โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 10 ตุลาคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อันเนื่องจากกระทู้ข้างล่างนี้ เป็นแรงบันดาลใจ ให้ตั้งกระทู้ใหม่ขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ รักษาทั้งกายและใจ

    เอ้า.. คุณโอม คุณสันโดษ คุณวิษณุ คุณฯลฯ
    อ้อ..อ.สามตาด้วยวุ้ย
    เรียนเชิญ ช่วยๆกันปั่นกระทู้หน่อยนะ เพราะกระทู้เช่นนี้ เขียนยาก
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สุวิเข้ามาในเวฟพลังจิต.คอม ได้ปีเศษ
    ได้เขียนเรืองราวของโรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการฝึกสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง และวิธีแก้ไขและรักษา ไว้ กระจายไปในกระทู้ต่างๆมากมายหลายที่เช่นกระทู้พลังกุลฑาลินี, และอื่นๆฯลฯ
    สุวิจะพยายามรวบรวมมาไว้ที่นี่ทั้งหมด และร้อยเรียงเป็นเรื่องราวให้ต่อเนื่องง่ายแก่การปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ
    และจะได้เก็บเป็นความรู้ดูแลกายและจิตตนเองให้แข็งแรง
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ก่อนอื่นผู้อ่านควรรู้ว่าสุวิเป็นใคร มีความรู้ระดับใหนจึงกล้าบังอาจมาแนะนำสั่งสอนในเรื่องการดูจิต การรักษา

    สุวิ เรียนจบจากพระจอมเกล้าลาดกระบังรุ่นบุกเบิก
    เป็นวิศวกรเต็มตัวเคยทำงานเป็นอาจารย์สอนระดับมหาลัย และ ทำงานทั้งออกแบบ รับเหมา ประมูลงาน
    เป็นผู้สนใจฝึกสมาธิ ฝึกพลังทุกรูปแบบ แต่ใช้การอะไรไม่ได้เลย รู้ก็สักแต่รู้ตามตัวอักษร แก่งปริยัติ
    อยู่ๆปี 40 ก็พังเจ้งทั้งประเทศ ทำเอาสติแตก
    ให้บังเอิญ ได้เทรนเนอร์ดี บอกใบ้วิธีฝึกให้
     
  4. ComeFromSaturn

    ComeFromSaturn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2007
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +330
    *0*
     
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    การฝึกของสุวิแตกต่างจากทุกผู้คน
    เท่าที่ได้ศึกษาจากผู้อยู่ในเวฟนี้
    ทุกคนเริ่มจาก ศีล สมาธิ ปัญญา โดยเริ่มจาก การถือศีลก่อน

    แต่ของสุวิไม่ใช่
    ท่านว่า ศีล เป็นข้อห้าม ฆารวาสรักษา/ทำให้บริสุทธฺยาก
    ยิ่งผู้ทำมาค้าขายเช่นเอ็ง ทำงานออกแบบประมูลงาน
    เพียงยกหูโทรศัพท์ พูดไม่กี่คำก็ศีลขาดแล้ว
    ท่านให้เปลี่ยน ศีล(ข้อห้าม) เป็นธรรม (ข้อควรปฏิบัติ)

    และท่านก็กล่าวว่า ธรรม อันเป็นที่ยกย่องสรรเสริญของปวงเหล่าเทพเทวาและมนุษย์มีเพียงสามข้อ
    ๑.ความกตัญญูกัตเวทิตา โดยเฉพาะต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์
    ๒.หิริโอตัปปะ
    ๓.พรหมวิหารสี่
    เพียงปฏิบัติธรรมสามข้อนี้ เจริญให้มาก เข้าใจแค่ใหนทำแค่นั้น

    โห้...ง่ายมาก สามข้อ เท่านั้นเองสบายรับคำทันที่ไม่ต้องรังรอ
    ถ้าใครเข้าใจอย่างเผินๆ ไม่มีอะไรจริงๆ ปลอกกล้วยยังยากกว่า
    แต่หลังจากได้รู้ได้เห็น ได้เข้าใจธรรมในสภาพที่ลึกซึ้งขึ้น
    ดูรายละเอียดในลิ้งนี้ http://palungjit.org/showthread.php?p=974359

    โอ้โหเฮะ.... ธรรมเพียงสามข้อนี้มันครอบคลุมหมด อย่าว่าแต่ศีลห้าเลย ไม่แนว่าศีลทั้ง 227 ข้อที่พระสงฆ์ถือกันอยู่ ก็จะถูกธรรมทั้งสามครอมคลุมหมดสิ้นด้วย

    และเมื่อข้าเข้าใจสภาพธรรมทั้งสามแล้ว
    ข้าให้ความเคารพ กตัญญูกัตเวทิตา ต่อผู้ให้ความรู้ต่อข้าทุกท่าน
    ข้ายึดในหิริโอตัปปะ
    ข้ามั่นคงในพรหมวิหารสี่
    และข้าทำธรรมทั้งสาม ให้เป็นหนึ่งเดียว "ตนเป็นที่พึ่แห่งตน"
    และท้ายสุดข้าก็รู้ว่า
    ข้าไม่อาจอยู่แต่ผู้เดียว มันช่างโดดเดี่ยวและเดียวดายนัก

    เมื่อข้ารับรู้แล้ว จึงตั้งตนบนความไม่ประมาท

    "ข้าจักยังประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท"

    และทั้งหมดนี้คือ ข้า

    "สุวินันท์"<!-- / message --><!-- edit note -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2013
  6. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,152
    ค่าพลัง:
    +3,821
    เย้ๆๆๆ.....คุณ สุวิ สู้ๆๆๆๆค่ะ....

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2008
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เริ่มที่โรคอันเกิดจากการนั่งสมธิก่อน
    โรคแรก มีชื่อว่า

    "โรค ปัสสะตึก" (ชื่อนี้มีอยู่ในบันทึกของหมออินเทวดา-ยังไม่พบในตำราหรือคัมภีร์อื่นๆ)

    อาการโรค เกิดที่ระบบก้านสมอง เนื้อสมองบางส่วนถูกทำลาย อันเกิดจากฟองแก้สอภิญญา
    อาการที่ปรากฏ
    -ปวดปัสสาวะอุจาระ รุมๆอยู่เสมอ แต่ถ่ายไม่ออก ถ่ายยากถ่ายเย็น ลำคาญ เป็นกังวล ทรมารใจ
    -มีอาการเอ๋อๆ ทรงกาย ควบคุมมือเท้าไม่ค่อนได้(สังเกตุ ครูบาอาจารย์ เกจิผู้เฒ่าสูงอายุ เป็นกันเกือบทุกองค์ (ยกเว้นบางท่านที่รู้วิธีแก้)
    -พูดลำบาก ท้ายสุดจะไม่พูด นั่งยิ้มอย่างเดียว
    -ฯลฯ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2008
  8. Nexu

    Nexu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +130
    สวัสดีครับ อาจารย์ suwi มารอฟังคำแนะนำดีๆจากอาจารย์ เช่นกันครับ ^^
    ส่วนตัวผมจากประสบการณ์ทำสมาธิมา...

    ร่างกายแข็งแรงขึ้น อย่างอัศจรรย์เลยครับ
    อนุโมทนาบุญอาจารย์ด้วยครับ^^
     
  9. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,152
    ค่าพลัง:
    +3,821
    <EMBED src=http://media.imeem.com/m/R5rIQTsMZm width=300 height=110 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent">
    ...น่าอ่านๆๆๆค่ะ......อิอิ...เอาเพลงเบาๆๆๆมาให้ฟังนะเอย....นะคะเอย..</EMBED>
     
  10. K_Jit

    K_Jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +1,755
    เยี่ยม;aa13
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    โรคปัสสะตึกเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ใครเคยนั่งสมาธิได้ อยู่มาวันหนึ่งอารมณ์ และอื่นๆประจวบเหมาะ ดิ่งวูปลงไป
    แล้วให้มีเสียงดัง มีคนเรียก ถูกเขย่าตัว หรือตกใจไปกับการดิ่งลงไปนั้น
    ไม่เหตุใดก็แล้วแต่ ทำให้สติคืนตัวอย่างรวดเร็ว มีการขยับกายทันที
    จะรู้สึกหัวใจเต้นเร็วแรง บางคนถึงเหนื่อยหอบ

    ทุกคนในยุคปัจจุบันรู้ว่า กายเรานี้อาศัยสมองสั่งงาน สมองทำงานได้ต้องมีอาหารและออกซิเจนหล่อเลี้ยง
    ขณะอยู่ในสมาธิ การทำงานของกาย สมองจะน้อยลง ปริมาณการใช้ อ๊อกซิเจนก็น้อยลง
    ยิ่งถ้าอยู่ในระดับฌาน ขบวนการสันดาปในสมองจะน้อนลงยิ่งกว่าน้อย เมื่อมีการขยับร่าง
    ไม่ว่าจะเกิดจากสมองสั่งงานหรือเป็นโดยอัตโนมัติ แต่สุดท้ายสมองต้องรับรู้การสั่งงานนั้นๆ อาหารสมองจะถูกลำเลียงผ่านเส้นเลือดเล็กๆเข้าสู่สมองทันที
    ซึ่งรวมถึงอ๊อกซิเจนด้วย
    เส้นเลือกเหล่านี้เล็กมาก เม็ดโลหิตแดงแทบจะเข้าแถวเรียงเดี่ยว

    ในระดับฌาน ผูมีพลังจิตสูงธาตุลม (สุมนาวาตะ)จะถูกคุมด้วยพลังจิต
    จะเกิดฟองแก้สเล็กๆอันเกิดจากอำนาจอภิญญาแทรกอยู่ตามน้ำเลือด
    เมื่อมีการขยับตัวแม้แต่เพียงเล็กน้อย ฟองแก้สเหล่านี้จะไปฝางกระแสเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง
    ทำให้เนื้อสมองตายเป็นจุดๆเล็กๆ ค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ
    ครั้นนานเข้า เนือสมองที่ตายก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ อาการดังกล่าวก็จะเพิ่มขึ้นๆ

    ผู้ที่ยังหนุ่มแน่นอยู่ ธาตุไฟดี ธาตไฟสามารถขับเคลื่อนธาตุลมได้ อาการดังกล่าวจึงปรากฏน้อย และร่างกายรักษาซ่อมตัวเองได้
    แต่ในผู้สูงอายุ ธาตุไฟลดลงเรื่อยๆ แต่ธาตุลมกลับเพิ่มขึ้น การซ่อมแซมจึงน้อยกว่าการทำลาย อาการจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2008
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เพลงนี้เฉพาะบรรเลงมีหรือเปล่า จะเอาไปกระกอยการฝึก ฤๅษีลีลา
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ทำไมอาการจึงเริ่มจากก้านสมอง

    เพราะมีเส้นลมปราณ อิทา ปิงคลา วิ่งเข้าไปที่สมอง
    อิทาเลี้ยงสมอง
    ปิงคลา จะมุดเข้าที่กำด้น(จุดนิ่มๆที่ฐานกระโหลกหลังคอ) ผ่านตาที่สาม ไปที่หน้าผาก(ท่อของตาที่สาม)
    ดังนั้น ฟองแกสอภิญญาจึงกระทบถูก แกนสมองโดยตรง
    แกนสมองคือสูนย์กลางควบคุมการเห็น การรับรส การได้กลิ่น การได้ยิน การสัมผัสและทรงตัว

    เมื่อเกิดการศูนย์เสียที่ก้านสมองมากเข้า อาการทางกายก็จะค่อนๆปรากฏให้เห็น
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    แล้วผู้ฝึกสมาธิไม่รู้หรือ ว่าการขยับตัวเร็วเป็นโทษ

    รู้นะรู้แต่ด้วยความประมาท ความเคยชินตั้งแต่อายุยังน้อย ธาตุไฟดี ช่วงนี้พอขยับได้ ไม่มีโทษให้เห็น
    เมื่อสูงอายุขึ้น สมาธิยิ่งลึกล้ำ ไฟธาตุไม่สมบูรณ์ อาการดังกล่าวเกิดง่ายมาก

    แล้วไม่มีทางแก้และรักษาหรือ

    มีพระพุทธองค์บรมครูของเราท่านสั่งสอนวิธีแก้ไว้แล้ว
    แต่พวกเราประมาท และไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านซ่อนไว้เบื้องหลังคำสอน

    สิ่งนั้นก็คือ กายานุสติกรรมฐาน ประกอบพร้อมด้วย อาณาปราณสติ
    จะแก้อาการโรคนี้ได้ทั้งหมด

    ก่อนออกจากสมาธิท่านให้กำหนดอาณาปราณสติ ให้ทั่วพร้อมร่างกาย โดยกำหนด เกสา โลมา นขา ทันตา ตะโจ
    ตัวอย่าง ลมหายใจ + กายานุสติที่เกสา = ส่งเลือดลมไปเลี้ยงสมอง ฯลฯ ก่อนขยับตัว)

    เพียงเท่านี้อาการโรคก็จะถูกระงับ
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    พวกที่ฝึกพลัง ก็เช่นกัน เมื่อการฝึกไปกระตุ้นถูกจักระ ๑.
    พลังกุลฑาลินี ถูกกระตุ้นขึ้น พลังนี้จะวิ่งขึ้นเข้าสู่ก้านสมอง
    ถ้าพลังถูกควบคุมถูกจังหวะ จำนวนพอดี ตาที่สามจะถูกเปิด

    แต่ถ้ามากเกิน หรือมีสิ่งมาขวางกันท่อปิงคลา(ท่อตาที่สาม) จะปวดในหัวลึกๆ
    ร้อนรุ่มอยู่ในหัวอยากเอาหัวไปแช่น้ำ
    ถ้ามากขึ้นไปอีก เนื้อสมองจะถูกเผาจนไหม้เกรียม
    เนื้อก้านสมองจะถูกทำลาย
    อาการต่างๆก็จะปรากฏขึ้น
     
  16. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    แล้วถ้ามันแค่ ยิบๆตามผิวๆตรงหน้าผากละครับ ไม่รู้ว่าร้อนหรือเย็นบอกไม่ถูกครับ อ.suwi
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    อนุโมทนาและขอบพระคุณกับสมาชิกทุกท่านเลยนะครับ
    ที่ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง


    ---------------------------------------------------------------------
     
  18. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,152
    ค่าพลัง:
    +3,821
    ลองหาดูใน i-meemน่ะค่ะ...อันนี้ไล้ไปเอามาจากครูที่โรงเรียน...ค่ะเพราะดี
     
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    โอ้โฮ้เหะ...ได้เลื่อนชั้นเร็วจัง

    มีใครเขม่นบ้างหว่า
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เป็นเรื่องธรรมชาติ ฮะ
    เหมือนเปิดจักรที่ฝ่ามือ มันยิบๆเป็นปกติ
    แสดงว่า จักร 6 เริ่มทำงานแล้ว แต่ตาที่สามยังอีกไกล

    กุลฑาลินีต้องขึ้นมารวมกับ จักร 6,7 ก่อน ตาที่สามจึงจะเริ่มทำงาน
    ไม่งั้นพลังไม่พอที่จะเปิดตาได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...