เรื่องเด่น พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 สิงหาคม 2016.

  1. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    Screen Shot 2019-08-30 at 1.46.03 PM.png

    ฉลาดบ้างอะไรบ้าง นะ อยากดื่มเยี่ยมตัวเองก็ดื่มไปไม่ต้องมาบ้าล้างสมองชาวบ้านฮับ
    ที่สำคัญ อ้างพระพุทธองค์มั่วซั่ว มิจฉาทิฎฐิจิตวิปลาศ



     
  2. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    ตำนาน เปรตกินเยี่ยววววววว

     
  3. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    ตายเมื่อไรจะเอาเยี่ยวสดไปล้างหน้าให้นะ...

    พวกสาวกเยี่ยวเหลือง...


    Screen Shot 2019-08-30 at 1.55.08 PM.png

     
  4. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
  5. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    ในความเป็นแพทย์นะครับ หึหึ
    ถ้าเช่นนั้น โรงพยาบาลสงฆ์คงไม่ต้องสร้างล่ะมั้งครับ

    ศรัทธา มีปัญญาด้วยครับ
    อย่าอวดเก่ง อวดเบ่ง แล้วไร้ปัญญา

    "ถ้ามันสะอาด ไตจะขับมาทำไมล่ะครับ
    เราเอา ยูเรีย มาใช้ เหมือนไข่เยี่ยวม้า เรากินไข่ดอง แต่ไม่ใช่กินเยี่ยวม้านะครับ
    การกินของโสโครก เป็น วัตร ของ เดียรถียร์ครับ "

    Screen Shot 2019-08-30 at 1.59.20 PM.png
     
  6. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
  7. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    กินเองทำอะไรก็ทำ

    แต่อย่ายัดเยียดแล้วด่าคนอื่น สธ ไม่รับรองนะครับ

    นี้เล่นผสมแล้วแอบให้ชาบ้านกิน เลว นะครับ

    เหมือนเอาเลือดประจำเดือนผสมให้ผู้ชายกินในหนังแล้วเชื่อว่าจะนั้นนี้นู้น

    พอๆกับเอาน้ำอสุจิล้างหน้า กินเนื้อทารกหรือสมองลิง จนเกิดเอดส์

    เชื่ออย่างมีสติมีปัญญา เจริญในธรรมครับ

    Screen Shot 2019-08-30 at 2.07.17 PM.png Screen Shot 2019-08-30 at 2.12.00 PM.png

     
  8. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0




    " กินฉี่ตัวเอง...ดีจริงหรือ? "

    โดย ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นายแพทย์ เกรียง ตั้งสง่า*


    >>กินฉี่ตัวเอง Urophagia หรือ urine therapy มีตำนานความเชื่อมานับพันปี ว่าใช้รักษาโรคบางอย่างได้ รวมไปถึงมะเร็ง แต่เป็นความเชื่อปรัมปรา myth มากกว่าเป็นความจริง(fact)

    เมื่อไปค้น จาก google หรือ PubMed ไม่มีหลักฐานทางวิชาการอะไรที่เชื่อถือได้ มา สนับสนุน

    >>ในปัสสาวะ นอกจากน้ำแล้วมีอะไรบ้าง ?
    ปัสสาวะมีน้ำมากกว่า 95 % โดยน้ำหนัก ที่เหลือเป็นสารต่างๆที่ร่างกายขับออกมา การที่ต้องขับออก เพราะเป็นของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ. และถ้าคั่งค้างในร่างกาย จะเกิดผลเสีย.

    ส่วนประกอบในปัสสาวะมีสามประเภทใหญ่ๆ

    1.ประเภทแรก คือ metabolic waste ที่เกิดจากการเผาผลาญของการสันดาป (metabolism) ในร่างกาย ที่มากที่สุดคือ urea จากการเผาผลาญ สาร protein and amino acid นอกจากนี้ก้อมี acid phosphate , sulphate compounds จากการเผาผลาญโปรตีน ซึ่งมี free H+ ออกมา ทำให้ปัสสาวะเป็นกรด มี Uric acid จากการสลายสารอาหารกลุ่ม purine มี ketone compounds จากการสลายสารพวกไขมัน มี organic acid อีกมากมาย เนื่องจากสารเหล่านี้ มักมีคุณสมบัติเป็นกรด จึงมี free H+ อยู่ และเนื่องจากคนเป็นสัตว์บก terrestrial animals มี antidiuretic hormone คอยดูดน้ำจากไตกลับเข้าสู่ systemic circulation ปัสสาวะจึงมีความเข้มข้นสูงกว่าน้ำพอควร.

    ถามว่าปัสสาวะมีน้ำถึงกว่า 95% แล้วยังจะถือว่าปัสสาวะมีความเข้มข้นอีกหรือ ? คำตอบก็คือใช่. ถือว่าปัสสาวะเเข้มข้นเพราะสรีระวิทยาของสัตว์บก คือจำเป็นจะต้องเก็บน้ำและเกลือโซเดียมไว้ ในตัวเพื่อให้รักษาปริมาตรของ circulating blood and plasma volume ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    ปริมาณของพลาสม่าที่กรองผ่าน glerulus ที่เรียกว่า glomerular filtration rate มีจำนวนถึง 140 ลิตรต่อวัน
    แต่เรามีน้ำปัสสาวะเพียงหนึ่งถึง 2 ลิตรต่อวัน. แปลว่าอีก 138 ลิตร ของน้ำจะถูก ดูดซึมกลับ reabsorbed at Renal tubules กลับเข้าสู่ systemic circulation แต่ของเสียจากน้ำพลาสมา 140 ลิตร จะมารวมอยู่ในน้ำปัสสาวะ 1-2 ลิตร ดังกล่าวนี้

    เหตุนี้ ปัสสาวะจึงมี corrosive action มากพอควร

    ความเป็นกรดของปัสาวะ. (มีค่า pH ประมาณ 5 -6.5) หากทานเข้าไปในช่วงท้องว่าง. อาจทำให้เกิดผลเสียต่อเยื่อบุผนังลำคอ หลอดอาหาร กระเพาะอาหารได้อีกด้วย

    ลองสังเกตดูผู้ป่วยที่ใส่ผ้าอ้อมที่เปียกชุ่มน้ำปัสสาวะอยู่ตลอด. ไม่ช้าไม่นาน ก็จะเกิดแผลที่บริเวณก้น bed sore ไม่ใช่เพราะเป็นแผลกดทับ อย่างเดียว. แต่เป็นผลจากการกัดกร่อนด้วยปัสสาวะที่หมักหมมในผ้าอ้อมด้วย

    ลองพิจารณาดูด้วยตรรกะของหลักการวิวัฒนาการว่า. ธรรมชาติของสิ่งที่มีชีวิตจะพัฒนาไปเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์. ในเมื่อสารของเสียในปัสสาวะเหล่านี้เป็นสารที่ธรรมชาติได้วิวัฒนาการมานาน ร่างกายจัดทำระบบเซลล์และเนื้อเยื่อไว้ ให้มาทำหน้าที่กำจัดมันออก(จากร่างกาย) ทางปัสสาวะ แสดงว่าร่างกายไม่ต้องการ. ถ้ามีสะสมมากจะไม่ดี.

    ถ้าของเสียในปัสสาวะมันเป็นของดีจริง ธรรมชาติจะไม่ปล่อยทิ้งไปหรอก. ด้วยวิวัฒนาการจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆมาจนเป็นลิงและคน เป็นเวลานับล้านปี. หากว่าของเสียในปัสสาวะมีประโยชน์_ธรรมชาติจะพัฒนาสร้าง ระบบมา reclaim นำกลับเข้ามาใช้ใหม่. แต่นี่ร่างกายขจัดออก แสดงว่าไม่มีประโยชน์

    แล้วเราจะเอาปัสสาวะ(ที่มีของเสียผสมอยู่)มาทานเข้าไปใหม่เพื่ออะไร ?

    ในคนไข้โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย. ไตขับของเสียเหล่านี้ไม่ได้. เพราะปัสสาวะน้อยลงมาก ทำให้มีของเสียคั่งในร่างกาย เช่น urea, phosphate organic acid อื่นๆ จนทำให้ร่างกายมีอาการแสดงต่างๆ. .

    ภาวะไตวายรุนแรง จนไม่สามารถขับน้ำปัสสาวะออกมา. มีชื่อเรียกว่าภาวะ Uremia เป็นภาษาลาติน แปลตรงตัวว่า การมี urine อยู่ในกระแสเลือด คนไข้กลุ่มนี้ จะเสียชีวิตในที่สุด. เพราะมีการสะสมของของเสีย(ซึ่งควรถูกขับออกทางปัสสาสวะ) มาคั่งอยู่ในกระแสเลือด

    แล้วเราจะทานน้ำปัสสาวะเข้าไป เพื่ออะไร?

    2,องค์ประกอบส่วนที่สองที่อาจมี คือยาหรืออนุพันธ์ของยา ที่ทานเข้าไป. ยาชนิดละลายได้่ในน้ำ water-soluble drugs จะถูกขับออกจากร่างกายทางไต

    ยาชนิดละลายได้ในสารไขมัน fat-soluble drugs จะถูกขับทางตับ

    การทานปัสสาวะ จึงมีโอกาสได้รับ metabolites ของยา กลับเข้าสู่ร่างกายอีก ก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีการสะสมของยาอยู่ในร่างกายมากเกิน

    ตัวอย่าง เช่น การตรวจยาเสพติด หรือ ยาโด๊ป ก็ตรวจจากปัสสาวะ

    3.ปัสสาวะอาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสอื่นปนเปื้อนออกมาได้. การดื่มน้ำปัสสาวะจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคเหล่านี้กลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

    >>ในปัสสาวะมีสารที่ยังมีประโยชน์อยู่บ้างหรือไม่ ?

    ...ก็น่าจะมีบ้าง. แต่มีจำนวนน้อย เช่น มีสาร prostaglndin บางจำพวกอยู่ สาร prostaglandin เป็นสารในสกุล fatty acid กลุ่ม arachidonic acid ซึ่งมีลักษณะโครงสร้างจำเพาะ. พบ PG ครั้งแรกจากสารคัดหลังของต่อมลูกหมาก(prostate gland). จึงเรียกชื่อสารกลุ่มนี้ว่า prostaglandin.


    นอกจากนี้ ก็มี urokinase ที่มีคุณสมบัติละลายลิ่มเลือดได้ ( fibrinolysis) ฮอร์โมนหลายตัวก็ถูกขับออกทางปัสสาวะ เช่น estradiol , progesterone, erythropoietin แต่อย่างที่อธิบายว่า มีน้อยมาก. ก็ไม่คุ้มที่จะกินปัสสาวะตัวเอง. เพียงเพราะเสียดายฮอร์โมนเหล่านี้_เข้าทำนอง. “ได้ไม่คุ้มเสีย”

    สรุป การดื่มน้ำปัสสาวะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี. ที่สำคัญคือทำให้มีการสะสมของของเสีย(ซึ่งร่างกายต้องการขจัดทิ้งไปแล้ว)กลับเข้าไปหมุนเวียนเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งหนึ่ง

    ***********************

    *อายุรแพทย์โรคไต, อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, อดีตนายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย,
    อาจารย์ดีเด่นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, อาจารย์ดีเด่นแห่งชาติ
     
  9. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    อัญเชิญ หมอแล้บแพนด้า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญห้องปฏิบัติการทางเคมี มาละ
    ขออนุญาติทีเถอะ
    คนจะได้ตาสว่างครับ

    จะเชื่อใครมีสติหน่อย ไม่งั้นพวกผมจะเรียนเป็นหมอเป็นพยาบาลกันทำไมเนี่ย
    ผมนับถือพระพุทธองค์ และไม่เห็นด้วยที่เราจะไปบ้าจี้เชื่อแค่
    "เจ้าลัทธิหนึ่งที่ดูดี สมถะ แต่ว่าไม่ใช่นะครับ"

    ยิ่งมาเขียนลงในเวบพลังจิต เวบธรรมะด้วย ผมว่ามันทำโอเวอร์แบบไร้ปัญญาสุดๆ


     
  10. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    เจ้าลัทธิบ้าๆๆ

    ก็มาดิค้าบบบ

    Screen Shot 2019-08-30 at 2.29.08 PM.png Screen Shot 2019-08-30 at 2.28.22 PM.png
     
  11. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    ปูนาขาเก.
    ตัวเองเดินเซ.
    กลับสอนคนอื่นเดินตรง.
     
  12. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ปัญญาธรรม ไม่มี อวดรู้ธรรม


    ใครหลงกันแน่ !
    ปริยัติงูพิษ ที่มีธงเข้ามาเพราะความไม่ชอบใจ เพราะมีอคติ ๔
    แต่ถ้าจะให้ตั้งอคติ ๔ จริงๆขึ้นมา ก็สู้ทางนี้ไม่ได้อีก ให้สู้ตายก็สู้ไม่ได้ ก็จงเป็นคนกระจอกงอกง่อยตะแบงเห่าใบตองแห้งมุดกระโปรงหญิงอยู่ใต้หว่างขาชายหลบซ่อนหนีหน้าต่อไป




    https://palungjit.org/threads/o-อัตตกิลมถานุโยคคือการบำเพ็ญทุกกิริยาของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์-o-ไม่ใช่ความโง่หลงปฎิบัติผิดทาง.550375/

    สารีบุตร ! มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งกล่าวอย่างนี้
    เห็นอย่างนี้ว่า ชั่วเวลาที่บุรุษนี้ยังเป็นหนุ่ม มีผมดำสนิท
    ประกอบด้วยความหนุ่มแน่น ตั้งอยู่ในปฐมวัย, ก็ยังคง
    ประกอบด้วยปัญญาอันเฉียบแหลมว่องไวอยู่เพียงนั้น,
    เมื่อใดบุรุษนี้แก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาลนาน ผ่านวัยไปแล้ว
    มีอายุ ๘๐ ปี, ๙๐ ปีหรือ ๑๐๐ ปี จากการเกิด, เมื่อนั้น เขา
    ย่อมเป็นผู้เสื่อมสิ้นจากปัญญาอันเฉียบแหลมว่องไว.
    สารีบุตร ! ข้อนี้ เธออย่าพึงเห็นอย่างนั้น, เรานี้แล
    ในบัดนี้เป็นคนแก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาลผ่านวัยมาแล้ว
    วัยของเรานับได้ ๘๐ ปี, ...ฯลฯ...
    สารีบุตร ! ธรรมเทศนาที่แสดงไปนั้น ก็มิได้
    แปรปรวน บทพยัญชนะแห่งธรรมของตถาคต ก็มิได้
    แปรปรวน ปฏิภาณในการตอบปัญหาของตถาคต ก็มิได้
    แปรปรวน ฯลฯ,
    สารีบุตร ! แม้ว่าเธอทั้งหลาย จักนำเราไปด้วย
    เตียงน้อย (สำหรับหามคนทุพพลภาพ), ความแปรปรวนเป็น
    อย่างอื่น แห่งปัญญาอันเฉียบแหลม ว่องไว ของตถาคต
    ก็มิได้มี.


    สารีบุตร !
    ถ้าผู้ใดจะพึงกล่าวให้ถูกให้ชอบว่า

    สัตว์มีความไม่หลงเป็นธรรมดา
    บังเกิดขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูล
    เพื่อความสุขแก่มหาชน เพื่ออนุเคราะห์โลก,
    เพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล
    เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย”
    ดังนี้แล้ว ผู้นั้นพึงกล่าวซึ่งเราผู้เดียวเท่านั้น.



    oimtjioiqnbRzZea5hn-o.jpg
    ลำดับนั้น พระอานนท์ผู้มีอายุ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึง
    ที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วลูบคลำทั่วพระกายของพระผู้มีพระภาคอยู่ พลาง
    กล่าวถ้อยคำนี้ ว่า :)
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้อนี้น่าอัศจรรย์; ข้อนี้ไม่เคยมีมาก่อน.
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! บัดนี้ ฉวีวรรณของพระผู้มีพระภาค ไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง
    เหมือนแต่ก่อน และพระกายก็เหี่ยวย่นหย่อนยาน มีพระองค์ค้อมไป
    ข้างหน้า อินทรีย์ทั้งหลาย ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปหมด ทั้งพระจักษุ โสตะ
    ฆานะ ชิวหา กายะ”
    อานนท์ ! นั่น ต้องเป็นอย่างนั้น; คือ
    ความชรามี (ซ่อน) อยู่ในความหนุ่ม,
    ความเจ็บไข้มี (ซ่อน) อยู่ในความไม่มีโรค,
    ความตายมี (ซ่อน) อยู่ในชีวิต;
    ฉวีวรรณจึงไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องเสียแล้ว และกายก็
    เหี่ยวย่นหย่อนยาน มีตัวค้อมไปข้างหน้า อินทรีย์ทั้งหลาย
    ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปหมด ทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย ดังนี้.

    พระผู้มีพระภาค ครั้นตรัสคำนี้แล้ว ได้ตรัส
    ข้อความนี้ (เป็นคำกาพย์กลอน) อีกว่า :-
    โธ่เอ๋ย ! ความแก่อันชั่วช้าเอ๋ย !
    อันทำความน่าเกลียดเอ๋ย !
    กายที่น่าพอใจบัดนี้ก็ถูกความแก่ย่ำยีหมดแล้ว.
    แม้ใครจะมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
    ทุกคนก็ยังมีความตายเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
    ความตายไม่ยกเว้นให้แก่ใคร ๆ
    มันย่ำยีหมดทุกคน.

    อานนท์ ! บัดนี้ เรามีสติสัมปชัญญะ ปลงอายุ
    สังขารแล้ว ณ ปาวาลเจดีย์นี้. (พระอานนท์ได้สติจึงทูลขอให้
    ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ด้วยอิทธิบาทภาวนา กัปป์หนึ่งหรือยิ่งกว่ากัปป์;
    ทรงปฏิเสธ)
    อานนท์ ! อย่าเลย, อย่าวิงวอนตถาคตเลย มิใช่
    เวลาจะวิงวอนตถาคตเสียแล้ว. (พระอานนท์ทูลวิงวอนอีกจน
    ครบสามครั้ง ได้รับพระดำรัสตอบอย่างเดียวกัน, ตรัสว่าเป็นความผิดของ
    พระอานนท์ผู้เดียว, แล้วทรงจาระไนสถานที่ ๑๖ แห่ง ที่เคยให้โอกาสแก่
    พระอานนท์ในเรื่องนี้ แต่พระอานนท์รู้ไม่ทันสักครั้งเดียว)
    อานนท์ ! ในที่นั้น ๆ ถ้าเธอวิงวอนตถาคต
    ตถาคตจักห้ามเสียสองครั้ง แล้วจักรับคำในครั้งที่สาม,
    อานนท์ ! ตถาคตได้บอกแล้วมิใช่หรือ ว่าสัตว์
    จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น, สัตว์จะได้
    ตามปรารถนา ในสังขารนี้แต่ที่ไหนเล่า, ข้อที่สัตว์จะหวัง
    เอาสิ่งที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว มีปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีการแตกดับ
    เป็นธรรมดา ว่าสิ่งนี้อย่าฉิบหายเลยดังนี้ ย่อมไม่เป็นฐานะ
    ที่มีได้ เป็นได้.
    มู. ม. ๑๒/๑๖๓/๑๙๒, มหาวาร. สํ ๑๙/๒๘๗/๙๖๓.

    สัตว์ทั้งปวง ทั้งที่เป็นคนหนุ่ม คนแก่
    ทั้งที่เป็นคนพาลและบัณฑิต
    ทั้งที่มั่งมี และ ยากจน
    ล้วนแต่มีความตายเป็นที่ไปถึง ในเบื้องหน้า.
    เปรียบเหมือนภาชนะดินที่ช่างหม้อปั้นแล้ว
    ทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งที่สุกแล้ว และยังดิบ
    ล้วนแต่มีการแตกทำลายเป็นที่สุด ฉันใด
    ชีวิตแห่งสัตว์ทั้งหลายก็มีความตายเป็นเบื้องหน้าฉันนั้น
    วัยของเรา แก่หง่อมแล้ว ชีวิตของเราริบหรี่แล้ว
    เราจักละพวกเธอไป
    สรณะของตัวเองเราได้ทำไว้แล้ว
    ภิกษุ ท. ! พวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท
    มีสติ มีศีลเป็นอย่างดี
    มีความดำริอันตั้งไว้แล้วด้วยดี
    ตามรักษาซึ่งจิตของตนเถิด
    ในธรรมวินัยนี้ ภิกษุใดเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว
    จักละชาติสงสาร ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.

    มหา. ที. ๑๐/๑๔๑/๑๐๘.


    " ...แม้เลือดเนื้อในกายจักเหือดแห้งไป จนเหลือแต่หนัง เอ็น และกระดูกก็ตามที ตราบใด ที่เรายังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักไม่ยอมลุกจากบัลลังก์นี้เป็นอันขาด"
    ด้วยน้ำพระหฤทัยอันแรงกล้า ยังพระมหาสัตยาอธิษฐานนี้
    นี่เป็นทางสายกลางระดับไหน มรรค๘ ของใคร?


    ดังที่เคยแสดงไว้มาแล้ว ในกระทู้พร่องศีลฯ

    ถ้ารู้ว่าสำเร็จ เสร็จแน่นั้นจงทำไปเถอะ ถ้าทนได้ ทำแล้ว อย่าตายไปก่อน นั่นล่ะ การรู้ขีดจำกัดของตนแล้วจึงมาปรับให้ถูกกับจริตและขันธ์๕ของตนเองนั้นด้วย

    ไม่อยากจะคาดคิดเลยว่า ระดับพระมหาปุริลักษณะที่สุดทานทนแข็งแกร่ง ค่อยๆเสื่อมลงด้วยการทรมานตนนั้น จะปวดร้าวสักปานใด

    น้ำพระทัยช่างมากล้นเหลือคณานับจริงๆ


    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    .
    โอฆะ คือ อ่าว หรือ ห้วงน้ำ เป็นห้วงน้ำที่ไหลวน มีลักษณะที่ดูดสัตว์ให้จมลง....สู่ที่ต่ำ

    กล่าวคือ จมอยู่ในระหว่าง อบายภูมิ ถึง พรหมภูมิจนกว่าจะแหวกว่ายขึ้นมา....ไปถึง "โคตรภูญาณ"
    โอฆะ ๔
    ๑. กาโมฆะ (กาม-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งกามซึ่งพาหมู่สัตว์ให้จมอยู่ใน กามคุณทั้ง ๕

    องค์ธรรม คือ โลภเจตสิก ใน โลภมูลจิต ๘.

    ๒. ภโวฆะ (ภพ-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งภพซึ่งพาหมู่สัตว์ให้จมอยู่ ในความยินดีแห่งอัตภาพของตนตลอดจน ความชอบใจ อยากได้ถึง รูปภพ หรือ อรูปภพองค์ธรรม คือ โลภเจตสิก ใน ทิฏฐิคตวิปยุตตจิต ๔

    ๓. ทิฎโฐฆะ (ทิฏฐิ-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งความเห็นผิดซึ่งพาหมู่สัตว์ให้จมอยู่ ในความเห็นผิด เห็นผิดจากความเป็นจริง ของสภาวธรรมองค์ธรรม คือ ทิฏฐิเจตสิก ใน ทิฏฐิคตสัมปยุตตจิต ๔

    ๓. อวิชโชฆะ (อวิชชา-โอฆะ) คือ ห้วงแห่งความหลงซึ่งพาหมู่สัตว์ให้ลุ่มหลง และจมอยู่ในความไม่รู้ไม่รู้ เหตุ และ ผล ตามความเป็นจริง ของสภาวธรรมจึงมีความ โลภ โกรธ หลงองค์ธรรม คือ โมหเจตสิก ใน อกุศลจิต ๑๒
    โอฆะ มี ๔ แต่ องค์ธรรม มี ๓คือ โลภเจตสิก ทิฏฐิเจตสิก โมหเจตสิก
    .
    .
    .
    ข้อความบางตอน จาก สมุจจยสังคหวิภาค พระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๗ อกุสลสังคหะ

    สำหรับปริยัติงูพิษ ที่ไม่มีคุณสมบัติ ๕ ในสากัจฉสูตร ๕ เข้ามาโดยมีธง อยากจะไฟต์ธรรมวาทีสูตรกรุณาเปิดหน้าเล่นนะ ถ้าเป็นได้แค่ขาจรไร้ปัญญา แค่นี้ ควรเจียมตัว และนำกะลาหัวปิดบังหลบซ่อนตนเองเอาไว้เถิด

    พระโพธิญานมีกี่สถานะ ก็ยังไม่รู้ มันคงคิดว่า พระโพธิญานมีเพียงระดับเดียว ของพระสาวก แบบนั้นคงไม่มีพระสัมมาสัมโพธิญาน หรอก


    โผล่มาแต่ละตัว อับอายขายขี้หน้าแทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2019
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เออ กูขอท้ามึงและพรรคพวกที่เห็นด้วยกับมึง ท้าแดกยาสั่ง หรือยาพิษสารพิษชนิดที่สามารถทำสายระบบประสาทและหลอดโลหิตแบบถึงตาย

    ยาพิษสารพิษตัวเดียวกัน จากขวดเดียวกัน จะกี่ชนิดก็ได้ แต่มึงพวกมึงกับกูต้องแดกเหมือนกัน

    กูให้มึงและพวกมึงแดกแต่น้ำเปล่า
    ส่วนกูจะกินเยี่ยวกูเองหรือน้ำมูตรเน่าที่กูเยี่ยวใส่ขวดเตรียมไว้แล้วเท่านั้น!


    พร้อมมีสักขีพยาน อัดลงคลิป ออกข่าว เรียกทีมแพทย์ พิสูจน์กันแบบ นอนดิ้น เป็นหนูตะเภา กันเลยไหม?

    แพ้คือตาย ไซยาไนด์ ยาฆ่าแมลง พิษของสัตว์ แลนเนต เยอะแยะ

    ถ้าใจมึงไม่ถึงพอ อย่ากร่างให้มากนัก

    กูพร้อมเสมอ สำหรับมึงครับ

    ก็มาดิคับ

    วัดกันแบบซีซีไปเลย เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆจนออกอาการ หรือจะจัดเต็มแก้วตวงเดียวดอกเดียวรู้ผลก็ได้




    ถ้ามึงและพวกมึงนอนดิ้นพลาดๆลงพื้นก่อน มึงแพ้ และคนที่คิดแบบมึงอีกหลายคนก็แพ้ด้วย เอาแบบโคม่าน้ำลายฟูมปากหมดสติจึงให้ส่งทีมแพทย์ช่วยชีวิตได้ ช่วยทันไม่ทันค่อยว่ากันอีกที

    สำหรับกูไม่จำเป็นต้องไป ร.พ. ทีมแพทย์ช่วยชีวิต ไม่ต้อง แดกแค่เยี่ยว ชิวๆ


    กล้ารึเปล่า ดอ!

    ไหนๆก็เล่นกับหมา หมาเลียปากแล้ว ดอ!

    Live สด ไปเลย ! เผชิญหน้าไหม ดอ!


    07F79009000005DC-0-image-a-16_1425476010387.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2019
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
     
  15. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    คนอย่างนี้นะ ยังมีหน้ามาว่าคนอื่น มิจฉาทิฏฐิเห็นๆ
    อวดดีอวดเก่งอวดเบ่ง หน้าตัวเมียว่ะ
    มึงน่ะไอ้อันธพาลลวงโลก อุปโลกน์เป็นพระพุทธเจ้า
    ถ้าเยี่ยวมึงดี มึงก็ให้มารดามึงดื่ม หามไปส่งรพให้เขารักษาทำไมวะ? ฟายจริงๆ ส่วนตัวมึงท้าตีท้าต่อยความรู้แค่กศนบวชแค่สามวัน ทำมาเป็นอภินิหาร
    แดกน้ำกระท่อมหรือแดกเหล้าขาวขึ้นสมองวะ
    สวะอย่างมึงเขาก็เลี้ยงเป็นขี้ข้ารอวันตายเท่านั้นล่ะ
    จริงๆ กูจะบอกให้นะ มึงมีปัญหาทางจิต! ศัตรูมึงน่ะหาเรื่องไปทั่วเสือกโปรโมทโฆษณาตัวเองแปะเวบรูปบักควายของมึงไอ้กะจอกเอ่ย ยังเสือกทำเท่ห์ว่าเป็นฮีโร่ทหารเค้าก็เสียสละเพื่อชาติแต่มึงน่ะไอ้สวะหลบใต้เก้าอี้นายไหนว่าโดนไล่ พ้นคุกทหารมาแล้วไงไอ้ฟาย
    ตอนตีนมึงกุดมือกุดทำไมไม่ให้เอาเยี่ยวรักษาล่ะไปใช้สิทธิรักษาทำอะไรวะ???

    อีกว่าหมาหมู่อะไรคนอย่างกูนะไม่ลวไปด่ากะมึงนะ
    คนใช้สมองกับคนมีขี้ในสมองมันต่างกันว้อย
    กูทนไม่ได้ที่มึงเสือกแปะลิงค์จังไรแนะนำคนอื่นผิดๆแล้วอ้างพระพุทธเจ้า เลวชิบหาย ไอ้อยากดัง ฟายๆๆ
     
  16. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    ไอ้จ่ากระจอกก กูไม่รับขอขมาจากมึงนะ ไอ้หมาจนตรอก เดี๋ยวก็ตั้งกระทู้กราบตีนกูอีก
    เบื่อจริงๆ.
     
  17. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    อยากจะบวช คนอื่นเค้าก็อยากจะบวชมาบอกหาคะแนนเสียงทำส้นเท้าทำไมล่ะครับ พ่อแม่มีไม่ดูแล
    หาเรื่องตามเวบต่างๆอยากดังจังมึง แปะเวบพลังจิตทำเป็นแอดเมินเข้าข้างมึงตลกว่ะทำตัวเป็นเจ้าลัทธิอวยเยี่ยวแตก

    เอ้า ดูนะ คนแดกเยี่ยวแดกขี้ เป็นอย่างนี้ล่ะไอ้ไบโพล่า โรคจิต ฟาย
     
  18. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    ใช้แต่กำลัง ปัญญาก็โคตรโง่ โชว์โง่ อ่อมึงเก่งกว่าหมอกว่าพยาบาล 5555555 กูขำ กูจะให้โลกตัดสินคนจังไรอย่างมึงแค่สารเสพติดในเยี่ยวเอาให้รอดหรือมึงเสพยาบ้าแล้วเอาเยี่ยวมาแดกทำฟิน ประหยัดยาบ้าเหรอมึงอะ

    ทำไรนึกถึงพ่อแม่มึงบ้างไอ้กร้วก
    ฝากชีวิตไว้ที่ลูกน้องกูยังปากดี กตัญญูบ้างเที่ยวด่าพระด่าคนนั้นคนนี้ปานว่าทั้งโลกมึงเป็นยอดมนุษย์ไอ้ฟายถึงคนไหนมันจะผิดนะแต่มึงนี้Here จริงไอ้โรคจิตต

    ^_^

    คนอย่างมึงไม่ใช่กล้าหาญ เค้าเรียก ไอ้อันธพาลว้อย!

     
  19. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ตลกจริงๆ มึงคงพยายามทำได้ดีที่สุดแล้ว ก็คงได้แค่นี้ล่ะ!

    พวกมีธงมานี่ น่าสงสารจริงๆ

    กูไม่เดือดร้อนหรอก แต่มึงน่ะเดือดร้อน อยากจะเห่าอะไรก็เห่าไป ให้สมกับคติที่ไปของมึง

    บาย..
     
  20. ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน

    ผู้บ่าวหน้าไทบ้าน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2019
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0
    คนอย่างมึงมันไม่มีอะไรให้โชว์ก็เจือกโชว์ไง
    แต่คนอย่างกูและคนอื่นๆเค้ามีสถานสังคมพูดง่ายๆ
    เค้ามีอะไรดีกว่าคนฟายๆอย่างมึงเยอะมาก
    คนอย่ามึงไม่มีอะไรให้เสื่อมเสียเพราะหนักแผ่นดินตั้งแต่แหกนรกอเวจีมาเกิดไงไอ้ชาตินรก แต่พวกกูยังมีชื่อทำงานเพื่อสังคมไอ้ฟายกูอุตส่าห์บอกตรงๆว่ากูทำอะไรคนสมองแดกเยี่ยวก็จำได้แค่อยากโชว์อาศัยเรื่องดังอยากออกข่าว กูไม่ตกหลุมมึงหรอกไอ้จ่ากระจอก 55555 เหม็นขี้แข่วว้อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...