ระวัง เราอาจทำอนันตริยกรรม โดยไม่รู้ตัว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 20 พฤศจิกายน 2008.

  1. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    กฏแห่งกรรม คือกฏแห่งการกระทำที่มีผลสะท้อนย้อนกลับมาหาเรา
    ในรูปแบบเดียวกับที่เราได้ทำออกไป

    และเรื่องกรรมนั้น เป็นเรื่องซับซ้อนมาก หากไม่เข้าใจกันแล้ว
    ก็อาจทำกรรมดีและไม่ดีแบบไม่รู้ตัว

    การเข้าใจเรื่องกรรมนั้นเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญมากเพราะมีผลต่อการ
    ดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบันของเราและ กรรมจะเป็นสิ่งกำหนดชีวิตเราในอนาคต
    ดั่งพุทธพจน์ "สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม"

    เมื่อพูดถึงอนันตริยกรรม หลายคนคงพอเข้าใจกันดีอยู่แล้ว
    โดยเฉพาะชาวพุทธที่ได้ศึกษาทางธรรม

    อนันตริยกรรม มี 5 อย่างคือ
    1 การฆ่าพ่อ
    2 การฆ่าแม่
    3 การฆ่าพระอรหันต์
    4 การทำร้ายพระพุทธเจ้าให้บาดเจ็บตั้งแต่ห้อพระโลหิตขึ้นไป
    5 การยุยงพระสงฆ์ให้แตกแยก

    ซึ่งผู้ใดที่ทำกรรมระดับอนันตริยกรรม ย่อมเป็นที่แน่นอนแล้วว่า
    ผู้นั้นจะต้องเสวยทุกขเวทนาในมหานรก ขุมที่ลึกที่สุด ชื่อว่า "อเวจีมหานรก" นานแสนนาน
    ซึ่งได้รับความทรมานแสนสาหัสเกินกว่าคำว่าทุกข์ใดๆในโลกนี้จะเปรียบปานได้
    ไม่ว่าคนนั้นจะสำนึกผิดหรือ สร้างความดีมากแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยผลแห่งอนันตริยกรรม
    มีโทษมาก ยากเกินกว่าจะลบล้างได้ ดังนั้นเราๆท่านๆ ควรหลีกเลี่ยงการทำกรรมเช่นนี้ให้ไกลที่สุด

    เมื่อเรามองดูอนันตริยกรรมทั้ง 5 หลายคนอาจมองว่าโอกาสจะทำเช่นนั้นยากเสียยิ่งนัก

    ในยุคนี้ ไมมี พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ใดจะทำร้ายพระพุทธเจ้าได้ ข้อนี้เป็นอันตกไป

    ในยุคนี้ แทบจะไม่หลงเหลือพระอรหันต์แล้ว ผู้ใดจะฆ่าพระอรหันต์ก็ย่อมเป็นไปได้ยาก
    ข้อนี้เป็นอันตกไป

    ผู้ใดจะทำสังฆเพท ยุยงสงฆ์ให้แตกแยกนั้น จนไม่ทำสังฆกรรมร่วมกัน หากเราๆท่าน ผู้เป็นฆราวาส
    เป็นไปได้ยากที่จะทำสังฆเพท เพราะสังฆเพท
    จะทำสำเร็จได้ย่อมเกิดจากพระสงฆ์ทำต่อพระสงฆ์ด้วยกันเป็นส่วนใหญ่

    แต่การฆ่า พ่อ ฆ่า แม่นี่หละ ที่เป็นประเด็น !!
    หลายคนคงคิดว่า เราๆท่าน หากสติสตังดีๆ จะมีใครมีจิตใจอกุศลหยาบช้าขนาด
    ฆ่าพ่อ แม่ ตนเองลงคอ เป็นไปได้ยาก

    ยกเว้นก็แต่ คนวิกลจริต หรือ คนติดยาจนลืมสติ หรือคนที่โกรธจัดเพราะถูกอารมณ์ชั่ววูบบับคั้น

    หากยกเว้นบุคคลเหล่านี้แล้ว ก็อาจคิดว่าการฆ่าพ่อ ฆ่าแม่คงเป็นได้ยาก

    กรณีดังกล่าว ผู้ทำกรรมหรือคิดจะทำกรรมนั้น สามารถรู้ได้ว่าเป็นการฆ่าพ่อแม่
    และบางครั้งก็อาจมีสติขึ้นมายับยั้งได้ทัน

    แต่การทำอนันตริยกรรมบางอย่างที่ ผู้กระทำอาจไม่รู้ว่าเป็นอนันตริยกรรม และอาจกระทำไป
    ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจตนาดีด้วยซ้ำ

    คือ มีพ่อคนหนึ่งนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลและรักษามาเนิ่นนาน
    รักษาอย่างไรก็ไม่หาย เพราะอาการป่วยเรื้อรัง ร่างกายขยับไม่ได้ พูดจาไม่ได้ ไม่รู้สึกตัว
    แต่ยังมีลมหายใจอยู่ แต่ลูกหวังดีไม่อยากให้พ่อทรมาน
    อยากช่วยให้พ่อได้พ้นทุกข์ทรมาน ได้บอกหมอให้ถอดสายอ๊อกซิเจนออก
    เพื่อให้พ่อตาย จะได้พ้นทุกข์

    นี่แหละครับ ลูกนั้นได้ทำ อนันตริยกรรม คือฆ่าพ่อ ไปแล้ว

    หลายคนฟังแล้ว งง ว่า เป็นอนันตริยกรรมได้อย่างไร
    ก็ลูกคนนั้นไม่ได้อยาก่ฆ่าพ่อซะหน่อย แต่เจตนาดีอยากช่วยพ่อให้พ้นทุกข์
    จากการทรมาน
    ดูแล้วเหมือนไม่ใช่ แต่ใช่ครับ

    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เจตนานั้น เป็นตัวกรรม

    แต่อย่างที่บอกว่า เรื่องกรรมนั้นละเอียดมาก
    หากไม่พิจารณาให้ลงลึกไปแล้วอาจสับสนได้

    การที่ลูกคนนั้นมีเจตนาที่ช่วยพ่อให้พ้นทุกข์ นั่นก็เป็นกรรมหนึ่ง
    เป็นมหากุศลจิตทีเดียว

    แต่เมื่อลูกต้องการให้พ่อตายนั้น ก็เป็นอีกกรรมหนึ่ง
    และเมื่อลูกบอกหมอให้เอาสายออกซิเจนออก เพื่อให้พ่อตาย
    กรรมนี้แหละ ที่เป็นเจตนาฆ่าพ่อ เมื่อหมอเอาสายออกซิเจนออก
    กรรมทำให้คนตายเกิดขึ้นแล้วกับหมอ และลูก
    แต่กรรมของลูกนั้นเป็นอนันตริยกรรม เป็นกรรมที่หนักมาก

    คำว่า อนันตรยิกรรม มาจาก อนันตริยะ + กรรม
    กรรม แปลว่าการกระทำ
    อนันตริยะ แปลว่า "ไมมีระหว่างคั่น"
    หมายถึง กรรมที่ทำแล้ว ไมมีกรรมอื่นใดมาคั่นกลางได้เลย คือ คนที่ทำอนันตริยกรรมแล้ว
    ภพชาติต่อไป จะต้องลงอเวจีนรก สถานเดียว ไม่สามารถมีกรรมอื่นใด
    ไม่ว่าจะเป็นกุศลมากมายขนาดไหนก็ตามมาคั่นไว้ได้

    เมื่อก่อนตาย จิตจะประมวลกรรมที่เราได้ทำไว้ในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งคนเราได้ทำกรรมมามากมาย
    ทั้งดีและไม่ดี แต่จะมีกรรมเดียวเท่านั้นที่จะเป็นตัวส่งนำให้เราไปเกิดในภพชาติต่อไปตามกรรมนั้น
    แต่จะเป็นผลกรรมไหน ที่จะส่งผลก่อน

    กฎแห่งกรรมจะให้ผลก่อนหลังตามระดับแรงกรรมดังนั้
    1 กรรมหนัก
    หากเป็นกรรมหนักย่อมส่งผลก่อนแน่นอน

    กรรมหนักมี 2 อย่าง คือ

    กรรมหนักฝ่ายดีเรียกว่า ครุกรรม คือการทำฌานสมาบัติ
    และหากฌานไม่เสื่อมก่อนตาย ผู้นั้นจะได้เกิดเป็นพระพรหม

    กรรมหนักฝ่ายไม่ดี คืออนันตริยกรรมทั้ง 5

    2 กรรมที่กระทำบ่อยๆ

    3 กรรมก่อนตาย

    4 กรรมที่ทำโดยไม่เจตนา

    ลูกที่มีเจตนาช่วยพ่อให้พ้นทุกข์ เจตนาเป็นมหากุศลจิต แต่ไม่ใช่เป็นครุกรรม
    ส่วนลูกเจตนาให้พ่อตายและพ่อได้ตายเพราะลูกนั้น กรรมนั้นเป็นอนันตริยกรรม
    ซึ่งจะให้ผลก่อน

    การที่จะบอกว่า เพราะไม่รู้ว่าเป็นการฆ่าพ่อนั้น ย่อมไมได้
    กฎแห่งกรรมไม่ได้มองว่า คนที่ทำกรรมอะไรก็แล้วแต่ จะเป็นบุญหรือบาป
    ก็ตาม คนทำจะรู้ว่าเป็นบาปหรือบุญหรือไม่

    แต่หากทำด้วยความตั้งใจ หรือมีเจตนา กรรมนั้นย่อมเป็นกรรมแล้ว
    และมีผลเป็นวิบากตามมา

    กฎแห่งกรรมก็คล้ายกฏหมายบ้านเมืองตรงที่ คนทำผิดกฎหมายแล้วมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายนั้นไม่ได้
    กฎแห่งกรรมก็เช่นกัน คนที่ทำกรรมแล้วมาอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นกรรมเพื่อขอผ่อนผันโทษนั้น ย่อมเป็นไม่ได้

    กฎแห่งกรรม เป็นกฎแห่งธรรมชาติที่ไม่ได้บัญญัติขึ้นจากใคร หรือเทพเทวดาองค์ไหน แต่เกิดจากเหตุปัจจัยที่อิงอาศัยเกิดขึ้นสืบเนื่องกันมา เพราะมีสิ่งนี้ จึงเกิดสิ่งนี้ เพราะมีอวิชชา จึงมีสังขาร เพราะความไม่รู้ จึงได้ปรุงแต่ง

    หากเรามีพ่อ แม่ ที่นอนป่วย และต้องรักษาอยู่โรงพยาบาล หรือรักษาไม่หาย
    ขอให้คิดให้ดีๆ

    มีคำถามว่า แล้วพ่อแม่ที่ป่วย หมอสรุปว่า รักษาไม่หาย ไม่รู้สึกตัว พูดจาไม่ได้
    หรือต้องนอนทรมานอย่างนั้น แล้วคนเป็นลูกจะทำอย่างไร

    มีผู้รู้เคยบอกว่า ขอให้ดูแลรักษาพ่อแม่นั้นตลอดไปจนกว่าท่านจะสิ้นลมไปเอง

    บางทีการอยากให้พ่อหรือแม่ไม่ต้องทรมานต่อไป
    อยากให้ตายเสียเพื่อให้พ้นทุกข์นั้น หากจะสาวลึกลงไปในเจตนาจริงๆ แล้ว
    บางทีลูกคนนั้นอาจคิดไม่อยากเป็นภาระต้องมา
    เสียค่าใช้จ่ายหรือเสียเวลาดูแลพ่อแม่ ที่หมดทางรักษา

    ในทางธรรมนั้น หากยังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดก็ตาม
    ย่อมถือว่าสัตว์โลกนั้นยังมีชีวิต

    เช่น ลูกในท้องแม่ที่ยังเป็นตัวอ่อนอยู่ หรือ
    คนป่วยแบบเจ้าหญิงนิทราก็ถือว่ายังมีชีวิต

    พ่อแม่นั้นมีบุญคุณใหญ่หลวงมาก ลูกที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัว
    ไม่อยากให้ตัวเองต้องรับภาระ เป็นลูกที่ใช้ไม่ได้เลย

    ทางที่ดีที่สุด ขอให้เราดูแลพ่อแม่ของเราให้ดีที่สุด
    ไม่ว่าท่านจะเป็นเช่นไร ไม่ควรตอบแทนพ่อแม่ เพราะคำนึงถึงเงื่อนไขว่า
    หากพ่อแม่อยู่ในสภาพนี้เราจะดูแล หากอยู่ในสภาพนี้เราจะไม่ดูแล
    หรือเราต้องมีเงินเท่านั้นจึงจะดูแลรักษาท่าน
    หากไม่มีเงินหรือเราต้องเป็นหนี้แล้วเดือดร้อน เราจะไม่ดูแลรักษา

    แล้วเราลองถามตัวเองว่า พ่อแม่ ที่เลี้ยงดูเรามา ท่านตั้งเงื่อนไขอะไรกับเราหรือไม่
    ตอนเป็นเด็กเมื่อเราป่วย ใครเป็นคนพาเราไปรักษา
    ท่านตั้งเงือ่นไขหรือไม่ว่า หากเราทำตัวไม่ดี ท่านจะไม่รักเราต่อไป

    กรณีดังกล่าวนี้สามารถเกิดขึ้นกับเราๆท่านๆได้ ดังนั้นขอให้อย่าได้ประมาทพลาดพลั้งไปเลย
    เพราะกรรมที่ทำไปได้ ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ ต้องรับผลอย่างเดียว
    ยิ่งเป็นอนันตริยกรรมด้วยแล้ว ไม่ควรอย่างยิ่งเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2008
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    สวัสดีครับ คุณรักไร้พ่าย

    ผมไม่แน่ใจว่าข้อความที่โพสต์นั้น เขียนเอง หรือนำมาจากที่อื่นครับ

    หากเป็นไปได้ ผมอยากให้แจ้งที่มาด้วยครับ เพราะหลายบทความดี แต่ผมไม่สามารถทำกระทู้แนะนำได้ เนื่องจากไม่ได้อ้างอิงที่มาครับ

    ยังไงรบกวนด้วยนะครับ เพิ่มให้ผมอีก 1 บรรทัดละกันนะครับ

    โมทนาในความดีของคุณครับ
     
  3. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ครับ ข้อความที่ผมเขียน ไม่ได้ก๊อปมากจากเวบอื่นหรือแหล่งอื่น
    จึงไมสามารถจะหาแหล่งเวบทีอ้างอิงได้ และไม่ได้คิดเอง เออเอง

    หลักกรรมนั้น มีบันทึกอยู่แล้วใน พระอภิธรรม
    เช่น เรื่องอนันตริยกรรม 5
    หรือ แรงกรรมที่ให้ผลก่อนหลัง

    และเรื่องปัจจัย 24 ในหลักอภิธรรม

    หากเข้าใจในหลักอภิธรรมแล้ว สามารถเข้าใจในเหตุการณ์
    และนำมาวิเคราะห์ แยกแยะในเรื่องราวต่างๆด้วยเหตุและผลของกรรม
    ว่าสิ่งนี้เป็นบุญสิ่งนี้เป็นบาป โดยไม่ต้องอิงจากใครเล่าเลย

    เช่นกรณ๊อย่างลูก ฆ่าพ่อด้วยความหวังดีนี้
    หากเข้าใจในหลักอภิธรรม จิตสุดท้ายก่อนตายจะหน่วงอารมณ์ เป็นจิตเดียวเท่านั้น
    และสืบต่อเป็นปฎิสนธิจิต และเป็นวิบากจิตในภพต่อไป
    และในอภิธรรม จำแนก ลำดับกรรมส่งผลก่อนหลังไว้
    จึงสมารถเข้าใจได้ว่า กรณ๊แบบนี้ เป็นกรรมแบบไหน

    และเรื่องของลูกกับพ่อในกรณ๊นี้ ได้มีการถกเถียงกันในวงกว้าง
    และทางฝ่ายผู้รู้ทางธรรม พยายามเตือนเหล่าฆรวาสเพื่อไม่ให้พลาดพลั้งทำกรรมนี้ลงไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2008
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ จะได้รับทราบไว้ครับ เพราะเคยมีเจ้าของบทความบางชิ้น เขาแจ้งมาว่า Copy มาแต่ไม่อ้างอิงที่มาครับ
     
  5. BlueBlur

    BlueBlur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,664
    ค่าพลัง:
    +1,568
    โมทนาด้วยครับ หลีกเลี่ยงการสร้างกรรม ทำให้เบา สังคมในยุคนี้คงจะหลีกลำบากละครับ ขอให้มีสติประคองกันทุกคนนะครับ สาธุ
     
  6. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    เป็นสิ่งที่ดีที่ นำเสนอให้หลายๆคนได้ พิจรณาไว้มากๆ ให้ทำดีกับพระอรหันต์ที่บ้านมากๆ
    ปล.ที่มา ก็มาจากท่านรักไร้พ่าย นั้นเอง
     
  7. ตะกอน

    ตะกอน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +26
    เนื้อหาโดยร่วมเเล้วผมเห็นด้วย ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
    "หากเรามีพ่อ แม่ ที่นอนป่วย และต้องรักษาอยู่โรงพยาบาล หรือรักษาไม่หาย
    ขอให้คิดให้ดีๆ มีคำถามว่า แล้วพ่อแม่ที่ป่วย หมอสรุปว่า รักษาไม่หาย ไม่รู้สึกตัว พูดจาไม่ได้หรือต้องนอนทรมานอย่างนั้น แล้วคนเป็นลูกจะทำอย่างไร
    มีผู้รู้เคยบอกว่า บางทีการอยากให้พ่อหรือแม่ไม่ต้องทรมานต่อไป อยากให้ตายเสียเพื่อให้พ้นทุกข์นั้น หากจะสาวลึกลงไปในเจตนาจริงๆ แล้ว บางทีลูกคนนั้นอาจคิดไม่อยากเป็นภาระต้องมาเสียค่าใช้จ่าย หรือเสียเวลาดูแล พ่อแม่ ที่หมดทางรักษา"

    ประเด็นนี้ขอเสริมอีกนิดในความคิดเห็นส่วนตัว ลูกๆบ้างคนเค้าคงไม่ได้คิดถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะกรณีที่บ้านอาจมีฐานะความเป็นอยู่ ที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็เป็นได้ เเต่ที่กระทำอนันตริยกรรมลงไป อาจจะไม่นึกถึงเรื่องค่าใช้จ่ายรักษา อาจหวังดีต่อพ่อเเม่ที่ต้องทนทุกข์ทรมาณ เรียกได้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้
    เคยมีคนถามผมว่า " อ้าว ! เเล้วจะปล่อยให้ทรมาณเเบบนี้หรือไง" ผมก็ตอบเเละอธิบายไปว่า " ไม่มีใครหรอกที่อยากเห็นพ่อเเม่ตกอยู่ในสภาพที่ทนทุกข์เเบบนี้ ที่ต้องทรมาณอยู่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ก็รักษาตามอาการก็เเล้วกัน ปล่อยให้หมดลมไปเอง ไปถอดสายยาง(เครื่องช่วยหายใจ) ออกก็เท่ากับเป็นการฆ่าพ่อฆ่าเเม่ตัวเอง บาปหนัก" โชคดีช่วงนั่นบวชอยู่ โยมเลยเชื่อ โชคดีไป^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2008
  8. ฤดูใบไม้ผลิ

    ฤดูใบไม้ผลิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +1,723
    ขอบคุณมากคะ พี่ม็อบ
     
  9. sakuralover

    sakuralover สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +8
    ผมเองก็เคยทำให้พ่อแม่สบายใจ เป็นทุกข์เพราะตัีวผมอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเคยทำแบบนี้ จะโดนอนีนตริยกรรมใหมครับ
     
  10. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ดีมากครับกับข้อความนี้ ขอบคุณครับ
     
  11. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ดีมากครับกับข้อความนี้ ขอบคุณครับ
     
  12. Luenvyshine

    Luenvyshine ชีวิตที่ถูกคุมด้วยเวลา คือ วงจรชีวิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    งะ งั้นการทำการุณยฆาตก็ไม่ดีนะสิคะ แต่หนูดันมองว่า เป็นการช่วยตายแบบไม่ทรมานนะคะ บางทีตายดีกว่าทรมานอะคะ
     
  13. somkid

    somkid สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +38
    อ้าว แล้วผมเคยบอกลูกหรือภรรยาไว้ ถ้าป่วยหนักให้ปล่อยให้ตายไปเลย
    จะสร้างบาปให้พวกเขาไหมเนี่ย หรือถ้าให้ภรรยาตัดสินใจแทน จะเป็นบาป
    กับเขาไหม ยังนี้ต้องทำอย่างไร บางทีคนที่ใกล้ตายก็ไม่อยากเป็นภาระใคร
    นะครับ แล้วคิดแบบนี้ผมที่อยากตายก็เท่ากับฆ่าตัวตายด้วยหรือเปล่า งงจริง
    เรื่องแบบนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...