พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

ei972017288th สามพราน

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ei972058424th สระบุรี

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

เปิดพระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์สร้างทาง ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง



จัดสร้างปี พ.ศ. 2546 รูปแบบเป็นทรงสามเหลี่ยมเนื้อผง ด้านหน้าเป็นรูปครูบาศรีวิชัย ด้านหลังเรียบ มีมวลสารหลัก คือ ผงพุทธคุณ และเส้นเกศาครูบาศรีวิชัย มีทั้งแบบลงชาดแดง ลงรักดำ และแบบเนื้อผงธรรมดาไม่ลงอะไรเลย จำนวนสร้างรวมทั้งหมด 300 องค์

 

เปิดพระผงขุนแผนเกศา ฉลองอุโบสถ ครูบากฤษดา



พระผงขุนแผนเกศา รุ่น "ฉลองอุโบสถ" จัดสร้างในปี พ.ศ. 2553 วาระเดียวกับดวงหทัยแก้วเจ็ดผลึก ออกให้บูชาปี พ.ศ. 2554 เพื่อฉลองพระอุโบสถหลังใหม่ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) จัดสร้างด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก จำนวนรวมกัน 399 องค์ มวลสารประกอบด้วยผงพุทธคุณ ว่านเกสรดอกไม้ สีผึ้งเทียนชัย 108 วัด และเส้นเกศาครูบากฤษดา

 

หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี
#เทวดาประจำตัว
ขออนุญาตเล่าเรื่องหลวงปู่ครับสมัยเราอายุประมาณ 14 ปี วันหนึ่งเราซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เพื่อน และเกิดอุบัติเหตุรถล้ม ได้ไปโรงพยาบาล ผลเอ็กซเรย์ขาข้างขวาหมอบอกว่า เอ็นฉีกขาด ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เรากลัวจึงไม่ยอมให้ผ่าตัดแต่ขอให้หมอเข้าเฝือก(เฝือกเราตัดตรงข้อขารอบๆออกนิดกลมๆเราถอดได้ใส่ได้)ให้เราก่อนสมัยก่อนจะมีพระวัดหนึ่งอยู่แถวถนนพระยาตรัง เป็นวัดที่ผู้นิยมไปรักษาต่อกระดูก เราบอกพ่อว่า เราขอไปรักษาแบบนี้ก่อนก็แล้วกัน เราไม่อยากผ่าตัด พ่อเราจึงลองพาไปรักษาที่วัดดังกล่าว วันนั้นไปมีคนมารักษาหลายสิบคน ทุกคนต้องอาบน้ำมนต์ก่อน ท่านถึงจะรักษาให้ ท่านจะให้ทุกคนนั่งเหยียดขาตรง พนมมือนั่งเรียงกัน ลูกศิษย์พระก็จะเตรียมถังสังฆทานใส่น้ำมนต์หลายสิบถัง หลวงพ่อท่านก็สวดแล้วราดน้ำมนต์ ตูมๆ..
พอมาถึงคิวเรา ท่านหยุด จับถังหลายรอบไม่รดเราเสียที เราสงสัย เราจึงเหลียวไปมอง เห็นท่านขยับเปิดแว่นขึ้นลงอยู่หลายครั้ง จับกระป๋องน้ำมนต์ก็หลายครั้ง แล้วท่านก็มองตรงไปด้านหน้าเรา สุดท้ายท่านเรียกแม่กับเราไปคุยบอกว่า
" ลูกโยมชะตาขาดแล้ว ตอนที่อาตมาจะรดน้ำมนต์ มีผู้ชายทั้งชี้หน้า ทั้งยกเท้าใส่หน้าอาตมา เขาบอกว่า ถ้ามึงรดมึงตาย "ท่านพูดย้ำ2-3ครั้งท่านตกใจเราก็ตกใจ

ท่านบอก ท่านพยามจะรดให้แล้ว แต่เค้าไม่ยอมจริงๆ (เวลานั้นก็ประมาณ 6 โมงเย็น) ท่านจึงให้น้ำมันมนต์กลับมาทาเองที่บ้าน เรายิ่งกลัวมาก กลับมาบ้านพ่อแม่เรารวมทั้งเรานอนไม่หลับกันเลย พอเช้าตรู่รีบไปวัดหลวงปู่พิศดู พอไปถึงเห็นหลวงปู่นั่งรออยู่เราแล้ว เราบอก..หลวงปู่ช่วยอมรด้วย มีพระท่านบอกว่าอมรจะตายแล้วนะหลวงปู่ ขนาดพระจะรดน้ำมนต์ ยังมีผีมายืนชี้หน้าพระไม่ให้รดน้ำมนต์ ผีตัวนี้ร้ายมากเลยนะหลวงปู่ มันจะมาเอาชีวิตอมร

แต่หลวงปู่ท่านรู้ล่วงหน้าแล้ว ตอนเห็นเราท่านก็หัวเราะ โฮ๊ะๆ ตลอด แล้วท่านบอกว่า

" ถ้ามันรดมันตายจริงๆนะ เทวดาเค้าเอาตาย จะไปกลัวอะไรไอ้อมร กลัวแม้กระทั่งเทวดาตัวเอง พระองค์นั้นศีลต่ำ เทวดาเค้าไม่ให้รดหรอก "

สรุปคือ.. ผีที่ว่านั้น กลับเป็นเทวดาประจำตัวเราเอง ไม่ใช่ผีสางที่ไหน แต่ที่เราต้องเกิดอุบัติเหตุ คงเป็นเพราะกรรมเก่าของเราเอง ทรือเพราะเพื่อนเราขับประมาท
วันนั้นเราเลยค้างวัดหลวงปู่อยู่เป็นเพื่อนลุงโข พ่อแม่กลับบ้านก่อน หลวงปู่เสกยาให้ทา ยาท่านดีนะเราหายโดยไม่ต้องไปผ่าตัดเลย
ใครมาถามอะไรในเรื่องที่มนุษย์ธรรมดาไม่รู้ แต่หลวงปู่ท่านจะหยั่งรู้ทุกๆเรื่องราวท่านมีคำตอบให้ลูกศิษย์เสมอ สาธุๆๆ
ข้อมูลAmorn Thanakornpattarakit

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ข้อมูลการสร้าง กบ(สาน)มหาลาภ-วัวธนู-หุ่นพยนต์

กบ(สาน)มหาลาภ
มีคณะศิษย์ที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่พิศดู ได้สร้างวัตถุมงคลชุดพิเศษขึ้นมา คือ กบสาน หุ่นพยนต์ วัวธนู ซึ่งวัตถุมงคลเหล่านี้ได้สร้างจากตอกไม้ไผ่(ขวางทาง) สานเป็นรูปต่างๆ ตามแบบฉบับตำราแห่งล้านนาโบราณโดยอาจารย์ผู้ทรงคุณความรู้สายภาคเหนือ และได้นำฝากขอความเมตตาต่อองค์หลวงปู่พิศดู ท่านครูบากฤษดา และครูบาอาจารย์ต่างๆ ทางภาคเหนืออธิษฐานจิตให้ เพื่อถวายให้กับวัดๆหนึ่งใน จ.นครราชสีมา
กบสานนี้ได้สร้างออกมา 2 วาระด้วยกัน..
ซึ่งกบสานวาระแรกที่สร้าง ได้นำเข้าฝากในพิธีอธิษฐานจิตพระกริ่ง-ชัยวัฒน์ธัมมะจารี กบชุดนี้สร้างประสบการณ์ปาฏิหาริย์ต่างๆมากมาย อาทิ มีผู้บูชากบหลายท่านได้ยินเสียงกบร้องในบริเวณที่บูชากบสาน แต่ไม่เห็นตัวกบ และผู้บูชาเหล่านั้นได้ประสบกับความเจริญรุ่งเรื่อง และมีโชคลาภต่างๆตลอด จึงได้มีการสร้างกบสานออกมาอีกวาระหนึ่ง
ซึ่งกบสานชุดที่สองนี้สร้างขึ้นพร้อมกับ วัวธนู และหุ่นพยนต์ ได้นําไปฝากเสกที่วัดเทพธารทองนานพอสมควร และได้ขึ้นไปขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์สายภาคเหนือหลายองค์ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ชุดเดียวกับที่เสกกบชุดแรก โดยกบชุดสองนี้ มีรูปแบบเหมือนกันกับกบชุดแรก แต่จะมีการทําสัญลักษ์ไว้ ให้แยกกันออก

วัตถุมงคลประเภทเครื่องรางเหล่านี้ มีผู้ศรัทธาสร้างขึ้น เพื่อนำไปมอบให้กับผู้บริจาคปัจจัย สร้างพระประธานที่วัดๆหนึ่งใน จ.นครราชสีมา และได้ตระเวณให้ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมทางสายล้านนาและหลวงปู่พิศดูเมตตาอธิษฐานจิตให้ และได้เข้าพิธีตักบาตรส่ง พระมหาอุปคุตที่วัดเทพธารทอง ในวันพุธ ขึ้น15 ค่ำ ตรงกับวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2553 แต่ไม่ได้ออกในนามวัดเทพธารทองแต่อย่างใด

กบ(สาน)มหาลาภ
มีคณะศิษย์ที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่พิศดู ได้สร้างวัตถุมงคลชุดพิเศษขึ้นมา คือ กบสาน หุ่นพยนต์ วัวธนู ซึ่งวัตถุมงคลเหล่านี้ได้สร้างจากตอกไม้ไผ่(ขวางทาง) สานเป็นรูปต่างๆ ตามแบบฉบับตำราแห่งล้านนาโบราณโดยอาจารย์ผู้ทรงคุณความรู้สายภาคเหนือ และได้นำฝากขอความเมตตาต่อองค์หลวงปู่พิศดู ท่านครูบากฤษดา และครูบาอาจารย์ต่างๆ ทางภาคเหนืออธิษฐานจิตให้ เพื่อถวายให้กับวัดๆหนึ่งใน จ.นครราชสีมา
กบสานนี้ได้สร้างออกมา 2 วาระด้วยกัน..
ซึ่งกบสานวาระแรกที่สร้าง ได้นำเข้าฝากในพิธีอธิษฐานจิตพระกริ่ง-ชัยวัฒน์ธัมมะจารี กบชุดนี้สร้างประสบการณ์ปาฏิหาริย์ต่างๆมากมาย อาทิ มีผู้บูชากบหลายท่านได้ยินเสียงกบร้องในบริเวณที่บูชากบสาน แต่ไม่เห็นตัวกบ และผู้บูชาเหล่านั้นได้ประสบกับความเจริญรุ่งเรื่อง และมีโชคลาภต่างๆตลอด จึงได้มีการสร้างกบสานออกมาอีกวาระหนึ่ง
ซึ่งกบสานชุดที่สองนี้สร้างขึ้นพร้อมกับ วัวธนู และหุ่นพยนต์ ได้นําไปฝากเสกที่วัดเทพธารทองนานพอสมควร และได้ขึ้นไปขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์สายภาคเหนือหลายองค์ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ชุดเดียวกับที่เสกกบชุดแรก โดยกบชุดสองนี้ มีรูปแบบเหมือนกันกับกบชุดแรก แต่จะมีการทําสัญลักษ์ไว้ ให้แยกกันออก

กบสานและวัตถุมงคลเหล่านี้ สร้างขึ้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์จริงๆ เพื่อมอบให้กับวัดวัดหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ซึ่งวัดนี้ได้กำลังก่อสร้างถาวรวัตถุ และยังไม่มีพระประธาน ทางคณะผู้อุปถัมภ์จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลชุดดังกล่าวถวายให้ครูบาอาจารย์ต่างๆเมตตาอธิษฐานจิต แต่ไม่ได้ออกในนามของวัดเทพธารทอง กบทั้งสองชุดนั้นปรากฏว่ามีประสบการณ์มากมายตามแต่วาสนาและบุญกรรมที่สร้างสมไว้ ซึ่งก็ได้เคยมีผู้นำกบสานและวัวธนูสานไปให้นักปฏิบัติผู้มีจิตสัมผัสถึงพลังลี้ลับได้ตรวจดู ผลที่สื่อได้ก็คือ กบสานชุดแรก เป็นกบที่มีอิทธิฤทธิ์ในตัว คล้ายกับมีชีวิต สามารถบนบานได้ พุทธคุณโดดเด่นทุกทาง แต่เน้นในทางป้องกันภัย .ส่วนกบสานชุดที่สองนี้ เป็นกบมหาลาภ เห็นเป็นกบสีทองส่องประกายทองอร่ามเจิดจ้า กบชุดนี้ครูบาอาจารย์ที่เสกเน้นไปทางโชคลาภสูงมาก กบ ทั้งสองชุดนี้มีญาน(รับรู้) ในสิ่งที่เจ้าของอธิษฐานขอได้ .และวัวธนูสาน ผลที่สื่อพลังได้คือ เห็นเป็นวัวธนูไฟ สามารถบูชาไว้เฝ้าบ้านเรือน เพื่อป้องกันเหตุเภทภัยต่างได้ แก้-กันคุณไสย ผีสาง และเทวดาที่ให้โทษได้ผลดีจริงๆ มีอาณาเขตรักษากว้างไกลตามแต่อธิษฐานเอา... ซึ่งทางคณะผู้สร้างก็สงสัยว่าทำไมเสกพร้อมกันกับกบมหาลาภ แต่ไฉนพุทธคุณจึงได้แตกต่างกันจึงได้กลับไปถามกับอาจารย์ผู้สานกบท่านนั้น ก็ได้คำตอบว่า เป็นการผูกอาการและตั้งธาตุต่างกัน กบนั้นอาจารย์ได้ตั้งธาตุน้ำ ส่วนวัวธนูได้ตั้งธาตุไฟ และการที่ถวายให้พระอริยะอธิษฐานจิตให้นั้น ท่านมิได้ปลุกเสกแบบใช้อาคม แต่ท่านใช้การอธิษฐานจิต และอธิษฐานบารมี ของที่ออกมาจึงได้มีผลสมควรแต่เหตุที่จะเป็นไปนั้นๆ และไม่มีเสื่อมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ หลวงพ่ออุตมะ ก็ได้เคยวิสัชนาเอาไว้ให้ได้รับความกระจ่างมาแล้วว่า พระอริยะเสกอะไร ผลก็เป็นอย่างนั้น(แม้จะเอาของหลายๆอย่างมาเสกรวมกันก็ตาม) และการเสกแบบนี้หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือก็เคยบอกเอาไว้ว่า การเสกมีอยู่ 2 อย่าง คือแบบโลกียะ และโลกุตระ แบบโลกียะใช้วิชาอาคมและพลังจิตจากสมาธิเป็นหลัก ผลที่ได้คือสามารถเสื่อมถอยได้ และอาจมีผลข้างเคียง .ส่วนการเสกแบบโลกุตระใช้ความบริสุทธิ์ ความว่างของจิต และอธิษฐานบารมีคุณพระเป็นหลัก ผลที่ได้คือไม่มีวันเสื่อมถอย และไม่ให้โทษ ไม่มีผลข้างเคียง มีคุณสูงกว่าโลกียะ ผลที่ได้รับนั้นจึงต่างกันสุดขั้ว..

 

เปิดพระอุปคุตลอยองค์ เนื้อผง หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง



รุ่นนี้สร้างประมาณปี พ.ศ.2550 โดยคณะศิษย์วัดห้วยขวางเป็นผู้สร้าง โดยสร้างจากผงพุทธคุณต่างๆมากมาย อาทิ ผงพุทธคุณของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ผงสมเด็จบางขุนพรหม ฯลฯ โดยช่วยกันกดพิมพ์ที่วัดห้วยขวาง กรุงเทพฯ ทั้งตำผง ผสมผง และกดพิมพ์กับมือใส่บล็อกยางแบบประกบ และได้นำมาถวายให้องค์หลวงปู่พิศดู ไว้แจกลูกศิษย์รวมกันทั้ง 3 เนื้อได้ประมาณ 1,500 องค์ มีทั้งสี ดำ น้ำตาล และสีขาว(ครีม)

 

เหรียญรุ่น3 เม็ดแตง(รูปไข่เล็ก)




- เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2547 สร้างถวายโดยลูกศิษย์สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่พิศดูนั่งพับเพียบ และมีลายเซ็นของหลวงปู่อยู่ด้านล่างอ่านว่า ธมฺมจารีภิกขุ ด้านหลังเป็นรูปพระนาคปรก และมีเลข ๑๐ อยู่ด้านล่าง หมายถึง กำลังวันของพระเสาร์ มีกำลังเป็น 10 มีเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียว จำนวนสร้างทั้งหมด 1,668 องค์