นักปฏิบัติ ที่ไม่เคยผ่าน อ่านแล้วอย่าเพิ่งหัวเราะ !!

บทสวดมนต์ก้อเหมือนคำบริกรรม ...บริกรรมเพื่อให้จิตมีสมาธิใช้งานได้ เมื่อจิตใช้งานได้ บทสวดมนต์ก้อไม่จำเป็นอีก จะพูดคำไหน....ทำอะไรก็ขลัง..

 

มนต์ของพระพุทธเจ้า เช่น
บท ธัมจักร

คือ คำสอน กัณ แรก

ใครท่องได้ จำได้ แปลเป้นไทยได้

สวดไป พินาไปก็เหมือน สอนตัวเอง และยังสอนเทวดา โอปปาติกะ ที่มาฟัง ด้วย

คนฉลาด ย่อมรู้จักใช้

อยู่ป่าอยู่เขา คนเดียว

มนต์ หรือ คำสอนพระพุทธเจ้า จะส่งเสริม

แม้แต่ อยู่ตึกในเมือง ผลพลอยได้ยังส่งเสริมการงาน

 

ก้อสวดเพื่อให้จิตขลัง จิตมีพลังไหมหล่ะ พอจิตมีพลังอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ....แต่ทีนี้ ลป. ลพ.ที่จิตมีพลังแล้ว อาจ แค่ท่องบ่นมนต์คาถาเป็นพิธีเท่านั้นก็ได้ เวลาจะทำงานศาสนาอะไรก็ตาม...

เหมือนคนพูดจริงทำจริง ใครๆ ก็นิยม ก็เชื่อ ...แม้จิตจะยังไม่สะอาดก็ตาม

 

ที่ท่านปราบกล่าวมาถูกต้องทุกประการคับ
แต่ท่านกล่าวมานั้นมันเป็นการเรียนของด็อกเตอร์คับ

 

จริงๆ ใครจะชอบแบบไหน ทำแล้วมีกำลังใจก็ทำไปเหอะ บทสวดมนต์พระพุทธเจ้าไม่มีโทษหรอก..แต่มันก็แค่..หวีขี้เกียจสวด 55

 

อำนาจจิต เป้นแค่ผลพลอยได้

ในการจดจ่อในคำสวดมนต์

แต่คนที่เข้าใจความหมายและคำสอนตามบทสวด
ก้ฝึกตามบทสวดมนต์ไปในตัว
อย่าง มนต์ธัมจักร คือการสอน วีธีทำ ในการพ้นจากสังลาวัด
ไม่ใช่เป้นพีธีรีตรอง

ใครน้อมไปทำตาม มีแต่ประสพสุข


ผลพลอยได้อีกอย่าง

เสียงจะสะเทือนในระบบร่างกาย บำบัดโรคา ไปในตัว

และยังเป้นการสร้างสนามแม่เหล้กไฟฟ้า หาก ทุกครัวเรือนสวดมนต์ธัมจักร

จากหนึ่งเป็นสอง
สองเป็นสี่
สี่เป็นแปด เป็น สิบหก เป้นสามสิบสอง

จากหนึ่งหมู่บ้าน
เป็น สอง เป็นสาม เป้นสี่หมู่บ้าน

เป็น ตำบล เป็นอำเภอ เป็นจังหวัด ประเทศไทยก้จะมีสนามแม่เหล้ก ขับเคลื่อนด้วยความสมดุล

ยิ่งแผ่ไปจาก หนึ่งประเทศ สองประเทศ เป็นเป็นสามสี่ห้า หกเจ็ด เป้นสิบเป้นร้อยทั่วโลก

สนามแม่เหล้กโลกจะพัฒนาความสมดุล ปรับระบบภัยภิบัติให้สมดุล ของโลก

ผลพลอยได้ของการสวดมนต์

ยังมีอีกเยอะ
ใครมีปัญญาก็จักใช้ได้อย่างมีคุณค่า

 

ลองไปหาคำ ลพ.เดิม วัดหนองโพอ่านดูค่ะ จะได้เข้าใจ..บทสวดไม่ขลัง แต่ขลังที่สติ สวดมากๆ จะมีสติ สมาธิ ปัญญาก้อจะเกิด จะแก้ปัญหาได้

 

ก่อนจะเป็นพลังงานสนามแม่เหล็ก
ลูกเหล็กนิวเคลียร์ต้องปลิวว่อนก่อนคับ

 

คุณไปแปล คำว่ามนต์แบบนั้น

ไปแปลทางไสยศาสตร์ มันก้ตามนั้น

คำแปลจากมนต์พระพุทธเจ้า ผมก้ยกมาให้ดู

ก้เอามาจากพระไตรปิฎก

 

ศาสตร์ไหนก็ต้องใช้มโนเรียนอยู่ดีคับ

 

มนต์ใช้ทำความดีมะโนก็ขาว
มนต์ใช้ทำความไม่ดีมะโนก็ดำคับท่านปราบ

 

ผมก้ยกคำแปลในพระไตรปิฎก
มาให้อ่านแล้ว

ก้แล้วแต่ ใครจะนำไปใช้

 

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ" ๙ อักขระขลังที่ว่านี้ คือ "คาถาหัวใจพุทธคุณ ๙ " หรือบางท่านเรียกว่า “นวหนรคุณ”

บทนี้เคยช่วยให้ได้หายใจต่อได้ จินๆ นะ ไม่ได้อวดอุตริ

 

อยู่ที่ ความ ศรัทธา จึงมีการกระทำ

ผมจะชอบตรงที่ มนต์ความทุกข์ พอได้ยินจะระลึกเลยว่า ทุกข์อริยสัจ เป็นอย่างนี่ ซึ้งในคำสอนเลย และนึกไปว่าทุกคนก็รู้ได้แน่นอน

 

มนต์สำหรับผม คงเป็น มนต์แบบความผิดพลาด
คือ ปากหมาไปก่อนแล้วถึงรู้ว่าผิด

ว่าเรื่องที่ไม่สมควรพูดมีอยู่ กับบางคนสมควรพูดได้

ถึงได้รู้จักใช้ให้ถูก 555+

ปากหมาพาซวยยยย

 

อย่าเรียกอาจารย์เลยครับ

เรียกพี่เรียกน้องตามอัธยาศัย
แนะนำแลกเปลี่ยนกันไป

 

เพื่อนหวีนะ ...เวลาไปสวดมนต์ที่วัด เสียงเปลี่ยนประจำ จะเล็กๆ แหลมๆ แล้วตะโกนลั่นห้อง ดังกว่าพระนำสวดอีก ...ขนาดท่านใช้ไมค์ ...แจ้งเกิดมั่กๆ เพราะทุกคนจะหันมาหานางหมด ......ลักษณะ คล้ายๆ พวกสวดภาณยักษ์นิดๆ แต่นางแค่เสียงเปลี่ยน ..ถ้าแตะแขนนาง...ก้อจะลักษณะตกใจแล้วสติจะกลับคืนมา

..นางบอกบ้านนางทำงานกึ่งร่างทรงนิดๆ แต่นางก้อดูปกติ ยกเว้นแค่ตอนสวดมนต์

 

นางโดนผีหลอกคับคุณปวี

 

พวกนี้เขามี วิญญาณแฝง

คนไม่มีความรู้ด้านนี้แนะเขาไม่ได้ จะกลายเป้นไปขวาง ไม่ใช่อะไรๆ ก็อุปาทานหมู่
อย่างกะทู้นั่งสมาธิแล้วจะอาเจียน
แต่หากฟังหลวงปู่พุธ จะมีทางออก

 

ผีหลอกรึป่าวไม่รู้ ..รู้แต่เซ็งมาก เสียงดังฝุดๆ พอนางรุ้ตัวก้อจะสวดปกติ อีกแป๊บก็เสียงเปลี่ยนอีกแระ จนนางต้องนั่งเฉยๆ ฟังคนอื่นสวดไป

นางบอกมีเทวดามาสวดด้วย เขาจะชอบสวดเสียงดังๆ แต่นางก้อปกตินะ ส่วนจะแก้ยังไงไม่รู้เหมือนกัน แต่บ้านนางก็สวดบทสรรเสริญพระพุทธเจ้า....แต่บ้าน(ญาต)เออญาต..ไม่ใช่บ้านนาง... บ้านญาตนางคล้ายร่างทรง นางชอบไปสุงสิงด้วย ..อันนี้นางเล่าให้ฟัง
นางชอบไปฝึกทางวัดสังฆทาน จะชอบ ลพ.พุธรึป่าว น่าจะไม่ชอบนะ