เถรสมาคม แนะฟ้องศาล สั่งสึกพระเกษม

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 8 สิงหาคม 2008.

  1. เอกวัฒน์

    เอกวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +2,431
    น่าจะจับสึกไปตั้งนานแล้ว เผยแผ่คำสอนผิดเพี้ยน เป็นภัยกับพระศาสนา
    ใครที่นับถืออยู่ กลับใจกันได้แล้ว ยังไม่สาย พระดีๆยังมีอีกเยอะ
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>หลงเข้ามา, เอกวัฒน์, พายุทะเลทราย </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. runchoo_man

    runchoo_man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    597
    ค่าพลัง:
    +593
    ไม่น่ารุนแรงขนาดนี้เลยครับ
     
  4. guitar1913

    guitar1913 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +81
    พวกหนอนนอนกอดคัมภีร์(ฟังจากพ่อเเม่ครูบาอาจารย์มาหลายรูป) ตีความคัมภีร์เข้าข้างตัวเอง ก็แบบนี้เเหล่ะ ไม่ปฏิบัติเลยไม่มีปัญญา ในมุมมองผมการโอนบุญที่ท่านสอนและลูกศิษย์ท่านส่วนใหญ่ก็อิงด้วยความอยากคือกิเลสเป็นพื้นอยู่แล้ว
     
  5. สุวรรณบัณฑิต

    สุวรรณบัณฑิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    สังเกตุ ไหมละครับว่า

    มีแต่คนเก่ง...

    แต่จะเก่ง แบบไหนนะ

    เก่งแบบเข้าใจไปเอง...

    เก่งแบบมั่ว...

    เก่งแบบไม่รู้...

    เก่งแบบไม่ได้ศึกษา...

    เก่งแบบ เก่งแต่เกิด..

    หรือว่าเก่งแบบผิด...

    หรือเก่งแบบ เก่งตามธรรมชาติ จริง...

    ข้าน้อย เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี
     
  6. สุวรรณบัณฑิต

    สุวรรณบัณฑิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    สงสัย....

    จะพากันเป็นศาสดาเองแล้วมั้งนี่

    รู้ไปหมดเลย

    เก่งจังครับ

    สวากขาตธรรม... ที่พากันสวดทุกวันนะ

    ยังจะเหลืออยู่ไหมหนอ...

    ในใจผู้ที่เก่งๆ ทั้งหลาย...
    <!-- / message -->
     
  7. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
  8. ดุสิตบุรี

    ดุสิตบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +273
    พระเกษมบอกว่าไม่ให้ยึดติดกับวัตถุ แม้กระทั่งวัตถุนั้นเป็นตัวแทนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าล่ะนะ บอกคำเดียวว่าไม่เคยพบ ไม่เคยเจอเลยครับ นั้นผมเดินข้ามท่าน นั่งตักท่านได้หรือป่าวครับ นรกจะกินผมหรือป่าว (แค่พิมพ์ยังกลัวเลย) เพราะผมไม่อยากจะยึดติดรูปขันธ์ของท่านครับ (ถ้าเชื่อคำสอนของท่านนะ จะทำบ้าง)

    ขนาดต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ครั้งพระอานนท์ทูลถามองค์ตถาคตถึงสิ่งที่จะเป็นที่ระลึกถึงเมื่อครั้งองค์ตถาคตไม่อยู่แล้ว พระตถาคตเจ้ายังทรงตรัสว่า "ต้นศรีมหาโพธิ์ที่เราได้อธิษฐานทำบัลลังก์ก่อนตรัสรู้และได้ตรัสรู้ นั่นแหละเป็นตัวแทนของเรา ให้ระลึกนึกถึงเราตถาคตได้"(จำข้อความได้ไม่ตรงเป๊นะครับ เดี๋ยวจะมีคนมาหาว่าอ้างไม่ตรงอีก เอาแต่ความหมายแล้วกันครับ)

    ขนาดหลวงตามหาบัว ยังทรงกราบไหว้พระประธาน รูปหล่อหลวงปู่มั่น ที่เป็นครูบาอาจารย์ ท่านเป็นถึงพระอรหันต์ท่านยังไม่เคยจะทำกิริยาอันไม่สุภาพเลย ขนาดจะหันเท้าไปทางพระประธาน ท่านบอกว่าจะเป็นบาปเลยครับ

    แล้วนี่มาจากไหน บรรลุอะไร ถึงมาตบเศียรพระบรมครูครับ แล้วศิษย์ยังจะหลงงมงาย ไม่ยอมโยนิโสมนสิการ ไม่ยอมพิจารณาโดยแยบคายอีกเหรอครับ จะเป็นมิจฉาทิฎฐิ ปล่อยให้อวิชชาครอบงำไปถึงไหนครับ

    .>>>>เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง <<<<
     
  9. olive36

    olive36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +152
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> olive36, cacalot, ขันธ์</td></tr></tbody></table>
     
  10. MVPhoenix

    MVPhoenix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +102
    ขอให้ท่านทั้งหลายรู้ธรรม เห็นธรรมตามความเป็นจริง ได้พบเจอสัตบุรุษ

    ผู้รู้ธรรม มีสติปัญญา มีวิริยะจนสามารถบรรลุซึ่งมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลเทอญ...
     
  11. คนตาบอด

    คนตาบอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +42
    เรื่องนี้ ถ้าขาดการพิจารณา เป็นเรื่องที่น่ากลัวเพราะการหลงเป็นต้นเหตุ

    ผมก็ได้ดู วีดีโอแล้วล่ะ..บางคำ บางประโยคดูเหมือนท่านพูดไม่ค่อยมั่นใจ

    ไม่มีบุคคลใด หรือ พระอินทร์ พระพรหม เทพธิดา มาร เปรต อสูรกาย หรือสัตว์ชนิดใดในโลกนี้ หรือโลกไหน ที่จะแย้งข้อความในพระไตรปิฎกได้.

    เพราะอะไร เพราะว่าพระไตรปิฎกนั้นเป็นถ้อยคำหรือพระธรรมคำสั่งสอนออกมาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์ พระธรรมที่พระพุทธองค์ท่านแสดงออกมาล้วนมีประโยชน์หาโทษมิได้..

    บุคคลใดในโลกนี้ (ในส่วนของความเห็นของผม) ไม่เคยมีบุคคลใดที่จะสามารถแสดงธรรม เป็นพระธรรมคำสั่งสอน แล้วรวบรวมเป็นพระไตรปิฎกได้คือ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก มีแต่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เท่านั้น..

    เข้าเรื่องเลยละกัน..

    บุคคลที่ท่องจำ พระไตรปิฎกได้ อย่างแม่นยำ บุคคลนั้นถ้าปฎิบัติตาม รู้และเห็นจริงตามพระไตรปิฎก อย่างไม่ผิดเพี้ยนไป...จะสามารถสอนบุคคลอื่นได้ อย่างไม่มีตกบกพร่องเลย นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญยิ่งนัก

    แต่..อุปกิเลสของผู้ท่องจำพระไตรปิฎกได้ก็มี หรือ อุปกิเลสของผู้ปฎิบัติ เคร่งครัดในศีล สมาธิก็มี

    ขอยกตัวอย่าง เท่าที่ผมจำได้.เป็นอุปกิเลสในการภาวนา

    1.บุคคลที่ปฎิบัติตามพระไตรปิฎกอย่างเคร่งครัด เมื่อเห็นบุคคลอื่น ปฎิบัติไม่ตรงตามพระไตรปิฎก ถ้าบุคคลนั้นยังไม่บริสุทธิ์ ทั้ง 3 ส่วนคือ ทางกาย วาจา ใจ อุปกิเลสในส่วนที่ข่มคนอื่นก็จะเกิดขึ้น เช่นการชี้โทษคนอื่น ว่าทำตัวไม่ดี ประพฤติปฎิบัติไม่ถูกต้อง ตามพระธรรมวินัย แทนที่จะตักเตือนเพื่อให้บุคคลนั้นแก้ไข ในการปฎิบัติใหม่ กลับเป็นการหลงตัวเอง ว่าเราปฎิบัติได้ตรงตามพระไตรปิฎก คนอื่นปฎิบัติไม่ได้เหมือนเรา กลายเป็นทิฎฐิมานะไป โดยไม่รู้ตัว.

    2. บุคคลที่ได้ฌานในการทำสมาธิ บอกว่าเห็นโน้นเห็นนี่ ผีมีอย่างนั้น อย่างนี้ เทพมีรูปร่างอย่างนั้น อย่างนี้ พวกท่านยังทำสมาธิไม่ได้ บอกไปพวกท่านก็ไม่เชื่อ วันนั้น วันนี้ มีท่านนั้น ท่านนี้มาหา สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ใช้สติ พิจารณาอย่างถ่องแท้ ถี่ถ้วน ก็จะเป็นการอุปโลกขึ้น โดยเป็นการหลงนิมิตไป หาใช่ความจริงไม่ เมื่อเข้าใจว่าตนรู้และเห็นจริง คนอื่นไม่รู้และเห็นเหมือนเรา ก็จะหลงภูมิใจว่าเราดีกว่าเขา เลิศกว่าเขา..สิ่งนี้อันตราย น่ากลัวมาก.

    3. บุคคลที่เคร่งครัด ในพระวินัย ไม่ยอมให้ศีล ขาดตกบกพร่องไปเลย แม้แต่น้อยนิด คอยเพ่ง คอยจ้องว่าศีลเราจะขาดไหม ไม่มีเวลาในการภาวนาอย่างอื่นเลย มัวแต่คอยระวังไม่ให้ศีลเราด่างพร้อย เมื่อสำรวจดูแล้วว่าศีลเราไม่ด่างพร้อยไป ก็จะหลงอย่างสนิท ถ้าขาดการพิจารณา เมื่อเห็นท่านอื่นไม่เคร่งครัดในศีลเหมือนอย่างเรา ก็เกิดความขัดเคืองขึ้น ไม่ถูกหูถูกตา คอยแต่เพ่งโทษคนอื่นว่า ไม่รักษาศีลให้บริสุทธิ์ กลายเป็นมานะไป..

    ฯลฯ

    นี้ละครับอุปกิเลสที่เกิดจากการภาวนาที่ขาดสติ

    พึงระวังในการสอนคนอื่นด้วย.อยากยึดติดมากนักกับตำรับตำรา หรือในสถานที่ต่างๆ และท้ายสุด มีประโยคที่ท่านพูดว่า ..ในเมื่อญาติโยมที่ศรัทธาท่านมีอยู่ ท่านก็ยังไม่ยอมไปไหน จะทำตัวเหมือนเป็ดที่ไข่ ให้เจ้าของผู้เลี้ยงดู พูดง่ายๆก็คือ การตอบแทนด้วยการสอนธรรม การสอนธรรมให้กับบุคคลที่เลี้ยงดูปูเสือ ระวังให้ดี ในข้อนี้....มีหลายๆอย่างที่ท่านถามความคิดเห็นกับญาติโยมว่าเห็นด้วยหรือไม่..อาตมาทำผิดหรือไม่ ถ้าอาตมาทำผิดก็ไม่ต้องเชื่อ ไม่ต้องทำตาม คำสอนเช่นนี้ มีคุณและโทษในตัวเอง.. และอีกอย่างที่ท่านพูดว่า การทำลายพระพุทธรูปนั้น การสอนแบบนี้ แบบนั้น ท่านสอนและแนะนำให้ชาวบ้านภายในวัดนั้นๆ ภายในหมู่บ้านนั้นๆ การทำลายพระพุทธรูปก็ทำลายในวัดนี้เอง ไม่ได้ไปทำลายวัดอื่น การสอนก็สอนแต่ในวัดนี้ ไม่ได้ไปสอนที่อื่น ชักชวนคนอื่นให้เห็นตาม...

    ท่านลืมไปแล้วหรอ..

    1.เวปไซด์ที่ท่านเปิดขึ้น และแปลพระไตรปิฎกโดยที่พระที่แปลนั้น ใส่คำพูดที่ไม่น่าเลื่อมใสเอาซะเลย เช่น ใครก็ตามที่ทำบุญแล้วไม่หวังผล โง่ มาก ม๊าก มาก...นี้หรอพระที่ทำเวปไซด์ ภาษาเหมือนเด็กใช้คุยกันในเวลาเล่นเอมหรือเกมส์ซะมากกว่า.. แปลพระไตรปิฎก ชี้โทษคนอื่น ระวังเถอะจะเป็นการปรามาสบุคคลอื่น..

    2. ทำ ซีดี การสอนขึ้น แล้วออกแจกจ่าย บุคคลอื่น

    3. จัดทำเป็นหนังสือขึ้น แนะนำให้ผู้อื่น อ่านเพื่อที่จะรู้ความจริงต่างๆ ตามที่ท่านและลูกศิษย์เข้าใจ

    สิ่งเหล่านี้ ถ้าท่านคิดว่า ท่านไม่ได้ทำความเสียหายให้กับคนอื่น ท่านคงจะขาดสติ หลงลืม ด้วยมานะ ความถือตัว ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง เป็นใหญ่ คิดว่าตัวเองปฎิบัติดีปฎิบัติชอบกว่าพระรูปอื่น แต่โดยส่วนมากท่านจะชี้โทษของพระที่ปฎิบัติผิด หรือรวมแล้ว ท่านมองเห็นแต่แผลที่เปื่อยในร่างกายบุคคลอื่น แต่ท่านกลับมองไม่เห็นแผลที่กำลังเน่าในใจท่านอยู่ เพราะมืดบอดด้วยอุปกิเลส..

    เท่าที่ฟังมา เห็นท่านบอกว่า พระสายวัดป่า และ สายปกครอง ปล่อยท่านเเล้ว ผมคิดว่า พระสายวัดป่า และ สายปกครองท่านมีเหตุผลแน่ เพราะถ้าเกิดท่านไม่พิจารณาแล้ว ท่านจะไม่ทำเด็ดขาด เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีคุณต่อท่านและจะเป็นตัวถ่วงให้ล้าช้าในการภาวนา บำเพ็ญเพียรทางจิต ..

    สังเกตดูแล้ว ท่านบอกว่า มีพระ จำนวน 9 รูปรวมกับท่าน และมีญาติโยมที่เป็นชาวบ้าน ชอบในวิธีการสั่งสอนของท่าน เป็นเรื่องที่น่ายินดี..เพราะว่าท่านสอนอ้างอิงในพระไตรปิฎก..ถ้าไม่เชื่อก็ให้เปิดพระไตรปิฏกดู.

    แต่ทางวัดป่า ท่านสอนอีกแบบหนึ่งที่ผมพอจะได้สัมผัสมา ท่านสอนการปฎิบัติให้เห็นของจริง นั่งสมาธิ เดินจงกรม ถือธุดงค์วัตรตามครูบาอาจารย์ ติดขัดตรงไหนอย่าพึงดูพระไตรปิฎก ให้ใช้ปัญญาดูก่อน เพราะถ้าไม่มีในพระไตรปิฏกแล้วเราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย.

    พอครูบาอาจารย์ท่านคิดว่าภูมิธรรมเหมาะสมแล้วที่จะออกธุดงค์ ท่านก็แนะนำให้ไปค้นหาความจริง ในป่าในเขา ไปสัมผัสชีวิตของพระธุดงค์ เดินตามรอยพระพุทธองค์ที่ท่านเคยได้กระทำเป็นตัวอย่าง และพระอรหันตสาวกก็กระทำเช่นนั้น.

    สอนการภาวนาให้เห็นสภาวะที่เป็นจริงในขณะนั้น ให้เห็นตามทุกขณะที่จิตเป็นไป.

    รวมแล้วพระสายวัดป่าตามที่ผมได้ไปประสบมา ท่านเป็นพระที่ปฎิบัติธรรม โดยการลองของจริง ไปรู้ ไปดูก่อน ให้เห็นธรรมที่ผุดขึ้นในใจ ให้เห็นกิเลสความเศร้าหมองด้วยตัวเอง.

    อย่ามัวแต่นั่งอ่านตำรา แล้วท่องจำเอามาเพ่งคนโทษคนอื่นโดยใช้ตำราอ้างอิง
    คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ทำไม่ถูก เสียเวลา ไม่ได้ประโยชน์แถมยังอาจเพิ่มโทษให้ตัวเอง..

    ผมอาจจะไม่มีภูมิธรรม ภูมิปัญญาเลยก็ได้ แต่ผมก็จะเชื่อในวิธีการปฎิบัติในแนวทางสายวัดป่าและสายปกครอง ที่ผมปฎิบัติแล้วเห็นผลเกิดขึ้นในใจตัวเอง.

    ถ้าการกราบไหว้พระพุทธรูปเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถึงแม้จะตกนรกผมก็จะกราบไหว้ แม้ว่าผมจะเป็นพระภิกษุหรือฆราวาสผมก็จะกราบไหว้พระพุทธรูป

    ผมจะยอมตกนรกถ้าการกราบไหว้พระพุทธรูปพาไปสู่นรก ผมก็ยอม..แต่ผมจะไม่ใช้เท้าเหยียบ ใช้กระดาษเขียนถ้อยคำอันต่ำทราม ไม่ทุบไม่ทำลาย ไม่ใช้น้ำกรดราด ให้ตัวพระพุทธรูปสึกกร่อนไปเป็นอันขาด แม้จะมีใครมีความเชื่อว่า การกราบไหว้พระพุทธรูปเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ไม่มีอานิสงส์..

    เรื่องนี้สอนให้ผมใช้ปัญญา พิจารณาอย่างมาก อย่าเชื่อ ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์ล้วนแล้วตรงกับพุทธภาษิตว่า อัตตา หิ อัตตาโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึงแห่งตน ได้อย่างดีเยี่ยม หาที่ติในพุทธภาษิตไม่ได้เลย

    สาธุ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2008
  12. ซุปเปอร์ไซย่า

    ซุปเปอร์ไซย่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +0
    เมื่อวานได้ฟัง ที่ราชินีพูดแล้วประทับใจมาก
    [​IMG]
    ตอนนี้อยากให้คนในชาติรัก สามัคคีกันมากๆ

    ส่วนเรื่องพระเกษม ปล่อยให้ศาลตัดสินโทษไปตอนนี้

    สนใจเรื่องอื่นดีกว่า;20:z4;k07

    ทหารทางใต้ ยังต้องการพวกเราให้กำลังใจ
    มันฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าพระ ฆ่าอิสลามด้วยกัน ฆ่าทุกคนโดยไม่เลือก มันเผาโรงเรียน มันฆ่าครู มันโหดร้ายมากเลย
    ถ้าพระเกษมขึ้นไปถามเทวดาได้จริง
    ช่วยฝากไปถามด้วยว่า เมื่อไหร่ไอ้พวกนี้มันจะ ตายห่าเสียที
    มันทำเวรกับประเทศมานานเหลือเกิน


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2008
  13. ren

    ren เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +2,646
    พูดแล้วขนลุก ... น่ะคะ

    เคยมีพี่คนหนึ่งเขาส่งเมลล์ไฟล์
    หนังสือเรื่องการอุทิศบุญของหลวงพ่อเกษมไว้ให้
    อ่านได้ สองสามหน้าเริ่มรู้สึกแปลกๆ
    แล้วรู้สึกไม่ดีมากๆ มันแน่นๆ หนักๆ มึนๆ

    เลยไม่กล้าอ่านต่อ เพราะกลัวว่าอ่านไปแล้วใจเราคิดไม่ดีจะเป็นการประมาส
    พระรัตนตรัย ไม่เหมือนเวลาอ่านหนังสือธรรมของหลวงพ่อฤาษี
    ที่อ่านแล้วใจจะรู้สึกอิ่มเอมในธรรม เป็นสุข

    มาวันนี้ความจริงก็ปรากฎ .....
     
  14. พิม

    พิม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +95
    คัดลอกจากพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม

    เล่ม 40 หน้า 284

    พระนางมาคันทิยา ไม่อาจเพื่อจะทำอะไร ๆ แก่หญิงเหล่านั้นได้
    ก็ดำริว่า " เราจักทำกรรมที่ควรทำแก่พระสมณโคดมให้ได้" จึงให้ค่าจ้างแก่ชาวเมืองแล้วกล่าวว่า
    " พวกเจ้าพร้อมด้วยพวกผู้ชายที่เป็นทาสและกรรมกร จงด่า บริภาษ พระสมณโคดมผู้เข้าไปสู่ภายในพระนครเที่ยวอยู่ ให้หนีไป."
    พวกมิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิด) ผู้ไม่เลื่อมใสในรัตนะ ๓ ก็ติดตามพระศาสดาผู้เสด็จไปสู่ภายในพระนคร
    ด่าอยู่ บริภาษอยู่ด้วยวัตถุสำหรับด่า ๑๐ อย่างว่า

    ๑. เจ้าเป็นโจร
    ๒. เจ้าเป็นพาล
    ๓. เจ้าเป็นบ้า
    ๔. เจ้าเป็นอูฐ
    ๕. เจ้าเป็นวัว
    ๖. เจ้าเป็นลา
    ๗. เจ้าเป็นสัตว์นรก
    ๘. เจ้าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน
    ๙. สุคติของเจ้าไม่มี
    ๑๐. เจ้าหวังได้ทุคติอย่างเดียว.

    ท่านพระอานนท์ฟังคำนั้นแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชาวเมืองเหล่านี้ ย่อมด่า ย่อมบริภาษพวกเรา, พวกเราจะไปในที่อื่นจากที่นี้."

    พระศาสดาตรัสถามว่า " เราจะไปที่ไหน อานนท์."
    พระอานนท์กราบทูลว่า " ไปเมืองอื่น พระเจ้าข้า."
    พระศาสดา. "เมื่อพวกมนุษย์ในเมืองนั้นด่าอยู่, เราจักไปในที่ไหนกันอีกเล่า ? อานนท์."
    พระอานนท์. "ไปสู่เมืองอื่น แม้จากเมืองนั้น พระเจ้าข้า."
    พระศาสดา. "เมื่อพวกมนุษย์ในเมืองนั้นด่าอยู่, เราจักไปในที่ไหนกันเล่า ?"
    พระอานนท์. "ไปเมืองอื่นจากเมืองนั้น พระเจ้าข้า."
    พระศาสดา. "อานนท์ การทำอย่างนี้ไม่ควร; อธิกรณ์เกิดขึ้นในที่ใด, เมื่ออธิกรณ์นั้นสงบระงับแล้วในที่นั้นแล จึงควรไปในที่อื่น;อานนท์ ก็พวกเหล่านั้น ใครเล่า ? ด่า."
    พระอานนท์. "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกเหล่านั้นทุกคนจนกระทั่งพวกทาสและกรรมกร ด่า."
    พระศาสดาตรัสว่า " อานนท์ เราเป็นเช่นกับช้างตัวก้าวลงสู่สงคราม, ก็การอดทนลูกศรอันมาจาก ๔ ทิศ ย่อมเป็นภาระของช้างซึ่งก้าวลงสู่สงความฉันใด ชื่อว่าการอดทนต่อถ้อยคำอันคนทุศีลเป็นอันมากกล่าวแล้ว ก็เป็นภาระของเราฉันนั้นเหมือนกัน" ดังนี้แล้ว.......
     
  15. ซุปเปอร์ไซย่า

    ซุปเปอร์ไซย่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +0
    ;k07 เทวดาในร่างท่านอาจจะไม่ชอบก็ได้นะ มีอย่างที่ไหนบอกไม่ให้สวดมนตร์
    เทวดาก็ต้องไม่ชอบสิ จริงไหม
     
  16. ซุปเปอร์ไซย่า

    ซุปเปอร์ไซย่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +0
    ;k07เป็นไรมากเปล่างับ แค่โดนด่าทั่วบ้าน ทั่วเมือง ทั่วเวบ จะต้องงัดเอาพระไตรมาโพสอีกทำ หยังหว่า

    เก่งจริง รับพลัง ลูกบอลเก็งกิ ของเราให้ได้สิ เปรี้ยงงงงงงงง

    <table cellpadding="6" width="400"><tbody> <tr> <td align="center">[​IMG]</td></tr> <tr> <td align="left">
    </td></tr> <tr> <td class="smallfont" align="left">
    </td></tr></tbody></table>
    <table cellpadding="6" width="426"><tbody> <tr> <td align="center">[​IMG]</td></tr> <tr> <td align="left">
    </td></tr> <tr> <td class="smallfont" align="left">
    </td></tr></tbody></table>
     
  17. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,018
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ผมมีความคิด 2 อย่าง

    1.ถ้าหลวงพ่อเกษมผิด ผมว่า พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล 91 เล่ม ทำมาทำไม ในเมื่อสอนทั้งพระทั้งฆราวาสผิด ๆ หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในนั้นเพี้ยน เอาท่อนนี้ไป

    รูปเหมือนพระพุทธเจ้าไม่มี เล่ม 32 หน้า 214

    อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพ ( ความเป็นตัวตน ) เรียกว่ารูปเปรียบ
    ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี
    อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น
    ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทราย (แม้เพียงนิ๊ดนึง)
    ให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี
    เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง.

    อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่าไม่มีผู้เทียบ
    เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคต นั้นไม่มี



    ธรรม – วินัย ที่พระองค์ตรัสต่างหากเล่า คือตัวแทนพระศาสดา เล่ม 13 หน้า 320

    ....ดูก่อนอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์ (พุทธพจน์)
    มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น
    ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ
    ธรรมและวินัยอันนั้นจักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา......


    ความหมายของอุทเทสิกเจดีย์ที่แท้จริง เล่ม 60 หน้า 267

    ...พระอานนทเถระรับว่า ดีละ แล้วทูลถามพระตถาคตว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เจดีย์มีกี่อย่าง.
    พระศาสดาตรัสตอบว่า มีสามอย่างอานนท์.
    พระอานนทเถระทูลถามว่า สามอย่างอะไรบ้าง พระเจ้าข้า.
    พระศาสดาตรัสว่า ธาตุเจดีย์ ๑ ปริโภคเจดีย์ ๑ อุทเทสิกเจดีย์ ๑.
    พระอานนทเถระทูลว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพระองค์เสด็จจาริกไป
    ข้าพระองค์อาจกระทำเจดีย์ได้หรือ.
    พระศาสดาตรัสว่า อานนท์ สำหรับธาตุเจดีย์ไม่อาจทำได้ เพราะธาตุเจดีย์นั้น
    จะมีได้ในกาลที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว

    สำหรับอุทเทสิกเจดีย์ก็ไม่มีวัตถุปรากฏ เป็นเพียงเนื่องด้วยตถาคตเท่านั้น...

    ถ้านี่เป็นการแก้ต่างให้หลวงพ่อเกษม หรือมีผู้ใดคิดว่าอย่างัดตำรามาแก้ต่าง งั้นตำรานี้เชื่อมิได้ อย่างนั้นหรือ

    2.คนเรา สร้างประเพณีอันดีงาม กราบไหว้พระ นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช้านาน สมัยไหน ๆ มาแล้ว กี่รุ่นอายุคน เขาก็ทำกันมา วันหนึ่งท่านต้องมากระโดดข้ามฝาก คนละแนว เพราะสืบสาวราวเรื่อง ได้ว่าพระที่ทำ ที่หล่อ ขึ้นเข้าข่าย พระศาสดาให้เปรียบตามพระไตรปิฎก


    เอาง่าย ๆ ทุกวันนี้ ยังมีคนเอาเงินไปใส่บาตร

    สิ่งของที่ต้องไม่นำไปถวายพระภิกษุ เล่ม 11 หน้า 310 – 311

    ...13. เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.
    14. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหาร ( ข้าว ) ดิบ.
    15. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ
    16. เธอเว้นขาดจากการรับสตรี และกุมารี.
    17. เธอเว้นขาดจากการรับทาสี( ทาสหญิง ) และทาส.
    18. เธอเว้นขาดจากการรับแพะ และแกะ.
    19. เธอเว้นขาดจากการรับไก่ เละสุกร.
    20. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.
    21. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นา และที่ดิน.
    22. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรม ( การนำข้อความไปแจ้ง ) และการรับใช้.
    23. เธอเว้นขาดจากการซื้อ การขาย...


    ข้อ 13 มันก็น่าคิดนะครับ
     
  18. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,018
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ผมมีความคิด 2 อย่าง

    1.ถ้าหลวงพ่อเกษมผิด ผมว่า พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล 91 เล่ม ทำมาทำไม ในเมื่อสอนทั้งพระทั้งฆราวาสผิด ๆ หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในนั้นเพี้ยน เอาท่อนนี้ไป

    รูปเหมือนพระพุทธเจ้าไม่มี เล่ม 32 หน้า 214

    อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพ ( ความเป็นตัวตน ) เรียกว่ารูปเปรียบ
    ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี
    อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น
    ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทราย (แม้เพียงนิ๊ดนึง)
    ให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี
    เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง.

    อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่าไม่มีผู้เทียบ
    เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคต นั้นไม่มี



    ธรรม
     
  19. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,018
    ค่าพลัง:
    +3,165
    แต่ก็สงสารความรู้สึกของชาวพุทธนะครับ เพราะท่านแสดงออกเกินไป
     
  20. ซุปเปอร์ไซย่า

    ซุปเปอร์ไซย่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +0
    ;k07ไอ้ฟาย
    ลองดูพระองค์อื่นบ้างสิเขาตีความยังไง
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...