**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6984

    พระกริ่งรุ่นแรกครูบาอินตา วัดวังทอง จ.ลำพูน เนื้อเงิน จัดสร้างน้อยมาก องค์นี้หมายเลข 11

    พระครูถาวรศีลคุณ (ครูบาอินตา ธนกฺขนฺโธ)อายุ 101 ปี 79 พรรษา วัดวังทอง
    ครูบาอินตา เกิดวันเสาร์ แรม 10 ค่ำเดือน 2 ตรงกับวันที่ 12 มกราคม 2453 ปีจอ (ปีเส็ด ) ซึ่งอยู่ในช่วง แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลเจ้าเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
    ครูบาอินตา เกิดที่ บ้านเหมืองง่า ม.2 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน โยมพ่อชื่อนายตา โยมแม่ชื่อนางบัวแก้ว นามสกุล ธนาขันธรรม ท่านเป็นหลานท่านเจ้าคุณพระญาณมงคล (ครูบาปวน อภิชโย ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำพูน รูปที่ 4 อดีตเจ้าคณะแขวงลี้ อดีตเจ้าอาวาสวัดเหมืองง่า อยู่ในครอบครัวชาวนา ซึ่งในขณะนั้นเป็นอาชีพที่มีฐานะยากจน มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา 5 คน พระเดชพระคุณเป็นคนสุดท้อง และมีน้องบิดาเดียวกัน แต่ต่างมารดาอีก 5 คน
    ขะโยมวัดเหมืองง่า
    ครูบาเมื่อเป็นเด็กชาย อินตา ธนาขันธรรม อายุ 7 ขวบ (พ.ศ. 2460) โยมพ่อแม่นำมาฝากกับครูบาปวน อภิชโย ขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะแขวงชั้นเอกราชทินนามที่พระครูมหาศีลวงค์
    ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวงเมืองลำพูนเจ้าอาวาสเหมืองง่า ครูบาฯ ได้เป็นเด็กวัดและได้เรียนหนังสือครั้งแรกกับครูบาปวน และได้เรียนหนังสือพื้นเมือง(ภาษาล้านนา) ในสมัยนั้น
    ที่โรงเรียนวัดเหมืองง่า ซึ่งเป็นโรงเรียนแรก ในตำบลเหมืองง่า ในจบชั้นประถมปีที่ 4 พ.ศ. 2464
    ระหว่างเป็นเด็กวัดและบวชเป็นสามเณรอยู่นั้น ครูบาฯ ได้เรียนคาถาและวิทยาคมจากครูบาปวน เล่ากันว่าเป็นผู้ที่ถือของคลังและวิทยาคมเป็นอย่างมาก
    พ่อเจ้าเหนือหัวพลตรี มหาอำมาตย์โทเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหอคำเมืองนครลำพูน ถึงกับมีความเลื่อมใสเป็นพิเศษ
    ซึ่งพระสงฆ์ที่เจ้าเหนือหัวทรงให้ความเคารพนับถือเป็นพิเศษมีอยู่ 4 รูป ด้วยกันคือ
    1. ครูบาธรรมชัย ธัมมัมชโย วัดประตูป่า ต.ประตูป่า อ.เมือง ลำพูน
    2. ครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ ลำพูน
    3. พระญาณมงคล (ครูบาปวน อภิชโย) วัดเหมืองง่า ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน
    4. ครูบาติกขะปัญโญ วัดวังทอง อ.เมือง ลำพูน
    ครูบาติกขะรูปนี้ ถูกบังคับให้สละสมณเพศ หลังจากหลวงจักรคำฯ ถึงแก่พิราลัย และครูบายังได้เรียนคาถาวิทยาคม ยังได้สืบทอดวิถีการสะเดาะเคราะห์
    และได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ครูบาศรีวิชัย ได้ 3 ปี ได้กราบลาครูบาศรีวิชัยเดินทางกลับวัดเหมืองง่า เพื่อที่จะเข้าพิธีญัตติจตุถกรรมวาจาเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2474
    ในครั้งนั้น ครูบาปวน รักษาการเจ้าคณะนครลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาสุดใจ ญาณวุฒิ วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระกรรมวาจารย์
    พระครูสมุห์จรูญ วัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า ธนักขันโธ
    ครูบาติกขะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังทอง เจ้าจักรคำฯ ให้ความนับถือศรัทธาเป็นพิเศษ หลังจากเจ้าจักรคำถึงแก่พิราลัย พ.ศ. 2584
    พระครูบาติกขะเป็นพระผู้ที่เข้มงวด ในเรื่องการปฏิบัติและเป็นผู้ที่ถือของขลัง ในครั้งนั้นได้มีชาวบ้าน ไปแจ้งพ่อแคว่น (กำนัน) ว่าครูบาติกขะได้ฆ่าวัวของชาวบ้านว่ามากินหญ้าหน้าวัด
    เพราะวัวของ ชาวบ้านได้มาทำความเสียหายแก่วัดวังทอง ครูบาติกขะได้ถือก้อนหินเท่าลูกกำปั้นปาถูกกะโหลกหัวของวัวเสียชีวิต กำนันในสมัยนั้นได้มาสอบสวนหาสาเหตุท่านไม่ยอมพูด
    กำนันได้ใช้กำลังชกต่อยครูบาติกขะ ท่านไม่ได้ตอบโต้แต่พอตอนกลางคืนกำลังพักผ่อน ได้ล้มพับลงกับที่แล้วมีเลือดไหลออกปาก จมูก จนเสียชีวิตกับที่สร้างความแปลกใจให้แก่ลูกบ้าน ครอบครัว เป็นอย่างยิ่ง
    ทำให้ทุกคนสงสัยว่า ครูบาติกขะเป็นผู้ที่ให้กำนันเสียชีวิต เพราะเชื่อในวิทยาคมของครูบาติกขะ ซึ่งชาวล้านนาเรียกพิธีนี้ว่า "การตู้ของใส่ของ" สาเหตุอย่างถึงที่ ครูบาติกขะถูกบังคับให้สละสมณเพศ
    เพราะว่าครูบาติกขะเป็นผู้ไม่เกรงกลัวอำนาจการปกครอง ทำให้คณะกรรมการและคณะสงฆ์ยำเกรง จนทำให้คณะสงฆ์ชั้นปกครองไม่สามารถทำงานได้สะดวกเพราะเกรง ในวิทยาคมของครูบาติกขะ
    ครูบาอินตา มรณะภาพแล้วฟื้น
    เมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ครูบาอินตาได้อาพาธหนัก และเข้ารักษาที่ รพ.ลำพูน จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2532 อาการยังไม่ดีขึ้นและทรุดหนักจนไม่รู้สึกตัว
    แพทย์จึงนำส่งโรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ แพทย์ได้นำครูบาอินตาเข้าห้อง ไอซียู และไม่รู้สึกตัวถึง 8 วัน พอถึงวันที่ 7 มีนาคม 2532 แพทย์ได้มาแจ้งว่าครูบาอินตามรณภาพแล้ว
    ทำให้ลูกศิษย์ ต่างเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ขณะที่แพทย์จะฉีดยาศพ ปรากฏว่า เข็มฉีดยากับแทงไม่เข้าและได้หักงอ แพทย์จึงตัดสินใจไม่ฉีดยาศพ และเมื่อจะอาราธนาศพขึ้นรถ
    เพื่อไปส่ง ณ วัดวังทอง ครูบาอินตา ก็รู้สึกตัวและเหนื่อยหอบ สร้างความตกในแก่แพทย์ และได้นำครูบาอินตาเข้าห้อง ไอซียู และรักษาจนหายปกติ
    ชื่อเสียงของหลวงปู่ครูบาอินตา ท่านเป็นหนึ่งในผู้ปลุกเสกเหรียญกู่ช้างอันโด่งดังของ จ.ลำพูน รวมถึงคาถา มหาเสน่ห์ มหานิยม พุทธคุณดีด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยมโชคลาภ แคล้วคลาด ค้าขายร่ำรวย ด้านคงกระพันนั้น นอกจากนั้นในอดีต หลวงปู่ครูบาอินตา เป็นผู้หนึ่งที่ “มรณภาพแล้วฟื้น”
    มีเรื่องเล่าว่า เวลาจำวัดท่านจะจำวัดที่ระเบียงกุฏิท่าน ท่านจะไม่เข้านอนภายในแม้จะฝนตก แดดออก หรือ อากาศหนาวเย็นเพียงใดก็ตามกุฏิท่านจะเต็มไปด้วยข้าวสาร และข้าวสุก ที่ท่านโปรยให้บรรดานกต่าง ๆ ภายในวัดได้อาศัยจิกกิน ซึ่งแสดงถึงความเมตตาของท่านอีกทั้ง ท่านไม่ถือยศศักดิ์ ลูกศิษย์ลูกหาเข้าพบได้ตลอด หากท่านไม่ติดกิจนิมนต์ไปนอกวัด และใครไปหาท่าน ๆ มักบอกคาถา จ่ายมบาล ป้องกันเคาระห์อันตรายต่าง ๆ ท่านบอกว่าจ่ายมบาลให้มาตอนมรณภาพแล้วฟื้น คาถาว่าดังนี้ครับ “สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ มะอะอุ พุทโธเน้อ ธัมโมเน้อ สังโฆเน้อ” หลวงปู่ครูบาอินตา มรณะภาพลงเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2552 สิริอายุ 101 ปี 79 พรรษา

    พระกริ่งรุ่นแรกครูบาอินตา วัดวังทอง จ.ลำพูน เนื้อเงิน จัดสร้างน้อยมาก จำนวนจัดสร้างประมาณ 20 กว่าองค์เท่านั้นองค์นี้หมายเลข 11

    ราคา 6500 บาท สนใจสอบได้ครับ 086-1936900

    Clip_6.jpg Clip_5.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg Clip_10.jpg Clip_9.jpg




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6985

    เหรียญรุ่น 2 ครูบาผาผ่า วัดกิตติวงศ์ ปี 2520 เนื้อเงิน
    ตอกโค๊ต สวย ๆ ครับ


    · ตนบุญแห่งอำเภอแม่สะเรียง ผู้มีสมาธิจิตแก่กล้าแต่เยาวัย
    · สามารถหยั่งรู้จิตใจของคนอื่นและเหตุการณ์ล่วงหน้าได้
    · ผู้ถือมังสะวิรัติเคร่งครัดในพระกัมมัฎฐาน เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม
    · เป็นพระภิกษุรูปเดียวที่ครูบาเจ้าศรีวิไชย ยกย่องประกาศเกียรติคุณว่า มีบุญญาธิการบารมีแก่กล้า แต่ไม่ชอบแสดงตนและยอมรับว่าเป็น “ ตุ๊น้อง ”
    จัดสร้างเมื่อปี2520 เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถวัดกิตติวงศ์ และสร้างกุฏิสงฆ์วัดผาผ่า อำเภอแม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน เหรียญรุ่นนี้จัดว่าเป็นเหรียญนิยมสายครูบาผาผ่า เนื่องจากเจตนาสร้างดี และเหรียญรูปแบบสวยงาม เหรียญนี้เนื้อเงินหายากมากครับ


    ราคา 4800 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญครูบาผาผ่า เงิน 3.0 a.jpg เหรียญครูบาผาผ่า เงิน 3.0 c.jpg เหรียญครูบาผาผ่า เงิน 3.0 d.jpg เหรียญครูบาผาผ่า เงิน 3.0 b.jpg

    Clip_13.jpg Clip_14.jpg Clip_15.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6986

    รูปหล่อบูชาครูบาพรหมาวัดพระพุทธบาทตากผ้า ขนาด 5 นิ้วเดิมๆ


    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย ประวัติ วัยเด็ก ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน บรรพชาและอุปสมบท ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป ละสังขาร ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี คำสอน ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย “การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว” “ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย” “คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า” คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาแห่งแดนล้านนา เข้มขลังมากครับ

    ราคา 5500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_17.jpg Clip_18.jpg Clip_19.jpg Clip_20.jpg Clip_21.jpg Clip_22.jpg
    Clip_23.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6987

    รูปหล่อรุ่นแรก ครูบาขันแก้ว อุตตฺโม วัดสันพระเจ้าแดง หน้าตัก5นิ้ว วัดสันพระเจ้าแดง ปี พ.ศ.2521

    จัดสร้างน้อยมาก จำนวนเพียง250องค์เท่านั้น ออกแบบการปั้นหุ่นโดย อ.กนก บุญโพธิแก้ว งดงามและเหมือนท่านมาก
    ก้นดินไทน อุดผงแก้วสามดวงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ตอกโค๊ต .ผิวหิ้งแห้งๆสวยเดิมๆครับ

    พระบูชาครูบาขันแก้ว 15.5 a.jpg พระบูชาครูบาขันแก้ว 15.5 b.jpg พระบูชาครูบาขันแก้ว 15.5 c.jpg พระบูชาครูบาขันแก้ว 15.5 d.jpg พระบูชาครูบาขันแก้ว 15.5 e.jpg พระบูชาครูบาขันแก้ว 15.5 f.jpg Clip_27.jpg Clip_24.jpg
    ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ถือเป็นพระเกจิล้านนาอีกท่านหนึ่งที่เป็นทั้งนักพัฒนา นักเทศน์ และยังมีฝีมือทางด้านศิลปะ ขณะครูบาขันแก้ว พรรษาที่ ๘ อายุ ๓๐ ปีตรงกับพ.ศ. ๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาจาริกธุดงค์มาบูรณะพระเจดีย์ และพระวิหารที่ “ดอยห้างบาตร” ครูบาศรีวิชัยได้เห็นฝีมือความสามารถทางช่างและอินทรีย์ที่ผ่องใสจากการปฏิบัติธรรม จึงได้มอบหมายให้ดูแลการบูรณะพระเจดีย์และพระวิหารแทน ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะได้จาริกธุดงค์ต่อไป ได้ให้พรครูบาขันแก้ว อุตตโม ว่า
    “ให้ตุ๊น้องจงปฏิบัติธรรมจนไม่หวั่น ไหวในโลกธรรม ๘”
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้วอุตตโม) อดีตเจ้าอาวาส วัดสันป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) เกิดเมื่อวันอังคาร ที่ ๑๔ พ.ย.๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุนที่ ต.ห้วยยาบ อ.เมือง จ.ลำพูน มีนามเดิมว่า ขันแก้ว นามสกุล อิกำเหนิด บิดาชื่อ นายอินตา อิกำเหนิด มารดาชื่อ นางสม อิกำเหนิด ท่านครูบามีพี่น้องเกิดท้องเดียวกัน ๕ คน เป็นน้องหญิง ๓ คน น้องชาย ๑ คน คือ
    ๑. พระครูอุดมขันติธรรม(ครูบาขันแก้ว อุตตโม)
    ๒. ด.ญ.อุ่น อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์)
    ๓. นางบัวเขียว อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นายก๋อง อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมแต่มีบุตรหลานสืบสกุลอยู่ในปัจจุบันนี้)
    ๕. นางทา อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    โยมปู่ครูบาขันแก้ว ได้อพยพครอบครัวมาจาก ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูนมาอยู่ ต.ห้วยไซก่อน แล้วจึงได้อพยพย้ายครอบครัวลงมาอยู่ที่ ต.ห้วยยาบ ตั้งรกรากใกล้กับวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ซึ่งเป็นวัดร้าง และได้เป็นหัวหน้าบูรณะ ซ่อมแซมก่อสร้างจนเป็นวัดขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว อุตตโม) ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี ณ วัดป่ายาง อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดต้นปิน ต.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระอธิการแก้ว (ครูบาอินทจักโก) วัดป่าลานเป็นพระอุปัชณาย์ ได้ฉายาว่า “อุตตโม” พรรษาที่ ๔ อายุได้ ๒๕ ปี ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ จ.ลำพูนให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่ายาง เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘
    พรรษาที่ ๖ อายุได้ ๒๗ ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยยาบและเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะตำบลบ้านธิอีกตำแหน่ง ปกครองดูแลวัดทั้ง ๒ ตำบลถึง ๖๘ วัด พรรษาที่ ๓๒ อายุได้ ๕๓ ปี ได้รับสมณศักดิ์พระครูชั้นประทวนและในพรรษานี้ได้ไปบำเพ็ญมหากุศล มหาวิบากญาณรัมปยุต ๑๓ และมหากิริยาจิตเข้า “อภิสัญญาณโรธ”กับครูบาชุ่มโพธิโก ณ “ดอยห้างบาตร” เมื่อบำเพ็ญทุกข์กิริยาเพื่อให้เกิด “วิปัสสนาญาณ” ได้ “ธรรมจักษุ” (ดวงตาเห็นธรรม) ๗ วัน ๗ คืน ใน ๔ อิริยาบถ พรรษาที่ ๔๙ อายุได้ ๗๐ ปี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอุดมขันติธรรม”
    ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ และปีพ.ศ.๒๕๒๓ ครูบาขันแก้วได้เมตตาต่อคณะศิษย์วัดมีพรหมโพธิโก แสดงมหากิริยาจิต กำหนด “สุขวิปัสสก” ด้วยโสมนัสสหคตังญาณ สมปยุตตัง อสังขาริกัง ให้เกิด ”ปัญญาวิมุตติ” ได้”ธรรมจักษ์” ประหารกิเลสด้วย “สมุทจเฉทประหาร” และกำหนดมหากิริยาจิตแสดง “นิพพานัสส รจังฉิกิริยา” (การทำให้แจ้งในพระนิพพาน) ด้วยอารมณ์การได้ “มงกฎพระเจ้า” ดวงตาของครูบาขันแก้ว อุตตโม ได้เปลี่ยนสีจากสีเนื้อลูกลำไย เป็น “สีฟ้าเข้มทั้งดวงตา” แสดงถึงกิริยาของผู้หมดกิเลสเป็นการเปิดภูมิปัญญาในโลกุตรภูมิ เบื้องต้นและโลกุตระภูมิสูงสุด พระเมตตาคุณที่ได้แสดงมหากิริยาจิตในการโปรดสัตว์ทั้งสองครั้งนี้ ยากที่จะลืมเลือนได้
    หลวงปู่ขันแก้ว เป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์ หลวงปู่ครูบาขันแก้ว มาร่วมพิธีด้วยแสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
    พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้ว ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
    คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้ว ปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต
    คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็น หลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสก พระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุข
    พระอริยะสงฆ์ผู้ที่จารึกว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ มีไว้บูชาติดตัว ติดบ้านร่มเย็นเป็นสุข กันภัยที่จะเกิดขึ้นทั้งปวงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6988

    กุมารดวงดี รุ่นดวงดีทวีทรัพย์ ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ปี 2552
    เนื้อสัมฤทธิ์ปัดทอง ขนาดสูง 3 นิ้ว


    ตอกโค้ด ด้านหลัง ก้นอุดผง มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง มี นิลโบราณ ข้าวเปลือก ข้าวสารเสก จีวรหลวงปู่ครูบาดวงดี ดิน 9 นคร ดิน 7 น้ำ 7 ท่า ดินโป่ง เพชรหน้าทั่ว ตระกรุด นะ ชา ลี ติ ผงธูปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 76 จังหวัด ดินวัดพระแก้ว เม็ดเหล็กไหลน้ำ เปลือกไผ่ตัน ชานหมาก ครูบาดวงดี ดินบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์ 7 แห่ง ดินบ้านเศรษฐี 9 แห่ง ตะกรุดหัวใจพระอุปคุต และมวลสารอื่นๆ พระอาจารย์สายกรรมฐาน และ พระเกจิอาจารย์ ร่วมปลุกเสกทั้งเทวาภิเษก และ พุทธาภิเษก อาทิ หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี พ่อครูพราหมณ์ ป. เลี่ยมเพ็ชรรัตน พระอาจารย์ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล หลวงปู่เณร คำภีโร ครูบาจันทรังษี วัดกู่เ้ต้า ครูบาสุบิน วัดทองสะอาด และอาจารย์ท่านอื่่นๆอีกมายมาย
    ครูบาดวงดี ศิษย์เอกเพียงท่านเดียวของ ครูบาเจ้าศรีวิไชย ตนบุญแห่งล้านนาไทย ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชาการสร้าง กุมารทอง ซึ่งเป็นต้นแบบ กุมารทอง ล้านนา ไทยจัดสร้าง มานานกว่า 40 ปี ท่านได้อัญเชิญจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเทพจากสวรรค์ ชั้น จาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นภพภูมิใกล้มนุษย์ที่สุด เข้าประทับสถิต ในหุ่น กุมารทอง ฉะนั้นจึงมีแต่ให้ "คุณ" ไม่มีโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น คาถาบูชา ลูก กุมารทอง เทพฤทธิ์ นะโม ๓ จบ จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะ สิกกัง รูปัง กุมาโรวา นิมิตตัง กุมารทอง อาคัจฉาหิ จิตติ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ คาถาเรียกกุมาร นะโม ๓ จบ เอหิ กุมาโร เอหิ กุมารี ปิยังมะมะ (ชื่อ กุมารทอง) จงมา เมื่อสมัยผมยังเด็ก หลวงปู่ ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า การเลี้ยง กุมารทอง ให้เรารัก กุมารทอง ดุจดั่งลูกของเรา หมั่นพูดหมั่นคุยด้วยมีอะไรให้บอกกล่าว หมั่นสวดคาถาบูชา กุมารทอง เหมือนกับแบตเตอรี่ ใช้ไปก้อเสื่อมได้ ต้องสวด เพื่อ ชาร์จแบต อยู่เสมอ อานุภาพ กุมารเทพฤทธิ์ ครอบจักรวาล ไม่ว่าจะ บนบาน ค้าขาย ดลจิตดลใจ มหาเสน่ห์ ตรึงจิต ตรึงใจเพศตรงข้าม กันคุณไสย ลมเพลมพัด ปกป้องทรัพย์สิน คุ้มครอง กระซิบเตือนภัย บอกเหตุร้ายดี ท่านว่า ท่านเสกครอบ ครบทุกด้าน เพื่อให้คนที่ นำไปใช้ สำเร็จผล ทุกประการ ตามที่ปรารถนา
    สวยเดิมๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_30.jpg Clip_36.jpg Clip_31.jpg Clip_32.jpg Clip_33.jpg Clip_34.jpg Clip_35.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2021
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6989

    ชุดวัตถุมงคลครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เลี่ยมหัวกระสุนเดิมจากวัด เส้นเกศา ชานหมาก


    วัตถุมงคลของครูบาชัยวงค์ที่ทางวัดได้จัดสร้างขึ้น เลี่ยมเดิมจากวัด เป็นฝีมือพระเณรและลูกศิษย์ในวัดช่วยกันเลี่ยมให้หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตให้ แล้วนำออกแจกจ่าย และให้บูชาทางแผนกวัตถุมงคลให้ผู้ที่เลี่อมใสศรัทธาในหลวงปูครูบาชัยวงค์ เก็บไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับของที่ได้นำมาเลี่ยมหลวงปู่ท่านได้มอบให้ มีทั้งเส้นเกศา สำหรับพุทธคุณนั้นใช้ทางด้านเมตตามหานิยม เป็นวัตถุมงคลอีกชิ้นหนึ่งที่น่าเก็บไว้บูชา เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ สิ่งของทุกอย่างได้รับมอบจากหลวงปู่ทั้งนั้น แบบมาตรฐาน เลี่ยมหัวกระสุน จัดสร้างทันหลวงปู่ แท้ดูง่าย แบ่งปันสำหรับผู้ศรัทธา #ของมงคลสูงค่า น่าบูชาครับ สวยเดิมๆแท้ดูง่ายมาตรฐานสากลครับ

    ราคา 1350 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เส้นเกศาครูบาชัยวงศ์ 400 a.jpg เส้นเกศาครูบาชัยวงศ์ 400 e.jpg เส้นเกศาครูบาชัยวงศ์ 400 c.jpg เส้นเกศาครูบาชัยวงศ์ 400 d.jpg เส้นเกศาครูบาชัยวงศ์ 400 b.jpg Clip_28.jpg Clip_29.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6990

    ตะกรุดโทนเกราะเพชร ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เป็นตะกรุดคาดเอว ขนาด 3.5 นิ้ว ถักเชือกแดง สวย เดิมๆผิวหิ้ง

    อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า
    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี
    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ

    รุ่นนี้มีประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่ง นายทหารมาเช่าบูชาตะกุดโทน จากท่านพิน(พระเรขา) เอาไปทดลองยิงด้านหลังกุฏิ แต่ไม่ออก.. นานทหารท่านนี้จึงเข้าไปหาครูบาอิน ท่านได้ตำนิ ว่ามึงไม่นับถือกูก็อย่าเอาไปใช้ กูไม่ชอบให้ใครมาทดลอง.. นายทหารท่านนี้แปลกใจว่าหลวงปู่รู้ได้ยังไง..ก็กราบขอโทษครูบา ว่ามิได้มีเจตตนา ไม่ดี เด่นด้าน คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ประสบการณ์มากมายคับ

    วัตถุมงคลอีกรุ่นสุดยอดประสบการณ์ ผ่านการใช้มาอย่าโชกโชนดูง่ายครับ


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    Clip_40.jpg Clip_41.jpg Clip_42.jpg Clip_43.jpg

    5LaYLYfhWmK9XW70Y0XP1WUEO4HYA0akbeCwhgB9yDeq&_nc_ohc=svtPnGJ_RGcAX-HzWNu&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2020
  8. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับพี่
     
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6991

    แผ่นยันต์เทวดาหลงห้อง ครูบาเจ้าอินสม สุมโน วัดทุ่งน้อย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    ยันต์นี้เป็นสุดยอดยันต์เมตตามหานิยม (นึกดูขนาดเทวดาเข้าห้องยังหลงหาทางออกไม่ถูก) เป็นยันต์ที่มีอยู่สำนักเดียวในล้านนา ครูบาอินสม ท่านเก่าวิชาอาคม ทั้งเลขยันต์เเละพระเวทย์ประสบการวัตถุมงคลของท่าน สามารถช่วยชิวีตคนมาเเล้วนักต่อนักให้ลอดพ้นภัยอันตราย เเละเมตตามหานิยม ยันต์เทวดาหลงห้อง ติดร้านค้าบ้านเรือนดีนักแล อนุภาพ ด้วยให้มีโชคลาภ เมตตามหานิยมค้าขาย รำรวยเงินทอง คนเเละเทวดาหลง
    เหมาะสำหรับบูชาไว้ติดร้าน กิจการร้านค้า บ้านเรือนครับ
    กรอบเดิมจากวัดครับ


    ราคา 3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    แผ่นยันต์เทวดาหลงห้อง ครูบาอินสม a.jpg แผ่นยันต์เทวดาหลงห้อง ครูบาอินสม b.jpg
    clip_5-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6992

    เหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย เนื้อทองแดง บล็อก 2 ตาห่วงเชื่อม นิยม

    ยันต์ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ที่ครูบาชุ่มท่านผูกเป็นพระยันต์ขึ้นมาเอง โดยอาศัยการนำบทพุทธมนต์ที่ศึกษามาจากธรรมมูลกัจจาย(ในสมัยก่อน ครูบาชุ่มท่านเป็นผู้คงแก่เรียนศึกษาตำราทุกอย่าง และเป็นผู้แตกฉานเรื่องคัมภีย์มูลกัจจาย อย่างเออุท่านหนึ่งเลยทีเดียว)มาตีเป็นตารางยันต์ตามหลักแม่ธาตุหัวใจยันต์ ตรงใจกลางยันต์ถอดมาได้เป็นยันต์ หัวใจพระพุทธคุณ บางตำราท่านกล่าวว่าเป็นยันต์ สิริแปดเหลี่ยม ( หรือ สิริทั้ง 8) เน้น ทางชุ่มเย็นเป็นสุขด้วยสิริทั้ง8ประการ ล้อมด้วยพระคาถา หัวใจขึด (อุบาทว์ หรือความเชื่อที่เป็นข้อห้ามของชาวล้านนา) คาถาธรรมโลกะวุฒธิ ซึ่งเป็นต้นบทคาถาที่ใช้สวดการเทศนา คาถา หัวใจธรรมเกี่ยวกับการเกิดดับแห่งสรรพสิ่ง และคาถา หัวใจก่าสะท้อน(ท่านเพิ่งนำมาลงในยันต์ด้านหลังเหรียญนี้ครั้งแรก) ถัดขึ้นไป เขียนยันต์ที่ล้านนาที่ชื่อว่า ก๋ะ ย๊ะ ว๊ะ( ยักษ์3ตัว) ใช้สำหรับกันผี ผีกลัว ถัดไปเป็นคาถา มะ อะ อุ (หัวใจพระรัตนไตร ) ส่วนในยันต์รูปน้ำเต้านั้น ครูบาชุ่มท่านน่าจะคิดเป็นรูปแห่งพระอรหันต์ทั้งแปดทิศ ไว้บูชาสำหรับกันภัย และเพื่อคุณวิเศษต่างของพระอรหันต์เหล่านั้นที่พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงยกย่องว่า เป็น เอตทัคคะในด้านต่างๆเช่น 1.พระอัญญาโกณฑัญญะ ประจำทิศ ตะวันออก เป็นเอตทัคคะในด้าน รัตตัญญู เป็นพระสงฆ์องค์แรกแห่งพระพุทธศาสนา เด่นทางด้านเมตตามหานิยมมีความสำเร็จก่อนผู้ใด 2.พระมหากัสสปะ ประจำทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเอตทัคคะในด้าน ถือธุดงค์วัตรเป็นเอก เด่นทางด้านคุ้มภัย 3.พระสารีบุตร ประจำทิศ ใต้ เป็นอัครสาวกด้านขวาแห่งพระพุทธเจ้า เอตทัคคะเป็นผู้เลิศทางปัญญา เด่นทางด้านมีสติปัญญาแก้ปัญญา 4.พระอุบาลี ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ เอตทัคคะด้านพระวินัยเป็นเลิศ เด่นทางด้านมีสิ่งมงคลในชีวิตป็นเลิศ 5.พระอานนท์ ประจำทิศ ตะวันตก เป็นพระอุปัฎฐากของพระสัมามสัมพุทธเจ้าและเป็นพระที่พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านทรงยกย่องให้เป็นเอตทัคคะ5ประการด้วยกันคือ 1.มีสติรอบคอบ 2.มีความทรงจำแม่น 3.มีความเพียรดี 4.ผู้เป็นพหูสูตร 5.เป็นยอดพระภิกษุผู้อุปัฎฐากพระพุทธเจ้า 6.พระควัมบดี (พระมหากัจจายนะ)หรือพระสิวลีเถระ ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเอตทัคคะด้านการมีลาภสักการะเป็นเลิศ 7.พระโมคคัลลานะ ประจำทิศ เหนือ พระอัครสาวกด้านซ้ายแห่งพระพุทธเจ้าเป็นเอตทัคคะเรื่องการมีฤทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์มาก เด่นเรื่องคุ้มภัย มีตบะเดชะ 8.พระราหุล ประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นบุตรแห่งองค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธะเจ้า เป็นเอตทัคคะ เรื่องการใฝ่รู้และการศึกษา เด่นทางด้านเจริญรุ่งเรือง นั่นคือเรื่องของพระอรหันต์ที่เป็นเลิศด้านต่างๆ ที่โบราณคณาจารย์ท่านกำหนดไว้ในเรื่องทิศทั้ง8มาแต่อดีตกาล ในส่วนยันต์ของครูบาชุ่มนั้นท่านจะไม่บอกอักษรใดที่แสดงชื่อของพระอรหันต์ทั้ง8 แต่จะใช้ลักษณะรูปยันต์น้ำเต้า(เหมือนพระนั่งทั้ง8ทิศ) ล้อมรอบด้วยตารางยันต์ที่กล่าวไว้ข้างต้น เพราะรูปลักษณะแห่งยันต์ของครูบาชุ่มนี้เป็นเอกลักษณ์ของครูบาชุ่มเอง โดยตรง แม้แต่ตัวโค๊ตรูปวงกลมที่ตอกนั้นยังเป็นอักษรย่อของยันต์กันขึด คือ ว๊ะ ม๊ะ ต๊ะ (คาถาเต็มคือ ว๊ะ ม๊ะต๊ะ ก๊ะม๊ะย๊ะ) รวมไปถึงพระเนื้อผงรุ่นแรกครูบาชุ่มที่เขียนเป็นตัวล้านนาที่อ่านว่า “วิวะ อะวะสุสัตตะ วิวะสวาหะ” ไม่ใช่คาถาบูชาครูบาชุ่มอย่างที่หนังสือต่างๆพิมพ์กัน นี่คือหัวใจคาถากันภัยนะครับ ชื่อว่า คาถาพระโพธิสัตว์พาแม่ข้ามฝั่ง ส่วนในด้านพุทธคุณโดยรวมแห่งเหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่มนั้น มีครบทุกกระบวนความ ทั้งเรื่องมหาอุตย์ คงกระพัน เมตตา มหานิยมโชคลาภ กันภัย กันผี ก่าสะท้อน ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายคล่องกันขึด แก้อุบาทว์แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาและก็ด้วยบารมีแห่งพระรัตนะไตร ครูบาศรีวิชัยตลอดจนครูบาอาจารย์ของครูบาชุ่มทุกองค์และบารมีของครูบาชุ่ม รวมถึงการปลุกเสกแห่งพระอริยะเจ้าที่ได้ชื่อว่าเป็นดั่งมือขวาของครูบาเจ้าศรีวิชัย ประเด็นเรื่องพุทธคณของเหรียญนี้ยังมีหลายท่านเข้าใจว่าเหรียญรุ่นแรกของครูบาชุ่ม เป็นมหาอุตย์ คงกระพันอย่างเดียว ด้วยในยุคสมัยนั้นยังมีเรื่องต่อสู้ เข้ารบสงคราม โจรผู้ร้ายยังชุกชุมอยู่ คนที่เล่ากันส่วนมากจะต้องแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นหลักเกิดเป็นความเชื่อที่ว่า เหรียญของครูชุ่มเด่นเรื่อง มหาอุตย์ คงกระพันแคล้วคลาด เมื่อคราวที่ครูบาชุ่มท่านสร้างตะกรุดหนังฯ ท่านได้ลงพระคาถาต่างๆไว้ ซึ่งรวมทั้งก๋าสะท้อนด้วย ต่อมาท่านได้ผูกพระยันต์ขึ้นเองดังที่ลงไว้หลังเหรียญรุ่นแรก ซึ่งมีคุณทางสะท้อนสิ่งไม่ดีด้วย
    ครูบาชุ่ม วัดวังมุย พระอริยสงฆ์ศิษย์สายครูบาศรีวิชัย
    พระสุฏิปันโนที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคารพนับถือในตัวท่านมาก
    เจ้าของตำรา ตะกรุดหนังพอกครั่งแห่งล้าน วัตถุมงคลท่านมีประสบการณ์ทุกรุ่นจนเป็นพระยอดนิยมของเมืองเหนือ


    บูชาแล้วครับ

    เหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่ม a.jpg เหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่ม b.jpg เหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่ม c.jpg Clip_47.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2020
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่6991

    เหรียญรุ่นเเรกหลวงพ่อสายทอง วัดท่าไม้เเดง จ.ตาก ปี 2519

    (หลวงพ่อสายทอง กิตติปาโล)วัดท่าไม้แดง ตาก
    “ เจ้าของเหรียญสี่เหลี่ยมกันคุ้ม เจ้าคณะจังหวัดตาก”
    พระเทพสิทธาคม(หลวงพ่อสายทอง กิตติปาโล)
    หรือเรียกกันว่า หลวงพ่อสาย (ครูบาสาย) เกิดปี พ.ศ. 2480 ที่บ้านท่าไม้แดง หมู่ 3 ตำบลวังหิน อำเภอเมือง จังหวัดตาก บิดาชื่อ นายเจียน กันคุ้ม มารดาชื่อ นางระเบียบ กันคุ้ม มีพี่น้องรวมกัน 2 คน คือ นางทุเรียน กันคุ้ม เป็นพี่สาว ส่วนหลวงพ่อสายเป็นน้อง(เป็นพี่น้องคู่แฝดกันชายหญิง) ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา ในวัยเด็กเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดราชศรัทธาธรรม ในวัดท่าไม้แดง สมัยนั้นต้องเรียนในศาลาวัด เรียนจบประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วไม่ได้เรียนต่อ มาช่วยทำไร่ทำนากับครอบครัว หลังจากนั้นท่านได้เข้ามาทำงานในตัวเมืองตาก โดยใช้จักรยานขี่ไปกลับระหว่างตัวเมืองตากกับบ้านท่าไม้แดง ซึ่งห่างกันประมาณ........กิโลเมตร ทำงานด้วยความขยันได้หลายปี
    การอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    ช่วงชีวิตในวัยเด็กถึงวัยหนุ่มท่านมีเพื่อสนิทคนหนึ่งอายุรุ่นเดียวกัน มีศักดิ์เป็นญาติกัน ได้บวชเป็นพระที่วัดมณีบรรพต (วัดเขาแก้ว) อำเภอเมือง จังหวัดตาก เนื่องจากอายุ 21 ปี ถึงวัยที่จะต้องบวชเรียน และได้ชักชวนให้หลวงพ่อบวชตาม เพื่อนคนนี้ชวนกี่ครั้ง ๆ หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธบ่อยครั้งโดยอ้างเหตุผลว่า ต้นหมากที่ปลูกไว้หน้าบ้านยังไม่ออกดอก มีอยู่ครั้งหนึ่งได้ชวนบวชอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้นหมากออกดอกแล้ว หลวงพ่อจึงปฏิเสธไม่ได้ และต้องบวชเรียนตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ โดยบวชที่วัดเขาแก้วเช่นเดียวกันกับเพื่อน โดยมีหลวงพ่อตุ่นเป็นพระอุปัชฌาจารย์ หลวงพ่อห้อนเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูทินเป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากเมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว หลวงพ่อได้ศึกษาเรื่องทางธรรมกับพระอาจารย์ทั้ง 3ท่านอย่างตั้งใจ โดยเฉพาะหลวงพ่อตุ่นและหลวงพ่อห้อน (หลวงพ่อห้อนเป็นพระรุ่นเดียวกันและสนิทกับหลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย) ศึกษาธรรมและเวทมนต์คาถาต่าง ๆ จนแจ่มแจ้ง แล้วท่านได้ขออนุญาตหลวงพ่อตุ่นไปศึกษาภาษาบาลีที่วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ที่กรุงเทพฯ เสร็จแล้วกลับมาประจำอยู่ที่วัดเขาแก้ว หลังจากนั้นหลวงพ่อตุ่นไดให้ไปรักษาการเจ้าอาวาสที่วัดปทุมคีรี ตำบลหนองหลวง อำเภอเมือง จังหวัดตาก วัดปทุมคีรีแห่งนี้เป็นวัดที่อยู่ใกล้กับบ้านของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านเป็นคนตากแต่โดยกำเนิด
    ในปี พ.ศ. 2508 หลวงพ่อได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้แดง ซึ่งหลวงพ่อมัด เจ้าอาวาสองค์ก่อนได้มรณภาพลง และ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้แดงตลอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันร่วม50ปี ในช่วงที่ท่านอยู่ที่วัดท่าไม้แดงได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก มีการสร้างโบสถ์, ศาลาวิหารต่าง ๆ สร้างโรงเรียนวัดท่าไม้แดง อีกทั้งสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิงที่หน้าวัดและสร้างอ่างเก็บน้ำที่ตำบลแม่ท้อ ทำให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก
    ในช่วงอยู่วัดท่าไม้แดง หลวงพ่อท่านได้ไปศึกษาจากเกจิอาจารย์ดัง ๆ หลายท่าน เช่น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ครูบาสร้อย วัดท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นต้น โดยเฉพาะครูบาวัง ท่านได้ได้ถ่ายทอดวิชาการทำตะกรุดโทนให้กับหลวงพ่อและคาถาเวทย์อีกหลายอย่างโดยเน้นหนักไปทางเมตตามหานิยม
    สำหรับหลวงพ่อปี้ วัดด่านลายหอย ท่านได้เดินทางไปหาหลวงพ่อปี้กว่าจะได้ศึกษาอักขระยันต์และคาถาต่างๆจะได้มาที่ละตัวต้องไปกันหลายรอบ ไปครั้งหนึ่งไปมาไม่กี่ตัวอักขระ เพราะหลวงพ่อปี้ท่านไม่ค่อยจะถ่ายทอดให้กับศิษย์ผู้ใดอย่างง่าย ๆ
    ลำดับชั้นสมณศักดิ์ที่ได้รับ โดยเริมจากเป็นพระครูพิพัฒน์กิตติคุณ (สาย), พระวิจิตรพิพัฒโนดม (สาย) และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นพระราชวิทยาคม ธรรมาภรณ์มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี (หลวงพ่อสาย) เป็นเจ้าคณะอำเภอ และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดตากจนถึงปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2557

    เหรียญดังแห่งเมืองตากครับ


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    เหรียญลพ.สายทอง 900 a.jpg เหรียญลพ.สายทอง 900 b.jpg เหรียญลพ.สายทอง 900 c.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2020
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6992

    ล็อคเก็ตรุ่นแรกหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูลฉากฟ้า รันนัมเบอร์ ๒๒ สร้างปี ๒๕๑๗ ด้านหลังอุดผงพุทธคุณ เกศาและจีวร

    หลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่ ต้นตำหรับ วัวธนู อันลือลั่นแห่งดินแดนล้านนา สมัยก่อนบางคนจะเรียกท่านว่าคำแสนเล็ก เพราะครูบาคำแสน วัดสวนดอก จะมีอายุมากกว่าชาวบ้านจะเรียกว่าคำแสนใหญ่ ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล ท่านนี้เป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนา ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่แหวนและหลวงปู่สิม มีเหรียญหลวงปู่แหวนหลายรุ่นที่ได้ครูบาคำแสนปลุกเสกให้ ครูบาคำแสนเป็นพระใจดีใครมาขอให้ทำอะไรท่านก็จะช่วย แม้แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ยังยกย่องว่าท่านเป็นระดับพระอรหันต์แล้วเมื่อคราวที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มรณภาพลง ในย่ามของหลวงพ่อจะมีเครื่องรางที่ท่านพกติดตัวไปตลอดด้วย นั่นก็คือ วัวธนูของหลวงปู่ครูบาคำแสน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นเรื่องราวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของ วัวธนูหลวงปู่ครูบาคำแสนครับ
    วัตถุมงคลอีกรุ่นที่หายากมากจนแทบไม่มีของหมุนเวียนให้เห็นนานแล้วครับ


    บูชาแล้วครับ

    ล.ก.ครูบาคำแสน 2.5 a.jpg ล.ก.ครูบาคำแสน 2.5 b.jpg ล.ก.ครูบาคำแสน 2.5 c.jpg ล.ก.ครูบาคำแสน 2.5 d.jpg Clip_41.jpg Clip_42.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2020
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบคุณครับ
     
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6993

    เหรียญรุ่นแรกเจ้าพ่อกูช้าง หางแตก ผิวไฟสวยเเดงๆ

    เหรียญประสบการณ์ของเมืองลำพูน

    วัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง

    เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะ ศาลเจ้าพ่อกู่ช้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวลำพูน ทำพิธีปลุกเสกในบริเวณกู่ช้างโดยเกจิชื่อดังของภาคเหนือในยุคนั้น
    เหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง ผู้กล่ำงาเขียว รุ่นแรก ปลุกเสกโดยเกจิคณาจารย์สายเชียงใหม่ ลำพูน ชื่อดังมากมายในสมัยนั้น
    เหรียญสุดยอดประสบการณ์ จัดเป็นอีกหนึ่งของดีแห่งเมืองลำพูน (ท้องที่หวงแหนกันมากครับ)
    ประวัติ-เจ้าพ่อกู่ช้าง
    มีตำนานว่า กู่ช้างเป็นเจดีย์บรรจุซากช้างคู่บารมีของพระเจ้ามหันตยศ ชื่อ"ปู่ก่ำงาเขียว" ล่ำลือกันว่ามีฤทธิ์เดชมาก ส่วนงานำไปเก็บไว้ในเจดีย์สุวรรณจังโกฏที่วัดจามเทวี ชาวลำพูนเคารพนับถือมาก ถึงกับสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ใกล้กับเจดีย์
    ความหมายของคำว่า"ผู้ก่ำ งาเขียว" ในภาษากลางก็คือ ช้างตัวผู้ผิวสีดำเข้ม และมีงาสีเขียว อันว่าช้างเชือกนี้เป็นช้างคู่บารมีของกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยในอดีต คือพระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ ผู้เป็นพระโอรสของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีย์แห่งนครหริภุญไชย ช้างปู้ก่ำ งาเขียว เป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์ นำพากษัตริย์ออกรบจนชนะข้าศึกศัตรูทุกครั้ง มีส่วนทำให้นครหริภุญไชย เป็นมหานครอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น และเมื่อสิ้นอายุไขลง ร่างก็ถูกนำไปฝังที่บ้านกิ่งแก้ว และพระเจ้ามหันตยศได้สร้างกู่ (เจดีย์) ครอบไว้อีกทีเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ์

    #สุดยอดเหรียญประสบการณ์แห่งเมืองลำพูนครับเหรียญนี้ผิวไฟสวยครับ

    ราคา 4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Eco8rcNbFMBKtgOgalVyndN0pNHBgTbcC5yf_xlIOWbd&_nc_ohc=GFmhOnzia5kAX-LyRZS&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg JG7wEf-0fMIvFmHVhtquKpUXFzknHNzQH7kJTghcoiqI&_nc_ohc=UaMNwMF4-bIAX_b6vjm&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg iizN4hJzQX9N0c-BPvA4aMJy_-YD7sGEG-5A4H-A7-74&_nc_ohc=3Rkdmm8X5oMAX9j_wW4&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg x2w2vlgO7OP1ufeoXhozyekR_ewvo8OHB7hDd90kNrZt&_nc_ohc=yb3Gmpqw6aQAX_eknqr&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg Y1XMrf-sWLxhoNt-uVbCPT4sp7Hch-l3SepRipJVsk6w&_nc_ohc=948tEVw_byMAX8kfFwN&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2020
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6994

    สมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน (รุ่นแรก) หลวงพ่อดาบส สุมโน วัดดอยขุมเงิน จ.ลำพูน จัดสร้างปี พ.ศ. 2531กล่องเดิม
    #องค์นี้เห็นเส้นเกศาเยอะมากครับ

    เพื่อหาทุนบูรณะวัดดอนขุมเงิน จังหวัดลำพูน มวลสารหลักได้แก่ เกสร ดอกไม้ 108 (นำมาให้หลวงปู่ดาบส อธิษฐานก่อนนำไปกดเป็นองค์พระ หลังจากนั้น หลวงปู่ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้อีกหลายวัน)
    - เส้นเกศา
    - ผงพุทธคุณ
    - เม็ดพระธาตุ
    สิ่งที่น่าสนใจ คือ
    1. พระสมเด็จนี้ หลวงปู่ดาบส ท่านอธิษฐานให้เป็น " สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ "
    2. สัญลักษณ์ยันต์ "กงจักร" ด้านหลังพระ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้าที่มี ความสำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด ดวงแก้ว นั้นมีรัตนะเจ็ด คือ แก้ว ๗ ประการ ดังนี้ คือ จักรแก้ว ๑ ช้างแก้ว ๑ ม้าแก้ว ๑ ดวงแก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑ คฤหบดี (ขุนคลัง) แก้ว ๑ ขุนพลแก้ว ๑ ในแก้ว ๗ ประการนี้ จักรแก้วเป็นใหญ่ เป็นประธานในแก้วทั้ง ๗ ประการ
    3. บรรจุวิชชาพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกายสิทธิ์ ลงไปในพระสมเด็จ ที่เรียกว่า บรมจักรพรรดิ์ (สายวัดปากน้ำ รู้จักกันดี)
    4. ท่านอธิษฐานให้ เกศา เป็น " พระธาตุแก้ว "
    5. ท่านอธิษฐานให้ มวลสาร ที่ประกอบเป็นองค์พระ ให้เป็น พระธาตุ ทั้งหมด.
    6. ท่านบรรจุวิชา "ดวงแก้วพระสีวลี" ให้เป็นพิเศษ มีผลเรื่อง ลาภ วาสนา เป็นอย่างยิ่ง.
    7. ท่านเชิญ เทวดา ชั้นสูง ให้สถิตในองค์พระ ดูแลรักษาผู้บูชา ให้มีแต่ความสุขความเจริญ.
    8. ผู้ที่ได้เจริญ สวดมนต์ ภาวนาอยุ่เสมอ จะยิ่งทำให้พระสมเด็จ ทรงอานุภาพสูงยิ่งขึ้นไปๆ จนกระทั่งเป็น " แก้วจักรพรรดิ์ "
    9. ท่านอฐิษฐานธรรม บรรจุวิชชา ของพระพุทธเจ้า บันทึกลงไป เหมือนพระไตรปิฎกเคลื่อนที่.. พุทธคุณของพระสมเด็จนี้
    หลวงปู่ดาบส เป็นพระอริยะเจ้าที่บำเพ็ญพระโพธิญานบารมีท่านสูงมาก ครูบาอาจารย์หลายท่านให้ความยกย่อง บางท่าน ให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ, หลวงปู่เกษม เขมโก, หลวงปู่ดู่, ครูบาอิน ฯลฯ
    หลวงปู่ดาบสมรณภาพ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2543 สิริอายุได้ 76 ปี หลังจากได้ทำพิธีเผาสังขารท่าน ปรากฏว่าหัวใจท่านไม่ไหม้ไฟ และแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกต ส่วนอัฐิของท่านก็ได้แปรสภาพเป็น พระธาตุ
    องค์นี้สวยมาพร้อมกล่องเดิมองค์นี้เห็นเส้นเกศาเยอะมากครับ


    บูชาแล้วครับ

    สมเด็จลพ.ดาบส 650 a.jpg สมเด็จลพ.ดาบส 650 b.jpg สมเด็จลพ.ดาบส 650 c.jpg สมเด็จลพ.ดาบส 650 d.jpg Clip_36.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2020
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 6995

    เหรียญรุ่นแรกครูบาอินตา วัดห้วยไซ ปี 2533 สวยเดิมๆ


    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)พระเกจิผู้ทรงวิยาคมเเห่งเมืองลำพูนพระอาจารย์ของท่านครูบากฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง

    เหรียญสุดยอดประสบการณ์ของเมืองลำพูน ของแท้หายากมากครับ


    คุณ j999 บูชาแล้วครับ

    เหรียญรุ่นแรกครูบาอินตา a.jpg เหรียญรุ่นแรกครูบาอินตา b.jpg เหรียญรุ่นแรกครูบาอินตา c.jpg Clip_46.jpg

    "หลวงปู่ครูบาอินตา วัดห้วยไซ"
    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)
    วัดห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
    อัตโนประวัติของหลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ วัดห้วยไซ ท่านเกิดเมื่อวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ ปี มะเส็ง(งูเล็ก) ตรงกับ วันเสาร์ ที่ ๖ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๔๘ ณ บ้านห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน มีนามเดิมว่า อินตา นามสกุล ปาลี เป็นบุตรของ นายก๋อง นางก๋ำ นามสกุล ปาลี เป็นคนที่มีเชื้อสายยอง มารดาของท่านเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเด็กไม่รู้ความ ท่านจึงได้รับการเลี้ยงดูจากบิดาจนอายุท่านได้ ๙ ขวบ จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์วัด(ขะโยม)ที่วัดห้วยไซเพื่อจะได้รับการศึกษาเล่า เรียน ในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนเช่นปัจจุบัน เด็กชายอินตา จึงได้เรียนภาษาพื้นเมืองตามแบบสมัยนิยม และได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรขณะอายุได้ ๑๓ ปี พ.ศ.๒๔๖๑ ณ วัดห้วยไซ โดยมีพระภิกษุพุธเป็นผู้บวชให้ หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรแล้วจึงได้ไปศึกษาภาษาไทยกลางเพิ่มเติมที่สำนักวัด สันก้างปลา(วัดทรายมูลในปัจจุบัน) อำเภอสันกำแพง โดยมีพระครูอินทนนท์ เจ้าอาวาส (ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่เก่งกล้ามากได้ปรมัติสูญสตาอรรถพยัญชนะทรงอภิ ญาชั้นสูง)เป็นอาจารย์ผู้สอนให้ ด้วยความเป็นผู้ไผ่เรียนท่านยังมีความสนใจเรื่องของภาษาอื่นๆด้วยเช่น อักษรขอมโบราณ ภาษาอังกฤษ และจีนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น เมื่อพออายุครบบวชจึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดห้วยไซ พ.ศ.๒๔๖๙ โดยมีครูบาอินทจักร วัดป่าลาน เป็นพระอุปัชฌาย์(เป็นศิษย์ครูบาหลวงวัดฝายหิน จบสตาปรมัติรู้ภาษานกกาได้ เจนจบ 9 มัด) พระอธิการชื่น สันกอแงะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “อินฺทปัญฺโญภิกขุ”
    หลัง จากอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วจึงได้ตั้งใจที่จะศึกษาพระธรรมวินัยและสรรพวิชา ตามจริตวิสัยที่ชอบศึกษาหาความรู้อันเป็นทุนเดิมของท่าน ทำให้ท่านเป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนในเรื่องของวิชาพลังจิตที่สูงมากตลอด ถึงในวิชาอาคมแขนงต่างๆ ประกอบกับการปฏิบัติสมถะวิปัสสนาธุระควบคู่กันไประหว่างปีพ.ศ.๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยท่านได้มาเป็นประธานในการบูรณะพระธาตุดอยห้างบาตร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดห้วยไซมากนัก หลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้ไปร่วมในการบุญครั้งนั้นด้วยและได้พบกับครูบาศรี วิชัยและถือโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ หลังจากนั้นขณะที่ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นประธานในการสร้างทางขึ้นดอยสุ เทพหลวงปู่ครูบาอินตาก็ได้มีโอกาสไปร่วมในการสร้างทางด้วยเช่นกัน เมื่อครูบาศรีวิชัยมรณภาพไปหลังเสร็จสิ้นงานพระราชทานเพลิงศพ ผ้าขาวดวงต๋า ได้นำอัฐิธาตุของครูบาศรีวิชัยมาบรรจุและสร้างกู่อัฐิขึ้นที่บนดอยง้ม เขตติดต่อระหว่างอำเภอสันกำแพงกับอำเภอบ้านธิ หลวงปู่ครูบาอินตาท่านก็ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนร่วมในการนำสร้างด้วย ที่วัดห้วยไซเองท่านถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่มีส่วนร่วมกับอดีตเจ้าอาวาส ของวัดห้วยไซองค์ก่อนๆในการนำสร้างถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด โดยเฉพาะสมัยของพระครูดวงดี จนกระทั้งครูบาดวงดีท่านมรณภาพไป หลวงปู่ครูบาอินตาท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยไซ เมื่อพ.ศ.๒๕๑๙ และได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็น พระครูถาวรวัยวุฒิ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๖ ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นได้ได้ฝากผลงานทางด้านพระพุทธศาสนาและ สาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ พัฒนาถาวรวัตถุสิ่งก่อสร้างต่างๆของวัดห้วยไซจนเป็นที่เจริญรุ่งเรือง สาธารณะประโยชน์เช่นโรงเรียน สถานีอนามัย โรงพยาบาล ห้องสมุด ที่อ่านหนังสือพิมพ์ ตลอดจนฌาปนกิจสถานประจำหมูบ้าน นอกจากนั้นท่านยังทำนุบำรุงพระศาสนาไปยังวัดวาอารามต่างๆที่มาของความเมตตา อนุเคราะห์จากท่าน เช่น ถาวรวัตถุต่างที่วัดเปาสามขา วัดวังธาน อำเภอแม่ออน วัดโป่งช้างคต อำสันเภอกำแพง วัดเวียงแห่ง อำเภอเวียงแห่ง จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีชัยชุม บ้านห้วยไซเหนือ
    พระพุทธรูปยืนวัด ศรีดอนชัย อำเภอบ้านธิ ประธานสร้างตึกสงฆ์อาพาสโรงพยาบาลบ้านธิ และผลงานชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้ศิษย์ได้สารงานต่อคือพระวิหารของวัดห้วยไซ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพด้วยชราภาพ เมื่อวันที่ ๒๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๕ สิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี ๗๗ พรรษา พระเถระที่หลวงปู่ครูบาอินตาท่านสนิทสนมไปมาหาสู่กันเป็นประจำก็มี ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ครูบาธรรมชัย วัดประตูป่า ครูบาสิริ วัดปากกองสารภี(ครูบาผีกลัว)ครูบาแก้ว สันกำแพงครูบาดวงทิพย์ วัดสันคะยอม(เป็นพระที่ครูบาพรหมาจักรนับถือมากๆ) ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ครูบาดวงจันทร์ วัดป่าเส้า ครูบาน้อย วัดบ้านปง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาอินตา วัดวังทอง สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลังจากศิษยานุศิษย์ได้เก็บรักษาสรีระของหลวงปู่ครูบาอินตาไว้เป็นเวลาหลาย ปีแต่รางของท่านก็มิได้มีการเน่าเปื่อยแต่อย่างใด เมื่อก่อสร้างวิหารแล้วเสร็จจึงได้ของไฟพระราชทานและประกอบพิธีพระราชทาน เพลิงศพ เมื่อวันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐
    สำหรับวัตถุมงคล ของหลวงปู่ครูบาอินตา ท่านได้สร้างขึ้นในยุคแรกๆก็จะมีเพียงยันต์และตระกุดเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหา ไว้ใช้ป้องกันตัวอิทธิวัตถุมงคลต่างๆก็มีประสิทธิผลจนเป็นที่ลำลือ
    หลวงปู่ครูบาอินตา อินทปัญโญ เอกองค์พระอาจารย์ที่ให้ดวงกรรมฐานกับครูบากฤษดา ตั้งแต่เป็นสามเณร ที่ท่านสามารถปราบความคิดที่อยากรู้อยากเห็น ซุกซนโลดเเล่นแก่นแก้วสามารถดักทางความคิดจิตของครูบากฤษดา ได้ทั้งหมดตั้งแต่เป็นสามเณรร่ำเรียนอยู่ในสำนักวัดห้วยไซใต้ ถือว่าเป็นพระอาจารย์องค์แรกครับ และก็มีครูบาชัยวงค์ได้ไปกราบคารวะสนทนาเป็นบางครั้งคราว และมีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ครูบากฤษดาเทิดเหนือหัวคือหลวงปู่พิสดู ธัมมจารี เป็นที่สุดครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2020
  19. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,129
    ค่าพลัง:
    +5,418
    ขอจองครับ
     
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,865
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รับทราบการจองขอบพระคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...