ที่ตั้งของทุกข์มันอยู่ที่ไหนกันแน่คับ

ใช่คำว่าจิตพุทธะก็ได้

 

จิตมี 2 จิตคือ
จิตที่เป็นตัวรับรู้ผัสสะ(กระทบ)ผ่านเข้ามาทางหูจมูกลิ้นกายใจ**เพิ่มเติม**เรียกว่าจิตวิญญาณ
มีหน้าที่คิดได้ นึกปรุงแต่งตรึกตรองได้ พอใจได้
ไม่พอใจก็ได้ เรียกรวมๆว่า
มีอาการต่างๆ ที่มากระทำให้
กระเพื่อมได้

กับอีกจิตหนึ่งคือ จิตเดิมแท้(จิตพุทธะ)หรือนิพพานธาตุ
เป็นธรรมธาตุไม่มีเกิด ไม่มีดับ (ไม่มีอาการ
ใดๆที่มาทำให้กระเพื่อมได้)
ลุงแมวรู้แค่เนี๊ยะคับ

 

ก็อย่าไป แยก จิฮับ

เหมือน เราพูดถึง มนุษย์ กับ ไส้

พอเราพูด ไส้ ก็ดันไปแยกว่า ไส้ ไม่ใช่ มนุษย์

ลองเอาไส้ ออกจิ ฮ่านเรียกพี่

อาการพูดถึง จิต เจตสิก หากไปฟังธรรมะ จาก
พวก อภิธรรมบางจำพวก จะเกิดอาการ แยก
เอาไปวางต่างหาก เฮีย รับปลาทาน

หันมาพูดกับ คนปรกติ จะ เอา มนุษยโยนทิ้งเลย
ก็ ยากเกินไปที่จะ น้อมทิฏฐิมา

ก็เลยต้องอาศัย พูดถึง ไส้ มันเน่าได้

พอยอมรับว่า ไส้ เน่าได้ มันจะเกิด ปัญญาอันยิ่ง
เอะใจ จนขนหัวลุก

เรือหายและ ..... ไม่มี !!

 

ครับ

 

จะเข้าใจอย่างนั้นก็ไม่ผิด

จิต ก็ จิต
เจตสิก ก็คือ สัญญา เวทนาตกแต่ง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดับไป พร้อมกับจิต

ภาษาบ้านๆ ก้อารมณ์จิตบ้าง ความคิดบ้าง สติบ้าง ปัญญาบ้าง

ในหมวด จิตตานุปัสนา จิตพิจารณาจิต ก็คือ จิตพิจารณาเจตสิกนั้นเอง

 

ครับลุงแมว
ถ้าลุงเขียนแยกกันก็ok

 

กั๊กๆ แน่ใจ รึว่า

พระศาสดา กล่าว เพื่อเป็น การบัญญัติ

พระศาสดา กล่าว ในสิ่งที่ไม่เป็นสุญญตา
เพื่อโลกุตระแต่ส่วนเดียว

เอาอะไรมายัน

การหมดกิเลสลิ้นแล้ว มีไหม ข้อเท็จจริงใจตนมีไหม

หรือ นี่ก็แค่ ด้นเด้า เฮียส่งมาเกิด !!!

 

มีไหม ที่ไม่ได้ ด้นเด้า เดาเอา

สัจจ มีไหม !?

 

ตอแหลบริสุทธิ์ถือเป็นสัจได้บ่ครับ
55เลอะเถอะตามประสาผมละ

 

จิตเดิมแท้ ไม่ใช่ นิพพานนะครับลุงแมว

ความแท้ ความเดิมของจิต คือมี ความเป็น ปภัสสร นี่ถูกต้อง

จิตปภัสสร มีสภาวะโปร่ง เบา สบาย แต่ว่าโง่
ไม่ใช่ ว่าไม่ดีในทางปฏิบัตินะครับ ใครเข้าถึง จิตปภัสรได้ถือว่าดี มาถูกทาง ไม่เสียหาย

แต่ที่ว่าโง่ คือ ลักษณะ เดิมของมัน คือ มีสภาพ รู้อย่างเดียว นี่คือความเดิมแท้ของมัน

จะบอกว่า ไอ้รู้อย่างเดียวนี่ล่ะ อวิชาตัวพ่อ ผ่าม!!!!

 

มันเป็น การแปรง บาลี ของ ปุถุชน อะฮับ

ไม่เจตนาไม่ผิด แปลงไปจาก "ปราศจากเจตนาไม่ผิด"( ปาปมุติ ของ อรหันต์ )

ปุถุชน ไม่มีฐานะ จะมีได้เลย

อนาคามี ยัง ลูกผี(ใหญ่)ลูกคน

อรหันต์ เอาเข้าจริงๆ "ตาของโลกไม่มีแล้ว"
การที่ สาวกสำคัญว่า อรหันต์ แล้ว เที่ยว
ประกาศ จริงๆแล้ว ตาของโลกไม่ได้ยืนยันให้

ดังนั้น ยัง เฮีย อยู่ เว้นแต่ " ไม่ประมาท "

หรือมี ศาสดาคือ "ธรรม และ วินัย" ที่ไม่ใส่ลิ้นชัก
ตามคำสอน เฮียๆ ของคน บาง โคตารา วงษ์


ปล.ลิง กาลใดสมควรปรารภ ความเป็น อริยบุคคล
แล้วไม่แสดงออกไป หากเป็น พระ ปรับอาบัตินะฮับ
อันนี้ต้อง ทำความเข้าใจให้แยบคายด้วย ระหว่าง
กล่าวเพื่อเป็น อุบายให้กรรมฐาน กับ การกล่าว
เพื่อ หลอกแหลกมโนยุกยิก

 

แล้วคุณมีกิเสลอยู่ไหม?
ในขณะเขียนธรรมอยู่เนี้ย??
ถามหน่อย?



..

 

เขียนเหมือนตัวเองเป็นอรหันต์ เวร!!!

 

กั๊กๆๆ สังเกต ไหมฮับ ว่า ส่งจิตออก

ถ้าไม่ส่งออก ข้อเท็จจริง มีไหม

ถ้ามี แทบจะไม่ต้อง ถามอะไรอีก

 

นี้ไงสันดาน มันเป็นแบบนี้
แถไปเรื่อย..

 

กั๊กๆๆๆ

ที่เขียนออกมาเนี่ยะ

ออกมาจาก คะเนเอา จึงกล่าว

ออกมาจาก การมี ธรรมจักษุ เห็น จึงกล่าว

หรือมี สิ่งอันเป็นทิพย์ กระซิบบอก จึงกล่าว

 

อันนี้ถือว่าสังเกตุดีมาก
จิตมีอันเดียว นอกนั้นเป็นเจตสิก ..เจตสิกทุกชนิด อาศัยจิตจึงเกิด เจตสิกเกิดเองลอยๆ ไม่ได้ ที่จิตไปกอดอยุ่กับเจตสิกเพราะอวิชชาเป็นยาดำที่แทรกอยุ่ทุกขณะจิต ทำให้จิตเห็นทุกอย่างเป็นของเที่ยง ยึดถือไปหมด เพราะจิตเชื่ออวิชชา

จิตแยกจากเจตสิก(อวิชชา)ได้ เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัว อยุ่ด้วยกันได้ แต่ไม่ติดกัน (จิตถึงปัญญาไม่เชื่ออวิชชา) แต่จิตก้อไปเสพอย่างอื่นเป็นอารมณ์อีก (สภาวะสูงขึ้น)...ก้อละไว้แค่นี้

ปล. จิตประภัสสรนี่ นิกายเซนนะ ระวังถูกหลอก

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้

เอาเป็นว่า โดนมัน กุ้มรุม มะไหวแล้ว

บัดนั้น ........................

 

เราไม่ใช่พวกบ้า พวกคนปรเะภทนั้น..

เราภาวนาตามคำสอนองค์หลวงตาบัวเป็นหลักใหญ่

ที่เหลือภาวนาเพื่อศึกษา เพื่อบำเพ็ญบารมี

เรียนตำราหลายปีเพื่อหาจุดผืดพลาด

เราเล่นเวปเพราะมันสอนอะไรหลายอย่าง..

ส่วนงานที่ทำ ไม่บอก

 

พูดแบบนี้ ค่อย น่าตีกิน ต่อ


ฮิวววววววส์