โมฆะธรรมจะเหลืออะไรบ้างฮับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 29 สิงหาคม 2019.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    การปฏิบัติธรรมที่ไม่มีลำดับ ตั้งแต่ต้นไปหา
    ปลายจัดเป็นโมฆะธรรม เค้าว่าไม่ได้อะไรเป็นแก่นสารเลย
    อยากทราบโมฆะธรรมอย่างพิศดารฮับ
     
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เข้าใจอย่างนี้นะครับ

    รูปแบบ แบบแผน หรือ วินัย ในการปฏิบัติ พระพุทธเจ้า ท่านวางไว้

    ไม่ ว่า ใคร (แม้ไม่บรรลุธรรม) สาธยาย ธรรม ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ตามนั้น
    ไม่เติมแต่งคำตัวเอง

    ผู้ฝึกตามย่อมได้ประโยชน์สูงสุด

    ในรูปแบบ จึง มีเป็นลำดับ ในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และที่สุด

    ทีนี้ หากเป็น พระสาวก ที่บรรลุธรรม มาสอน ท่านก็จะจึ้ ลงไป ตรงที่ชัดเจนเลย

    ยิ่งหาก บางองค์ที่บรรลุ ได้อภิญญาหก
    ท่านก็จะเข้าใจ วิธีที่เหมาะตามจริต ของแต่ละคน
    ให้เข้าตรงมรรคได้ง่ายขึ้น บางคนเลยมองเป็นลัดสั้น

    โบราณจึงว่า ผู้ที่จะสอนธรรม ได้ ต้องเข้าถึงก่อน
    หากเป็นหมู่คณะ ต้องได้รับการแต่งตั้ง จากมหาเถระ ในคณะนั้นๆเสียก่อน จึงจะสอนธรรมได้

    เพราะจะไม่ทำให้ผิดเพี้ยน ไปนอกทางมรรค
    ( พระเถระ มหาเถระ คือผู้ที่มีพรรษาแก่ และเป็นผู้ บรรลุธรรม )

    แต่เดี๋ยวนี้
    ที่ไหนกิเลส มา มาก กว่าธรรม ก็เอา ยศตำแหน่งของกิเลส ออกหน้ามาสอน
    มันเลย มีคำสอน ปนเปลื้อน เป็นเนื้องอก เป็น เมลามีน เยอะแยะ

    ยุคสมัยนี้ ใครได้พบคำสอนที่ถูกต้อง ได้พบครู ที่ดี ถือว่า ถูกรางวัลที่หนึ่ง


    เป็นครูทางโลก มัน ง่าย
    แต่เป็นครูทางธรรม มันยาก บาปใหญ่อยู่ติดตัวกับคนไม่สมควรเป็นครูทางธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2019
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กลับไปถามคนนั้นที่เค้าว่า ครับ ว่าแต่จะถามหา โมฆะ ไปทำไม
    โมฆะ
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
    30px-Scale_of_justice_2.svg.png
    บทความนี้มีการอ้างถึงคำสั่งศาล คำพิพากษา หรือคำวินิจฉัยของศาลในระบบซีวิลลอว์

    อักษรย่อที่ใช้ในบทความนี้
    (เรียงตามลำดับอักษรไทย)
    อักษรย่อ
    คำเต็ม
    ฎ. คำพิพากษาศาลฎีกา (คลิก)
    ป.พ.พ. ประมวลกฎหมายแพ่ง
    และพาณิชย์
    (คลิก)
    ม. มาตรา
    ว. วรรค
    การใช้อักษรย่อในนี้เพื่อมิให้บทความเยิ่นเย้อเท่านั้น แต่โดยปรกติแล้วควรเขียนด้วยคำเต็มไม่ควรย่อ เช่น "ป.พ.พ. ม.123 ว.2" ควรเขียนว่า "ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 123 วรรคสอง" มากกว่า
    โมฆะ (อังกฤษ: void) มีความหมายโดยทั่วไปว่า เปล่า ว่าง ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีผล โดยในทางกฎหมายนั้นหมายความว่า เสียเปล่า หรือไม่มีผลบังคับหรือผูกพันตามกฎหมาย[1]
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    วัดสิริกมลาวาส - หลวงปู่หลอด ปโมทิโต
    4 กันยายน 2016 ·
    โมฆะธรรม (เทศน์เมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค. ๔๓)
    เมื่อวันก่อนในงาน เทวดาอนุโมทนานี่ฝนตก ฟ้าฝนตกเย็นฉ่ำเลยเมื่อวานนี้ ด้วยบารมีพุทธศาสนา บารมีพระพุทธเจ้า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นี่ ให้ร่มเย็นอยู่เย็นเป็นสุข หลวงพ่อที่มันจะเหนื่อยก็เลยไม่เหนื่อย นี่เวลาเทศน์ก็ไม่ไหวเป็นชั่วโมง เมื่อวานนี้คือคอมันแหบแห้ง มันธรรมดาของคนแก่ โลกคือชรานำไปนำไป มันชราหมดเลยในตัวนี่ ผมก็ชรา อะไรก็ชรา ปากก็ชรา ฟันก็ชรา นำไปทุกวันๆเลย นำไปอย่างที่ไม่รู้สึกตัวเลย นำไปไม่รู้สึกตัวเลยเรียกว่าตายผ่อนส่ง เขาว่าตายผ่อนส่ง ตายทุกวัน วันแล้ววันเล่าๆ ตายทุกวัน ต้องสมมุตินะ ถ้าหากว่าไม่สมมุติ เป็นปรมัตถ์ก็ว่าไม่มีอะไรตาย ไม่มีอะไรตาย รูปังอนิจจัง รูปังอนัตตา อนัตตาก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ตนใช่ตัวแล้ว มันอนัตตามันเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงสภาพ สภาพเปลี่ยนแปลง พระพุทธศาสนาเขาเรียกว่าโมฆะ โมฆะธรรม โมฆะก็เปล่าแล้ว เปล่าหมดทั้งโลกนี่ อันนั้นก็ของเราอันนี้ก็ของเราไม่ใช่ เราไปสมมุติไปว่ามันเองว่าเป็นของของเรา ตัวเขาไม่ว่าสักหน่อย ตัวรูปธรรมนามธรรมเขาไม่ว่าว่าเป็นของเขา ไอ้กิเลสตัณหานี่ไปสมมุติว่าเป็นตัวของมัน ผมของกู ขนของกู เล็บของกู ฟันของกู หนังของกู มันอุปาทานนั่นแหละ ไม่ใช่เพิ่งมีชาตินี้หรอก มันยึดมั่นถือมั่นตั้งหลายชาติแล้ว หลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว กว่าจะแกะออกได้ไม่ใช่ธรรมดาแกะออกยากที่สุดเลย เรียกว่าบังล่ะ พิจารณากายมันบังหมดเลย มืดตะลึดตึ๊ดตื๋อเลย มันบังนี่ ไม่ให้เห็นสัจจธรรม ไม่ให้เห็นของจริงว่าอย่างนั้นเถอะ ถ้าไปพิจารณาที่อื่นล่ะ รูปคนอื่นล่ะล้วนแต่สิ่งที่มันชอบ ที่มันชอบรูปอะไรก็แล้วแต่ที่มันชอบ คือพิจารณาอันนี่แท้ ทั้งขึ้นทั้งลงทั้งขึ้นทั้งลง อันที่มันไม่ชอบล่ะ อย่างอสุภะนี่มันไม่ชอบ ใจรู้แล้วทำให้เกิดสวรรค์ได้ ทำให้เกิดนิพพานได้ อันนั้นถ้าพิจารณาทางโลกมันก็เป็นนรกหมกไหม้ไป รูปธรรมนามธรรมที่มันชอบมีแต่กิเลสแหละ นี่เราไม่รู้จักว่าเป็นกิเลสหรอก โมโหโทโสนี่ ราคะโทสะนี่ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร พระพุทธเจ้าท่านฟัน ฟันอันนี้แหละ ฟันขนาดหนักก็แล้วกัน ไอ้ราคะ โทสะ โมหะนี่ ตามธรรมดามันอยู่นี่ไม่มีปรากฏการณ์อะไรเกิดขึ้น ถ้าสัมผัสล่ะ ถ้าสัมผัสมันเกิดขึ้นเหมือนกับไม้ขีดไฟ หัวนี่ไม่มีเพลิงอยู่ที่นั่น พอขีดปุ๊ปมันเกิดแสงสว่างเลย ใจมีกิเลสมันก็สัมผัส สัมผัสประเภทไหนก็สัมผัสหมดแหละ ทั้งวันทั้งคืนล่ะสัมผัสสิ่งที่มันชอบ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงเทศน์ธรรมจักร ไอ้หนังสือธรรมจักรพากันไปดู ไปดูท่องให้ได้ ปฐมเทศนาเบื้องแรกเลยนะ ปฐมแปลว่าเบื้องต้น ปฐมเทศนาท่านกล่าวธรรมจักรกัปปวัตนสูตร เป็นสูตรปฏิบัติจิตใจคน ทีแรกก็ว่าปฏิบัติพระพุทธเจ้าก่อน ปฏิบัติรัฐประหาร ปฏิบัติเป็นพระพุทธเจ้าก่อน เมื่อพระองค์ปฏิบัติสำเร็จแล้ว เป็นพระอริยเจ้าแล้วเป็นพระสยัมภูแล้ว มามองดูว่าลูกศิษย์เราคนไหนที่มาออกบวชน้อยๆ บวชตาม ปัญจวัคคีย์นี่ได้ทราบข่าวว่าพระโคดมนี่ สีธาต(สิทธัตถะ)เราทำการอกบวช อย่างโกณทัญญะก็อายุตั้งเกือบหกสิบแล้ว เกือบหกสิบแล้ว ปัญจวัคคีย์ทั้งห้านี่ บางองค์ก็สามสิบก็มีสี่สิบก็มี อย่างอัสสชินี่ประมาณสามสิบ ก็ผ่านการมีครอบครัวมาแล้วนี่ อย่างโกณฑัญญะนี่หกสิบแล้ว เรียกว่าน้ำมันรอไฟแหละ น้ำมันรอไฟ น้ำมันขี้โร่ หรือน้ำมันยางก็ไม่รู้ เรานี่มันน้ำมันขี้โร่ น้ำมันขี้โร่ตัวเรานี่ จุดไฟก็ไม่ติด กว่าจะติดก็ลำบากที่สุด พระพุทธเจ้าว่ามาเลือกเอาธรรมะนี่แหละ เพราะพวกปัญจวัคคีย์ทั้งห้านี่ก็ติดกามทั้งนั้น ยังอาลัยในกามอยู่ อาลัยอาวรณ์อยู่ เรื่องรูป เรื่องเสียง เรื่องกลิ่น เรื่องรส เรื่องโผฏฐัพพะ เรื่องธรรมารมณ์ ยังอาวรณ์อาลัยอยู่ เหมือนกับพระองค์ พระองค์ก็อาวรณ์อาลัยอยู่ สมัยยังเป็นปุถุชนอยู่ ก็เลือกเอานี่เลือกธรรมะสองอย่าง เอวัมเม สุตตัง อันข้าพเจ้าคือพระอานนท์เถระได้สดับมาแล้วอย่างนี้ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี ห่างจากตัวเมือง จากป่าอิสินี่ห่างจากตัวเมืองสิบสองกิโล ที่นี่มีฤาษีอยู่บำเพ็ญพรตด้วยกันเยอะแต่ก่อน ปัญจวัคคีย์เมื่อได้หนีจากพระพุทธเจ้า ไกลนะไกลจากพุทธคยานะ เดิน เดินสิบห้าวัน ไกลจากพุทธคยานี่ พระพุทธเจ้าเดินรอนแรมไป โดยออกจากพุทธคยาไปเมื่อสำเร็จแล้ว มองหาคนเป็นพยานการตรัสรู้ มันต้องหาคนเป็นพยานในการตรัสรู้คือไปสอนคนให้รู้ด้วย คนได้ฟังก็รู้ด้วย มันมีพยานอยู่นี่ แต่ก่อนตรัสรู้ยังไม่มีพยาน ยังไม่มีพยานต้องไปหาพยาน คือปัญจวัคคีย์ทั้งห้านี่แหละที่ออกบวชตาม ออกบวชตามสมัยนั้น ก็เลยไป ออกจากนั้นขึ้นค่ำหนึ่งเดือนแปด ท่านอยู่จำพรรษาที่ป่าอิสินี่แหละ ก็รอนแรมไปรอนแรมไปถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทีนี้ปัญจวัคคีย์ทั้งห้าเห็น เอ้า พระโคดมาแล้วนี่ไม่มีเพื่อนไม่มีฝูง ลูกน้องหนีหมด เอกา อยู่คนเดียว เราอย่าไปต้อนรับนะ ต้อนรับท่าน บาตรจีวรก็ไม่ต้องรับ ท่านอยากนั่งก็นั่งเองอยากนอนก็นอนเอง พอมาใกล้ก็ว่า อาวุโส เป็นคำพูดซึ่งไม่สมควร นี่สวัสดี พระพุทธเจ้าว่าอย่าพูดอาวุโส เดี๋ยวนี้ตั้งใจฟังเถอะ แต่ก่อนที่ท่านเจอเราอย่างไร ตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว มาอยู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันนี่ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่อย่างแต่ก่อนแล้ว เราได้บรรลุธรรมแล้ว พูดเลย แต่ก่อนไม่พูดเราปฏิบัติธรรม ยังไม่ฟัง ปัญจวัคคีย์ยังไม่ฟังเลย ท่านย้อนถามอย่างหนึ่งเลยว่าเคยพูดไหมว่าเราบรรลุ เคยพูดหรือเปล่า อย่างอยู่ด้วยกันอยู่ที่ป่าอิสิฯนี่เคยพูดไหมว่าเราบรรลุ คราวนั้นกำลังบำเพ็ญอยู่ยังไม่บรรลุ เดี๋ยวนี้บรรลุแล้ว พวกเธอหนีมานี่ สามวันนี่บรรลุธรรมแล้ว ตั้งใจฟังอย่าให้เสียเวลานะเดี๋ยวมันตาย ความตายไม่แน่ กลางวันก็ตายกลางคืนก็ตายตอนเช้าก็ตาย เวลามันจะตาย นึกได้ เอ๊ะ! คำที่ว่าตรัสรู้แล้วนี่พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเลย ตั้งใจฟังสำรวมใจเลยทีนี้ แต่ก่อนยังคำนึงว่าจะสำเร็จประโยชน์ได้อย่างไร ไม่รู้อย่างไร ก็คลายความเพียรเวียนเข้ามาเป็นคนมักมากแล้ว ความเพียรนี่เคร่งครัดที่สุด สมัยนั้น นั่งเป็นวันๆเป็นเดือนๆนั่ง พระพุทธเจ้าเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนวิธีใหม่ ทเวเม ภิกขเว อันตา ดูก่อนภิกษุทั้งหลายที่สุดสองอย่างนี้ กามสุขัลลิกานุโยคหนึ่ง อัตตกิลมถานุโยคหนึ่ง กามสุขัลลิกานุโยค ติดในกาม มีรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์อะไรก็แล้วแต่ อัตตาถือตนถือตัวเป็นใหญ่ อัตตาถือตัว คือถือตัวตนตัวกูของกู พระพุทธเจ้าท่านบรรยาย อะนะริโย ไปจากข้าศึกคือกิเลส อะนัตถะสัญหิโต ถ้าผู้ใดพัวพันไร้ประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ เทศน์ไปเทศน์มาเทศน์ไปเทศน์มา ยกอริยสัจขึ้น โลกคือชรานำไปนำไป เป็นอยู่อย่างนั้น เอา ถ้ายังดีอยู่กำหนดเรื่อยไปๆ โลกคือชรานำไปนำไป เดี๋ยวนี้เป็นตัวคนอายุมาได้หกสิบแล้ว ไม่เปลี่ยนสภาพได้อย่างไร โลกคือชรานำไปนำไป วัปปะ ภัทธิยะ มหานามะ ลัดหลั่นมาจากห้าสิบสี่สิบสามสิบ อัสสชินี่ก็สี่สิบ เคยผ่านครอบครัวมาแล้ว เคยเรื่องติดรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์มานี่ อย่างช่ำชองโชกโชนเลยทุกคน พระพุทธเจ้าก็ว่าต้องแก้อันนี้ แก้เรื่องกามนี่ เรื่องกามรมณ์นี่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นี่ ท่านเทศน์แค่นี้ ฟังเทศน์ท่านอยู่ทั้งที่มันอยู่กับเราทุกวันนี้อย่างพวกลูกๆนี่ก็รู้ ยังไม่มีความรู้ ใช้มันอยู่ทุกวัน กินอยู่ สนุกสนานเฮฮา กามสุขัลลิกานุโยค ติดอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาไม่ว่าสัตว์ประเภทไหน พระพุทธเจ้าท่านว่านี่คนเรามันติดอันนี้ มันหนีไม่ได้ ภาวนานิดหน่อยลุกขึ้นเพราะนั่งเจ็บมันเจ็บสารพัดอย่าง แล้วมันจะรู้หรือ มันรู้ไม่ได้ เพราะอัตตาเห็นอยู่ ว่าเจ็บหลังก็ว่าเอวกูเจ็บแล้ว อัตตานี่ มือแข้งขาเจ็บปวดขึ้นมาแล้ว นี่ตัวอัตตาคือตัวกูทั้งนั้น แต่ใจไม่กล้าใจไม่ถึง เราต้องคอยฝึกหัดไปเรื่อยๆ พยายามทำไปเรื่อยๆ ฝึกหัดบริกรรมลมหายใจเข้าออกนี่ เอาให้ใจเป็นหนึ่งเสียก่อน ซ้ำแล้วซ้ำอีกๆ มีความชำนาญนี่ พระพุทธเจ้าว่า วสี ชำนาญ ว่าพุทโธๆก็ชำนาญ ลมหายใจเข้าออกก็ชำนาญ พอนึกปั๊ปมันจับปั๊ปเลยนะ ตลอดสายจนกระทั่งออกภาวนา เมื่อวานนี้ทำงานตั้งแต่หนึ่งทุ่มมานั่งอยู่กับพระ พระอ้อนนี่ พอดีก็ลองนั่งดูว่าจะนั่งหลับเมื่อไหร่ เกือบสี่ทุ่มนั่งอยู่เก้าอี้ พระอ้อนมานิมนต์พักผ่อนถามเวลาพระอ้อนว่าเกือบจะสี่ทุ่มแล้วตั้งแต่สองทุ่ม เราก็เด็ดเดี่ยวแข็งแรงมันไม่มีอุปาทาน มันเหมือนประเดี๋ยวเดียวล่ะ จิตมันสงบมันสบายนี่ เมื่อวานเยือกเย็นทั้งวันนี่ ญาติโยมก็ตั้งใจฟังเทศน์ฟังธรรม ธรรมะธรรมโมก็ออก แต่เสียอย่างเดียวว่าเสียง เสียงแหบไปหน่อย นี่ธรรมะธรรมโม ไม่เจ็บหลังเจ็บเอว ร่างกายชื่นบาน จิตใจสว่างไสว หน้าตาญาติโยมก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เราเทศน์ชั่วโมงหนึ่งก็ยังเทศน์น้อยไป แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก แล้วแต่กรรมแต่เวรใคร คราวหน้าถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อบรมกันไปเรื่อยๆ อย่างที่อบรมกันทุกวันนี่ ใครมีปัญญาวาสนาส่งก็ค่อยเป็นไป อย่าลืมเราต้องทำนะอย่าลืม ให้บรรลุเองไม่มีทางหรอก อย่าไปนึก อย่างไม่เรียนไม่ท่องไม่ได้หรอกมันต้องท่อง เราสวดมนต์ก็ต้องท่อง อย่างที่เรากล่าวคำนมัสการพระพุทธเจ้า พุทธัง สัตตะรัตตะนังนี่ ถ้าไม่ท่องก็ไม่ได้ อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ สุสุ ระระ ธาธา โสโส นะโมพุทธายะ มันเป็นกำแพงแก้ว กำแพงเจ็ดชั้น สัตตะ รัตตะนัง อัมหากัง สะระณัง คัจฉามินี่ เป็นกำแพงแก้ว เราจะนอนอยู่ในป่าในภูในเขาในดงก็แล้วแต่ เมื่อเสกคาถานี่สามบท พุทธัง ธัมมัง สังฆัง หรือธรรมดาอยู่ในบ้านในช่องก็ตามหรือว่าที่ไหนๆก็ตาม ให้เสกคาถานี่ แต่ว่าพุทโธ ธัมโม สังโฆ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต เราก็ว่าด้วยกัน มันต้องเรียนต้องศึกษา ท่องสวดมนต์นิดๆหน่อยๆบ้างอันไหนที่เราท่องได้ก็ท่อง ให้เป็นนิสัยปัจจัยไว้ ถ้าสมมุติว่าเกิดมันตายไป เกิดใหม่ชาติหน้า ถึงเป็นชาติหน้ามันยังมีโอกาส มาชาติหน้าก็เร็วกว่าชาตินี้ ผ่องใส สิ่งที่ท่องได้แล้วมันไม่ลืม ถึงลืมปันก็ยังไม่ลืม จะเกิดชาติไหนมันก็ท่องพุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหันนะโวนี่ มันก็ได้ ได้เร็วเร็วกว่าคนที่ไม่ได้ เพราะเรามันได้อยู่แล้ว มันลืมไปพักหนึ่งตอนที่เราตายไป นี่ของเก่าที่ท่องได้ไม่ลืม ยิ่งท่องได้พระไตรปิฎก อย่างพระอานนท์แต่ก่อนก็เป็นนักศึกษา ถ้าหากว่าพระศาสดาไปเทศน์ที่ไหน ตรัสสูตรไหน คาถาไหน ให้มาบอกข้าพระพุทธเจ้า พระองค์เทศน์ที่ไหนก็บอกอานนท์ หรือว่าสวดมนต์ที่ไหนก็อานนท์ อานันทะอานนท์ ดูก่อนอานนท์ ดูก่อนอานนท์ นี่พระอานนท์จำไว้ จำพระสูตรไว้ ในศาสนาพุทธนี่ก็พระอานนท์เป็นผู้จำ จำตลอด นอกจากพระพุทธเจ้าไปเทศน์ไกล อานนท์ตามไม่ได้ ไปเทศน์ในกรุงสาวัตถีนี่ก็เทศน์ ที่ไหนกลางค่ำกลางคืนก็ดี
    ธรรมะประจำวันที่๔ ก.ย.๕๙ หลวงปูหลอด ปโมทิโต

    _oc=AQnhcQaxiSnGEhZIkZ0U_uDJhwq3Io6HCvDAltdkn_GEJlp_DLGmE80I0rBgMBan6io&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
    30

    ฟังของจริงดีกว่าครับ
     
  5. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ผมก็ไม่เข้าใจ มาก นัก

    แต่ธรรมจริงๆ ดับอายตนะ 6

    ดับภพ รู้ความเป็นภพ

    เพราะเหตุแต่ละคนอาศัยกันจึงเป็นภพ จึงเกิดความเข้าไปพัวพัน

    การเล่าธรรมจะแตกต่างไปตามยุคสมันมาก เกิดคำศัพท์ใหม่ๆ

    เช่น หัวร้อน ก็คือ ชาติ ความเข้าไปพัวพัน ปกติทุกคนรู้ได้อยู่แล้วแต่ไม่รู้สัจจะ ทุกข์อริยสัจ 4 เท่านั้น จึงมีอาการคิด เดี๋ยวหัวร้อนกันตามๆกัน
     
  6. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    มีอีกคำหนึ่ง

    หลงในธรรม

    พวกยมทูตจะจับไปลงโทษ

    เพราะทำลายคำสอนให้วิบัติ

    โทษร้ายแรงเหมือนกฏศลีห้า
    ที้พวกยมทูตมารับตัวไปลงโทษ...
     
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • rofl.gif
      ขนาดไฟล์:
      192 KB
      เปิดดู:
      512
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    การปฏิบัติที่จัดว่า เป็น โมฆะธรรม อย่างหนึ่ง
    ก็อย่างเช่น การปฏิบัติวิปัสสนาที่ไม่ได้
    ผสมกันกับ พระไตรลักษณะสามอย่าง คือ
    ความไม่เที่ยง การเป็นทุกข์ และ สิ่งสมมุติ
    หากขาดสามอย่างนี้แล้วไซร้
    ต่อให้ปฏิบัติวิปัสสนาให้ตาย
    ก็ไม่อาจบรรลุธรรมได้
    เปรียบเหมือนกับ ตาลยอดด้วน
    ที่ไม่อาจจะให้ลูกให้ผลให้น้ำตาลได้

    ส่วนอีกอย่างที่เป็นโมฆะธรรม อีกอย่างหนึ่ง
    ก็คือ การปฏิบัติที่หลากหลายวิธีเกินไป
    มากมายจนกระทั่งทำได้ไม่หมด
    เพราะความจริงแล้ว แค่วิธีเดียว
    ก็ทำให้บรรลุธรรมได้เหมือนกัน
    หากพิจารณาควบคู่กัน พระไตรลักษณ์ บ่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2019
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ธรรมที่พระศาสดาแสดงเหมือนกับสายลำธาร
    ที่พาน้ำใหลลงทะเล

    แต่ทีมันผิดเพี้ยนไปจากของเดิม
    มาจากโมหะธรรมของผู้อยากเป็นอาจารย์
    ทั้งพระและฆรวาส เพราะอยากเป็นอาจารย์

    ไปดูสิ ในนรกมีอยู่เยอะ

    ไม่แน่คนในเวปอาจจะไปอยู่ด้วย
    เพราะความอยากเป็นอาจารย์ นั้นแล
     
  10. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ขออนุญาตไม่เชื่อ และไม่จริงในแนวคิดนี้ ตอกย้ำส่า ไม่จริง มีหลายจุดที่ไม่จริงในข้อความนี้ มองโลกในแง่ร้ายเกินไป และไม่มีความสามารถมองอะไรที่เป็นแง่ดีของตนเองและบุคคลอื่น ถ้าจริงก็คงพากันตกนรกหมกไหม้ทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าว่าด้วยอะไรน้า ห้ามแสดงฤทธิ์ หรือสื่อไปในทางฤทธิ์ เขาเรียกพระสูตรนั้นว่าอะไร พระขีณาสพรับประกาศจากคหบดีว่า หากใครเหาะไปเอาบาตรที่แขวนไว้ได้จะนับถือ พระศาสดทราบเรื่องทรงทุบบาตรทิ้ง และแสดงธรรมสอนรวมถึงแสดงฤทธิ์ทุกประการที่จะมีได้ และบัญญัติว่า ห้ามกระทำเป็นอันขาด คงมีความหมายใช่ไหม พระสัพพัญญูทรงตรัสไว้ ต้องมีความหมายแน่ เอาแค่นี้ดีไหม ที่จะบอกว่ามีอะไรบางอย่างที่เจตนาสื่ออกมามันผิดนะ ณ จุดนี้
     
  11. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ก็เขียนไม่ให้ใครเชื่ออยูแล้วครับ
    ต้องให้ไปพิสูจน์เอาเอง

    โมมะธรรมเป็นตัวทำลายศาสนาที่แท้จริง
    พระศาสดาบอกที่ยกกลองรบที่ตอกลิ่มเข้า
    จนหาเนื้อไม้เดิมไม่ได้

    สาเหตุจากผู้จากเป็นอาจารย์กล่าวธรรม
    พาให้ศิษย์หลงทางไป
     
  12. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ช่วยกรุณาบอกมาหน่อยก็ดีนะว่าพระศาสดาใดบอก เพราะปัจจุบันนับเป็นยุคภัทรกัปล์ มีพระบรมสัมมามีสัมพุทธะเจ้า พระศาสดาได้ ห้าพระองค์ ยังไม่เคยเห็นพระสมณโคดมกล่าว เท่าไม่เห็นหลักฐานใดชี้ว่า พระศาสดาตัวจริงกล่าว ย้อนไปที่งสามพระองค์ในยุคเดียวกัน ก็ไม่ทรงตรัสอะไรทำนองนั้น ผมคิดว่าคุณมีปัญหาอย่างใหญ่หลวงแล้วแหละ แม้กระทู้ที่ไปตั้งใหม่ ผมคงไม่ตอบให้ด้วย เพราะดูๆแล้วคุณมีปัญหาอันใหญ่หลวงมาก อาจถึงขั้นปิดมรรคปิดผล ลงอบายภูมิเลยทีเดียว และถ้าจะบอกว่าที่ยกมานี่พวก แถวคลอง10 ทำประจำละ อาศัยโอกาสก็ตอกลิ่มลงไป อย่ายกเอาเฉพาะสิ่งที่ตนอยากรู้และอยากให้ผู้อื่นรู้มากล่าวจะดีกว่า มันจะธรรมของพระศาสดาขัดแย้งกันเอง เป็นกรรมหนักถึงขั้นตกนรกอเวจี ไม่อาจเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ ยุคสมัยอันมีพระศาสดากล่าวไว้ดีแล้ว นิทานสูตรนั้นทรงสอนเวลาใด เพื่อใคร และใจความสำคัญตอนสรุปคืออะไร ควรครบถ้วน ไม่ใช่ระบุว่า 10 พระสูตรที่สำคัญต่อพระพุทธศาสนา นั่นมันคือการกระทำของคนที่กำลังนับเวลาลงสู่ขุมนรก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ที่สำคัญเลยคือธรรมอันสุขุม สุญญตา ชั้นโลกุตร ข้อที่ว่ามี อาจารย์บางท่านเป็นโมฆะธรรม ก็บอกมาเลยว่าทำไมถึงคิดว่าเขาเป็น ไม่ใช่นั้นก็เป็นอกุศลกรรมที่ติดตัวติดจิตไปอีก ยิ่งจะทำให้ปิดมรรคผลกันเป็นกำลังสอง แต่ถ้าพูดหรือคิดเพราะมีท่านที่ถูกอยู่ในใจก็จะบอกว่า เพราะสาเหตุนั้นแหละ เพราะสาเหตุที่ว่านั้นจึงทำให้คุณกลายเป็นแบบนี้ ถ้าอาจารย์ดีย่อมรู้แน่ว่า ผิดถูกเขาไม่วัดกันที่ท่องจำตาราได้หมด เขาก็ไม่ได้วัดกันที่ถอดความได้ตรงตามหลักวิชาการแปลด้วย นี่ที่พระศาสดากล่าว เพราะเรื่องชั้นสูง คนที่คุธรรมไม่ถึงมักเอามาพูดเพื่อให้ตนดูดีแล้วเติมสิ่งที่ไม่ใช่ของพระองค์ลงไป คุณว่าใครที่ทำแบบนั้น
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    แสดงว่าไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก เวรกรรมจรืงฯ
     
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ว่างๆอ่านมั่งดิ จะได้คุยกันรู้เรื่อง

    ไม่ใช่ถามเขาทุกเรื่อง..
     
  16. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างมาก โดยเฉพาะกับพวกโง่ โดยเฉพาะที่มาจากแถวคลอง10 ผมยกมาให้ท่อนนึงแต่มาท่อนเต็มตามตัวอักษรแต่ไม่เต็มตามสิ่งที่ควรพิจารณา แหกตาดูก่อนจะพูดว่าใครไม่เคยหรือเคย เพราะบอกแล้วไง ยกมาทั้ง84000 แต่ถ้าโง่ ก็ไร้ความหมาย และมักได้ความหมายใหม่ที่ไม่ใช่ตามที่พระศาสดากล่าว ไอ้โง่ หัดดูดีดี ก่อนจะพูดอะไร เปิดดูไฟล์ที่แนบมาให้ด้วย ว่าเข้าใจอย่างไรกับสิ่งที่เสนอมา โง่แบบนี้ควรหาอาจารย์จริงๆ ไม่ใช่อาจาร์ในฝัน บรมโง่แล้วยังจะอวดอีก
     
  17. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ไปว่าเขาทำไม?? คลองสิบ คลองยี่สิบนะ
    เขาเป็นพระ เราเป็นฆรวาส
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    แล้วศาสดาไหนกล่าวละ ไอ้ไง!!
     
  19. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    แล้วไง แถวคลองสิบมีสรรพสัตว์มากมาย ทั้งเดรัจฉาน ทั้งมนุษเสโส ทั้งมนุษยสเทโว ทั้งมนุษยสเปโตร พระไหนไม่รู้จัก ช่วยบอกหน่อยสิ ผมไม่รู้จัก เห็นมันขึ้นป้าย และเห็นเว็ป ยังไม่ค่อยกล้าอ่านเลย ถ้าจะบอกว่า พระทำบาปไม่ผิด ก็บอกมาเลย ไม่ได้ว่าอะไร ที่ยกตัวอย่างให้ฟังก็ไม่ได้ว่าเขานี่ อ่านออกไม่ได้แปลว่าเข้าใจ เห็นไหม ก็ไม่สนอะไร เพราะถ้าบอกว่าจากคลอง 10 มันไม่แปลกนี่ ที่จะเอาเฉพาะสิ่งที่ตนอยากรู้และสิ่งที่ตนอยากให้เขารู้มาพูด เช่นเดียวกับเรื่องกลอง ที่เป็นต้นเรื่อง จริงไหมละ
     
  20. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    นั่นไงมันคนละวัตถุประสงค์ไง ไอ้โง่ พิมพ์แบบตั้งใจด้วย ไม่ต้องรู้สึกมากจนมือไม้สั่น มันเสียภูมิ นะไอ้โง่ ชัดไหม
     

แชร์หน้านี้

Loading...