◈ตำนานแผ่นดิน-พระราชวังเดิม"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"◈

ข้อมูลเพิ่มเติม พระราชวังเดิม

<CENTER>


พระราชวังเดิมตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="52%">

​

</TD><TD width="48%">


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">นายเรือได้ย้ายออกไป กองทัพเรือได้ดัดแปลงอาคารเดิมโรงเรียนนายเรือเป็นแบบทรงไทย แล้วใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการ กองทัพเรือจนถึงปัจจุบัน
มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ซึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานที่ปรึกษา ได้ดำเนินการบูรณะโบราณสถานในพระราชวังเดิมสืบเนื่องจากโครงการเดิม ซึ่งกองทัพเรือและสมาคมภริยาทหารเรือ ได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ ขณะที่ พลเรือเอก ประเจตน์ ศิริเดช ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ

​

</TD><TD width="50%">



</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%" colSpan=2>และแพทย์หญิงคุณหญิง นงนุช ศิริเดช นายกสมาคมภริยาทหารเรือในสมัยนั้น ได้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์โบราณสถาน ณ บริเวณ พระราชวังเดิม อันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้วยจุด มุ่งหมายให้เป็นที่สำหรับประชาชนทั่วไปได้ศึกษาหาความรู้จากแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาติ อีกทั้งยังเป็นการสงวนรักษาสิ่งอนุรักษ์อันเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติอีกด้วย สำหรับโบราณสถานในพระราชวังเดิม ประกอบด้วย </TD></TR><TR><TD width="52%"></TD><TD vAlign=top>ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ศาลเจ้าตาก) หลังปัจจุบันนี้สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์เสด็จมาประทับที่ พระราชวังเดิมในระหว่าง พ.ศ.๒๔๒๔ - ๒๔๔๓ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของตำหนักเก๋งคู่ และชิดกำแพงพระราชวังทางทิศตะวันออก รูปแบบของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประเพณีผสมกับรูปแบบตะวันตก ภายในศาลประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในท่าประทับยืนทรงพระแสงดาบขนาดประมาณเท่าครึ่งองค์จริง
ท้องพระโรงกรุงธนบุรี สร้างขึ้นราว พ.ศ.๒๓๑๑ พร้อมกับการสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมไทย ประกอบด้วย พระที่นั่งสององค์เชื่อมต่อกัน พระที่นั่งทางทิศเหนือ เรียกว่า ท้องพระโรง


</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER><TABLE cellPadding=10 width="96%" border=2 8%?><TBODY><TR><TD>[SIZE=+2]<CENTER>ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระราชวังเดิม กรุงเทพมหานคร[/SIZE]</CENTER></TD></TD><TR><TD><CENTER>
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช</CENTER>
</TD></TD><TR><TD>[SIZE=+1]<DD>ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอาคารเก๋งคู่ และตั้งประชิดกำแพงพระราชวังทางด้านทิศตะวันออก ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ หลังปัจจุบันนี้สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์ ระหว่างปีพุทธศักราช 2424-2443 ได้มีพระดำริให้สร้างศาลหลังปัจจุบันขึ้นแทนศาลหลังเดิมที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทั้งนี้ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าศาลหลังที่มีมาแต่เดิมนั้นสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างใด <DD>รูปแบบของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เป็นอาคารทรงไทยที่มีการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกในบางส่วน หลังคาอาคารเป็นทรงไทยมีมุขลดสามด้านมุงด้วยกระเบื้องดินเผาสีส้มอมเหลือง หน้าจั่วประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์และนาคสะดุ้ง ทำด้วยไม้สักทาสีแดง ผนังหน้าบันเป็นฝาก่ออิฐฉาบปูนเรียบ ไม่ปรากฏลวดลายตกแต่ง ตัวอาคารยกพื้นสูง มีใต้ถุนด้านล่าง จากหลักฐานการสำรวจทางสถาปัตยกรรมและโบราณคดี เมื่อปีพุทธศักราช 2540 พบว่าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ หลังปัจจุบันนี้สร้างซ้อนทับลงบนฐานของอาคารอีกหลังหนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นศาลหลังเดิม <DD>ภายในศาลประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประทับยืน และทรงพระแสงดาบ ขนาดประมาณเท่าครึ่งของพรองค์จริง [/SIZE]</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER></CENTER>ที่มา http://www.navy.mi.th/sctr/navyinfo/nvi9133/page2.htm

http://www.geocities.com/thetropics/reef/5830/bkk/bk_old1.htm

ภาพจากอินเตอร์เนท

 

อนุโมทนาครับ...

พระบารมีปกเกล้ามากล้นครับ

 

งง เจ้าค่ะ เป็นกระทู้เรื่อง ตำนาน หรือ อาหาร หรือ ทั้งสองอย่าง

ที่จริง ในประวัติศาสตร์ ตอนนั้นช่วงฤดูน้ำหลาก พระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ทรงให้พระยาตากเป็นแม่ทัพคุมพลประมาณ ๒,๐๐๐ เป็นทัพบก และให้เจ้าพระยา ชื่ออะไร จำไม่ได้ คุมพลเป็นทัพเรือ ทัพทั้งสอง ไปตั้งรับพม่าที่นอกพระนคร ทัพเรือได้เข้าต่อสู้กับทัพเรือของพม่า พวกพม่านำหม้อบรรจุดินดำขว้างไปที่เรือของแม่ทัพไทย เรือแตก เจ้าพระยาท่านนั้น เสียชีวิตทันที เมื่อพระยาตากเห็นว่ากำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้น จะสู้อะไรได้ประกอบกับเห็นว่าทางราชสำนักไม่ตั้งใจที่จะรักษาให้อยุธยาอยู่ได้ ทั้งยังโดนพระราชอาญาที่ยิงปืนใหญ่โดยไม่ได้เข้ามาขอ จึงได้ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมาก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตก เมื่อตีฝ่าแล้วก็ขึ้นไปหมายจะตีเมืองพิษณุโลก แต่ตีไม่ได้เนื่องจากพิษณุโลกเป็นเมืองที่แข็งแรง เลยไปตีก๊กเจ้าพิมาย เจ้าพิมายสู้ไม่ได้แยกหนีไป(เจ้าพิมายเป็นพระราชโอรสของพระเอกาทศรส) พระยาตาก จึงยกไพล่พล ลงมาทางจันทบุรี ..... ขี้เกียจเล่าแล้ว จบแค่นี้ดีกว่า....

 

อ้าวจบซะดื้อ ๆ งั้นเอง

 

ก็เกรงใจเจ้าของกระทู้ นี่เจ้าคะ....
เดี๋ยวจะเป็นการยึดกระทู้ไป...
เอ หรือเราจะเปิดกระทู้ใหม่ดีน้า............
เอ แล้วจะมีคนอ่านเหรอ........
เอ แล้วใครเขาจะสนใจหล่ะ.......
เอ แล้ว.........

 

อย่าสงสัยสิ ไม่ลองจะรู้เหรอเจ้าคะ

 

เจ้าค่ะ แต่สุดท้ายแล้วไม่ค่อยกล้าที่จะเขียนสักเท่าไหร่ เพราะตอนสิ้นรัชกาล มีคำอ้างไปหลายทาง ออกจะหมิ่นเหม่ไปสักหน่อย ....

 

อดีตก็คืออดีต แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่รู้ได้ ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็พออันไหนไม่แน่ใจก็ปล่อยวาง ละไว้

 

เราจะย้อนอดีตกันอีกแล้วววววววววว......

กระทู้เก่ายังไม่เสร็จเลย กระทู้ใหม่จะมาอีกแล้ว
กระทู้เก่ายังหาที่จบไม่ลงเลย กระทู้ใหม่จะเริ่มอีกแล้ว
กระทู้เก่าสงสัยคงเขียนเป็นปีเลย กระทู้ใหม่ก็คงจะพอๆ กัน

แล้วเขียนไป เขียนมา จะมั่วไหมนี่....
เขียนไป เขียนมา เดี๋ยวจับเอาพระยายุคนู้นมาใส่ยุคนี้ แย่เลย
เพราะชื่อตำแหน่งจะชื่อเดียวกันก็มีเสียส่วนมาก .....

 

จะรอนะเจ้าคะ

 

จ้า เจ้าค่ะ.... ที่จริงเรื่องพระประวัติของพระองค์ ก็เก็บมาเยอะ แต่พอย้ายบ้าน กระจัดกระจายหมด ต้องค้นใหม่....

 

จ๊ะค่อย ๆ หาไม่ต้องรีบร้อนจ๊ะ รีบหาแล้วจะไม่ค่อยเจอ

 

ครับ รีบหามักไม่เจอ แต่ถ้าจะรีบแบบช้าๆ ก็ดีนะ

 

เช้าวันนี้ก็ไปนั่งเม้าท์แถววัดอรุณครับ
แต่ไม่ได้ไปศาลพระเจ้าตากเพราะเข้าไปไม่ค่อยสะดวก

 

ต้องหาเวลาไปชม

 

ขอบคุณตรับสำหรับข้อมูลดีๆ

 

ตกลง ผัดไทก็ยังไม่ได้ชิม
ประวัติศาสตร์กำลังปะติดปะต่อ - ก็ไม่จบ...เฮ้อ
คุณสร้อยนะคุณสร้อย