราะใกล้จะเข้าพรรษาแล้ว ประมาณ ๗ วัน เพราะท่านลงมาจากถ้ำเป็ด เป็นเวลาน้อย ก็บวชวันเข้าพรรษาด้วย มันจำเป็น”

    หลวงพ่อแปลง ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา เมื่ออายุ ๒๒ ปี ในวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๕ ณ วัดศรีโพนเมือง ตำบลธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร โดยมี
    พระอาจารย์มหาทองสุข สุจิตฺโต วัดป่าสุทธาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระอาจารย์มหาไพรบูลย์ อภิวณฺโณ วัดศรีโพนเมือง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ภายหลังจากบวชแล้ว ท่านได้มาพักจำพรรษากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดภูธส่งรพิทักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร รวมทั้งได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ ฝึกหัดทำสมาธิภาวนา หากสงสัยในข้ออรรถข้อธรรม ท่านก็ขึ้นไปกราบเรียนถามหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งท่านก็เมตตาให้ข้ออรรถข้อธรรม ให้กำลังใจในการบำเพ็ญสมณะธรรม และได้ติดตามไปอุปัฏฐากหลวงปู่ฝั้น ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่วัดป่าถ้ำขาม วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ตลอดจนที่อื่นๆ

    ภายหลังจากหลวงปู่ฝั้น อาจาโร มรณภาพ และพระราชทานเพลิงศพแล้ว ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ดูแลวัดป่าอุดมสมพรเรื่อยมา ปี พ.ศ.๒๕๒๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูอุดมธรรมสุนทร” ปัจจุบันนี้ หลวงพ่อแปลง สุนฺทโร ท่านพำนักจำพรรษาที่วัดป่าอุดมสมพร บ้านบะทอง ตำบลพรรณา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

    เนื้อทองเหลืองชุบเงิน จัดสร้างเพียง100องค์

    IMG_0129.JPG IMG_0130.JPG IMG_0131.JPG IMG_0133.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  3. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 2
    พระขุนแผนแห่งแดนอีสาน หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย พิมพ์เล็ก ผสมมูลเหล็กไหล รายการหายากครับ
    บูชา300บาท

    ปิดรายการ

    IMG_0156.JPG

    ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    วัดจันทราราม ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

    ๏ ชาติภูมิและประวัติทั่วไป

    “หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต” เป็นศิษย์อาวุโสองค์หนึ่งของท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ที่น่ากราบไหว้ได้สนิทใจอีกองค์ ธรรมะปฏิบัติ ปฏิปทา และพลังจิตของท่านเข้มขลังไม่ธรรมดา ถ้าในวงศ์พระกรรมฐานท่านก็คือ พระหมอชื่อดังมาก ทั้งน้ำมนต์และการรักษาโรคที่แพทย์ปัจจุบันรักษาไม่หายนั้นท่านช่วยรักษาได้หมด

    หลวงปู่จันทร์ มีนามเดิมว่า จันทร์ ไชยคุตร เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พุทธศักราช 2447 ตรงกับวันจันทร์ แรม 12 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง จุลศักราช 1266 ณ บ้านคูเมือง ต.คูเมือง อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ จ.ยโสธร) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6

    2582%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2595_1.jpg


    ๏ การบรรพชาและการอุปสมบท

    ท่านบรรพชาตั้งแต่เป็นสามเณร อายุได้ 16 ปี ณ วัดบูรพาวิทยาราม ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2463 และท่านมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ.2471 ณ พัทธสีมาวัดบางขวาง ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมี พระครูศีลาภิรมณ์ (พระอาจารย์ท้วม ธัมมธโร) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สนธิ์ กิจฺจกาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เนตร ปัญญาทีโป เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “เขมปตฺโต” ซึ่งแปลว่า ผู้ถึงธรรมอันเป็นแดนเกษม


    ๏ พระอาจารย์ด้านกรรมฐาน

    ต่อมาท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเป็นครูสอนนักธรรม ยามว่างจากการสอนท่านก็หมั่นฝึกกรรมฐานเป็นประจำ จากนั้นเมื่อปี พ.ศ.2474 หลวงปู่จันทร์ท่านได้พบพระกรรมฐานผู้เป็นศิษย์อาวุโสของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต คือ หลวงปู่สีโห เขมโก ซึ่งท่านได้รับการอบรมธรรมจนเกิดความซาบซึ้งและมีความก้าวหน้าทางจิต หลวงปู่จันทร์ท่านจึงได้พิจารณาดูแล้วว่า อันวัดบางขวาง จ.นนทบุรี นั้น ถ้าจะอยู่ทำความเพียรต่อไป ย่อมหาความสงบยาก ประกอบกับในสมัยนั้นชื่อเสียงของ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม โด่งดังมากเป็นที่รู้จักในวงพระกรรมฐานเป็นอย่างมาก ท่านจึงกลับสู่ภาคอีสาน เดินทางไปพบพระอาจารย์สิงห์ที่โคราช เพื่อรับข้อธรรมและช่วยงานพระอาจารย์สิงห์

    จากนั้นท่านก็เดินทางไปรับธรรมะปฏิบัติจากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่จ.อุบลราชธานี เมื่อได้ฟังธรรมจากพระอาจารย์มั่น หลวงปู่จันทร์ได้เล่าว่า “ในครั้งนั้นได้รับอุบายธรรมแนะนำจากท่านพระอาจารย์มั่น อาตมาเลยติดในธรรมของท่านเป็นการใหญ่ ความลึกลับแห่งพระธรรมนี้ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน เป็นเหตุเป็นผลอย่างเด่นชัด ตั้งแต่บัดนี้มา ไม่ยอมห่างไปไหนอีกเลย ขออยู่กับท่านพระอาจารย์มั่นเพื่อปฏิบัติธรรม เมื่อไปถึงอุบลฯ ก็ได้ไปเยี่ยมโยมมารดา แล้วกลับมาคอยท่านพระอาจารย์มั่น ที่บ้านโคกใหญ่ หรือบ้านนามน จ.สกลนคร พอดีตอนนั้นจวนจะเข้าพรรษา เมื่อท่านพระอาจารย์มั่นเดินทางไปถึง ท่านก็อยู่จำพรรษาที่นั่น ตอนค่ำๆ ท่านพระอาจารย์มั่นจะเปิดอบรมธรรม แก้ไขสิ่งที่ติดขัดสงสัยให้ และได้รับโอวาทจากท่าน ปรากฏว่าเกิดเป็นนิมิตดี ทำความเพียรก็ได้ผล สติมั่นคงทรงอยู่กับองค์สมาธิตลอดเวลาจนเป็นที่น่าปีติยินดีอย่างยิ่ง”

    ท่านพระอาจารย์มั่นได้มีเมตตาแสดงอุบายธรรมถ่ายถอนกิเลสแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ที่มาประชุมกัน เพื่อรับฟังโอวาท ซึ่งท่านกำชับบรรดาศิษยานุศิษย์ทุกรูปว่า 3 วัน 7 วัน 15 วันให้มารับฟังโอวาทการอบรมธรรมครั้งหนึ่ง ทั้งฤดูแล้งและฤดูฝน พระอาจารย์มั่นมีเมตตาธรรมส่งหลวงปู่จันทร์ ไปอยู่จำพรรษาภายใน จ.สกลนคร จำนวน 4 วัดด้วยกัน คือ วัดป่าบ้านเต่างอย, วัดป่าบ้านกุดจิก, วัดถ้ำเป็ด และวัดเกาะแก้ว หลวงปู่จันทร์ได้อยู่รับการอบรมธรรมกับพระอาจารย์มั่นเป็นระยะเวลา 6 ปี หลังจากที่ได้รับอุบายธรรมจากพระอาจารย์มั่นแล้ว ท่านก็ปลีกวิเวกออกเที่ยวธุดงค์ไปทั่ว อยู่ตามป่าทึบดงหนา ขุนเขาต่างๆ เงื้อมผา และโถงถ้ำ เพียงลำพังองค์เดียวเพื่อเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ท่านเป็นผู้ไม่อยู่ติดถิ่น การอยู่จำพรรษาแต่ละสถานที่ก็ไม่เกิน 2-3 พรรษา กระทั่งสุดท้ายท่านก็มาอยู่จำพรรษา ณ วัดจันทาราม บ้านร่องเม็ก ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

    ๏ เพ่งกระแสจิตรักษาโรค

    คือเมื่อเอยถึงหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต แล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักท่าน เหตุว่าท่านเคยมีข่าวเกรียวกราวลงทางหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งสร้างความน่าทึ่งมหัศจรรย์ให้แก่วงการแพทย์ของเมืองไทยมาแล้ว

    เรื่องมีอยู่ว่า ลูกชายของนายพลท่านหนึ่งจากฝั่งลาวเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกทิ่มเข้าที่ดวงตา รักษาหมอแผนปัจจุบันก็ไม่ดีขึ้น และในช่วงนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่จันทร์และน้ำมนต์ของท่านดังมาก นายพลท่านนั้นจึงพาลูกชายมาให้หลวงปู่จันทร์เมตตารักษาให้ ท่านจึงเพ่งกระแสจิตรักษาให้ หลวงปู่จันทร์เพ่งกระแสจิตให้ไม่ถึงครึ่งนาที เศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา ตกที่พื้นจับตัวเป็นก้อนกลม โดยไม่ต้องผ่าตัด ดวงตามองเห็นได้ตามปรกติ และบารมีท่านสมัยนั้นก็ไม่ธรรมดา นี่คือ พลังศรัทธาที่ทำให้วัดจันทรารามที่เคยเป็นวัดเล็กๆ เกือบจะเรียกว่า วัดร้าง ได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานกันของชาวจังหวัดหนองคาย ในช่วงประมาณปี พ.ศ.2516 สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลเข้าสู่วัดท่าน ทั้งต้องนิมนต์ท่านไปช่วยสร้างวัดสารนารถธรรมาราม ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง อีกด้วย บอกได้เลยว่าไม่สามารถจะหาคำพูดใดมาบรรยายได้ ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่น่ากราบไหว้อีกองค์หนึ่ง (จากหนังสือพระเครื่อง)


    ๏ หลวงปู่จันทร์ เหล็กไหล

    ถ้าเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ร่วมสมัยจะเรียกหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต นี้ว่า หลวงปู่จันทร์ เหล็กไหล เพราะลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ชื่อจันทร์ มีหลายรูป เช่นเดียวกันกับหลวงปู่พวง มีหลวงปู่พวง เหล็กไหล (บ้านปูลู-บ้านเชียง หนองหาน) เพราะสองท่านนี้ชอบแสวงหาเหล็กไหล ไพลดำ เป็นประจำเวลาเดินธุดงค์


    เนื้อมวลสารจัดจ้าน สภาพสวย ประสบการณ์หนาหูจึงยกให้เป็นขุนแผนแดนอีสาน

    IMG_0154.JPG IMG_0153.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2019
  4. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 3
    เหรียญจัมโบ้พุทธมหาเจดีย์(ตุ้มโฮม) 91 ปี หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง จ.อุดรธานี ชุดกรรมการ หมายเลข114 ราคาสุดคุ้ม
    บูชา1,500บาท
    ปิดรายการ



    IMG_0161.JPG
    หลวงปู่ลี กุสลธโร เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2465ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ ที่บ้านเก่า ตำบลบ้านเก่า อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นบุตรของนายปุ่น และนางโพธิ์ ชาลีเชียงพิณ มีพี่น้องร่วมกัน 9 คน เรียนจบชั้นประถม 3เมื่ออายุ 12 ปี และแต่งงานกับนางสาวตี เมื่ออายุประมาณ 20 ปี นางสาวตีตั้งท้อง เมื่อคลอดปรากฎว่าลูกเสียชีวิค ท่านได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
    การแต่งงานครั้งนี้ ท่านเล่าว่า ที่แต่งกับนางสาวตี มิได้แต่งเพราะความรัก หากแต่เป็นการแต่งแบบคลุมถุงชน โดยที่ท่านยังไม่เคยรักผู้ใดเลย ท่านอยู่กับภรรยาได้เพียง 2 ปี 3 เดือน จึงขอออกบวชเพราะได้ฟังธรรมจากพระกรรมฐานที่เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์มั่นแล้วรู้สึกเลื่อมใส

    อุปสมบท
    หลวงปู่ลี อุปสมบทที่ วัดศรีโพนเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมือวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๔๙๓ โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    (หลวงปู่ลี กุสลธโร ท่านบวชพระเมื่อครั้งงานเผาศพพระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต และเมื่ออุปสมบทได้ฉายานามว่า “กุสลธโร” แปลว่า “พระผู้ทรงไว้ซึ่งความดี” )

    ชุดกรรมการ ประกอบไปด้วย เนื้อเงิน,เนื้อนวะโลหะ,เนื้อดีบุก,เนื้อทองแดง,เนื้อทองเหลือง ไม่เจาะห่วง รันหมายเลขเดียวกัน

    IMG_0157.JPG IMG_0158.JPG IMG_0160.JPG
    IMG_0159.JPG
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0159.JPG
      IMG_0159.JPG
      ขนาดไฟล์:
      280 KB
      เปิดดู:
      138
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  5. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 4
    รูปถ่ายบรรจุเกศาธาตุ หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง วัดทำแจก
    บูชา200บาท


    IMG_0161.JPG
    หลวงปู่ลี กุสลธโร เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2465ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ ที่บ้านเก่า ตำบลบ้านเก่า อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นบุตรของนายปุ่น และนางโพธิ์ ชาลีเชียงพิณ มีพี่น้องร่วมกัน 9 คน เรียนจบชั้นประถม 3เมื่ออายุ 12 ปี และแต่งงานกัุบนางสาวตี เมื่ออายุประมาณ 20 ปี นางสาวตีตั้งท้อง เมื่อคลอดปรากฎว่าลูกเสียชีวิค ท่านได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
    การแต่งงานครั้งนี้ ท่านเล่าว่า ที่แต่งกับนางสาวตี มิได้แต่งเพราะความรัก หากแต่เป็นการแต่งแบบคลุมถุงชน โดยที่ท่านยังไม่เคยรักผู้ใดเลย ท่านอยู่กับภรรยาได้เพียง 2 ปี 3 เดือน จึงขอออกบวชเพราะได้ฟังธรรมจากพระกรรมฐานที่เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์มั่นแล้วรู้สึกเลื่อมใส

    อุปสมบท
    หลวงปู่ลี อุปสมบทที่ วัดศรีโพนเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมือวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๔๙๓ โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    (หลวงปู่ลี กุสลธโร ท่านบวชพระเมื่อครั้งงานเผาศพพระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต และเมื่ออุปสมบทได้ฉายานามว่า “กุสลธโร” แปลว่า “พระผู้ทรงไว้ซึ่งความดี” )

    รูปถ่ายกระดาษบรรจุเกศาธาตุขององค์หลวงปู่ลี กุสลธารน้อยคนนักที่จะได้ครอบครอง

    IMG_0176.JPG IMG_0177.JPG
     
  6. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 5
    รูปหล่อฐานภูเขาพิมพ์เล็ก ชุดกรรมการเนื้อเงิน รุ่นเสาร์ห้ามหาโชค ปี2560
    บูชา550บาท

    ปิดรายการ
    IMG_0183.JPG

    หลวงปู่ลี กุสลธโร เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2465ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ ที่บ้านเก่า ตำบลบ้านเก่า อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นบุตรของนายปุ่น และนางโพธิ์ ชาลีเชียงพิณ มีพี่น้องร่วมกัน 9 คน เรียนจบชั้นประถม 3เมื่ออายุ 12 ปี และแต่งงานกัุบนางสาวตี เมื่ออายุประมาณ 20 ปี นางสาวตีตั้งท้อง เมื่อคลอดปรากฎว่าลูกเสียชีวิค ท่านได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
    การแต่งงานครั้งนี้ ท่านเล่าว่า ที่แต่งกับนางสาวตี มิได้แต่งเพราะความรัก หากแต่เป็นการแต่งแบบคลุมถุงชน โดยที่ท่านยังไม่เคยรักผู้ใดเลย ท่านอยู่กับภรรยาได้เพียง 2 ปี 3 เดือน จึงขอออกบวชเพราะได้ฟังธรรมจากพระกรรมฐานที่เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์มั่นแล้วรู้สึกเลื่อมใส

    อุปสมบท
    หลวงปู่ลี อุปสมบทที่ วัดศรีโพนเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมือวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๔๙๓ โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    (หลวงปู่ลี กุสลธโร ท่านบวชพระเมื่อครั้งงานเผาศพพระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต และเมื่ออุปสมบทได้ฉายานามว่า “กุสลธโร” แปลว่า “พระผู้ทรงไว้ซึ่งความดี” )

    ชุดกรรมการเนื้อเงินสร้างน้อย ประกอบด้วย เนื้อเงิน,นวะโลหะ,ชนวนล้วนหลวงตามหาบัว
    รันหมายเลข242 จัดสร้าง300ชุดเท่านั้น

    IMG_0178.JPG IMG_0179.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  7. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่6
    เหรียญสร้างเจดีย์ หลวงปู่ชม โอภาโส วัดสามัคคี ศิษย์เอกหลวงปู่พิบูลย์วัดบ้านแดง

    IMG_0184.JPG IMG_0184.JPG
    พระครูอมรธรรมโมภาส(หลวงปู่ชม โอภาโส) วัดสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคายศิษย์เอกรูปสุดท้ายของหลวงปู่พิบูลย์ ท่านเกิดเดือนสิงหาคม พ.ศ.2458 ท่านเป็นคนบ้านแดง จ.อุดรธานี โดยกำเนิด ซึ่งในบ้านแดงเป็นที่ตั้งของวัดพระแท่น ที่หลวงปู่พิบูลย์(พระอภิญญาอาคมขลังแห่งอุดรธานี)ได้มาสร้างวัดอยู่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมนี่เอง ตอนเป็นเด็กหลวงปูชมท่านมีโอกาสรับใช้ครูบาอาจารย์หลายรูป ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่พิบูลย์ หลวงปู่ฤาษีผมยาว หลวงปู่โชติ
    ท่านมีโอกาสได้เรียนคาถาจากหลวงปู่ผมยาวโดยการเรียนแบบครูลักพักจำนั่นเองหรือที่ชาวอีสานเรียกว่ามนต์ลอดป่อง หลวงปู่ฤาษีผมยาวครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ชม ท่านครองวัตรแบบฤาษี ท่านได้สำเร็จครูธรรมโดยถือวิรัชไม่พูดเป็นเวลา11ปี ที่ท่านเป็นหลวงปู่ฤาษีผมยาวนั้นก็เพราะว่ามีดกรรไกรตัดผมไม่สามารถตัดผมท่านขาดได้(ท่านเก่งเรื่องธาตุ) ท่านเหมือนคนบ้าบอมักจะทำอะไรแปลกๆอยู่เสมอ ท่านเคยทำตะกรุดผูกขานดเอาไว้ ทำให้คนที่ชอบยิงนกไม่สามารถยิงนกได้ ท่านเมตตาหลวงปู่ชมมาก กาลต่อมาศพหลวงปู่ผมยาวเผาไม่ไหม้ จึงเป็นธุระของหลวงปู่ชมได้มาแก้เคล็ดบางประการจึงได้ทำการเผาศพได้ ปัจจุบันผมและกระดูกขากรรไกรนั้นหลวงปู่ชมเป็นคนรักษาไว้เท่าทุกวันนี้

    เนื้อพิเศษ มหาชนวนลงยาม่วง สร้างเพียง5เหรียญ บูชา600บาท ปิดรายการ
    IMG_0166.JPG IMG_0167.JPG IMG_0168.JPG

    เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง บูชา200บาท ปิดรายการ
    IMG_0169.JPG IMG_0170.JPG IMG_0171.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2019
  8. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่7
    เหรียญรุ่นพิเศษ หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง จ.อุดรธานี เนื้อเงินลงยาสีน้ำเงิน รุ่นนี้ได้รับความนิยมโดยเฉพาเนื้อเงินลงยาครับ สร้างน้อย

    บูชา1,400บาท
    ปิดรายการ


    IMG_0161.JPG IMG_0164.JPG IMG_0163.JPG IMG_0165.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  9. songsakth

    songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,964
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,661
    ขอจองรายการที่6
    เหรียญสร้างเจดีย์ หลวงปู่ชม โอภาโส วัดสามัคคี เนื้อพิเศษ มหาชนวนลงยาม่วง สร้างเพียง5เหรียญ บูชา600บาท
     
  10. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รับทราบครับผม
     
  11. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่8
    พระชัยวัฒน์ หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าภูผาแดง ชุดกรรมการเนื้อเงิน สร้างเพียง119ชุด ประกอบไปด้วย เนื้อเงิน,เนื้อนวะโลหะ,เนื้อชนวนล้วนหลวงตามหาบัว หายากมากครับ ชุดนี้หมายเลข17ครับ

    บูชา1,200บาท
    ปิดรายการ


    IMG_0183.JPG IMG_0182.JPG IMG_0181.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  12. songsakth

    songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,964
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,661
    ขอจองรายการที่ 2
    พระขุนแผนแห่งแดนอีสาน หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย พิมพ์เล็ก ผสมมูลเหล็กไหล รายการหายากครับ บูชา300บาท
     
  13. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รับทราบครับผม
     
  14. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 9
    บ่วงนาคบาศ เนื้อทองเหลืองรมดำ รุ่นจันทร์เพ็ญ หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ อธิษฐานจิตปลุกเสก16วาระ
    บูชา200บาท
    ปิดรายการ

    IMG_0210.JPG IMG_0209.JPG
    #ประวัติพระครูพันธสมณวัฒน์
    (หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ)
    วัดป่าวุฑฒาราม จ.หนองบัวลำภู

    Cr. Piriya Jord chukeawngam
    (น้องจ้อด)


    " #หลวงปู่ผู้เป็นจ้าวแห่งป่า "
    .
    ครั้งหนึ่ง #หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ
    วัดศรีฐานใน พ่อแม่ครูอาจารย์ที่สำคัญยิ่ง
    แห่งวงศ์พระกรรมฐานในยุคปัจจุบัน
    ได้เคย #กล่าวถึงหลวงปู่ทองสุข ไว้
    .....................................
    .
    หลวงปู่ทองสุข ท่านคือพระแท้
    เป็น #ช้างเผือก แห่งวงศ์กรรมฐาน
    ที่ควรค่าแก่การบูชาอย่างแท้จริง
    .
    " ... ปู่เป็นพระบ้านนอก ไม่ค่อยรู้จักใคร และก็ไม่มีใครค่อยรู้จักหรอก ปู่มีหน้าที่แค่ปฏิบัติตนให้ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ก็เพียงพอแล้วน่ะลูก ... "
    .
    .
    ถ้อยคำที่แสดงถึงศิลจารวัตรที่สมถะ เรียบง่าย เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนของ "องค์หลวงปู่ทองสุข " ที่มักจะกล่าวให้ผมได้ยินอยู่เสมอ ๆ
    .
    .
    " #หลวงปู่ทองสุข" พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแห่ง วัดป่าวุฑฒาราม จ.หนองบัวลำภู เป็นครูบาอาจารย์ที่ควรค่าแก่การบูชาอย่างยิ่ง เพราะเมตตาของท่านนั้นไม่มีประมาณ ท่านเป็นพระที่พูดน้อย แต่มากด้วยรอยยิ้ม อะไรก็ได้ ไม่เคยขัดศรัทธาใคร ใครมีอะไรที่ต้องการอยากให้ท่านช่วยเหลือท่านช่วยหมด ไม่เคยเลือกชั้นวรรณะ
    .
    .
    เป็นพระที่เต็มไปด้วยความเมตตา และอ่อนน้อมถ่อมตน ถึงแม้ท่านจะครองเพศบรรพชิตมามากกว่าครึ่งศตวรรษแล้วก็ตาม
    .
    .
    หากจะวัดกันที่พรรษาแล้ว องค์ท่านนั้นถือว่าเป็นพระผู้ใหญ่ #ระดับพระมหาเถระ เลยก็ว่าได้ แต่ก็อย่างที่ได้เรียนไว้ ว่าท่านไม่มีการถือตัว ไม่มีการโอ้อวด อะไรทั้งนั้น
    .
    มีเพียงรอยยิ้มแห่งความเมตตาและหลักคำสอนที่มักจะมีอะไรไว้ให้ขบคิด เป็นอุบายธรรมแบบง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความแยบคายที่ให้บรรดาญาติโยมได้นำไปใช้ต่อในการดำเนินชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมเท่านั้น
    .
    __________________
    .
    .
    .
    #ประวัติหลวงปู่ทองสุข
    .
    .
    จากการที่ได้เข้ากราบท่านและสนทนาธรรมกับท่านบ่อย ๆ องค์ท่านจึงเมตตาเล่าประวัติพอคร่าว ๆ ขององค์ท่านให้ฟังว่า
    .
    .
    เดิมทีนั้นท่านเกิดที่ อ.หนองบัวภู ซึ่งแต่ก่อนนั้นคืออำเภอหนึ่งของจ.อุดรธานี ก่อนจะแยกตัวออกมาเป็นจังหวัดในภายหลัง และชีวิตในวัยเด็กของท่านก็เหมือนกับวิถีชีวิตของเด็กต่างจังหวัดทั่วไป
    .
    .
    คือเที่ยวเล่น ยิงนก ตกปลา ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นท่านก็ใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่นบ้านทุ่ง กิน เที่ยว ดื่ม ไม่ได้มีอะไรที่แปลกประหลาดมากนัก
    .
    .
    ครบวัยเกณฑ์ทหารท่านก็ไปคัดเลือกทหาร ปรากฎว่าจับได้ใบดำไม่ได้เป็นทหาร ทีนี้ทางบ้านก็รบเร้าให้ท่านบวชมาตั้งแต่อายุ 20
    ท่านบอกว่าท่านขอผัดมาเรื่อย ๆ 3 ปี จนถึงอายุ 23 ก็ไม่อยากขัดทางบ้าน
    .
    ท่านจึงตัดสินใจบวชให้เมื่อปีพ.ศ. 2507 และหวังใจว่าจะบวชไม่นานก็สึก เต็มที่ไม่เกินหนึ่งพรรษาเท่านั้น
    .
    .
    ท่านบวชที่วัดบ้านเกิดของท่านคือ อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี (ในขณะนั้น) โดยมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานหลายรูปเป็นครูบาอาจารย์
    .
    .
    ด้วยวัยหนุ่ม ทำให้ท่านคิดถึงการใช้ชีวิตแบบปุถุชนธรรมดาสามัญ
    .
    .
    รอคอยเมื่อครบพรรษาก็ไปกราบขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์ว่าขอสึก ปรากฎว่าครูอาจารย์ก็บ่ายเบี่ยงท่านเช่นกัน ท่านบอกว่าขอสึกกับครูบาอาจารย์อยู่ 3 พรรษา แต่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนท้ายสุดท่านจึงคิดว่าถ้าเช่นนั้นก็บวชไปแบบนี้ก่อนเรื่อย ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ ท่านก็ไม่ได้สึก และครองเพศบรรพชิตมาจนถึงปัจจุบัน
    .
    .
    องค์ท่านเมตตาเล่าว่า ...
    .
    .
    สมัยก่อนนั้น ปฏิบัติกันค่อนข้างหนักและค่อนข้างเอาจริงเอาจรัง ท่านเดินธุดงค์วัตรอยู่ในป่าในเขา บำเพ็ญเพียรแต่ละครั้งก็ค่อนข้างจะทรหดอยู่พอสมควร บ้างเดินทางข้ามจังหวัดไปกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นใหญ่ ๆ ที่อยู่คนละภาค คนละพื้นที่
    .
    .
    เช่นองค์ " หลวงปู่คำดี" อริยเจ้าแห่งวัดถ้ำผาปู่ เมืองเลย
    .
    .
    " หลวงปู่ขาว" อริยะเจ้าแห่งวัดถ้ำกลองเพล ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านให้การเคารพยิ่ง
    .
    .
    รวมไปถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นใหญ่ ๆ รูปอื่น ๆ ในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ท่านจะเดินทางไปกราบสักการะ
    .
    .
    ท่านเป็นศิษย์ของ #หลวงปู่บุญ ปัญญาวุฑโฒ วัดศรีโนนสังข์ อดีตเจ้าคณะอำเภอโนนสังข์ จ.อุดรธานี
    .
    .
    โดยหลวงปู่บุญรูปนี้คือ #พระกรรมวาจาจารย์ ของ #หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ากลองเพล พ่อแม่ครูอาจารย์แห่งวงศ์พระกรรมฐานที่สาธุชนทั่วประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบัน ต่างให้ความเคารพเลื่อมใส ไม่เว้นแม้แต่พระมหากษัตริย์ตลอดจนถึงพระบรมวงศานุวงศ์
    .
    .
    ซึ่ง หลวงปู่บุญ ผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงปู่ขาวนั้น ก็ถือได้ว่าเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์รูปหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งแห่งวงศ์พระกรรมฐานในอดีตเช่นกัน
    .
    .
    โดย หลวงปู่ทองสุข นั้น ได้อยู่ปฏิบัติกับพระอาจารย์ของท่านคือหลวงปู่บุญกว่า 10 ปี นอกจากนั้นแล้วองค์ท่านก็ได้ไปอยู่ปฏิบัติกับพ่อแม่ครูอาจารย์รูปสำคัญ ๆ ต่าง ๆ อีกมากมายอาทิ
    .
    .
    - หลวงหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม
    - หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่
    - หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพลง
    .
    หลวงปู่ทองสุขท่านมีสหธรรมมิกมากมาย ที่เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นต้นว่า
    .
    - หลวงปู่ประไพร สุภโร วัดป่าไพรรัตนวณาราม
    - หลวงพ่อวิไลย์ เขมิโย วัดถ้ำพญาช้างเผือก
    - หลวงปู่น้อย ปัญญาวุโธ วัดป่านานาชาติ
    - หลวงปู่สมหมาย จิตตปาโล วัดป่าอนาลโย
    - หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ วัดศรีฐานใน
    .
    ซึ่งองค์ หลวงปู่สรวง นั้น ได้เคยกล่าวถึงหลวงปู่ทองสุขไว้ว่า
    .
    " หลวงปู่ ผู้เป็นจ้าวแห่งป่า " "
    .
    .
    หรือแม้แต่ องค์หลวงปู่หลอด ปโมทิโต แห่ง วัดใหม่ฯ ท่านก็มีความคุ้นเคยและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ
    .
    .
    .
    _______________________
    .
    .
    .
    #เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวัดใหม่เสนา
    .
    .
    องค์หลวงปู่ทองสุข นั้น ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า องค์ท่านนั้นมีความสนิทกับ องค์หลวงปู่หลอด
    .
    .
    ท่านว่าท่านมาที่วัดใหม่ฯ ตั้งแต่ยังไม่มีอะไร มีเพียงกุฏิไม่กี่หลัง ซึ่งจะเรียกว่ากุฏิก็คงจะไม่ถูก เรียกว่าเป็นกระท่อมไม้คงจะเหมาะกว่า
    ตอนนั้นมีพระภิกษุอยู่ที่วัดไม่กี่รูป ภายในวัดนั้นก็เป็นป่า ด้านหลังเป็นคลอง ด้านหน้าเป็นป่า และแวกนี้เป็นป่าทั้งนั้น ไม่ว่าจะหน้าวัดหรือว่าหลังวัด ไม่ได้มีตึกหรือมีความเจริญอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ...
    .
    .
    โดยท่านมาที่วัดใหม่ฯ ช่วยองค์หลวงปู่หลอดสร้างให้เจริญขึ้น
    .
    .
    ซึ่งเดิมทีนั้นบริเวณวัดใหม่ฯ แห่งนี้นั้น มีผู้บริจาคที่ดินให้กับ องค์หลวงปู่วิริยังค์ (ปัจจุบันท่านอยู่วัดธรรมมงคล พระโขนง กทม.) หลวงปู่วิริยังค์มีดำริให้สร้างและพัฒนาวัด
    .
    .
    โดยหลวงปู่วิริยังค์ท่านได้นิมนต์หลวงปู่หลอดมาให้เป็นผู้ดูแล เพราะท่านครองวัดอื่นอยู่แล้ว เฉกเช่นที่ องค์หลวงปู่สนธิ์ วัดพุทธบูชา ก็ได้นิมนต์ หลวงตาสมหมาย ให้มาดูแลวัดป่าอนาลโย ประมาณนั้น
    .
    .
    .
    เมื่อองค์หลวงปู่หลอด ท่านได้เข้ามาอยู่ที่วัดใหม่นั้น องค์หลวงปู่ทองสุข ท่านก็ได้เข้ามาช่วยพัฒนาวัด เทียวไปเทียวมาอยู่เช่นนี้ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน
    .
    .
    เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้นว่า องค์ท่านนั้นมีความสนิทกับ องค์หลวงปู่หลอด ถือเป็นสหธรรมมิกรุ่นน้องและเป็นคนบ้านเดียวกันคือ อ.หนองบัวลำภู ซึ่งแต่ก่อนนั้นคืออำเภอหนึ่งของจ.อุดรธานี ก่อนจะแยกตัวออกมาเป็นจังหวัดหนองบัวลำภูในภายหลัง
    .
    .
    ท่านร่วมสร้างร่วมพัฒนากับองค์หลวงปู่หลอด พระภิกษุ รวมถึงญาติโยมที่มีจิตศรัทธา โดยมีหลวงปู่วิริยังค์เป็นผู้ดูแลกำกับอีกที จากที่ไม่มีอะไร
    .
    .
    .
    และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก "องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ " และ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ " เสด็จมาทำพิธีฉลองพระอุโบสถให้ที่ วัดใหม่เสนา แห่งนี้
    .
    .
    จนท้ายสุดวัดใหม่ฯ เจริญขึ้นเป็นลำดับอย่างที่เห็นทุกวันนี้ และหลังจากที่องค์หลวงปู่หลอดท่านละขันธ์แล้ว หลวงปู่ทองสุขท่านก็ยังเดินทางมาพักที่วัดใหม่เสนาเมื่อคราวมีกิจในกทม.หรือจังหวัดใกล้เคียง เฉกเช่นแต่ตอนที่หลวงปู่หลอดยังอยู่สมัยก่อน
    .
    .
    โดยคนทั่วไปหรือคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้ชุดข้อมูลความจริงที่ว่านี้ ที่ องค์หลวงปู่ทองสุข ท่านเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยว่าประวัติท่านไม่ค่อยมีผู้บันทึกไว้
    .
    .
    นี่คือคำบอกเล่าที่เกี่ยวกับองค์ท่านและประวัติของวัดใหม่ฯ
    .
    .
    .
    ซึ่งเมื่อได้รู้ประวัติและความเป็นมาเกี่ยวกับองค์ท่านนั้น ผมก็รู้ได้ทันทีว่าได้พบกับ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ควรค่าแก่การบูชาอีกรูปหนึ่งแล้ว
    .
    .
    _____________________
    .
    .
    #ปราบผีด้วยลูกอมโกปี้โก้
    .
    .
    องค์ท่านได้เมตตาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ผมฟังอีกมากมาย
    .
    .
    โดยมีเรื่องหนึ่งที่ประทับใจผมมากนั่นคือ
    " #เสกลูกอมโกปีโก้ให้คนที่ผีเข้ากิน"
    .
    .
    ท่านเล่าว่าสมัยก่อนตอนที่ท่านมีกิจนิมนต์และได้มาพักที่วัดใหม่ฯ นั้น มีชาวต่างชาติที่เป็นคนเอเชียคู่หนึ่งได้เดินทางมาที่วัดใหม่ฯ และหนึ่งในนั้นถูกผีเข้าจึงได้มาที่วัด
    .
    .
    พระที่อยู่ประจำศาลาวัดจึงได้รดน้ำมนให้แล้วก็ยังไม่ออก เข้าเขตวัดมาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เกิดความวุ่นวายพอสมควร แม้กระทั่งก็เดินทางมาที่วัดในตอนนั้น จนท้ายสุดผู้คนในวัดจึงพาชาวต่างชาติคู่นั้นมาที่ตึกของพระเถระ ที่ซึ่งเป็นตึกสำหรับไว้รับรองพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เดินทางมาพักนั่นเอง
    .
    .
    และช่วงนั้นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ #องค์หลวงปู่ทองสุข ท่านเข้ามาพักที่วัด ท่านจึงได้สงเคราะห์ชาวต่างชาติผู้นั้นไป
    .
    .
    ท่านเล่าว่าชาวต่างชาติผู้นั้นทำตาขวางใส่และดูเหมือนคนไม่ปกติ
    ท่านถามอย่างมีเมตตาว่ามาจากไหน มาทำไม ผู้คนบริเวณนั้นก็บอกว่าเป็นชาวต่างชาติเหมือถูกผีเข้า รดน้ำมนต์ก็แล้ว ทำอะไรก็แล้ว ไม่ยอมออก ท่านพิจารณามองสักครู่แล้วก็กล่าวว่า
    .
    .
    เขาตามมาตั้งแต่ประเทศตัวเองนั่นแหละพอจิตอ่อนเขาก็เข้าสิงร่างทันที
    .
    .
    ซึ่งท่านก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ท้ายสุดจึงนำเอา #ลูกอมโกปีโก้ ที่มีญาติโยมถวายทำบุญกับท่านมาบริกรรมเพียงชั่วอึดใจ แล้วก็ส่งให้กินเข้าไป เมื่อกินเข้าไป อยู่ ๆ ชาวต่างชาติผู้นั้นก็อ้วกออกมาแล้วล้มลงทันที
    .
    .
    พอรู้สึกตัวก็บอกว่าจำอะไรไม่ได้ หนักหัวไปหมด เหมือนมีอะไรมาทับตัวเองอยู่ จนมารู้สึกตัวอีกทีตอนนี้ จึงรู้สึกดีขึ้น ... สุดท้ายชาวต่างชาติคู่นี้ก็เดินทางออกจากวัดไป
    .
    .
    ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นไม่รู้จะทำอะไร
    .
    "ตอนเสกลูกอมปู่มีแค่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แค่นั้น ก็ตั้งจิตจิตระลึกถึง ท้ายสุดผีออกไปจนได้ ... "
    .
    .
    เรื่องนี้มีศิษย์ของท่านรู้เพียงไม่กี่คน เพราะโดยปกติพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายพระป่ากรรมฐานนั้น ท่านจะไม่เน้นการแสดงอิทธิฤทธิ์อะไรเช่นนี้ หากมีความจำเป็นก็จะสงเคราะห์เป็นราย ๆ ไป
    .
    .
    นี่คือหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องที่องค์ท่านหยิบยกมาเล่าให้ผมฟัง และนำมาบันทึกไว้
    .
    .
    .
    ____________________
    .
    .
    #จะไม่วางรองเท้าไว้ที่สูง
    .
    .
    .
    เรื่องราวของความประทับใจนั้นยังมีอีกมากมายสำหรับผมที่มีต่อ องค์หลวงปู่ทองสุข
    .
    .
    ซึ่งเรื่องราวต่อไปนี้ก็คือหนึ่งในแบบอย่างที่ดีของความสำรวมและความอ่อนน้อมถ่อมตน นั่นคือ แม้ว่าองค์ท่านจะเป็นพระเถระที่มีพรรษากาลมากถึง 50 กว่าพรรษา แต่องค์ท่านก็มีศิลจารวัตรที่งดงาม สมถะ เรียบง่าย นั่นคือ ท่านจะไม่วางรองเท้าของท่านเองไว้ที่สูง
    .
    .
    กล่าวคือ ช่วงที่ท่านมาพักที่วัดใหม่ฯนั้น ผมจะเข้าไปกราบท่านทุกวันอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว และเมื่อไปที่วัดก็ได้สอบถามพี่ที่เป็นโยมอุปัฏฐากดูแลท่าน ว่ารองเท้าของท่านนั้นคู่ไหน จะขอดูเบอร์รองเท้า ด้วยว่ามีความตั้งใจที่อยากจะซื้อรองเท้าถวายให้กับองค์ท่าน
    .
    .
    ปรากฎว่าพี่ที่เป็นโยมอุปัฏฐากก็ได้บอกว่า " คู่ที่อยู่ชั้นล่างนั่นแหละ" พี่เขาเล่าให้ฟังว่า ท่านจะไม่นำรองเท้าของท่านไว้ที่สูง
    จะไว้ชั้นล่าง ๆ เสมอ เพราะว่าบางครั้งบางทีจะมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านอื่น ๆ มาพักด้วยที่วัด
    .
    .
    ซึ่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์บางรูป ก็มีอายุหรือว่าพรรษากาลที่มากกว่าท่าน จะดูเป็นการไม่ควร ท่านจึงเลือกที่จะนำรองเท้าของท่านไว้ด้านล่างแทน ขณะเดียวกันก็มีพระหรือว่าญาติโยมที่ไม่รู้ก็จะนำรองเท้ามาวางอยู่เหนือชั้นที่วางของท่านด้วยเช่นกัน ซึ่งท่านก็ไม่ได้บอกใครและไม่ได้ว่าอะไรใคร
    .
    .
    ผมเองเคยถามท่านหลังจากนั้น
    .
    .
    ว่าทำไมถึงเอารองเท้าไว้ชั้นล่าง ๆ ไม่ยอมไว้ชั้นวางที่สูง ๆ ท่านก็กล่าวว่า
    .
    " ไว้แบบนั้นดีแล้วเพราะเราก็ไม่สูงส่งอะไร"
    .
    แล้วถ้ามีคนที่มาไว้สูงกว่าปู่ล่ะครับ ผมถาม
    ท่านก็ตอบกลับมาอย่างมีเมตตาว่า
    .
    "ใครจะไว้ยังไงก็เรื่องของเขา ไม่เป็นอะไรหรอก ปู่ไม่ได้ว่าอะไร แต่ละคนก็แตกต่างกันไป แต่ปู่ไว้ของปู่แบบนี้แหละ"
    .
    .
    นี่คือเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนทั่วไปไม่รู้ และองค์ท่านเองก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง หากผมไม่ได้รู้จากโยมอุปัฏฐากและเรียนถามท่านเอง
    .
    .
    นับเป็นความงดงามในวัตรปฏิบัติขององค์ท่านที่น่ายกย่องยิ่งนัก
    .
    .
    .
    _____________________
    .
    .
    #สำเร็จขั้นไหน
    .
    .
    ตอนที่ได้อยู่กับองค์ท่านเพียงลำพังและได้บีบนวดถวายท่านให้กับองค์ท่านนั้น ผมเองได้มีการสอบถามองค์ท่านเกี่ยวกับการปฏิบัติต่าง ๆ
    .
    .
    รวมถึงได้สอบถามกับองค์ท่านตรง ๆ ตามประสาของปุถุชนผู้ฉลาดน้อยว่า "ปู่จะกลับมาเกิดอีกมั้ยครับ(พ่อแม่ครูอาจารย์ที่เสร็จกิจแล้วจะไม่กลับมาเกิดอีก) แล้วลูกจะได้เจอปู่อีกมั้ย"
    .
    .
    ท่านก็เมตตาบอกว่า
    .
    .
    "ปู่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกลับมาเกิดอีกมั้ย จะถึงนิพพานหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับตัวปู่เอง ปู่ไม่มีหน้าที่ๆ จะบอกใครว่าตัวเองถึงขั้นไหนแล้ว เป็นอย่างไร เพราะมันจะเป็นการอวดอุตริไปผิดวินัยและไม่งาม ปู่มีหน้าที่เพียงปฏิบัติตัวเองให้ดี ทำตัวเองให้ดี หน้าที่ของปู่คือปฏิบัติ ถึงหรือไม่ถึงปู่ไม่รู้ หน้าที่ปู่มีแค่นี้แหละลูก ... "
    .
    .
    ผมพนมมือสาธุทันทีที่องค์ท่านกล่าวจบ เพราะนี่คือความสำรวมที่งดงามยิ่งนักสำหรับพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
    .
    .
    นอกจากนั้นท่านก็ยังเมตตาบอกอีกว่า
    .
    .
    "การที่คนเราจะมาเจอกันหรือว่าอะไรเกี่ยวข้องกันนั้น จะต้องมีอะไรที่เคยกระทำร่วมกันหรือเกี่ยวข้องกันมาก่อนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ตาม หากมีความสุขก็เป็นเรื่องดีที่เคยกระทำร่วมกันมา หากเป็นความทุกข์ก็จะตรงข้ามกัน
    .
    .
    ผ ล ของปัจจุบันนั้นก็ย่อมมาจาก เ ห ตุ ของวันวานที่เรากระทำ ... โลกนี้มันไม่มีคำว่าบังเอิญหรอกลูก"
    .
    .
    ท่านกล่าวจบ ผมก็สาธุอีกรอบ เป็นความจริงที่ลึกซึ้งและค่อนข้างแยบคาย เป็นอุบายธรรมที่ท่านสอดแทรกไว้ให้ขบคิด
    .
    .
    ท่านบอกว่าท่านไม่มี 'ประถม' ไม่มี 'มัธยม' และไม่มี 'มหา'ลัย' เพราะท่านไม่ได้เรียนอะไรมาสูง ท่านมีเพียงคำสอนง่าย ๆ เหล่านี้ที่เท่านั้นที่จะให้ได้
    .
    .
    .
    _____________________
    .
    .
    #ปู่เป็นพระบ้านนอกและเดินทางด้วยรถยนต์
    .
    .
    สิ่งที่ผมได้เห็นอย่างชัดเจนจาก องค์หลวงปู่ทองสุข นั่นคือ ความสันโดษ ความมักน้อย สมถะ และความอ่อนน้อม ท่านเป็นพระที่ไม่หวือหวาแต่เต็มไปด้วยความเมมตา สมถะ
    .
    .
    แม้ท่านจะอายุมากแล้ว แต่บ่อยครั้งที่ท่านจะเดินทางจากวัดของท่าน จ.หนองบัวลำภู มายัง กทม.หรือในเมืองใหญ่ด้วยรถยนต์เสมอ ๆ โดยจะมีโยมอุปัฏฐากเป็นผู้ขับให้ นับครั้งได้ที่องค์ท่านจะเดินทางด้วยการนั่งเครื่องบิน
    .
    .
    ซึ่งการเดินทางแต่ละครั้งก็ใช้ระยะเวลาที่ไม่น้อยเลยทีเดียวประมาณ 7-8 ชั่วโมง ต่างกับการเดินทางโดยเครื่องบินที่จะใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
    .
    .
    ท่านว่า ...
    .
    "สนุกดีนั่งรถ นั่งไปเรื่อย ๆ ไม่เมื่อยหรอก ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น มีญาติโยมที่ไหนนิมนต์ไป ปู่ก็ไปไม่ว่าจะภาคไหน วัดไหนให้ไปช่วยงานปู่ก็ไป ไม่บ่ายเบี่ยง และก็ยังจะไปจนกว่าร่างกายมันไม่ไหวนั่นแหละ "
    .
    .
    "บางทีงานใหญ่ ๆ ก็ได้ไปบ้างไม่ได้ไปบ้าง ก็ตามแต่จะเชิญ บ้างได้เงินมาทำบุญเพื่อพัฒนาวัด ได้มากน้อยแตกต่างกันไป
    .
    .
    ปู่เป็นพระบ้านนอก ไม่ค่อยรู้จักใคร และก็ไม่มีใครค่อยรู้จักหรอก ปู่มีหน้าที่แค่ปฏิบัติตนให้ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ก็เพียงพอแล้วน่ะลูก เดี๋ยวคนเขาก็มาทำบุญกับปู่เอง "
    .
    .
    .
    ________________________
    .
    .
    เรื่องราวของ องค์หลวงปู่ทองสุข นั้นหากจะเล่ามีคงจะมีอีกมากมายที่ยังไงก็เล่าไม่หมด
    .
    .
    ทั้งวัตรปฏิบัติและปฏิปทาแห่งองค์ท่านน่าเลื่อมใสมาก
    .
    ผมบอกกับตัวเองว่าโชคดีมากแล้วที่เกิดมาแล้วได้รู้จักและทำบุญกับองค์ท่าน อยู่ปฏิบัติรับใช้ จนองค์ท่านเมตตาเรียกว่า ลูกชาย
    .
    .
    .
    และแม้องค์ท่านไม่ได้บอกกับผมว่าท่านนั้นระดับใด
    แต่ ณ ตอนนี้ผมไม่สงสัยในคุณธรรมบารมีธรรมแห่งองค์ท่านแล้ว
    .
    .
    ด้วยเพราะศิลจารวัตรที่งดงาม ถึงพร้อมด้วยความเมตตา สุขุม สงบเยือกเย็น สันโดษ มักน้อย อยู่แบบสมถะ เรียบง่ายไม่หรูหรา เต็มไปด้วยความสำรวม
    .
    เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ กอปรด้วยศีลและธรรม ก็ควรค่าแก่การกราบไหว้บูชาได้สนิทใจอย่างไม่มีข้อสงสัยแล้ว
    .
    .
    .
    ________________
    .
    .
    .
    นี่แหละ "เนื้อนาบุญ" ผู้เป็นทายาทแห่งองค์ตถาคต ที่ควรค่าแก่การกราบไหว้บูชา
    .
    .
    ผู้มีนามว่า " หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ "
    เจ้าอาวาสวัดป่าวุฑฒาราม ต.หนองกุงแก้ว อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู.
    .
    .
    _______________
    .
    .
    น้อมกราบ #องค์หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้เป็นพ่อทางธรรมด้วยเศียรเกล้า
    .
    .

    เนื้อโลหะทองเหลือง สร้างน้อยยิงโค๊ดเลเซอร์กำกับทุกองค์
    IMG_0190.JPG IMG_0189.JPG IMG_0188.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  15. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 10
    พระผงนาคปรก ที่ระลึกอายุ76ปี หลวงปู่บุญจันทร์ สีลคุโณ วัดป่ามณีศรีโคตมวงศ์
    บูชา100บาท

    IMG_0206.JPG


    ประวัติ พระครูโสภณสมณกิจ(บุญจันทร์ (ดำ) สีลคุโณ)

    พระครูโสภณสมณกิจ(บุญจันทร์ (ดำ) สีลคุโณ)

    พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีประฏิบัติชอบอีกองค์แห่งอีสาน

    หลวงปู่มีนามเดิมว่า "บุญจันทร์ เสน่ห์ดี" หรือในนามที่ลูกหลานหรือว่าลูกศิษย์ลูกหาเรียกจนติดปากว่า"หลวงปู่ดำ" หลวงปู่เป็นชาวกู่เเก้วโดยกำเนิด หลวงปู่เกิดวันที่๑๙มีนาคม๒๔๘๔ ที่บ้านจีต ตำบลบ้านจีต อำเภอหนองหาน(ปัจจุบันแยกออกเป็นอำเภอกู่แก้ว) จังหวัดอุดรธานี บิดาชื่อคุณพ่อหวด เสน่ห์ดี มารดาชื่อคุณแม่ตั้น เสน่ห์ดี ในขณะที่หลวงปู่มีอายุครบบวชจึงได้ขออนุญาตจากบิดามารดาว่าอยากบวช เมื่อบิดามารดาได้อนุญาตแล้ว หลวงปู่ได้เข้าวัดเพื่อเรียนครองนาค(หัดขานนาค)ที่วัดป่าศรีคุณรัตนาราม(วัดป่าส่างกกสั้น)หรือว่าวัดป่าศรีคุณารามในปัจจุบัน หลวงปู่ได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๐๕ ณ อุทกุกเขปสีมา(สีมาน้ำ) โดยการต่อเเพ บวชในหนองเหนี่ยว โดยมีหลวงปู่พระครูประภัสสรศีลคุณ(ทัน ปภสฺสโร) วัดอัมพวัน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาวันดี วัดป่าศรีคุณาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ต่อมาได้ลาสิกขาบท พระบุญเกิด ยุตฺตธมฺโม วัดป่าศรีคุณาราม ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าศรีคุณารามและได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูวิสุทธิธรรมสุนทร" หลวงปู่เคยเล่าว่าในช่วงที่มีเวลาหลวงปู่จะไปรับฟังโอวาทธรรมจากหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล วัดป่าสันติกาวาส หลวงปู่พระครูประภัสสรศีลคุณ (พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่) และศึกษาข้อวัตรปฏิบัตรอย่างจริงจังกับหลวงปู่บุญเกิด ยุตฺตธมฺโม วัดป่าศรีคุณาราม การจำพรรษา หลวงปู่เคยจำพรรษาที่ วัดป่าศรีคุณาราม อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี วัดอรัญญิกาวาส อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี วัดป่าบ้านหาดทรายมูล อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร และที่วัดป่ามณีศรีโคตมวงษ์ อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี หน้าที่การปกครองทางคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ ปี พ.ศ.๒๕๒๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่ามณีศรีโคตมวงษ์ ปี พ.ศ.๒๕๒๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรมที่"พระครูปลัด" ในพระเทพเมธาจารย์ (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโทในราชทินนามที่"พระครูโสภณสมณกิจ ๕ ธัวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานเลื่อสมณศักดิ์พระครูเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโทเป็นชั้นเอก ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านจีต ธรรมยุต ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับพระราชเลื่อนสมณศักดิ์พระครูเจ้าคณะตำบลชั้นโทเป็นชั้นเอก ปัจจุบันหลวงปู่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบ้านจีต (ธรรมยุต)และเจ้าอาวาสวัดป่ามณีศรีโคตมวงศ์ บ้านหัวหนอง ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี



    กดมือแบบโบราณ โรยเกศา พลอยเสก มวลสารเน้นๆครับ

    IMG_0192.JPG IMG_0193.JPG IMG_0191.JPG
     
  16. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 11
    พระปิดตาพิมพ์ตุ๊กตา ที่ระลึกอายุ80ปี หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย เนื้อสีดำ สอดตะกรุด ติดเกศา จีวร หมายเลข597

    บูชา350บาท
    ปิดรายการ
    IMG_0208.JPG
    IMG_0202.JPG IMG_0200.JPG IMG_0201.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2019
  17. songsakth

    songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,964
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,661
    ขอจอง รายการที่ 9
    บ่วงนาคบาศ เนื้อทองเหลืองรมดำ รุ่นจันทร์เพ็ญ หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ อธิษฐานจิตปลุกเสก16วาระ บูชา200บาท
     
  18. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการติดจองทางข้อความแล้วครับ ขออภัยด้วยครับ
     
  19. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,952
    ค่าพลัง:
    +5,631
    โอนเงินแล้ว วันที่ 28/6/62 เวลา 16.28 น.
    ที่อยู่ ตาม PM
     
  20. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +1,084
    รายการที่ 12
    รูปหล่อบารมีทวีคูณ หลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิต เนื้อทองผสม หมายเลข371
    บูชา150บาท
    ปิดรายการ

    IMG_0204.JPG

    หลวงปู่สมเกียรติ ชิตมาโร
    วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิต (ถ้ำตาลเลียน)
    บ้านทุ่งตาลเลียน ตำบลตาลเลียน
    อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี

    ท่านถือกำเนิดเมื่อวันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๙๘ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม ท่านเกิดในสกุล “จันทร์วงศ์” เป็นบุตรชายคนที่ ๔ ในจำนวนพี่น้อง ๕ คน ณ บ้านสร้างเสี่ยน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สมัยเมื่อเกิดเป็นทารกแรกคลอดมีสายรกพันคอและเฉวี่ยงบ่าคล้ายสายสะพายบาตรออกมาด้วย บิดาท่านจึงอุทานออกมาว่า ลูกคนนี้ต้องได้บวชเป็นพระแน่นอน เมื่อเติบใหญ่ท่านพระอาจารย์สมเกียรติได้เคยบอกเพื่อน ๆ ว่า ถ้าอายุครบ ๒๑ ถึงอายุเกณฑ์ทหารแล้ว ถ้าจับไม่โดนใบแดง ติดทหาร ท่านจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ นี่เป็นสัจจะวาจาที่ท่านตั้งไว้เป็นคำสัตย์

    หลังจากไม่ติดทหาร ท่านจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ณ พัทสีมาวัดจันท์ประสิทธิ์ บ้านสร้างเสี่ยน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีหลวงปู่บุญมา สุชีโว วัดป่าสุขเกษม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองสูน สุธัมโม เป็นพระผู้สอนนาค และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์จันทรลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ชิตมาโร” แปลว่า “ผู้พิชิตมาร”

    ภายหลังอุปสมบทหลวงปู่หวัน จุลปัณฑิโต แห่งวัดถ้ำกลองเพล ได้ขอให้พระอาจารย์สมเกียรติ ชิตมาโร ขึ้นไปจำพรรษาที่วัดป่าภูเก้า บ้านดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูเก้า อยู่ถึง ๓ พรรษา จากนั้นในพรรษาที่ ๔ ท่านได้ไปอยู่ที่วัดป่าประสิทธิสามัคคี (วัดของท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม) บ้านต้าย อำเภอสว่างแดนดิน จังหหวัดสกลนคร พรรษาที่ ๕ อยู่ที่วัดญาณสังวร อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พรรษาที่ ๖ วัดป่าหมากแข้ง(วัดหลวงพ่อผจญ อสโม) อ.วังสะพุง จ.เลย พรรษาที่ ๗ วัดป่าทรายทอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พรรษาที่ ๘ กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทร์ประสิทธิที่ท่านอุปสมบท พรรษาที่ ๙ วัดป่าสานตม ธรรมสถานของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย พรรษาที่ ๑๐-๑๑ วัดถ้ำพระเทพนิมิตบ้านทุ่งตาลเลียน อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี พรรษาที่ ๑๒- ๑๓ ท่านปฏิปัติธรรมอยู่ที่ภูลังกากับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ณ วัดถ้ำยานาโพธิ์ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พรรษาที่ ๑๔ ได้ติดตามหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี จากนั้นจึงได้กลับมาอยู่ที่วัดถ้ำพระตาลเลียนแห่งนี้ ตั้งแต่พรรษาที่ ๑๕ จนถึงปัจจุบันนี้ พรรษาที่ ๓๘ รวม ๒๔ ปีแล้ว และหลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร ท่านยังดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี แทนหลวงปู่คูณ สุเมโธ ที่ละสังขารไปเมื่อช่วงต้นปีด้วยครับ

    IMG_0197.JPG IMG_0198.JPG IMG_0196.JPG IMG_0203.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...