พระเครื่องวัตถุมงคลทั้งเก่า-ใหม่หลากหลายรายการให้เลือกสรรไว้บูชาติดตัวครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย เยาวราช, 13 พฤษภาคม 2010.

  1. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,496
    ค่าพลัง:
    +1,263
    จองครับ
     
  2. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับผม
     
  3. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    หลวงปู่ทวดเนื้อดินผสมผงและสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสกสร้างและปลุกเสกโดย หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระพุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย

    มวลสารส่วนผสม
    1.ผงวิเศษเก่าของหลวงปู่ทาบ
    2.สีผึ้งเขียวของหลวงปู่ทาบ
    3.ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร
    4.ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงปู่ทาบ
    5.ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี
    6.ผงดินมงคลของหลวงปู่ทาบ
    7.ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง
    พิธีปลุกเสก
    ครั้งที่ 1 หลวงปู่ทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม
    ครั้งที่ 2 รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
    - หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี
    - หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
    - หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง
    - หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก


    พระเกจิอาจารย์ได้เข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่ 18.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิม อิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ หลวงปู่ทาบเป็นสหธรรมิกและศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่ทิม ท่านได้สร้างพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ และจะนิมนต์หลวงปู่ทิมมาปลุกเสกทุกครั้ง พุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สหธรรมมิก ของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านคือ ๑ ในพระเกจิ อาจารย์ชื่อดังของเมืองระยองในอดีต ท่านโด่งดังมากๆ ในเรื่อง สีผึ้งเขียว สุดยอดเสน่ห์ เมตตามหานิยม ของท่าน ผู้ใดมีครอบครองต่างหวงแหนสุดๆ วัตถุมงคลของท่าน ที่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง และ ปลุกเสก นั้นมีมากมาย หลายสิบพิมพ์ แต่ คนทั่วไปจะรู้จักกันเพียงไม่กี่พิมพ์ โดยเฉพาะ พิมพ์พระปิดตา, พระพิมพ์นางกวัก, พระพิมพ์สมเด็จ แขนกางนักเลงโต และ พระพิมพ์นางพญา ที่ หลวงปู่ทิม ร่วมปลุกเสก ”เมื่อครั้งที่หลวงพ่อทาบจะสร้างพระผงทิ้งไว้เป็นสมบัติโลก ก็มาหารือกับหลวงพ่อทิม ถึงการสร้างผงให้ถูกต้องตามตำรา โดยหลวงพ่อทาบไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งจารผงและลบผงเอง หลวงพ่อทิมจึงแนะนำว่า”โยมปถมนั่นแหละทำผงเก่ง และทำได้ชะงัดนัก ยังเคยทำมาให้นี่เสกเลย” จึงให้คนไปเชิญอาจารย์ประถมมาที่วัดกระบกขึ้นผึ้ง และเอ่ยปากว่าจ้างให้ช่วยเป็นผู้อำนวยการสร้างพระผงให้ท่าน.อาจารย์ปถมเล่าว่า ท่านก็รับปากด้วยความยินดี โดยจะขอสร้างเป็นพุทธบูชา ไม่ขอรับค่าจ้างแต่อย่างใด แต่มีข้อแม้ว่าการปลุกเสก ต้องนิมนต์หลวงพ่อทิมมาร่วมด้วย หลวงพ่อทาบไม่ขัดข้อง หลังจากนั้นไม่นานหลวงพ่อทาบก็อุตสาห์ซ้อนรถเครื่องไปหาหลวงพ่อทิม เพื่อปรึกษาหารือในการสร้างพระในครั้งนี้ และนิมนต์มาปลุกเสก.เมื่อรับปากหลวงพ่อทาบแล้วก็จัดเตรียมวัสดุมงคลตามตำราที่เคยแสวงหาไว้ตั้งแต่ครั้งวนเวียนรับราชการอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ได้นำมาปั้นเป็นชอล์กแท่งแบบดินสดเขียนกระดานเสร็จแล้วลบผงปถมัง และผงอิทธิเจตามตำราที่ร่ำเรียนมา ท่านรู้ตัวดีว่าเป็นเพียงฆราวาสที่ยังข้องแวะในโลกีย์แม้ทำผงเกิดความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ผู้คนทั่วไปคงจะเชื่อถือยาก จึงไปขอผงวิเศษจากวัดโพธิสัมพันธ์ซึ่งหลวงพ่อบุญมีเป็นผู้ทำขึ้น และยังได้นำผงซึ่งโยคีฮาเล็บสร้างให้วัดสารนาถ มาร่วมด้วย ผงวิเศษนี้สร้างโดยศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ประกอบพิธีขึ้นที่วัดสัมพันธวงศ์ กทม.เป็นผงซึ่งหลวงพ่อลี วัดอโศการามนำไปสร้างพระผงของท่าน.โดยรวบรวมผงได้ประมาณ ๑ บาตรเต็มๆ หลวงพ่อทาบเห็นผงแล้ว หัวเราะชอบใจและบอกว่า”ผงนี้เฮี้ยวจริงๆ มีทั้งนุ่มลึกและเข้มแข็ง”จึงได้นำผงนี้ไปรวมกับผงเก่าๆของท่านซึ่งมีคัมภีร์โบราณ ดินมงคลต่างๆ ตามที่ท่านได้เสาะแสวงหาไว้ เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว หลวงพ่อทาบจึงได้กดพิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นท่านได้ร้องขอให้ชาวบ้านนุ่งขาวห่มขาวอาราธนาศีลทุกคนช่วยกันกดพิมพ์พระ โดยอาจารย์ปถมเป็นผู้อำนวยการสร้าง คือ แนะนำการตำผง คลุกเคล้าผงและกดพิมพ์……………….
    ..สำหรับพระชุดนี้เป็นพระผงดำทั้งหมด มีพิมพ์สมเด็จ เป็นพิมพ์พระเก่าที่ได้มาจากวัดเนิน จังหวัดระยอง เข้าใจว่าเป็นพิมพ์พระสมัยหลวงปู่สังข์เฒ่า ทำด้วยหินมีดโกน อีกพิมพ์เป็นพิมพ์แม่นางกวัก สำหรับพิมพ์พระปิดตามี ๕ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่พิเศษ,พิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลาง,พิมพ์เล็ก และพิมพ์จิ๋ว นอกจากนี้ยังมีพิมพ์กลีบบัว ได้พระประมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์เท่าพระธรรมขันธ์.หลวงพ่อทาบได้นำสีผึ้งเขียวผสมลงไปด้วย ดังนั้นพระทุกองค์จึงมีส่วนผสมของสีผึ้งสีเขียว
    เมื่อพิมพ์พระเสร็จแล้ว หลวงพ่อทาบได้ปลุกเสกพระเพียงองค์เดียวนานหนึ่งพรรษาเต็มๆ เมื่อใกล้จะถึงงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ หลวงพ่อทาบจึงทำพิธีปลุกเสกเสริมข้อบกพร่องอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าทำเพิ่มเสริม หรืออุดช่องโหว่.ในงานปลุกเสกครั้งนี้เป็นงานครั้งแรกของหลวงพ่อทิมที่ท่านได้ออกจาก วัดละหารไร่ มาร่วมพิธีปลุกเสก พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงพ่อทิมมีอายุ ๘๓ ปีพอดี.นอกจากหลวงพ่อทาบ ยังมีหลวงพ่อหอม วัดชากหมาก,หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง,หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ส่วนหลวงพ่อพระครูวรพตปัญญาจารไม่ได้มาปลุกเสก.ส่วนหลวงพ่อทาบ ไม่ได้มานั่งปลุกเสก ได้แต่นั่งรับแขก เพราะท่านท้องเสีย….ในงานปลุกเสกนั้น เริ่มตั้งแต่ ๑๙.๐๐ น.ถึง ตี ๒เศษ โดยทางเจ้าพิธีการแบ่งการปลุกเสกไว้ถึง ๔ ช่วงโดยปลุกเสกไปเกือบสองชั่วโมงก็ตีฆ้องครั้งหนึ่งเพื่อบอกกล่าวให้หลวงพ่อที่ปรกออกจากเข้าสมาธิ พักผ่อนดื่มน้ำชา กาแฟประมาณครึ่งชั่วโมง.แต่หลวงปู่ทิมนั่งปรกรวดเดียว ๘ ชม.โดยไม่ขยับเขยื้อนเลย ท่านนั่งนิ่งสงบยกมือพนมอยู่ในท่าเดียวตลอด…หลวงพ่อทิมได้พูดเล่นกับอาจารย์ปถมว่า”ให้เสกแบบนี้เมื่อยตาย” จากนั้นก็กลับวัดเลย โดยไม่ยอมรับปัจจัยที่ทางวัดนำมาถวาย และท่านก็ไม่ยอมดื่มน้ำชาที่ทางเจ้าพิธีนำมาถวาย.ศิษย์ถามท่านว่า”ทำไมหลวงพ่อไม่ฉันน้ำที่เขาถวาย และไม่รอรับปัจจัยที่เขาถวาย” หลวงพ่อทิมตอบว่า”ถ้าฉันน้ำของเขา และรับปัจจัยที่เขาถวายก็จะไม่ได้บุญเพราะเท่ากับรับจ้างเขามาเสกพระ”ศิษย์ถามต่อไปอีกว่า”ทำไมต้องนั่งพนมมือเสก องค์อื่นๆเขานั่งสมาธิ มือขวาทับมือซ้ายกันทั้งนั้น” ท่านตอบว่า”พนมมือเสกพระดีกว่านั่งสมาธิ เพราะถ้า.เกิดนั่งหลับ เมื่อนั้นคนเขาจะได้รู้ เพราะมือที่พนมนั้นมันจะตก

    (ปิดรายการองค์นี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 496.JPG
      496.JPG
      ขนาดไฟล์:
      66.8 KB
      เปิดดู:
      256
    • 495.JPG
      495.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.1 KB
      เปิดดู:
      237
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2022
  4. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    ไหว้สักการะ @ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา...3/8/65
    20220803_113733704.jpg
     
  5. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    ไหว้สักการะ @พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล (เจดีย์สแตนเลส )...3/8/55
    20220803_153756528.jpg
     
  6. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    ไหว้สักการะ พระพุทธมงคลมหาราช @เขาคอหงส์ หาดใหญ่ 4/8/65
    20220803_163614596.jpg
     
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,330
    ค่าพลัง:
    +6,396
    ขอจองครับ
     
  8. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับผม
     
  9. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    เหรียญพระ 25พุทธศตวรรษ พิมพ์พระศกตุ่ม..."พระเครื่อง 25 ศตวรรษ" นับได้ว่าเป็นพระพิธียิ่งใหญ่ที่สุด หนึ่งในไม่กี่พิธีที่เคยมีการจัดสร้างของไทย ทุกคนทราบกันดี ได้รับการอธิฐานจิตจากสุดยอดพระเกจิยุคเก่าทั่วฟ้าเมืองไทย พุทธคุณพระสุดยอด พระดีราคาย่อมเยาว์

    "พระเครื่อง 25 ศตวรรษ"จึงจัดว่าเป็นพระดีพิธีพุทธาภิเษก ก็นับว่ายิ่งใหญ่และเข้มขลังสุดๆ ในยุคนั้น จัดขึ้นถึง 2 วาระ และครบถ้วนตามฉบับพิธีประเพณีโบราณ คือต้องมีพระเกจิอาจารย์ประกอบพิธีปลุกเสก ลงเลขยันต์ บรรจุพุทธาคม เพื่อให้พระเครื่อง 25 ศตวรรษ มีความเข้มขลังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ โดยวาระแรก ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2500 ณพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม โดยนำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดมาอธิษฐานปลุกเสก มีพระคณาจารย์มาร่วมพิธีฯ ครบ 108 องค์

    วาระที่ 2 วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2500 นำพระเครื่องทั้งหมดเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม มี สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมสมเด็จพระราชาคณะเจริญพุทธมนต์ 25 รูป พระเกจิคณาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศร่วมปลุกเสกบรรจุพุทธาคมครบ 108 รูป รวม 2 วาระ เป็นเวลาทั้งสิ้น 6 วัน 6 คืน

    (ปิดรายการองค์นี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 186.JPG
      186.JPG
      ขนาดไฟล์:
      136.2 KB
      เปิดดู:
      206
    • 187.JPG
      187.JPG
      ขนาดไฟล์:
      125.1 KB
      เปิดดู:
      193
    • 188.JPG
      188.JPG
      ขนาดไฟล์:
      162 KB
      เปิดดู:
      201
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2022
  10. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,496
    ค่าพลัง:
    +1,263
    จองครับ
     
  11. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  12. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    ไหว้สักการะ@ศาลเจ้าท่ามกงเยี๊ย.ตรัง สุดปัง...9/8/65
    20220809_113047911.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2022
  13. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    หากมีพี่สมาชิกท่านใดที่โอนเงินเข้ามา แต่ลืมไม่ได้แจ้งผมมา รบกวนแจ้งว่าโอนเงินพระรายการใดเข้ามานะครับ ผมจะได้ส่งพระให้ได้ครับ ขอบคุณครับ
     
  14. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    เม็ดยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา พร้อมใบฝอยเดิมจากวัดครับ

    ผงยาจินดามณีที่สืบทอดจากหลวงปู่บุญ ยังสืบตำนานอยู่ ณ วัดกลางบางแก้ว ต่อจากหลวงปู่บุญ คือหลวงปู่เพิ่ม ผู้เป็นลูกศิษย์ และพระอาจารย์ใบ และหลวงปู่เจือ ที่สืบสานต่อจากหลวงปู่เพิ่ม แต่ตำรับการสร้างผงยาจินดามณียังมีสืบสานต่อที่วัดท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีความเป็นมาเช่นใดกัน ตำรับผงยาจินดามณีของวัดท่าเสาก็สืบสานมาจากหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพราะหลวงพ่อทองอยู่ อัตตทีโป มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่บุญ ได้มีโอกาสศึกษาวิชาการทำผงยาจินดามณีจากหลวงปู่บุญโดยตรง ซึ่งหลวงพ่อทองอยู่ได้ทำผงยาจินดามณีขึ้นมาทั้งในส่วนที่เป็นเม็ดยา และที่เป็นผงสร้างเป็นพระเครื่องเนื้อผงยาจินดามณี

    อุปเท่ห์ของเม็ดยาวาสนาจินดามณีโดยย่อ

    "หากใครได้รับประทานแล้ว จะบันดาลให้ เกิดสิริสวัสดีและลาภผล"
    "หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้"
    "ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน"

    #ผงยาวาสนาจินดามณี ตำรับหลวงปู่บุญ

    ตำรับการสร้างยาจินดามณี หรือยาวาสนา ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ดั้งเดิมนั้นเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่มาอยู่วัดกลางแก้วเป็นตำรับสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวเอาไว้ถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดารและอานุภาพอัศจรรย์อย่างยิ่ง

    กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพิธีกรรมและเครื่องยา แยกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับยาพรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆ ในเบื้องต้นของของตำราว่า

    “จินดามณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราด ดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป้นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย ”

    นอกจากนี้ยังได้แยกเครื่องยาไว้อย่างละเอียดว่าสมุนไพร ชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไร บดเป็นผงละเอียด เคล้ากับตัวประสาน สมุนไพรนั้นมีมากมายหลายชนิด แยกออกเป็นสัดส่วนว่าส่วนไหนใช้เท่าใดและให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างไรบ้าง เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้วก็เอาเครื่องยามาประสม กันมีคาถาฤาษีประสมยาประกอบไว้อีกโสตหนึ่ง

    การจัดพิธี ท่านให้เลือกเอาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์จัดว่าดีเยี่ยม ให้จัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่าง ๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถและมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วย ผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลง ยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุ และฆราวาสที่ร่วมพิธีพร้อมกันโดยเฉพาะฆราวาสนั้น หากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโบสถเช่นเดียวกัน

    ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยาจะต้องท่องคาถาปั้นเม็ดยาได้ เพื่อใช้ภาวนาตลอดระยะเวลาการปั้นเม็ดยา และยาที่ปั้นสำเร็จเป็นเม็ดในพิธีแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์อีกอย่าง น้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร

    อุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณี

    ก่อนใช้ยาท่านให้เสกยาด้วยคาถาดังนี้

    “ จินดามณี ปิยังมันตัง ยะสังธาสังโกมัง อุปะสันติ สิเนหัง มาตาปิตาวะ โอระสัง ปะโพตันจะ มหาราชา ตะวังมังโป สัตตุโนทีปัง กาเรเทโว สุโป เสทิกิญจิ เทโว เยสักโก ปัชชัง ทัสมิง กินเนวา ทัตวาปิยัง กันตัง สาริปุตโต ภวันตุเม สิทธิลาภัง ชนานะเย มณีจินดา ปิยัง จะธะนัง สัพเพชะนา พหูชะนา ปิยังมะมะ ”

    นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงอานุภาพของการใช้ยาจินดามณีไว้ ดังนี้

    หากใครได้รับประทานแล้วจะบันดาลให้เกิดสิริสวัสดีและลาภผล

    หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรค

    ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน

    ผู้ใดต้องโทษทัณฑ์ใด ๆ ก็บรรเทาเบาบางลงได้

    ผู้ใดที่ป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หาได้รับประทานยาจินดามณีแล้วก็จักรรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้น ๆ

    สำหรับวิธีการใช้ได้กล่าวไว้ในส่วนท้ายตำรา ขอยกมาบางส่วนดังนี้

    "ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรค หรือท้องเดิน ให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูแลน้ำปูนใสแล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไป ดื่มรับประทานหายจากโรคแล"

    "แก้โรคเสมหะดีขึ้น ให้ใช้ดีหมีผสมน้ำร้อนแล้วใส่ยาหอมจินดามณีฝนผสมลงไปรับประทาน"

    "ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย “ เอกัง จินดามณีมันตัง ” เป็นเมตตามหานิยมแล้วเอาน้ำประพรมศีรษะแล้วอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลาจะชนะความ สิ้นแล และเป็นเมตตามหานิยมแก่คนทั้งปวง"

    ให้มีปัญญาดี เสกด้วยพระคาถานี้ 3 จบ

    “ ตะโตโส ปัณฑิโต ปีหิโล อัตถะ ทัสสีมะ โหสะโถ ” แล้วอมยา จะเล่าบ่นมนตร์คาถา สารพัดวิชาจำได้สิ้นที่ลืมหลงก็จะรำลึกได้แล

    ให้เสกด้วย “เอกัง จินดามณี นาคา มันตัง” ไปในที่ไหน ๆ งูมิกัด

    ให้ภาวนาด้วย “อุ อา กะ สะ” ทำไร่ทำนาทำการงานมิรู้เหน็ดเหนื่อยแล

    ให้ภาวนาด้วย “บทยันทุนนิมิตตัง อามังคะ สัญจะ ๆ” จบหนึ่งเอายาติดตัวไว้จะกลับลางนิมิตร้ายให้กลายเป็นดีแล

    ให้อมเม็ดยาเอาไว้แล้วนั่งเหนือลม ภาวนาว่า “อิตถี จิตตัง ปิยัง มะมะ”หญิงคนรักจะรักและหลงเรามิหนีห่างกายไปไหนได้เลยแล

    เมื่อจะเดินทางไปสารทิศไหน เข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่ให้เอายาแช่น้ำ ใช้น้ำมนต์สระหัว อมเม็ดยาและภาวนาว่า “สัตถาเทวะมนุสานัง พุทโธภะคะวาติ” 7 ครั้ง ผู้ใหญ่ เจ้านายหายโกรธช่วยเหลือเราทุกทางแล

    ถ้าเผอิญด้วยหมู่ศัตรูคิดร้ายให้อมเม็ดยาแล้วภาวนาว่า “พามานา อุ กะ สะ นะ ทุ” 8 คาบ ชนะศัตรู ศัตรูทำร้ายเรามิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล

    เอาเม็ดยาติดตัวไว้ป้องกันสรรพโรคภัย ป้องกันเสนียดจังไร กันยายีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อยาเมา เอารากมะนาวหนึ่ง มะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสายกินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้วถ้าติดเม็ดยากับตัวไปมิต้องเราเลยแล

    ให้มีเม็ดยาติดตน ถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืดหูมืดได้ใช้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษ คุณมากนัก ตีค่าไว้ถึง 8 ตำลึงทองแล


    (ปิดรายการชุดนี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 422.JPG
      422.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.2 KB
      เปิดดู:
      69
    • 423.JPG
      423.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.3 KB
      เปิดดู:
      74
    • 421.JPG
      421.JPG
      ขนาดไฟล์:
      72.9 KB
      เปิดดู:
      66
    • 351.jpg
      351.jpg
      ขนาดไฟล์:
      315.3 KB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2022
  15. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    พระกริ่งเชียงแสน เนื้อทองแดงรมดำ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ปี2515(พระเกจิระดับสุยอดเมืองไทยมาเพียบ..ลป.แหวน,ลป.โต๊ะ,ลพ.เงิน,ลพ.เกษม,ลพ.กวย ) ราคาเบาๆ พระที่ออกใหม่ยังแพงกว่าเลยครับ

    พิธีปลุกเสกที่วัดพระธาตุดอยสุเทพในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2515 โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ทรงเป็นประธาน มีพระเครื่องพิมพ์ต่างๆที่สร้างและปลุกเสกในพิธีเดียวกันนี้หลายๆพิมพ์ เช่น พระพิมพ์พระร่วงรางปืน พระกริ่งเชียงแสน,เหรียญครูบาศรีวิชัยหลังพระธาตุ ,เหรียญพระพุทธสิหิงค์,เหรียญพระเจ้าเสตังคมณี วัดเชียงมั่น,เหรียญหลวงพ่อทันใจ ,เหรียญเจ้าคุณพระราชสิทธาจารย์,เหรียญเจ้าคุณพระอภัยสารทะ วัดทุงยู เป็นต้น โดยนิมนต์สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ 108 รูป ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ

    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร,
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท,
    หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่
    หลวงพ่อเกษม เขมโก จังหวัดลำปาง,
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม,
    ครูบาคำแสน อินทจักรโก วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่,
    ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่,
    ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุ่ย จังหวัดลำพูน,
    พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    อาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส เป็นต้น

    วัตถุมงคลชุดนี้ นับว่าเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ รายชื่อพระที่มาร่วมปลุกเสก ระดับสุดยอดทุกท่าน จัดเป็นของดีทีราคายังไม่แพงน่าเก็บไว้ใช้บูชาจริงๆ


    (ปิดรายการองค์นี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 536.JPG
      536.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.1 KB
      เปิดดู:
      130
    • 535.jpg
      535.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.7 KB
      เปิดดู:
      130
    • 537.JPG
      537.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.2 KB
      เปิดดู:
      125
    • 534.jpg
      534.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51 KB
      เปิดดู:
      130
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2022
  16. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +756
    จอวกริ่งเขียงแสน
     
  17. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  18. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    พระว่านยา สมเด็จสองพี่น้อง วัดเสนหา จ.นครปฐม ปี.2506 ( แนะนำพระดีพุทธคุณสุดยอด ในราคาเบาๆ )

    พระรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาส พิธีพุทธาภิเษกงานหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง
    ของพระเทพเจติยาจารย์ ในวัที่ 13 เม.ย. 2506 ตรงกับวันเสาร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 5 (เสาร์ 5)
    ได้จัดสร้างขึ้นตามตำราของพระคุณท่านราชธรรมกวี
    ตามตำราว่าไว้ว่าต้องนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 อย่าง ผสมกัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

    1. ว่านยา 108 ชนิด เจาะจงเอาที่มีคุณวิเศษแต่ละอย่างไม่ซ้ำกัน ขาดเกินมิได้
    2. ดอกไม้ 108 ชนิด มีชื่อไม่ซ้ำกัน(ดอกว่านขันหมากเงิน ขันหมากทอง ขาดมิได้)
    3. น้ำท่า 108 บาง ไม่ซ้ำกัน นำมาผสมทำน้ำมนต์พรมว่านยา
    4. ดอกไม้ที่หน้าพระประธานในพระอุโบสถ 108 วัด ต้องนำมาถึงพร้อมกันหมดในคืนวันเข้าพรรษา
    5. ดอกไม้ที่มหาชนนำไปบูชาพระประธานในพระอุโบสถ วันจาตุรงคสันนิบาต(วันมาฆบูชา) 108 วัด
    เริ่มเก็บตั้งแต่พระอาทิตย์ตกแล้ว จนถึงเที่ยงคืนนำมาให้ถึงที่เดียวกันทั้งหมดในคืนนั้น ถ้ารุ่งแล้วมาถึงไม่ครบใช้ไม่ได้ ต้องรออีก 1 ปี
    6. น้ำในมหานที 9 สาย นำมาผสมทำน้ำมนต์พรมว่านยา
    7.ตะไคร่น้ำที่พระบรมมหาธาตุเจดีย์ 9 แห่ง
    8.ดินโป่ง 9 แห่ง
    9.แร่ธาตุ 9 ชนิด มีแร่สังขวานรเป็นต้น(เป็นแร่วิเศษที่หาได้ยาก)

    ครั้งที่ 1 นำว่านยาที่หาได้ทั้งหมดแล้ว ลงปลุกเสกด้วยพระปาฎิโมกข์ท่ามกลางสงฆ์ ในพระอุโบสถ วันจาตุรงคสันนิบาตเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 06

    ครั้งที่ 2 นำว่านยาทั้งหมด ที่บดเป็นผงแล้ว ทำพิธีบวงสรวงสังเวยเทวดาอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ เชิญมาปลุกเสกสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นทิพยวัตถุขึ้น พิธีนี้สงฆ์ 32 รูป เท่าอาการทั้ง 32 เจริญพระพุทธมนต์ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 06

    ครั้งที่ 3 นำพระสมเด็จหลวงพ่อดำ- หลวงพ่อขาว ที่กดพิมพ์เรียบร้อย ลงทำพิธีพุทธาภิเษก ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2506 โดยมี พระเทพเจติยาจารย์ (วงศ์) หรือหลวงปู่ใหญ่ เป็นผู้จุดเทียนชัยเป็นปฐมฤกษ์ ซึ่งมีเกจิอาจารย์ปลุกเสก คือ

    1. หลวงพ่อคล้าย (พระครูพิศิษฐฯ) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    2. หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา นครปฐม
    3. หลวงพ่อเฮี้ยง (ท่านเจ้าคุณพระวรพรตปัญญาจารย์) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    4. หลวงพ่อเจริญ (ท่านเจ้าคุณพระราชสมุทรเมธี) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม
    5. หลวงพ่อเงิน (ท่านเจ้าคุณพระราชธรรมาภรณ์) วัดดอนยายหอม นครปฐม
    6. หลวงพ่อสอน (ท่านเจ้าคุณกาญจนวัตรวิบูล) วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    7. หลวงพ่อถิร (ท่านพระครูรักขิตวันมุนี) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    8. หลวงพ่อแดง (ท่านพระครูสุวรรณกิจ) วัดทุ่งคอก สุพรรณบุรี
    9. หลวงพ่อรอด (ท่านปลัดรอด) วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช
    10. หลวงพ่อนาค วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง กาญจนบุรี
    11. หลวงพ่อลำเจียก (ท่านพระครูสมณธรรมสมาทาน) วัดศาลาตึก
    12. หลวงพ่อปาน (ท่านพระครูพรหมสุทธิ) วัดหนองปลาไหล นครปฐม
    13. หลวงพ่อสำเนียง (ท่านพระครูสถาพรพุทธมนต์) วัดเวฬุวัน นครปฐม
    14. หลวงพ่อสัมฤทธิ์ (ท่านพระครูพินิจสุวรรณภูมิ) วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    15. หลวงพ่อเทพ ปิยวณฺโณ สำนักสงฆ์โพธิ์ทองเทพาราม
    16. ส ฐ. วัดเสนหา นครปฐม
    17. อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี
    อาจารย์นั่งบริกรรมและเจริญพระพุทธมนต์
    1. หลวงพ่อนาค วัดระฆังโฆสิตาราม (ท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธินายก) ธนบุรี
    2. หลวงพ่อวัดบุปผาราม (ท่านเจ้าคุณพระเทพปัญญามุนี) ธนบุรี
    3. หลวงพ่อวัดสุทธจินดา (ท่านเจ้าคุณพระราชสุทธาจารย์) นครราชสีมา
    4. หลวงพ่อวัดเขาเต่า (ท่านเจ้าคุณพระภัทรมุขมุนี) ประจวบคีรีขันธ์
    5. หลวงพ่อวัดบุปผาราม (ท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมลเมธี) ธนบุรี
    6. หลวงพ่อวัดราชประดิษฐ์ (ท่านพระครูจิตตานุรักษ์) พระนคร
    โดยมีอาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี ตลอดทั้ง 3 วัน 3 คืน

    พระคาถาที่ใช้อาราธนา สมเด็จสองพี่น้อง และวิธีปฏิบัติ เมื่อท่านต้องการจะใช้

    ก่อนท่องต้องทำใจให้บริสุทธิ์ มีเมตตากรุณาเป็นที่ตั้ง แล้วนึกถึงตุณพระรัตนตรัย บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย

    ทำจิตให้นิ่งพักหนึ่งแล้วว่า นะโม 3 จบ แล้วบริกรรมว่า
    .. "นโม อิสวาสุ อิติ ติสปารมิโย อารักขันตุ " 3 จบ


    สมเด็จหลวงพ่อดำ ปลุกเสกเน้นไปทางคงกระพันชาตรี ป้องกันศาสตราวุธ เขี้ยวงาทุกชนิด ป้องกันภูตผีปีศาจ

    สมเด้จหลวงพ่อขาว ปลุกเสกหนักไปทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขายดี และแคล้วคลาดป้องกันภัยนานาประการ


    พระดี ราคาเบา พระเก่า พิธีใหญ่ ประวัติชัดเจน พุทธคุณเกินราคา พระที่ออกมาใหม่ๆแพงกว่าเยอะครับ

    (ปิดรายการองค์นี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 355.jpg
      355.jpg
      ขนาดไฟล์:
      217.3 KB
      เปิดดู:
      302
    • 356.jpg
      356.jpg
      ขนาดไฟล์:
      217.3 KB
      เปิดดู:
      299
    • 357.jpg
      357.jpg
      ขนาดไฟล์:
      214 KB
      เปิดดู:
      306
    • 353.JPG
      353.JPG
      ขนาดไฟล์:
      331.1 KB
      เปิดดู:
      322
    • 354.JPG
      354.JPG
      ขนาดไฟล์:
      315.7 KB
      เปิดดู:
      314
    • 358.jpg
      358.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.4 KB
      เปิดดู:
      308
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2023
  19. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    เหรียญกรมหลวงชุมพรหลังหลวงปู่ศุข รุ่น "วิญญาณรักดอกประดู่"( หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ปลุกเสก )

    > วาระนี้ ขอนำเรื่องราวของวัตถุมงคลที่ หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ปลุกเสกมาบอกเล่าให้รับรู้ คือ #เหรียญวิญญาณรักดอกประดู่

    > ข้อมูลของวัตถุมงคลนี้ เป็นที่ทราบในหมู่ศิษย์มานานแล้ว เดิมทีเหรียญรุ่นนี้ จัดสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๕๐๔ เพื่อแจกเป็นที่ระลึก แก่ผู้ร่วมบริจาคช่วยครอบครัวทหารเรือที่ขาดแคลน เหรียญส่วนหนึ่งแจกแก่ทหารเรือ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ปลุกเสกอธิษฐานโดยพระคณาจารย์ในสมัยนั้น เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ฯลฯ เหรียญรุ่นนี้สร้างจำนวนมาก เมื่อทำการแจกจนเสร็จสิ้นแล้ว ยังคงมีเหรียญที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก

    > ต่อมา เมื่อมีการสร้างภาพยนต์เรื่อง #วิญญาณรักดอกประดู่ ผู้สร้างจึงมีความคิดเห็นว่า ควรนำเหรียญดังกล่าว มาแจกสมนาคุณแก่ผู้เข้าชมภาพยนต์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายตั๋ว มอบให้กองทัพเรือ สมัยนั้นศิษย์ของหลวงปู่เดินหน เป็นผู้อยู่ในแวดวงภาพยนตร์มีอยู่หลายท่าน เช่น คุณดอกดิน กัญญามาลย์, คุณมิตร ชัยบัญชา, คุณ ภาวนา ชนะจิต, คุณประเทือง ตรีเมฆ ฯลฯ

    > ซึ่งคณะผู้สร้างภาพยนต์เรื่อง "วิญญาณรักดอกประดู่" ได้นำเหรียญที่ตกค้างทั้งหมด นำมาขอให้ "หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร" ปลุกเสกอธิษฐานจิต ก่อนนำไปแจกแก่ผู้เข้าชมภาพยนตร์ เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมอบแก่ทหารเรือ

    > ภาพยนตร์เรื่อง "วิญญาณรักดอกประดู่" เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ โดยตั๋วชมภาพยนตร์หนึ่งใบ ขอรับเหรียญได้หนึ่งเหรียญ ผู้ฅนให้ความสนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก เหรียญส่วนหนึ่งทางคณะผู้สร้างได้ถวายหลวงปู่เดินหนไว้.....Cr.คนขลังคลังวิชา


    (ปิดรายการองค์นี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 493.JPG
      493.JPG
      ขนาดไฟล์:
      79.3 KB
      เปิดดู:
      64
    • 494.JPG
      494.JPG
      ขนาดไฟล์:
      72.1 KB
      เปิดดู:
      62
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2022
  20. เยาวราช

    เยาวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,298
    ค่าพลัง:
    +2,481
    พระผงรูปเหมือนรุ่น ๑ หลวงพ่ออั้น (พิมพ์กรรมการ) เนื้อแดงหายาก วัดพระญาติการาม จ.อยธยา พ.ศ.2514 หลวงปู่ดู่,หลวงพ่อ.พรหม,หลวงปู่ชื้น,หลวงพ่อรวย อธิฐานจิตเสก

    พระผงรูปเหมือนรุ่น ๑ หลวงพ่ออั้น (พิมพ์กรรมการ)วัดพระญาติการาม จ.อยธยา พ.ศ.2514 จัดสร้างโดย หลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี (ศิษย์เอก หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ และท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2514 โดยใช้ผงเก่าของหลวงพ่อกลั่นและหลวงพ่ออั้นในขวดโหลผสมกัน ซึ่งมีผงวิเศษต่างๆมากมาย รวมถึงส่วนผสมของพระกรุเก่ามากมาย เช่นเศษของพระขุนแผนเคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล พระกรุวัดตะไกร พระโคสมอ ฯลฯ
    ในการจัดสร้างครั้งนี้ได้มีการกดพิมพ์ขึ้น 2พิมพ์ เป็นพิมพ์หลวงพ่อกลั่นอย่างหนึ่งและพิมพ์หลวงพ่ออั้นอย่างหนึ่ง แล้วจัดพุทธาภิเษกใหญ่ในวัดพระญาติโดยนิมนต์เกจิสายหลวงพ่อกลั่นมาเกือบจะครบหมด รวมถึงพระเกจอาจารย์สายจังหวัดอยุธยามาร่วมพิธีด้วย
    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธี
    - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    - หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
    - หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    - หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม
    - หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
    - หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
    - หลวงพ่อเสาร์ วัดดอนหญ้านาง เป็นต้น

    พุทธคุณสุดยอด เพราะแม้แต่คนที่ไปถ่ายรูปบัตรประชาชนในอำเภอช่างกล้องกดชัตเตอร์ยังไงก็ไม่ลง จนต้องให้ชายคนนั้นออกจากที่ยืนไปก่อนแล้วลองกดใหม่ก็กดได้ เอาเข้ามายืนก็กดไม่ลงอีก เลยถามไถ่ได้ความว่าใส่พระผงพิมพ์หลวงพ่อกลั่นจึงให้ถอดออก คราวนี้ก็กดติดสบาย คนอยุธยาเลยหากันควั่ก เพราะนอกจากจะได้ผงเก่าของทั้งสองอาจารย์แล้วยังถือว่าเป็นพระผงรูปเหมือนรุ่นแรกของท่านทั้งสองด้วย แม้ว่าจะสร้างหลังจากท่านมรณภาพแล้วแต่พุทธคุณก็เด่นมากมาย


    (ปิดรายการองค์นี้มีผู้นิมนต์เรียบร้อยครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 397.JPG
      397.JPG
      ขนาดไฟล์:
      87.2 KB
      เปิดดู:
      78
    • 396.JPG
      396.JPG
      ขนาดไฟล์:
      90.5 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...