ขอนอบน้อมแด่ฆราวาสผู้เข้าถึงธรรม

ขอแนะนำ ฝากตัว กับ ท่านเล่าปัง..

 

ได้เวลาพิจารณาหมอนแล้วฮับ หุหุ

 

อะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยผ่านไป

เห็นบัณทิต อยู่ตรงหน้า อย่าลีลา สิ ลุงแมว..

อยากรู้ อะไร ให้ถาม..

ติดข้อง อะไร อยู่ ให้ถาม..

ท่านเล่าปัง..

 

ปลวกแทะคำภีร์ ถามไมฮับ

 

งั้น เราขออนุญาต ถามลุงแมว..

ปัจจุบันนี้ ลุงแมว ปฏิบัติ ถึงไหนแล้ว..

เห็นบอกว่าติดฌานอยู่นาน มีคนมาแก้ ให้บ้างแล้ว..

 

ถ้าจิตมันเบื่อหน่ายคลายกำหนัดจริง..

ถ้าจิตมันเกิด นิพพิทาญาณจริง..

ป่านนี้ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว กลัวจะเบื่อไม่จริงน่ะสิ

อาการกลัวตายเข้ามาแทรก นั่นก็ยัง เป็น อำนาจ ของ อวิชชา..

 

ติดเน็ต55

 

ไม่ต่างกัน555

 

เราว่า เป็นเจตนาของบุคคลผู้ถึงแล้ว มากกว่า..

ด้วยเวลา มรรคจิต ถึง ชายฝั่งโน้น จะรู้กำลังใจตนเอง ว่าปรารถนาอะไรไว้

ในส่วนสาวกภูมิ อาจรู้กำลังใจตนเอง แล้วเห็นว่า เพศฆราวาส เป็นทางคับแคบ เป็นโทษ ต่อตนเองและผู้อื่น จึงต้องเข้าบวช และด้วย พุทธประเพณี

ส่วนทางวัดท่าซุง กล่าว คงเพราะ ป้องกันฆราวาส อวดอ้างตนเอง หาประโยชน์ใส่ตน หวังในลาภ สรรเสริญ..



ทุกความคิดเห็นจริงไม่จริงอย่างไร ที่สุดแล้ว ผู้ถึงฝั่งโน้นแล้วย่อมรู้ได้เฉพาะตน..

 

เดี๋ยวหาโอกาสตามอ่านกระทู้นี้ ดีกว่า ดูท่า น่าสนุกดี สงสัยนักธรรม ด่ากันเละ เหมือนกระทู้ อื่นๆ55555

 

ที่คนยุคนี้ สำเร็จ ธรรม ยาก..

เพราะ อ่านเยอะ คิดเยอะ วิเคราะห์เยอะ กลัวเยอะ ระแวงเยอะ..

วิเคราะห์ โน่น นี่ ไปเรื่อย ต่างๆ นาๆ..

แต่ ความเพียร น้อย..


ไอ้ความคิด ไปเรื่อยไม่หยุด นั้นละ เป็นอำนาจ ของอวิชชา..

 

ขออนุญาต ตอบอันนี้หน่อย..

ถึงลุงแมวจะยังไม่สำเร็จอะไร แต่ลุงแมว ก็เป็นกลุ่มที่มาเกิดร่วมกัน กับ ข้าพเจ้า..

**สร้างบารมี**

 

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สอนศิษย์ ว่า..

"ให้ภาวนา พุทโธ เร็วๆ"

อยู่กับคำภาวนาอย่างเดียว..

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าทิ้งคำภาวนา ถึงเวลา คำภาวนา จะหายไปเอง..



**ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา**

 

ก่อนหน้านั้นท่านสอนอะไร ถึงจะให้มา
บริกรรมพุทโธอย่างต่อเนื่อง
เมื่อบริกรรมจนมีใจตั้งมั่นแล้วท่านให้
ทำอะไรต่อเป็นลำดับ ลำดับ
จนถึงปัญญาญาณ
มันต้องเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่การมีความ
เข้าใจในปฏิจจสมุปบาทะ และมีความ
ศรัทธาในพระรัตนตรัยและพระสัทธรรม
เสียก่อน
ถึงจะมาถึงขั้นปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจ
ไม่งั้นมันจะเป็นการสร้างบารมีแบบ
กระท่อนกระแท่น เก็บคะแนนสะสม
ไม่เป็นระบบ จิฮับ

 

ท่านบอกให้วางความรู้จากตำราลงก่อน..

ต่อมาท่านก็บอกให้ภาวนาพุทโธ..

มีลูกศิษย์มาถามท่านมากมาย ท่านก็บอกไปว่า...สงสัยอะไรให้ภาวนา อยากรู้อะไรให้ภาวนา

ส่วนเรื่อง ศีล เราคงไม่ต้องอธิบายหรอก นะ

คำสอนตถาคต ก็สอนไว้แล้ว

 

ยกเอาคำสอนตถาคต มานิดหน่อยพอ..

..มโน ปุพพัง คมา ธรรมา

มโน เสฏฐา มโน มยา..

และ โอวาทปาติโมกข์..


เพียงเท่านี้ก็ เท่ากับ ใบไม้ทั้งป่าแล้ว

หัวใจศาสนามีเท่านี้..

 

ยุคหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ยิ่งภาวนา ยิ่งสนุกไปเรื่อย เพราะ มีพระสงฆ์มากมาย ปฏิบัติ เอาเป็นเอาตาย เข้าว่า

เห็นอะไรในสมาธิ ก็มาคุย มาเล่าสู่กันฟัง ในหมู่คณะ

ยุคนี้ถ้าใครรักการปฏิบัติภาวนา จะเข้าใจ ว่าการภาวนา มันสนุก ยังไง..

 

เอาเท่านี้ก่อน นะลุงแมว เดี๋ยวดึกๆ คุยกันใหม่..

 

อ้อ!! ลืมบอก

ภาวนาพุทโธ คือ พุทธานุสติ

อานิสงค์

ปฏิสัมภิทาญาณ ๔

อภิญญา ๖

และ อื่นๆอีกมากมาย..

 

คำตอบที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติพ้นทุกข์
ระดับต้นๆ ระดับกลางและระดับพ้น
ได้สิ้นเชิง
คือ วิธีปฏิบัติทางกาย วาจา ใจ
อย่างไรจึง
จะสิ้นยึดในรูปนามขันธ์5
(หรือสิ้นการยึดมั่นถือมั่นใน
กายกับจิต)ได้เป็นขั้นเป็นตอน
ตามลำดับ