พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ed190964048th บางขุนเทียน

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

คุณหมอไพโรจน์ อำพนพิศลย์ ปัจจุบันใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่เมืองศรีสะเกษ
ขณะที่ยังเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลขุขันธ์ ได้รู้จักคบหากับผมโดยผ่านคุณปัญญา โกวิทธวงศ์เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนแพทย์จุฬาด้วยกัน
คุณหมอไม่เคยสนใจเรื่องพระเรื่องเจ้า
แต่ผมกับคุณปัญญาเจอกันเมื่อไหร่ มักคุยกันด้วยเรื่องที่คุณหมอไม่สนใจทุกครั้ง
คุณหมอก็ฟังเงียบๆ ไม่ขัดคอ
วันหนึ่งคุณหมอกับคุณปัญญาโผล่มาที่บ้านของผมในเวลาที่ผมกับเพื่อนพ้องกำลังทดลองยิงพระพอดี
ผู้ลงมือยิงในวันนั้นเป็นตำรวจอยู่กองเมืองอุบลฯ
ยิงกระจุยกระจายไปต่อหน้าต่อตาเป็น๑๐ๆองค์
จนกระทั่งถึงเหรียญพระแก้วหมดห่วงกับเหรียญหลวงพ่อพุทธมงคลนครสวรรค์ ปรากฏว่าได้ผลดี
คือจ่อยิงแบบปากกระบอกปืนห่างพระไม่ถึง ๑ คืบ ยิงองค์ละ ๒ นัดไม่ถูกพระแม้แต่นัดเดียวทั้งสององค์ แม้แต่ซองพลาสติคใส่พระก็ไม่ถูก เรียกว่าคุ้มได้กระทั่งซองใส่พระ (รายละเอียดการยิง เคยเล่าไปหลายครั้งแล้ว)
คุณหมอเห็นเข้าก็ตาเหลือก
หลังจากนั้นถึงเพลาพลบค่ำได้เวลานั่งกินดื่มคุยกันเป็นส่วนตัวที่ร้านกินดื่มเจ้าประจำ
คุณหมอจึงเอ่ยปากกับผมว่า
"กูเป็นหมอซึ่งก็คือนักวิทยาศาสตร์.. กูไม่มีข้อโต้แย้งอะไรกะที่มึงยิงกันในวันนี้ ..มึงหาแบบนั้นให้กูองค์"
ตั้งแต่นั้นมาคุณหมอก็แขวนพระที่ผมและคุณปัญญาจัดให้
แล้วก็เริ่มเปลี่ยนนิสัยกลายเป็นคนเข้าวัดเข้าวา
ต่อมาคุณหมอได้เดินทางไปนิวซีแลนด์ร่วมกับหมออื่นๆอีกหลายท่านซึ่งมาจากทั่วประเทศ
ไปดูงานหรือไปสัมนาอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้)
เขาจัดให้คุณหมอไพโรจน์พักห้องเดียวกับหมอหนุ่มๆเพิ่งจบมาใหม่ๆคนหนึ่ง
พอคุณหมอถอดเสื้อออก
หมอหนุ่มท่านนั้นเห็นคุณหมอไพโรจน์แขวนพระก็เลิกคิ้วถาม
" พี่หมอยังเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่หรือ? "
คุณหมอไพโรจน์ตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
" เออใช่ ..สมัยกูอายุเท่ามึง ..กูก็พูดแบบนี้แหละ "
- - - -
หมายเหตุ : คุณหมอไพโรจน์เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อต้นปี๒๕๕๙
(ภาพประกอบภาพแรก..เหรียญหลวงพ่อพุทธมงคล นครสวรรค์เหรียญสึกๆในภาพนี้เป็นเหรียญที่ลองยิงจริง ปัจจุบันผมยกให้"อัยการเหน่ง"หลานรักไปไว้คุ้มตัว)
บทความของ อาจารย์อำพล เจนคูณทองคำใบ

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

ed190978121th บางใหญ่

 

ประคำหยก หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี ของแบบนี้นอกระบบไม่มีสัญลักษณ์แยกแยะ(แต่ศิษย์ในสายจะรู้หายากมากๆ) ต้องหาเอาจากลูกศิษย์สายตรงอย่างเดียวเลย แล้วเราก็ชอบของแบบนี้ด้วย ในที่สุดก็รอจนได้ครบละ สร้อยประคำหยก-ข้อมือหยก ขอบคุณศิษย์ร่วมสำนักที่แบ่งปันมาให้

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

#ตะกรุดต้นแขน.. ของหลวงปู่พิศดู
ตะกรุดนี้สร้างประมาณปี 2546-2547 โดยองค์หลวงปู่เป็นผู้สั่งให้พระอุปัฏฐากสร้าง โดยองค์หลวงปู่อธิษฐานจิตแผ่นโลหะให้ก่อน แล้วจึงให้พระอุปัฏฐากท่านเป็นผู้จารอักขระใส่แผ่นโลหะแทน และตัดเป็นแผ่นเล็กๆ ม้วนเป็นตะกรุด ร้อยด้วยเชือก 5 สี(ไหมเบญจพรรณ) โดยเชือกเส้นหนึ่งจะมีตะกรุดอยู่ 3 ดอก และหลวงปู่ท่านได้กำหนดให้ทำวงให้ใหญ่หน่อย เพื่อจะนำมาคล้องกับต้นแขนได้ จากนั้นจึงนำมาให้องค์หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตอีกวาระหนึ่ง เพื่อไว้แจกญาติโยมที่มากราบเยี่ยมองค์ท่านครับ..
จำนวนการสร้างประมาณ 300 - 400 เส้น
(แต่ว่าตะกรุดแบบนี้ไม่ค่อยมีมาตรฐาน เล่นหากันไม่ได้ นอกจากจะได้มาจากที่มาที่แน่นอนเท่านั้นครับ.. แต่คาดว่าตอนนี้คงยังไม่มีของเลียนแบบครับ)
สังเกตุดูภาพหลวงปู่บางภาพนะครับ ว่าแม้แต่องค์หลวงปู่เอง ก็ชอบใส่เชือก 5 สีที่ต้นแขน แสดงว่าคงเป็นของสำคัญไม่น้อยเลยครับ.. สาธุ
#เครดิตภาพและข้อมูล จากคุณสิรภพ

 

สายตะกรุดสารพัดกัน ชุดนี้หลวงปู่พิศดูเสกทุกขั้นตอน
ตั้งแต่ยังเป็นม้วนเชือก
เชือก 7 สีนี้ท่านให้เอามาร้อยเป็นสายประคำเทพธาโร(ปี 2550) แต่เมื่อร้อยประคำหมดแล้ว เหลือเชือกที่ตัดไว้ร้อยประคำอยู่อึก 15 เส้น
หลวงปู่ท่านจึงให้เอาไปถักเป็นสายมงคล (โดยท่านให้ถักต่อหน้าท่าน)
ส่วนแผ่นที่ทำตะกรุดนั้น หลวงปู่ท่านเสกแผ่นเก็บเอาไว้อยู่ที่กุฏิหลังเก่าหลายปีแล้ว จึงให้นำมาจาร โดยท่านกำหนดอักขระให้ลูกศิษย์เป็นผู้ลงเหล็กจารแทน
เมื่อจารเสร็จ ก็ได้ตอกโค๊ตของวัดเอาไว้แล้วใส่หลอด ร้อยเป็นสายตะกรุด
สายตะกรุดชุดนี้ หลวงปู่ใส่ไว้ในถุงหูหิ้ว มัดปาก แล้วปลุกเสกอยู่ข้างที่นอนอีกหลายปี สร้างไว้แค่ 15 เส้น

 

1.พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู สภาพสวยสมบูรณ์ 2.สายตะกรุดสารพัดกัน หลวงปู่พิศดู สร้างเพียง15เส้น 3.ตะกรุดต้นแขน หลวงปู่พิศดู

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า